|
|
|
|
|
|
อาจารย์ใหญ่
มาเล่าเรื่องอาจารย์ใหญ่กันนะครับ พ่อของเพื่อนเสียแล้ว บริจาคร่างกายให้เป็นอาจารย์ใหญ่ที่ม.มหิดล ศาลายา เพื่อนเล่าว่าพ่อสั่งให้ทางมหาวิทยาลัยมารับไปเลย แต่คุณพี่สาวขอไว้ทำศพ 3 วัน แล้วค่อยมารับไป เห็นเพื่อนอีกคนเล่าว่า คุณแม่บริจาคร่างกายไว้กับแพทย์ศิริราช เมื่อครบกำหนดแล้ว ทางมหาวิทยาลัยก็จะแจ้งมาให้ไปทำบุญอาจารย์ใหญ่กัน เดี๋ยวนี้ในกรุงเทพฯมหาวิทยาลัยแพทย์มักจะขาดอาจารย์ใหญ่กัน ต้องติดต่อไปทางมหาวิทยาลัยแพทย์จุฬา หรือแพทย์ศิริราช เพื่อขออาจารย์ใหญ่ไปศึกษากัน ผมคิดไว้อย่างนี้ เมื่ออยู่ไม่ได้เรียนแพทย์ เมื่อตายแล้วก็ขอเป็นอาจารย์ใหญ่แทนก็ยังดี ก็เลยไปบริจาคไว้ที่โรงพยาบาลจุฬา ก็สดวกสบายดี รอหวังแต่ว่าวันใดเท่านั้นที่จะมาถึง เพื่อนบางคนบอกว่าเรื่องนี้ลูกๆบางคนก็ไม่ยอม เพราะยังรักพ่อแม่อยู่ ก็แล้วแต่ ต่างจิตต่างใจ สวัสดี เพิ่มเติมนะครับ เผอิญเมื่อต้นอาทิตย์ได้ไปดูงานอย่างใกล้ชิด เพราะญาติผู้น้องเสียชีวิต เจ้าตัวบริจาคไว้ที่โรงพยาบาลจุฬาเหมือนกัน เสียตอนเช้าตรู่ต้องทำเรื่องทางโรงพยาบาลให้เรียบร้อย มีสำเนาทะเบียนบ้านและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ให้ทางโรงพยาบาลติดต่อที่เขตเพื่อขอใบมรณะบัตร ติดต่อทางโรงพยาบาลจุฬาให้เจ้าหน้าที่เอารถมารับ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าต้องมาตรวจก่อนว่าร่างกายใช้ได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ไม่ต้องส่งไปโรงพยาบาลจุฬา ระหว่างที่เสียก็ไม่ต้องฉีด Formaline ให้เข้าห้องเย็นไว้ก่อน รอจนสายหน่อยเจ้าหน้าที่จึงมารับ ตรวจดูร่างกายว่าใช้ได้ แล้วก็รับไปที่โรงพยาบาล ได้แต่ร่ำลาที่หน้า lift เพราะเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ญาติขึ้นไปด้วย สวัสดีอีกครั้งครับ
Create Date : 27 พฤศจิกายน 2552 |
Last Update : 27 มีนาคม 2553 20:21:13 น. |
|
2 comments
|
Counter : 1123 Pageviews. |
|
|
|
โดย: yosita_yoyo วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:14:19 น. |
|
|
|
โดย: วิวัฏฏะวน IP: 125.26.162.53 วันที่: 19 มกราคม 2553 เวลา:11:11:23 น. |
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
ย้ายแล้ว ๆๆ
เดี๋ยวนี้สีตบุตร ผุ ญ ก่แรง ๆ ผุ ช ก่ยังไงไม่รู้ อ่าาา
ไม่ได้ว่า แต่สก๊อยเยอะ -*-
ถ้าผ่มอยุ คงเป่นไปด้วย :P