Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
29 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 
Lanna Japan Festival 2010 6th [Part 1]

29 พฤศจิกายน 2553 : Lanna Japan Festival 2010 6th [Part 1]


17-30 พฤศจิกายน 2553 งานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ญี่ปุ่นซึ่งจัดโดย สถานกงศุลญี่ปุ่นเชียงใหม่ กับกิจกรรมงาน Lanna Japan Festival 2010 ครั้งที่ 6 กับหลากหลายกิจกรรมที่จัดกันในหลายๆ สถานที่ ช่วงก่อนวันที่ 30 พ.ย. 2553 ยังตามไปถ่ายภาพได้ไม่กี่งาน ตั้งใจว่าคงจะนำภาพมาให้ชมกันแบบจบกันใน blog เดียว แต่เมื่อคืนวันที่ 30 พ.ย. 2553 ที่ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ซึ่งค่ำคืนนั้นได้จัดงานเทศกาลรำวงบงโอโดริ กับอีกหลากหลายการแสดง ไปถ่ายภาพช้าไปหน่อยในช่วงขบวนที่เดินมายังลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ แต่ก็อยู่ถ่ายภาพจนจบงาน เลยคิดว่าคงต้องนำมาให้ชมกันหลาย blog ทีเดียวล่ะครับ





เลือกภาพถ่ายจากงานนิทรรศการ "ศิลปะหัตถกรรมญี่ปุ่นร่วมสมัย" จัดแสดงที่หอศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 26 พ.ย. - 15 ธ.ค. 2553 มาให้ชมกันก่อน

ช่วงก่อนพิธีเิปิดมีการแสดงเล่นเครื่องดนตรีของญี่ปุ่น "โคโตะ-KOTO" ให้ชม ใ้หฟังกันก่อน























ถ่ายภาพด้วยความชื่นชมกับการที่ได้ชม ได้ฟังการเล่นเครื่องดนตรีของญี่ปุ่น "โคโตะ" ซึ่งถ้าได้ดูจากรูปแบบของเครื่องดนตรี ก็มีหลายๆ ส่วนคล้ายกับเครื่องเล่นดนตรีอื่นๆ อยู่บ้าง


และด้วยความชื่นชมที่อยากจะถ่ายภาพชุดนี้แบบที่ได้มุมภาพเพิ่มเติม
ได้ยืนรอจังหวะการที่จะเข้าไปพูดคุยกับสาวญี่ปุ่นท่านนี้อยู่พักใหญ่
และก็คิดอยู่นานเหมือนกันว่าจะเข้าไปพูดคุยด้วยภาษาอังกฤษดี หรือ ภาษาไทยดี
แต่แน่ๆ ได้ยินเธอพูดด้วยภาษาญี่ปุ่นอยุ่ตลอดเวลา

รอได้พักใหญ่ ช่วงที่ว่างๆ พอเข้าไปพูดคุยได้
ยืนพูดคุยอยู่พักหนึ่ง จนขอเธอมาเป็นแบบถ่ายภาพได้อีกครั้งหนึ่ง

ที่ยืนพูดคุยกัน สรุปว่าใช้ภาษาไทยเข้าไปทักทาย เพราะกลัวภาษาอังกฤษที่จะเข้าไปพูดคุยด้วย เดี๋ยวใครไม่ใครก็จะเหนื่อยในการพูดคุย (แต่เดาว่าตัวเองจะเหนื่อย และเมื่อยมือซะเปล่า 555)

แอบเขียนคำทักทายที่ไปพูดคุยมาเล่าให้ฟัง ด้วยความประทับใจที่ได้ยืนพูดคุยกัน
สวัสดีครับ
สวัสดีค่ะ
ดีใจครับที่พูดภาษาไทยได้
ค่ะ....เป็นคนญี่ปุ่นมาจากกรุงเทพ
ครับ แล้วเดี๋ยววันเสาร์นี้จะได้อยู่ร่วมเทศกาลรำวงบงโอโดริ หรือเปล่าครับ
ไม่ค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะกลับแล้ว
ผมอยากจะขอไปเป็นแบบถ่ายภาพอีกสักครั้ง ได้ไหมครับ
ได้ค่ะ
คือ ตอนที่เล่นเครื่องดนตรี เรียกว่า โคโตะ ใช่ไหมครับ
ใช่ค่ะ

ผมพยายามถ่ายภาพแล้ว แต่จะไม่ค่อยเห็นหน้าชัดๆ
ค่ะ ตอนแสดงต้องก้มหน้าตลอด
เดี๋ยวขอถ่ายภาพเพิ่มเติมอีก 4-5 ภาพได้ไหมครับ
ได้ค่ะ
..จากนั้นเธอก็ไปพูดคุยกับชาวญี่ปุ่นอยู่ด้วย...แ่ต่ฟังไม่ออกหรอก แต่ประมาณว่า เดี๋ยวขอตัวไปถ่ายภาพสักหน่อย หนุ่มคนนี้มาขอถ่ายภาพ เดี๋ยวกลับมาค่ะ....(ประโยคหลังนี่่...เดาเอาเองนะครับ)




Set นี้ เป็นภาพที่ขอเธอมาเป็นแบบเล่นโคโตะ ให้ชมกันอีกครั้งหนึ่งครับ



ภาพถ่ายชุดนี้ ตอนถ่ายภาพเสร็จ ก็นำไปให้ชมจากกล้องแล้ว
และได้ขออนุญาตนำภาพมาลงประกอบกับงาน Lanna Japan Festival 2010 6th ไว้ด้วยแล้วครับ




โคโตะ มีสายอยู่ 13 สาย
ใช้นิ้วมือข้างขวา ที่สวมปลอกนิ้วไว้ 3 นิ้ว คือ นิ้วโป้ง นิ้วชี้ นิ้วกลาง ในการดีดเล่นเครื่องสายทั้ง 13 เส้น


ส่วนมือซ้ายใช้กดสายโคโตะ บนตัวสะพานที่รับสายเรียกว่า "จิ" เป็นการจับเหมือนคอร์ดดนตรีเครื่องสาย แต่เข้าใจว่่าคงแตกต่างกันไปในแต่ละเครื่องดนตรี





ขอขอบคุณโนริโกะ ทสึโบอิ
ประวัติของคุณโนริโกะ เริ่มศึกษาโคโตะตั้งแต่อายุ 8 ขวบ โดยเรียนเพลงญี่ปุ่นขนานแท้ ต่อมาในปี 1987 ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพจากสถาบันดนตรีซาวาอิ และได้เข้าศึกษาเป็นนักศึกษาวิจัยของสถาบัน เธอจบหลักสูตรดนตรีแบบประเพณีของสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค และต่อหลักสูตรเข้มข้นสองปีของสถาบันดนตรีซาวาอิ ขณะเดียวกันก็ออกคอนเสิร์ตหลายครั้ง ทั้งยังได้ร่วมตระเวนแสดงในต่างประเทศหลายโอกาส เธอมิได้จำกัดตัวเองอยู่กับการเล่นโคโตะแบบประเพณีเท่านั้น หากยังเปิดโลกทัศน์ โดยได้ร่วมเล่นกับนักดนตรีแขนงอื่นๆ เช่น การด้นสดในคอนเสิร์ตต่างๆ

ในปี 1992 โนริโกะได้รับเชิญจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซาน ดิเอโก เป็นอาจารย์พิเศษสอนดนตรีโคโตะ การสอนของเธอเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง มีการจัดแสดงโคโตะ โดยรับหน้าที่เป็นทั้งผู้ฝึกสอนและวาทยกรให้กับนักเรียนของเธอเอง และเปิดการแสดงอองซอมเบิลในแคลิฟอร์เนีย นอกจากการสอนแล้ว โนริโกะยังแสดงเดี่ยวอีกหลายรายการ โดยร่วมงานกับคีตศิลปินหลากหลายสาขา หลังจากกลับประเทศญี่ปุ่นในปี 1998 เธอยังคงแสดงดนตรีหลายรูปแบบทั้งในญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา เธอย้ายมาอยู่ประเทศไทยในปี 2001 ในปี 2005 เธอเชิญนักโคโตะและชาขุฮาจิจากญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกามาร่วมคอนเสิร์ตที่จัดโดยเจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ ซึ่งจัดที่กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ เธอยังเป็นผู้ประสานงานจัดคอนเสิร์ต Sawai Koto Orchestra Asia Tour ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก the Agency for Cultural Affairs ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเดินทางแสดงที่กรุงเทพฯ กัวลาลัมเปอร์ และ นิวเดลี ในปี 2007 เธอเป็นสมาชิกของ Lantana และแสดงดนตรีร่วมสมัยที่ซานฟรานซิสโก เบย์ แอเรีย ทุกปีตั้งแต่ปี 2008

ปัจจุบัน โนริโกะสอนโคโตะที่กรุงเทพฯ และยังคงศึกษาและทำกิจกรรมเกี่ยวกับดนตรีอันไร้พรมแดนในหลายๆ ประเทศในภูมิภาค


และขอขอบคุณโนริโกะ อย่างมากมายเลยครับที่เป็นแบบถ่ายภาพด้วยครับ


ช่วงพิธีเปิดงาน



รองศาสตราจารย์พงศ์เดช ไชยคุตร คณบดีคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่



ท่านกงสุลญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ นายคะซึโอะ ชิบะตะ (Kazuo Shibata) ประธานจัดงานฝ่ายญี่ปุ่น














หลังเปิดงานเลยได้มีโอกาสขึ้นไปชมนิทรรศการร่วมสมัยของญี่ปุ่น ที่นำมาจัดงานให้ชมกันภายในงานนี้

ประวัติความเป็นมาของงานหัตถกรรมในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีความเก่าแก่และสืบย้อนไปได้เป็นเวลาหลายศตวรรษโดยได้รับอิทธิพลจากหลายแหล่ง อาทิเช่น จีนและเกาหลี อิทธิพลต่าง ๆ เหล่านี้ค่อย ๆผสมกลมกลืนและได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นลำดับ จนในที่สุดจึงเกิดผลเป็นชิ้นงานที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ของศิลปะญี่ปุ่นในยุคสมัยใหม่ ด้วยกระแสของรูปแบบทางสังคมและวัฒนธรรมตะวันตกที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างรวดเร็ว

งานหัตถกรรมญี่ปุ่นไม่เพียงยังคงสามารถรักษารูปทรงและลวดลายในแบบดั้งเดิมซึ่งได้รับสืบทอดต่อมาจากคนรุ่นก่อนๆ ได้เท่านั้น แต่ยังได้เกิดมีศิลปินซึ่งพยายามจะแสดงออกถึงความเป็นศิลปะจากมุมมองของพวกเขาเองผ่านทางผลงานของพวกเขาด้วยหัตถกรรม

พบกับผลงาน 64 ชิ้นที่จะสะท้อนถึงความงามร่วมสมัยในงานหัตถกรรมของญี่ปุ่น
นิทรรศการในครั้งนี้ได้รวบรวมผลงานจากศิลปินชั้นนำของญี่ปุ่นและจัดแบ่งออกเป็น 6 กลุ่มใหญ่ ๆ ตามคุณสมบัติเด่นของงานหัตถกรรมร่วมสมัยจากญี่ปุ่น ได้แก่ (1) สีสันสดใส ทองและเงิน (2) งดงามเรียบง่าย (3) ชัดเจนมีพลัง (4) วิจิตรบรรจง (5) ไร้รูปทรง (6) มวลปักษาและบุพผาชาติ



set นี้ ครั้งแรกที่เห็นจากไกลๆ และมองผ่านลอดคนที่ยืนชมกันอยู่
มองแล้วเหมือนตุ๊กตาญี่ปุ่นที่สวมชุดกิโมโน
แต่มุมที่มองเห็นว่าคล้ายไม่ได้มองจากมุมนี้หรอกนะครับ




































ขอขอบคุณผู้จัดงานทั้งฝ่ายไทย และฝ่ายญี่ปุ่นที่ได้ร่วมกันจัดงาน Lanna Japan Festival 2010 ซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 6 แล้ว ไว้นำภาพในกิจกรรมอื่นๆ มาให้ชมกันต่อครับ

ขอบคุณทุกๆ ท่านที่แวะมาชมภาพถ่าย set นี้ด้วยครับ


Create Date : 29 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 13 เมษายน 2554 8:11:38 น. 23 comments
Counter : 4066 Pageviews.

 
เห็นแ้ล้วอยากเข้าไปนั่งฟังด้วยจริงๆครับพี่เบิร์ท
ผมว่าดนตรีแบบนี้มีเสน่ห์มากๆเลยนะครับ
ต้องตั้งใจฟังด้วย
ถึงจะได้ยินเสียงทีไ่พเราะนี้

ปล. พออ่านเม้นท์พี่เบิร์ทเสร็จ
ผมนึกได้เลยครับว่าทำไมรถเยอะ
เพราะมีงานมันนี่เอ็กซ์โปรและงานนาฬิกานี่เองครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 พฤศจิกายน 2553 เวลา:8:27:16 น.  

 
สวัสดียามเช้าวันทำงานค่ะ


โดย: kobnon วันที่: 29 พฤศจิกายน 2553 เวลา:8:42:52 น.  

 
สมกับเป็นช่างภาพตัวกลั่นสายเหนือจริงๆค่ะ
อิอิ


โดย: ดา ดา วันที่: 29 พฤศจิกายน 2553 เวลา:9:20:11 น.  

 


ชมภาพแล้ว .. อยากฟังเสียงด้วยเลยค่ะ


โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 29 พฤศจิกายน 2553 เวลา:9:21:41 น.  

 
ดีจังเลยค่ะพี่ที่ได้มีโอกาสได้ไป
ร่วมงาน ... ได้เห็นการแสดงของเค้า
ว่าไปทาง ญป. นี่มีอะไรให้เราได้
ศึกษามากมายเลยนะค่ะ

ปล. แอบไปแซวพี่ที่บล็อกคุณก๋ามา
เรื่องท้าดวลกล้องกับหมิงหมิงนะค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 29 พฤศจิกายน 2553 เวลา:11:13:26 น.  

 


" ​โคโตะ " เป็นเครื่องดีดชนิดหนึ่งที่เสียงของดนตรีมีความประณีตทางสุนทรีซึ่งเป็นศิลปะและวัฒนธรรมญี่ปุ่น
เป็นเครื่องดนตรีโบราณตกทอดมาจากบรรพบุรุษ ลักษณะคล้ายจรเข้
ประกอบด้วย ๑๓ เส้น ดัดเเปลงสายได้ตามสำเนียงของเพลง เพราะเห็นปรับเส้นเหมือนกีต้าร์ ไม่ทราบว่าเข้าใจผิดหรือเปล่าค่ะ


เสียงเพลงจากเครื่องดนตรีชนิดนี้มีความอ่อนหวานในความสามารถของผู้เล่นเเละเพลงเพลงที่นักเเต่งคิดขึ้นมานั้นได้รับความนิยมอย่างมาก

เหมาะกับสถานที่เงียบ ต้องตั้งใจฟังจึงจะเข้าถึง เพลงที่เคยได้ฟังจากโคโตะที่บ่อยที่สุด ดูเหมือนจะเป็นเพลง "ซากุระ"


ร้านอาหารญี่ปุ่นบางร้านในราคาค่อนข้างเเพงขี้นมานิดหน่อย
จะบริการการเล่นโดยนักเล่นดนตรีที่มีอายุสูงเเต่ใช้คีมปะไว้
นับว่าผู้เล่นดนตรีมีความสามารถดึงดุดที่ให้ผู้ฟังได้หลงไหล
( เคยมีประสบการณ์ค่ะ​)
บางครั้งจะได้ยินเครื่องดนตรีชนิดนี้เปิดในร้านที่เป็นสไตร์ญี่ปุ่น
เเต่จะไม่มีการเล่นสดๆให้ชมตามสถานที่ดังกล่าว
ถ้าเจอภาพที่ถ่ายไว้ จะนำมาฝากคุณเบิร์ทค่ะ

เครื่องดนตรีที่สร้างความนิยมให้เเก่บุตรหลานในปัจจุปันของครอบครัวที่ฐานะดีนั้น
จะเป็นเปียร์โน หรือไวโอลินซึ่งจะเห็นได้จากมีการเเข่งขันความสามารถตลอดปี

ในต่างประเทศที่เห็นมีการเเสดงโคโตะจะมีตามมิวเซียมปีละครั้ง
นอกจากเสียค่าบัตรผ่านประตูเเล้วยังต้องเสียค่าชมดนตรีต่างหากค่ะ


โดย: YUCCA วันที่: 29 พฤศจิกายน 2553 เวลา:11:39:33 น.  

 
ขอบคุณ k.YUCCA ด้วยนะครับที่นำข้อมูลเรื่องเครื่องดนตรีโคโตะมาให้อ่านเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยด้วยครับ


โดย: ถปรร วันที่: 29 พฤศจิกายน 2553 เวลา:12:04:30 น.  

 
อ่านคอมเม้นท์พี่ที่บล็อกแล้วก็ขำฮากันเลยค่ะ
ดูท่าว่าจะเหนื่อยเอาการเหมือนกันนะค่ะ
ตากล้องหยิ่งมาก ไม่ง้อนายแบบ เล็งไปทาง
ก็ต้องให้นายแบบวิ่งเข้ากล้อง อย่างฮาเลยค่ะ
แหม่ .. รอชมภาพเลยนะค่ะนี่ คุณก๋าบอกว่า
พรุ่งนี้สงสัยจะอัพคะ


โดย: JewNid วันที่: 29 พฤศจิกายน 2553 เวลา:12:22:59 น.  

 
ตามมาชมภาพคะ อยากให้มาจัดที่ กทม. จังเลยคะ


โดย: eeh (คิตตี้น้อยสีชมพู ) วันที่: 29 พฤศจิกายน 2553 เวลา:13:45:12 น.  

 
แหมเสียดายไม่มีเสียงค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 29 พฤศจิกายน 2553 เวลา:14:49:55 น.  

 
อยากไปอะถ้าอยู่เชียงใหม่จะไม่พลาดเลย


โดย: yanu วันที่: 29 พฤศจิกายน 2553 เวลา:16:21:50 น.  

 

อยากฟังเสียงดนตรีของเจ้าโคโตะจังเลย
ถ้าอยู่เชียงใหม่ตีตั๋วหน้าแน่ๆ เรา
ภาพแหล่มทุกภาพเลยค่ะคุณเบิร์ด


โดย: อุ้มสี วันที่: 29 พฤศจิกายน 2553 เวลา:16:39:52 น.  

 

รูปลีลาการเล่นโคโตะชัดแจ่มทุกรูปเลยค่ะคุณเบิร์ท
แถมรูปเครื่องปั้นนั้นวาเองชอบเป็นพิเศษค่ะ
วาเองถ่ายรูปobject ไม่ค่อยสวยเลยค่ะออกมาแปลกๆวาว่า
วาขอบคุณนะคะคุณเบิร์ทที่ไปให้กำลังใจค่ะ
มันใจแป้วๆ นะคะ ตอนนี้ยังกู้คืนมาไม่ได้ค่ะ
หวังไว้ว่าคงไม่หายไปเยอะค่ะ
เพราะคราวก่อนก็ทีหนึ่งแล้ว กู้ได้มาไม่หมดค่ะ
เม้นเพื่อนๆ ก็หายไป ตอนนี้ไม่รู้จะตามไปเม้นยังไงดีค่ะ
วาเลยเศร้าไปค่ะ
ตอนนี้ก็ทยอยcopy ไว้บ้างแล้วค่ะ





โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 29 พฤศจิกายน 2553 เวลา:16:59:43 น.  

 
ผมแวะมาเยี่ยมชมครับ


โดย: panwat วันที่: 29 พฤศจิกายน 2553 เวลา:19:31:24 น.  

 
สวัสดีตอนค่ำๆ ค่ะพี่เบิร์ท


โดย: namfaseefoon วันที่: 29 พฤศจิกายน 2553 เวลา:20:25:11 น.  

 
อ.ถีนี่ดูไม่แก่เลยนะ :)


โดย: 197228 IP: 125.25.103.10 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2553 เวลา:20:46:57 น.  

 
กู้ได้แล้วค่ะคุณเบิร์ทหายไปแค่ save draft ค่ะ



โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 29 พฤศจิกายน 2553 เวลา:21:02:20 น.  

 
ภาพสวยมากค่ะคุณเบิร์ท
เสียดายเห็นแต่ภาพ
ไม่ได้ฟังเสียงเครื่องดนตรี
แต่คิดว่าต้องไพเราะมากๆเลยค่ะ





โดย: Suessapple วันที่: 29 พฤศจิกายน 2553 เวลา:23:19:35 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่เบิร์ท

วันนี้อัพบล็อกโดยมีพระเอกสองคนครับ
สองคน สองคม สองวัยเลยครับ 5555









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 พฤศจิกายน 2553 เวลา:6:43:57 น.  

 


สวัสดียามเช้าค่ะพี่
ตามไปชมภาพลุงเบิร์ดมาแล้วค่ะ
ภาพสดใสมากเลย
เข้าใจความรู้สึกเลยว่า
พี่ต้องขำหมิงหมิงไปด้วย .. ยิ้มหวานเป็นนายแบบไปด้วย

โอ้ .. มันลำบากมากเลยแบบนี้ :)

ไว้ต้องรอดูฝีมือหมิงหมิงเซ็ทต่อไปค่ะ
พี่ไปเป็นนายแบบอีกนะคะ





โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 30 พฤศจิกายน 2553 เวลา:6:51:18 น.  

 
ฮ่าๆๆๆ


หมิงหมิงถามหาลุงเบิร์ทตลอดเลยครับเวลาเห็นกล้องถ่ายรูป

สงสัยอยากดวลอีกครับ 5555




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 พฤศจิกายน 2553 เวลา:8:28:44 น.  

 
สวยมากครับอ้าย..บรรยากาศดีจริงๆ เลยครับ...


โดย: เพลงดาบกระบี่เดียวดาย IP: 222.123.211.143 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2553 เวลา:14:12:39 น.  

 
อ. โคโตะผมเองงงง
ปลื้มๆ


โดย: ชัช (กู่ฉิน ) วันที่: 6 ธันวาคม 2553 เวลา:9:19:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ถปรร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ถปรร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.