ทริปถ่ายภาพ "พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ"
31 กรกฎาคม 2553 : ทริปถ่ายภาพ พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
นำภาพถ่าย ทริปถ่ายภาพ พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ช้างสามเศียร มาให้ชมกันครับ
พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ สถานที่: Erawan Museum ที่ตั้ง: ถนนสุขุมวิท ขาเข้าจังหวัดสมุทรปราการ เวลาทำการ: 8 นาฬิกา - 18 นาฬิกา ค่าบัตรเข้าชม: ผู้ใหญ่ 150 บาท, เด็ก 50 บาท
พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 12 ไร่ ของบริษัท ธนบุรีประกอบยนต์ จำกัด ตำบลบางเมืองใหม่ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างจากแรงบันดาลใจ และความคิดของ คุณเล็ก วิริยะพันธ์ ผู้สร้างเมืองโบราณ จ.สมุทรปราการ และปราสาทสัจธรรม เมืองพัทยา จ.ชลบุรี
ขอเล่ามาเป็นพอสังเขปครับ ส่วนหนึ่งเชื่อว่าได้ชมกันมาจากหลายๆ web กันแล้ว และก็เชื่อว่าหลายๆ คนคงได้ไปเยือนที่นี่กันมาแล้ว
มาชมกันเลยครับ
ทางลงเข้าชั้นบาดาล ภายในไม่ให้ถ่ายภาพ ด้านในมีการเล่าเรื่องประวัติการสร้าง และสิ่งของที่มีมูลค่า เช่น ถ้วยชามของเก่า กาน้ำชา แจกันโบราณของจีน ของกรีก บางชิ้นก็หายาก และก็เป็นเทวรูปสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
ขึ้นมาชั้น 2 จากชั้นนี้ไปจะสามารถถ่ายภาพได้แล้ว แต่ส่ิงของ เทวรูปที่อยู่ภายในตู้ ยังห้ามถ่ายภาพอยู่ครับ
blog อาจจะเรียกว่า ต่อจาก blog เมื่อวานได้เลย blog เมื่อวานพากันไปทัวร์ขุมนรกแดนต่างๆ ซึ่งใครก็ไม่อยากลงไปชมกัน ดูกันผ่านๆ ก็พอ แต่ blog นี้ มาต่อกัน กับเส้นทางพาขึ้นสู่แดนสวรรค์ ชั้นวิมาน ภายในชั้นบนสุดของพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
ก่อนขึ้นบันไดไปสู่ด้านบน เดินชมด้านล่างกันก่อนครับ
ปลาอานนท์ จากความเชื่อที่เชื่อกันว่า ถ้าปลาอานนท์พลิกตัวก็จะเกิดแผ่นดินไหวเกิดขึ้น
มาขึ้นไปสู่ชั้นบนกัน ระหว่างทางขึ้น ก้จะมี รูปปูนปั้นกินนร กินนรี และคนธรรพ์ ที่ออกมาบรรเลงดนตรี รายล้อมระหว่างทางให้ฟัง และต้อนรับกันด้วย
บนท้องฟ้าที่เป็นกระจกสี เปรียบเป็นเพดานโลกที่แสดงแผนที่โลกโบราณ
ก่อนจะขึ้นไปสู่แดนสวรรค์ชั้นวิมาน มี 2 ทางเลือก ให้เดินทางขึ้นไป 1 ทางลิฟท์ 2 ทางบันได
ได้เลือกเดินทางขึ้นบันไดวน 66 ขั้นขึ้นไปแทนลิฟท์
เดินขึ้นบันไดสู่ชั้นสวรรค์วิมาน เล่นเอาหอบแฮ่กๆ ไปเหมือนกัน
ที่เลือกขึ้นบันได ไม่ใช่อะไรหรอก เพราะในกรุ๊ปที่เดินฟังบรรยายด้วยกัน มี สว. มากันหลายคน สว. หลายคนนั้น เลือกขึ้นลิฟท์ไปจนเต็มลิฟท์แล้ว
แต่ขึ้นลิฟท์ไป คงไม่ได้เห็นความสวยงามของดวงดาว 8 เหลี่ยมบนท้องฟ้า
มาสู่แดนสวรรค์ ชั้นวิมานกันแล้วครับ
ผนังด้านบนเป็นภาพวาดสีฝุ่นรูปสุริยจักรวาล
จะให้เห็นสุริยจักรวาล กันด้วย เลยต้องถ่ายภาพด้วยแฟลข
ส่วนภาพนี้เหมือนเปรียบว่าได้ชมสุริยจักรวาล ยามแสงเรืองรองก็แล้วกัน
น้ำมนต์ที่มีให้บูชา และได้นำกลับติดตัวมาด้วย
หลังจากอิ่มสุขอิ่มใจกับแดนสวรรค์ชั้นวิมานกันแล้ว ก็เดินกลับลงมาดู่ด้านล่างในอีกทางหนึ่ง(ทางขึ้นทางลง ใช้คนละด้านกัน)
ขากลับได้ออกมากราบไหว้ช้างเอราวัณ และได้ลอยดอกบัวด้วย
ที่จริงอยากติดเลนส์เทเล ซูมดอกบัวที่เรียงรายสวยๆ แต่ก็ไม่ได้ติดมือไป
และการมาถ่ายภาพครั้งนี้ ติดเลนส์มาตัวเดียว canon 15-85 mm.
ช่วงเลนส์ 15 mm. คิดว่าจะเก็บช้าง 3 เศียร ได้สวยๆ แล้วเชียว
มุมถ่ายภาพยังถูกบีบ ให้ถ่ายภาพไม่พอเอาซะด้วย
เห็นทีว่า หากมีครั้งต่อไป ไปแก้มือใหม่ คราวนี้จะติดเลนส์ไวด์ ไปถ่ายภาพดีกว่า
และก็จะคงต้องเลือกวัน เลือกโอกาสให้พอเหมาะ ให้ท้องฟ้าสวยๆ ด้วย
เพราะมาครั้งนี้ ท้องฟ้าไม่สวยเลย ได้ท้องฟ้าที่เต็ไปด้วยเมฆขาวๆ เกือบทุกภาพ แต่ก็โชคดีที่ฝนไม่ตก
นำภาพถ่ายชุดนี้ มาลงให้ชมกัน เพื่อมาเฉลยว่า เมื่อวานนี้ (30 ก.ค. 53) ได้แอบหนีไปกทม. มา 1 วัน
ได้มาถ่ายภาพทริปนี้ ร่วมกับคุณ Oxyman
และก็คงต้องขอขอบคุณอย่างมากมายกับ k.Oxyman ไว้ตรงนี้ด้วย ที่ขับรถรับส่ง take care เป็นอย่างดี และก็ทำให้ใจหายตามๆ กันไปด้วย เพราะมัวแต่ถ่ายภาพอย่างเร่งรีบกัน ด้วยเวลาที่มีอันน้อยนิด รีบบึ่งมาส่งที่สนามบินจนทันขึ้นเครื่องกลับมาเชียงใหม่แบบฉิวเฉียด ไม่งั้นมีแววได้นั่งรถทัวร์กลับมาเชียงใหม่แล้ว
ขอบคุณพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ที่สร้างสรรค์สิ่งสวยงามวิจิตรตระการตาให้ชมกันด้วยครับ
ขอบคุณทุกๆ ท่านที่แวะมาชมภาพถ่าย set นี้ด้วยครับ
Create Date : 31 กรกฎาคม 2553 |
|
24 comments |
Last Update : 31 กรกฎาคม 2553 0:11:06 น. |
Counter : 3532 Pageviews. |
|
|
|
สวยมากเลยค่ะคุณเบิร์ท
ถ่ายรูปได้สวยเสมอ