|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
|
|
|
25 กุมภาพันธ์ 2552
|
|
|
|
จะ "เพ่งโทษ" กันไปทำไม เพื่อประโยชน์อะไรหรือ
"คนที่เห็นแต่โทษผู้อื่น คอยแต่เพ่งโทษนั้น อาสวะก็เพิ่มพูน เขายังไกลจากความสิ้นอาสวะ"
พุทธพจน์ ขุ. ธ. ๒๕/๔๙
ไม่มีใครบนโลกนี้ที่สมบูรณ์แบบ ทุกๆคน ขาดๆ เกินๆทั้งนั้น ไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง... อันนี้เป็นความจริงที่ทุกๆคนก็รู้อยู่ในใจ
แต่ในทางปฏิบัติแล้ว เราก็มักจะเผลอสติ คอยจ้องมองข้อผิดพลาดของผู้อื่นอยู่เป็นประจำ ภาษาธรรม เค้าเรียกว่า "การเพ่งโทษ"
การกระทำใดๆที่ไม่ถูกจริตเรา เราก็จะเผลอไปตัดสินเรื่องนั้นๆว่า ไม่ดี ไม่เหมาะ ไม่งาม ฯลฯ
ซึ่งการที่เราคอยไปตัดสินเรื่องของชาวบ้าน ไม่ได้เป็นผลดีกับใครเลย ทั้งตัวเราผู้คอยเพ่งโทษผู้อื่น และตัวผู้อื่นที่ถูกเราเพ่งโทษอยู่
ในเรื่องของความรู้สึก -ตัวเราเองก็ไม่สบายใจ ส่วนตัวผู้อื่นก็จะไม่สบายใจเช่นกัน รังแต่จะก่อให้เกิดวิบากกรรมต่อกันเปล่าๆ
ในด้านอารมณ์ -ตัวเราเองก็จะมีความลำบากในเรื่องการดูจิต เพราะมันจะฟุ้งซ่านเกินไป ส่วนตัวผู้อื่นก็จะรู้สึกขุ่นมัวได้ง่ายๆ
ในด้านสังคม -ทั้งเราและเขาก็อาจจะเกิดความไม่เข้าใจกัน ทำให้สัมพันธ์ภาพไม่ปกติสุข
อย่าเพ่งโทษกันเลย มาตรฐานความถูก-ผิด ดี-เลว ขาว-ดำ หรือของที่เป็นคู่ๆทุกชนิด ไม่มีอยู่จริงหรอก เราใช้มาตรฐานของเราไปตัดสินคนอื่น เราใช้ไม้บรรทัดกันคนละอัน มันก็จะวัดไม่เหมือนกัน ป่วยการที่จะถกเถียงกันเปล่าๆ
คิดดูสิ เป็นต้นว่า ดำ-ขาว ก็ได้ ดำ ก็คือ ขาวน้อย ส่วน ขาว ก็คือ ดำน้อย นั่นเอง ความขาว-ดำ ของสายตาแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน ใช่มั๊ย
แล้วจะถกเถียงหรือ เพ่งโทษกันไปทำไม ทางที่ดีคือ ดูตัวเราเอง ดูจิตของเราเอง รักษาจิตให้ดี เพื่อที่ว่า สัมมาปัญญา จะได้บังเกิดง่ายๆสักที
ปล. วันนี้ผมพล่ามอะไรไปเรื่อยเปื่อย เนื่องจากที่ทำงานมีแต่คนคอยจับผิดกัน บรรยากาศแย่เนอะ...
Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2552 |
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2552 21:59:00 น. |
|
19 comments
|
Counter : 636 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: มินทิวา วันที่: 2 มีนาคม 2552 เวลา:8:52:18 น. |
|
|
|
โดย: yoja วันที่: 3 มีนาคม 2552 เวลา:13:43:18 น. |
|
|
|
โดย: มินทิวา วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:5:02:21 น. |
|
|
|
โดย: มินทิวา วันที่: 10 มีนาคม 2552 เวลา:20:10:28 น. |
|
|
|
โดย: มินทิวา วันที่: 13 มีนาคม 2552 เวลา:5:56:27 น. |
|
|
|
โดย: ample pat วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:21:22:09 น. |
|
|
|
โดย: มินทิวา วันที่: 24 มีนาคม 2552 เวลา:20:02:40 น. |
|
|
|
โดย: มินทิวา วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:19:23:31 น. |
|
|
|
โดย: yoja วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:22:22:31 น. |
|
|
|
โดย: มินทิวา วันที่: 2 เมษายน 2552 เวลา:9:00:40 น. |
|
|
|
โดย: yoja วันที่: 4 เมษายน 2552 เวลา:13:17:51 น. |
|
|
|
โดย: yoja วันที่: 7 เมษายน 2552 เวลา:13:18:07 น. |
|
|
|
โดย: มินทิวา วันที่: 13 เมษายน 2552 เวลา:6:20:41 น. |
|
|
|
โดย: มินทิวา วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:8:59:47 น. |
|
|
|
โดย: มินทิวา วันที่: 25 เมษายน 2552 เวลา:7:27:02 น. |
|
|
|
โดย: มินทิวา วันที่: 3 พฤษภาคม 2552 เวลา:19:55:16 น. |
|
|
|
โดย: มินทิวา วันที่: 25 พฤษภาคม 2552 เวลา:18:44:42 น. |
|
|
|
โดย: มินทิวา วันที่: 2 มิถุนายน 2552 เวลา:8:02:19 น. |
|
|
|
| |
|
|
abhirakk |
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
ไม่ใช่เกิดมาเพื่อแพ้ แน่จงลุยต่อไป อย่ามัวรอดวงชะตา ความสำเร็จมาเองหรือไง มันต้องสูญ ต้องเสีย ต้องแลกเปลี่ยนไป จึงได้มา นี่แหล่ะคือคุณค่า เป็นตำรานอกมหา'ลัย
เพลงประจำตัว สู้-หิน เหล็ก ไฟ
|
|
|
เคยเจอเหมือนกัน ประเภทคอยจ้องจับผิออ่ะค่ะ
ทำงานกับคนหมู่มาก ก็แบบนี้อ่ะนะมินว่า
เราคงทำอาไรไม่ได้ นอกจากทำใจอ่ะค่ะ
ปล.มีความสุขมาก ๆ นะคะ