Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
28 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 

สถานสงเคราะห์ บ้าน...เกิด..ผม / อาวุธสำคัญ 3

โชคยังดีหน่อย ที่มื้อนี้ยังกินได้ เพราะมีปลาเค็มทอด สะดวกในการใช้มือกินเลยยังเหลือ มื้อเช้าและมื้อกลางวัน ตัวผมเองเฝ้าภาวนา ขอให้มื้อเช้าเป็นข้าวไข่เจียว ส่วนมื้อกลางวันขอให้เป็นข้าวผัด แต่อาหารที่ออกมาไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง

( เท้าความเดิม)



และมื้อที่ 2 ของการถูกทำโทษก็มาถึงนั้นก็คือ อาหารมื้อเช้า ซึ่งอาหารมื้อเช้าก็เป็นมื้อที่สำคัญที่สุดกว่ามื้ออื่นๆเลย อาหารในตอนเช้ากลับเป็น ข้าวต้มหมู ร้อนๆด้วยชิครับ(เวณกรรมเลย เรา ) ลองคิด สภาพดู คุณผู้อ่าน ว่าผมและเพื่อนจะ ต้องใช้มือ ตักข้าวต้มร้อนๆ กินเนี้ยนะ ดูเป็นเรื่องที่ทรมานมากๆ สำหรับพวกผมในตอนนี้เลย จะรอให้ข้าวต้มหายร้อน มันคงเป็นไปไม่ได้แน่ เพราะเวลากินข้าวมันไม่มีมากมายเท่าไรนัก แต่ในความโชคร้ายของพวกผม กลับเจอได้ มิตรภาพแท้ระหว่างเพื่อน ที่มีต่อกัน นั้นก็ เพื่อนได้ยอมเสียสละ ให้ช้อนมา 2 คัน เพื่อให้ผมและเพื่อนอีก 6 คน ที่ถูกทำโทษด้วย ได้กินข้าวต้มแบบสบายๆ โดยที่เพื่อนๆกับผม จะนั่งเป็นวงกลมแล้วก็ใช้ช้อนหมุนเวียนผลัด ตักข้าวต้มกินคนละคำเป็นแล้วก็ส่งช้อนให้คนอื่นๆ อีกต่อไป

ส่วนเพื่อนที่ยอมเสียสละ ช้อนให้กับผม 2 คนนี้ ก็อาศัย ที่มีช้อนอยู่แล้ว โดยนั่งจับคู่ผลัดกันใช้ช้อน คนละคำ หรือไม่ก็รอให้เพื่อนกินเสร็จก่อน และจึงขอยืมช้อนต่อ ยังไงต้องขอบใจเพื่อนทั้ง2 คน ที่มีน้ำใจช่วยเหลือกัน ส่วนเพื่อน 2 คนนี้มีซื่อว่า กำจร และก็ปราโมช ระหว่างที่กินข้าวต้มอยู่นั้น แม่บ้านได้มาเห็นที่พวกผมได้แอบใช้ช้อนกินข้าวต้ม และก็เดินไปทางอื่น ทีแรกเข้าใจว่าแม่บ้านต้องว่าพวกผมแน่ๆที่แอบใช้ช้อน แต่เปล่าเลย กลับมีรอยยิ้มที่มุมปากของแม่บ้านเพียงเล็กน้อย และก็เอ๋ยว่า อยู่บ้านเดียว กินข้าวหม้อเดียวกัน มันต้องช่วยเหลือกัน เป็นเรื่องที่ถูก ขอบใจเพื่อนเธอหรือยัง ที่ยอมเสียสละช้อนกินข้าวให้

(เกือบลืมบอกไป) เวลาที่กินข้าวต้ม หรืออาหารจากเดียว มักจะใส่จานใส่ถ้วยคนละใบ และก็กินได้เลย ไม่เหมื่อนต้องที่มีกับข้าว 2 อย่าง ที่ต้องมานั่งเป็นกลุ่มใครกลุ่มมัน

มาถึงมื้สุดท้ายของการโดนลงโทษ นั้นก็คือ อาหารกลางวัน ส่วนใหญ่
จะเป็นอาหารจากเดียว ที่ในสถานสงเคราะห์ทำเลี้ยง คือ ข้าวผัด ราดหน้าผัดซีอิ่ว และก็ผัดกระเพรากับไข่ดาว เป็นต้น แต่อาหารที่เจอในกลางวันกลับไม่เป็นอย่างที่คาดหวังไว้ ( คนเรานี้นะ หวังอะไร ก็ไม่ค่อยได้สมหวัง ซักเท่าไร ฉะนั้น จงเพื่อใจมั่งบ้าง)กลับโชคร้าย หนักกว่าข้าวต้มหมูอีกซะด้วย อาหารกลางวัน นั้นคือราดหน้า และมันเป็นของโปรด ของผม ที่ชอบกินที่สุดในบรรดา อาหารมื้อกลางวัน ทั้งหมด รองลงมาผัดกระเพราะหอยแมลงภู่กับไข่ดาวไม่กรอบแต่ไข่แดงสุข พูดแล้วก็อยากกิน ขึ้นมาทันที

สำหรับอาหารวันนี้ผมและเพื่อน กินได้อย่างสะดวกสบาย เพราะส่วนใหญ่ แม่บ้านจะไปประชุมที่ กองอำนวยการ และมักจะกลับมาช้า อยู่เสอม แต่ยังคงมอบหมายให้พี่เลี้ยง ( เจ้าหน้าที) เป็นคนดูแล พวกผมแทน ซึ่งพี่เลี้ยงผ่อนผันให้กับพวกผม จึงทำให้ได้กินราดหน้า อย่างเต็มอิ่ม แต่ต้องรอ ต่อช้อนจากเพื่อน พูดง่ายๆ คือให้เพื่อนกินให้อิ่มก่อน จึงจะขอยืมช้อนได้ หลังจากที่ได้ช้อนมาแล้ว ก็รีบไปล้างช้อน แล้วจึงมากิน

ผ่านพ้นการโดนลงโทษอย่างทุลักทุเลมา แต่ก็ผ่านมาจนได้ และแม่บ้านก็ให้ช้อนคันใหม่ (ตราหัวม้าลาย เจ้าเก่า ของผม) ก่อนให้แม่ มักจะสั่งสอน
จำวันแรกที่เธอเข้ามาอยู่ได้ไหม แม่ได้ให้ช้อน กับ พวกเธอ คนละ 1 คัน และก็ได้บอกว่า ดูรักษา ไว้ให้ดี และตัวพวกเธอเอง ก็รับปากแม่ว่า จะดูแลรักช้อนให้ได้แล้วเธอก็ทำไม่ได้ หมายว่ายังไง........ ซึ่งในประโยคนี้แหละครับที่เปลี่ยนผมให้เป็น คนรักษาสิ่งของ (เป็นประโยคคำที่ไม่เคยลืม เวลาที่ผมซื้อของใช้) และแม่ก็ตะโกนใส่พวกผม(ขออนุญาตใช้คำโบราญ)
“ กะอีกแค่ ช้อนคันเล็ก คันหนึ่ง แถมพวกมึง ยังต้องใช้แด็
อยู่เป็นประจำ แล้วอย่างงี้ เวลาที่พวกมึงโตขึ้นมา พวกมึงจะรักษาสิ่งของอื่น ได้อีก หรื
อืม...........ตอบหน่อยดิ ผมและเพื่อน ได้แต่นิ่มเงียบ......คิดทบทวน อยู่ในสมอง ถึงประโยดที่แม่พูดออกมา


ฉันได้ให้ช้อน พวกมึง มันก็เท่ากับเป็นสมบัติส่วนตัว ของมึงแล้ว ซึ่งมันขึ้นอยู่กับพวกมึง จะดูแลรักษาช้อนยังไง ไอ้เรื่องง่ายๆแค่นี้ มันทำยากนั้นหรือไง
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผมก็ไม่ได้ทำช้อนหายอีกเลย และก็ได้ทำตำหนิที่ช้อน เพราะ เพื่อนมันแอบไปขโมยสีทาเล็มของแม่ (ถึงแม่พวกผมจะดูโหด แต่ก็รักสวย รักงามกับเขาเป็นเหมื่อนเป็นกันนะ) ผมใช้สีทาเล็ม ทำตำหนิที่ปลายจับช้อน โดยเขียน 16 มันเป็นหมายเลยที่ประจำตัวของผม ในสถานสงเคราะห์ แต่แม่มารู้ที่หลัง ได้แต่บอก พวกเธอนี้ แสบจริงๆ นะ แล้วก็ไม่ได้ว่าอะไร

ขอเสริมอีก เรือง ทุกครั้งก่อนกิน มื้อเย็น จะต้องท่อน สูตรคูณแม่ 2-12
และบทสวดเกี่ยว กับข้าว อะไรสักอย่างนี้แหละครับ ซึ่งต้องนี้ผมจำบทสวดได้คราวๆ

ข้าวทุกจาน อาหารทุกอย่าง เป็นของมีค่า ทุกคนอดอยาก มีมากหนักหนา
( ท่อน ได้แค่แหละครับ ใครท่อนสานต่อที) ขอบคุณครับ


*** โปรดติดตามอ่าน สถานสงเคราะห์...บ้านเกิด..ผม /อาวุธสำคัญ 4
(จบเรื่อง)ในวัน วันศุกร์ที่ 30 กรกฏาคม 2553***

ผมลูกชิ้น อยากให้ คุณผู้อ่านทุกท่าน ช่วยบอกความรู้สึก จากการที่ได้
อ่านแล้ว เป็นยังไงบ้าง หรือจะให้คำติชมมาก็ได้ โดย
Comment เพื่อจะได้นำไปปรับปรุงแก้ไข ผมรอคำ Comment
จากคุณผู้อ่านทุกท่าน ครับ

และเร็วนี้ สถานสงเคราะห์...บ้านเกิด..ผม /ปลาทูตัวเดียวพาเน่าทั้งเข่ง 1

ขอบคุณครับที่เข้ามาอ่าน สวัสดีครับ บ๊ายๆ เจอกันวันวันศุกร์




 

Create Date : 28 กรกฎาคม 2553
2 comments
Last Update : 28 กรกฎาคม 2553 18:53:59 น.
Counter : 427 Pageviews.

 

เคยท่องเหมือนกันค่ะ มีสองเวอร์ชั่น
ข้าวเอ๋ยข้าวสุก จะต้องกินกันทุกบ้านทุกฐานถิ่น
กว่าจะมาเป็นข้าวให้เรากิน ชาวนาสิ้นกำลังเกือบทั้งปี
ต้องทนแดด ทนฝน ทนลมหนาว
กว่าจะได้ข้าวจากนามาถึงนี่ คนกินข้าวควรคิดดูให้ดี
ชาวนานี้มีบุญคุณต่อเรา มิเบาเลย
ข้าวทุกจาน อาหารทุกอย่าง อย่ากินทิ้งขว้าง เป็นของมีค่า
ผู้คนอดอยาก มีมากนักหนา สงสารบรรดา เด็กตาดำดำ

 

โดย: ลุงจอร์เจีย IP: 221.178.212.66 30 สิงหาคม 2553 13:19:59 น.  

 

ข้าวเอ๋ยข้าวสุก จักต้องกินกันทุกบ้านทุกฐานถิ่น
กว่าจะมาเป็นข้าวให้เรากิน ต้องใช้ดินน้ำใสแรงกายคน
ต้องทนแดด ทนฝน ทนลมหนาว
กว่าจะได้ข้าวจากนามาสักหน คนกินข้าวควรคิดในคุณคน
ผู้ปลูกข้าวสายชลแผ่นดินไทย
ข้าวทุกจาน อาหารทุกอย่าง อย่ากินทิ้งขว้าง เป็นของมีค่า
ผู้คนอดอยาก มีมากนักหนา สงสารบรรดา เด็กตาดำดำ

 

โดย: ลุงจอร์เจีย IP: 221.178.212.66 30 สิงหาคม 2553 13:24:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ชูคอม
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ชูคอม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.