|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
สิบสี่...Glastonbury .. เมืองสวยในอังกฤษตอนใต้
วั น อั ง ค า ร ... 19 - J u ly - 2 0 1 1
G l a s t o n b e r r y ...เ มื อ ง ส ว ย ๆ ใ น อั ง ก ฤ ษ ต อ น ใ ต้
วันอังคาร..เรามุ่งหน้าไปเที่ยวเมือง Glastonbury ซึ่งยังคงอยู่ใน
เขตอังกฤษตอนใต้
วันนี้อากาศสดชื่น..ฟ้าใส และหนาวพอประมาณ
วิวสองข้างทางยังคงเต็มไปด้วยทุ่งหญ้า ดงดอกไม้ และบ้านสไตล์ชนบท
ของอังกฤษเช่นเคย
หญ้าที่เกี่ยวเรียบร้อยแล้วจะถูกม้วนไว้เป็นฟ่อนกลมๆ หุ้มด้วย
พลาสติกสีดำ วางเรียงสวยอยู่กลางทุ่ง ดูแปลกตาดีเหมือนกัน
ห ญ้ า มั ด เ ป็ น ฟ่ อ น
Glastonbury ต้อนรับฉันด้วยลูกแอปเปิลสีแดงระโยงระยางเต็มต้น
ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับลานจอดรถ..
มันเป็นต้นแอปเปิลที่ขึ้นอยู่ริมรั้วบ้านใครคนหนึ่ง ซึ่งต้นใหญ่มาก
มีอยู่สามต้น ทุกต้นสะพรั่งไปด้วยแอปเปิลลูกเล็ก ลูกใหญ่ สีเขียวอ่อน
เขียวแก่ ..บ้างก็กำลังสุกแดง
ลงรถได้ฉันก็รีบเดินมาถ่ายรูป ส่วนคุณนิวแมนไปหยอดเหรียญสำหรับ
ค่าที่จอดรถ
แ อ ป เ ปิ ล น่ า เ ก็ บ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
หนึ่งปอนด์กับยี่สิบเพนซ์ สำหรับค่าที่จอดรถ 2 ชั่วโมง
เท่าที่จอดรถมาทุกแห่ง ฉันก็ไม่เคยเห็นใครเดินมาตรวจว่ามีใครจอด
เกินเวลาหรือเปล่า และอีกอย่างหนึ่งเท่าที่สังเกตเห็นก็คือพอลงจากรถ
เจ้าของรถก็จะเดินตรงไปยังตู้หยอดเหรียญ แล้วก็เอาใบเสร็จมาเสียบไว้
ที่ข้างในกระจกหน้ารถ เป็นอันว่าเรียบร้อย ไปช็อปปิ้งได้
ฉันถามคุณนิวแมนว่า แล้วเคยมีใครลักไก่ ไม่ยอมจ่ายบ้างมั้ย
เพราะไม่เคยเห็นคนมาเดินตรวจ
เขาตอบว่า ไม่รู้สิ..แต่คงไม่มีใครทำเช่นนั้น
เพราะถ้าหากถูกจับได้ว่าไม่จ่าย จะต้องเสียค่าปรับแพงมาก
ซึ่งมันไม่คุ้มกันเลย (ค่าปรับ 60 ปอนด์ ถ้าจอดเกินเวลา หรือไม่ยอมจ่าย)
ฉันว่าคงไม่มีใครอยากเสี่ยงกับเงินตั้ง 60 ปอนด์ แทนที่จะเสียแค่ 60 เพนซ์
สำหรับค่าจอดรถหนึ่งชั่วโมงหรอกนะ
เป็นฉัน..ฉันก็ไม่เสี่ยงเหมือนกัน 5555
Walking Street ใน Glastonbury สวยงามไม่แพ้เมือง Crick howell
หรือที่ไหนๆ อาคารแต่ละหลังแม้ไม่ใหญ่โตเท่าใน Cardiff
แต่ความที่มันตั้งอยู่ในอังกฤษ ก็เลยสวยงามตามแบบอังกฤษ
คือส่วนใหญ่จะก่อสร้างด้วยหินก้อนโตๆ หรือไม่ก็อิฐสีน้ำตาลแดง
ด้านบนคือความเก่าแก่ ขรึมขลังของตัวอาคารที่ยังคงความงดงาม
ส่วนด้านล่างก็เป็นร้านรวงต่างๆ ที่กิ๊บเก๋ไม่แพ้กัน..
ซุ้มดอกไม้ตามถนนหนทางทุกสาย ไม่ว่าจะขึ้นเนินหรือลงเนิน
ล้วนแล้วแต่ดึงดูดให้ฉันเดินตรงเข้าไปหา
ส่วนคุณนิวแมนก็มีหน้าที่ยกกล้องถ่ายรูป บางทีก็ยิ้มขำๆ
คงจะขำกับความตื่นเต้นของคนบ้านนอกเยี่ยงฉัน 5555
ตู้โทรศัพท์สีแดง..สัญลักษณ์อีกอย่างของอังกฤษ
พอเห็นก็แว้บบ...ต้องวิ่งเข้าไปถ่ายรูปมาจนได้
พอคุณนิวแมนบอกให้รู้ว่าที่นี่เป็นแหล่งรวมและพบปะของพวกฮิปปี้
ฉันก็เลยถึงบางอ้อ..เพราะร้านค้าที่เห็นส่วนใหญ่ที่นี่
เป็นร้านขายพวกเสื้อผ้าแนวๆ กระโปรงยาวๆ ลวดลายแปลกตา
บางร้านก็ขายแต่เครื่องประดับสวยๆ โดยเฉพาะคริสตัล สร้อยคอสวยๆ
แปลกๆ เยอะมาก..บางร้านถึงกับจัดดิสเพลย์หน้าร้านเป็นสไตล์นางเงือก
แล้วก็วางเครื่องประดับสวยๆ ไว้ยั่วสายตาพวกนักท่องเที่ยว
วันที่เราไปนี้ มีนักท่องเที่ยวมากันเยอะพอสมควร
แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้สูงวัย เดินๆ ไปบางทีก็เห็นชายชราสะพายเป้ใบเล็ก
ไว้ข้างหลัง..มือก็คอยจับจูงคู่ชีวิต ค่อยๆ เดินไปตามฟุตบาท
บางคู่ก็คนหนึ่งนั่งอยู่ในรถเข็น
อีกคนก็ทำหน้าที่เข็นรถเดินไปเนิบๆ ช้าๆ....
ภาพของคนแก่สองคน ที่คอยห่วงใยดูแลกันอย่างนี้ ไม่ค่อยมีให้เห็นนัก
ในบ้านเรา ...
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
มี โ บ ส ถ์ ด้ ว ย
ข้ า ง ใ น
Glastonbury เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนเนินเขา..
ส่วนใหญ๋หลังคาบ้านจะเป็นกระเบื้องออกโทนสีส้มเหมือนกับไปหมดทั้งเมือง
แล้วที่เก่าหน่อย ก็มีตะไคร่น้ำจับ ดูคลาสสิคดี
ฉันยังคงชอบแวะถ่ายรูปตามประตูบ้านสวยๆ ประตูบ้านแต่ละหลังดูเผินๆ
ก็คล้ายกัน แต่ไม่เหมือนกัน มันสวยและมีเสน่ห์ก็ตรงที่เป็นประตูไม้
บางทีก็มีบานจับแปลกๆ ที่ทำด้วยโลหะ และตกแต่งเก๋ๆ
ฉันว่าเฉพาะบานประตู ก็แทบถ่ายรูปมาไม่หวาดไม่ไหวแล้ว
บางบ้านก็เป็นประตูสีเหลือง สีชมพู สีม่วง สีดำ..สีขาว
แต่ฉันว่าประตูสีฟ้าอมน้ำเงินเป็นสีที่สวยที่สุด โดยเฉพาะถ้ามันอยู่ในบ้าน
ที่ทาด้วยสีขาวหรือสีเหลือง
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
หลังจากเดินชมเมืองแล้ว คุณนิวแมนก็ชวนเดินขึ้นไปบนเนินเขา
เพื่อจะไปชม Glastonbury Tor
ทีแรกก็นึกว่าแค่เดินขึ้นไปจุดชมวิว คงไม่ไกลสักเท่าไหร่
แต่พอขึ้นเนินไปได้สักพัก ก็หอบแฮ่ก เงยหน้ามองขึ้นไปก็แทบหมดแรง
อยู่ตรงนั้น
เพราะเจ้าหอคอย Glastonbury Tor ที่ว่านี้มันหาได้อยู่บนเนินเขาลูกนี้ไม่
แต่มันกลับตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนยอดเขาอีกลูกหนึ่งซะงั้น...
เดินขึ้นไปสักพักแล้วหันหลังมองลงมา ก็จะเห็นเมืองทั้งเมืองอยู่เบื้องล่าง
มีแต่หลังคาสีส้ม และสีส้ม..
พักเหนื่อย...
มีครอบครัวสี่คนพ่อแม่ลูก เดินนำอยู่ข้างหน้าเราแล้วค่ะ
ป้ายทำด้วยแผ่นเหล็กดูขลังดี
ยังอีกไกล....
ณ เวลานี้..ฉันหมดแรงไปเกือบครึ่งแล้ว
แถมเรายังมีเวลาเหลืออีกแค่ครึ่งชั่วโมง
คุณนิวแมนจึงหันมาถามว่า จะเดินขึ้นไปถึงบนนั้นไหวไหม
เหนื่อยก็เหนื่อยหรอก..แต่แหม...มาถึงขนาดนี้แล้ว
และใช่ว่าจะมาอีกพรุ่งนี้ มะรืนนี้ ได้ง่ายๆซะเมื่อไหร่กัน..
ฉันอุตส่าห์นั่งเครื่องบินมาตั้งสิบสองชั่วโมง แถมบวกด้วยการตะลอนมาจน
ถึงที่นี่ในวันนี้ ไม่รู้ว่าไกลอีกเท่าไรไมล์
จะให้ฉันมาเหยียบยอดหญ้าอยู่แค่ตีนดอยเรอะ..
ว่าแล้วก็กัดฟันเดิน หอบแฮ่กเหมือนหมาบ้าต่อไป 5555
ถึงซะที...
ข้างบน อากาศหนาว และลมแรงมาก..
ข้ า ง ใน Glastonbury Tor
ช่ อ ง แ ส ง ส ว ย
จุดชมวิวบนนี้ สวยสุดยอด
มองลงมาเห็นเมือง Glastonbury ทั้งเมืองอยู่เบื้องล่าง
สวยเกินจะบรรยาย...
อีกภาพ
ขากลับ...เดินลงทางนี้ ซึ่งเป็นด้านตรงข้ามกับขามา
ลมพัดแรงมาก
แ ก ะ ตั ว อ้ ว น บ น ไ ห ล่ เ ข า ....
เดี๋ยวภาคบ่าย ค่อยไปต่อที่เมือง Wells นะคะ
|
|
Create Date : 13 พฤศจิกายน 2554 |
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2554 14:03:50 น. |
|
3 comments
|
Counter : 3909 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 13 พฤศจิกายน 2554 เวลา:8:50:58 น. |
|
|
|
โดย: หกพันไมล์ วันที่: 13 พฤศจิกายน 2554 เวลา:17:52:01 น. |
|
|
|
|
|
|
ฟ่อนหญ้านั่น ที่นี่ก็ทำเหมือนกันจ้ะ แต่เป็นฟ่อนฟางข้าวบ้าง ฟ่อนหญ้าบ้าง ม้วนเป็นกลมๆ ที่ไม่เหมือนกันคือที่นี่เค้าจะใช้ที่ห่อสีขาว ดูแล้วสวยดีเนาะ คนเราช่างคิดสร้างสรรค์ดีจริงๆ..
บ้านเมืองเค้าสวยยังงี้ น่าไปอยู่ชิมิส์ ยังงี้ต้องกินให้เยอะกว่านี้นะครูส้ม จะได้สู้ความหนาวได้ 555..
ครูส้มนี่บรรยายได้ความรู้สึกสวยงามจังจ้ะ อ่านแล้วนึกถึงนิยายรักแนวท่องเที่ยวๆ เอ๊ะ.. ว่าแต่เรื่องราวของครูส้มนี่มีตรงไหนพาไปให้รู้สึกว่าเป็นนิยายรักได้หว่า? กร๊ากกก..มีแซวๆ