หกพันไมล์
Location :
จันทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
<<
กันยายน 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
8 กันยายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หกพันไมล์'s blog to your web]
Links
 

 
เก้า.....นั่งรถไฟไปคาร์ดิฟฟ์




C a r d i f f..

14 - J u ly - 2 0 1 1


ตั้งนาฬิกาปลุกไว้เจ็ดโมงครึ่ง..

วันนี้เราจะนั่งรถไฟไปเมืองคาร์ดิฟฟ์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของแคว้นเวลส์

แด็ดกับมัมไปส่งเราสองคนที่สถานีรถไฟ Ebbw Vale ซึ่งอยู่ห่างจาก

Bryn Mawr ประมาณขับรถ 15 นาทีถึง

เราขึ้นรถไฟเที่ยวเก้าโมงครึ่ง...ที่นี่เป็นสถานีต้นทาง ซึ่งเราจะนั่งรวดเดียวไปถึง

คาร์ดิฟฟ์ได้เลย




ส ถ า นี ร ถ ไ ฟ Ebbw Vale



บนรถไฟสะอาดเอี่ยม ที่นั่งก็คล้ายๆ กับเบาะนั่งบนรถทัวร์บ้านเรา

พนักงานขายตั๋วเป็นชายร่างอ้วน วัยกลางคน ใส่สูทเรี่ยมเร้เรไร

และดูสุภาพเรียบร้อย ในมือมีอุปกรณ์ขายตั๋วคล้ายๆ เครื่อง printer

ขนาดกระทัดรัด ซึ่งสามารถ print ตั๋วออกมาได้เลย ดูไฮเทคดี

ค่าตั๋วไป - กลับ Ebbw Vale - Cardiff คนละ 6.80 ปอนด์







ระยะทางจากสถานี Ebbw Vale ไปยังเมืองคาร์ดิฟฟ์ประมาณ 60 ไมล์

ใช้เวลาเดินทาง 45 นาที นั่งมองวิวได้เพลินกำลังดี

บางช่วงรถไฟก็แล่นผ่านลำธารเล็กๆ ลอดใต้สะพานที่ทำด้วยหิน

และมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ลอดผ่านอุโมงค์สั้นๆ ในหุบเขา

หมู่บ้านสองข้างทาง ส่วนใหญ่เป็นบ้านแบบเก่าที่ตั้งอยู่บนเนินเขา

บางช่วงก็มีโบสถ์สวย ๆ เก่าแก่ให้เห็นด้วย





ริ ม ท า ง






ในที่สุดรถไฟก็เข้าเทียบชานชาลาที่สถานีคาร์ดิฟฟ์

ซึ่งในวันนี้มีผู้คนพลุกพล่านเต็มไปหมด

พอก้าวออกมาจากสถานีรถไฟใหญ่โตซึ่งตั้งอยู่กลางเมือง

ก็พบว่านอกจากคาร์ดิฟฟ์จะต้อนรับเราด้วยภาพของตึกรามบ้านช่องใหญ่โต

และอาคารสวยๆ สูงทะมึนแล้ว

ก็ยังส่งลมอันเย็นยะเยือกมาคอยรับเราด้วยเช่นกัน

แม้ท้องฟ้าจะแจ่มใส แดดส่องสว่างปานใด

นั่นก็หาทำให้ฉันอบอุ่นได้ไม่...

ว่าแล้วเราก็มาดูบรรยากาศในเมืองคาร์ดิฟฟ์กันเลยดีกว่าค่ะ






ท า ง อ อ ก





ด้ า น ห น้ า ส ถ า นี ร ถ ไ ฟ ค า ร์ ดิ ฟ ฟ์





อันว่าเมืองคาร์ดิฟฟ์ (Cardiff) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของแคว้นเวลส์นี้

อยู่ทางเวลส์ตอนใต้ หรือ South Of Wales ใกล้ๆ กับช่องแคบ Bristol

ซึ่่งกั้นระหว่างเวลส์กับอังกฤษ

เมืองคาร์ดิฟฟ์ที่เห็นในวันนี้ค่อนข้างเงียบสงบ รถราก็ไม่มากนัก

เต็มไปด้วยตึกทรงโบราณเก่าแ่ก่ ที่สร้างด้วยอิฐและหิน

ศูนย์กลางของเมืองคือปราสาทคาร์ดิฟฟ์ ซึ่งเป็นที่ที่นักท่องเที่ยวมักจะไม่พลาด

ที่จะเข้าไปเยี่ยมชมเมื่อมาถึงที่นี่








ย่ า น ก ล า ง เ มื อ ง





Walking Street








ตู้ ไ ป ร ษ ณี ย์ สี แ ด ง









จั ก ร ย า น ก ล า ง เ มื อ ง








ด้ า น ห น้ า ป ร า ส า ท ค า ร์ ดิ ฟ ฟ์


เดินมาจนถึงหน้าปราสาทคาร์ดิฟฟ์..

เราซื้อตั๋วเข้าชมในราคาคนละ 11 ปอนด์

ที่จำหน่ายตั๋วก็อยู่ตรงข้างๆ ประตูทางเข้าปราสาทนั่นเอง

ค่าเข้าเมื่อคิดเป็นเงินไทยแล้วก็แพงใช่เล่นนะเนี่ย (ประมาณห้าร้อยกว่าบาท)

ได้ตั๋วแล้วเราก็เดินผ่านประตูอันใหญ่โตมโหฬารเข้าไปกันเลย









C a r d i f f - C a s t l e


ปราสาทคาร์ดิฟฟ์นี้เคยเป็นที่พักของขุนนางผู้ปกครองเมืองมาก่อน

แต่ปัจจุบันได้จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ และรักษาแนวกำแพงโบราณไว้เป็นอย่างดี

ตามประวัติบอกว่า

ปราสาทคาร์ดิฟฟ์นี้สามารถย้อนอดีตขึ้นไปได้กว่า 1,900 ปี

เมื่อครั้งที่โรมันเรืองอำนาจ ได้สร้างป้อมปราการไว้เพื่อป้องกันดินแดน

ซึ่งปัจจุบันยังปรากฏแนวกำแพงโรมันอยู่ใต้ดิน

หลังจากสมัยโรมันแล้วก็มีพวกนอร์มัน (Norman) และขุนนางสมัยกลาง

ที่เข้ามาในศตวรรษที่ 11 ต่อจากนั้นในสมัยศตวรรษที่ 13 ปราสาทแห่งนี้

ก็ตกไปเป็นของตระกูล Clare คือ Gilbert de Clare แล้วก็ถูกเปลี่ยนเจ้าของ

อีกหลายมือจนมาถึงตระกฺูล Bute ในศตวรรษที่ 18 ซึ่งได้มีการปรับปรุง

ต่อเติมปราสาทจนหรูหราใหญ่โตและได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ

ของแคว้นเวลส์ในปัจจุบัน





ตระกูล Bute (Fifth Marquess of Bute) ได้มอบปราสาทนี้ให้เป็นสมบัติ

ของเมืองคาร์ดิฟฟ์ในปีค.ศ. 1947 เพื่อจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์

ปราสาทคาร์ดิฟฟ์นี้มีทั้งส่วนที่เป็นป้อมปราการและตัวปราสาท

อยู่ในบริเวณเดียวกัน และมีลานหญ้าสีเขียวกว้างขวางซึ่งนักท่องเที่ยว

มักจะมานั่งๆ นอนๆ กลิ้งเกลือกอยู่กลางแดดอย่างไม่สะทกสะท้าน

ส่วนเรารึ..เห็นแดดที่ไหนก็เป็นต้องหลบเข้าร่มทันควัน 55555





ป้อมปราการ ในวันแดดจ้า





ถึงอากาศจะเย็น แต่ตากแดดนานๆ ก็เสียพลังไปเยอะหมือนกัน

พอเดินเข้าไปข้างในก็ชักหมดแรงเอาดื้อๆ

อีกอย่างคือเริ่มรู้สึกหิวขึ้นมาตะหงิดๆ

ท้องไส้เริ่มปั่นป่วน เหมือนจะประท้วงว่าได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว ประมาณนั้น

แต่ว่าไหนๆ ก็เสียค่าเข้าตั้งแพงแล้ว จะมาเดินดมๆ ก็กระไรอยู่

ฉันก็เลยแข็งใจเดินขึ้นบันได เพื่อไปชมบรรยากาศข้างบนป้อมกะเขาด้วย

ไม่งั้น อาจจะถูกตราหน้าว่ามาไม่ถึงแคว้นเวลส์ 55555





ท า ง ขึ้ น ป้ อ ม ป ร า ก า ร





เ บื้ อ ง บ น คื อ แ ผ่ น ฟ้ า ก ว้ า ง..





เ บื้ อ ง ล่ า ง คื อ แ ด ด ใ ส ๆ..





บั น ไ ด เ วี ย น แ ค บ ม า ก....





บ ร ร ย า ก า ศ โ ด ย ร อ บ










เดินขึ้น ลงบันไดแคบๆ จนฉันแทบจะหน้ามืดเป็นลมไปหลายหน

ในที่สุดหลังจากเก็บภาพจนพอใจแล้ว ก็กลับลงมาข้างล่าง

เราเดินผ่านลานหญ้าสีเขียว

ที่นักท่องเที่ยวหย่อนกายนั่งตากแดดอยู่เป็นหย่อมๆ

แล้วก็เดินอ้อมมาออกประตูทางด้านหลัง

พอเดินพ้นประตูออกมา ก็เจอบรรยากาศแบบนี้เลยค่ะ





เหมือนหลุดเข้าไปในหนังเรื่อง Forest Gump

เราเลยนั่งทานอาหารกลางวันกันที่ม้านั่งยาวที่นี่

ท่ามกลางร่มเงาของต้นไม้ใบหญ้าสีเขียว

และผู้คนที่เดินผ่านไปมา บางคนก็จูงสุนัขมาเดินเล่น

บางคนก็พาลูกใส่รถเข็นมาเดินรับแดด รับลม..

ดูทุกคนมีความสุขกับฤดูร้อนเสียจริงๆ..











หลังจากอิ่มท้องและหายเหนื่อยแล้ว เราก็พากันเดินต่อ

จากปราสาทคาร์ดิฟฟ์มาอีกไม่ไกล ก็ถึงศาลาว่าการเมืองคาร์ดิฟฟ์

และพิพิธภัณฑ์ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน

เป็นอาคารเก่าแก่โบราณ แต่ว่าใหญ่โตอลังการมาก

ดูน่าเกรงขามดีแท้

















อี ก มุ ม ส ว ย





เราแวะเข้าไปชมข้างในพิพิธภัณฑ์ซึ่งเปิดให้เข้าชมฟรี

ภายในพิพิธภัณฑ์ใหญ่โต สง่างามด้วยเสาหินอ่อนต้นเป้งๆ

ภายในจัดแสดงเป็น Natural History Museum มีซากฟอสซิลทั้งพืช สัตว์

และก้อนหินในยุคโบราณจัดวางอย่างสวยงาม ไม่ได้มีแค่ก้อน สองก้อน

แต่วางไว้เรียงราย ดูได้เต็มตา เต็มใจ บางห้องก็เป็นหุ่นจำลองไดโนเสาร์ตัวโต

ที่เคลื่อนไหวให้เราตกใจเล่น เวลาเข้าไปดูใกล้ๆ

และยังนำเสนอด้วยสื่อเทคโนโลยีทันสมัยแทบทุกห้อง

สมกับเป็นพิพิธภัณฑ์ระดับชาติของเขานั่นแหละ





บ ร ร ย า ก า ศ ข้ า ง ใ น พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์




เดินกันจนเมื่อยน่อง และดูจนง่วงนอนแล้วก็ออกมาสูดอากาศข้างนอก

ดูนาฬิกาแล้ว ยังมีเวลาเหลืออีกเป็นชั่วโมงๆ ก่อนรถไฟจะออก

จึงพากันไปเดินเล่นในย่านช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับฝั่งพิพิธภัณฑ์

ก็คงประมาณสยามพารากอนของบ้านเรา

สายตาฉันก็คอยสอดส่องมองหาแต่ร้านขาย Fudge

อยากได้ลูกกวาดอร่อยๆ เหมือนที่ซื้อมาจากที่ Goytre Whalf นั่นน่ะ

สุดท้ายก็หาเจอจนได้นั่นแหละ 5555





โ ป ร โ ม ชั่ น






เ จ อ แ ล้ ว..ร้ า น ลู ก ก ว า ด





ช็ อ ค โ ก แ ล ต รู ป ลิ ง






นั่ ง พั ก ก่ อ น






ขอพับเพียบไทยแลนด์ ที่แคว้นเวลส์สักหน่อยเถอะ






ร้ า น เ บ เ ก อ รี่...






ห น้ า ต า น่ า กิ น..












ร้ า น ข า ย ข อ ง ที่ ร ะ ลึ ก





เข้าไปดูในตลาดกันดีกว่า





ขนมเค้กเวลส์ (Welsh Cake)






ร้ า น ข า ย ด อ ก ไ ม้





กุ ห ล า บ ห ว า น ๆ..





เจอสตรอเบอรี่อีกแล้ววววว...





เหมือนโดนัทเลย..55555






ลูกพลัม



ในทีุ่สุดก็ได้เวลากลับบ้าน

เราเดินมาึขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟคาร์ดิฟฟ์

รถเที่ยว 4 โมง 35 นาที...

พอรู้ว่าต้องมาขึ้นที่ชานชาลาหมายเลข 0 (Platform 0)

ก็อดขำไม่ได้ มันมีด้วยเหรอเนี่ย ชานชาลาที่ 0 เนี่ยนะ...5555

เกือบหนึ่งชั่วโมงในขากลับ..ฉันนั่งหลับบ้าง ตื่นบ้าง

เดินจนขาแทบลากเลยวันนี้..แต่ก็สนุกดี






บ น ร ถ ไ ฟ
















Create Date : 08 กันยายน 2554
Last Update : 8 กันยายน 2554 0:59:32 น. 10 comments
Counter : 2300 Pageviews.

 


โดย: new pek วันที่: 8 กันยายน 2554 เวลา:1:14:36 น.  

 
ชานชาลาหมายเลข 0
ทำให้นึกถึงร้านตามสั่งแถวที่ทำงานเลยค่ะ
ร้านนั้นก็มีโต๊ะ 0 เหมือนกัน

O.o"


โดย: แมวเหมียว IP: 171.98.108.5 วันที่: 12 กันยายน 2554 เวลา:0:30:07 น.  

 
ดูภาพจุใจ ภาพในเมืองแรก ๆ รู้สึกจะห้ามรถยนต์
วิ่งเข้าไปใช่หรือเปล่าครับ ดูดีมากเลย

ดูตึกต่าง ๆ แล้วเขาไม่ได้ใช้สีอะไร แต่สวยครับ.


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 12 กันยายน 2554 เวลา:15:26:05 น.  

 
ตามอ่านมาหลายบล๊อกแล้วค่ะ ชอบพวกปราสาทแบบนี้ทำให้นึกถึงเรื่องแฮรี่ พอตเตอร์เลย


โดย: Settembre IP: 188.127.177.71 วันที่: 13 กันยายน 2554 เวลา:23:19:50 น.  

 
ตอนนี้อยู่ที่ซานตาเฟ่ กำลังอยากไปขึ้นรถไฟเที่ยวเหมือนกัน เอาไว้จะมาอัพให้ดูนะคะ ว่ารถไฟที่นี่เป็นอย่างไร


โดย: NathalieNoelle วันที่: 17 กันยายน 2554 เวลา:11:11:26 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ บล็อกนี้รูปจุใจดี บ้านเมืองเค้าคลาสสิคดีนะครูส้ม เห็นแล้วรู้สึกถึงความขลัง..

รอเที่ยวบล็อกต่อไปนะจ๊าาา..


โดย: ป้าโซ วันที่: 17 กันยายน 2554 เวลา:14:30:14 น.  

 
อะแฮ่ม..
กราบสวัสดีเพื่อนบ้านทุกท่านที่แวะเข้ามาเยี่ยมค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกๆข้อความที่มาเม้นท์ไว้ให้นะคะ
ตอนนี้งานมะรุมมะตุ้ม เพราะอยู่ในช่วงโค้งสุดท้าย
รีบเร่งส่งงาน แล้วก็จะได้ปิดเทอมแล้วค่ะ
แล้วจะตามไปเยี่ยมที่บล็อกนะค้าาาา





โดย: หกพันไมล์ วันที่: 30 กันยายน 2554 เวลา:0:34:23 น.  

 
n__n

"ปิดเทอม" ... คำๆ นี้ทำให้นึกถึงวันวานขึ้นมาเลยค่ะ
คิดถึงจัง...คุณวันปิดเทอม


โดย: แมวเหมียว IP: 171.99.132.7 วันที่: 1 ตุลาคม 2554 เวลา:0:42:59 น.  

 
รออ่านตอนต่อไป
เมื่อไรจะมาซักทีน้าาา


โดย: แมวเหมียว IP: 171.98.108.53 วันที่: 16 ตุลาคม 2554 เวลา:14:57:05 น.  

 
ขออภัยเพื่อนบ้านทุกท่านที่ไม่ได้เข้ามาทักทายในช่วงนี้
เพิ่งกลับจากเชียงใหม่ และส่งคุณนิวแมนขึ้นเครื่องกลับแคว้นเวลส์วันนี้เองค่ะ หนีไปเที่ยวมายี่สิบวัน แล้วจะมาอัพบล็อกต่อนะค้าาาาา




โดย: หกพันไมล์ วันที่: 27 ตุลาคม 2554 เวลา:19:50:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.