|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
วีซ่าผ่านแล้ว...คราวนี้ขอหนึ่งปี อุ อุ..
ส เ ว ต เ ต อ ร์ ตั ว ล่ า สุ ด
อะแฮ่ม..
ในที่สุดเราก็ปล่อยเวลาให้ล่วงมาจนถึงปีใหม่..กว่าจะได้อัพบล็อก
ก่อนจะเข้าปีใหม่ ตารางชีวิตนี่แน่นเอี้ยดทุกวัน
ทั้งงานในหน้าที่และเรื่องส่วนตัว....แต่ก็ผ่านมาแบบเหนื่อยๆ อึดๆ 5555
มีประชุมแทบทุกวัน ..พอกลับถึงบ้านก็หิว หมดสภาพ..
แต่เหนื่อยมากๆ ตกกลางคืนก็ยังนั่งถักนิตติ้งได้อีกนะ มันคลายเครียดดี
และช่วยให้มีสมาธิ ไม่ต้องไปนึกถึงเรื่องอื่น
ถักหมวกเสร็จไปหนึ่งใบ และถักเสื้อกันหนาวสีน้ำตาลที่ทิ้งค้างไว้
จนเสร็จเรียบร้อย เดี๋ยวว่าง ๆ ค่อยเอาแพทเทิร์นมาแปะ
ระหว่างนั้นก็เตรียมเอกสารสำหรับยื่นวีซ่าอังกฤษไปด้วย
ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ก็เลยไม่เหนื่อยมาก เพราะรู้ว่าต้องเตรียมอะไร
เมื่อไหร่ ประมาณไหน
พอได้เอกสารครบก็ไปยี่นวีซ่าในวันศุกร์ที่ 13 มกราคม
จองคิวไว้บ่ายโมงครึ่ง เพราะต้องเผื่อเวลาสำหรับเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
นั่งรถไปถึงเอกมัย แล้วก็ต่อรถไฟฟ้าไปลงที่สถานีราชดำริเหมือนเดิม
แต่ว่าเราก็ยังงงๆ กับรถไฟฟ้าอยู่ดี ต้องถามคนแถวนั้นทุกทีเลย
ว่าเรามายืนรอถูกที่หรือเปล่า 55555
ไปถึงอาคารรีเจนท์ตอนเที่ยงหน่อยๆ....ข้างในคนไม่เยอะเท่าไหร่
พอเที่ยงครึ่งก็ได้ยื่นแล้ว เพราะคิวว่างพอดี โชคดีไป
คราวนี้เราขอวีซ่าหนึ่งปี ค่าวีซ่า 13,250 บาท แอบเสียดายตังค์เพราะ
มันแพงกว่าแบบหกเดือนตั้งเยอะ แต่ไม่อยากเตรียมเอกสารบ่อย ก็เลย
ต้องลองเสี่ยงดู อุ..อุ...
เจ้าหน้าที่ VFS ก็บริการดีตามเคย เธอถามโน่น นี่ นิดหน่อย
แล้วก็เอาเอกสารทั้งหมดที่เราเตรียมมา ใส่ไปในซองพลาสติกสีดำ
ใส่ไปทั้งแฟ้มเลย อ้าว...คราวที่แล้วคืนแฟ้มเรามานี่นา
แต่ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องถือให้เมื่อยมือ นั่งรถสบายดี
ใช้เวลาในการยื่นเอกสาร 20 นาที ก็เสร็จเรียบร้อย
แล้วก็นั่งรอคิวเข้าไปสแกนนิ้วมือ สแกนม่านตา
สรุปแล้วเสร็จตอนบ่ายโมงเศษๆ ..กลับบ้านได้
วันเสาร์..ทำงานให้กองทุนหมู่บ้านครึ่งวัน
วันอาทิตย์มาทำงานที่โรงเรียนเต็มวัน
วันจันทร์ไปหาหมอที่โรงพยาบาล ตามที่หมอนัด
ปรากฏว่าหมอ Admit วันนั้นเลย ให้นอนโรงพยาบาลรอผ่าตัดกระดูกที่คาง
เพราะแผลยังคงอักเสบและติดเชื้อที่กระดูกที่ใส่เข้าไปเมื่อปีก่อน
แต่โชคดีที่คุณหมออนุญาตให้กลับมานอนบ้านได้หนึ่งคืน
แล้ววันอังคารค่อยไปนอนรอขึ้นเขียงใหม่..
เช้าวันอังคารไปค่ายลูกเสือที่จ.ตราด พอบ่ายก็เผ่นกลับมานอน
โรงพยาบาลที่จันทบุรี อืมม.....เหมือนชีพจรลงเท้าเลยเรา
สรุปว่า..ผ่าตัดวันพุธ เวลา 11:30 นาที ออกจากห้องผ่าตัดบ่าย 2 โมง
พอรู้สึกตัวก็รีบขยับขา แล้วก็ดีใจมากๆ ที่คุณหมอไม่ได้เอากระดูกที่สะโพก
ไปซ่อมกระดูกที่คาง โอ๊ยย...โล่งใจ เพราะไม่งั้นต้องเดินไม่ได้ไปอีก
หลายวัน...
ผ่าตัดคราวนี้รู้สึกว่าร่างกายฟื้นตัวเร็วมาก ไม่เพลีย ไม่หมดสภาพ
เหมือนกับคราวที่แล้ว (เพราะกินโปรตีนตามที่คุณพยาบาลห้องผ่าตัด
แนะนำ) แต่ระคายคอมาก ไอเป็นพักๆ
จำได้ว่าก่อนจะดมยาสลบ คุณหมอวิสัญญีมายืนอธิบายว่าจะใช้
เครื่องดมยาแบบใหม่ ที่สามารถส่องกล้องตอนที่ใส่ tube เข้าไป
และจะลองใส่ tube ทางจมูก แทนการใส่ในช่องปาก เพื่อให้คุณหมอ
ทำการผ่าตัดได้สะดวกดีกว่า
เรางี้ใจหายแว้บ....เพราะเป็นคนมีปัญหาเรื่องการใส่ท่อหายใจยาก
ใส่ทางจมูกไม่ได้ ผ่าตัดกี่ครั้งก็ต้องใส่ทางปากตลอด
แต่แล้วก็ต้องเลยตามเลย...พอสูดออกซิเจนปลอมๆ (ยาสลบ)
ได้ไม่กี่เฮือก ก็ร่วงผลอย 55555
ความรู้สึกตอนดมยาสลบนี่มันก็เป็นอีกประสบการณ์หนึ่งของชีวิตนะ อิ อิ..
เฮือกที่สอง สาม..ก็เริ่มเคลิ้มๆ..มองเห็นภาพเบลอๆ
เฮือกที่สี่..จะรู้สึกเหมือนมีอะไรมากดหัวใจเราให้ยวบลงไป
แล้วก็...หมดสติ หลับไปเลย
นอนอยู่โรงพยาบาลสี่คืน...
วันที่สอง พอถอดสายน้ำเกลือออก เหลือแต่สาย drain ที่เสียบไว้ข้างแก้ม
เราก็เดินปร๋อ หิ้วกระปุกที่ใส่เลือดเสีย เดินมาถามพยาบาลทุกวัน
ว่าหมอจะปล่อยให้กลับบ้านได้เมื่อไหร่..
ในที่สุดคุณหมอก็อนุญาตให้กลับบ้านได้วันเสาร์
ตรุษจีนพอดีเลย 55555
อะแฮ่ม....
กลับถึงบ้าน ก็พบซองสีขาวจากสถานฑูตอังกฤษนอนรออยู่ที่บ้าน
พอเปิดดูในเล่มพาสปอร์ต ก็เจอวีซ่า UK แปะติดอยู่ที่หน้า 10
โอ๊ยยย ดีใจ....ได้วีซ่าหนึ่งปีจริงๆ ด้วย
|
|
Create Date : 22 มกราคม 2555 |
Last Update : 27 มกราคม 2555 0:12:08 น. |
|
11 comments
|
Counter : 578 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:12:30:53 น. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:12:33:56 น. |
|
|
|
โดย: หกพันไมล์ วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:1:04:36 น. |
|
|
|
โดย: หกพันไมล์ วันที่: 1 มีนาคม 2555 เวลา:21:38:08 น. |
|
|
|
|
|
|