|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
|
ฟั น คุ ด
ฟั น คุ ด
แค่ได้ชื่อ"ฟันคุด" ก็เจ็บ จุ๊ด จู๊ด ไปทั่วหัวใจ ก็ใครต่อใครต่างก็ร่ำลือ ถึงรสชาดความเจ็บปวด และแสนจะทรมานกับการที่มีฟันคุด แม้กระทั่งภายหลังจากการกำจัดมันออกไปจากปาก ก็ฝากรสชาดความทรมานหลังจากการผ่ามันออกไป ไว้เป็นประสบการณ์ชีวิตอย่างที่ไม่น่าจะลืมลง..เง้อ
ส่งท้ายศักราชเก่า 51 ตอนรับ ศักราชใหม่ 52 ด้วยความเจ็บปวด แง๊ๆ ประเดิมบล๊อกด้วยความซาดิสม์กันเลยนะคะ
29/12/51 ภายในคลีนิคทันตกรรมอันสวยหรู คุณ..........เชิญห้อง 2 ค่ะ คิดในใจว่าโอ๊ยไม่เป็นไร ใครๆเค้าก็มาฝ่าฟันคุดกัน..เอาหน่ะ นึกถึงตอนมันปวดเข้าไว้สิ ทีนี้แหละเราจะกำจัดมัน "ออกไป" "ออกไป"
คุณหมอ- ขึ้นเตียงเลยค่ะ เดี๋ยวหมอจะลงยาชาให้ ..ทันใดนั้น..เหลือบไปเห็น โอ้วแม่จ้าว ทำไมเข็มมันใหญ่อย่างงั้นอ่า โดนไป 3 แต่ก็ไม่เจ็บมาก แหม่เห็นเข็มแล้วเล่นเอาใจเราแป้วเลย จากนั้นก็ไปเอ็กซ์เรย์ ครั้งที่ 1 ปรากฏว่าเป็นฟันคุดเอียง เห็นรากฟันแล้วทำไมมันลึ๊ก ลึก พอรอจนยาชาได้ที่ คุณหมอก็เอาอะไรไม่รุ แหลมๆมาจิ้มๆ ตรงเหงือกเพื่อเทสยาว่าออกฤทธิ์หรือยัง เจ็บไหมคะหมอถาม เลยตอบไปว่า ไม่เอ็บอ่ะ(ไม่เจ็บค่ะ) เดี๋ยวหมอจะต้องทำการเปิดเหงือกนะคะ จ๊าก!!! ไม่ต้องบอกจะได้ไหมคะ จะทำอะไรก็เชิญค่ะหมอ ก็นอนรอให้เชือดอยู่แล้ว สงสัยว่าเหงือกจะโดนกรีดเพื่อเปิดออกแล้วหล่ะ เพราะรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างมากรีดบนเหงือกโดยเร็ว แต่ไม่เจ็บเพราะฤทธิ์ยาชา ++ บรรยากาศในห้องขณะนั้น น่าจะเปิดแอร์ที่ประมาณ 25 องศา แต่ว่าทำไมเหงื่อแตกเต็มไรผมไปหมดมันร้อนๆ อุ่นๆบริเวณหน้าผาก หมอก็เริ่มลงมือ แต่ฟันเราลื่นเลยต้องใช้เครื่องมือช่วย เมื่อยปากมั่กมัก ถึงแล้วดึงอีกก็ยังไม่ออก ++ เดี๋ยวหมอต้องผ่ากระดูก(ผ่าหรือกรอฟันออกเป็น 2 ส่วน) จะรุ้สึกสะเทือนหน่อยนะคะ จ๊าก!!!! อีกแล้วเหรอหมอ สงสัยว่าหมอทำไมต้องเรียกว่ากระดูกด้วยอ่ะ ฟังมันเสียวแปล๊บเข้าไปในความรู้สึกทันที ที่นี้แหละขั้นตอนที่ต้องจำไปจนลูกบวช เคยได้ยินเสียงเลื่อยไฟฟ้าป่าว เสียวก็เสียว เมื่อยก็เมื่อย ซักพักมีเสียงเหมือนเครื่องจักรกำลังทำงาน หรือเสียงรถขุดถนนอยู่ในปากหยั่งงั้นและ ดึงอีกโยกอีก ยกมือบอกหมอแสดงอาการว่า "ตูเจ็บ" เจ็บตรงไหนคะ เจ็บตรงฟันที่ผ่าหรือกรามด้านตรงข้ามคะ "เออคุณหมอรู้ด้วยอ่ะ" มันปวดราวไปบริเวณกรามและขากรรไกรไอ้ข้างที่ไม่ได้ผ่าหน่ะสิ ทีนี้ต้องให้ผู้ช่วยมาล็อกศีรษะไว้แล้วก็ดึงๆๆๆ หมอบอกสุดท้ายแล้วนะคะ อีกแปบนึง ...กึก... โอเคค่ะ เรียบร้อยแล้ว เฮ้อ...
ยัง...ยัง...จะรีบไปไหน ยังไม่ได้เย็บแผลเรย ตั้งแต่เกิดไม่เคยเย็บแผล 3 หรือ 4 เข็มไม่รู้ ไม่แน่ใจ คุณหมอเย็บแผลเหมือนเวลาเราเย็บผ้าเลยอ่า รู้สึกหนืดๆตอนดึงไหมผ่านเหงือก.. เมื่อไหร่จาเสร็จซ๊ากทีอ่าหมอ พอเย็บเสร็จก็เอาผ้าก๊อซ มาให้เรากัดไว้ให้แน่นที่สุด จัดยาลดบวม ยาแก้ปวด และที่ขาดไม่ได้คือยาแก้อักเสบ ชำระค่าความทรงจำแล้วก็กลับบ้าน รอประมาณ 1 ชม.ก็แล้ว เลือดก็ไม่หยุด 2 ชม.ก็แล้ว 3 ชม.ก็แล้ว บ้วนน้ำลายก็ไม่ได้ ต้องกลืนอย่างเดียวมิฉะนั้นแผลจะอักเสบและติดเชื้อ ยาชาก็เริ่มหมดฤทธิ์ อาการบวดก็ตามมาติดๆ ตุ้บ ตุ้บ ตุ้บ สรุปว่าต้องนอนกินเลือดตัวเองทั้งคืน ตื่นเช้ามาก็ไม่ต้องกัดผ้าก๊อซแล้ว แต่เลือดก็ยังไม่หยุดซะทีเดียว ยังไหลออกอยู่เรื่อยๆ แต่บางๆ จะเล่าต่อถึงวันถัดๆไปก็กลัวว่าสายตาผู้อ่านจะล้า.....เอาเป็นว่าพอแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน....
Create Date : 10 มกราคม 2552 |
Last Update : 10 มกราคม 2552 12:12:28 น. |
|
1 comments
|
Counter : 204 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: มาดามพุงพุ้ย วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:19:13 น. |
|
| |
|
มาดามพุงพุ้ย |
|
|
|
|