,./*v*,.. Happy Chinese New Year 2009 ..,*v*.,/
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
31 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 

'เรื่องนี้มีรัก' โปรเจคพิเศษของขวัญปีใหม่ : บทส่งท้าย


สวัสดีวันส่งท้ายปีเก่าค่ะ


...หนึ่งปีนี่ผ่านไปเร๊วเร็วนะคะ ไม่ทันไรวันขึ้นปีใหม่ก็จะเวียนมาถึงอีกแล้ว ตอนนี้หลายๆ คนคงจะอยู่ระหว่างการท่องเที่ยว ส่วนคนที่ไม่ได้ไปไหนก็อาจจะมีแพลนไปนับถอยหลังส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่กันในค่ำคืนนี้ ...แต่ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนกับใครก็ตาม โน้ตก็ขอให้ทุกๆ คนที่เข้ามาอ่านมีสุขภาพแข็งแรง สวยขึ้น หล่อขึ้น ร่ำรวยทั้งเงินทองและความสุข คิดสิ่งใดก็สมความปรารถนานะคะ

สำหรับตอนที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าในที่สุดหนูน้ำหมึกกับคุณดามพ์ก็ลงเอยกันด้วยดีไปเรียบร้อยโรงเรียนเชื่อมรัก...หวานเย็นแล้ว (สร้างความอิจฉาให้แก่คนเขียนยิ่งนัก งือๆ...) แต่เรื่องราวยังไม่จบอยู่แค่นั้นเพราะอย่าลืมว่ายังมีหนึ่งสาวที่รอคอยคนของเค้าอยู่เลย ส่วนสาวๆ ที่ความรักลงตัวแล้ว ต้องลองไปติดตามดูนะคะว่าความรักของพวกเธอจะหวานแหววและสร้างความอิจฉาให้แก่เพื่อนๆ มากน้อยแค่ไหน...

สำหรับการเล่นเกมชิงรางวัลวีคสุดท้าย ต้องขอโทษจริงๆ ที่ตอนโพสท์ตอนจบโน้ตเอ๋อ แหะๆ จะสิ้นปีแล้วก็งี้แหละ อะไรๆ ก็ลืมหมดสิ้น (เกี่ยวมั้ยเนี่ย) ตกลงว่าเกมวีคสุดท้ายยังเปิดให้เล่นถึงคืนวันที่ 1 มกราคมที่บ้านเอ้ยนะคะ และตั้งแต่วันที่ 2 มกราคมเป็นต้นไป เราจะประกาศผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลพิเศษของเรา ซึ่งก็คือหนังสือทำมือ เล่มนี้มีรัก ที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้ เพราะเราทำพิเศษเพื่อมอบเป็นของขวัญจริงๆ ค่ะ

โฉมหน้าของ เล่มนี้มีรัก อีกครั้ง เผื่อว่าจะยังไม่ได้เห็นกันนะคะ





ไปพบกับบทส่งท้ายที่เขียนโดย “จอยน้อย” กันได้เลยค่ะ ^^


########################



บทส่งท้าย..

“สวัสดีค่ะ กี่ท่านคะ” เสียงหวานของสาวสวยในชุดกิโมโนสีหม่น พร้อมอาการค้อมโค้งอย่างนอบน้อม เรียกรอยพึงพอใจจากผู้มาใหม่ได้เป็นอย่างดี

“นัดเพื่อนไว้ค่ะ คงมาแล้ว” แรกขวัญตอบออกไป พลางกวาดสายตาไปรอบๆ เพื่อค้นหา แล้วก็ปะทะเข้ากับใบหน้าสวยคุ้นตาของเพื่อนสาว นัยน์ตาสีเข้มพราวระยับขึ้นมาครู่หนึ่ง ก่อนแปรเปลี่ยนเป็นความแปลกใจ แล้วเบือนกลับมายังคนข้างๆ

“เดี๋ยวผมรอชั้นบน” เสียงทุ้มบอกอย่างรู้ใจ ก่อนหันไปบอกพนักงานประจำร้าน “ขอชั้นบนนะครับ คนเดียว”

แรกขวัญไม่สนใจท่วงท่าแปลกใจของพนักงาน ที่คงสงสัยว่าทำไมมาด้วยกันกลับแยกกันนั่งเสียอย่างนั้น เธอดุ่มเดินไปยังโต๊ะสำหรับสี่ที่นั่งริมกระจกใส หยุดยืนอยู่ข้างๆ แต่คนนั่งอยู่ก่อนก็ไม่มีทีท่าจะสำเหนียกถึงการมาของเธอแม้เพียงนิด และดูท่าจะเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ เธอจึงตัดสินใจนั่งลงฝั่งตรงข้าม ลองเรียกเบาๆ

“จุ๊บจิ๊บ” คนฝั่งตรงข้ามยังไม่มีปฏิกิริยา เอาแต่มองฝ่ากระจกใสออกไปภายนอก

“จุ๊บจิ๊บ!” คราวนี้ไม่ใช่แต่น้ำเสียง มือบางยังส่งไปโบกสะบัดอยู่ตรงหน้าเพื่อน

“อ้าว มาแล้วหรือ” จิรชยาหันมามองหน้าตาเหรอหรา แพขนตากะพริบปริบ

“มาแล้วสิ ไม่อย่างนั้นจะนั่งอยู่ตรงนี้หรือไง แล้วนี่เหม่ออะไรอยู่น่ะ ขวัญเรียกตั้งหลายครั้งไม่ได้ยิน ใจลอยไปถึงไหนเอ่ย” คนถามทำตาพราวอย่างเจ้าเล่ห์ รอยยิ้มล้อเลียนระบายเต็มใบหน้า

คนรู้ตัวว่าถูกล้อ มองตามท่วงท่าปรายตามองกุหลาบสีชมพูช่อโตสะดุดตา ชนิดถ้าหยิบมาบังหน้า คงมองไม่เห็นคนถือกันเลยทีเดียวของแรกขวัญก็เข้าใจ “เอ... สงสัยจะลอยไปถึงชายหนุ่มเจ้าของกุหลาบช่อนี้ใช่ไหมล่ะ”

จิรชยาก็อยากจะลอยไปถึงเจ้าของกุหลาบช่อนี้อยู่หรอก หากรู้ว่า ‘เขา’ คนนั้นเป็นใคร ใช่คนที่หวังหรือเปล่า แต่ไม่ใช่ในขณะนี้ ในเวลาที่มันยังคงเป็นปริศนา ซ้ำยังสร้างความขัดเขินให้เธอเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ก้าวล่วงเข้าไปในออฟฟิศ แล้วมีสายตาหลายต่อหลายคู่มองมาอย่างอิจฉาแกมล้อเลียน

ทว่าเธอไม่ดีใจเลย เพราะคนที่เธอหวังว่าจะเป็นเจ้าของ เขายังยืนอยู่บนแผ่นดินของอีกประเทศ ครั้งล่าสุดที่คุยกันก็ไม่มีข่าวสารว่าจะกลับมาในเร็ววัน จะตัดใจทิ้งก็ทิ้งไม่ลง ดอกไม้ช่อนี้สวยน้อยอยู่เมื่อไร แม้จะสร้างปัญหาให้เธออยู่มาก

ด้วยความใหญ่และสวยของมัน ไม่แปลกที่จะเด่นและสะดุดตา เดินไปไหนมาไหนก็มีแต่คนมอง สร้างความขัดเขินให้เธอ จนพาลโกรธคนส่งที่ยังทำตัวลึกลับไม่ได้

“เปล่าสักหน่อย” จิรชยาปฏิเสธเสียงเบา หยิบมันไปวางไว้ยังเก้าอี้ว่างข้างตัว ไม่อยากมองไม่อยากเห็น เพราะทำให้เธอไพล่คิดไปถึงใครอีกคนอยู่ร่ำไป "ใครก็ไม่รู้ ลงท้ายชื่อสั้นๆ แค่ว่าเป็น 'คนใกล้ตัว' แล้วจะไปตรัสรู้ได้ยังไง แต่อย่างว่า...ถ้าเป็น 'คนไกลตัว' เขาก็คงจะไม่ส่งมาหรอก"

แรกขวัญขยับปากจะต่อคำ ด้วยไม่เชื่อถ้อยคำนั้นสักนิด หลักฐานตำตาขนาดนี้ ปฏิเสธอย่างไรก็เชื่อยาก อีกทั้งยังสัมผัสได้ถึงความน้อยเนื้อต่ำใจในน้ำเสียงของเพื่อน แต่ไม่ทันได้พูดอะไร สายตาก็เหลือบไปเห็นร่างระหงของเพื่อนอีกคนเดินเข้ามา ใบหน้าแช่มชื่น ปากก็คุยโทรศัพท์จ้อยๆ

“ทางอู่จัดการเรียบร้อยแล้วล่ะ... จ้า ...ไม่ต้องมาหรอกไนท์ ก็ไนท์ติดลูกค้า เกรทกลับเองได้ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ตอนนี้ก็ถึงร้านแล้วด้วย เท่านี้ก่อนนะไนท์ เกรทเจอเพื่อนแล้ว บายจ้ะ” ภารวีกดตัดสาย หย่อนโทรศัพท์ลงกระเป๋า เดินยิ้มร่าเข้ามาหาสองสาว

“หวัดดีจุ๊บจิ๊บ ขวัญ ขอโทษที่มาสายนะ พอดีรถเกรทเสีย ต้องรอพนักงานจากอู่มาลากไป” คนมาใหม่จัดการอธิบายความจำเป็นของตัวเองจนเรียบร้อย กำลังจะนั่งลงข้างๆ จิรชยา แต่เก้าอี้กลับไม่ว่างเพราะมีช่อดอกไม้จับจองอยู่แล้ว ภารวีเบิกตากว้าง รอยยิ้มพราว หันไปหลิ่วตากับแรกขวัญ แต่ไม่ล้อเลียนเหมือนคนแรก แค่พูดขึ้นมาลอยๆ

“อิจฉา” ก่อนนั่งลงข้างสาวหน้าอิ่ม พลางถามหาเพื่อนอีกคน เลยไม่เห็นสีหน้าของคน ‘น่าอิจฉา’ ว่าตอนนี้อยู่ในลักษณะไหน “แล้วนี่ยายน้ำหมึกยังไม่มารึ”

“เห็นว่าลืมร่มไว้ในรถ เลยเข้าไปหยิบน่ะ อีกเดี๋ยวคงมามั้ง”

“อ๋อ” ภารวีร้องอย่างเข้าใจ เพราะตอนเธอลงจากแท็กซี่เมื่อสักครู่ละอองฝนก็เริ่มปรายลงมาบ้างแล้ว กว่าพวกเธอจะกลับคงตกหนักพอดี

“พูดถึงน้ำหมึกแล้วแปลกดีนะ สมเป็นสาวธาตุน้ำจริงๆ เจอกันกี่ทีๆ ก็มากับฝน และลืมร่มประจำ” แรกขวัญซึ่งหยิบเมนูส่งไปให้เพื่อนกล่าวติดตลก

“นั่นสิ แล้วนี่สั่งอะไรกันหรือยัง สั่งของกินก่อนไหม คนเยอะแบบนี้” คนพูดปรายตามองไปรอบๆ ก็เห็นลูกค้าเต็มร้าน ขืนรอกันมาให้ครบก่อนค่อยสั่ง กว่าอาหารจะมา ไส้คงกิ่วเสียก่อน “อาจต้องรอนาน เดี๋ยวน้ำหมึกมาจะได้กินกันเลย”

“เอาเลย” ที่เหลือเห็นด้วยกับความคิดนั้น ต่างคว้าเมนูขึ้นมา เป็นภารวีที่ยกมือเรียกบริกรสาวให้เข้ามารับออร์เดอร์

“เกรทกับขวัญสั่งนะ จุ๊บจิ๊บไม่เอาอะไรพิเศษ” คนซึ่งพลิกหน้านั้นหน้านี้แล้วรู้สึกว่าไม่มีอะไรสะดุดตาถึงขนาดอยากกินแบบจริงจัง ผิดกับทุกครั้งที่นั่นก็น่ากิน นี่ก็น่าอร่อยไปหมดบอก ปิดเมนูส่งคืนให้พนักงาน

“เดี๋ยวสั่งเผื่อน้ำหมึกเลย รายนั้นก็ไม่ต้องห่วง กินได้ทุกอย่าง” ภารวีพูดขำๆ ด้วยรู้จักทุกคนดี

สี่สาวในกลุ่มรู้จักกันจากการเข้าร่วมกิจกรรมซึ่งจัดโดยห้องโต๊ะอาหารจุกจิก จากเวปไซด์ชื่อดัง ที่รวบรวมคนชอบกินหลายต่อหลายคนมารวมกัน ความที่ถูกอัธยาศัยและมีความสุขกับการกินเหมือนๆ กัน จึงติดต่อกันมาเรื่อยๆ ส่วนใหญ่จะคุยกันผ่านโปรแกรมแชทยอดนิยม ถ้าว่างก็จะนัดรวมตัวกัน สถานที่ส่วนใหญ่ก็เป็นร้านอาหารที่จะหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามแต่ละคนจะเรียกร้อง ทำให้รู้ว่าใครชอบกินอะไร ไปร้านไหนจะสั่งสิ่งใด เลยไม่ต้องรอให้เสียเวลา

สองสาวจัดการร่ายเมนูอาหารที่คิดว่าเพียงพอสำหรับคนกินเก่งถึงสี่คนจนเรียบร้อย รอจนบริกรซึ่งนำน้ำมาเสิร์ฟเสร็จสิ้น แรกขวัญก็นึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่ได้ทวงของฝาก ก็เอ่ยปากขึ้น

“จุ๊บจิ๊บ” ส่งมือไปข้างหน้า แบออกเป็นสัญญาณ กระดิกยิกๆ

“อะไร” คนที่วันนี้ดูเหมือนจะลืมพกปากมาด้วย ถามอย่างไม่เข้าใจ เดือดร้อนอีกคนข้างๆ ซึ่งเข้าใจความหมายในทันที นึกสนุกยื่นมือมาเหมือนกัน

“อะไรกัน”

“ของฝากไง” ภารวีเฉลย

“ใช่... ลืมได้ไงอะ ไหนตอนนัดกันว่าจะเอาของฝากจากญี่ปุ่นมาให้ด้วย ถึงไม่ใช่หนุ่มตาตี๋หัวตั้ง ขวัญก็ยังอยากได้นะ”

“โทษที” แล้วคนขี้ลืมก็เปิดกระเป๋าตัวเองให้วุ่น หยิบเครื่องรางส่งให้สองสาว ซึ่งรับไปอย่างปลื้มเปรม

“แล้วช่วยด้านไหนน่ะจุ๊บจิ๊บ” แรกขวัญซึ่งเปิดซองกระดาษ ดึงเครื่องรางออกมาพินิจถามอย่างใคร่รู้ ก่อนอีกคนซึ่งชะโงกไปดูของคนข้างๆ ว่าเหมือนกันไหม เห็นว่าเหมือนกันเป๊ะก็พยักหน้าหงึกๆ สนับสนุน ภารวีก็อยากรู้เหมือนกัน

“นั่นสิ มันมีหลายด้านนี่นา”

“ความรัก”

เท่านั้นละ สองสาวก็หวีดร้องกรี๊ดกร๊าดอย่างถูกใจ แม้คิดว่าจะช้าไปหน่อยก็เถอะ และเพราะมัวแต่ชื่นชม ‘ของฝาก’ อยู่ เลยไม่ทันสังเกตเมื่ออีกคนที่บอกว่าไปเอาร่มมาถึงนั่งลงข้างๆ จิรชยา

“กรี๊ดกร๊าดอะไรกันน่ะยายขวัญ เกรงใจคนในร้านบ้างสิ” นีราภาถามพลางก้มดูดน้ำหวานซึ่งเพื่อนสั่งไว้ให้อย่างกระหาย ไม่สนใจค้อนที่แรกขวัญส่งมาให้อย่างงอนๆ ไม่ยอมตอบคำถาม เดือดร้อนภารวีต้องเป็นฝ่ายตอบแทน

“จุ๊บจิ๊บเขาซื้อเครื่องรางมาฝากน่ะ คงสมรักกับพี่ไจ๋ กำลังจะลาออกจากสมาคมคนโสด เลยห่วงพวกเรา” พูดพลางหลิ่วตาไปยังต้นเรื่อง ไม่รู้หรอกว่าคำพูดดังกล่าวไปสะกิดส่วนอ่อนไหวในใจเข้าอย่างจัง

“ไหนๆ” สาวผิวสีน้ำผึ้งหันมองซ้ายขวา หาส่วนของตนเอง

“นี่จ้ะ” คนก้มหน้าลงผ่อนลมหายใจเมื่อครู่เงยขึ้น ส่งอีกชิ้นที่เหลือไปให้ ซึ่งสาวผิวสวยก็รับมาอย่างรื่นเริงตามนิสัย

“ว้าว ขอบใจนะจุ๊บจิ๊บ ถึงแม้จะช้าไปหน่อยก็ตาม”

“ช้าอะไรกัน หรือฉันตกข่าวอะไรไป” ภารวีถามขึ้น มีแรกขวัญพยักหน้าหงึกหงักเป็นลูกคู่

นีราภายิ้มกว้าง ไม่พูดไม่จา แต่กลับยื่นมือซ้ายไปกลางวง แล้วเป็นสาวหน้าอิ่มที่สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติก่อนใคร คว้ามือเพื่อนหมับ ร้องเสียงหลง ตาเบิกโต พูดไม่ออกสักคำ ได้แต่ดึงมือที่มีแหวนทองคำขาวเกลี้ยงเกลาฝังเพชรเม็ดเล็กลงในตัวแหวนไปตรงหน้าภารวีอย่างงงๆ

“เอ๊ย!”

“หายไปเอาร่มแค่ไม่กี่สิบนาที ใครดอดมาหมั้นละเนี่ย” สาวธาตุไฟถามขึ้น

“คุณดามพ์”

แรกขวัญมีท่าทางครุ่นคิด เหมือนเคยได้ยินเพื่อนเล่าให้ฟังแต่ไม่แน่ใจว่าชื่อเสียงเรียงนามคืออะไร “ใช่คุณดามพ์ เดชพนต์ พี่ชายน้องดรีมที่น้ำหมึกเพิ่งแต่งหน้าให้ตอนงานแต่งหรือเปล่า

เจ้าของแหวนพยักหน้าหงึกหงักทั้งรอยยิ้ม รอยตาส่องประกายความสุขล้ำลึกจนทุกคนรู้สึกได้

“ใจร้อนใช้ได้เลยนะ คุณดามพ์เนี่ย สงสัยกลัวน้อยหน้าน้องสาวเลยรีบตามไปติดๆ” ภารวีเอ่ยแซวตาพราว เว้นจังหวะให้บริกรซึ่งลำเลียงอาหารที่สั่งไว้ทั้งหมดมาเสิร์ฟ รอจนให้หลังจิรชยาก็เอ่ยแสดงความยินดี

“ดีใจด้วยนะน้ำหมึก”

“ใช่... ยินดีมาก ในที่สุดเพื่อนเราก็ขายออก” สาวธาตุดินหัวเราะคิกคัก ตักอาหารตรงหน้าเข้าปาก เคี้ยวตุ้ย

“อะไรยะยายขวัญ ฟังดูทะแม่งๆ ยังไงไม่รู้” คนคลึงแหวนเล่นอย่างเผลอไผล ใจก็คิดไปถึงเจ้าของไปด้วยหุบยิ้มฉับ ถามเสียงเครียด

“ยินดีจ้า... ยินดี ไม่มีความหมายใดๆ แอบแฝงทั้งนั้นแหละ” คนโดนมองตาเขียวรีบแก้ตัว ปากก็ไม่หยุดกินสักที

“อย่าให้ถึงคราวขวัญแล้วกัน เชอะ!” คนพูดย่นหน้าให้อย่างหมั่นไส้ ไม่มีทีท่าโกรธขึ้งแม้แต่น้อย

“ใครว่ายังไม่ถึงคราวล่ะน้ำหมึก จะเอาคืนตอนนี้เลยก็ได้นะ” ภารวีโพล่งขึ้นมา จากข่าวครั้งล่าสุดที่ได้รับรู้และได้เข้าไปดูมากับตา

“อะไรกันเนี่ย ฉันตกข่าวอะไรไปอีกเกรท เล่าซิเล่า” คนงานยุ่งแทบไม่มีเวลาอัพเดทข่าวความเคลื่อนไหวคนอื่นถามอย่างกระตือรือร้น มีก็แต่จิรชยาที่เอาแต่กิน มีบ้างที่หยุดเหลือบมองสามสาวอย่างสนใจ

“ก็มีหนุ่มที่ไหนไม่รู้...” ภารวีลากเสียง ปรายตามายังคงข้างๆ มองใบหน้าอิ่มเริ่มขึ้นสีระเรื่อ กระนั้นก็ยังทำไม่รู้ไม่ชี้ได้มิดเม้น คีบสาหร่ายเข้าปากแล้วอมปลายตะเกียบมองมานิ่ง เธอยกริมฝีปากขึ้นอย่างถูกใจ ที่นานๆ เห็นยายขวัญอายสักที “ใจกล้ามากๆ ไปเอ่ยปากฝากรักเพื่อนเราเอาไว้ในหน้าเวป”

“โห” คนตกข่าวอุทานทึ่งๆ ในความใจกล้าของหนุ่มคนนั้น

“ไม่เท่านั้นนะ ยังท้ายายขวัญเหยงๆ ว่าถ้าแน่จริง ให้ออกมาตอบด้วยว่ารู้สึกยังไงกับเขา ถ้าใจกล้าพอให้ประกาศหน้าเวป แต่ถ้าไม่กล้าก็ให้พีเอ็มไป”

“โห... แล้วขวัญทำยังไง” คนตาโต ห่อปากทึ่งๆ ไปหลายรอบ หันไปมองเพื่อนสาวเป็นการคาดคั้นเอาคำตอบ แต่คนถูกถามก็เอาแต่นิ่ง เลิกคิ้วขึ้นถามกลับเสียอย่างนั้น

“น้ำหมึกคิดว่าขวัญจะทำยังไงล่ะ”

“อือม์” นีราภามีทีท่าครุ่นคิด “ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันคิดว่าขวัญคงพีเอ็มไปนะ แต่เดี๋ยวนี้” เธอหยุดและพิจารณาเพื่อนสาวอีกครั้ง ดวงตาสีเข้มพราวระยับ ใบหน้าเปล่งปลั่งแบบคนมีความสุข “ฉันว่าขวัญคงตอบรับเขาทางหน้าเวปแหละ โดนท้าขนาดนั้น ถ้าขืนพีเอ็มไป เดี๋ยวใครเขาหาว่าแหยแน่”

แรกขวัญอมยิ้ม นึกไปถึงถ้อยความของเขาที่ว่า

ผู้หญิงทุกคนสวยขึ้นเมื่อมี ‘รัก’ และถูก ‘รัก’ ดูท่าจะจริง

“นั่นแหละ เพื่อนเราถึงได้นั่งหน้ารื่นอยู่อย่างนี้ไง”

“แหม... ฉันละอยากเห็นถ้อยคำของหนุ่มหลงผิดคนนั้นจริงจริ๊ง” นีราภาแกล้งแหย่ แล้วต้องรีบไหวศีรษะหลบ เมื่อตะเกียบซึ่งมักอยู่ในปากเพื่อนสาวยกขึ้น เป้าหมายไม่ต้องบอกก็รู้ว่าที่ไหน “คืนนี้เกรทส่งยูอาร์แอลให้น้ำหมึกด้วยนะ ตอนออนไลน์เจอกัน” แล้วหันมาสั่งความเอากับคนเล่าทั้งรอยยิ้มหัว

“ได้จ้า”

“หนุ่มที่ไหนที่คิดคบกับเราๆ ก็หลงผิดทั้งนั้นแหละ เธอดูเอาเถอะน้ำหมึก ผู้หญิงที่ไหนเขากินเก่งกันขนาดนี้”

ถ้อยคำของภารวี ทำให้สายตาทั้งหมดกวาดไปจนทั่วโต๊ะ พร้อมส่ายหน้าหวือ

จะมีผู้ชายกี่มากน้อยที่ยอมรับผู้หญิงกินเก่งแถมรูปร่างไม่เพรียวลมจนแทบหักได้ แต่ตอนนี้พวกเธอเข้าใจแล้ว อย่างน้อยก็มีคนจำนวนหนึ่ง เหมือนดวิษของแรกขวัญซึ่งเจอกันทุกครั้งก็เอาแต่ชวนกินอยู่ร่ำไป ไหน
ยังนักตะที่ภารวีรู้ซึ้งถึงใจดี จากเหตุการณ์เมื่อครั้งเธอล้มป่วยเขาแทบจะกลายร่างจากนักออกแบบภายในมาเป็นนักโภชนาการไปแล้ว ส่วนเดชพนต์ก็ใช่ย่อย แม้จะหัวเราะขำที่เอะอะนีราภาก็ชวนกินตลอด แต่ไม่เลยสักครั้งที่จะขัด กลับนั่งกินเป็นเพื่อนตลอด พสิษฐ์ไม่ต้องพูดถึง ในเมื่อหนุ่มในใจของจิรชยาเป็นถึงพ่อครัวมือหนึ่งทีเดียว

แล้วสาวๆ ก็หัวเราะออกมาเบาๆ มีก็แต่สาวธาตุลมที่หน้าม่อยลงโดยไม่มีใครสังเกต เพราะมัวแต่คิดถึงคนของตัวเอง

“ว่าแต่คนอื่น เมื่อกี้ขวัญได้ยินนะ เจ้าของโทรศัพท์ตอนเดินเข้ามาน่ะ พี่ไนท์ใช่ไหมล่ะ” คนที่เป็นเป้าอยู่นานเริ่มหาทางเล่นงานเพื่อนคืนบ้าง

“ใช่” ภารวียอมรับหน้าตาเฉย หากเป็นเมื่อก่อน มีใครถามเธอคงยังปากแข็ง เมื่อยังไม่มั่นใจในความสัมพันธ์ของเธอกับนักตะเลยไม่อยากพูดอะไรออกไป แต่ในเวลาที่ทุกอย่างลงตัว ไม่คลุมเครืออย่างเก่า และสี่คนตรงหน้าก็เพื่อนที่เธอเปิดใจรับและรัก ทำไมต้องปิดบัง

“วันก่อนที่พี่ไนท์หายไป จริงๆ มีอุบัติเหตุนิดหน่อย เลยไม่อยากให้เกรทไม่สบายใจ เลยไม่ได้บอก เพราะงั้นตอนนี้เราถึงได้เห็นคุณนายเกรทเธอหน้าบานเป็นจานเปลใส่ปลาทอดแบบนี้” แรกขวัญบุ้ยใบ้มายังคนข้างๆ ซึ่งยิ้มระรื่น ไม่มีทีท่าจะปฏิเสธเหมือนตอนเล่าให้เธอและจิรชยาฟังเมื่อได้แชทกัน ขณะนีราภาที่ทำงานไม่เป็นเวลา ไม่ได้นั่งอยู่กับที่เหมือนพวกเธอเลยตกข่าวไป “น่าอิจฉาไหมล่ะเพื่อนเรา”

“ไม่อิจฉาหรอก ตอนนี้ฉันมีคุณดามพ์ของฉันแล้วนี่” น้ำหมึกตอบ ประสานมือขึ้นแนบอก ดวงตาประดุจท้องน้ำสะท้อนแสงจันทร์ยามค่ำคืนพราวขึ้นอย่างชวนฝัน

“น้อยๆ หน่อยเถอะ” แรกขวัญขยับปากจะค่อน แต่แล้วก็ชะงัก เมื่อโทรศัพท์มือถือของภารวีบนโต๊ะกรีดร้องเสียงลั่น

“จ๋าไนท์” เท่านั้นละตอนแรกที่เงียบอยู่แล้ว ก็เหงียบหนักเข้าไปอีก เมื่อสองสาวพร้อมใจไม่ขัดจังหวะเพื่อน

“ไนท์แยกกับลูกค้าแล้วเหรอ... เอ๊ะ!”

คำอุทาน พร้อมเครื่องมือสื่อสารที่ลดลงในเวลาเพียงครู่ กับอาการเหลียวออกไปมองนอกร้านทันที แม้แต่จิรชยาที่เอาแต่กินไม่สนใจใคยังอดสงสัยและแปลกใจจนต้องมองตามสายตาเพื่อนสาวไม่ได้

ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย ตรงทางเดินเท้าหน้าร้านมีชายหนุ่มตัวโต ผิวสองสี แม้เห็นเพียงเสี้ยวหน้าด้านข้างเพราะเขาหันหลังให้ ทุกคนก็รู้ว่าใบหน้านั้นคมเข้ม ในมือมีร่มคันโตอยู่ด้วย ไม่บอกก็รู้ว่ามาทำไม

“ว้าว... มีมารอรับกันด้วย งั้นน้ำหมึกแอบอิจฉานิดหนึ่งก็ได้ ชิ!”

“ฮ่าๆๆ เปลี่ยนใจจากคุณดามพ์แล้วหรือน้ำหมึก” แรกขวัญแซวยิ้มๆ ทั้งที่รู้ว่าเพื่อนพูดไปอย่างนั้นเอง อาการมองแหวนบนนิ้วนางของตัวเองอย่างลึกซึ้ง แตะทีก็คงคิดถึงเจ้าของที แทนคำตอบได้อย่างดี

“ไม่ย่ะ คนอย่างนีราภารักเดียวใจเดียว แค่อิจฉาเกรทนิดหน่อยเท่านั้นเอง แต่ก็ดีนะ เห็นเขาห่วงเพื่อนเราแบบนี้ก็ดีใจ”

ภารวีมองทุกคนอย่างเต็มตื้น ไม่เคยนึกเสียใจที่ได้รู้จักทุกคน แม้ในยามที่เธอล้ม ใครต่อมิใครพากันเหยียบย่ำ น้อยคนนักที่ยืนอยู่เคียงข้าง ครอบครัว นักตะ และผู้คนส่วนน้อยที่เหลือ รวมสามคนตรงหน้าเอาไว้ด้วย

“ขอบใจจ้ะ” ภารวีหันไปมองชายร่างสูงอีกครั้ง

“เออ... นี่ๆ เกรท ขวัญ ยายจุ๊บจิ๊บหนีเรากลับบ้านไปแล้วหรือไง ทำไมเงียบจัง” น้ำหมึกเห็นเพื่อนกินเอากินเอา ไม่พูดไม่จาก็แซวขึ้น

“อะไรยะ” เมื่อนั้นแหละ จิรชยาจึงรู้สึกว่าตนเองเงียบมากเกินไป แทบไม่ได้พูดคุยกับคนอื่นด้วยซ้ำ เอาแต่ฟังเรื่องราว แถมบางครั้งยังใจลอยหายไปอีกต่างหาก

“โอ้... ยังอยู่แฮะ ไอ้เราก็คิดว่าหนีกลับบ้านไปก่อน เห็นเงียบๆ ไป”

“ไม่ได้เงียบ แต่น้ำหมึกเอาแต่พูดๆ แบบนี้ ฉันก็ไม่รู้จะแทรกเข้าไปตรงไหนละสิ” จิรชยากลบเกลื่อน ก้มลงคีบอาหารเข้าปากอีกคำ

แซวกันพอหอมปากหอมคอ ก็หันมาสนใจอาหารตรงหน้าอย่างจริงจัง คุยกันจ๊อกแจ๊กอย่างมีความสุข แล้วบริกรสาวคนเดียวกับที่ทำหน้าเอ๋อตอนดวิษแยกออกไปนั่งรออีกโต๊ะชั้นบน ก็เดินเข้ามาพร้อมอาการประคับประคองจานอาหาร วางลงหลังหยิบใบที่เกลี้ยงไปแล้วเก็บ เล่นเอาสี่สาวถึงกับมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เพราะจำได้ว่าไม่ได้สั่งไป

“อะไรกันคะ ไม่ได้สั่งนี่นา” แรกขวัญถามขึ้นอย่างแปลกใจ พนักงานสาวยิ้มเยื้อนก่อนหันหลังเดินหายไปทางด้านหลังทันที ทำได้เพียงแค่ส่ายหน้าน้อยๆ แล้วหันมาไล่เลียงเอากับคนข้างๆ ซึ่งนั่งจ้องอาหารหน้าตาประหลาดตาเขม็ง

“เกรทสั่งหรือ”

เจ้าของชื่อส่ายหน้าหวือเป็นคำตอบ... เธอเองก็งงอยู่เช่นเดียวกัน ก่อนหันไปทางน้ำหมึก ไล่ถามกันเป็นทอดๆ

“หรือเธอแอบไปสั่งตอนหนีไปเข้าห้องน้ำ” นิ้วเรียวชี้หน้าอย่างกล่าวหาเต็มที่

“ฉันเปล่านะ” ปฏิเสธพลางส่ายหน้าจนผมหยักศกปลิวไหว “ถึงฉันจะเป็นเมคอัพอาร์ทติสท์ แต่ก็ไม่ถึงขนาดครีเอทเมนูหน้าตาประหลาดๆ แบบนี้ได้หรอกนะ ดูซินี่” สาวผิวสีน้ำผึ้งเอาตะเกียบจิ้มไปบนขอบจานประดับใบตองกรีดเป็นริ้วสวยงามประกอบคำพูด “ซูชิหมูย่างตะไคร้ใช่มะ ช่างรวมสองชาติเอาไว้ด้วยกันได้เป็นอย่างดี นี่ถ้ามีน้ำจิ้มแจ่วหน่อยละก็ ฉันคงคิดว่าพ่อครัวเป็นคนอิสานแน่ๆ “

สองสาวหัวเราะกันรื่นกับถ้อยคำของเพื่อน ไม่ทันได้สังเกตอาการของจิรชยาแม้แต่น้อย

ตอนนี้ใบหน้ากลมนั้นตะลึงงันไปแล้ว ดวงตาเอาแต่จ้องจานตรงหน้านิ่ง ราวกับจะให้เห็นถึงกระบวนการทำ และถ้าให้ดี เห็นคนทำได้จะยิ่งดีมาก แล้วความสงสัยนั้นก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อชายหนุ่มในชุดที่มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นพ่อครัวเดินมายืนอยู่ด้านข้างของโต๊ะ มือไขว้หลัง น้ำเสียงทุ้มนุ่ม

“อภินันทนาการจากทางร้านเราเพื่อเป็นการขอบคุณครับ”

ทุกคนไม่ใส่ใจว่าจะขอบคุณด้วยเหตุอันใด ทุกสายตาเอาแต่มองใบหน้าหล่อเหลาด้วยความแปลกใจ ไม่คาดคิดว่าพ่อครัวจะเดินออกมาเอง

“พี่ไจ๋! มาได้ยังไงคะ” จิรชยาตกตะลึง ไม่คาดฝันมาก่อนว่าจะเห็นเขา

คำดังกล่าวของจิรชยาทำให้ทุกคนเข้าใจได้ในทันที ว่าทางร้านคงไม่มีอาหารอภินันทนาการอะไรลูกค้า และพ่อครัวคงไม่ออกมาเอง ถ้าลูกค้าคนนั้นไม่ใช่ผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้านในของโต๊ะ

“สวัสดีครับทุกคน” เขาไม่ตอบคำถามนั้น ทักทายคนอื่นๆ ก่อน เลยได้รับรอยยิ้มเป็นมิตรกลับมา แล้วจึงหันไปตอบคำถามทั้งที่ริมฝีปากยังไม่คลายยิ้ม

ยิ้มซึ่งตราตรึงอยู่ในใจของจิรชยาเสมอมา

“ถ้าจะคุยคงต้องคุยกันยาว จุ๊บจิ๊บรอพี่ได้ไหม” ถามเสียงอ่อน เว้าวอนอยู่ในที

สามสาวทำทีเป็นไม่สนใจประกายหวานซึ่งทอดอ่อนไปยังเพื่อนของตนเอง ก้มลงซ่อนหน้า หวังเปิดโอกาสเต็มที่... คิดตรงกันว่า ยินเสียงเว้าวอนแบบนี้แล้ว ใครจะปฏิเสธลง

“อีกไม่นานร้านก็จะปิดแล้ว”

“รอได้ค่ะ” คนถูกถามรีบตอบ ดวงตารื้นขึ้นนิดหนึ่งด้วยความดีใจ เธอรอเขามานานหลายปี รออีกชั่วโมงสองชั่วโมงทำไมจะรอไม่ได้

“ครับ งั้นเดี๋ยวพี่ไปทำงานก่อนนะ” เขาบอก ก้มหน้าให้สามสาวอีกครั้งอย่างเป็นกันเอง แต่ก่อนจะออกไป เขาเบือนหน้ามาสบจิรชยาอีกครั้ง บอกทั้งรอยยิ้มก่อนเดินจากไป

ยิ้มที่คนมองรู้สึกว่ามันเจ้าเล่ห์เต็มทน เพราะประกายระยับนั้น

“ดอกไม้สวยดีนะครับ”



~ * ~ * ~ * ~ * ~ * END * ~ * ~ * ~ * ~ * ~







 

Create Date : 31 ธันวาคม 2551
15 comments
Last Update : 31 ธันวาคม 2551 18:42:53 น.
Counter : 863 Pageviews.

 

ตอบคอมเมนต์นะคะ

คุณเด็กน้อยขี้แย – ขอบคุณที่ชอบผลงานนะคะ ^^ หุๆ นี่ก็ทำเป็นรูปเล่มแล้วไงคะ แต่อาจจะพิเศษกวาเล่มอื่นๆ สักหน่อย

คุณ PiN.VE – ขอบคุณที่มาติดตามกันนะคะ แต่สำหรับเรื่องนี้เราตั้งใจจะทำให้เป็นของขวัญพิเศษจริงๆ ค่ะ ดังนั้นคงไม่มีการตีพิมพ์นะคะ

ท้ายนี้ Happy New Year เช่นกันค่า คุณ doctorbird คุณนู๋นิด แล้วก็น้องยุ้ย ขอให้มีความสุขมากๆ ตลอดปีตลอดไปนะคะ

แล้วพบกันวันเฉลยเกมค่ะ ^^

 

โดย: บทเพลงแห่งความฝัน 31 ธันวาคม 2551 18:53:59 น.  

 

ขอต้อนรับชาว ... Bloggang.ทุกๆคนค่ะ
เฉลิมฉลองรับศักราชใหม่...
ขอให้มีแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตทุกคนนะคะ
อย่าเจ็บอย่าจนบุญรักษาทุกๆคนค่ะ

ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหลาย จงอวยชัย
ทุกข์เภทภัย ที่จะพบ จงหายสิ้น
ปีใหม่นี้ ให้มีสุข เป็นอาจิณ
สิ่งที่หวัง ทั้งปวง จงสมใจ

 

โดย: มาส่งความสุขค่ะ (yoja ) 1 มกราคม 2552 1:16:28 น.  

 

สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณโน้ต

มีความสุขมากๆ สมปรารถนาทุกประการ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองประสบความสำเร็จในทุกสิ่งที่มุ่งหวังตลอดปีและตลอดไปนะคะ^^




 

โดย: พิมพ์นราค่ะ^^ IP: 119.31.79.151 1 มกราคม 2552 19:28:37 น.  

 

สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณโน้ต

มีความสุขมากๆ สมปรารถนาทุกประการ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองประสบความสำเร็จในทุกสิ่งที่มุ่งหวังตลอดปีและตลอดไปนะคะ^^




 

โดย: พิมพ์นราค่ะ^^ IP: 119.31.79.151 1 มกราคม 2552 19:28:44 น.  

 

 

โดย: ส้มแช่อิ่ม 1 มกราคม 2552 21:18:30 น.  

 



สวัสดีปีใหม่นะครับ

 

โดย: veerar 1 มกราคม 2552 22:09:35 น.  

 




...ขอให้มีความสุขมากๆ นะครับ...

 

โดย: doctorbird 2 มกราคม 2552 2:17:34 น.  

 

ให้โชคดี สุขี วันปีใหม่ 2552
สิ่ง ประเสริฐ ใด หวัง ตั้ง ใจ
ให้ได้สม ดัง ฝัน ใฝ่
จิตแจ่มใส ทุกวัน ทุกคืน

ให้ร่ำรวย เงินทอง ยศศักดิ์
ให้คนรัก มากมี ดาษดื่น
ทำสิ่งใด จงลุล่วง ราบรื่น
อายุยืน ปลอดโรค ปลอดภัย


 

โดย: I_sabai 2 มกราคม 2552 7:31:55 น.  

 


สวัสดีปีใหม่ ขอให้มีความสุขสดชื่นสมหวัง สุขภาพแข็งแรง นะคะ

 

โดย: a_music 3 มกราคม 2552 12:35:31 น.  

 


เนื่องในวาระดิถีขึ้นปีใหม่
ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย
จงปกปักรักษา
คุ้มครองให้ท่านและครอบครัว
มีความสุขความเจริญ
ด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ
ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ
ปรารถนาสิ่งใด
ที่เป็นไปด้วยความชอบธรรม
ขอให้สำเร็จสมความปรารถนา
ทุกประการ เทอญ


จากใจ...โสดในซอย

 

โดย: โสดในซอย 3 มกราคม 2552 12:46:31 น.  

 



ในวารดิถีขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2552 ขอน้อมจิตอธิษฐาน...สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลพิภพ
จงดลบันดาลพรให้ คุณบทเพลงเเห่งความฝัน.และทุกคนในครอบครัว ประสบความสุขสิริสวัสดิ์พิพัฒน์มงคล สมบูรณ์พูนผล ในสิ่งอันพึงปรารถนา ทุกประการ

 

โดย: ยูกะ (YUCCA ) 3 มกราคม 2552 14:52:14 น.  

 

ที่เห็นข้างบนนั่นใช่หน้าปกไหมคะ ^ ^

น่ารักดีนะคะ อยู่ในรถคันเล็ก อิอิ

 

โดย: Aree-Yong 3 มกราคม 2552 19:46:44 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

...ขอให้ปีใหม่ปีนี้จงเป็นปีแห่งความสุข...

...ตลอดปี และตลอดไปนะครับ...

 

โดย: doctorbird 5 มกราคม 2552 18:16:29 น.  

 

Happy new year To you 2009 na ka
ขอคุณพระ ไตรรัตน์ ประสาทผล
อวยพรชัย สรรพสิ่ง มิ่งมงคล
ให้เพื่อน พ้นทุกข์ภัย
ให้มีบุญ อุดหนุนอยู่ คู่ธรรมะ
มีพละ กำลังดี ที่สดใส
ประโยชน์สร้าง ทางสวรรค์
นิพพานใจ โปรดเวไนย
ให้มีความสุขสันต์ ตราบนานเทอญฯ
มีความสุตลอดกาลไม่ว่าจะปีไหนก็ตาม
wa@yoja


Happy New Year 2009
ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ

 

โดย: yoja 7 มกราคม 2552 10:04:48 น.  

 

สวัสดีค่ะ... พี่เป็นคนจากสำนักพิมพ์ Thaibook cafe มีได้อ่านนิยายของน้องรู้สึกสนใจมาก หากนิยายของน้องยังไม่เคยตีพิมพ์จากที่ใดมาก่อน และอยากที่จะทำเป็นหนังสือ พี่อยากให้น้องติดต่อพี่กลับมาที่ pinkge-333@hotmail.com หรือถ้าหากน้องมีเรื่องอื่นมาเสนอพี่ก็ยินดีนะค่ะ

 

โดย: Thaibook cafe IP: 202.151.41.3 12 มกราคม 2552 23:20:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


บทเพลงแห่งความฝัน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ผู้หญิงทำงานโลภมากที่อยากสวย เก่ง ประสบความสำเร็จ มีความสามารถรอบด้าน และมีความสุขมากที่สุดในโลก (ไม่ว่าจะโสดหรือไม่ก็ตาม อิอิ) ^^









Friends' blogs
[Add บทเพลงแห่งความฝัน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.