โดยแมลงลักษณะของแมลงก้นกระดก จะเป็นด้วงขนาดเล็ก ขนาด 6-8 มม. หรือ ไม่เกิน 1 ซม. ลำตัวเรียวยาว พบมากในช่วงฤดูฝนโดยระบุว่า ช่วงนี้มีผู้ป่วยเดินทางมารักษาอาการจากการถูกพิษของแมลงชนิดนี้เป็นจำนวนมาก โดยรายล่าสุดเป็นเด็กน้อยคนหนึ่ง ได้ถูกพิษของแมลงชนิดนี้หลายที่ มีอาการเป็นแผลพุพองขนาดใหญ่ทั้งแผ่นหลังและก้น โดยช่วงแรกคุณแม่นึกว่าน้องแพ้ฝุ่น จึงปล่อยไว้หลายวัน แผลจึงลุกลาม ส่วนอีกรายเป็นเด็กน้อยโดนกัดเข้าที่ใบหน้า แต่โชคดีพามาหาหมอได้เร็วอาการจึงยังไม่ลุกลาม สำหรับแมลงก้นกระดก มักพบบ่อยในช่วงฤดูฝน มีขนาดประมาณ 1 เซนติเมตร พบได้ตลอดทั้งปีแต่จะเจอมากในช่วงฤดูฝน พบเจอได้ทั้งในป่าในเมืองและแมลงชนิดนี้ชอบไฟในเวลากลางคืน ดังนั้นไม่ควรเปิดไฟนอน เพราะแสงไฟจะล่อแมลงเข้ามาและควรทำความสะอาดผ้าปูที่นอนเป็นประจำ รวมทั้งตรวจตราตามฝาผนังและเพดานใกล้หลอดไฟ โดยผื่นที่เกิดจากแมลงชนิดนี้ไม่ได้เกิดจากการกัดหรือต่อยของตัวแมลง แต่เกิดจากการไปโดนหรือบี้ ทำให้สารเคมีที่อยู่ภายในตัวแมลงที่ชื่อว่า เพเดอริน สัมผัสกับผิวหนัง ทำให้มีอาการแสบ ไหม้ ตามจุดที่สัมผัสโดน อาจมีลักษณะรอยแผลเป็นเส้นทำให้คิดว่าเป็นงูสวัดหรือเริม หรือหากสัมผัสถูกดวงตาอาจติดเชื้อจนมีผลต่อการมองเห็นได้ ดังนั้นเมื่อพบแมลงชนิดนี้ห้ามบี้ตัวแมลงเด็ดขาด ให้ใช้วิธีปัดออก
สำหรับวิธีการปฐมพยาบาลเมื่อถูกพิษของแมลงก้นกระดกนั้น นพ.จินดา โรจนเมธินทร์ รองผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง แนะนำให้ปฏิบัติตามดังนี้ครับ 1. ให้ล้างผิวหนังด้วยน้ำเปล่าทันทีตามด้วยสบู่หลายๆครั้ง ทั้งที่มือและบริเวณที่ถูกพิษ 2. ถ้ามีผื่นแดงขึ้นก็ให้ใช้ยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ชนิดเข้มข้น-ปานกลาง 3. แต่ถ้าพิษรุนแรงขนาดทำให้เกิดแผลที่มีน้ำเหลืองไหลออกมา ให้ประคบด้วยน้ำเกลือก่อนจะทายาสเตียรอยด์ 4. หากอาการไม่ดีขึ้นให้รีบพบแพทย์ทันที หวังว่าข้อมูลที่เว็บท่า16Laoนำมาฝากในวันนี้จะมีประโยชน์กับหลายๆคนนะครับผม
น่ากลัวนะคะ..
ขอบคุณที่แนะนำค่ะ