|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ทริปแบกเป้เที่ยว..ลาว..กลางสายฝน
3 ก.ค. 52
22:30 น. เดินทางออกจากจังหวัดพิษณุโลก
4 ก.ค. 52
06:00 น. ถึงจังหวัดอุดรฯระหว่างรอรถอินเตอร์บัสเที่ยวแรกแปดโมงเช้าก็หาอะไรแถวๆนั้นกินรองท้องก่อน
07:00 น. เปิดขายตั๋วอินเตอร์บัสไป นครเวียงจันทน์ คนเดินทางส่วนมากจะเป็นคนลาวกลับบ้านช่วงหยุดยาว
08:00 น. รถออกจากขนส่งอุดรฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมงถึงด่าน ทำเรื่องผ่านแดนทั้งขาออกและขาเข้าใช้เวลาไม่ถึง 45 นาที (ช่วงเช้าคนยังน้อย)
10:15 น.ถึงขนส่ง นครเวียงจันทน์ หารถไปวังเวียงต่อเลย ได้รถเมล์เที่ยว 11:30 น. ระหว่างรอเวลาหาซื้อซิมโทรศัพท์ ใช้ซิม TIGO ราคา 80 บาท มีเงินให้ 40 บาท และเติมเงินเพิ่มอีก 200 บาทเอาใว้โทรกลับบ้าน(นาทีละ 8 บาท)
ดูบรรยากาศในขนส่ง นครเวียงจันทน์ไปเรื่อยๆ
11:30 น. ได้เวลารถออกจากสถานีขนส่ง ออกมาได้ประมาณ 15 นาที แวะปั้มเติมน้ำมัน ช่วงนี้เข้าห้องน้ำห้องท่าให้เรียบร้อย
พอรถออกจากปั้มเด็กรถก็เดินเก็บค่าโดยสาร ไปวังเวียง 120 บาท(30,000 กีบ) นังรถไปซักพักฝนก็เริ่มตกและตกไปตลอดทางจนถึงวังเวียงเลย
15:30 น.รถก้อมาถึงวังเวียงแล้ว ฝนยังไม่หยุดเลย
ลงรถแล้วก้อเดินหาที่พักกันเลย แถวริมน้ำและรอบๆนอกเต็มเกือบหมด คงเป็นเพราะช่วงหยุดยาวเข้าพรรษา เดินหามาเรื่อยๆ จนมาได้ที่ เฮือนพัก สมพระทัยเกสเฮาส์(ต้องรีบเช็คอินเพราะฝนเริ่มตกมามากแล้ว) ห้องพัดลมเตียงเดี่ยว ราคาคืนละ 300 บาท(ห้องก้อดีมีทีวีด้วย)
เข้าห้องพัก อาบน้ำอาบท่าแล้ว ก้อออกมาหาเช่าจักรยานแถวหน้าเกสเฮาส์ เพื่อจะปั่นชมเมืองวังเวียงสักหน่อย
พอเริ่มจะมืดเอาจักรยานไปคืนและต้องหาอะไรกินสักหน่อย(หาอาหารไทยกินยาก...มาก)
เดินหาของกินมาเรื่อยๆก้อมาจบที่ ข้าวผัด ร้านใกล้ๆกับเกสเฮาส์ และที่ขาดไม่ได้เมื่อมาลาว ต้องกินเบียร์ลาว
กินเสร็จแล้วก้อเดินเที่ยวดูราตรีของวังเวียงหน่อย ประมาณสามทุ่มก้อกลับเกสเฮาส์พักผ่อนและไม่ลืมจองปี้รถไปหลวงพระบาง จองได้ที่เกสเฮาส์เลย แต่จองดึกไปหน่อยรถ VIP BUS เต็มเลยต้องเอารถ MINI BUS แทน ค่าปี้โดยสาร 480 บาท ก้อยังดีกว่าไม่มีรถไป(ที่จริงตอนเช้าเดินออกไปโบกรถโดยสารที่ถนนใหญ่ตรงที่ลงรถเมื่อวานก้อได้แถมถูกกว่าด้วย) ไม่เป็นไรถือว่าเราซื้อเวลาให้ใช้เวลาเดินทางน้อยที่สุด
5 ก.ค. 52 ตื่น 7:30 น.อาบน้ำเรียบร้อยแล้วก้อลงมารอรถมารับที่หน้าเกสเฮาส์ หาแลคตาซอยและขนมปังแซนด์วิชทานก่อน 8:30 น. รถก้อมารับและตระเวนรับคนตามเกสเฮาส์ต่างๆ เพื่อไปสถานีขนส่ง 9:30 น. รถออกจากสถานีขนส่งวังเวียง วิ่งมาประมาณ 1 ชั่วโมงรถก้อจอดแวะกินข้าวประมาณ 20 นาที ตกใจมากข้าวราดแกงจืดวุ้นเส้น จานละ 40 บาท M150 ขวดละ 20 บาท เค้าบอกว่าคนเดินทางกินราคานี้เลือกไม่ได้เพราะร้านอยู่กลางภูเขา
กินข้าวเสร็จรถก้อออกเดินทางต่อ ขอบอกว่าวิวสองข้าทางสวยมาก(คล้ายๆแม่ฮ่องสอนแต่สวยกว่า)เสียดายถ่ายรูปมาไม่สวยเพราะว่านั่งอยู่แถวกลางพอดีเลย
13:30 น. รถก้อจอดแวะเข้าห้องน้ำ(กำลังปวดมากๆเลย) พักประมาณ 20 นาที นี่ไงรถ MINI BUS ที่เรานั่งมาจอดข้างรถจี๊บตำรวจพอดีเลย
15:30 น. รถมาถึงสถานีขนส่งสายใต้ของหลวงพระบางเสียที ที่นี่มีเด็กจากเกสเฮาส์และโรงแรมมาเสนอที่พักให้ลูกค้าเพียบเลย เราไม่เอามันง่ายเกินไปอยากเดินหาเองมากกว่า แต่ก้อเก็บนามบัตรไว้ประมาณ 3-4 ที่ จากตรงนี้เราต้องนั่งตุ๊กๆสองแถวเข้าในเมืองอีกเก็บค่าโดยสารคนละ 40 บาท ตุ๊กๆเข้ามาส่งถึงในเมืองลงรถแล้วก้อเริ่มเดินหาที่พักเลยต้องหาให้เร็วที่สุดเพราะฝนยังตกไม่หยุดเลยเริ่มจะเปียกแล้วด้วย มาหยุดถามที่ เฮือนพัก เมืองลาวเกสเฮาส์ ปรากฏว่าเต็มแต่เด็กที่เกสเฮาส์นิสัยดีมาก พาเราไปหาเกสเฮาส์แถวใกล้ๆชื่อ เฮือนพัก จิดลัดดาเกสเฮาส์ห้องพัดลมเตียงเดี่ยว(ไม่มีทีวี)ราคาคืนละ 200 บาท ห้องไม่ค่อยดีเท่าไหร่เหม็นอับด้วย เลยสัญญากับเด็กของเมืองลาวเกสเฮาส์ ว่าพรุ่งนี้จะไปพักที่นั่นให้จองให้ด้วย
เข้าห้องพักอาบน้ำแล้วกะว่าจะออกไปเดินเที่ยวตลาดมืด(ตลาดม้ง)สักหน่อย ออกมาข้างนอกฝนยังตกไม่หยุดเลยต้องแวะซื้อร่มกันฝนที่ตลาดดาราก่อน แล้วกางร่มเดินไปเที่ยวที่ตลาดมืดดูสินค้าไปเรื่อยๆหมายตาไว้เดี๋ยวพรุ่งนี้ถ้าฝนหยุดแล้วค่อยมาซื้อเพราะวันนี้ฝนตกตลอดทั้งวันเลยร้านค้าเลยมาตั้งขายน้อยกว่าปกติ เดินไปมาชักเหนื่อยๆเลยหาอะไรกินก่อนได้กินที่ร้าน บุ๊ฟเฟ่ อาหารเจ จานละ 20 บาทตักอะไรก้อได้เต็มจานเลย แต่รสชาติแย่มากๆเรียกว่าไม่มีรสชาติเลยดีกว่า ถ้าไม่ได้ซอสแม็กกี้แทบจะกินไม่ได้เลย เดินเที่ยวจนมืดประมาณ ทุ่มครึ่งก้อกลับเกสเฮาส์ อาบน้ำเสร็จไม่มีไรทำเลยออกมานั่งดูทีวีและคุยกับพวกที่มาพักเหมือนกันด้านหน้าเกสเฮาส์ประมาณสี่ทุ่มแยกย้ายเข้าห้องนอน
6 ก.ค. 52 6:00 น. ตื่นนอนออกไปเดินเล่นดูตลาดสดตอนเช้าของชาวหลวงพระบาง เดินมาเจอขนมครกขายกระทงละ 20 บาท เลยซื้อมาชิมซะ กระทงหนึ่ง คุณยายขายขนมครกจะตักชูรสโรยให้แต่เราบอกว่าไม่เอา(คนลาวนี่เขากินชูรสเป็นกำลังเลย)
เดินดูอะไรเรื่อยๆต่อไปจนมาถึงแคมโขง เห็นเค้านำปลาขึ้นมาจากแม่โขงตัวเป็นๆเลยน่าจะเป็นปลากดแต่ไม่รู้ว่ากดอะไร มองไปอีกฟากหนึ่งของถนนเห็นร้านกาแฟคนนั่งกินเต็มเลยจะลองชิมหน่อยเห็นทีจะลำบากเพราะว่าคนรอคิวกินอยู่นอกร้านกันเพียบเลย
เดินกลับมาแถวตลาดม้ง ตอนเช้าถนนยังโล่งไม่มีอะไรมาขาย เข้าไปดูวัดต่างๆจำชื่อมาไม่หมดว่าวัดอะไรบ้าง ไกด์เริ่มพานักท่องเที่ยวลงรถเดินเที่ยวกันแล้ว เด็กๆเริ่มมาเรียนหนังสือที่ ศูนย์วัฒนธรรมเด็ก ถ่ายรูปไปถ่ายรูปมา ดูนาฬิกาอีกที เก้าโมงแล้ว เร็วจังได้เวลากลับไปเช็คเอาท์แล้วย้ายเกสเฮาส์แล้ว
กลับมาที่เกสเฮาส์เข้าไปอาบน้ำเสร็จออกมาเช็คเอาท์เพื่อจะไปเข้าพักที่ เมืองลาวเกสเฮาส์ตามที่สัญญากับ วงศ์สิทธ์(เด็กที่เมืองลาวเกสเฮาส์) พอไปถึงห้องยังไม่ว่างเพราะฝรั่งยังไม่เช็คเอาท์ออกและไม่ได้ทำความสะอาดเลยนั่งกินกาแฟคุยกันไปก่อน กาแฟลาวนี่รสชาติดีมากถ้ามาแล้วต้องลองให้ได้
คุยกันเรื่องราคาค่าห้องพักแล้ว ห้องแอร์เตียงเดี่ยว อย่างดีเลย คืนละ 240 บาท โอ้..ไม่น่าเชื่อว่าจะมีห้องราคานี้อยู่ด้วย(หากใครไปหลวงพระบางผมขอแนะนำ เมืองลาวเกสเฮาส์ นะครับไม่ผิดหวังแน่) 11:00 น. ห้องก็ยังไม่เสร็จเลยฝากกระเป๋าไว้กับ วงศ์สิทธิ์ บอกว่าหากห้องเสร็จแล้วให้เอากระเป๋าไว้ในห้องและเก็บกุญแจให้ด้วย จากนั้นเราก้อเริ่มเดินเที่ยวต่อเลยดูวัดไปเรื่อยๆไม่รู้วัดอะไรบ้างเยอะแยะไปหมด แต่จุดหมายที่จะไปให้ได้ คือวัดเชียงทอง,วัดพระธาตุหมากโม,และยอดพระธาตุภูสี โชคดีพอเที่ยงฝนหยุดตกพอดีเลยไม่ต้องได้กางร่มเที่ยว
วัดเชียงทอง
วัดพระธาตุหมากโม
ทางขึ้นพระธาตุภูสี ด้านฝั่งน้ำคาน
วิวเมืองหลวงพระบางจากบนพระธาตุภูสี
วิวในมุมกว้าง
ยอดพระธาตุภูสี
อันนี้ สาวญี่ปุ่น
ทางลงพระธาตุภูสี ด้านตลาดมืด บ่ายสามโมงครึ่งฝนเริ่มตกอีกแล้ว
สี่โมงตกหนักเลยทีนี้ เลยเข้าไปหลบฝนในวัด....(จำชื่อไม่ได้อีกแล้ว)อยู่ตรงทางลงพระธาตุด้านตลาดมืด(เก็บรูปแนวกว้างมาฝาก) ลุงที่เฝ้าวัดอยู่เคยไปเรียนเกี่ยวกับศิลปะที่เชียงใหม่ด้วย ไปเรียนอยู่ประมาณ5-6 ปี นั่งคุยกับลุงอยู่เป็นชั่วโมง ห้าโมงกว่าฝนเริ่มเบาลงแต่ก็ไม่หยุดซักทีแม่ค้าเริ่มตั้งเต้นท์ขายของกันแล้ว
เราก้อเริ่มหิวแล้วเดินหาอะไรกินดีกว่า มาหยุดตรงร้าน บุฟเฟ่อาหารเจอีกแล้วแต้ร้านนี้รสชาติอร่อยกว่าร้านเมื่อวานมาก แม่ค้าสวยด้วย เลยเบิ้ลไปซะ 2 จานหมดเงินไป 10,000 กีบ(40 บาท)อิ่มเลย
มีแรงแล้วเดินดูสินค้าต่อเลยวันนี้จะซื้อของกลับไปฝากทางบ้านแล้ว เริ่มมืดคนก้อเริ่มมาเยอะขึ้นบรรยากาศก้อคึกคักขึ้น พอมืดฝนก้อหยุดตกพอดี หาซื้อของอยู่นาน ได้เสื้อยืดไปฝากแล้วต่อดีๆหน่อยซื้อมากๆหน่อยได้ตัวละ 50 บาทเอง เลยซื้อมาซะ 10 ตัว (คนขายน่ารักด้วยสิ)
เดินซื้อของจนเมื่อยแล้วจะสามทุ่มแล้วกลับเกสเฮาส์ดีกว่าระหว่างทางก้อเก็บภาพกลางคืนในหลวงพระบางไปเรื่อยๆ
สามทุ่มครึ่งถึงที่พักนั่งคุยเล่นกับเด็กที่เกสเฮาส์ มีกิจกรรมกันเล็กน้อย เด็กที่เกสเฮาส์ที่นี่ดีมากๆ เขาจะคอยถามตลอดว่าต้องการอะไรมั้ย เราต้องการอะไรเดี๋ยวจะหามาให้ 23:30 น. เข้านอนเพื่อเตรียมตื่นแต่เช้ามาตักบาตรข้าวเหนียวที่หน้าเกสเฮาส์
7 ก.ค. 52 5:30 น. ตื่นนอนออกมาหน้าเกสเฮาส์ เริ่มตักบาตรกันแล้วเลยร่วมแจมกับเขาด้วย ทุกคนใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ขนาดฝนตกยังกางร่มตักบาตรกันเลย
ตักบาตรเสร็จฝนยังไม่หยุดตก หนำซ้ำยังตกหนักด้วย ดูแล้วแผนที่จะเที่ยว ถ้ำ,น้ำตก คงต้องยกเลิกแน่ เลยให้ เกสเฮาส์ โทรไปจองตั๋วรถกลับเวียงจันทน์ โชคดียังมีที่นั่ง ได้เที่ยว 8:00 น. กลับเข้าไปอาบน้ำแล้วออกมานั่งกินกาแฟก่อนแล้วให้วงศ์สิทธิ์ ไปส่งที่ขนส่งสายใต้เพื่อขึ้นรถกลับนครเวียงจันทน์ ถึงขนส่งแล้วก่อนจากกันยังได้แลกเบอร์โทรฯกันไว้ด้วยหากเค้ามาไทยหรือเราไปลาวให้โทรหากันอีก ก่อนกลับไม่ลืมที่จะให้ทิปเพื่อเป็นน้ำใจด้วย
8:00 น. รถออกจากหลวงพระบาง(ฝนยังคงตกอยู่ตลอดทาง) 17:00 น. ถึงนครเวียงจันทน์ ฝนก้อยังคงตกอยู่ ก่อนจะหาที่พักเลยเดินไปถ่ายรูปประตูชัยก่อนเพราะว่าพรุ่งนี้จะต้องเดินทางกับรถเที่ยวแรก แปดโมงเช้า
19:00 น. ได้ที่พักชื่อ สิริวันเกสเฮาส์ อยู่แถวหลังสนามกีฬา ห้องแย่มากๆ พัดลมเตียงเดี่ยว ราคา 280 บาท แพงกว่าหลวงพระบางแถมยังสู้ไม่ได้เลย
เหมือนเดิมเข้าห้องอาบน้ำเสร็จก้อออกไปตลาดเย็น (คนลาวเรียก ตลาดของกินสุก) หาอะไรทานได้เป็น นกกระทาทอด,ซี่โครงทอดและข้าวเหนียวตามสุตร แล้วเดินเที่ยวแถวไกล้ๆ 21:00 น. กลับที่พักเข้านอนเตรียมตัวเดินทางพรุ่งนี้เช้า
8 ก.ค. 52 6:00 น. ตื่นนอนอาบน้ำเสร็จเช็คเอาท์ เดินไปขนส่งนครเวียงจันทน์ ระหว่างทางก้อถ่ายรูปไปด้วย
วัดสีสะเกด เป็นวัดเดียวในนครหลวงเวียงจันทน์ที่ไม่โดนคนไทยเผา ตอนเช้าเขายังไม่เปิดให้เข้าชมภายใน
7:00 น. ซื้อปี้ไปอุดร เที่ยวแรก แปดโมง ราคา 88 บาท
10:00 น.ถึงขนส่งอุดร แล้วต่อรถเที่ยว สิบโมงไปพิษณุโลกทันพอดี 17:00 น. ถึงขนส่งพิษณุโลก สรุป การแบกเป้เที่ยวลาวครั้งนี้ใช้เวลา 5 วัน 5 คืน(รวมเดินทาง) ค่าใช้จ่าย 4,159.- บาท
Create Date : 09 กรกฎาคม 2552 |
Last Update : 25 กรกฎาคม 2552 19:40:11 น. |
|
24 comments
|
Counter : 5445 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ~ " ~ วันที่: 11 กรกฎาคม 2552 เวลา:0:02:35 น. |
|
|
|
โดย: innocent IP: 96.255.16.241 วันที่: 11 กรกฎาคม 2552 เวลา:8:35:39 น. |
|
|
|
โดย: จักรกล วันที่: 11 กรกฎาคม 2552 เวลา:10:53:15 น. |
|
|
|
โดย: จักรกล วันที่: 12 กรกฎาคม 2552 เวลา:20:01:21 น. |
|
|
|
โดย: เด็กหญิงบ้านนอก IP: 125.24.47.132 วันที่: 13 กรกฎาคม 2552 เวลา:22:32:44 น. |
|
|
|
โดย: จักรกล วันที่: 14 กรกฎาคม 2552 เวลา:18:54:51 น. |
|
|
|
โดย: dekmor IP: 203.152.16.61 วันที่: 16 กรกฎาคม 2552 เวลา:17:02:25 น. |
|
|
|
โดย: จักรกล วันที่: 16 กรกฎาคม 2552 เวลา:20:02:34 น. |
|
|
|
โดย: จักรกล วันที่: 16 กรกฎาคม 2552 เวลา:20:07:32 น. |
|
|
|
โดย: จักรกล วันที่: 16 กรกฎาคม 2552 เวลา:20:10:39 น. |
|
|
|
โดย: lenuxs IP: 10.192.48.225, 202.80.240.3 วันที่: 22 กรกฎาคม 2552 เวลา:14:42:30 น. |
|
|
|
โดย: lenuxs IP: 10.192.48.225, 202.80.240.3 วันที่: 22 กรกฎาคม 2552 เวลา:15:01:36 น. |
|
|
|
โดย: จักรกล วันที่: 22 กรกฎาคม 2552 เวลา:18:14:15 น. |
|
|
|
โดย: ภราดาวยะ IP: 118.173.238.233 วันที่: 25 กรกฎาคม 2552 เวลา:17:06:45 น. |
|
|
|
โดย: aod IP: 124.120.237.211 วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:16:43:23 น. |
|
|
|
โดย: ninew IP: 117.47.234.139 วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:15:54:43 น. |
|
|
|
โดย: จักรกล วันที่: 7 ตุลาคม 2552 เวลา:0:30:06 น. |
|
|
|
โดย: Nuch ja IP: 220.244.105.133 วันที่: 29 ตุลาคม 2552 เวลา:5:22:30 น. |
|
|
|
โดย: หนึ่ง IP: 110.49.140.188 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2552 เวลา:22:09:50 น. |
|
|
|
โดย: มิลเม วันที่: 17 ตุลาคม 2554 เวลา:16:05:45 น. |
|
|
|
โดย: ีีuu IP: 125.27.101.243 วันที่: 24 กันยายน 2556 เวลา:16:59:00 น. |
|
|
|
โดย: uu IP: 125.27.101.243 วันที่: 24 กันยายน 2556 เวลา:17:00:46 น. |
|
|
|
โดย: uu IP: 125.27.101.243 วันที่: 24 กันยายน 2556 เวลา:17:01:35 น. |
|
|
|
| |
|
|