ลานหินแตก-ลานหินปุ่ม อช.ภูหินร่องกล้า
มีเวลาว่างวันหยุดยาว ช่วง 5-7 ธ.ค. 52 ถือโอกาศเที่ยวเขารับลมหนาวกันดีกว่าเป็นทริปแรกของหน้าหนาวนี้ จุดหมายก้อคือ อช.ภูหินร่องกล้าครั้งนี้เดินทางแบบสองล้อ คือมอเตอร์ไซด์แต่งวิบากคันเก่ง เจ้าจักรกลน้อยเริ่มเดินทาง 05:00น. จาก จ.สุโขทัย ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง 08:00น. ก้อถึง ลานหินแตก อช.ภูหินร่องกล้านี่ไงครับเจ้าจักรกลน้อยถนนทางเข้า อช.ภูหินร่องกล้า จะเสียหายเล็กน้อย แต่พอไกล้ถึง ลานหินแตก ถนนดีมากครับถึงแล้วครับลานหินแตก คนเยอะมากๆ ต้องรออยู่พักหนึ่งกว่าจะได้ถ่ายรูปป้ายลานหินแตกแบบไม่มีคนยืนคู่ทางเดินไปลานหินแตกต้องผ่านต้นไม้สวยๆต้นนี้เห็นแล้วครับ นี่ไงลานหินแตกคำอธิบายเดินจากถนนเข้าไปประมาณ 3-4 ร้อยเมตรก้อเจอลานหินแตกอีกเดินเข้าไปลึกอีกหน่อยก้อเจอเหมือนเดิม เลยหันหลังกลับออกไปดีกว่าความรู้ทางธรรมชาติ เกี่ยวกับลานหินแตกหลังจากเดินชมลานหินแตกอยู่พักหนึ่ง ก้อเดินทางกันต่อ เจ้าจักรกลน้อยเริ่มหิวน้ำแล้ว ต้องหาที่เติมก่อน เลยจากลานหินแตกไป เลยโรงเรียนการเมืองทหารไป ประมาณ 6-7 กิโล ก้อถึงบ้านร่องกล้า เติมน้ำมันให้กับเจ้า จักรกลน้อย หมดไป 220.-บาท แล้วก้อกลับมาแวะที่ โรงเรียนการเมืองทหาร ที่นี่ดูมืดๆเพราะว่าต้นไม้สูงและแสงแดดส่งลงมาไม่ถึง อากาศค่อนข้างหนาวเย็นความรู้อีกแล้วครับบรรยากาศภายใน โรงเรียนฯภายในที่พักที่หลบภัยทางอากาศ ดูๆแล้วหากเข้าไปหลบข้างในปลอดภัยแน่นอนเกี่ยวกับแทรคเตอร์ที่ถูกยึด (รุ่นนี้ที่ทำงานยังใช้อยู่เลยครับ ซ่อมเป็นประจำ)หลังจากนั้นก้อมาต่อที่ ผาชูธง-ลานหินปุ่ม คนเยอะอีกแล้ว รถยนต์ไม่มีที่จอดแล้วต้องจอดตามข้างทางแล้วเดินเข้าไปอีกหลายร้อยเมตร(โชคดีที่เราเอามอไซด์มา)มาดูบริเวณลานจอดรถครับ เยอะจริงๆทั้งรถทั้งคนแผนที่ทางเดินเส้นทางธรรมชาติครับจุดเริ่มต้นเดินทาง ต้องเดินไปลานหินปุ่มอีก 1,200 เมตรระหว่างทางเดินก้อเก็บภาพไปเรื่อยๆใครเหนื่อยก้อนั่งพักกัน จะเห็นได้เป็นระยะๆระหว่างทางเดินก้อมีลานหินแปลกๆให้ชมกันเรื่อยๆจุดนี้มีคนมาทำท่ายกหินถ่ายรูปกันเยอะเจอลานหินแปลกๆอีกแล้วลานหินกว้างๆใกล้ถึงจุดชมวิวและผาชูธงแล้ว แต่ลานหินปุ่มมาได้ครึ่งทางเอง เฮ้อ...เหนื่อยถึงแล้วครับจุดชมวิว แต่น่าแปลกไม่เห็นมีคนอยู่ตรงนี้เลยวิวสวยๆก้อทำให้หายเหนื่อยกันได้บ้างในเมื่อไม่มีคน ก้อตั้งกล้องถ่ายรูปตัวเองไว้เป็นที่ระทึกสักหน่อยวิวด้านล่างของหน้าผาจุดชมวิวมองไปทางด้านซ้ายมองไปทางด้านขวาก้อเห็นผาชูธง ถึงว่าทำไมจุดนี้ไม่มีคนเลย เพราะว่าเดินไปอีกหน่อยก้อถึงผาชูธงแล้ว ภาพนี้ถ่ายจากจุดชมวิวครับหลังจากนั่งพักเหนื่อยกันแล้วก้อเดินต่อไปผาชูธง โอ้..คนเยอะจริงๆแทบไม่มีที่ยืนเลย เราเลยไม่ได้ขึ้นไปไม่ขึ้นไปผาชูธงก้อเดินต่อครับเดินมาเรื่อยๆก้อมีจุดชมวิวเป็นระยะๆทางเดินไปลานหินปุ่มหินเยอะจริงๆครับมีหลายรูปแบบ ดูเหมือนวางซ้อนๆกันอยู่เจอจุดชมวิวอีกแล้ว ไม่มีคนเลยจุดนี้หากชมพระอาทิตย์ตกดินคงสวยมากๆ แต่ว่าหากอยู่ชมพระอาทิตย์ตกดินตอนขากลับอาจจะมืดได้ร่องหินครับ หากตกลงไปคงแย่ถึงแล้วครับลานหินปุ่ม จุดสำคัญๆจะมีคนเยอะทุกที่ครับพยายามเดินหาจุดที่ไม่มีคน ต้องเดินข้ามไปอีกฟากหนึ่งครับ ซึ่งจุดนี้ไม่ค่อยมีคนไปลานหินแตกฝั่งนู้นคนเยอะครับ แต่ฝั่งนี้มีเราอยู่แค่คนเดียวเองวิวข้างล่างครับกล้วยไม้ป่าตามคบไม้มีเยอะแยะครับ แต่ไม่ควรไปแตะต้องมันครับพอจะทราบสาเหตุแล้วครับว่าทำไมฝั่งนี้คนไม่ค่อยมากันเนื่องจากมันมีต้นหญ้าขึ้นตามซอกหินนั่นเองว่าแล้วก้อเลยเดินไปฝั่งที่มีคนเยอะๆ เพื่อเปรียบเทียบกัน มาดูหินกันชัดๆเลยวิวด้านล่างของลานหินปุ่มนั่งไงครับฝั่งนู้นที่เราไปมาเมื่อกี้ จะเห็นว่าคนน้อยมาก เท่าที่เห็นอยู่มีแค่คนเดียวเองพอหันไปอีกข้าง มองเห็นผาชูธงอยู่ไกลๆ คนก้อยังเยอะอยู่(ก้อมันวันหยุดนี่นา)นั่งชมวิวอยู่พักใหญ่ๆก้อสมควรแก่เวลาแล้ว เห็นทีต้องเดินกลับกันแล้วชมธรรมชาติระว่างทางเดินกลับไปเรื่อยๆครับ ธรรมชาติสวยๆทำให้หายเหนื่อยได้ฝายต้นน้ำแบบผสมผสานหินซ้อนครับ ไม่รู้ว่ามันยังตั้งอยู่ได้ไงชมอะไรไปเรื่อยๆยังเห็นผาชูธงอยู่ไกลๆ ซูมเข้ามาดูใกล้ๆก้อเห็นว่าคนไม่เคยว่างเลยเดินมาจนถึงลานจอดรถแล้วเย็นพอดี เพิ่งเห็นดอกไม้อยู่ข้างทาง ไม่รู้ว่าดอกอะไร แต่ทำไมขาเข้าไปไม่ได้สังเกตุเห็นส่งท้ายกันด้วยภาพนี้แล้วกัน แต่ถ่ายที่ด่านเข้าอุทยานฯ ตรงทางแยกขึ้นยอดทับเบิก
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
ชอบถ่ายรูป และท่องเที่ยว รถคุณจักรกลสวยดีครับ
ขอแอดคุณไว้นะ เราชอบเหมือนๆๆกัน.