Group Blog All Blog
|
Hi! Seoul....Part III
เช้าวันนี้อากาศดีมากครับ ท้องฟ้าโปร่งอากาศเย็นสบายเราจะไปเดินเที่ยววังกัน วังของเกาหลีมีทั้งหมด
พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1395 เพื่อเป็นพระราชวังหลักของ
ซื้อบัตรแล้วเดินผ่านเข้าซุ้มประตูมา เราจะเห็นประตูเมืองอยู่ด้านขวา ชื่อประตูกวงฮวามุน(Gwanghwamun)
เดินผ่านซุ้มประตูเข้าไปจะพบกับพระที่นั่งคีนซองจอน(Geunjeongieon) หลังที่เห็นปัจจุบันนี้สร้างขึ้นเมื่อ เดินผ่านพระที่นั่งคีนซองจอน ไปทางด้านหลังมีตำหนักเล็กๆเป็นหมู่ แต่ส่วนใหญ่จะให้ชมแต่ด้านนอกครับ เดินออกประตูทางด้านซ้ายมือ จะเจอพระตำหนักเคียงเฮรู(Gyeonghoeru) ซึ่งเป็นพระตำหนักที่ตั้งอยู่กลาง เส้นทางเดินชมพระราชวังเคียงบก จัดแบบวันเวย์เมื่อเราเดินตามทางไปเรื่อยๆ จนะสุดท้าย ท้ายสุดเมื่อเดิน จากพระตำหนักกลางน้ำ เดินต่อไปทางด้านขวามือจะพบกับพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งชาติเกาหลี ไม่ต้องซื้อ หันหน้าออกจากพิพิธภัณฑ์ ซ้ายมือมีประตูทางออกสู่ถนนซัมซองดงโร(Samcheongdongro) ตอนแรกผม เส้นทางเดินก่อนถึงสถานี Anguk สองข้างทางจะมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ และ Art Gallery อยู่หลายร้าน พออิ่มแล้ว จากแผนเดิมที่จะเดินต่อไปยังชางด๊อกกุง สมาชิกก็เริ่มงอแงไม่ยอมเดินต่อ ผมเลยต้องใช้แผน เดิมทีวังนี้เป็นบ้านของชายหนุ่มชื่อ Gojong ซึ่งต่อมากลายเป็นจักรพรรดิ์ในช่วงราชวงศ์โชซอนและได้รับ ออกจาก Unhyeongung Palace ข้ามถนนแล้วเดินต่อไปเรื่อยๆก็จะถึง Insadong ย่านการค้าที่เป็นแหล่ง ในถนนเส้นอินซาดงหากเดินเรื่อยๆโดยไม่ย้อนกลับทางเดิมสามารถไปขึ้นรถไฟฟ้าสาย 1 สถานี Jonggak เดินทะลุตลาดนัมแดมุนออกไป จะพบกับประตูนัมแดมุม(Namdaemun Gate) หรืออีกชื่อหนึ่งคือประตู จากประตูนัมแดมุนเดินย้อนกลับมาทางเดิม เพื่อมาขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานี Hhoehyeon กลับไปเมียงดงครับ นั่งกระเช้าไม่กี่นาทีก็ขึ้นมาถึงแล้วครับ N Seoul Tower หรือ Namsan Seoul Tower หอคอยที่สร้างขึ้น มีผู้คนขึ้นมาเยือนที่นี่กันเป็นจำนวนมาก เพราะสามารถมองเห็นวิวทิวทีศน์ของกรุงโซลสวยงามมากโดย นอกจากนั้นบริเวณระเบียงชมวิวยังเป็นที่ที่หนุ่มสาวเอากุญแจมาคล้องแล้วโยนลูกกุญแจทิ้งเพราะเชื่อว่า หากใครเป็นแฟนเท็ดดี้แบร์ก็ไม่ควรพลาดชมพิพิธภัณฑ์หมีเท็ดดี้ซึ่งอยู่ชั้นล่างของ N Seoul Tower ที่นี่จะ ได้เวลากลับกันสักทีครับวันนี้ตะลอนกันทั้งวันเลย เราย้อนลงกลับเส้นทางเดิมพอกลับมาถึงที่พักผมก็ขอ Hi! Seoul....Part II
วันนี้เราจะเดินทางไกลกันสักหน่อยครับ จากโซลเราจะไปทางฝั่งตะวันออกขึ้นไปทางเหนือ คือเมือง พอถึงสถานี Gangbyeon เดินขึ้นทางออก 4 ครับ ออกมาก็จะ งงๆ นิดนึง ให้มองขวามือเยื้องไปทางด้านหลัง
รถบัสที่นี่ออกตรงเวลามากครับ พอ 7 โมง 10 นาทีปุ๊บ รถออกทันทีครับ ทั้งคันมี 7 คนรวมคนขับ ไม่เหมือน เลยจากจุดแวะพักมาไม่นาน ภูมิประเทศเริ่มเปลี่ยนไปเป็นป่าเขา แล้วจู่ๆหิมะต้นฤดูร้อนก็ตกอย่างหนักเลย ขับมาอีกไม่นานเราก็มาถึงเมืองซกโซ(Sokcho)ครับ หิมะหยุดตกแล้วแต่ถนนหนทางเฉอะแฉะมาก ท้องฟ้า ถึงสถานี Sokcho ผมแวะไปดูตารางรถขากลับ รถออกทุก 40 นาที คันสุดท้ายประมาณ 6 โมงเย็น ผมเลย
รถเมล์จะมาจอดที่หน้าอุทยานครับจากนั้นเราต้องเดินต่อเข้าไป ประมาณสัก 200 เมตรได้จะเห็นร้านอาหาร กินข้าวเสร็จก็เดินเข้ามาซื้อบัตรผ่านประตู ราคา 2,500 Won ต่อคนครับ ผ่านประตูมาแล้วยังไม่ทันได้เดิน
หลบหลังซุ้มขายบัตรจนหิมะหยุดตกก็เดินทางกันต่อเลยครับ เดินเข้าไปด้านในประมาณสัก 500 เมตรจะ อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน(Seoraksan) ตั้งอยู่ในจังหวัดกังวอน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ และเป็นจังหวัดที่อยู่เหนือสุดของเกาหลีใต้
ด้านบนอากาศหนาวมากครับเราเลยยืนรับไออุ่นในสถานี Cable Car สักพักก่อนค่อยออกเดินสู่ยอดเขากัน
กลับลงมาที่สถานี Cable Car เพื่อนั่งกระเช้ากลับลงไปด้านล่าง ที่สถานีจะมีอาหาร น้ำ และกาแฟขายนะ
ระหว่างทางเดินจะมีร้านค้า ร้านอาหาร แต่วันที่ผมไปเหมือนว่าจะเปิดอยู่ไม่กี่ร้านคงเพราะไม่ค่อยมีคนมาเที่ยว
เดินต่อเข้ามาด้านในจะพบกับวัดชินฮันซา(Sinheungsa) วัดในสมัยราชวงศ์ชิลลาอายุกว่า 1,000 ปี เข้ามาถึง
เรากลับออกมาด้านนอกเห็นรถเมล์จอดรอผู้โดยสารอยู่ตรงจุดที่เราลงรถตอนเช้า สาย 7-1 เช่นเดียวกับขามา ภาพจาก : //4.bp.blogspot.com ผมได้รถเที่ยวบ่าย 3 โมงครึ่ง รอประมาณแค่ 10 นาทีครับ ขากลับ คนเยอะพอสมควร รถจะจอดกลางทาง Hi! Seoul....PartI
HI...SEOUL กำลังร้อนระอุเลยสำหรับคาบสมุทรเกาหลี แต่ที่ผ่านมาก็ร้อนมาหลายครั้ง อย่างไรก็ตามเกาหลีใต้ก็ยังเป็น
ทริปนี้ก็เหมือนๆกับหลายๆทริปที่ผ่านมาของผม คือเริ่มจากตั๋วเครื่องบินราคาถูกครั้งนี้ผมจองแอร์เอเซียได้ ซื้อตั๋วเสร็จก็ขึ้นรถเลยครับ รถจอดอยู่ที่ ช่องหมายเลข 12A มีป้ายชัดเจนครับ มีพนักงานบริการขนกระเป๋า ในที่สุดก็มาถึงสักทีครับ IB Ville Guesthouse ผม e-mail มาแจ้งเค้าล่วงหน้าว่าจะมาถึงดึกประมาณ 5 ทุ่ม ระบบขนส่งในโซล ระบบขนส่งในโซลที่สะดวกที่สุดก็คือโครงข่ายรถไฟฟ้าครับ ซึ่งมีมากมายกว่า 10 สาย หากดูแผนที่รถไฟฟ้า สมมติจาก Myeong-dong เราจะไป Cityhall เราก็ขึ้นรถสายสีฟ้าจากสถานี Myeong-dong(424) ไปลง
NAMISEOM เช้าวันแรกในเกาหลี แม้จะเป็นปลายเดือนมีนาคมแต่อากาศที่นี่ก็ยังคงหนาวเย็นอยู่ เราออกจากที่พักกันแต่เช้า จากเมียงดงไปเกาะนามิหรือ Namiseom เรานั่งรถไฟใต้ดินสาย4 จากสถานี Myeong-dong(424) ไปต่อ จาก Gapyeong จะต่อไปท่าเรือที่จะไปเกาะนามิ ทางที่สะดวกที่สุดคือ Taxi ครับ เรียกที่หน้าสถานีเลยครับ นั่งเรือประมาณ 10 นาทีก็มาถึงเกาะนามิครับ เกาะนามิเป็นเกาะกลางแม่น้ำฮัน ซึ่งเกิดจากการสร้างเขื่อน
แต่จุดไฮไลท์ที่สุดก็คงอยู่ที่แนวต้นเกาลัดด้านในสุด ซึ่งเป็นฉากในหนัง Winter Love Song ซีรีส์เกาหลี เรากลับมาที่ท่าเรือเพื่อนั่งเรือกลับ ตอนซื้อตั๋วขามามันเป็นตั๋วไป-กลับนะครับ เพราะฉะนั้นไม่ต้องซื้อตั๋วอีก รถบัสรอนานมากครับและไม่มีผู้ร่วมชะตากรรมมารอด้วยเลยจนชักหวั่นๆว่ามาถูกที่รึเปล่า แต่เห็นป้ายรถไป มาถึงแล้วครับ บรรยากาศหลอนๆพิกล แทบไม่มีผู้มีคน ด้านในก็เป็นร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ดูๆไป กลับมาที่สถานี Cheongpyeong รอรถไฟเพื่อกลับเข้า Seoul มาถึง Myeong-dong ก็ค่ำพอดีครับ ได้เวลา
Ni Hao Kunming-Dali-Lijiang Part II
จากต้าลี่สู่ลี่เจียงเดินทางได้ 2 แบบคือ โดยรถ Bus โดยสารหรือโดยรถไฟ แต่ผมแนะนำให้ขึ้นรถบัสครับ รถออกจากเมืองเก่าต้าลี่ผ่านมาทางเจดีย์สามองค์แล้ววิ่งขนานทะเลสาบเอ๋อไห่ไปทางเหนือ สักพักก็เริ่ม เมืองลี่เจียงอยู่ห่างจากต้าหลี่ 160 กิโลเมตร มีความสูง 2,400 เมตร จากระดับน้ำทะเล ตัวเมืองตั้งอยู่เชิงเขา เมืองลี่เจียงเคยเป็นที่พักกองคาราวานระหว่างไปทิเบต ในปี 1253 กุบไลข่านได้เดินทัพผ่านมาและได้ตั้งชื่อว่า ชนพื้นเมืองของเมืองลี่เจียงคือเผ่าหน่าซี ที่แยกย่อยมาจากเผ่าเชียงในทิเบต ยกย่องสตรีเป็นใหญ่ สตรีมีบทบาท ลี่เจียงต่างจากต้าลี่ตรงที่ต้าลี่เมืองใหม่และเมืองโบราณจะอยู่คนละฟากกัน แต่ที่ลี่เจียงเมืองใหม่ล้อมรอบ เมื่อเก็บกระเป๋าเข้าที่พักแล้วก็เดินทางกันต่อ ออกมาตรงทางเข้าเมืองเก่าจะมีสวนสาธารณะและภูเขาลูก เดิมทีสระมังกรดำ(Black Dragon Pond) เป็นสระน้ำสีมรกตมีลักษณะคอดตรงกลางคล้ายวงนอกของเลข 8 จากสระน้ำมังกรดำในวันอากาศดีจะมองเห็นยอดภูเขาหิมะมังกรหยกเป็นฉากอยู่เบื้องหลังครับ แต่วันที่ผม กลับมาเมืองเก่าลี่เจียงอีกครั้งเพื่อมาเดินชมเมืองเก่ายามค่ำ ยามค่ำที่นี่จะกลายเป็นไนท์บลาซาร์เลยครับ สิ่งหนึ่งที่ต้องระวังเมื่อเข้ามาเดินเที่ยวที่นี่ คือระวังหลงทางครับ เพราะตรอกซอกซอยมันเหมือนกันหมด Jade Dragon Snow Mountain หรือภูเขาหิมะมังกรหยก อยู่ห่างจากตัวเมืองลี่เจียง 15 กิโลเมตร การเดิน แต่ถ้าชีวิตประจำวันคุณเรียบง่ายเกินไปก็ขึ้นรถเลยครับ ประมาณสักชั่วโมงกว่าๆรถตู้พาเรามาถึงอุทยาน ก่อนอื่นเราไปดูโชว์ Impression Lijiang Show กันก่อนครับ โชว์นี้หากมาฤดูร้อนเหมือนผมมีโชว์ 2 รอบคือ Impression Lijiang Show ออกแบบโชว์โดยจางอี้โหมว ผู้กำกับคนดังผู้ออกแบบโชว์พิธีเปิดโอลิมปิกเกมส์ จบโชว์เราก็ไปต่อกันที่กระเช้าขึ้นเขาครับ กระเช้าที่อุทยาน มีหลายระดับความสูงนะครับแต่กระเช้าที่เราจะ เมื่อขึ้นรถบัสได้แล้วก็นั่งไปประมาณ 10 นาที จะถึงสถานีกระเช้าที่จะพาขึ้นสู่ Glacier หรือยอดเขา Yulong ใครที่ร่างกายสมบูรณ์เดินต่อขึ้นไปถึงจุดชมวิวด้านบนก็ได้ครับ แต่ผมขออยู่ชมความงามแค่ตรงนี้ดีกว่า เล่นหิมะกันจนสะใจถึงเวลากลับลงด้านล่างแล้วครับ ถึงด้านล่างก็ต้องกลับไปเข้าแถวรอรถกลับอีก พอลง ขากลับออกมาแวะเข้าไปเที่ยวที่หมู่บ้านน้ำหยก (Jade Water Village) เป็นหมู่บ้านพื้นเมืองเล็ก ๆ ท่าม จริงๆแล้วภายในอุทยานยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายแต่เนื่องจากเวลาที่จำกัด และการเดินทางที่ค่อน จากลี่เจียงคุณสามารถไปต่อแชงกรีลา(Shangri-La) ได้ครับขึ้นรถที่ Bus Station ต่อไปอีก 200 กิโลเมตร กลับมาถึงคุณหมิงเย็นแล้ว เก็บข้าวของเสร็จก็ออกมาเดินย่านชอปปิ้งสตรีทของคุณหมิง บรรยากาศเหมือน เช้าวันสุดท้ายก่อนกลับแวะไปเที่ยว วัดหยวนทง เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดของมณฑลยูนนาน
หากใครมีเวลามากกว่านี้จะไปเที่ยวป่าหินยูนนานสักวันนึงก็ได้นะครับ นั่งรถบัสจาก Bus Station ไป Stone สำหรับทริปนี้ผมขอจบเพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน มาดูรูป หรือแวะมาดูเฉยๆก็ตาม พบกันใหม่ Ni Hao Kunming-Dali-Lijiang Part I
สวัสดีครับทุกๆท่าน ผมห่างหายจากการทำรีวิวไปนานมาก ด้วยภารกิจมากมายทำให้มีทริปคงค้างอยู่เยอะ ออกจากเมืองไทยเวลา 11 โมงถึงคุนหมิงราวๆบ่าย 2 สนามบินคุนหมิงเป็นสนามบินที่สร้างใหม่ครับส่วน จาก West Bus Station มีรถบัสไป Xiaguan หรือเมืองใหม่ต้าลี่ เมืองต้าลี่มี 2 เมืองครับคือเมืองใหม่ซึ่งเป็น มาถึงต้าลี่ก็มืดค่ำพอดีครับ จากสถานีมีรถมินิบัสวิ่งระหว่าง Xiaguan กับ Dali ค่าโดยสาร 3 หยวน โรงแรม
ต้าหลี่ เป็นเมืองเอกของเขตปกครองตนเองชนชาติไป๋ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลยูนนาน
จากเมืองเก่าต้าลี่เดินขึ้นไปทางเหนือประมาณ 1 กม. (ให้หันหน้าไปตามถนนใหญ่ ด้านซ้ายคือภูเขา ด้านขวา
เจดีย์องค์กลางสูงที่สุดมีชื่อเรียกว่า Qianxun Pagoda มีความสูง 69.13 เมตร(227 ฟุต) สร้างขึ้นสมัยราชวงศ์ถัง เดินขึ้นเขไปเรื่อยๆจะพบกับประตูวัด Chongsheng Temple วัดนี้มีวิหารอยู่หลายหลังมีพระสงฆ์สวดมนต์อยู่
วิหารหลังใหญ่ด้านบนสุดครับ ใหญ่มากจนต้องใช้เลนส์มุมกว้าเก็บภาพ ทำให้ภาพดูเบี้ยวๆไปครับ วิหารด้านบนสุดเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่และพระโพธิสัตว์ปรางต่างๆ รอบๆผนังภายในวิหาร กลับลงมาด้านล่าง บริเวณรอบๆวัดมีร้านค้าที่ขายผลิดภัณฑ์ที่แกะสลักจากหินอยู่หลายร้านครับ เมืองต้าลี่ เรากลับมาที่เมืองโบราณต้าลี่ มาเดินตลาดโบราณกัน สายๆผู้คนออกมาเดินกันมากมาย ร้านค้าส่วนใหญ่ในเมืองโบราณต้าลี่ จะเป็นร้านหยก เครื่องเงิน และพวกขนมต่างๆโดยเฉพาะบ๊วย บ๊วยที่นี่ จากถนนใหญ่หน้าเมืองโบราณต้าลี่นั่งรถเมล์สาย 8 ไปที่หมู่บ้านวัฒนธรรมของชนชาติไป๋ ขึ้นรถด้านเดียวกับ
กลุ่มหมู่บ้านที่นี่เป็นลักษณะการแต่งบ้านของชนชาติไป๋ในแบบพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง มีชาวบ้านใส่ชุดชนเผ่าไป๋ จากหมู่บ้านไป๋กลับมาเส้นทางเดิมสู่เมืองเก่าต้าลี่ เวลาช่วงบ่ายยังพอมีเวลาเหลือไปชมทะเลสาบเอ๋อไห่กัน นั่งรถเที่ยวเมืองใหม่ต้าลี่หรือ Xiaguan กันสักนิดครับ ตึกที่เห็นรูปร่างแปลกๆนั่นคือโรงแรม Grand Bay คืนนี้เดินเล่นเมืองเก่าต้าลี่ก่อนพรุ่งนี้จะอำลาไปเมืองลี่เจียงครับ ปกติผมไม่ค่อยได้รีวิวเรื่องอาหารการกิน เดิมทีผมกะว่าจะรีวิวทีเดียวให้จบทริปไปเลย แต่ดูๆไปแล้วมันยาวขึ้นเรื่อยๆงั้นผมขอแบ่งเป็น 2 ตอนแล้ว ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ |
นักบัญชีขี้บ่น
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?] Link |