ความไม่รู้เป็นลาภอันประเสริฐ

เทพผู้สีซอ แพะ ลา และควาย

เทพผู้คุ้มครองป่าแห่งหนึ่ง เป็นผุ้ที่ชื่มชมเสียงดนตรี ชอบเล่นดนตรีอยู่เป็นนิจ
ทุกๆวันจะนั่งสีซอด้วยความสุนทรีย์ มาวันหนึ่งเกิดความสงสัยในเสียงเพลงซอของตนว่าผู้อื่นจะรู้สึกเช่นใด
จึงได้ทำการเรียกสัตว์ 3 ชนิดที่อาศัยอยู่ในอาณาบริเวณมาเพื่อสอบถาม สัตว์ทั้ง3 ได้แก่ แพะ ลา และควาย
เมื่อทั้ง3มาพร้อมหน้ากันแล้ว เทพก็ได้ทำการบรรเลงเพลงซอให้ทั้ง3ได้ฟัง

และเมื่อถึงจุดหนึ่งก็ หยุดเพลงลงและ เทพได้หันไป ถามแพะว่า บทเพลงเป็นเช่นไร
"เพลงท่านไร้ซึ่งความไพเราะ โน๊ตกระโดด ความต่อเนื่องของช่องดนตรีไม่สัมพันธ์กันเลย
จังหวะเร่ง-ผ่อนก็ไม่มีความสมดุลแม้แต่น้อย อีกทั้งสายซอก็ปรับไว้ไม่พอดีทำให้เสียงเพี้ยน
ตัวท่านเองก็ต้องปรับปรุงความสามารถอีกมาก"
เทพได้ยินความจริงเช่นนั้นก็โกรธจนระงับอารมณ์ไว้ไม่อยู่
"เจ้าพูดเช่นนี้ได้อย่างไร เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นเทพเจ้าผู้ครองผืนป่าแห่งนี้ เจ้าไม่อาจจะกล่าววาจาแบบนี้กับข้าได้"
และเทพก็ได้ทำการไล่แพะออกไปจากป่าที่อาศัย

เมื่อแพะจากไป เทพก็ทำการบรรเลงเพลงซอต่อ และก็หยุดลง ในครั้งนี้ได้หันไปถาม ลาว่า บทเพลงเป็นเช่นไร
"เพลงของท่านสมบูรณ์ไปทุกท่วงทำนวง มีพร้อมไปหมดไม่ว่าจะเป็น ในแง่ของศาสตร์หรือความเป็นศิลป
ถือเป็นบุญของเหล่าสรรพสัตว์ที่อาศัยในป่าแห่งนี้ ที่ได้ฟังเพลงเช่นนี้ในทุกเมื่อเชื่อวัน"
เทพได้ยินคำพูดสอพลอของลา ที่ฟังแล้วไม่น่าเชื่อถือเช่นนั้นก็โกรธจนระงับอารมณ์ไว้ไม่อยู่อีกครั้ง
"เจ้าพูดเช่นนี้ได้อย่างไร เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นเทพเจ้าผู้ครองผืนป่าแห่งนี้ เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้รึว่าเจ้านั้นกำลังโกหกข้าอยู่"
และเทพก็ได้ทำการไล่ลาออกไปจากป่าที่อาศัย ตามแพะไป

แล้วเทพก็ บรรเลงต่อไป เมื่อหยุดลง ก็หันมาเพื่อที่จะถามควายว่า บทเพลงเป็นเช่นไร
แต่เมื่อหันมามองหาก็ ไม่พบควายอยู่ตรงหน้า เทพก็เงยหน้ามองไปด้านหน้า
พบว่าควายกำลังเกลือกกลั้วอยู่ที่ไร่นาเบื้องหน้า ควายกำลังแทะเล็มหญ้าที่ท้องทุ่งอย่างสบายใจ

เทพเห็นดังนั้นก็ พึงพอใจกับอากัปกริยาที่ควายแสดงออกต่อบทเพลงซอของตน
แล้วก็ได้ทำการบรรเลงบทเพลงต่อไปอย่างสบายใจ



นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า.................................




 

Create Date : 03 กรกฎาคม 2552   
Last Update : 3 กรกฎาคม 2552 21:49:31 น.   
Counter : 590 Pageviews.  

ควาย กับ วัว

ควายตัวหนึ่งอยากจะให้ผิวตัวเองขาวสวยเหมือนกับวัว เหมือนเช่นที่เห็นในโฆษณา

มัน เข้าใจไปว่าคงเพราะวัวซึ่งอาศัยอยู่ใกล้ความเจริญ ได้ใช้ของดีๆจึงทำให้ผิวขาวสะอาด ด้วยเหตุนี้ควายจึงทิ้งท้องทุ่ง ไร่นา ถิ่นฐานอันเป็นที่รัก ที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหารที่แสนอุดม

ย้าย เข้ามาอยู่ใกล้ความเจริญ พยายามเลียนแบบและใช้ของตามอย่างที่โฆษณากล่าวว่าวัวได้ใช้เช่นนี้ แต่แล้วผิวของควายก็มิได้ขาวสะอาดขึ้นเลยแม้แต่น้อย ยังคงดำสนิทอยู่เช่นเดิม

หนำซ้ำมันยังต้องอดอาหารที่เคยได้กิน อย่างสมบูรณ์ เนื่องด้วยความห่างไกลจากทุ่งหญ้าท้องนาที่เคยหากินได้อย่างสะดวกสบาย อีกทั้งยังหมดไปกับค่าใช้จ่ายในเพื่อผิวที่ขาวขึ้นเป็นจำนวนมาก

ในไม่ช้าควายก็ถึงแก่ความตาย เพราะไม่สามารถหาอาหารมาประทังชีวิตได้เหมือนเคย

และท้ายที่สุดผิวก็ยังดกดำเช่นที่เคยเป็นมา





นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า.................................




 

Create Date : 03 กรกฎาคม 2552   
Last Update : 3 กรกฎาคม 2552 21:49:00 น.   
Counter : 346 Pageviews.  

ควายป่ากับควายนา

ควายป่ากับควายนา...หาหญ้าเอามากินกัน
ได้หญ้าทุกวัน...รักกันก็ปันกันไป
หาหญ้ากันมานมนาน...หาหญ้ามาบานตะไท
จนแม้ใคร ๆ...รู้น้ำใจไมตรีปรีดา

แต่แล้ววันหนึ่ง...เคราะห์มาถึงถะ (มอ สระอึ งอ) ทึงมา
สองตัวถึงครา...แย่งทุ่งหญ้าท้องนากันเกรียว
ควายป่ากับควายนา...โศกาอาวรณ์จริงเชียว
ควายInwมาเดี๋ยวเดียว...คว้าหญ้าเพียว ๆ ไปกิน


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า............................




 

Create Date : 29 สิงหาคม 2551   
Last Update : 29 สิงหาคม 2551 3:00:11 น.   
Counter : 392 Pageviews.  

ชาวนากับควาย

เช้าวันหนึ่งในฤดูร้อน อากาศร้อนมากๆ ชาวนาผู้หนึ่งได้ออกจากบ้านไปทำนาตามปกติ

ในท่ามกลางแสงแดดอันร้อนระอุนั้น ชาวนาได้พบควายตัวหนึ่งนอนหมดสภาพตัวนิ่งอยู่เพราะความร้อนจัด
มันไม่กระดุกกระดิกเลย ชาวนาเฝ้ามองดูมันอยู่นานด้วยความรู้สึกสงสารอย่างจับใจ

ดังนั้นชาวนาจึงค่อยๆ จับควายตัวนั้นลากไปที่หนองน้ำปลายนา เพื่อให้มันได้รับความชุ่มชื่นจากหนองน้ำ
และได้ตักน้ำจากหนองเพื่อราดไปตามตัวของควาย

ไม่นานนักที่ชาวนาราดน้ำไปจนทั่วบนตัวควาย ความชุ่มชื้นจากน้ำของชาวนาช่วยให้ควายตัวนั้นค่อยๆ
เคลื่อนไหวได้ ในที่สุดเมื่อควายตัวนั้นเคลื่อนไหวได้ตามปกติ

เมื่อมันเป็นปกติ มันก็กลับลุกขึ้นหมายจะขวิดเอาชีวิตชาวนาผู้มีพระคุณทันที
เพียงเพราะชาวนานั้นคาดผ้าขาวม้าที่มีสีแดง

แต่ทว่าเมื่อควายตัวนั้นขยับตัวก็พบว่า ชาวนาได้ทำการสนตะพาย
และล่ามตนไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ควายไม่อาจจะไปทำร้ายชาวนาได้

แล้วชาวนาก็เดินมาหาควายและนำเอาไถมาติดตั้งกับควาย
เมื่อเสร็จสิ้นชาวนาก็ได้ใช้ให้ควายไถนาเพื่อตอบแทนที่ตนเองลากมาแช่น้ำ




 

Create Date : 29 สิงหาคม 2551   
Last Update : 29 สิงหาคม 2551 2:59:39 น.   
Counter : 567 Pageviews.  

ควายกับเงา

ควายตัวหนึ่งคาบหญ้าจากทุ่งหญ้าวิ่งข้ามท้องนามา
ขณะอยู่ตรงท้องนามันเหลือบเห็นเงาของตัวเองในหนองน้ำ

แต่มันเข้าใจว่าเป็นควายอีกตัวหนึ่งซึ่งคาบหญ้ากอใหญ่กว่าของมัน
มันจึงกระโจนลงหนองน้ำหมายจะงับแย่งกอหญ้าที่ใหญ่กว่าจากควายที่สะท้อนในน้ำ

เมื่อเป็นเช่นนั้นหญ้าในปากของมันจึงตกน้ำไป และเงานั้นก็หายไปด้วย
ทำให้มันต้องสูญเสียทั้งหญ้าของตนและหญ้าที่ตนคิดอยากจะได้

แล้วควายก็พบว่าน้ำในหนองน้ำช่างเย็นสบาย
และอากาศร้อนๆเช่นนี้การได้แช่น้ำในหนองน้ำช่างทำให้มีความสุขจริงๆ
ดังนั้นมันจึงเล่นน้ำ แช่น้ำต่อไปอย่างสบายใจ




 

Create Date : 29 สิงหาคม 2551   
Last Update : 29 สิงหาคม 2551 2:58:50 น.   
Counter : 386 Pageviews.  

1  2  

KongMing
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เล่าจื้อกล่าวว่า"ผู้รู้เขาคือปราชญ์"
และกล่าวอีกว่า"ผู้รู้เราคือปัญญาชน"
ณ ปากทางเข้าถ้ำวิหารเทพอพอลโล่แห่งเดลฟี
มีป้ายทองคำเขียนว่า "Know thyself" แปลว่า รู้จักตนเอง
"temet nosce" ภาษาลาตินที่Oracleกล่าวให้
Neo รู้จักตนเอง

สิ่งที่สำคัญที่สุดของคนเราอยู่ที่ คำกล่าวเหล่านี้
[Add KongMing's blog to your web]