เสียความบริสุทธิ์ซะแล้วสิเรา

Photobucket

“หล่อนอย่าร้อง ร้องทำไม ไม่เห็นเจ็บซักนิดเลย”
“ดุ๊ง เค้าหมดแรงแล้ว เค้าคงทำอย่างอื่นไม่ไหวแล้ว”
“ไม่เอาน่า เจ็บแป๊ปๆเดี๋ยวหล่อนก็หาย”
“ดุ๊ง หล่อนเจ็บมากมั๊ย?”
“สุดๆเลย เป็นความเจ็บที่ชั้นไม่เคยเจ็บมาก่อนในชีวิต”

ตุลาคมปีก่อนผมนอนที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ขอนแก่น เหตุเพราะ ผมต้องเข้ารับการผ่าตัดเอ็นหัวเข่าเพราะมันขาด จริงคับ เอ็นไขวหน้าผมขาด หมอต้องทำการผ่าตัดเพื่อดึงเอ็นจากหน้าขามาทดแทนเอ็นไข้วหน้าที่ลาจากไป
“หมอคับ มันอันตรายมั๊ยคับ แล้วผ่าตัดเสร็จจะกลับไปเล่นฟุตบอลได้เหมือนเดิมมั๊ยคับ”
“คุณไม่ต้องกลัว เชื่อผม หายทุกราย หายแน่นอน แต่เล่นฟุตบอลคุณต้องทำกายภาพบำบัดก่อน โอเคมั๊ย? เลิฟยูนะ”
“เทคแคร์หมอเหมือนกันคับ”
“จุ๊บุ๊ๆตัวเอง”

เข้าห้องผ่าตัดกัดฝันแป๊ปเดียว แล้วก็เสร็จ
พยาบาลเข็นรถออกมาจากห้องผ่าตัด ขาของผมถูกพันด้วยผ้ากอท หนาประมาณขาช้าง อันนี้ไม่ได้โม้ เท่ากับขาช้างจริงๆ ใหญ่มาก เลือดสีแดงซึมซิบๆผ่านผ้าสีขาวน่ากลัวยิ่งนัก ผมพึ่งประจักษ์ก็วันนี้แหละว่ายาชาไม่ได้ช่วยอะไรในยามที่มันไม่เหลือฤทธิ์ ระหว่างรถผู้ป่วยเลื่อนไป แค่กระแทกอะไรนิดเดียวเสียวจนใจจะขาด โคตรเจ็บคับ เจ็บแบบที่ไม่รู้จะหาคำอะไรมาบรรยาย เอาแค่ว่าหายใจก็ยังเจ็บเลย เจ็บจนน้ำตานอง จะร้องก็อายพยาบาลกับบแม่
“แม่ เล่เจ็บ เจ็บมากเลย”
“อย่ามองตาได้มั๊ย ถ้าเธอไม่แคร์ …….” เสียงริงโทนแม่ผม
“ฮัลโหล โอเล่เหรอ สบายดี นี่งัย นอนยิ้มอยู่นี่งัย”พ่อโทรมาถามแม่
ถึงเตียงนอน พยาบาลก็ต้องเปลี่ยนชุดให้ผม นี่คือฉากวัดใจระหว่างผมกับพยาบาล คับ เรามิอาจขัดขืน
พยาบาลยิ้มๆ
แต่ผมภูมิใจ

ขนาดตอนนอนนี่ต้องหายใจค่อยๆคับเพราะมันเจ็บมาก เจ็บลึกลงไปในแผลผ่าตัด อันนี้ไม่ได้โม้คับ ไม่เชื่อลองไปผ่าตัดดู แล้วจะรู้ว่า เล่ไม่ได้โม้
นอนๆไปไม่คุยกับใครซักชั่วโมง
“ห้องข้างๆมีชายหญิงอยู่ด้วยกัน เป็นนักศึกษา มหาลัยเดียวกัน ห้องข้างๆมีเสียงครางทุกวัน เสียงเค้าเฮกัน ฟังแล้วรันจวนใจ ….”ริงโทนผม หน้าจอแสดงชื่อที่คุ้นเคย
“ดุ๊งเค้าสอบไม่ติดอ่ะ เค้าติดที่สำรอง เค้าจะติดมั๊ยอ่ะ?”
“ติดอยู่แล้วหล่ะ”พูดไปน้ำตาก็ไหลออกจากตา โคตรเจ็บ
“แต่เค้ากลัวมันไม่ติดหนิดุ๊ง”
“อืม เอาน่า”คำตอบเริ่มสั้นลง
“เค้าไม่ไหวแล้ว ทำไมเค้าไม่ติดอ่ะ?”
หลังจากนั้นก็เป็นบทสนทนาข้างบนโน่น ย้อนกลับไปอ่านสิคับ

ทั้งเจ็บแผลผ่าตัด ทั้งยังต้องมาปลอบคน ชีวิตกูนี่มันรันทดจริงๆ กัดฟันปลอบไปเรื้อยๆ

จากวันนั้นถึงวันนี้ปีกว่าๆ คำถามที่ผมถามหมอ
“หมอคับ มันอันตรายมั๊ยคับ แล้วผ่าตัดเสร็จจะกลับไปเล่นฟุตบอลได้เหมือนเดิมมั๊ยคับ”
ผมได้คำตอบ ของคำถามที่สองแล้ว
กลับมาเล่นได้แล้ว โอเล่
วันนี้ร้องเท่าผ้าใบคู่ใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสบอลมาก่อน ต้องร้องจ๊าก และพูดว่า “เสียความบริสุทธิ์ซะแล้วสิเรา”
ผมวิ่งลงไปในสนานด้วยความรู้สึกกลัวๆ เสียวๆ เสียวที่หัวเข่า แต่เราก็เล่นได้ ดีใจจังที่ได้เล่นฟุตบอลอีกครั้ง
ผมไม่ได้เตะบอลมาเกือบจะสองปีเต็ม วันนี้ดีใจมากคับ ที่ได้ลงไปเกะกะคนอื่นเค้า

สถิติที่น่าสนใจเกี่ยวกับโอเล่
จ่าย 100 ผ่าน 2
ยิง 1 ไม่ตรงกรอบ
พรุ่งนี้มันต้องดีกว่านี้ เชื่อเราสิ เราจะไปพร้อมรองเท้าผ้าใบคู่ไม่ใหม่ที่ใช้เตะบอลแล้ว
ปีนี้ไม่มีคนให้ปลอบ แต่ก็ได้เตะบอลแทน ไม่เป็นไร
เย้ เย้ เราจะผอมแล้ว เราได้วิ่ง ได้หัวเราะ ได้เยาะๆ ได้เตะบอล

ขอบใจเพื่อนๆในสนามที่เข้าใจ(หรือเปล่า)ว่าไม่ควรเล่นแรงกับโอเล่
ขอบคุณคุณหมอที่ดึงเอ็นหน้าขามาแปะแทนเอ็นไข้วหน้า
ขอบใจผ้าใบ ที่ให้สวมใส่เพื่อเสียความบริสุทธิ์

ปล.อย่างแรง! รูปที่เอามาลงเป็นรูปปลาโลมานะคับ อย่าคิดเป็นอื่นใด
แต่เค้าบอกว่า ถ้าใครที่ไม่เห็นเป็นรูปปลาโลมาแสดงว่า ไม่บริสุทธิ์ คับ ก็ว่ากันไป
เค้ารู้นะตัวเองเห็นเป็นรูปอะไร
กิ๊วๆ



Create Date : 12 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2552 20:02:26 น. 4 comments
Counter : 1013 Pageviews.

 
รูปปลาโลมา9ตัว!!!

ปิ๊งป่องๆๆๆ


โดย: THITIKORN IP: 113.53.166.200 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2552 เวลา:23:09:03 น.  

 
เหรอ! ไม่ค่อยเลยนะออย


โดย: ดุ๊งดูด IP: 202.28.62.245 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:49:37 น.  

 
อารายเนี่ย

เฮ้ย.....เศร้าแทนมันจิงวุ้ย


โดย: VV^^ IP: 202.28.62.245 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2552 เวลา:14:11:44 น.  

 
น่าสงสาร


โดย: care IP: 110.164.35.176 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:29:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เบิกทวารแมน
Location :
นครนายก Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เบิกทวารแมน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.