|
|
|
22 ก.ค. 2551....Diary การปฎิบัติธรรมของเรา
.......เราเริ่มปฎิบัติธรรมมา ~ 3 ปีแล้ว เริ่มแรกที่หัดฝึกสมาธิเองที่บ้าน และไปปฎิบัติธรรมที่วัด (บวชถือศีล 8) เพราะเพื่อต้องการได้ "สมาธิ" เผื่อฉลาดขึ้น และได้ "บุญ" เท่านั้นเอง มาด้วยความโลภอยากได้บุญ !
.......จำได้ว่าไปบวชครั้งแรกที่วัดมเหยงคณ์ 5 วัน ขนาดป้า ๆ ที่มาบวชยังสงสัยเลย ว่า "บวชแก้บนเหรอ" , "มีปัญหาอะไรเหรอ ถึงมาบวช" งงอ่ะ ! เราไม่คิดว่าจะได้ยินคำถามแบบนี้จากคนที่มาบวชด้วยกัน
ซึ่งน่าจะมีเป้าหมายเดียวกันว่า "ต้องการมาทำบุญ" ไม่ได้มาวัดเพื่อหนีปัญหา อาจจะเพราะป้าเขาเห็นเราไปวัดคนเดียวก็ได้มั้ง
.......เราไม่ชอบด้วยคนที่มีปัญหาแล้วหนีเข้าวัด เวลาสุขไม่รู้จักเข้าวัด เรามาวัดแล้วเรามีความสุข "สุขใจที่ได้ทำบุญทำกุศล"
.......จำได้ว่าลาสิกขาบทจากการบวชครั้งแรก ไม่อยากกลับกรุงเทพฯ เลย อาลัยอาวรณ์วัดกับชุดแม่ชีมาก ฮ่า..ฮ่า
.......วัดมเหยงคณ์เหมือนบ้านหลังที่สอง วัดใหญ่ชัยมงคลเป็นบ้านหลังที่สาม นอกเหนือจากปฎิบัติธรรมแล้ว แล้วรู้ที่กิน ที่นอน ที่เก็บกวาด เหมือนบ้านเราเลย แต่ที่วัดใหญ่จะไม่ค่อยได้สอนกรรมฐานเหมือนวัดมเหยงคณ์เท่าไหร่ เหมาะสำหรับผู้ที่เคยฝึกมาบ้างแล้ว ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่เคยเลย
.......ปรากกฏว่าพอมาทางนี้แล้ว กลับเดินหน้าไปเรื่อย ๆ ผลที่ได้จากการปฎิบัติได้มากกว่าที่ตั้งใจไว้แต่แรก
.......ผลที่ได้ ตัดความเป็นห่วง กังวล ฟุ้งซ่าน ได้อย่างดีมาก ๆๆ ใจเย็นมากขึ้น เพื่อนฝูงบอก "เออ ! แกเย็นขึ้นว่ะ ผิดกับแต่ก่อน"
.......เวลามีความทุกข์เข้ามา กลับรู้สึกตื้อ ๆ เฉย ๆ รู้ว่าเสียใจ แต่ไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟายเหมือนแต่ก่อน แปลกใจเหมือนกัน ! แต่ก่อนเป็นคนเจ้าน้ำตา เห็นอะไรเจออะไรก็สงสารเขาไปหมด เจอทุกข์ก็สลัดไม่ออก
แรก ๆ เคยสงสัยมาก ๆ ก็บอกตัวเองร้องไห้ซิ ทำไมไม่ร้องไห้ล่ะ ก็เค้นความรู้สึกได้แค่น้ำตาหนึ่งหนด ฮ่า..ฮ่า.. เธอเปลี่ยนไป (ผลจากสมถะ ใจสงบนิ่งเกินไป x)
.......ปัจจุบันก็ได้รับวิบากกรรมอยู่ เจอทุกข์ก็รู้ว่าทุกข์ ก็หาทางแก้ปัญหาไป แต่ไม่ได้จมอยู่กับทุกข์ คนรอบข้าง พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อนฝูง เป็นห่วงมาก แต่เรากลับสบายใจดี...ผิดคาด
.......จิตตกเป็นบางวัน กังวล หดหู่ เศร้าใจ น้ำตาไหล ดูดวง เสริมดวงบ้าง เพราะยังเป็นมนุษย์ที่มีกิเลสคนหนึ่งอยู่ แต่โดยรวมแล้วยังสบายกายและสบายใจดี เพื่อนบอก "เป็นห่วงแก แต่มัยแกดูสบายใจดีนะ"
.......นี่แหละเขาเรียกว่าได้ "บุญ" จากการปฏิบัติธรรม >"ไม่จมอยู่กับทุกข์"
.......ปัญหาทุกอย่าง "เดี๋ยวก็ผ่านไปได้" เรายังดีกว่าคนอื่นเยอะ
.......ดีเหมือนกันที่มีป้ญหาจะได้ใช้เวลาช่วงที่ได้รับวิบากกรรมนี้ เป็นช่วงที่ได้ปฏิบัติธรรมเต็มที่ ได้พิจารณาถึงความทุกข์ความสุขทีได้รับในปัจจุบัน
.......ถ้าว่างก็ไปบวชบ่อย ๆ ไปถือศีล 8 (อยู่บ้านทำไม่ได้ ติดทีวี) และศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมเรื่อย ๆ จากหลายครูบาอาจารย์ ทำให้ไม่ได้ยึดติด "บุญ" แล้ว (ผลจากการปฏิบัติยังงัยก็ได้อยู่แล้วล่ะ) แต่ก็ยังเป็นการปฏิบัติแบบ "สมถะกรรมฐาน" อยู่
.......เราได้พยายามปฎิบัติมาเรื่อย ๆ จากการทำ "สมถะกรรมฐาน" และพยายามฝึก "วิปัสนากรรมฐาน" เหมือนกับเริ่มเข้าระดับ advance โดยเริ่มต้นนับ 1 ใหม่
.......ปัจจุบันพัฒนาก้าวหน้ามาเป็นฝึก "ตามดูจิต" เป็นการยกระดับปัญญาญาณขึ้นมา (ขอใช้ศัพท์สูงหน่อยนะคะ) เพราะการดูจิตสามารถดูได้เรื่อย ๆ ไม่มีวันจบ
.......การตามดูจิต ก็ยังไม่ได้เก่งอะไรหรอกค่ะ เพิ่งจะเริ่มต้นมาทางนี้
ฝึกตามดูความรู้สึกตัวเอง รู้สึกตัวทีไรก็เห็นแต่กิเลส เผลอบ้าง หลงบ้าง
เพ่งบ้าง ฟุ้งซ่าน โลภ โกรธ จิตตก หดหู่ ดีใจ บ้างตามประสามนุษย์บ้าบอคนหนึ่ง
.......จิต / ความคิดนี้มันห้ามกันไม่ได้จริง ๆ เผลอมันก็ไปคิดโน้นนี่ บังคับไม่ได้ บังคับก็ปวดหัว หลวงพ่อปราโมทย์บอกให้รู้ตาม จิตทำหน้าที่คิด เขาทำหน้าที่ของเขาอย่างเที่ยงตรง เราก็แค่รู้ตาม ปฎิบัติให้อยู่ในศีล 5 ไม่หลงไปกับกิเลส
.......อุปสรรคของการ "ดูจิต" คือ "ติดเพ่ง" (แก้ยาก), เห็นจิตตัวเองบ่อย ๆ ก็ "เบื่อ" ค่ะ, และที่สำคัญก็คือ "สงสัย" ค่ะ แทนที่จะตามดูไปเรื่อย ๆ กลับชอบสงสัย ...แค่สงสัยยังไม่พอ ต้องค้นคว้าให้หายสงสัย กลายเป็นฟุ้งซ่านไปซะอีก...เฮ้อ ! 
.......และปัจจุบันยังคงแค่ "ตามดู" แต่ยังไม่สามารถเห็นว่า "กายไม่ใช่ของเรา" ยังได้แค่ "รู้สึกตัว" ต้องพยายามต่อไป
.......สิ่งที่จะทำต่อไปก็คือ "ตามดูจิต" ไปเรื่อย ๆ ค่ะ เห็นกิเลสก็รู้ว่ามีกิเลส เผลอก็รู้ว่าเผลอ เบื่อก็รู้ว่าเบื่อ รู้อย่างปล่อยวาง ไม่เข้าไปแทรกแซง
.......สักวันหนึ่ง คงละความเป็น "ตัวเรา" ได้
***** จบบันทึก 22 ก.ค. 2551 ***** *
| Create Date : 22 กรกฎาคม 2551 | | |
| Last Update : 11 มีนาคม 2552 21:08:26 น. |
| Counter : 252 Pageviews. |
| |
|
 |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต
.....ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า, พระองค์นั้น
อะระหะโต
.....ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส
สัมมาสัมพุทธัสสะ
.....ตรัสรู่ชอบได้โดยพระองค์เอง
~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~
Blog นี้เอาไว้เก็บเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ เอาไว้อ่านเองค่ะ ไว้ว่าง ๆ ค่อยกลับมาอ่าน ส่วนใหญ่ก็ก็อป ๆ มากจากคนอื่นค่ะ ต้องขอขอบคุณ ณ ที่นี้นะคะ
ขอขอบคุณสมาชิกทุกท่าน ที่แบ่งปันของแต่งบล็อกสวย ๆ ให้มาแต่งบล็อกนี้
และขอขอบคุณทุกท่านที่ Vote ให้ด้วยนะคะ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
