Group Blog
 
All Blogs
 

ตัวเรา ไม่มีอยู่จริง ตัวเรา ไม่ใช่ของเรา?

เมื่อก่อน ผมเป็นคนที่หลงไปกับกระแสกิเลส รัก โลภ โกรธ หลง โดนอารมณ์ครอบงำจิตใจอยู่ตลอดเวลา
มาถึงตอนนี้ ถึงจะพยายามเรียนรู้หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า เพื่อจะเข้าใจความจริงของโลก และเพื่อให้เข้าใจในตัวเอง
แต่ในความเป็นจริง
ผมยังห่างไกลกับสิ่งที่เรียกว่า "ความเข้าใจ" อยู่มากพอสมควร
ที่มีคนเขียนในหนังสือว่า ตัวเราไม่มีอยู่จริง ตัวเรา ไม่ใช่ของเรา
ผมนั่งคิดนอนคิดว่ามันหมายถึงอะไร
ผมเข้าใจสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้มาเมื่อ 2,500 ปีก่อนได้ดีแค่ไหน
ท่านสอนว่า อย่าให้ยึดถือความเป็นตัวตน
เมื่อไม่มีตัวตน ก็ไม่มีภาพลักษณ์
แล้วก็จะไม่มีความทุข์อย่างนั้นหรือ
ที่ผมเข้าใจคือ ตัวตน ตัวเรา คือสสาร ที่จิตใจเราเข้ามาอาศัยอยู่แค่นั้น
สิ่งที่เห็นเป็นเพียงแค่เปลือก ไม่มีความจีรัง และจะสูญสลายไปตามกาลเวลา
เราจึงไม่ควรคิด กังวล หรือ ทุกข์ กับชีวิตอย่างนั้นหรือ
ผมสรุปความคิดไม่ได้ ว่า คำว่า ตัวเราไม่ใช่ของเรา คืออะไร
ตอนฟังธรรมก็เหมือนเข้าใจ
แต่พอให้มาสรุปด้วยตัวเองก็ยังทำไม่ได้
ความเข้าใจในความเป็นจริง ช่างยากอะไรอย่างนี้...




 

Create Date : 12 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 12 กรกฎาคม 2552 14:50:13 น.
Counter : 1655 Pageviews.  

ความไม่มีโรค (ทางใจ)

ความไม่มีโรค (ทางใจ)
พระโอวาทสิ่งศักดิ์สิทธิ์
"ทุกคนในโลกป่วยเป็นโรคใจ
มีใจเป็นต้นเหตุ เมื่อใจมีปัญหา จิตก็มีปัญหา
เมื่อจิตมีปัญหา ร่างกายก็มีปัญหา
ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยใจและอาจหายได้ด้วยใจ"
พระพุทธองค์ตรัส: "... ชนทั้งหลายผู้ปฏิญาณความไม่มีโรคทาง กายตลอดปีหนึ่งมีปรากฏ ตลอด ๒ ปีบ้าง ๓ ปีบ้าง ๔ ปีบ้าง ๕ ปีบ้าง ๑๐ ปีบ้าง ๕๐ ปีบ้าง แม้ยิ่งกว่า ๑๐๐ ปีบ้าง ก็มีปรากฏ...
แต่บุคคลใดปฏิญาณ ความไม่มีโรคทางใจ แม้เพียงครู่หนึ่ง บุคคลเหล่านั้นหาได้ยากในโลก"
การขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยมากแล้วคนส่วนใหญ่ จะอธิษฐานให้ชีวิตของตนนั้นอยู่เย็นเป็นสุขพ้นจากโรคภัย แต่ทว่าจะมีสักกี่คนที่เข้าใจความหมายแท้จริงของความไม่มี โรค ในพระสูตรกล่าว "โพธิสัตว์กลัวเหตุ ปุถุชนกลัวผล" ชาวโลกพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตนพ้นจากโรคภัยไข้เจ็บ แต่แล้วก็กลับมาเป็นอีก มีสักกี่คนที่อธิษฐานให้กับจิตใจของ เรานั้นได้พ้นจากความทุกข์ ความเศร้าหมอง ไม่เป็นเหยื่อ ความโง่ ไม่เป็นทาสความเขลา บังเกิดปัญญาธรรมแจ่มแจ้ง เหล่านี้ล้วนเกิดจากปฏิกูลในจิตใจหรือเรียกว่า "โรคทางใจ" อันเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ทั้งปวง บุคคลใดปฏิญาณความไม่มี โรคทางใจแม้เพียงครู่หนึ่ง พระพุทธองค์ทรงตรัสสรรเสริญ ผู้นั้นเป็นบุคคลที่หาได้ยากที่สุดในโลก
แปดหมื่นสี่พัน โรคทางใจ
พระโอวาทสิ่งศักดิ์สิทธิ์:
มนุษย์มีโรคมาก แพทย์ทันสมัยได้คิดค้นยาใหม่ๆ เพื่อให้มวลมนุษย์อยู่อย่างเป็นสุขอายุยืนยาว แต่ทว่ามนุษย์นั้น มีถึงแปดหมื่นสี่พันโรค พุทธะก็มีแปดหมื่นสี่พันวิธีเพื่อบำบัด รักษา ในพระสูตรกล่าวว่า
"บรรเทาเภทภัย ป้องกันไว้จะง่ายกว่า
รักษาโรคภัย สู้กันไว้จะดีกว่า"
ดังนั้น จะลำดับโรคทางใจ สักร้อยโรค เพื่อให้แต่ละ คนได้สำรวจตรวจตราว่ามีโรคอยู่หรือไม่ โรควิญญาณนั้น ต้องรักษาด้วยธรรมโอสถ ผลการรักษาขึ้นอยู่กับความศรัทธา เป็นการป้องกันการเกิดโรคได้อย่างชะงัด ไม่มีอาการแทรก ซ้อนแม้แต่น้อย ไม่ต้องทุกข์ทรมาน ไม่ต้องเป็นกังวล ไม่มี เคราะห์ร้าย รับประกันชีวิตจะปลอดภัย เป็นมนุษย์อย่าง สมบูรณ์
โรค ยึดมั่นถือมั่นเอาแต่ใจ โรค ชอบใช้กำลังเอาชนะ
โรค มีความเกลียด ความอยากอย่างไร้เหตุผล โรค รวยแล้วชอบอันธพาล
โรค ลอบทำร้าย
โรค เห็นผู้อื่นผิด ตนเองถูกเสมอ โรค ปั้นน้ำเป็นตัว
โรค เอาตัวรอด คนอื่นฉิบหายไม่สน โรค ทำลายสามัคคี
โรค ใช้อำนาจไปในทางทุจริต โรค ปิดบังความผิดตนเอง
โรค ชอบกดขี่ใช้บารมีข่มเหงรังแก โรค เอาชนะโดยการทะเลาะวิวาท
โรค ชอบหนีหนี้ล้มแชร์ โรค ชอบวิพากษ์วิจารณ์
โรค ชอบโอ้อวดความดีความชอบ โรค ให้ทานหวังผลตอบแทน
โรค ชอบดูถูกเหยียดหยาม โรค ตกเป็นเหยื่อความอยาก
โรค ยกตนข่มท่าน ทะนงตัว โรค เสพกามโดยผิดศีลธรรม
โรค อิจฉาคนร่ำรวย โรค โง่แล้วอวดฉลาด
โรค โทษฟ้าโทษดิน โรค สรรเสริญเยินยอตนเอง
โรค ถือความคิดเห็นตนเองเป็นใหญ่ โรค ชอบทำตามอำเภอใจ
โรค ทำผิดทำนองคลองธรรม โรค อารมณ์แปรปรวนเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย
โรค ปัดความรับผิดชอบ โรค เป็นหนี้ไม่คิดชดใช้
โรค ซุบซิบนินทา โรค ชวนกันไปติดร่างแห
โรค ไม่ยอมให้อภัย โรค ชอบทำลายชื่อเสียงของผู้อื่น
โรค ชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิต โรค ทำร้ายผู้อื่นโดยตรง
โรค หลอกลวงต้มตุ๋น โรค เอาบุญวาสนาตนดูถูกผู้อื่น
โรค ปิดบังความผิด โรค ขี้ระแวงสงสัย
โรค จัดผิดผู้อื่น โรค ชอบประจบสอพลอผู้มีอำนาจ
โรค กระทำโดยพลการ โรค ชอบยุแหย่ติเตียนผู้อื่น
โรค รังแกหญิงหม้ายเด็กกำพร้า เพื่อให้ตนเองเป็นที่รัก
โรค ชอบอารมณ์โมโหร้าย โรค ชอบกล่าวโทษนั่นโทษนี่
โรค ชอบคบคนพาล โรค ชอบแสดงตนว่ามีความรู้สูง
โรค อวดมั่งอวดมี โรค เกลียดเขาเพราะเขาชนะเรา
โรค ใช้อำนาจยึดทรัพย์ โรค ทำลายความรักผู้อื่น
โรค มั่วสุมยาเสพติด โรค อิจฉาริษยา
โรค ไม่ฟังคำแนะนำจากผู้อื่น โรค คิดฟุ้งซ่าน
โรค แตกสามัคคี โรค กล่าวร้ายคนที่มีความรู้กว่า
โรค เยาะเย้ยคนบ้า โรค ยกย่องเชิดชูตนเอง
โรค ไม่มีสัมมาคารวะ โรค หัวเราะคนเขลา
โรค พูดจาหยาบคาย โรค จู้จี้จุกจิก
โรค ยุให้เขาฆ่ากัน โรค ประจบสอพลอ
โรค เมาแล้วอาละวาด โรค พูดเอาชนะ
โรค ถ้ำมอง โรค ใช้อำนาจบาตรใหญ่
โรค อาฆาตมาดร้าย โรคกล่าวร้ายป้ายสี
โรค เกี้ยวพาราสี โรค สอดรู้สอดเห็น
โรค ยุให้แตกร้าว โรค ชอบทำแท้ง
โรค ยุให้คนทำบาป โรค โจมตีความสำเร็จของผู้อื่น
โรค ความรักทำให้ตาบอด โรค เป็นสุขเมื่อเห็นเขาพินาศ
โรค ชักจูงให้เกลียดผู้อื่น โรค ยุให้เขาตีกัน
โรค ยังฝังใจในแค้นเก่า ฯลฯ
โรค เขียนใส่ร้ายผู้อื่น บัตรสนเท่ห์
โรค เยาะเย้ยพวกคนใบ้ ตาบอด
โรค มีอคติไม่ชอบเห็นคนทำดี
โรค ลิ้นสองแฉกพูดกลอกกลิ้ง
โรค หัวเราะเยาะ
โรค หาเรื่องขัดแย้ง
โรค ด่าลมด่าฝน
โรค ขี้บ่น
โรค ทำให้ทารกเกิดมาพิการ
โรค ทำลายคู่เขา

"หากใจของเรา
ไม่รู้จักปล่อยไม่รู้จักวาง
ความทุกข์ก็จะเกิดแก่เราเพียงผู้เดียว
เมื่อเรากังวลมากทุกข์มาก
ก็จะสร้างโรคภัยไข้เจ็บมาก"
ธรรมโอสถรักษา โรคทางใจ
อย่างหนึ่งที่ทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง คือจิตใจของเราไม่แข็งแรง การทำจิตใจให้แข็งแรงนั้นเอาอะไรเลี้ยงร่างกายของเรา? เอาอาหารเลี้ยง แต่จิตใจของเราต้องเอาธรรมะเลี้ยง เอาสิ่งที่ดีงามนั้นไปหล่อเลี้ยง
ความกตัญญู รักพี่รักน้อง เป็นยา อบรมสั่งสอนผู้โง่เขลา เป็นยา
ความเคารพนับถือ นอบน้อม เป็นยา รักษาความสงบไว้เสมอ เป็นยา
หนักในบุญกุศล เว้นในกามคุณ เป็นยา มีใจปิติเมื่อกล่าวถึงบุญกุศลของผู้อื่น เป็นยา
สงบเสงี่ยมเจียมตน ถือสัจจะ เป็นยา ยกย่องคุณงามความดีผู้อื่น เป็นยา
ทำชีวิตให้ร่าเริงมีคุณค่า เป็นยา มีความเบิกบานคลายความอยาก เป็นยา
ให้ความอบอุ่นกับคนในครอบครัว เป็นยา คิดแต่สิ่งอันเป็นกุศล เป็นยา
สั่งสมบุญกุศลมีความเมตตาปรานี เป็นยา ไม่รำลึกถึงอกุศลเก่าๆ เป็นยา
เชิดชูคุณงามสร้างสาธารณประโยชน์ เป็นยา ไม่ทะเลาะวิวาท เป็นยา
ประพฤติดีละชั่ว เป็นยา ไม่คิดขโมย เป็นยา
ช่วยบรรเทาเคราะห์ปลดทุกข์ เป็นยา ไม่อวดอ้างความดีของตนเอง เป็นยา
ให้ความเคารพผู้สูงอายุ เป็นยา ไม่คิดปองร้ายผู้อื่น เป็นยา
มีใจสัตย์ซื่อ ไว้เนื้อเชื่อใจได้ เป็นยา ไม่โกหกมดเท็จ เป็นยา
เอาความซื่อชักชวนพวกคิดคด เป็นยา ไม่คิดด่าทอ เป็นยา
ช่วยเหลือผู้เฒ่า เอื้อเฟื้อผู้เยาว์ เป็นยา ไม่ห่วงไม่กังวล เป็นยา
แก้ไขความผิด ลดละความชั่ว เป็นยา เมื่อร่ำรวยก็คิดเผื่อแผ่ผู้อื่น เป็นยา
มีตำแหน่งสูงแต่ไม่ถือตัว เป็นยา สงบเคลื่อนไหวอย่างมีเหตุผล เป็นยา
พูดจาอ่อนโยนวาจาอ่อนหวาน เป็นยา อ่อนน้อมถ่อมตน เป็นยา
รู้อภัยใจเบิกบาน เป็นยา จงดีต่อผู้บาป เป็นยา
ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้ยากไร้ เป็นยา ถอยห่างจากความชั่ว เป็นยา
สามารถทนต่อการกล่าวร้าย เป็นยา ไม่อิจฉาริษยา เป็นยา
ดำรงในความดี ไม่ยุ่งในความชั่ว เป็นยา ไม่คอยจับผิดผู้อื่น เป็นยา
ไม่เคืองแค้นคนทรยศ เป็นยา ไม่อิจฉาความสวยของผู้อื่น เป็นยา
เมื่อมีวาสนาเอื้อเฟื้อผู้อื่น เป็นยา ไม่คิดหนีหนี้ เป็นยา
ไม่โยนความผิดให้ผู้อื่น เป็นยา ไม่ทำอวดเบ่ง เป็นยา
ให้ผู้อื่นได้กินอิ่มอร่อย เป็นยา ไม่วิจารณ์ผู้อื่น เป็นยา
รู้จักประหยัดมัธยัสถ์ เป็นยา พูดจาสุภาพไม่เคลือบแฝง เป็นยา
รู้จักยกย่องสุภาพชน เป็นยา ดำรงชีพให้สมฐานะ เป็นยา
จิตสงบธาตุสมบูรณ์ เป็นยา มีความสันโดษ เป็นยา
จิตพิจารณาธรรม เป็นยา ไม่มีจิตคดโกง เป็นยา
ไม่สะสมทรัพย์สมบัติ เป็นยา ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เป็นยา
ไม่ทวงบุญคุณผู้อื่น เป็นยา ไม่คุยโม้โอ้อวด เป็นยา
ไม่ชอบกล่าวร้าย เป็นยา ไม่เฉื่อยชาในการงาน เป็นยา
ไม่คิดอ้อนวอนขอ เป็นยา มีจิตศรัทธาเลื่อมใสพระพุทธะ เป็นยา
พบสุภาพชนให้สำรวจตนเอง เป็นยา มีความซื่อสัตย์ต่อเพื่อน เป็นยา
มีสัมมาคารวะต่อผู้อื่น เป็นยา มีความเชื่อมั่นในพระธรรม เป็นยา
พูดจาถ่อมตน นอบน้อม เป็นยา มีสัมมาสติ เป็นยา
เวทนาต่อหญิงหม้ายเด็กกำพร้า เป็นยา ไม่ขุดคุ้ยความผิด เป็นยา
มีความมักน้อย เป็นยา ไม่เบื่อหน่ายในการสร้างบุญ เป็นยา
เผยแผ่ความดีต่อต้านความชั่ว เป็นยา มีได้มีเสียไม่ติดยึด เป็นยา
ขจัดความโกรธหยิบยื่นความรัก เป็นยา ให้ความสะดวกแก่ผู้อื่น เป็นยา
เกื้อกูลคนแก่และเด็ก เป็นยา ให้ทานโดยไม่คิดตอบแทน เป็นยา
รู้จักเอาชนะใจตนเอง เป็นยา รู้จังหวะรู้จักพอ เป็นยา
ให้ธรรมทานเพื่อขจัดความหลง เป็นยา ไม่เที่ยวแหล่งเริงรมย์ เป็นยา
มีเมตตากรุณาและความรัก เป็นยา แม้ทุกข์ยากก็ไม่โกรธแค้น เป็นยา
ยามมีเคราะห์ให้สำรวจตนเอง เป็นยา ไม่ด่าทอพูดคำหยาบ เป็นยา
ไม่เปิดเผยความเลวของผู้อื่น เป็นยา ไม่ซ้ำเติมผู้ถูกรังแก เป็นยา
มีน้ำใจโอบอ้อมอารี เป็นยา ช่วยเหลืองานการกุศล เป็นยา




 

Create Date : 07 ตุลาคม 2550    
Last Update : 7 ตุลาคม 2550 23:20:13 น.
Counter : 675 Pageviews.  

เรื่องเล่าเช้านี้............ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน...........

ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้าไปร้านขายยาแล้วบอกเภสัชกรว่า

"ขอซื้อถุงยางหน่อยครับ ผมจะไปกินข้าวเย็นที่บ้านแฟนคืนนี้อาจมีเฮก็ได้"

เภสัชกรก็ยื่นถุงยางให้ชายหนุ่ม
ในขณะที่กำลังจะเดินออกจากนอกร้านชายหนุ่มก็หันหลังกลับพร้อมบอกว่า

"ผมขอซื้อเพิ่มอีกหนึ่งเพราะว่าน้องสาวของแฟนผมก็น่ารักเวลาเจอผม เธอมักจะไขว้ขาให้ท่า
ผมว่าผมอาจโชคดี"

เภสัชก็ยื่นถุงยางให้ชิ้นที่สอง
ในขณะที่ชายหนุ่มคนนั้นกำลังเดินออกจากร้านเขาก็หันกลับมาอีกครั้ง แล้วบอกว่า

"เออ..ผมว่าผมขออีกอันดีกว่า เพราะว่าแม่ของแฟนผมก็ยังสวยน่ารัก
เวลาเจอกันเธอชอบสบตาผม

นอกจากนี้เธอเป็นคนเชิญผมไปทานข้าวเย็นเผลอ ๆ อาจมีอะไรก็ได้"

ระหว่างอาหารเย็น ชายหนุ่มนั่งตรงกลางระหว่างแฟนและน้องสาว
ส่วนแม่แฟนนั่งตรงข้ามกัน

เมื่อพ่อของแฟนกลับมา
ชายหนุ่มก็เริ่มสวดมนต์ก่อนอาหารเย็น"ขอพระเจ้าประทานพรและขอบคุณ สำหรับ

อาหารมื้อนี้"
สองสามนาทีผ่านไปชายหนุ่มก็ยังก้มหน้าสวดมนต์อยู่"ขอขอบคุณพระเจ้า สำหรับอาหารมื้อนี้"

สิบนาทีผ่่านไป ชายหนุ่มยังไม่ยอมหยุดสวดมัวแต่ก้มหน้าทุกคนในโต๊ะอาหารรู้สึกแปลก ใจแฟนสาวจึงกระซิบบอกชายหนุ่มว่า

"ฉันไม่รู้เลยนะว่าคุณเคร่งศาสนาขนาดนี้"

ชายหนุ่มตอบว่า…….. "ผมไม่รู้ว่าพ่อคุณเป็นเภสัชกร"




 

Create Date : 29 สิงหาคม 2550    
Last Update : 29 สิงหาคม 2550 13:27:18 น.
Counter : 642 Pageviews.  

ถั่วในมือลิง เรื่องดี ๆ ที่อยากให้อ่านอีกครั้ง

พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า...
จิตของคนเรานั้น เหมือนกับลิง
เราจึงเรียนรู้เรื่องของจิตใจของเราได้มากมายจากพฤติกรรมของลิง
ลิงนั้นเกลียดกะปิ ถ้ากะปิถูกมือมันเมื่อใด
มันจะถูนิ้วกับพื้นจนเลือดไหลเต็มมือจนกว่ากลิ่นกะปิจะหายในที่สุด
จนกลายเป็นว่า “ กะปิ ” ถึงจะร้าย ก็ไม่ร้ายเท่า “ ความเกลียด กะปิ ”
ที่มือลิงเป็นแผลเหวอะหวะ ไม่ใช่เพราะกะปิ
หากเป็นเพราะความจงเกลียดจงชังกะปิต่างหาก
สิ่งที่เราเกลียด นั้น
บ่อยครั้งไม่น่ากลัวเท่ากับ ความเกลียดชังในจิตใจ เรา
ความเกลียดชัง หรือพูดให้ถูกก็คือความรู้สึกอยากผลักไส
ซึ่งรวมทั้งความโกรธและความกลัว
แต่นั่นเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของความจริงเท่านั้น
นอกจากความอยากผลักไสแล้ว
ความยึดติด เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องระวังไม่แพ้กัน
กลับมาที่ลิงจอมซนอีกที
ในอินเดีย ลิงเป็นไม้เบื่อไม้เมากับชาวบ้าน
เพราะชอบขโมยผลไม้ในสวน ชาวบ้านจึงคิดวิธีจับลิง
โดยใช้กล่องไม้ซึ่งมีฝาด้านหนึ่งเจาะรูเล็กๆ พอให้ลิงสอดมือเข้าไปได้
ในกล่องมีถั่วซึ่งเป็นของโปรดของลิงวางไว้เป็นเหยื่อล่อ
วันดีคืนดี ลิงมาที่สวน
เห็นถั่วอยู่ในกล่อง ก็เอามือล้วงเข้าไปหยิบถั่ว
แต่พอถอนมือออกมาก็ติดฝากล่อง
เพราะกำมือของลิงนั้นใหญ่กว่าฝากล่องที่เจาะไว้
ลิงพยายามดึงมือเท่าไรก็ไม่ออก
พอชาวบ้านมาจับ ก็ปีนหนีขึ้นต้นไม้ไม่ได้
เพราะมีมือเปล่าอยู่ข้างเดียว
สุดท้ายก็ถูกคนจับได้
ลิงหาได้เฉลียวใจไม่ว่า เพียงแค่มัน คลายมือออก เท่านั้น
มันก็เอาตัวรอดได้
แต่เพราะยึดถั่วไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย จึงต้องเอาชีวิตเข้าแลก
มีหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตที่เราใฝ่ฝันอยากได้
จนถึงกับยึดไว้อย่างเหนียวแน่น
เวลาประสบปัญหา
เพียงแค่คลายสิ่งที่ติดยึดนั้นเสียบ้าง ปัญหาก็คลี่คลาย
แต่เป็นเพราะเราไม่ยอมปล่อย
จึงเกิดผลเสียตามมาอย่างมากมาย..ไม่คุ้มกับสิ่งที่ติดยึด
ปัญหาทั้งหลายในชีวิตนั้น
ถ้าเรารู้จัก ปล่อยวาง เสียบ้าง
มันก็จะบรรเทาไปได้เยอะ
บ่อยครั้งการปล่อยวางไม่เพียงแต่เป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหาเท่านั้น
หากแต่เป็นทางออกจากปัญหาเลยทีเดียว
ความจริงการอยากผลักไสอะไรสักอย่าง ก็เป็นการติดยึดอีกแบบหนึ่ง
ทั้งๆ ที่ลิงพยายามถูกำจัดกลิ่นกะปิไปจากมือ
ก็อดไม่ได้ที่จะดึงมือมาดมหากลิ่นกะปิซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ในหลายๆกรณี ความทุกข์ไม่ได้มาจากไหน
หากมาจากการยึดติดไม่ยอมปล่อย
ดั่งเจ้าลิงหวงถั่ว.




 

Create Date : 08 สิงหาคม 2550    
Last Update : 8 สิงหาคม 2550 21:19:04 น.
Counter : 723 Pageviews.  

ดู united 93 จบ ทำให้ย้อนนึกไปถึงเหตุการณ์วัน11 กันยายน 2001

เช้าวันที่ 11 กันยายน 2001 หรือตรงกับเวลาเมืองไทยในช่วงเย็น เหตุการณ์ช็อคโลกที่สุดที่เป็นเหตุการณ์จริง ภาพจริงๆ ที่ยิ่งกว่าในหนังได้ออกอากาศให้คนเกือบทั้งโลกได้เห็นถึงความโหดร้าย ความขัดแย้งกันทางการเมืองระหว่างประเทศ นำไปสู่การทำร้ายชีวิตผู้บริสุทธิ์กว่าสามพันคน

เครื่องบินพาณิชย์จำนวน 4 ลำ ที่บินจากชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา มีจุดหมายปลายทางที่รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยที่แต่ละลำบรรจุน้ำมันมากกว่า 90,000 ลิตรสำหรับการเดินทางข้ามไปอีกฝั่งของประเทศ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เทียบได้กับขีปนาวุธอันเขื่องลูกนึงได้


19 สลัดอากาศชาวอาหรับ เตรียมแผนการนี้มาอย่างดิบดีกว่า 2 ปี ฝึกเรียนการบินจนสามารถขับเครื่องบินโบอิ้งได้ โดยมีจุดหมายเพื่อทำลายสิ่งที่เป็น "สัญลักษณ์" ของอเมริกา หัวโจกทุนนิยมโลก

เครื่องบิน 4 ลำที่ถูกไฮแจ็ค เรียงตามลำดับคือ

American Airline flight 11 เที่ยวบินจากบอสตันไปแอลเอ เข้าชนอาคารฝั่งเหนือ ของตึกแฝดเวิร์ลเทรด ณ เวลาท้องถิ่น 8.46 น.


United Airline flight 175 จากบอสตันไปแอลเอ เช่นเดียวกัน เข้าชนอาคารฝั่งใต้ของตึกเวิร์ลเทรด ณ เวลา 9.03 น.



American Airline flight 77 จาก Loudoun Counties รัฐเวอร์จิเนีย ไป แอลเอ เข้าชนอาคารกระทรวงกลาโหมสหรัฐ หรือเรียกกันติดปากว่าเพนตากอน ณ เวลา 9.37 น.



และลำสุดท้ายคือ United Airline flight 93 จากนิวเจอร์ซี่ ไป ซานฟรานซิสโก ซึ่งเป็นลำเดียวที่พลาดเป้าหมายที่คาดว่าจะเป็นทำเนียบขาว โดยตกที่ทุ่งหญ้าทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐเพนซิลวาเนีย


เหตุการณ์นี้เรียกได้ว่าเป็นเหมือนกับรอยจารึกประวัติศาสตร์ของโลก เป็นเหมือนกับการเริ่มต้นศตวรรษใหม่ที่แท้จริงของโลก ที่เปลี่ยนผ่านจากยุคสงครามเย็นเข้าสู่ยุคการต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย

ผู้ก่อการร้ายพลีชีพมุสลิม วางแผนอย่างแยบยล ให้เครื่องบินลำแรกชนอาคารฝั่งเหนือก่อน เพื่อให้สำนักข่าวได้ถ่ายทอดเหตุการณ์ไปทั่วโลก รอเวลาให้เครื่องบินลำที่สองพุ่งเข้าชนตึกอีกฝั่ง ให้ชาวโลกได้เห็นเหตุการณ์กระตุกหนวดเสือนี้แบบสดๆ

พนักงานดับเพลิงและตำรวจนิวยอร์ค เข้าไปในอาคารเพื่อพยายามช่วยผู้ประสบภัยในอาคารออกมา แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากว่าอาคารเกิดไฟใหม้ และปริมาณควันที่สูง

หลายๆคนพยายามขึ้นไปบนดาดฟ้า เพื่อให้เฮลิคอปเปอร์บินลงมาช่วย แต่ก็ช่วยไม่ได้ เพราะเฮลิคอปเปอร์ไม่สามารถร่อนลงได้เนื่องจากควันไฟที่หนาทึบและความร้อน

หลายๆคน ยอมที่จะกระโดดลงมาตายบนถนนหรือบนหลังคาตึกรอบข้าง ดีกว่าที่จะทนทรมานกับความร้อนและควันภายในอาคาร ภาพที่เราเห็นชายคนหนึ่งกระโดดเอาหัวทิ่มลงมา ซึ่งเป็นภาพถ่ายที่ส่งไปทั่วโลก ในตอนนั้นเราคงจำกันได้ดี

หลังจากโดนเครื่องบินพุ่งเข้าชน 56 นาที อาคารเวิร์ลเทรดฝั่งใต้ก็พังลงมา พร้อมๆกับทุกชีวิตของคนที่ติดอยู่ในอาคาร รวมทั้งพนักงานดับเพลิงและตำรวจนิวยอร์คหลายคนที่เข้าไปช่วยเหลือ

ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ตึกฝั่งเหนือที่ถูกเครื่องบินพุ่งเข้าชนก่อน ก็พังตามลงมา ว่ากันว่า การที่ตึกพังลงมาได้ เป็นการวางแผนอย่างแยบคายของผู้ก่อการร้าย ที่ต้องให้เครื่องบินชน ณ จุดที่ว่าเท่านั้น ตึกถึงจะพังลงมาได้ ซึ่งจริงเท็จประการใด จะเล่าให้ได้อ่านกันในโอกาสต่อไป

เครื่องบินลำที่ 3 เข้าชนตึกเพนตากอนในเวลาต่อมา ซึ่ง ณ เวลานั้นมีแต่ความยุ่งเหยิง วุ่นวาย โกลาหล เจ้าหน้าจับทิศทางกันได้ไม่ถูก จนกระทั่งลำสุดท้ายคือ flight 93 ที่พุ่ง่ลงทุ่งนาที่รัฐเพนซิลวาเนีย

เครื่องบิน 3 ลำแรกมีสลัดอากาศลำละ 5 คน มีเพียงลำสุดท้ายที่มีเพียง 4 คน และเป็นลำเดียที่พลาดเป้าหมายที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมากของสหรัฐ ณ เมืองหลวงวอชิงตันดีซี นั่นคือ ทำเนียบขาว

เครื่อง united airline flight 93 จุผู้โดยสารได้ 182 ที่นั่ง แต่วันนั้นมีผู้โดยสารเพียง 37 คน ซึ่งมีสลัดอากาศ 4 คนรวมอยู่ในนั้น นอกจากนั้นก็จะมีลูกเรือ 7 คน และนักบิน 2 คน

จากการปะติดปะต่อเรื่องราว ทั้งจากหอบังคับการบิน และที่สำคัญที่สุดคือจากผู้โดยสารบนเครื่องบินลำนี้ ที่โทรไปร่ำลาคนรัก หรือโทรไปเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเครื่องให้คนบนพื้นดินได้รับรู้

Todd Beamer หนึ่งใน 33 ผู้โดยสารไม่รวมสลัดอากาศ ใช้เครดิตการ์ดรูดเพื่อพยายามโทรกลับไปหาภรรยา แต่ไปติด customer serive ของสายการบิน คำพูดสุดท้ายของเขาที่คนทั่วโลกได้รับรู้ต่อๆกันมาคือ "roll it" ซึ่งเป็นสัญญาณให้เพื่อนๆร่วมเที่ยวบินที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน เข้ายึดเครื่องบินคืนจากผู้ก่อการร้าย โดยการพยายามที่จะบุกเข้าไปในห้องนักบิน

สิ้นเสียงของ todd ไม่มีการยืนยันว่าเหตุการณ์เป็นยังไงต่อไป มีเพียงข้อมูลจากกล่องดำเท่านั้นที่บ่งว่า ผู้โดยสารยังเข้าไปในห้องนักบินไม่ได้ก่อนที่เครื่องจะพุ่งทิศทางลงพื้นดิน

แม้ผู้โดยสารเหล่านี้ไม่สามารถที่จะยึดเครื่องคืนมาได้ แต่อย่างน้อย ความพยายามของพวกเขาทำให้ภารกิจของ 4 สลัดอากาศนี้ไม่สำเร็จ เซฟชีวิตของคนบริสุทธิ์คนอื่นๆ ที่ไม่รู้ว่าอันตรายจากขีปนาวุธพลีชีพอันนี้กำลังจะเข้ามาถึงตัวได้อีกหลายชีวิต

ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้รวมทั้งหมด 2,976 คน จาก 246 คนบนเครื่องบิน 2605 ที่นิวยอร์ค และ 125 คน ณ เพนตากอน




 

Create Date : 05 สิงหาคม 2549    
Last Update : 7 ตุลาคม 2549 12:11:04 น.
Counter : 1292 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

บิลลี่
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add บิลลี่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.