ใบเสร็จ







ใบเสร็จ




บล็อกเรื่องนี้ นำมาจากบทความ “เหตุผลที่ต้องใส่ใจ ‘ใบเสร็จ’“

ของ ปิติชัย พงษ์วานิชอนันต์

ในนิตยสาร SHE's Smart ฉบับที่ 12 ...เดือนกันยายน พ.ศ.2550



เจ้าของบล็อกเห็นว่าเป็นบทความที่ดี ควรที่ผู้อื่นจะได้อ่าน
จึงขอนำมาลงในบล็อกเพื่อเป็นสาระความรู้ครับ

ขอขอบพระคุณคุณปิติชัย พงษ์วานิชอนันต์ ไว้ ณ โอกาสนี้


ในบทความ เริ่มต้นข้อมูลแบบนี้




เกี่ยวกับผู้เขียน ....เพราะ ปิติชัย พงษ์วานิชอนันต์ ทำงานอยู่กับ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และมีพื้นฐานการศึกษาทางสายกฎหมาย ทำให้เขามีข้อมูลกฎหมาย และรู้เทคนิคเรื่องการจับจ่ายแบบรู้คุ้มค่าเงิน และไม่เสียสิทธิ์ในฐานะผู้บริโภคเป็นอย่างดี และได้รวบรวมบางส่วนนำเสนอเป็นพ๊อกเก๊ตบุ๊คแล้ว อย่าง ‘เสียงผู้บริโภค’ และ ‘เป็นหนี้จะแก้ไขชีวิตอย่างไร’







ใบเสร็จรับเงิน ดูจะเป็นสิ่งที่คุ้นตาขาช้อปทั้งหลาย แต่ผมเชื่อว่าหลายคนคงไม่ค่อยได้ให้ความสนใจกับใบเสร็จรับเงินสักเท่าไร ได้มาก็ขยำทิ้ง บางคนไม่เคยแม้แต่จะเรียกขอใบเสร็จรับเงินจากร้านค้าด้วยซ้ำไป แต่รับรองว่าหลังจากอ่านบทความนี้จบ…ความคิดของคุณจะเปลี่ยนไป



ใบเสร็จฯ จากการซื้อสินค้าและบริการต่างๆ


• เหตุผลข้อแรกที่คุณควรใส่ใจกับใบเสร็จก็เพราะมันเป็นหลักฐานชิ้นเดียวที่แสดงว่า คุณได้ชำระเงินค่าสินค้าเรียบร้อยแล้ว ไม่ได้ไปลักขโมยใครมา เพราะเคยมี กรณีที่ลูกค้าซื้อของจากร้านที่เช่าพื้นที่ในห้างฯ แล้วทางร้านไม่ได้ออกใบเสร็จให้ พอเดินออกจากห้าง สัญญาณตรวจจับขโมยดัง ยามก็มาขอตรวจค้น พอไม่มีใบเสร็จก็ต้องเสียเวลาอธิบาย และหาพยานมายืนยันกันอีกนาน



• ใครที่ชอบซื้อสินค้ามือสอง หรือซื้อของทางอินเทอร์เน็ต ควรตรวจสอบใบเสร็จจากผู้ขายทุกครั้ง เพื่อคุณจะได้ไม่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีรับซื้อของโจร เพราะซื้อของที่ลักขโมย หรือยักยอกของที่ยังผ่อนไม่หมดมาขาย



• ส่วนใครที่ซื้อสินค้าเงินผ่อน จำไว้ว่า ตามกฎหมายคุณยังไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ เป็นแต่เพียงผู้มีสิทธิ์ใช้สอย เพราะฉะนั้นเก็บใบเสร็จชำระค่างวดไว้ให้ดี เพื่อเป็นหลักฐานแสดงการครอบครอง และเมื่อชำระครบแล้วก็จะได้มีหลักฐานไว้ยืนยันการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์อย่างถูกต้อง



• อายุประกันจะสั้นลง ถ้าซื้อสินค้าที่ไม่มีใบเสร็จ เพราะโดยหลัก ระยะเวลารับประกันจะนับจากวันที่ซื้อสินค้า โดยอ้างอิงจากใบเสร็จรับเงิน เช่น โทรศัพท์มือถือผลิตเมื่อ 1 ม.ค. 50 รับประกัน 1 ปี คุณซื้อมาเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 50 ตามสิทธิ์การรับประกัน จะไปหมดอายุเมื่อ 31 ก.ค.51 แต่ถ้าไม่มีใบเสร็จยืนยันว่าซื้อสินค้าเมื่อไหร่ ทางศูนย์บริการจะนับอายุประกันจากวันผลิตแทน แบบนี้ก็เท่ากับว่าโทรศัพท์มือถือของคุณมีอายุรับประกันสั้นลง เหลือแค่ 5 เดือนเท่านั้นเอง



• ปัจจุบันเกือบทุกห้างฯ จะมีนโยบายรับประกันสินค้าและความพึงพอใจของลูกค้า ดังนั้น หากสินค้าที่ซื้อมามีปัญหา คุณสามารถนำไปขอเปลี่ยนหรือคืนได้ ถ้าคุณมีใบเสร็จรับเงิน







ใบเสร็จฯจากค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ชำระด้วยบัตรเครดิต


• ในสลิปบัตรเครดิต จะมีข้อมูลเกี่ยวกับเลขที่ และวันหมดอายุของบัตรปรากฏอยู่ ซึ่งหากใบเสร็จเหล่านี้ไปตกอยู่ในมือมิจฉาชีพละก็ คุณอาจได้รับใบแจ้งหนี้ก้อนโตโดยไม่รู้ตัว เพราะแม้การซื้อของออนไลน์โดยใช้บัตรเครดิตจะต้องใช้ security code (เลข 3 ตัวท้ายของบัตร) แต่การทำธุรกรรมในเว็บไซต์บางแห่ง แค่มีเลขที่บัตรเครดิตกับวันหมดอายุ ก็สามารถทำได้…สบายบรื๋อ







ใบเสร็จรับเงินที่ชำระด้วยบัตรเครดิต จึงต้องเก็บรักษาให้ดีเป็นพิเศษ อย่าทิ้งสุ่มสี่สุ่มห้า ควรเก็บกลับมาบ้านไว้ตรวจสอบยอดค่าใช้จ่ายตอนสิ้นเดือน ทำบัญชีเสร็จก็ให้ทำลายทิ้งทันที



ใบเสร็จจากการทำประกันภัยและประกันชีวิต


• เพื่อป้องกันปัญหาตัวแทนประกัน ไม่นำเงินส่งบริษัท จึงต้องขอใบเสร็จทุกครั้งที่จ่ายเงิน



• การเบิกค่ารักษาพยาบาลจากบริษัทประกันชีวิต ประกันภัยรถยนต์ (พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ) หรือแม้แต่ประกันสังคม จำเป็นต้องใช้ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลตัวจริงด้วย



ใบเสร็จเกี่ยวกับรถยนต์


อันนี้สำคัญและจำเป็นมากๆ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องไปติดต่อเรื่องเอกสารต่างๆ กับกรมการขนส่งทางบก



• คนที่ซื้อรถยนต์ใหม่ การขอจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก นอกจากสำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สัญญาซื้อขาย / เช่าซื้อแล้ว ใบเสร็จรับเงินก็เป็นเอกสารสำคัญที่ต้องใช้ด้วย



• ใครที่ใช้รถเก่าแต่อยากให้ดูเหมือนใหม่ เลยเอารถไปทำสีแปลงโฉม อย่าลืมขอใบเสร็จค่าจ้างทำสีด้วยนะครับ เพราะต้องใช้เป็นหลักฐานตอนจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงสีรถยนต์ที่ขนส่ง



• นอกจากทำสีแล้ว รถเก่าบางคันอาจต้องยกเครื่องใหม่ด้วย ซึ่งเวลาจะไปจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์ ก็ต้องมีใบเสร็จค่าเครื่องยนต์เป็นหลักฐานการได้มาของเครื่องยนต์นั้นด้วย



• รถยนต์ที่ติดตั้งระบบแก๊ส เมื่อเปลี่ยนระบบเชื้อเพลิงแล้ว ก็ต้องไปจดทะเบียนเป็น ‘รถใช้แก๊ส’ ภายใน 15 วันนับจากติดตั้งด้วยนะครับ หลักฐานสำคัญที่ต้องใช้ ก็คือ ใบเสร็จค่าติดตั้งระบบแก๊ส ใบรับรองจากวิศวกร คู่มือจดทะเบียนรถ บัตรประชาชน และทะเบียนบ้าน



ใบเสร็จอื่น ๆ


• ใบเสร็จค่าทางด่วน ค่าผ่านทางพิเศษ จะมีหมายเลขโทรศัพท์ที่จำเป็น เช่น หน่วยกู้ภัย ตำรวจทางหลวง ไว้ให้ติดต่อในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน



• ใบเสร็จรับเงินบริจาคให้กับ องค์กรสาธารณกุศลตามประกาศของกระทรวงการคลัง สามารถนำไปหักจากรายได้รวม เพื่อการลดหย่อนภาษีประจำปีได้







ใบเสร็จกับมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค


คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้ประกาศให้ใบเสร็จรับเงินของกิจการบางประเภท ต้องมีรายละเอียดตามที่กำหนด



• ธุรกิจขายก๊าซหุงต้ม ที่มีการเรียกเก็บเงินประกันถัง ใบเสร็จรับเงินจะต้องระบุจำนวนเงินประกันถัง พร้อมข้อความว่า ‘ลูกค้ามีสิทธิได้รับเงินคืนเมื่อนำถังก๊าซมาคืนร้าน’



• ธุรกิจให้บริการซ่อมรถยนต์ ใบเสร็จรับเงินจะต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับ ยี่ห้อ รุ่น หมายเลขเครื่องยนต์ หมายเลขตัวถังของรถที่ซ่อม รายการที่ซ่อม ค่าแรง ค่าอะไหล่ รวมทั้งเลขไมล์ของรถในวันที่เข้าอู่และวันที่ซ่อมเสร็จ ที่สำคัญจะต้องมีระยะเวลารับประกันคุณภาพของอะไหล่ และงานซ่อมด้วย



• ธุรกิจให้เช่าที่อยู่อาศัยที่เรียกเก็บเงินประกัน ไม่ว่าจะเป็นบ้านเช่า อพาร์ตเม้นท์ คอนโดฯ หอพัก หลักฐานการรับเงินจะต้องระบุจำนวนเงินประกัน และมีข้อความว่า ผู้เช่ามีสิทธิ์ได้รับเงินประกันคืนทันทีเมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่า ซึ่งถ้าผู้ให้เช่าตรวจสอบทรัพย์สินแล้วไม่มีอะไรเสียหาย ก็ต้องคืนเงินประกันภายใน 7 วัน







และเมื่อได้รับใบเสร็จทุกครั้ง คุณควรตรวจสอบรายละเอียดในใบเสร็จทุกครั้งว่า
ตรงกับยอดที่คุณชำระเงินไปหรือไม่ ถ้าไม่ ...ให้รีบโต้แย้งทันที


รู้อย่างนี้แล้ว…คุณยังจะขยำใบเสร็จทิ้งอยู่อีกไหม ?



เขียนโดย ปิติชัย พงษ์วานิชอนันต์



yyswim





 

Create Date : 31 มกราคม 2552    
Last Update : 31 มกราคม 2552 0:09:14 น.
Counter : 6355 Pageviews.  

Tag 2008







Tag 2008




โอ ...ได้รับแถกนี้มาจาก หมอไลท์ (นางาเสะ ไลท์) สองวันแล้ว


“หมอไลท์ครับ ผมเห็น แถก ที่ส่งมา สองวัน แล้วล่ะ

แต่ โพ้ม ม่าย ชอบ เขียน แถก ...ชอบ แต่ อ่าน แถกกกกก”


หมอไลท์ เขาใจดี ช่างระลึกถึง คนที่บ้านนี้


“เออ คราวหน้านะ หมอ ..หมอช่วยส่งข้าวเหนียวมาให้ผมสักกระติ๊บเดียว ก็พอ

ดีกว่า ส่ง แถก มา ให้ เย๊อะ เลย นะ ...ผมว่า”



โฮ โฮ โฮ ทำ ตัว ม่ายถูก เรยยย





1. เรื่องดีๆ ที่ประทับใจที่สุดในรอบปี 2008


ประทับใจสุดๆเลย ....เหอ


ไปเมืองนอก ม้าง เพราะไม่ค่อยได้ไปบ่อยนัก


ไปที ก็ จำแม่นติดตา ว่าได้ไปสุวรรณภูมิ


ที่จริงไปนิวซีแลนด์ แค่ 10 วัน เอ๊ง







2. เรื่องแย่ๆ ที่ฝังใจที่สุดในรอบปี 2008


เอ อะไร ดี ?


คิดว่า ไม่ มี นิ .... อุบัติเหตุไม่มี เจ็บป่วยไม่มี โจรขึ้นบ้านไม่มี ผิดนัดใครไม่มี โกรธใคร ก็ไม่เคยมี


ข้อนี้ ตอบว่า ไม่มี เรื่องแย่



3. คุณได้พบเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ในรอบปี 2008 บ้างหรือไม่


โอ๊ยยยย ตรึม ทั้งในบล็อก และในเว๊ปซีมะโด่ง


บางคน เป็นเพื่อนแบบอ่านและเขียนคอมเมนต์แซวกัน แต่บางคนก็มีโอกาสได้เจอตัวจริง


เป็นอะไรที่รู้สึกว่าดี ประทับใจคร้าบบ


อย่างเจอ ฐม เจอ วิน เจอ บิ๊ก เจอ หนูบุด เจอ ม่า เจอ จ๊ากกก


อย่างเจอ กล่อง เจอ คุณไก่ เจอ ย่าดา.... อ๊ะ สามคนนี้ เจอกันตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว นี่


และอย่างเจอ ตะหานน้ำ เจอ โจ เจอ คุณไก่ Batgirl เจอ ครูเอก เจอ ป้าแอ๊ด และเจอ เจฟไรอัน


ทุกคน น่าคบ น่าคุย น่าสังสรรค์ไปหมด


ไม่มีคนไหน เสีย เลย


อิ อิ อิ ขอ แซว



4. คุณได้รับโชคลาภแบบไม่คาดคิดหรือไม่ในรอบปี 2008


ไม่มีนะคร้าบ ไม่เคยซื้อหวย


ก้อ เคยเจอเงินเหรียญตกบนถนน แค่ครั้งเดียว แค่บาทเดียวเอง



5. อะไรในรอบปี 2008 ที่คุณได้ทำแล้วรู้สึก..."มีความสุขจังที่ได้ทำแบบนี้"


เรื่องเขียนบล็อกของตัวเอง ช่วยเจ๊ ทำบล็อก และสอนคนอื่นทำบล็อก


เรื่องว่ายน้ำ เพื่อออกกำลังกาย และได้ดูพิธีเปิด-ปิด พร้อมดูกีฬาปักกิ่งเกมส์


เรื่องไปหาคุณแม่ อยู่กับคุณแม่ ทานอะไรกับคุณแม่ และกับเจ๊


แล้ว ก็ การมีเพื่อนๆไปเยี่ยมทานอะไรกันที่แฟลต ดูหนัง เล่าโน่นเล่านี่ด้วยกัน



6. อะไรที่คุณคิดว่าจะทำในรอบปี 2008 แต่เอาเข้าจริงๆคุณกลับไม่ได้ทำ ....จนรู้สึกว่า "เสียดายชะมัด" ฉันควรจะทำได้นะสิ่งนี้


น่าจะเป็นเรื่องดูหนังในโรงหนัง


ผมอยากดูตั้งหลายเรื่อง แต่ ไม่ได้ดู สักเรื่อง


เลยหลังๆ จะไม่ค่อยอยากอ่านบล็อกรีวิวหนังแล้ว เพราะอดดูแทบทุกเรื่อง


กำลังคิดถุง ‘บลูยอร์ช’ ...จะโทร.ถาม ‘บลูยอร์ช’ ว่า จะไปดูหนังวันไหน จะตามไปดูด้วยคนคร้าบ


อิ อิ กำลังจะขอกระทบไหล่ 'นักดูหนังชั้นเซียน' ของบล๊อกแก๊งค์



7. ของ สัตว์ หรือคนใกล้ตัวที่คุณสังเกตเห็นว่ามันเติบโต


ด.ช.เควิน ซิ คร้าบ เควิน โตกว่าเจอครั้งก่อนมาก แม้จะไม่อ้วน แต่ก็เดินเก่งขึ้น


โห ตรุษจีนปีนี้ รู้จักนำส้มสีทองมาให้ ....เพื่อจะขออั่งเปา!!!







8. ของ สัตว์ หรือคนใกล้ตัวที่คุณสังเกตว่าไม่เปลี่ยนแปลงหรือช่างเสมอต้นเสมอปลาย เมื่อเปรียบเทียบกับต้นปี vs ปลายปี


เจ๊ ของผมครับ ดี เสมอต้นเสมอปลาย


นี่ พูด เรื่องจริงๆ ครับ .....เคยดีอย่างไร ก็ ดีมาตลอด ไม่เคยเปลี่ยนแปลง



9. ทัศนคติ รสนิยม หรือความเชื่อของคุณในปี 2008 ได้เปลี่ยนแปลงไปบ้างไหม เรื่องนั้นคือเรื่องอะไรเอ่ย


คงจะเป็นเรื่อง ดูแลสุขภาพ


ตะ ก่อน ไม่ค่อยจะสนใจดูแลสุขภาพตัวเอง เพราะเล่นกีฬาอยู่เป็นประจำ


มันคงจะไม่เป็นอะไรหรอก ก้อ ตรู ออกกำลังกาย อยู่เป็นประจำ


แต่ ตอนนี้ เริ่ม แสบตา แสบบ่อยๆ


พอ แสบมากๆ แล้วอยากจะอ๊วก


สาเหตุ มันเกิดจาก ใช้สายตา โหด ไปหน่อย


ก้อ คล้ายๆกะ สมัยหนึ่ง ใช้ไหล่ โหดไปหน่อย


ต่อมา ก้อต้องเปลี่ยน เปลี่ยนไป ว่ายน้ำ แทน


อด แล้ว อด ตี แบด กีฬาที่เคยชอบนักหนา


ไหล่ มันบอกว่า "ต้องขอพักยาว"



10. ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ คุณจะกลับไปแก้ไขเหตุการณ์อะไรในรอบปี 2008


โอย ไม่น่าจะมีอะไร ต้องกลับไปแก้ไข


ทุกอย่างที่ผ่านมา อยู่ในเกณฑ์ปกติ


แม้ว่าจะไม่ดีเลิศ


คล้ายๆ กะ บางบล็อกที่อาจจะเขียนไว้ไม่ดี แต่ก็ ไม่ถึงกับต้องกลับไปแก้ไข ปล่อยมันไว้ยังงั้นละ ...อดีต



11. ถ้าซานตาคลอส พระเจ้า หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้พรได้จริง ... คุณจะเลือกพรข้อไหน


ขอให้ คุณแม่และเจ๊ แข็งแรง อายุยืน ร้อยกว่าปี …สาธุ



12. ถ้าเลือกได้ คุณอยากอยู่กับใครหรือกลุ่มใด ในช่วง countdown ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และทำไม คุณถึงเลือกคนๆ นี้หรือกลุ่มนี้


อยาก countdown กะ ลิงจ๊ากจ๊ากกก ง่ะ กลุ่มของลิงจ๊ากกกก ท่าจะ มันส์ สุด สุด


แต่ ลิงจ๊ากกก เนี่ย คืนเค้าดาวน์ อยู่ถึง อุ๊ต ตระ ดร แน่ะ ..ไกลไปหน่อย เพ่


เหตุที่เลือก ลิงจ๊ากจ๊ากกก เหอ


เพราะ เพ่ เป็นคนมันส์ มันส์จริงแท้ เลยนะนั่น


ไม่เชื่อลองถาม นาย ฐม ดูกะได้ว่า จ๊ากกก มัน กล้า ระดับไหน


กล้าระดับ โพ้ม ให้คะแนนดันดารา เต็ม สิบ เลย เพ่



13. สมมุติ มีคูปองศัลยกรรมที่ปลอดภัย 100% และศัลยกรรมให้ฟรี 1 อย่าง คุณคิดจะใช้คูปองนี้ ทำศัลยกรรมส่วนไหน หรือ มอบคูปองให้ใครไปทำศัลยกรรมส่วนไหน


รูปร่างเป็นของนอกกาย มียุบ มีพอง มีตึง มีเหี่ยว


โพ้ม ไม่พะวงใดๆ ไม่ต้องทำศัลยกรรมคร้าบ


และ ก้อ ไม่คิดจะมอบคูปองให้ใครไปทำ


ชอบใคร โพ้ม จะชอบที่ นิสัย และความดีงาม


อุ อุ อุ พูดแบบผู้เข้าประกวด เล๊ยยย



14.สมมุติ มีคนเอาเงินให้คุณ 1 หมื่นบาท สำหรับให้นำไปทำบุญเท่านั้น คุณจะนำเงินทำบุญนี้ไปให้ใคร อย่างไรบ้าง


ให้คุณแม่ของผม นำไปรักษารอยช้ำที่ใต้ตาข้างขวา


เห็นคุณแม่บอกว่า ช้ำและแสบมาสอง-สามวันแล้ว



15.ข้อสุดท้าย เพื่อนๆที่คุณ จะส่ง tag ไปให้เค้าจำนวน 3 คน


เหอ เหอ ขอบอกว่า เหมือนเคย เหมือนกะปิ


คือ เกรงใจ๊


ขอ ไม่ส่ง ให้ใคร ดีกว่า



ขอบคุณที่อ่านคร้าบ







yyswim





 

Create Date : 28 มกราคม 2552    
Last Update : 28 มกราคม 2552 21:20:50 น.
Counter : 2244 Pageviews.  

ทูตสันถวไมตรีไทย-จีน






ทูตสันถวไมตรีไทย-จีน








Temple of Heaven





Yuanmingyuan Park





The Great Wall









Yangtze River





Shanghai









Railway Station





เขียนบล็อกเรื่องนี้ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน วันที่ 25 มกราคม ครับ



































โดยเขียนจาก “รายงานพิเศษ : “สมเด็จพระเทพฯ” : ทูตสันถวไมตรีไทย – จีน”
ผู้จัดการออนไลน์ 7 กรกฎาคม 2548
.











“สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” ทรงเป็นราชนิกุลพระองค์เดียวในโลกที่เสด็จเยือนประเทศจีน 20 ครั้ง และเสด็จฯ เยือนครบทุกมณฑลของประเทศจีน ประเทศที่ได้ชื่อว่ากว้างใหญ่ที่สุดในโลก และมีประชากรมากที่สุดในโลก



สมเด็จพระเทพฯ เสด็จเยือนประเทศจีนครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ.2524 เพียง 23 ปีให้หลัง คือเมื่อปี พ.ศ. 2547 พระองค์ก็สามารถเยือนประเทศจีนได้จนครบทุกมณฑล ทั้งๆที่บางมณฑลของประเทศจีน มีขนาดใหญ่กว่าประเทศไทยทั้งประเทศด้วยซ้ำ



สมเด็จพระเทพฯ หรือที่คนจีนทั่วไปคุ้นเคยกับการกล่าวขานพระนามพระองค์ว่า “สิรินธร” มิได้เพียงสนพระทัยในประเทศจีนเท่านั้น หากยังทรงเรียนภาษาจีน วัฒนธรรมของจีน และได้ทรงเสด็จฯไปศึกษาภาษาและวัฒนธรรมจีนเพิ่มเติมถึงมหาวิทยาลัยปักกิ่ง นับเป็นเรื่องที่สร้างความประหลาดใจและปลาบปลื้มใจแก่คณาจารย์ชาวจีนที่ถวายการสอนเป็นอันมากว่าเหตุใดเจ้าหญิงของไทยจึงให้ความสำคัญต่อประเทศจีนมากถึงขนาดนั้น



ซึ่งพระองค์ทรงเคยเล่าให้พระอาจารย์และนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งฟังถึงสาเหตุที่เลือกเรียนภาษาจีนว่า ตอนแรกไม่ได้คิดอยากจะเรียน เพราะคิดว่าภาษาจีนเป็นภาษาที่ยากมาก แต่มาคิดว่าตัวเองเป็นคนเอเชีย ในเอเชียมีประเทศใหญ่อยู่ 2 ประเทศ คือ อินเดียกับจีน การเรียนภาษาอินเดียกับภาษาจีนจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก



ประกอบกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงรับสั่งว่า “เรียนภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน ล้วนเป็นภาษาตะวันตก คิดว่าน่าจะเรียนภาษาจีน ซึ่งเป็นภาษาแถบเอเซีย” พระองค์จึงทรงปรึกษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งก็ทรงเห็นด้วย ในที่สุดจึงขอให้ทางสถานทูตจีน ช่วยจัดพระอาจารย์มาถวายการสอน



ปี พ.ศ. 2521

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายเติ้ง เสี่ยวผิง รองนายกรัฐมนตรีจีน(สมัยนั้น) เข้าเฝ้าฯ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2521 ระหว่างเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 5 - 11 พฤศจิกายน 2521





ปี พ.ศ. 2523

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นางเติ้ง อิ่งเชา รองประธานคณะกรรมการประจำสมัชชาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน และคณะ เข้าเฝ้าฯ ณ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2523





ปี พ.ศ. 2524

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศจีนตามคำทูลเชิญของรัฐบาลจีน เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2524 นางเติ้ง อิ่งเชา รองประธานคณะกรรมการประจำสมัชชาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน เข้าเฝ้าฯ ณ มหาศาลาประชาคม กรุงปักกิ่ง






แม้พระองค์จะทรงปราดเปรื่องในภาษาต่างประเทศมาแล้วหลายภาษา แต่ก็ล้วนแต่ได้มาด้วยความพากเพียรวิริยะศึกษาภายในประเทศ มิได้เกิดจากการเดินทางไปศึกษา ณ ต่างประเทศแต่ประการใด เหตุเพราะทรงให้ความสำคัญกับพระกรณียกิจนานัปการที่ทรงมีต่ออาณาประชาราษฎร์



แต่ที่สุดก็ทรงมีโอกาสไปศึกษา ณ มหาวิทยาลัยปักกิ่ง ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 14 ก.พ.-15 มี.ค.2544 แม้นั่นจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆเพียงแค่ 1 เดือน แต่ก็สร้างความประทับใจให้กับทั้งผู้เรียนและผู้ถวายการสอนอย่างมิรู้ลืม



ปี พ.ศ. 2524

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นายเติ้ง เสี่ยวผิง รองประธานพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน เข้าเฝ้าฯ ณ มหาศาลาประชาคม กรุงปักกิ่ง ในวโรกาสเสด็จฯ เยือนประเทศจีน เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2524





ปี พ.ศ. 2528

สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ประทานพระวโรกาสให้ ประธานาธิบดี หลี่ เซียนเนี่ยน และคณะ เข้าเฝ้า ณ กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2528





ปี พ.ศ. 2534

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเลี้ยงรับรอง ประธานาธิบดี หยาง ซ่างคุน ณ พระที่นั่งจักรีมหาประสาท พระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2534






ในพระราชนิพนธ์เรื่อง “เมื่อข้าพเจ้าเป็นนักเรียนนอก” ทรงพระราชนิพนธ์คำนำ ถึงการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาในครั้งนั้นว่า







“ข้าพเจ้าเรียนภาษาจีนมา 20 ปีแล้ว แต่ความรู้ยังไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร ทั้งๆ ที่สถานทูตจีนจัดครูมาสอนเป็นประจำ จึงเกิดความคิดว่า ถ้าข้าพเจ้าได้มาอยู่ในแวดวงคนจีน เรียนภาษาจีนอย่างเดียวไม่ต้องทำงานอื่นสักพักหนึ่งน่าจะดีขึ้น ปัญหาอยู่ที่ว่าระยะหลังๆ นี้การงานที่เมืองไทยค่อนข้างมาก จะปลีกตัวมาได้นานสักเท่าไร เมื่อ 3 ปีก่อนเคยไปสหรัฐอเมริกาเดือนหนึ่ง จึงคิดว่าน่าจะอยู่จีนได้เหมือนกัน ได้ไปลองปรึกษากับใครๆ ที่เมืองจีน ทั้งทางมหาวิทยาลัยและคนอื่น ทุกคนต่างเห็นดีด้วย ลองไปสืบราคาที่อยู่และค่าเล่าเรียนที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง รู้สึกว่าค่อนข้างแพง แต่ก็น่าจะสู้ราคาได้ ภายหลังท่านทูต ฟู่ เสวียจัง ทูตจีนประจำประเทศไทยในขณะนั้นบอกว่า กระทรวงศึกษาธิการจีนจะรับภาระค่าใช้จ่ายทุกๆ ด้าน ทั้งด้านที่พักในมหาวิทยาลัย การเล่าเรียน และอาหารการกิน”



“มหาวิทยาลัยปักกิ่งจัดตารางสอนมาให้ ครั้งแรกหนักด้านเนื้อหามากเกินไป ข้าพเจ้าจึงแจ้งเขาว่าด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจีนนั้น ข้าพเจ้าเรียนไปมากแล้วจากหนังสือภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ ข้าพเจ้ายังอ่อนในด้านภาษาจีน ทั้งการพูด การฟัง และการเขียน เขาจึงจัดตารางเรียนให้ใหม่ มีครู 2 คน ครูจัง อิง สอนภาษาจีน – ไวยากรณ์ การอ่าน ส่วนครูหวัง รั่วเจียง สอนภาษาพูด นอกจากนั้นยังให้เรียนการรำมวยจีนไทเก๊ก เขียนภาพจีน เขียนตัวหนังสือ และ สีซอเอ้อร์หูด้วย เขาจัดที่พักที่สบายให้ในมหาวิทยาลัย มีพร้อมทุกอย่าง (เป็นหอพักที่จัดสำหรับศาสตราจารย์ทรงคุณวุฒิ ชาวต่างประเทศ ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งเชิญมาสอนหรือมาร่วมค้นคว้าวิจัย)”








พระองค์ทรงมีพระจริยวัตรที่งดงามและปฏิบัติตนเฉกเช่นเดียวกับสามัญชนคนธรรมดา ทรงเป็นกันเองกับพระอาจารย์ทุกคน นอกจากจะทรงไม่ถือพระองค์แล้ว ยังทรงมีพระอารมณ์ขันอีกด้วย และไม่ว่าจะทรงเรียนวิชาใดก็ตั้งพระทัยเรียนอย่างจริงจัง ทรงเคยตรัสว่า “ภาษาจีนนั้นสามารถนำคนเข้าสู่อาณาจักรแห่งความรู้อันอุดมไพศาลแหล่งหนึ่งของโลกได้อย่างสมบูรณ์ ยิ่งศึกษาก็ยิ่งตระหนักในขอบเขตอันกว้างขวางลุ่มลึกนั้น”



ด้านดนตรีของจีน อย่าง ซอเอ้อร์หู ซึ่งเป็นซอสองสายที่สมเด็จพระเทพฯได้ทรงมีโอกาสเรียน พระองค์ก็ตรัสด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนกับพระอาจารย์ผู้สอนว่า ....พระอาจารย์ที่เคยสอนดนตรีไทยเคยบอกว่า พระองค์ทรงเล่นดนตรีไทยได้ทุกอย่าง แต่ทรงเล่นได้ไม่ดีสักอย่าง เพราะเป็นคนใจร้อน ดังนั้นเมื่อได้ทรงมีโอกาสเรียน สีซอเอ้อร์หู ของจีน จึงทรงมานะพยายามฝึกอย่างแข็งขัน ซึ่งทำให้พระองค์ทรงสีซอเอ้อร์หูได้ไพเราะขึ้นมาก ทรงยอมรับว่าซอเอ้อร์หูนั้น ต้องรวบรวมจิตใจให้สงบและต้องรู้จักผ่อนคลาย



พระองค์ทรงบอกกับอาจารย์ที่ถวายการสอนว่า “เมื่อกลับเมืองไทย จะให้ทูลกระหม่อมพ่อ(พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว) และสมเด็จแม่ (สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ) ทรงเล่นดูบ้าง เพราะทรงเป็นนักดนตรีทั้งสองพระองค์ และอาจจะเป็นประโยชน์ต่อพระพลานามัยของทูลกระหม่อมพ่อด้วย เพราะทรงมีพระพลานามัยไม่สู้ดีนักในช่วงที่ผ่านมา”



พระอาจารย์ผู้ถวายการสอน ได้ฟังดังนั้น ก็รู้สึกซาบซึ้งในความรักความห่วงใยและความกตัญญูของเจ้าหญิงแห่งสยามที่ทรงมีต่อพระบรมชนกนาถยิ่งนัก







นอกจากภาษา วัฒนธรรม และดนตรีจีนแล้ว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ยังได้ทรงเรียนการเขียน ลายสือศิลป์จีน การวาดภาพแบบจีน และการฝึกรำมวยไทเก๊ก ซึ่งพระองค์ทรงรู้สึกสำราญพระทัยในการเรียนทุกวิชา และทรงรู้สึกว่า ลายสือศิลป์จีน รำมวยจีน และดนตรีจีน สามารถเชื่อมโยงถึงกันได้ ทำให้เกิดสมาธิ ยามใดที่ทรงรู้สึกหงุดหงิดอารมณ์ร้อน เมื่อได้ทรงคัดลายสือศิลป์จีน จะทำให้กลับมีอารมณ์ดีได้



ปี พ.ศ. 2542

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ประธานาธิบดี เจียง เจ๋อหมิน และภริยา เข้าเฝ้าฯ ณ พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2542





ปี พ.ศ. 2543

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และนายหู จิ่นเทา รองประธานาธิบดีจีน ตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ณ บริเวณจัตุรัสเทียนอันเหมิน หน้ามหาศาลาประชาคม เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2543





ปี พ.ศ. 2543

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ประธานาธิบดี เจียง เจ๋อหมิน เข้าเฝ้าฯ ณ เรือนรับรองเตี้ยวอี่ว์ไถ กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2543






สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ไม่เพียงแต่ทรงเชี่ยวชาญด้านภาษา วัฒนธรรม และวรรณคดี หากยังทรงสนพระทัยในด้านประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมทั้งทรงมีจุดยืนที่ชัดเจนเที่ยงธรรม



ทรงเคยตรัสกับนักศึกษาชาวจีนที่กำลังทำวิทยานิพนธ์ เปรียบเทียบนโยบายชาวจีนโพ้นทะเลของประเทศไทยและอินโดนีเซียหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ว่า “คนจีนในประเทศไทยไม่ได้ถูกมองว่าเป็นคนต่างชาติ พวกเขามีสิทธิเท่าเทียมกับคนไทยทุกประการ นายกรัฐมนตรีไทยหลายคนก็เป็นลูกหลานจีน พวกเขามีเชื้อสายจีน แต่เป็นคนไทยยุคของจอมพล ป. พิบูลสงคราม สั่งปิดโรงเรียนจีน ไม่ยอมให้เรียนภาษาจีน คนจีนก็เลยต้องแอบเรียน นโยบายอย่างนี้ไม่ถูกต้อง”



นอกจากนั้น พระองค์ยังทรงเข้าใจที่คนจีนให้ความสำคัญกับการศึกษาของบุตรหลานเป็นอย่างมาก ทรงเคยตรัสว่า “ฉันมีเพื่อนหลายคนเป็นลูกหลานจีน พวกเขาเป็นรุ่นที่สองของชาวจีนอพยพ บางคนก็เป็นรุ่นที่สามแล้ว มีบางคนไม่เข้าใจที่ฉันคบกับลูกหลานจีน ฉันก็บอกพวกเขาว่า คนจีนสนใจการศึกษาของลูกหลานมาก ที่มหาวิทยาลัย นิสิตนักศึกษาส่วนใหญ่มีเชื้อจีน ถ้าฉันไม่เป็นเพื่อนกับพวกเขาแล้ว จะเป็นเพื่อนกับใครล่ะ”



ปี พ.ศ. 2545

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงจัดงานดนตรี “สายสัมพันธ์สองแผ่นดิน” ขึ้นที่โรงละครเป่าลี่ กรุงปักกิ่ง และทรงแสดงพิณโบราณจีน (กู่เจิง) โดยนายเฉียน ฉีเชิน รองนายกรัฐมนตรีจีน ได้เข้าชมงานดังกล่าวและได้เข้าเฝ้าฯ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2545





ปี พ.ศ. 2545

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นาย หลี่ เผิง ประธานคณะกรรมการประจำสมัชชาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน เข้าเฝ้าฯ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2545





ปี พ.ศ. 2546

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ แทนพระองค์ทรงต้อนรับประธานาธิบดี หู จิ่นเทา ณ สนามบินดอนเมือง ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2546






ไม่เพียงชาวจีนโพ้นทะเลเท่านั้น ที่พยายามจะให้ลูกหลานได้เล่าเรียนสูงๆ ...ในจีนแผ่นดินใหญ่ก็เช่นเดียวกัน รัฐบาลจีนพยายามส่งเสริมให้ทุกคนได้มีการศึกษาสูงที่สุดโดยเท่าเทียมกัน และยังมีการเปิดให้ผู้ที่สนใจและไม่จำเป็นต้องมีฐานะร่ำรวย บริจาคเงินเพื่อให้เด็กได้รับการศึกษา



ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงประทับใจแนวคิดดังกล่าวมาก ถึงกับทรงร่วมอุปถัมภ์ส่งเด็กจีนเรียนหลายคน โดยได้ทรงปฏิบัติเช่นนี้กับเด็กไทยในประเทศมาก่อนหน้าเป็นเวลานานแล้ว



และทรงมีพระราชดำริด้วยว่า ทรงอยากส่งนักเรียนไทยที่ยากจนในพระราชูปถัมภ์ ไปศึกษาต่อด้านเทคโนโลยีชีวภาพที่ประเทศจีน เพราะปัจจุบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหลายแขนงของจีนรุดหน้าไปมาก ในอดีตนั้นมักคิดกันว่า ถ้าจะเรียนภาษาและวัฒนธรรมของจีน จึงค่อยไปประเทศจีน หากจะเรียนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะต้องไปยุโรปหรืออเมริกา แต่ขณะนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว



หลังจากช่วงเวลา 1 เดือนแห่งการเรียนภาษาและวัฒนธรรมจีนเพิ่มเติม ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง สิ้นสุดลง ทางมหาวิทยาลัยก็ได้ทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แด่พระองค์ เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2544 ในฐานะที่ทรงมีคุณูปการอย่างยิ่งต่อการพัฒนาความเจริญของประเทศไทย ส่งเสริมความก้าวหน้าและสันติภาพของมนุษยชาติ ทั้งยังทรงมีบทบาทโดดเด่นในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจีน - ไทย



สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงตรัสตอบว่า “แต่นี้ไปภายหน้า จะไม่เพียงพยายามทำงานส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างไทย - จีนให้มากขึ้นเท่านั้น แต่จะพยายามมีส่วนในการสร้างความเจริญก้าวหน้าแก่วัฒนธรรมของโลกและของมนุษยชาติให้มากยิ่งขึ้นด้วย”




ปี พ.ศ. 2546

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ประธานาธิบดี หู จิ่นเทา และภริยา เข้าเฝ้าฯ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2546





ปี พ.ศ. 2547

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นายอู๋ ปังกั๋ว ประธานคณะกรรมการประจำสมัชชาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน เข้าเฝ้าฯ ณ มหาศาลาประชาคม กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2547





ปี พ.ศ. 2547

นายเฉิน เฮ่าซู ประธานสมาคมมิตรภาพวิเทศสัมพันธ์แห่งประเทศจีน ได้ทูลเกล้าถวายพระราชสมัญญา “ทูตสันถวไมตรีไทย - จีน” แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ได้






ความพยายามกระชับความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไทย - จีนของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ไม่เพียงเป็นที่ประจักษ์ของมหาวิทยาลัยปักกิ่งเท่านั้น ก่อนหน้านี้กระทรวงศึกษาธิการของจีนก็ได้ทูลเกล้าฯ ถวาย “รางวัลมิตรภาพภาษาและวัฒนธรรมจีน” แด่พระองค์มาแล้ว เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2543



และ สมาคมมิตรภาพวิเทศสัมพันธ์แห่งประชาชนจีน ก็ได้ถวายพระสมัญญานามพระองค์ให้ทรงเป็น “ทูตสันถวไมตรี” เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2547 ด้วย



แม้ว่า เวลาที่พระองค์ได้ทรงเรียนภาษาและวัฒนธรรมจีนที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งจะผ่านไป 4 ปีแล้ว แต่พระองค์ก็ยังทรงประทับใจและทรงปรารถนาที่จะได้กลับไปเรียนที่นั่นอีกครั้ง ดังที่ได้เคยตรัสในงานสัมมนา ”บนเส้นทางความสัมพันธ์ไทย - จีน” เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2548 ว่า



“เมื่อเดินทางไปเมืองจีนครั้งที่ 19 คือ เมื่อ สิงหาคม ปีที่แล้ว(ปี 2547) ได้ไปประชุมที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง คือจะมี 2 ประชุม มีประชุมการศึกษากับจีนฟอรัม อาจารย์ท่านก็ถามว่า วันเกิดอยากได้ของขวัญอะไร ก็ถ้าจะเอาแจกงแจกันอะไรก็ไม่มีที่ไว้แล้ว ก็เลยจริงๆ ก็อยากจะบอกว่า อยากขอทุนการศึกษาไปอยู่สัก 3 เดือน ไปทีหนึ่งติดใจ ก็ติดใจจริงๆ นอกจากไปเรียนภาษาแล้ว เขาก็ได้จัดเนื้อหาที่เรียน ความจริงเขาให้ตำแหน่งไว้เป็นนักวิจัยสังคม ได้ดูเกี่ยวกับสังคมจีน ก็ไปดูที่ที่มีกิจกรรมต่างๆ เช่น โรงเรียน สถานทำกิจกรรมของผู้สูงอายุ เป็นต้น ตอนนี้ระบบการศึกษาของจีนที่เขามีให้ใครๆก็ได้ ชาวบ้านคนธรรมดาสามารถที่จะบริจาคเงินไป และให้เด็กที่ยากจนมีโอกาสได้รับการศึกษา โดยที่ว่าเราไม่ต้องเป็นเศรษฐี มีเงินนิดหน่อยก็ให้ได้ เขาก็ยกตัวอย่างเช่น มีอาหยีคนหนึ่งที่ไปเดินชอปปิง เห็นเสื้อสวย อยากได้ก็จริง แต่เงินจำนวนนี้ไปช่วยชีวิตคนได้มากกว่า ก็ให้ไป ก็เลยอยากให้บ้าง ตอนนี้ก็ได้ส่งนักเรียนจีนเรียนโรงเรียนทั้งประถม มัธยม และมหาวิทยาลัยอยู่หลายคนเหมือนกัน เมื่อตอนที่เราเกิดเหตุสึนามิ เด็กเหล่านี้รวมๆ เงินกันส่งเงินมาให้ เป็นเงินเบี้ยเลี้ยงที่เราให้เขาไป เขาเก็บได้เขาก็ส่งมา บอกว่าเอามาให้ช่วยคนไทยที่ประสบภัย ก็เป็นน้ำใจของเด็กเขา”







สมเด็จพระเทพฯ ทรงตั้งพระทัยว่าหากได้ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งอีกครั้ง ทรงอยากจะเรียนวิทยาศาสตร์และชีววิทยา เพราะจีนมีความโดดเด่นในด้านดังกล่าว ไม่แน่ว่าสิ่งที่พระองค์ทรงตั้งพระทัยเอาไว้ อาจจะเป็นจริงได้ในอนาคตอันใกล้นี้ เพราะการได้ทรงร่ำเรียนที่ประเทศจีน มิเพียงช่วยเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจในภาษาและวัฒนธรรมจีนหรือวิชาการแขนงต่างๆแก่พระองค์เองท่านั้น แต่คณาจารย์ชาวจีนก็ได้รับความรู้เกี่ยวกับประเทศไทย คนไทย และวัฒนธรรมของไทยจากพระองค์ ที่ทรงบอกเล่าแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างเรียนด้วยเช่นกัน



ความประทับใจและใฝ่ศึกษาเกี่ยวกับประเทศจีนของสมเด็จพระเทพฯ ไม่เพียงแต่สะท้อนจากที่ทรงหวังจะได้ไปศึกษาเพิ่มเติมที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งอีกครั้งเท่านั้น แต่การเสด็จฯ ไปเยือนจีนทุกปีในช่วงที่ผ่านมา ก็เป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดี ซึ่งหลายครั้งที่เสด็จฯไปเยือนประเทศจีน ก็จะทรงถ่ายทอดประสบการณ์ของการเยือนเป็นพระราชนิพนธ์ให้คนไทยได้อ่านด้วย







ตัวอย่างเช่น หลังเสด็จฯ เยือนจีนครั้งแรกเมื่อปี 2524 ได้ทรงพระราชนิพนธ์สารคดีท่องเที่ยวเรื่อง “ย่ำแดนมังกร” ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่ตามมา ได้แก่ “มุ่งไกลในรอยทราย”, “เกล็ดหิมะในสายหมอก” ,“ใต้เมฆที่เมฆใต้”, “เย็นสบายชายน้ำ”, “คืนถิ่นจีนใหญ่” และ “เจียงหนานแสนงาม” เป็นต้น



ทุกพระราชนิพนธ์ของพระองค์ ไม่เพียงจะจุดประกายให้คนไทยนิยมไปเที่ยวประเทศจีนมากขึ้น แต่ยังช่วยให้คนไทยมีความเข้าใจในประเทศจีน คนจีน และวัฒนธรรมของจีนเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ







เช่นนี้แล้ว คำว่า “ทูตสันถวไมตรีไทย - จีน”

จึงเป็นคำที่เหมาะสมกับพระองค์ท่านเป็นที่สุด



yyswim





 

Create Date : 23 มกราคม 2552    
Last Update : 23 มกราคม 2552 10:27:42 น.
Counter : 8970 Pageviews.  

อากาศหนาว





อากาศหนาว
























หมายเหตุ : รูปภาพในบล๊อกจะไม่ตรงกับเนื้อเรื่อง










อากาศเย็นยะเยือกในกรุงเทพฯ และอากาศที่หนาวจับจิตในต่างจังหวัด ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้นดอก หลายๆประเทศก็ต่างได้เจออากาศหนาวครั้งยิ่งใหญ่นี้ไม่แตกต่างกันนัก อุปมาคล้ายกับสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอยอย่างรุนแรง ที่มีปรากฏอยู่ทั่วไปในทุกประเทศในตอนนี้







แต่สำหรับอากาศหนาว ....ว่ากันว่า ระดับของเมืองไทยน่ะแค่ขี้ปะติ๋ว อากาศหนาวในหลายประเทศนั้นรุนแรงกว่าเป็นอันมาก







หิมะตกเป็นครั้งแรกในรอบ 100 ปีที่ภูมิภาคตะวันออกกลางของเอเชีย ดินแดนที่อุดมไปด้วยน้ำมันและทะเลทราย ..คือ ประเทศอิรัก ชาวกรุงแบกแดด ได้ตื่นตาตื่นใจกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ท่ามกลางอุณหภูมิที่ลดลงมาอยู่ที่ระดับศูนย์องศาเซลเซียส







ประเทศอิหร่าน ก็เกิดปรากฏการณ์เช่นเดียวกัน ในพื้นที่ทางตอนเหนือใกล้กับทะเลสาบแคสเปียน แต่ที่อิหร่านไม่เพียงแค่หิมะตก หากแต่มีมากกว่านั้น เป็นพายุหิมะถล่มเมืองทางตอนเหนือของประเทศอีกด้วย ซึ่งความหนาวเหน็บในครั้งนี้ส่งผลให้ชาวอิหร่านถึงกับเสียชีวิตหลายคน







ประเทศเคนยา ในทวีปแอฟริกา เกิดหิมะตกหนักปกคลุมพื้นที่ 1.2 แสนตารางเมตร ในเมืองบูซารา ห่างจากกรุงไนโรบีไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 225 กิโลเมตร ซึ่งสร้างความงุนงงให้กับประชาชนชาวเคนยา ซึ่งเดิมทีก็มีแต่ทะเลทรายมาตลอด เขาเหล่านั้นถึงกับวิ่งออกมาจากบ้าน เพื่อมาดูปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเห็นเลยในชีวิต พร้อมกับลองลิ้มชิมรสเกล็ดน้ำแข็งสีขาว







ประเทศอินเดีย แม้จะไม่มีรายงานการเกิดหิมะตก แต่ด้วยสภาพอากาศหนาวเย็นแผ่ปกคลุมไปทั่วหลายเมือง นับตั้งแต่กรุงนิวเดลีไปจนถึงทางตอนเหนือของประเทศ อุณหภูมิในหลายเมืองลดลงมาเหลือเพียง 4 องศาเซลเซียส ก็ประมาณเท่ากับบนยอดดอยบ้านเรา และมีผู้เสียชีวิตจากสภาพความหนาวเย็นไปแล้วอย่างน้อย 34 ราย







กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ขณะนี้อุณหภูมิลดลงมาอยู่ที่ 10 องศาเซลเซียส และเกิดพายุหิมะตกหนักในเขตปกครองตนเองซินเจียง ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ไปตลอดจนถึงเขตมองโกเลีย และมณฑลกานซู







ประเทศสเปน เกิดพายุหิมะตกหนักในเขตภาคกลางของประเทศอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ส่งผลให้ท่าอากาศยานหลายแห่งในประเทศต้องปิดให้บริการ และมีผู้โดยสารนับพันคนต้องติดค้างอยู่ที่สนามบินนานหลายๆชั่วโมง เส้นทางการจราจรบนท้องถนนในกรุงมาดริด ก็พบอุปสรรคจากหิมะที่กองทับถมหนาจนรถยนต์ไม่สามารถเคลื่อนผ่านไปได้ พร้อมกับการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมากมาย







ประเทศเยอรมนี มีรายงานข่าวว่า สภาพอากาศที่หนาวมากทำให้แม่น้ำหลายสายในประเทศต้องกลายสภาพเป็นน้ำแข็งไปแล้ว ซึ่งปิดกั้นเส้นทางขนส่งทางน้ำของประเทศไปโดยปริยาย รวมทั้งมีรายงานผู้เสียชีวิตจากสภาพอากาศเลวร้าย 3 คน







ประเทศบัลแกเรีย ที่ไม่เพียงแต่มีสภาพขาดแคลนก๊าซ อันเกิดจากข้อพิพาทเรื่องก๊าซธรรมชาติระหว่างบริษัทพลังงานรายใหญ่ในรัสเซีย กับรัฐบาลยูเครนเท่านั้น แต่ยังต้องเผชิญกับสภาพอากาศอันหนาวเหน็บที่อุณหภูมิติดลบ 17 องศาเซลเซียสติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน ทำให้โรงเรียนหลายแห่งปิดการสอน ทางการต้องประกาศภาวะฉุกเฉินในหลายพื้นที่ ขณะที่หมู่บ้านมากกว่า 300 แห่ง ต้องตกอยู่ในสภาพไม่มีไฟฟ้าใช้ ตลอดจนประชาชนเริ่มตกอยู่ในสภาพขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม







ประเทศโปแลนด์ ก็ประสบปัญหาชะตากรรมเช่นเดียวกัน มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 83 คน โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ล้วนเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัย







ประเทศโรมาเนีย ในแคว้นทรานซิลเวเนีย ที่อยู่ห่างจากกรุงบูดาเปสต์ ราว 200 กิโลเมตร มีอุณหภูมิติดลบ 30 องศาเซลเซียส และเกิดพายุหิมะกระหน่ำลงมาตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม นับเป็นสภาพอากาศที่หนาวจัดที่สุดในรอบ 50 ปี







ประเทศฝรั่งเศส เมืองตากอากาศริมชายฝั่งทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ที่มักจะอบอุ่นไปด้วยไอแดด อย่างเมืองมาร์กเซย์ กลับต้องเผชิญกับพายุหิมะเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีเช่นเดียวกัน จนทำให้สนามบินและการจราจรตามท้องถนนในเมืองต้องกลายเป็นอัมพาต และกลายเป็นข่าวใหญ่ที่สุดของประเทศฝรั่งเศสในช่วงฤดูหนาว







กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ รายงานว่า อังกฤษก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นแบบต่อเนื่องหลายวัน โดยล่าสุดอุณหภูมิในช่วงเช้ามืดของวันเสาร์ที่ 17 มกราคม หล่นลงไปติดลบที่ 30 องศาเซลเซียสเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือเป็นสภาพอากาศที่หนาวเย็นที่สุดในรอบ 30 ปี ... ข่าวไม่ได้บอกว่าเมืองไหน เพราะเห็นยังแข่งฟุตบอลพรีเมียร์ชิพกันได้







ประเทศอิตาลี เกิดสภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างหนัก มีทั้งพายุหิมะและพายุฝนที่ตกกระหน่ำลงมาในบริเวณทางตอนใต้ของประเทศ ส่งผลให้ทางการต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน ...สำหรับที่กรุงโรม เกิดน้ำไหลบ่าเข้าท่วมอุโมงค์ลอดใต้ถนน เนื่องมาจากระดับน้ำในแม่น้ำทิเบอร์และอานิเอเน เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดความโกลาหลต่อการขนส่งเป็นอย่างมาก







ประเทศสหรัฐ สภาพอากาศที่หนาวเย็นถึงขั้นผิดปกติ เดินทางมาพร้อมกับการต้อนรับพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของ นายบารัก โอบามา พอดี เป็นพายุหิมะถล่มเมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา ซึ่งเดิมทีพื้นที่เหล่านี้เป็นทะเลทรายเสียส่วนใหญ่ หิมะนั้นทับถมกันสูงถึง 3.6 ฟุต สร้างความประหลาดใจให้กับผู้คนทั่วประเทศ ..หลายเมืองในมลรัฐมิชิแกน ก็มีอุณหภูมิติดลบ 10-19 องศาเซลเซียส ….แถบตอนกลางของประเทศทางฝั่งตะวันตกขึ้นไปทางเหนือ ลามไปจนถึงภาคตะวันออกของประเทศ อุณหภูมิก็ได้ลดลงมาต่ำกว่าจุดเยือกแข็งเช่นเดียวกัน







สำหรับประเทศไทย จากเหตุการณ์อากาศหนาว นายสมชาย ใบม่วง ผู้อำนวยการสำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา อธิบายว่า สาเหตุที่อากาศหนาวเย็นตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2552 นั้น มีสาเหตุมาจากอิทธิพลของความกดอากาศสูงจากประเทศจีนระลอกใหญ่ที่พัดเข้าปกคลุมประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทั่วทุกภาคของไทยมีอุณหภูมิลดต่ำลงจนมีอากาศหนาว โดยเฉพาะทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอากาศหนาวจัด ซึ่งลบสถิติเดิมในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนๆ







ไม่เว้นแม้แต่พื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งมีอุณหภูมิต่ำลงกว่าปีก่อนๆ วัดได้ต่ำสุดเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2552 คือ 14.7 องศาเซลเซียส ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง แต่ก็ยังไม่ถือว่าต่ำสุด เพราะจากสถิติเมื่อ 54 ปีที่แล้ว เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2498 กรุงเทพฯ เคยหนาวสุดอุณหภูมิวัดได้ 9.9 องศาเซลเซียส







นายสมชาย ใบม่วง ผู้อำนวยการสำนักพยากรณ์อากาศ กล่าวว่าในระยะหลังๆนี้ คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับอากาศร้อนอย่างต่อเนื่อง ไม่ค่อยได้สัมผัสกับอากาศหนาวมาเป็นเวลานาน จึงทำให้เกิดความรู้สึกหนาวกว่าปกติ







สำหรับฤดูหนาวของไทยในปีนี้ จะเต็มฤดูกาลในเดือนกุมภาพันธ์ และตั้งแต่ปลายสัปดาห์นี้ อากาศจะอุ่นขึ้นอีก 1-2 องศาเซลเซียส และจากนั้นคาดว่าจะมีความกดอากาศจะแผ่ลงมาอีกเป็นระลอกๆ คราวละ 3-5 วัน แต่จะไม่หนาวจัดแล้ว โดยเฉลี่ยจะมีอุณหภูมิประมาณ 20 องศาเซลเซียส







“ลมหนาวจากจีนระลอกใหญ่ที่เข้ามาครั้งนี้ มีขนาดกำลังแรง ทำให้ทุกพื้นที่ของไทย เจออากาศที่เย็นในรอบ 10 ปี ขณะเดียวกันอิทธิพลของความเย็น ยังทำให้ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกได้รับอิทธิพล ไล่ตั้งแต่พื้นที่ประจวบคีรีขันธ์ลงไป และเจอคลื่นซัดฝั่ง หรือมอนซูนเซิร์จ ที่มาจากมรสุมแรงบวกกับน้ำทะเลหนุน” นายสมชาย ใบม่วง กล่าว







ด้วยอิทธิพลของอากาศหนาวเย็นในขณะนี้ ทำให้ปริมาณการใช้น้ำประปาในกรุงเทพฯลดลงมาก อาจจะคาดเดาได้ว่าคนกรุงเทพฯ นิยมไม่อาบน้ำนั่นเอง นายวีรชาติ โอฬาพิริยะกุล รองผู้ว่าการการประปานครหลวง เปิดเผยว่า เนื่องจากอากาศหนาว ทำให้ประชาชนใช้น้ำประปาลดลงวันละ 3 แสนลูกบาศก์เมตร จากปกติที่เคยสูบน้ำให้ใช้วันละ 4.8 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยเมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมามีการจ่ายน้ำลดลงเหลือเพียง 4.5 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น







น.สพ.อลงกรณ์ มหรรณพ นายสัตวแพทย์ช่วยราชการประจำสำนักพระราชวัง ระบุว่า สภาพอากาศหนาวจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของสัตว์เลื้อยคลานซึ่งเป็นสัตว์เลือดเย็น ต้องอาศัยความร้อนจากแสงแดดในการย่อยอาหาร และกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต และอากาศหนาวเย็นจะทำให้ตัวอ่อนที่อยู่ในไข่สัตว์เลื้อยคลาน มีโอกาสเป็นเพศเมียทั้งหมด เพราะโดยหลักธรรมชาติหากอุณหภูมิในอากาศต่ำ จะทำให้เชื้อตัวผู้ที่อยู่ในไข่มีโอกาสตายได้สูง หากไม่มีเพศผู้เหลืออยู่ ก็อาจจะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ได้ง่าย







ในหลวงทรงห่วงใยพสกนิกร พระราชทานผ้าห่มต้านภัยหนาว


นายดิสธร วัชรโรทัย รองเลขาธิการพระราชวัง และประธานกรรมการ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปมอบผ้าห่มกันหนาวและสิ่งของพระราชทาน ให้แก่ราษฎรที่ประสบภัยหนาว ในพื้นที่ จ.น่าน ที่ อ.บ้านหลวง อ.เมืองน่าน และ อ.ภูเพียง รวม 1,000 ครอบครัว ...มอบผ้าห่มกันหนาวแก่นักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 13 และราษฎร อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ จำนวน 500 ครอบครัว และในพื้นที่ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ จำนวน 500 ครอบครัว ….มอบผ้าห่มกันหนาวแก่ราษฎรที่ประสบภัยหนาว อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ จำนวน 500 ครอบครัว และ อ. ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ อีก 500 ครอบครัว








ความเห็นของผม ต่ออากาศหนาว



อากาศหนาว แม้คนเมืองจะตื่นเต้นเตรียมตัวจะไปท่องเที่ยว เตรียมค้นหาเสื้อกันหนาวสวยๆมาอวด แต่คนต่างจังหวัดจะไม่รู้สึกตื่นเต้น แถมยังรู้สึกทรมาน จะจับปลาหาอาหารก็หายาก จะปลูกอะไรก็ปลูกไม่ขึ้นในช่วงนี้



อากาศหนาว แม้ธุรกิจการท่องเที่ยวจะบูม แต่เกษตรกรก็ไม่อยากจะตื่นออกไปทำงาน ธุรกิจและเกษตรกรรมของชาติจะเฉื่อยชาลงมาก แถมโรคระบบทางเดินหายใจก็ระบาดหนัก



อากาศหนาว แม้เหงื่อจะไม่ออก ทำให้แต่งตัวสวยได้ง่าย แต่ผิวพรรณก็แห้ง







อากาศหนาว แม้ไม่ต้องเปิดแอร์และไม่ต้องอาบน้ำ ช่วยให้ประหยัดเงินรายจ่ายต่อเดือนลงได้ แต่อัคคีภัยและไฟป่าก็ชอบที่จะเกิดขึ้นทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง ... โอ ตรุษจีน ตรุษจีน



อากาศหนาว แม้ลำไยและลิ้นจี่จะออกผลดกมาก แต่ข้าวและเมล็ดธัญญพืชทั้งหลายก็จะลีบแบน ลำต้น ไม่แข็งแรง อันเป็นสาเหตุให้ผลผลิตหลักของชาติตกต่ำ



อากาศหนาว แม้ไก่จะไข่ดก แต่โรคหวัดนกก็ระบาดหนัก แถมนกอพยพจากถิ่นหนาวนับหลายหมื่นตัวก็เข้าทำลายไร่สวนอย่างหนัก ไล่อย่างไรก็ไม่ยอมไป







อากาศหนาว จะดีในบางด้าน แต่ก็ไม่ใช่ จะดีไป ซะ ทุกด้าน

สระว่ายน้ำในช่วงนี้ ผู้ว่ายทุกคนจะรู้สึกเป็นอิสระ

ว่ายสบาย ว่ายจองกันคนละลู่ ไม่ต้องแย่งใช้ลู่กับเด็กๆ

แต่อากาศหนาว ผู้ว่ายทุกคนก็ปากสั่น ขาสั่น หนาวสะท้านทรวง

ไม่เว้นแม้ สักคนเดียว หุ หุ หุ



yyswim






 

Create Date : 19 มกราคม 2552    
Last Update : 19 มกราคม 2552 21:10:20 น.
Counter : 8482 Pageviews.  

ขอบคุณ





ขอบคุณ




1. ขอบคุณเพื่อนๆ



ผมขอขอบคุณเพื่อนบล็อกทุกท่าน ที่กรุณาโหวตให้ผม

ในสาขา Best Topical Blog จนได้เข้ารอบ กะเขาด้วย

ผมขอขอบคุณนะครับ ที่ให้เกียรติผม

ขอขอบคุณครับ







ผมเองก็มีส่วนได้ร่วมโหวต ให้กับเพื่อนบล็อกคนเก่ง หลายๆท่าน


เช่น คุณกิจ(กะว่าก๋า) , บิ๊กเจฟ(พลทหารไรอัน) , คุณพู่(JewNid) , น้องดี(มัชชาร) , ย่าดา(ดาดา) , ป้าติ๋ว (nature-delight) , คุณบูลย์ (wbj) , ฐม (พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง) และ กล่อง (อาคุงกล่อง) เป็นต้น


ผมขอร่วมแสดงความยินดีด้วยคนครับ ที่ทุกคนได้รับสายสะพายเกียรติยศ


ขอปรบมือดังๆให้กับทุกคน









2. วันที่ 16 มกราคม เป็นวันครู



คำขวัญ วันครู ประจำปีพ.ศ.2552


"ครูสร้างคนดี เป็นศรีแผ่นดิน ทั่วถิ่นศรัทธา บูชาคุณครู"

เป็นคำขวัญที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ จากการประกวดคำขวัญวันครู ปีพ.ศ.2552

ของ นางนฤมล จันทะรัตน์ จังหวัดกาฬสินธุ์




ในโอกาส วันครู ผมขอกราบพระคุณคุณครูของผม

ที่ทำให้ผมมีอาชีพ และมีโอกาสช่วยเหลือสังคม มาจนทุกวันนี้








โรงเรียนวัดแจ้ง : ผมขอกราบขอบพระคุณ คุณครูวิจิตร เรืองศรี

(ท่านเป็นครูใหญ่ และเป็นคุณครูอนุบาล รวมทั้งคุณครูชั้นประถมปีที่ 1 ของผม)


คุณครูสงวน พัฒนศิริ คุณครูชั้นประถมปีที่ 2


คุณครูสุนาวิน จินตรานันท์ คุณครูชั้นประถมปีที่ 3


และคุณครูอนันต์ บุญดี คุณครูชั้นประถมปีที่ 4



โรงเรียนเกาะสมุย : ผมขอกราบขอบพระคุณ คุณครูเสงี่ยม ขำรักษ์

(ท่านเป็นครูใหญ่ และเป็นคุณครูสอนวิชาศีลธรรมของผม)


คุณครูสุทธิพร กล่อมทอง


คุณครูประพันธ์ เทพนวล


คุณครูนิยม กุฎีคง


คุณครูต้อง กองทอง


คุณครูอัมพร กลับวิเศษ


คุณครูยงยุทธ ยุทธสุริยพันธุ์


คุณครูสรวง บุญสิน


และคุณครูสุทธิ วีรธรรม




จาก สิน (yyswim)

ลูกศิษย์ ที่ต่อมาเป็นครูคนหนึ่งของจุฬาฯ มหิดล และ ม.กรุงเทพ





3. คำขวัญวันครู ในปีต่างๆ




ปี พ.ศ. 2523

เป็นครู ต้องยึดถือคุณธรรมของครู

เจ้าของคำขวัญ ดร.ก่อ สวัสดิ์พาณิชย์



ปี พ.ศ. 2524

ครูที่แท้ ต้องทำแต่ความดี ประพฤติปฏิบัติในระเบียบแบบแผนอันสมควรกับเกียรติภูมิของตน มีความรักในลูกศิษย์และอบรมปัญญาให้ลูกศิษย์มีความสมบูรณ์ทั้งทางด้านวิชาการ ความฉลาดรอบรู้ในเหตุและผล ทางด้านคุณธรรม จริยธรรม และทางด้านพลานามัย

เจ้าของคำขวัญ ดร.สิปปนนท์ เกตุทัต











ปี พ.ศ. 2525

ครูนั้น สังคมยกย่องนับถือว่า เป็นปูชนียบุคคล ทั้งนี้เพราะว่าครูเป็นผู้เสียสละ ยึดมั่นในคุณงามความดี และความถูกต้อง จึงขอให้รักษาความดีนี้ตลอดไป

เจ้าของคำขวัญ ดร.เกษม ศิริสัมพันธ์



ปี พ.ศ. 2526

อนาคตของเด็กไทย อยู่ที่ความเอาใจใส่ของครูทุกคน

เจ้าของคำขวัญ ดร.เกษม ศิริสัมพันธ์





ปี พ.ศ. 2527

ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2527 ผมขอให้เพื่อนครูที่รักทั้งหลายและสมาชิกคุรุสภาทุกท่าน ประสบความสุขสิริสวัสดิ์พิพัฒน์มงคล สัมฤทธิ์ผลอันพึงปรารถนาตลอดไป

เจ้าของคำขวัญ นายชวน หลีกภัย



ปี พ.ศ. 2528

การที่บุคคลหนึ่งจะดำรงชีวิตได้อย่างดีนั้น มิใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะผู้เป็นครูมีแนวปฏิบัติที่ยากยิ่ง เป็นสิ่งน่าเห็นใจที่ครูจะต้องปฏิบัติ โดยยึดถือความดีมีคุณธรรมระดับสูงกว่าบุคคลทั่วไป แต่ก็น่าภาคภูมิใจเมื่อครูผู้ปฏิบัตินั้น ได้รับความเชื่อถือ ศรัทธา และยอมรับจากสังคมมากขึ้น จึงขอให้เพื่อนครูทุกท่าน ปฏิบัติตนด้วยความเสียสละ อดทน ยึดถือความดี มีคุณธรรม เพื่อจะบังเกิดผลดีแก่ตนเอง ชุมชน และประเทศชาติสืบไป

เจ้าของคำขวัญ นายชวน หลีกภัย





ปี พ.ศ. 2529

ครูคือ ผู้พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ให้มีคุณค่าต่อการพัฒนาชาติให้ก้าวหน้า และอยู่รอดปลอดภัย

เจ้าของคำขวัญ นายชวน หลีกภัย



ปี พ.ศ. 2530

ครูดี มีวินัย และคุณธรรม ย่อมน้อมให้เยาวชน เป็นพลเมืองดี

เจ้าของคำขวัญ นายมารุต บุญนาค





ปี พ.ศ. 2531

ครูเป็นผู้สร้าง ครูเป็นผู้ให้ความหวัง ครูเป็นพลังให้ศิษย์เป็นคนดี

เจ้าของคำขวัญ นายมารุต บุญนาค



ปี พ.ศ. 2532

ครูดีมีจรรยา มุ่งค้นคว้าเพื่อพัฒนาเด็กไทย

เจ้าของคำขวัญ พลเอกมานะ รัตนโกเศศ





ปี พ.ศ. 2533

ครูคือผู้อุทิศทั้งชีวิตและจิตใจ ส่งเสริมเพิ่มพูนให้เยาวชนเป็นคนดี

เจ้าของคำขวัญ พลเอกมานะ รัตนโกเศศ



ปี พ.ศ. 2534

ครูคือผู้สร้างสรรค์ ให้เยาวชนของชาติเป็นพลเมืองดี

เจ้าของคำขวัญ พลเอกมานะ รัตนโกเศศ











ปี พ.ศ. 2535

ครูคือผู้ให้ ผู้สร้าง ผู้พัฒนา และผู้นำเยาวชนของชาติ

เจ้าของคำขวัญ ดร.ก่อ สวัสดิ์พาณิชย์



ปี พ.ศ. 2536

ครูคือนักพัฒนา และรักษาสิ่งแวดล้อม

เจ้าของคำขวัญ นายสัมพันธ์ ทองสมัคร





ปี พ.ศ. 2537

ครูคือผู้มีคุณธรรม ชี้นำประชาธิปไตย สร้างเด็กไทยให้เป็นคนดี

เจ้าของคำขวัญ นายสัมพันธ์ ทองสมัคร



ปี พ.ศ. 2538

อุทิศเวลา รักษาคุณธรรม ชี้นำประชาธิปไตย สร้างเด็กไทยให้เป็นคนดี

เจ้าของคำขวัญ นายสัมพันธ์ ทองสมัคร





ปี พ.ศ. 2539

ครู เป็นหัวใจของการพัฒนาคน

เจ้าของคำขวัญ นายสุขวิช รังสิตพล




ปี พ.ศ. 2540

ครูสร้างศิษย์ด้วยมิตรและนำใจ ครูคือผู้ให้ เพื่อเยาวชนไทยได้พัฒนา

เจ้าของคำขวัญ นายสุขวิช รังสิตพล











ปี พ.ศ. 2541

ครูเป็นผู้นำทางปัญญา ชี้นำประชาธิปไตย สร้างเด็กไทยให้เป็นคนดี

เจ้าของคำขวัญ นายชุมพล ศิลปอาชา



ปี พ.ศ. 2542

ครูเป็นผู้เบิกทางแห่งปัญญา

เจ้าของคำขวัญ นายปัญจะ เกสรทอง



ครูชี้ทางสร้างสรรค์ภูมิปัญญา ชนเชิดบูชาพระคุณครู

เจ้าของคำขวัญ นางเซียมเกียว แซ่เล้า





ปี พ.ศ. 2543

ครูต้องมีจิตวิญญาณของความเป็นครู และประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี

เจ้าของคำขวัญ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล



สร้างชาติ สร้างคน ผลงานของครู ทั่วโลกรับรู้ เชิดชูบูชา

เจ้าของคำขวัญ นายประจักษ์ เสตเตมิ



ปี พ.ศ. 2544

พระคุณครูยิ่งใหญ่ สร้างไทยให้พัฒนา ขอบูชาคุณครู

เจ้าของคำขวัญ นางสาวสุทิสา ธนบดีไพบูลย์





ปี พ.ศ. 2545

สร้างคนสร้างชาติ สร้างศาสตร์ก้าวหน้า สร้างภูมิปัญญา ขอบูชาครู

เจ้าของคำขวัญ นายสุเทพ วิเศษศักดิ์ศรี



ปี พ.ศ. 2546

ครูให้ความรู้ ควบคู่จรรยา ปวงชนทั่วหล้า น้อมบูชาครู

เจ้าของคำขวัญ นางสมปอง สายจันทร์











ปี พ.ศ. 2547

ครูคือพลังสร้างแผ่นดิน ไทยทุกถิ่นน้อมบูชาพระคุณครู

เจ้าของคำขวัญ นางสาวพรทิพย์ ศุภกา



ปี พ.ศ. 2548

ครูสร้างคนสร้างชาติด้วยศาสตร์ศิลป์ ทั่วแผ่นศรัทธาบูชาครู

เจ้าของคำขวัญ นายประจักษ์ หัวใจเพชร





ปี พ.ศ. 2549

ครูดีเป็นศรีแผ่นดิน ศิษย์ทั่วถิ่นศรัทธาบูชาครู

เจ้าของคำขวัญ นางพรรณา คงสง



ปี พ.ศ. 2550

สิบหกมกรา เทิดทูน พ่อแผ่นดิน ภูมินทร์บรมครู

เจ้าของคำขวัญ นางสาวศันสนีย์ แสนโรจน์





ปี พ.ศ. 2551

ครูของแผ่นดินเลิศศิลป์ศาสตร์ มหาราชภูมิพลฯ ชนบูชา

เจ้าของคำขวัญ นางพงษ์จันทร์ สุขเกษม



และ ในปีนี้ ปี พ.ศ.2552

ครูสร้างคนดี เป็นศรีแผ่นดิน ทั่วถิ่นศรัทธา บูชาคุณครู

เจ้าของคำขวัญ นางนฤมล จันทะรัตน์













4. ใครคือครู

เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ร้อยกรอง



ใครคือครู ครูคือใคร ให้โลกรู้

ครูคือผู้ อบรม บ่มนิสัย

ครูคือผู้ สร้างสรรค์ สังคมไทย

คือผู้ให้ ความรู้ คู่คุณธรรม



ครูผู้ให้ ไฟสว่าง ทางความคิด

ครูนำจิตศิษย์ให้ ไม่ถลำ

สู่ห้วงเหว ความชั่วช้า บ้าระยำ

ครูชี้นำ วิญญาณ ผ่านอบาย



ใครคือครู ครูคือใคร ขอให้รู้

ไม่เคยลบหลู่ใคร ให้เสียหาย

ครูคือครู ผู้ยังเป็นลูกผู้ชาย

ผู้มั่นหมายยังอยากฝากความดี



ครูจะอยู่ตรงไหน ไม่สำคัญ

ขอยึดมั่นกติกาและหน้าที่

ขอจรรโลงคุณธรรมนำความดี

สมศักดิ์ศรี ปูชนียบุคคล



ใครคือครู ครูคือใคร ในวันนี้

ใช่อยู่ที่ ปริญญา มหาศาล

ใช่อยู่ที่ เรียกว่า ครูอาจารย์

ใช่อยู่นาน สอนนาน ในโรงเรียน



ครูคือ ผู้ชี้นำ ทางความคิด

ให้รู้ถูก รู้ผิด คิดอ่านเขียน

ให้รู้ทุกข์ รู้ยาก รู้พากเพียร

ให้รู้เปลี่ยน แปลงสู้ รู้สร้างงาน



ครูคือผู้ ยกระดับ วิญญาณมนุษย์

ให้สูงสุด กว่าสัตว์ เดรัจฉาน

ครูคือ ผู้สั่งสม อุดมการณ์

ปณิธาน เพื่อมวลชน ใช่ตนเอง



ครูจึง เป็นนักสร้าง ผู้ใหญ่ยิ่ง

สร้างคนจริง สร้างคนกล้า สร้างคนเก่ง

สร้างคน ให้เป็นตัว ของตัวเอง

ขอมอบเพลง นี้มา บูชาครู







เพลง “พระคุณที่สาม”

คำร้อง / ทำนอง : ครูอร่าม ขาวสะอาด



ครูบาอาจารย์ที่ท่านประทานความรู้มาให้


อบรมจิตใจให้รู้ผิดชอบชั่วดี


ก่อนจะนอนสวดมนต์อ้อนวอนทุกที


ขอกุศลบุญบารมีส่งเสริมครูนี้ให้ร่มเย็น



ครูมีบุญคุณจะต้องเทิดทูนเอาไว้เหนือเกล้า


ท่านสั่งสอนเราอบรมให้เราไม่เว้น


ท่านอุทิศไม่คิดถึงความยากเย็น


สอนให้รู้จัดเจนเฝ้าแนะเฝ้าเน้นมิได้อำพราง



* พระคุณที่สามงดงามแจ่มใส


แต่ว่าใครหนอใครเปรียบเปรยครูไว้ว่าเป็นเรือจ้าง


ถ้าหากจะคิดยิ่งคิดยิ่งเห็นว่าผิดทาง


มีใครไหนบ้างแนะนำแนวทางอย่างครู


บุญเคยทำมาตั้งแต่ปางใดเรายกให้ท่าน


ตั้งใจกราบกรานเคารพคุณท่านกตัญญู


โรคและภัยอย่ามาแผ้วพานคุณครู


ขอกุศลผลบุญค้ำชูให้ครูมีสุขชั่วนิรันดร*

* ร้องซ้ำ *










5. บทสวดเคารพครูอาจารย์




(สวดนำ) ปาเจราจริยา โหนติ


(รับพร้อมกัน) คุณุตฺตรานุสาสกา


ปญญาวุฑฺฒิกเร เต เต ทินฺโนวาเท นมามิหํ


ข้าขอประณตน้อมสักการ


บุรพคณาจารย์


ผู้ก่อประโยชน์ศึกษา


ทั้งท่านผู้ประสาทวิชา


อบรมจริยา


แก่ข้าในกาลปัจจุบัน


ข้าขอเคารพอภิวันท์


ระลึกคุณอนันต์


ด้วยใจนิยมบูชา


ขอเดชกตเวทิตา


อีกวิริยะพา


ปัญญาให้เกิดแตกฉาน


ศึกษาสำเร็จทุกประการ


อายุยืนนาน


อยู่ในศีลธรรมอันดี


ให้ได้เป็นเกียรติเป็นศรี


ประโยชน์ทวี


แก่ชาติและประเทศไทย เทอญฯ









จาก yyswim





 

Create Date : 16 มกราคม 2552    
Last Update : 16 มกราคม 2552 22:27:11 น.
Counter : 5125 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  

yyswim
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]





บล็อกสรรสาระนี้ จขบ.ไม่ได้เขียน-ไม่ได้ถ่ายภาพ-ไม่ได้อัพโหลดคลิปเอง หากแต่ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการบล็อก เสาะหาเรื่องดีๆ รูปสวยๆ คลิปแปลกๆ มาไว้ในบล็อก


ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยม ขอเชิญชมหรืออ่านตามสบาย ไม่ต้องคอมเมนต์ก็ได้ จขบ.ชอบการเข้ามาเยี่ยม แบบกันเอง ง่ายๆ สบายๆ




เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2548


เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2550 เวลา 23.30 น.


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม




Latest Blogs

New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add yyswim's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.