สะพานพุทธ กรุงเทพมหานคร
สะพานพระพุทธยอดฟ้า
ภาพสะพานพระพุทธยอดฟ้า จาก ตราไปรษณียากรชุดสะพาน
สะพานพุทธ หรือสะพานพระพุทธยอดฟ้า หรือชื่อที่เป็นทางการ คือ สะพานปฐมบรมราชานุสรณ์ ( Memorial Bridge) เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรี ที่ปลายถนนตรีเพชร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
เป็นสะพานกว้าง 10 เมตร (สะพานพระปิ่นเกล้ากว้าง 21 เมตร) สูงจากระดับน้ำ 7.30 เมตร (สะพานพระปิ่นเกล้าสูงจากระดับน้ำ 11.50 เมตร)
สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เมื่อ พ.ศ. 2472 เนื่องในโอกาสที่สถาปนากรุงเทพมหานครครบ 150 ปี
ทั้งนี้เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ มีพระราชดำริที่จะสร้างสิ่งที่เป็นอนุสรณ์ถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ผู้ทรงสถาปนากรุงเทพมหานคร
จึงโปรดเกล้าฯให้คิดแบบพระบรมราชานุสาวรีย์ และสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นประกอบกัน เป็นปฐมบรมราชานุสรณ์ที่ปลายถนนตรีเพชร
เพื่อเชื่อมการคมนาคมระหว่างพระนครกับธนบุรีให้ติดต่อกันได้สะดวก ทั้งยังจะช่วยขยายพระนครออกไปอีกทางหนึ่งด้วย
โครงการก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์และสะพาน ได้เริ่มมาตั้งแต่ พ.ศ. 2471
โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัดติวงศ์ (ต่อมาเป็นกรมพระยา) อุปนายกราชบัณฑิตยสภา ซึ่งทรงอำนวยการแผนกศิลปกรรม คิดแบบอย่างเป็นพระบรมรูปทรงเครื่องขัตติยาภรณ์ เสด็จประทับเหนือพระราชบัลลังก์
และหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ขนาดสูงตั้งแต่ฐานถึงยอด 4.60 เมตร ฐานกว้าง 2.30 เมตร
ส่วนสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน (ต่อมาคือพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน) เสนาบดีกระทรวงพาณิชย์และคมนาคม ทรงเป็น ผู้อำนวยการสร้าง
โดยได้เลือกแบบของบริษัทดอร์แมนลอง ประเทศอังกฤษ สร้างเป็นสะพานเหล็กยาว 229.76 เมตร กว้าง 16.68 เมตร ท้องสะพานสูงเหนือน้ำ 7.30 เมตร
และอาจยก ตอนกลาง ขึ้นด้วยแรงไฟฟ้า เปิดช่องกว้าง 60 เมตรเพื่อให้เรือใหญ่ผ่านได้สะดวก
ภาพสะพานพระพุทธยอดฟ้าในอดีต
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์ สร้างปฐมบรมราชานุสรณ์ เมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2472 และโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามสะพานว่า
สะพานพระพุทธยอดฟ้า
รัฐบาลได้ประมาณการงบประมาณที่ใช้ในการก่อสร้างปฐมบรมราชานุสรณ์ไว้เป็นจำนวน 4,000,000 บาท
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงบริจาคพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวนหนึ่ง รัฐบาลออกจำนวนหนึ่ง ส่วนอีกจำนวนหนึ่งนั้นทรงพระราชดำริว่าควรบอกบุญเรี่ยไรจากประชาชน
เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดสะพาน
เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2475 (วันจักรี)
ปัจจุบัน นอกจากสะพานพระพุทธยอดฟ้าจะเป็นที่คมนาคม และประดิษฐานปฐมบรมราชานุสรณ์แล้ว ยังมีลานสาธารณะให้คนทั่วไปได้ใช้นั่งเดินพักผ่อน และเป็นลานกีฬาของเด็กนักเรียนแถวนั้นด้วย ทั้งฟุตบอล และสเก็ตบอร์ด ซึ่งจะมีให้เห็นทุกวันในช่วงเย็น
สะพานพุทธ(ฝั่งพระนคร)ในช่วงกลางคืน กลายเป็นหนึ่งในแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของกรุงเทพฯในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ในยามค่ำคืนพื้นที่ใต้สะพานพระพุทธยอดฟ้าในปัจจุบัน (และพื้นที่ใต้สะพานพระปกเกล้า)ของฝั่งกรุงเทพ ประมาณ 18.00 จนถึง 23.00 นาฬิกาโดยประมาณ จะเป็นตลาดนัดยามค่ำคืน ที่มีสินค้าแฟชั่นหลายหลาย โดยเฉพาะสินค้ามือสอง พวกเสื้อ กางเกง กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ
อีกทั้งยังมีศิลปินอิสระ ส่วนมากเป็นนักศึกษาเพาะช่างและศิลปากร มารับวาดภาพและขายภาพวาดด้วยราคาประหยัด
ประกอบกับรูปแบบการขายกำลังเป็นที่นิยมของวัยรุ่น ทำให้ตลาดสะพานพุทธในปัจจุบัน คลาคล่ำไปด้วยวัยรุ่นจำนวนมาก มาซื้อหาหรือมาเดินเล่น กันแน่นขนัดทุกค่ำคืน
ตลาดนัดสะพานพุทธเปิดทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์
ข้อมูลทั่วไป
วันที่ทำการก่อสร้าง : วันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2472 (ค.ศ. 1929)
วันเปิด : วันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2475 (ค.ศ. 1932)
บริษัทที่ทำการก่อสร้าง : DORMAN LONG & CO.LTD
ราคาค่าก่อสร้าง : 4 ล้านบาทเศษ (ราคาในปี พ.ศ. 2471)
แบบของสะพาน : ชนิดเปิด - ปิดได้ ( ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น ปิดตาย )
โครงสร้างส่วนบน : เป็นลักษณะโครงเหล็กตลอด
ความสูงจากระดับน้ำ : 7.30 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง
ความกว้างของสะพาน : 10.00 เมตร
กรุงเทพมหานคร
กรุงเทพมหานคร หรือ บางกอก เมืองหลวงของประเทศ เริ่มก่อตั้งขึ้นหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงครองราชย์ปราบดาภิเษกเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชจักรีวงศ์ เมื่อวันเสาร์ที่ 6 เมษายน เดือนห้า แรม 9 ค่ำ ปีขาล พ.ศ. 2325
พระองค์ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวัง ทางคุ้งแม่น้ำเจ้าพระยาฟากตะวันออก เนื่องจากเป็นชัยภูมิที่ดีกว่ากรุงธนบุรี เพราะมีแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นแนวคูเมืองทางด้านตะวันตก และด้านใต้
อาณาเขตของกรุงเทพฯ ในตอนแรกถือเอาแนวคูเมืองเดิมฝั่งตะวันออกของกรุงธนบุรี คือ แนวคลองหลอด ตั้งแต่ปากคลองตลาด จนออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณสะพานพระปิ่นเกล้า เป็นบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ มีพื้นที่ประมาณ 1.8 ตารางกิโลเมตร
บริเวณที่สร้างพระราชวังหลวงนั้น เดิมเป็นที่อยู่อาศัยของพระยาราชเศรษฐีและชาวจีน ซึ่งได้โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายไปอยู่ที่สำเพ็ง
ในการก่อสร้างพระราชวังหลวง โปรดเกล้าฯ ให้พระยาธรรมาธิบดี กับพระยาวิจิตรนาวีเป็นแม่กองคุมการก่อสร้าง
ได้ตั้งพิธียกเสาหลักเมือง เมื่อวันอาทิตย์ เดือน 6 ขึ้น 10 ค่ำ ย่ำรุ่งแล้ว 54 นาที (21 เมษายน 2325)
พระราชวังแล้วเสร็จ เมื่อ พ.ศ. 2328 จัดให้มีพิธีบรมราชาภิเษกตามแบบแผน รวมทั้งงานฉลองพระนคร โดยพระราชทานนามพระนครใหม่ว่า
กรุงรัตนโกสินทร์อินท์อโยธยา
ครั้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงแก้นามพระนครเป็น
กรุงเทพมหานคร บวรรัตนโกสินท์ มหินทอยุธยา
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเปลี่ยน คำว่า บวร เป็น อมร
เปลี่ยนการสะกดคำ สินท์ เป็น สินทร์
เปลี่ยนคำว่า มหินทอยุธยา โดยวิธีสนธิศัพท์เป็น มหินทรายุธยา
และเติมสร้อยนามต่อ เป็น
กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตน์ราชธานีบุรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกทัตติยะวิษณุกรรมประสิทธิ์
และในสมัยจอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรี ได้รวมจังหวัด ธนบุรี เข้าไว้ด้วยกันกับกรุงเทพฯ แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2515
คำแปลชื่อเต็มกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพมหานคร
พระนครอันกว้างใหญ่ดุจเทพนคร
อมรรัตนโกสินทร์
เป็นที่สถิตของพระแก้วมรกต
มหินทรายุธยา
เป็นมหานครที่ไม่มีใครรบชนะได้
มหาดิลกภพ มีความงามอันมั่นคงและเจริญยิ่ง
นพรัตน์ราชธานีบุรีรมย์
เป็นเมืองหลวงที่บริบูรณ์ด้วยแก้วเก้าประการน่ารื่นรมย์ยิ่ง
อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน
มีพระราชนิเวศใหญ่โตมากมาย
อมรพิมานอวตารสถิต
เป็นวิมานเทพที่ประทับของพระราชาผู้อวตารลงมา
สักกทัตติยะวิษณุกรรมประสิทธิ์
ซึ่งท้าวสักกเทวราชพระราชทานให้พระวิษณุกรรมลงมาเนรมิตไว้.
Create Date : 30 มกราคม 2549 |
Last Update : 30 มกราคม 2549 9:45:53 น. |
|
55 comments
|
Counter : 5272 Pageviews. |
|
|
|
อิอิ
มารับความรู้นะค้า