พังงา



พังงา




กรุงเทพในเดือนมิถุนายน เป็นช่วงฤดูฝน มีสายฝนฉ่ำฟ้าในบางเวลา แต่ก็ตกทั่วฟ้าทั่วทุกบ้านและทั่วทุกเขต


พังงา จังหวัดหนึ่งทางทะเลฝั่งอันดามัน ซึ่งปกติจะมีฝนตกบ่อยอยู่แล้ว ยิ่งฤดูฝนช่วงนี้ จะยิ่งมีเมฆฝน ครึ้มทมึน ดูๆก็น่ากลัวอยู่ บางวันจะมีฝนตกหนัก คลื่นทะเลแถวๆชายหาดในตอนเช้าและตอนย่ำค่ำจะสูงถึง 1 เมตร












นับเป็นช่วงโลว์ซีซั่น สำหรับการท่องเที่ยวของ จ.พังงาโดยแท้



เรือนำเที่ยวไปดำน้ำ ไปดูปลาแถวเกาะสิมิลัน และหมู่เกาะสุรินทร์(หมู่บ้านชาวมอแกน) ช่วงนี้จะหยุดให้บริการชั่วคราว กิจกรรมริมหาดสวยๆแถวเขาหลัก ซึ่งปกติจะมีคนนั่งและนอนอยู่หนาตา (ลักษณะการนั่งและนอน จะแบบสงบเงียบ เพราะจ.พังงาเน้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ จะไม่มีร่มริมชายหาด จะไม่มีเจ็ทสกี บัลลูน หรือบานาน่าโบ๊ต) ...ในช่วงนี้ชายหาดจะร้างผู้คน จะมีคนเดินเล่นที่ชายหาด แทบจะนับคนได้









ช่วงนี้ โรงแรมทุกโรงแรมต่างลดราคาค่าห้องลงมา จากหลักหลายๆพันบาท หรือระดับสองหมื่นบาทเศษ ก็จะเหลือเพียงระดับพันบาทเศษๆ หรือเพียง 3-4 พันบาทเท่านั้น




ใครคิดอยากจะไปเทียบชั้นมหาเศรษฐี ได้นั่งและนอนบนห้องพักหรูๆ ผ้าปูที่นอนขาวสะอาด ฟูกหนานิ่มเหลือเกิน ก็ไปในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม นี้แหละ …ไม่ควรจะพลาด













ผมบังเอิญได้ไปพังงาในช่วงนี้ ได้นอนพังงา 3 คืน ใน 2 โรงแรมระดับห้าดาว ห้องพักเนี๊ยบมาก บริการของโรงแรมก็แสนจะวิเศษ ยิ้มแย้มและให้เกียรติราวกับผม เป็นแขกวีไอพี ทั้งๆที่ราคาค่าห้อง ซึ่งนอนกันห้องละ 3 คนรวมอาหารเช้า เพียงราคา 1,900 บาทเศษ และอีกโรงแรมหนึ่ง ซึ่งไม่ได้รวมอาหารเช้า ราคาเพียง 1,500 บาทเท่านั้น




บริเวณโรงแรม พวกบ้านเป็นหลังๆ นี่แหละ ที่ราคาในช่วงไฮ ซีซั่น จะต้องจอง และราคา 2 หมื่นบาทเศษ








แต่ผมพัก ชั้นสูงกว่านั้น อิอิ ...อยู่ชั้นสาม ราคาปกติ 5,500 บาท การตกแต่งห้องพักบนชั้นสาม และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้อง ก็มีครบและหรู คล้ายๆกับแบบห้องที่เป็นบ้านครับ มีกาแฟให้กินฟรีด้วย

























เพียงแต่แบบห้องพักที่เป็นบ้าน เนื้อที่ห้องจะกว้างกว่า มีห้องรับแขกแยกจากห้องนอน มีตู้เสื้อผ้าใหญ่กว่า มีทีวีจอใหญ่กว่า เตียงก็ใหญ่กว่า ... อ้อ และที่อาบน้ำก็มีทั้ง แบบอาบภายในอ่างอาบน้ำ อาบจากฝักบัวภายในห้องน้ำ และก้อ ยืนอาบกลางแจ้งท่ามกลางแสงจันทร์แสงดาวและพันธ์ไม้ โฮะโฮะ




นี่ไง สระว่ายน้ำใสแจ๋ว ว่ายซะชุ่มช่ำใจ







ร้านอาหารอร่อยๆดังๆ แถวจ.พังงา ที่ปกติแต่ละโต๊ะจะต้องรอคิวอาหารนานเกินครึ่งชั่วโมง ช่วงนี้ จะไม่ต้องรอคิวเลย สั่งปุ๊บก็จะได้กินปั๊บ เพราะมีคนไปกินกัน แค่จอดรถหน้าร้านเพียง 3-4คัน หรือแค่ 3-4 โต๊ะเท่านั้น



อาหารยังสด และอร่อยเหมือนเดิม ... โฮะโฮะ แต่ราคาอาหาร ไม่ยัก กะลด เหมือนราคาห้องพักในโรงแรม




แกงส้มปลากะพง ผักรวม






ผัดสะตอใส่กะปิ






ทอดมัน






ต้มกะทิผักเหมียง






น้ำพริกกุ้งเสียบ






ไข่เจียวปู






และเย็นวันหนึ่ง ได้โอกาสไปกิน ขนมจีนน้ำยาปักษ์ใต้ กัน ..ผมชอบกินขนมจีน ที่ใส่น้ำยาเลนๆ(น้ำยาใส่แฉะๆ)กับผักดองเยอะๆ แต่ผักสดก็สนใจนะครับ








ส่วนเพื่อนๆ เธอชอบกินขนมจีนน้ำยาปูไข่ เห็นชิ้นปูม้าในจานขนมจีนคนละ 1 ชิ้น ... แต่เขาไม่ยอมให้ถ่าย หุหุ เขาบอก “กำลังหิว อย่าจุ้น”





หากใครมีโอกาสได้ไปพังงาในเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม นอกจากจะได้เป็นราชาในโรงแรมหรูๆแล้ว ใครที่ไปช่วงเดือนนี้ ยังจะได้กินผลไม้สดอร่อยจากในสวน เขาขายกันมากมาย ริมถนน อย่างราคาถูกมากๆด้วย



จะได้เป็นเจ้าชายเจ้าหญิง บนกองผลไม้ ก็ตอนนี้ละ …กินกันเปรม อุราเลยยย



เงาะโรงเรียน กิโลละ 10 บาท







มังคุด กิโลละ 12-13 บาท มังคุดนี่ ภายในรถแทบจะมีอยู่เต็มรถ และตลอดเวลา เพราะทุกคนชอบกินมังคุด กินจนจะอิ่มแทนข้าวอยู่แล้ว รถจอดที ต้องทิ้งเปลือกมังคุดที อุอุ















หนามแบบนี้ ผมไม่ทราบว่ากิโลละเท่าไร เพราะไม่มีใครสนใจทุเรียนสักคนเดียว คงจะเหม็นรถ และล้างมือลำบาก ครั้นจะนำเข้าไปกินในโรงแรม เขาก็ห้าม







มีใครสนใจลางสาด และแตงโมบ้าง …อุอุ เงียบ!!! ไร้คนเหลียวมอง











สะตอสดๆ เก็บมาจากสวน 100 ฝักราคาขาย 220 บาท ขายกันริมถนนเลย ...ซื้อกันแทบทุกคนครับ ..แปลกดี!!! หลังจากที่แต่ละคนได้ทานผัดสะตอ และสะตอกับน้ำพริกกะปิ แค่ 5 วันเอง











ผักเหมียง และกะปิ ก็มีคนซื้อกลับกรุงเทพครับ…..





วันใดฟ้าเปิด พอจะมีแดดบ้าง นักท่องเที่ยวก็จะออกไปเที่ยวในอ่าวพังงา เช่น เกาะปันหยี เขาตะปู เขาพิงกัน และถ้ำลอด มีบ้างที่นั่งเรือหางยาว และมีบ้างที่พายเรือคะยัค






















ผมเอง พอเสร็จจากงานราชการ ผมก็ออกไปเที่ยวพร้อมๆกะเพื่อนด้วย ไม่ได้ไปดำน้ำหรอกครับ แค่ออกไปนั่งเรือหางยาวเล่น ไปที่เขาตะปู เขาพิงกัน แต่ไม่ได้ขึ้นเกาะ แค่ถ่ายรูปจากบนเรือหางยาวเท่านั้น แล้วก็จะรีบไปถ้ำลอด

















ที่ถ้ำลอด ก็ถ่ายรูปจากเรือหางยาวเช่นกัน ตอนนั้นเรือกำลังโคลงเคลงไปมาได้ที่ทีเดียว น่าจะมีคนอ๊วกบ้าง แต่เปล่าเลย มัวสนุกกับการผลัดกันถ่ายรูปไปมา เธอมั่ง ฉันมั่ง ตอนนั้นเรือหางยาวดับเครื่อง ให้พวกเราได้ถ่ายรูป

















บนเกาะปันหยี ได้จอดเรือและขึ้นไปรับประทานอาหารและซื้อของ มีพวกสร้อยคอมุก ปลาเค็ม กุ้งแห้ง กะปิ ปลาหมึกแห้ง ผมไม่ได้ซื้ออะไรครับ เพราะยังจะต้องไปทำงานต่อที่ระนอง

















ถ้ำพุงช้าง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของจ.พังงาที่ผมประทับใจ และขอแนะนำเพื่อนๆว่า หากใครมีโอกาสไปเยือนจ.พังงา ควรจะพยายามหาโอกาสไปเที่ยวที่นี่ …. ผมว่าที่นี่ เป็นอันซีนของเมืองไทยแห่งหนึ่งได้ทีเดียว



ความสวยมหัศจรรย์ภายในถ้ำ ยังคงสภาพแบบดั้งเดิม ธรรมชาติมากๆ หินงอกหินย้อยมีขนาดใหญ่โตกว่าที่อื่น บางชิ้นแผ่พลิ้วและบางราวกับผืนผ้าไหม บางชิ้นงอกยาวแหลมและทิ่มตรงราวกับคมหอกคมดาบ บางชิ้นก็ลดหลั่นเป็นชั้นๆราวกับบัลลังก์ บางชิ้นก็ขรุขระ งอกแบบไร้มิติที่แน่นอน มองดูคล้ายโขลงช้าง คล้ายหญิงสาว คล้ายหลวงจีน คล้ายนก คล้ายปลา แล้วแต่ใครจะจินตนาการมองออกเป็นอย่างไร



ถ้ำแห่งนี้มืดสนิท ไร้ซึ่งแสงสว่างใดๆ หากดับไฟฉายที่ทุกคนนำเข้าไป ถ้ำแห่งนี้ก็จะมืดและเงียบ สาเหตุเพราะทุกคนกำลังยืนอยู่ ณ ใจกลางของใต้ภูเขานั่นเอง







เมื่อรถตู้มาถึงเขาช้าง







น่าเสียดายครับ เขาห้ามถ่ายภาพเด็ดขาดภายในถ้ำ เพราะหินย้อยหินงอกยังมีชีวิต อีกอย่างในถ้ำมืดมาก และมีน้ำหยด กับจะต้องลุยน้ำ ...กล้องคงจะสะบักสะบอมหากนำเข้าไป



การไปถ้ำแห่งนี้ หากใครจะไปเองแบบไม่มีคนนำทาง ผมขอบอกว่า ไม่ควรจะกระทำนะครับ เพราะจะเสี่ยงอันตรายเกินไป หากพลาดพลั้งก้าวเท้าลงในน้ำลึก แล้วไฟฉายบังเอิญดับหรือพลัดหล่นหาย หรืออาจจะไฟฉายดับเพราะถ่านหมด ....คราวนี้ละรอบข้าง จะมืดสนิท ...ซึ่งอาจจะหลงทางกลับออกมาไม่ได้ และอาจจะเดินชนหินสะดุดหินได้ง่ายมาก ....ขนาดคนนำทางเอง เขายังบอกผมว่า หากให้เขาเข้ามาเพียงคนเดียว เขายังไม่กล้าเลย ที่เขากล้าเข้ามานี่ ก็เพราะมีพวกเราเข้าไปด้วย .......โฮะโฮะ น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า



การไปเที่ยวชมถ้ำพุงช้าง นักท่องเที่ยวไม่ว่าไทย จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี(ตอนนี้ฝรั่งเริ่มจะรู้จักและเข้าไปเที่ยวมากขึ้น) กระทำโดยจ้างคนนำทางครับ ซึ่งจะมีให้บริการอยู่บริเวณปากถ้ำ การนำทางทำโดยเด็กหนุ่มๆวัยประมาณ 20 เศษ ซึ่งจะเล่าโน่นเล่านี่ไปตลอดทาง จริงบ้างเท็จบ้าง มั๊ง?



ค่านำเที่ยวเสียเป็นรายคน คนละ 200 บาท ใช้เวลาอยู่ในถ้ำราวชั่วโมงเศษ ทั้งนี้จะมีไฟฉายให้ยืมคนละดวง ไว้ส่องดูผนังถ้ำ ดูเพดานถ้ำ ซึ่งจะมีค้างคาวนับร้อย และมีพันธ์ค้างคาวที่คนนำทางบอกว่า เล็กที่สุดในโลก อยู่ในถ้ำแห่งนี้



ไฟฉายบางครั้งจะต้องไว้ส่องทางเดินในน้ำ ....ถูกแล้วครับ ...การเที่ยวถ้ำพุงช้าง จะมีบางช่วงที่ทุกคนจะต้องเดินด้วยเท้า ในลำธารน้ำใสและเย็นเจี๊ยบ แต่บางช่วงก็จะได้นั่งเรือแคนู และบางช่วงก็จะได้นั่งบนแพไม้ไผ่ อุอุ ชัวร์ ทำกันในท่ามกลางความมืด



จ่ายเงินค่านำทางแล้วก็เดินตรงไปที่ปากถ้ำ


















ถ้ำพุงช้าง เป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยขนาดใหญ่ และเป็นหินงอกหินย้อยที่ยังมีชีวิต เพราะถ้ำแห่งนี้อยู่ภายในภูเขา ความยาวของถ้ำประมาณ 1,200 เมตร คดเคี้ยวไปตามความยาวของกลางภูเขา ชื่อว่า “ภูเขาช้าง” ปากถ้ำอยู่บริเวณด้านทิศตะวันออก บริเวณใกล้ส่วนหัวของภูเขา ส่วนด้านก้นถ้ำซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตก อยู่บริเวณส่วนท้ายของภูเขาลูกเดียวกัน



พื้นของถ้ำจะมีลำธารไหลผ่านตลอด ไม่มีตอนใดเลยภายในถ้ำที่จะยืนบนที่แห้ง พื้นถ้ำบางช่วงจะมีน้ำลึก ถ้าอยู่บริเวณปากทางเข้าถ้ำก็จะใช้เรือยาง แต่ถ้าอยู่ลึกเข้าไป ท่ามกลางความมืดภายในถ้ำ ก็ใช้แพไม้ไผ่



ข้างในถ้ำจะมืด และเงียบ อาจจะมีเพียง เสียงของหยดน้ำที่จะไหลหยดตลอดเวลาจากบนเพดานถ้ำ หยดลงมาจากหินย้อย หยดลงสู่หินงอก หินงอกหินย้อยจึงยังมีชีวิตอยู่ตลอดทั้งปี ….น้ำในลำธารพื้นถ้ำ และน้ำที่หยดจากบนเพดานถ้ำและแถวผนังถ้ำ เป็นน้ำใต้ดินที่มีอยู่ตลอดทั้งปีภายใน ภูเขาช้าง



ผมถามคนนำทางว่า “เคยสังเกตว่ามีน้ำมากขึ้นกว่าเดิม บ้างมั๊ย?”



คนนำทางบอกว่า “มี แต่ไม่ได้ไหลบ่าลงมาทันทีแบบน้ำป่า แต่จะค่อยๆเอ่อสูงขึ้นเรื่อยๆ หากมีฝนตกต่อเนื่องหลายๆวัน ช่วงเวลาแบบนั้น ก็จะหยุดให้บริการชั่วคราว”



ระหว่างการนำทาง ผมสังเกตว่า คนพายเรือไม่ค่อยจะตอบอะไร มีอยู่ครั้งหนึ่งเพื่อนของผม มอบขวดน้ำดื่มให้เขา พอเขาพูด ผมจึงถึงบางอ้อ อ้อ เป็นคนงานพม่า



ความมหัศจรรย์ของถ้ำพุงช้างอีกอย่าง ก็คือ ถ้านี้อยู่ใกล้ชุมชนมาก อยู่ในตัวเมืองของจ.พังงาเลย แม้ฝนจะตก แม้แดดจะร้อน ก็สามารถไปเที่ยวที่นี่ได้ จะไปตอนเช้าก็ได้ จะไปตอนบ่ายก็ได้ หรือจะไปตอนเย็น ตอนใกล้พระอาทิตย์จะตกดินแล้ว ก็ยังได้(แต่ต้องนัดกับคนนำทางเอาไว้ก่อนนะครับ)



เพราะในถ้ำแห่งนี้ ไม่ต้องการแสงไฟ และไม่ต้องการเวลา … ไปเวลาไหนๆ ไปตอนอากาศข้างนอกจะเป็นอย่างไร ข้างในถ้ำก็สวยงามเท่าเทียมกัน




สมัยเมื่อเริ่มเปิดถ้ำพุงช้างใหม่ๆ ประมาณเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ผมเคยไปกับเพื่อนๆรวม 4 คน จ้างคนนำทางไป 1 คน(ค่าจ้างสมัยนั้น จ่ายให้คนนำทาง คนละ 20 บาท) สมัยนั้นตรงปากถ้ำ จะมีแต่แพไม้ไผ่ นอกนั้นเดินลุยด้วยเท้าประการเดียว บางช่วงที่เป็นน้ำตื้น ก็เดินทอดน่องสบายๆ เสียงย่ำเท้าในน้ำตื้น ท่ามกลางความมืด เสียงจะก้องภายในถ้ำ ราวกับมีคนกำลังเดินตาม …..บรื๊อส์ส์ส์




แต่ในบางช่วง พวกเราจะต้องเดินลงในน้ำลึก ลึกถึงลำคอทีเดียว เดินไปก็ต้องคอยเขย่งปลายเท้าไป สำหรับไฟฉายนั้นจะต้องคอยยกชูไว้เหนือศีรษะ เพราะเป็นอาวุธสำคัญกว่าเสื้อผ้าหรืออื่นๆ โชคดีที่วันนั้น ก่อนจะเข้าถ้ำ คนนำทางแนะนำให้เก็บกระเป๋าตังค์และนาฬิกาไว้ที่รถเสียก่อน …เขาบอกว่าไม่ต้องกลัว ถึงจะลึกก็ไม่ท่วมหัว …อุอุ แต่ไม่ได้บอกว่า ลึกถึงลำคอ



หูยยย ….วันนั้น ทั้งหนาวทั้งสนุก …เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งเธอบอกว่า “ขอเกาะแขนผมด้วย” เธอเกาะไปตลอดทางเลย เธอบอกว่า “ไม่ไว้ใจคนอื่น”



ฮึฮึฮึ ....เสียงใครไม่รู้ คำรามอยู่ในความมืด



พวกเราทั้ง 5 คนในวันนั้น เดินในถ้ำกันอย่างทุลักทุเล คนนำทางก็คงจะเป็นมือใหม่หัดนำเข้าถ้ำ ด้วยมั๊ง? เพราะเห็นแกนำทางแบบจะก้าวไปแต่ละก้าว แกก็ปอดๆ ว่า จะเจอน้ำลึกข้างหน้ารึเปล่า? พวกเราทั้ง 4 คนก็เกร็งและลุ้น กับท่าทางของแกที่เดินอยู่ข้างหน้า



จะหัวเราะก็หัวเราะไม่ออก ...โหยยย มันเกร็งสุดๆ พร้อมกับช่วยส่องไฟนำทางให้แกเดิน พร้อมภาวนาว่า ขอให้แกเดินไปถูกเส้นทางและปลอดภัยด้วยเถิด ….เพราะหากแกเป็นอะไรไป ใครล่ะจะนำทางออกมา รอบๆข้างนั้นมืดมากกก เรื่องความมืดนี่ ไปครั้งหลัง ก็ยังคงมืดเท่ากัน คือมืดแบบไม่เห็นอะไรเลย แม้แต่นิ้วมือตนเองที่ยกขึ้นตรงหน้า ก็มองไม่เห็น



จนถึงสุดปลายทางของถ้ำอีกด้านหนึ่ง …ซึ่งเมื่อใกล้ อีกสัก 50 เมตรจะถึงปลายทางของถ้ำ ก็จะเริ่มเห็นแสงอาทิตย์ยามบ่าย แบบแสงเรื่อๆไรๆ ... อูว์ว์ว์ ดีใจครับ ราวกะรู้ว่า ไม่ตายแล้ว



ที่ปลายถ้ำ เป็นป่า ต้นไม้ต้นใหญ่พอสมควร แต่คิดว่าคงจะมีคนมาจับจองป่าไปแล้ว เพราะได้กลิ่นเผาตอไม้ อยู่แถวนั้น พวกเรานั่งพักเหนื่อยกันราวๆ 10 นาที แล้วก็เดินย้อนกลับเข้าในถ้ำทางเดิม ท่ามกลางความเงียบและความมืด แต่เป็นอันซีนที่อัศจรรย์ แบบที่ไม่เคยลืมเลือน และอยากจะบอกต่อๆกันให้ทราบ






ตอนที่ผมกำลังนั่งทำงานให้คำปรึกษา อยู่ที่พังงานั้น … มีน้องคนหนึ่งที่ทำงานอยู่บนกระทรวงเข้ามาสะกิดถาม “พี่ พี่ ถ้าให้เลือก ไปถ้ำลอด กับไปถ้ำพุงช้าง แค่ที่เดียว พี่ว่าควรจะไปที่ไหนดี?”



ผมตอบแบบไม่ลังเลเลย “ไปถ้ำพุงช้างเลยน้อง”



หุหุ แต่เสียดายมาก ไปครั้งหลังนี้ คนนำทางไม่ยักกะนำทาง ไปจนถึงปลายถ้ำอีกด้านหนึ่ง เขาบอกว่า มันอันตรายมากกกก …



เอ รึว่า จะมีปลาดุกตัวเท่าแขน อยู่ในน้ำลึก ภายในถ้ำจริงๆ (ดังที่มีคนกระซิบบอก) ...แต่ที่เห็นกับตาของผม ...ผมเห็นจริงๆตอนเดินอยู่ในถ้ำในครั้งนี้ ก็คือ เห็นปลาคาร์ฟตัวขนาดเท่าแขน สีส้มทั้งตัว ว่ายอยู่แถวเท้าของผมขณะที่กำลังย่ำลำธารอยู่ เห็นแค่ตัวเดียวครับ อยู่บริเวณน้ำตื้น ไม่ใช่บริเวณน้ำลึก มันคงจะกินขี้ค้างคาวเป็นอาหาร


ส่วนบริเวณน้ำลึก คนนำทางไม่ให้ใครลงไปเดิน และเขาเองก็ไม่ยอมลงไปเดิน เช่นกัน






เบื่ออ่านหรือยังครับ?








รถตู้ ขับผ่านป้าย ..”เส้นทางหนีคลื่นยักษ์” จำนวนหลายป้ายทีเดียว มีติดอยู่ทั้งบริเวณใกล้ชายหาด และทั้งบริเวณริมถนนใหญ่ ...



มีอยู่ป้ายหนึ่ง ติดอยู่ริมถนน ผมรู้สึกทึ่ง ตั้งแต่มองเห็นเป็นครั้งแรก คือป้าย “คนต้องสู้(ชีวิต)” เป็นป้ายของร้านอาหาร …ป้ายนี้ บอกด้วยว่า ร้านอาหารอยู่เข้าไปภายในซอย บริเวณริมชายหาด ….ชื่อของร้าน.โก้ซะไม่มี



ตอนนั้น พวกเรากำลังหาเส้นทางไปยัง “หาดสน รีสอร์ท” โรงแรมที่พัก แห่งที่สอง(ของพังงา) ซึ่งอยู่บริเวณหาดบางสัก อยู่พอดี และบังเอิญทางเข้าของโรงแรมนี้ ต้องเข้าไปในซอยเดียวกับร้านอาหาร ผมก็เลยหันขวาหันซ้าย อยากจะดูว่าร้านอาหารที่ว่า เป็นลักษณะอย่างไร



โอ๊ะ คนก็พอจะมีในร้านนี่ แสดงว่าอาหารคงจะอร่อย บริการคงจะดี จึงมีคนขับรถเข้ามากิน ถึงริมชายหาด








ภาพที่เห็นภาพแรกคือภาพ ผู้ชายผูกผ้าขะม้าเคียนเอว กำลังยิ้มให้กับรถของพวกเรา แล้วก็รีบเสิร์ฟอาหารต่อ ….ทุกคนในรถ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “น่าจะลองอาหารร้านนี้”



หาดสน รีสอร์ท โรงแรมที่พวกเราเข้าไปถาม เป็นโรงแรมหรูและสวย สถานที่เหมาะกับฝรั่งเข้ามาพักมากๆ แต่เขาคิดราคาค่าห้องคืนละ 2,000 บาท พักได้สองคน และไม่มีอาหารเช้า (ราคานี้ลดให้แล้ว) พวกเราขอต่อรองเป็น ขอพักห้องละสามคน และขอราคาเพียงห้องละ 1,500 บาท เด็กที่เคาเตอร์พูดจาสุภาพว่า ไม่อาจจะลดให้ต่ำกว่านี้ได้ แต่อาจจะมีโรงแรมที่ไม่ไกลจากที่นี่ สวยเช่นเดียวกัน อาจจะลดให้ได้



พวกเราจึงย้ายรถออกมา แล้วก็แวะถามเส้นทางไปโรงแรมแห่งใหม่ ที่ร้านอาหาร“คนต้องสู้(ชีวิต)” เจ้าของร้าน คือคนที่ผูกผ้าขะม้าเคียนเอว อธิบายอย่างใจดี ใจเย็น และอย่างสุภาพ จนพวกเราเข้าใจเส้นทางเป็นอย่างดี



โรงแรมแห่งใหม่ คือ รอยัล บางสัก บีช รีสอร์ต เป็นโรงแรมที่ทั้งหรูทั้งกว้างและสวยถูกใจ ราคาก็แสนจะถูกใจ คือเขายอมลดให้ตามที่พวกเราร้องขอ ...คือ หนึ่งห้อง พักสามคน ขอไม่รับประทานอาหารเช้า คิดราคาเพียง 1,500 บาท เจ้าหน้าที่ที่เคาเตอร์ก็รีบโทร.ไปถาม จีเอ็มของโรงแรม และจีเอ็ม เขาใจดียอมลดให้ แถมได้ห้องพักติดกับห้องพักของ จีเอ็มโรงแรมด้วย



อุอุ สงสัยว่า จีเอ็ม อยากจะเห็นหน้า ผู้ขอต่อราคาห้องพักหรูๆ ก็ได้?
















คนงานในจ.พังงา ทั้งชายและหญิงส่วนใหญ่ จะเป็นคนพม่า ไม่ได้สวมโสร่งนะครับ สวมเสื้อผ้าธรรมดาๆเก่าๆ แต่ก็พอจะดูออกว่า ไม่ใช่คนไทย …เธอทูนของหนักบนศีรษะ แบบเดินปล่อยมือได้ ….ภาพนี้ทางโรงแรม เขากำลังปรับปรุงห้องบางห้อง ในช่วงโลว์ ซีซั่น








เมื่อเช็คอิน และฝากกระเป๋าให้เด็กนำขึ้นไปที่ห้อง ที่ชั้นสองแล้ว รถตู้ก็เคลื่อนล้อไปที่ร้าน“คนต้องสู้(ชีวิต)”ทันที




ขอยืนยันว่า อาหารรสชาติแซ่บทุกจาน กินไปก็ต้องเช็ดน้ำมูกน้ำตาไป แต่ทุกคนก็บอกว่า ไม่เข็ดหลาบ พรุ่งนี้ ตอนอาหารเช้า จะขอมาต่ออีกรอบ ก่อนที่จะออกจากพังงาเพื่อไปจ.ระนอง



พอเจ้าของทราบว่า พวกเราจะมารับประทานอีก ในเวลาอาหารเช้าของพรุ่งนี้ เจ้าของร้านก็รับอาสา จะไปหาซื้ออาหารทุกอย่างตามที่พวกเรารีเควสต์ ใครอยากจะกินอะไรเป็นพิเศษ สั่งไว้ได้หมด



บริการดีๆอย่างนี้ จึงต้องขอสัมภาษณ์ ลงบล็อกแก๊งค์ กันหน่อย …








คุณสรวิศ จ้านสกุล หรือที่คนคุ้นเคยแถวๆนั้น ต่างเรียกว่า พี่ดม หรือ ดม เป็นคนตะกั่วป่า พังงา โดยกำเนิด อายุ 40 ปี จบการศึกษาวิทยาลัยเกษตรระนอง มีครอบครัวแล้ว มีลูกชายคนโต เรียนชั้นม.2(มาช่วยงานเสริฟอาหารที่ร้านด้วย) กับลูกสาวคนเล็ก อายุ 4 ฃวบเศษ เข้าเรียนอนุบาล และคุณแม่ช่วยสอนเพิ่มเติมจนเขียนคล่อง น้องเขาจะเดินมาทักทายพูดคุยกับลูกค้าในร้าน ฉลาดน่ารักมาก ตอนจ่ายเงิน น้องเขาก็ถือบิลมามอบให้ลูกค้าด้วย








คุณดม เล่าเหตุการณ์ตอนเกิดคลื่นซึนามิ ให้ฟัง เมื่อมีผู้ซักถาม



คุณดมเล่าว่า ตอนนั้น เปิดร้านอาหารคล้ายๆกับแบบนี้ละ แต่เล็กกว่า อยู่ที่เขาหลัก อยู่ใกล้ๆกับโรงแรมเขาหลัก ออคิด ที่ที่คุณพุ่มพักอาศัย ตอนนั้น ตัวเองต้องทำทุกอย่าง ทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจให้กับร้านอย่างเต็มที่ เพราะเป็นร้านอาหารแห่งแรกที่ตนเองเป็นเจ้าของ ตอนนั้นลูกจ้างก็ยังไม่มี ต้องปรุงอาหารเอง เดินเสิร์ฟเอง คิดเงินเอง ล้างจานเอง ปิดร้านเอง และไปซื้อของสดจากตลาดเอง



ตอนนั้นลูกสาวเพิ่งจะหัดเดิน แม่เขาก็เลยต้องดูแลทั้งลูกชายและลูกสาว เขาก็เลยจะเข้ามาช่วยงานได้บ้างเป็นบางวัน …โชคดีที่เริ่มจะมีลูกค้าติดใจฝีมืออาหารขึ้นบ้าง เป็นฝรั่งก็ยังมี



วันที่คลื่นมา วันนั้นโชคดีอีกที่เป็นตอนเช้า เพราะตอนบ่ายๆ คนไทยจะมาเที่ยวหาดกันเยอะ อาจจะสูญเสียมากกว่านี้ ก็ได้



ตอนเช้าของวันนั้น คุณดม มองไปที่ชายหาด อยู่ๆน้ำทะเลก็เหมือนกับถูกดูดหายไปเฉยๆ ชายหาดแห้งน้ำไปเลย มองเห็นแต่โขดหินเล็กน้อย ปลาก็ดิ้นอยู่บนชายหาดที่แห้งน้ำ คนก็แปลกใจกัน ต่างออกไปยืนดูกันหลายคน บ้างก็ลงไปจับปลา แต่ก็มีฝรั่งบางคนตะโกนเป็นภาษาของเขา ให้วิ่งหนีคลื่น



คุณดม ฟังสำเนียงฃองฝรั่ง ก็รู้สึกเอะใจ จึงช่วยเรียกให้คนขึ้นมาจากชายหาด ….เพียงแป๊บเดียวเท่านั้น คลื่นสูงมากๆ ก็เข้ามาแบบไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว คุณดมเอง บอกว่าเป็นนักวิ่งเร็วของจังหวัดพังงา วิ่งอ้าวออกจากที่ตรงนั้นเลย ตอนแรกก็วิ่งไปหลบที่หลังตึกสองชั้นก่อน คิดว่าคงจะหลบพ้น แต่คลื่นมันสูงพ้นตึกสองชั้นนั้นอีก มันพัดทุกอย่างไปไกลเลย รวมทั้งตัวคุณดม ด้วย แต่คุณดม โดนกลางๆของตัวคลื่น มันซัดพาไปไกลทีเดียว ที่สุด คุณดมเอง ก็คว้ายอดเสาไฟฟ้าต้นหนึ่งไว้ได้



ตอนนั้นถ้าใครว่ายน้ำไม่เป็น แย่เลย เพราะน้ำทะเลขึ้นสูงมาก สูงเท่าๆกับยอดของต้นมะพร้าว คุณดมบอกว่าสามารถช่วยคว้าฝรั่ง ที่บาดเจ็บที่ขา ไว้ได้คนหนึ่ง ก็ช่วยพยุงยึดกันเอาไว้ที่ยอดเสาไฟฟ้าต้นนั้น ติดอยู่อย่างนั้นแบบแช่อยู่ในน้ำ พักหนึ่ง




สักครู่ มันมาอีกแล้ว คลื่นสูงแบบเดิมอีก คุณดมบอกว่า ถ้าเจอหัวคลื่น คุณดมต้องตายแน่ๆ เพราะหัวคลื่นมันจะม้วนเอาทุกอย่างให้หมุนเข้าไปอยู่ใต้น้ำ ที่สูงระดับต้นมะพร้าว คุณดมจึงบอกให้ฝรั่งยึดยอดเสาไฟฟ้าเอาไว้ให้แน่น ฝรั่งตอนนั้นทั้งเจ็บทั้งอ่อนแรงลงมากแล้ว ตัวคุณดมนั้นมีแต่ความเหนื่อยล้า อย่างที่แทบจะไม่มีแรงว่ายน้ำเอาเสียเลย แต่ก็ต้องกัดฟันฝืนใจ ว่ายต่อไปให้พ้นหนองน้ำ เพราะสุดหนองน้ำ ก็จะเป็นถนนแล้ว



สุดท้ายก็กระเสือกกระสนจนไปถึงถนน แต่ก็สำลักน้ำไปหลายครั้ง แถวถนนตอนนั้นไม่มีคนเลย มีแต่ซากปรักหักพัง และศพ



คุณดม ต้องทนนอนทั้งเสื้อเปียกอยู่อย่างนั้น หลายชั่วโมง สุดท้ายก็พอจะช่วยพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น และยืนขึ้น



คนต้องสู้ชีวิต ครับ จึงจะอยู่รอด ...ทุกอย่างอยู่ที่ใจ ของตัวเรา




ร้านอาหารนี้ ที่จริง คุณดม บอกว่าไม่ได้รับความช่วยเหลือจากทางรัฐเลย



“ผมสู้ทุกอย่างด้วยตัวของผมเอง เข้าไปขอกู้เงินจากทางธนาคาร ทั้งๆที่ตอนนั้น ผมก็ยังไม่มีหลักทรัพย์ มีแต่กำลังใจแท้ๆภายในตัวเองเท่านั้น”



“ผมมองว่า ที่หาดบางสัก มีอาสาสมัครเข้ามาช่วยงานขนศพ ตรวจดีเอ็นเอ ศพกันหลายคน บางคนเมื่อเหนื่อยจากงานแล้ว ก็ควรจะได้รับประทานอาหารอร่อยๆ รสแซ่บบ้าง ผมจึงนำเอาไอเดียนี้ ไปเสนอกับทางธนาคาร ธนาคารจึงยอมให้กู้เงิน”



ร้านของคุณดม เป็นร้านแรกสุด ของหาดบางสัก ตอนแรกยังมีขนาดเล็ก และคุณดมบอกว่า ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เหมือนเดิม อยากจะจ้างพ่อครัว แต่ไม่มีใครยอมมาอยู่ด้วย เพราะแถวนี้ตอนนั้น ค่อนข้างจะมีกลิ่นของคนตาย ทุกอย่างที่คุณดม สู้ฝ่าฟันมา จึงหนักและเหนื่อยมาก



“ทุกอย่าง ผมว่ามันอยู่ที่ใจ ถ้าใจของเราสู้ ก็ไม่มีอะไรที่ยากเกินกำลัง มาถึงตอนนี้ ก็คิดว่าค่อยๆจะดีขึ้นบ้างแล้ว ร้านก็เริ่มก่อสร้างให้ถาวรมากขึ้น แม่ครัวก็เริ่มจะมี เด็กลูกน้องก็เริ่มจะมี ทางร้านสามารถจะจัดเลี้ยงนอกสถานที่ให้ได้นะครับ ถ้ามีใครต้องการ”
















“สำหรับช่วงนี้ เป็นช่วงโลว์ มีคนมาเที่ยวน้อย แต่เพราะผม เริ่มจะมีลูกค้าประจำ ผมก็เลยไม่ยอมปิดร้านหนี ร้านอื่นเขาปิดร้านหนีไปเกือบหมด แต่เชื่อเถอะ พอถึงฤดูไฮ ก็จะมีคนเข้ามาเปิดร้านอาหาร แบบหวังกำไรระยะสั้น แล้วก็จะทิ้งร้านหนีไปอีก พอร้านเริ่มไม่มีคน”



“ร้านของผม เคยได้รับเกียรติ ลงเผยแพร่ใน หนังสือพิมพ์ โพสต์ ทูเดย์ กับได้เคยออกข่าวทางทีวีช่อง 9 เรื่องคนสู้ชีวิต มาครั้งหนึ่งแล้ว …..สำหรับราคาอาหาร ที่นี่ ไม่คิดแพงเลยครับ ปรุงสะอาด และรสชาติค่อนข้างจัด แต่ถ้าต้องการรสชาติแบบอื่น ก็บอกก่อนปรุงได้นะครับ”








“อาหารที่ทางร้านถนัดและทำบ่อยๆ เพราะลูกค้าชอบสั่ง ก็มีพวก ปลากะพงลุยสวน ลาบปลาทอด หอยชักตีน หอยน้ำผื้ง ปูดำไข่ผัดพริกไทยดำ ปูม้าผัดผงกะหรี่ หมึกไข่นึ่งมะนาว และหมึกหอมย่าง”



ที่นั่งรับประทานอาหาร มีทั้งแบบซุ้ม และแบบโต๊ะอาหาร
















“ผมเปิดร้านทุกวันครับ อยู่ที่หาดบางสัก ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า ถ้าไปหาดบางสักถูก ก็จะหาร้าน“คนต้องสู้(ชีวิต)”ไม่ยากหรอกครับ เพราะคนแถวนั้น จะรู้จักร้านนี้ดี แต่หากจะโทร.ไปถามก่อนก็ได้ครับ จะได้ทราบว่า วันนั้นทางร้านมีวัตถุดิบสดๆ อะไรบ้าง โทร. 081-893-2854 “





จขบ.เอง ชอบปรัชญาชีวิตของ เจ้าของร้าน จึงขอนำมาเผยแพร่ต่อ นะครับ




ปรัชญาชีวิตของคุณสรวิศ จ้านสกุล หรือของ คุณดม








ถ้าคุณคิดว่า คุณไม่มีความกล้า คุณก็จะไม่กล้า

ถ้าคุณอยากจะเป็นผู้ชนะ แต่ขณะเดียวกันคิดว่า ไม่มีทาง เกือบเป็นสิ่งที่แน่นอนว่า คุณจะไม่มีทางชนะ



ถ้าคุณคิดว่า คุณจะเป็นผู้พ่ายแพ้ คุณก็จะพ่ายแพ้

ในโลกนี้ ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ ด้วยความมั่นใจในตัวมนุษย์ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ สภาวะจิตของตนเอง เพียงอย่างเดียว



“ความสำเร็จ” เป็นเรื่องของ “การเสาะหา” ไม่ใช่ “เกิดมาเป็น”


“ความสำเร็จ” เป็นเรื่องของ “การฟันฝ่า” ไม่ใช่ “ฟลุ๊คฟลุ๊ค”


“ความสำเร็จ” เป็นเรื่องของ “การต่อสู้” ไม่ใช่ “นั่งดูดวง”


“ความสำเร็จ” เป็นเรื่องของ “ความเชี่ยวชาญ” ไม่ใช่ “โชคช่วย”


“ความสำเร็จ” เป็นเรื่องของ “การฝึกฝน” ไม่ใช่ “บุญหล่นทับ”


“ความสำเร็จ” เป็นเรื่องของ “ความสามารถ” ไม่ใช่ “วาสนา”


“ความสำเร็จ” เป็นเรื่องของ “พรแสวง” ไม่ใช่ “พรสวรรค์”




“ฉะนั้น ความสำเร็จมาจากตัวเองทั้งหมด”


ชัยชนะไม่ได้อยู่ที่ผู้แข็งแรงกว่า หรือผู้มีความรู้มากกว่า …..แต่อยู่ที่ ผู้ที่คิดว่า “ฉันทำได้” เท่านั้น.






ก่อนที่พวกเรา จะเคลื่อนรถออกจาก จ.พังงาในวันนั้น ทุกคนพูดกันว่า “อยากจะทำสังฆทาน อุทิศส่วนบุญกุศล ไปให้ผู้ที่ล่วงลับ กันดีมั๊ย?”


ทุกคน ลงความเห็นเป็นเอกฉันท์



แล้วรถก็เคลื่อนไปที่ตลาด บริเวณท่ารถ บ.ข.ส.เพื่อต่างคนต่างเลือกซื้อของ เพื่อจะใช้ถวายสังฆทาน ซื้อเสร็จก็มองหาวัด เจอวัดแห่งหนึ่ง เห็นเงียบดี ก็นำรถเข้าไปจอด



ชาวบ้านบอกว่า “จะทำไงดี? วันนี้ พระ 7 รูปรับนิมนต์สวดทำบุญอุทิศส่วนกุศล 100 วันในวัดไปแล้ว พระอีก 5 รูป ก็รับกิจนิมนต์ออกไปสวดข้างนอก ไม่มีพระรูปไหนในวัด ที่เหลืออยู่เลย”


ขณะนั้น ผู้ช่วยเจ้าอาวาสที่รับนิมนต์สวดทำบุญส่วนกุศล 100 วันเดินผ่านมา พอท่านรับทราบ ท่านก็พูดว่า “ประเคน พระรูปไหนก็ได้ ใช่ไหมโยม ....งั้นตามมาทางนี้”


แล้วท่าน ก็รับสังฆทานจากพวกเราทุกคน




















วัดที่ท่านจำพรรษาอยู่นั้น ไม่ใช่วัดอื่นไกล คือ วัดย่านยาว ที่เก็บศพ รอตรวจดีเอ็นเอ …งานหนักของคุณหมอพรทิพย์ นั่นเอง



พอทุกคนในรถรับทราบว่า พวกเรากำลังอยู่ในวัด ที่อดีตเคยเก็บศพจำนวนนับไม่ถ้วน ก็ตกตะลึงปนความรู้สึกยินดี เพราะทุกคนชื่นชม วัดแห่งนี้มานานแล้ว และไม่คาดฝันว่า จะได้มาทำสังฆทาน อุทิศส่วนบุญกุศล ให้กับผู้ที่ล่วงลับ ณ วัดแห่งนี้.









ขอขอบคุณ เพื่อนๆที่ทนอ่านจนจบ มาถึงบรรทัดนี้

หากจะอ่านข้ามไปบ้าง ก็ไม่เป็นไรหรอก…



เพราะผมเขียน เหมือนๆกับเล่าเรื่องราวชีวิตตอนหนึ่งของผม

ไว้ให้ญาติๆทางบ้าน ได้มีโอกาสอ่านด้วย.



…หากใครมีโอกาสเข้ามาอ่าน ช่วยกรุณาลงชื่อ บอกไว้สักนิด นะครับ


เพื่อ ผมจะได้เขียนขอบคุณ ได้ถูก







โดย yyswim




Create Date : 28 มิถุนายน 2550
Last Update : 28 มิถุนายน 2550 17:52:19 น. 38 comments
Counter : 9070 Pageviews.

 
ไปเยี่ยมพังงาด้วยคนค่ะ
โรงแรมสวยน่าไปพักมาก แต่สงสัยไม่มีปัญญาค่ะ
โชคดีที่คนในครอบครัวคุณดมไม่เป็นอะไรจากซึนามิ ถือว่าเป็นพรที่พระให้ค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้เค๊าสู้ชีวิตด้วยนะคะ

ขอบคุณที่เอาเรื่องราวดีๆ มาฝากกันค่ะ


โดย: the Vicky วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:18:56:16 น.  

 

ยังไม่อ่านนะคะคุณสิน
ขอดูรูปอย่างเดียวก่อน 55+

คิดถึงพังงาค่ะ เคยไปเที่ยวที่นี่แบบ one day trip มา 2 ครั้งแล้วค่ะ ยังติดใจกะการล่องเรือชมเกาะไม่หายเลยค่ะ

ภาพห่านคู่ (ผ้าเช็ดตัว) ดูโรแมนติคมากเลย
เอ่อ..ของคาวอ่ะ กุ้งเป้นกุ้ง สีชมพูดูน่ากิน
แล้วมังคุดขาวๆนั่นอีก นี่ก้อเป็นผลไม้โปรดเลย
เพราะว่ากินทุเรียนไม่เป็น


โดย: ดาวทะเล วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:20:02:57 น.  

 





เพลิน.....จนจบไม่รู้ตัว
ไม่ชมอะไรนะคะ
แต่อ่านแล้ว.....มีความสุขมากๆค่ะ






โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:20:43:46 น.  

 
เ็ห็นสะตอ+กุ้งผัดเคย แล้วน้ำลายไหลจริงๆ
แล้วไหนจะน้ำพริกกุ้งเสียบอีก..

รูปขนมจีน กับแตงดองก็น่าอร่อย
ถ้าได้ผักเสี้ยนดองด้วยนะ ... สุดๆไปเลย

ปล. ค่อยกลับมาอ่านรายละเอียดอีกรอบคร้าบบ


โดย: merf1970 IP: 202.139.223.18 วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:22:50:12 น.  

 
เคยไปมาเหมือนกันคับ..เริ่มที่กุระบุรีแล้วไปจบที่เขาตะปู...เห็นแล้วอยากไปอีก...ขอบคุณนะค้าบ


โดย: Kurt Narris วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:0:30:39 น.  

 


ป้าอ่านแล้วจ้า...
ง่วงแว้วว...หาวซะขากรรไกรจะค้างและ


โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:0:58:55 น.  

 
โค้ดที่แจกที่บล็อกของ "โสดในซอย"
มีปัญหาเล็กน้อย

หากสนใจ กรุณาไปทิ้งอีเมลไว้นะคะ
แล้วจะจัดส่งให้ทางอีเมลค่ะ

ขออภัยในความไม่สะดวก (เพราะแปะลงไปในบล็อก
แล้วมีปัญหา เกี่ยวกับ จาวา อะไรเนี่ย แก้ไม่ได้ค่ะ)

เชิญนะคะ

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sodnaisoi&group=23


โดย: โสดในซอย วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:6:28:52 น.  

 


สวยจังเลยค่ะ..อยากไปจัง..แต่คงยากค่ะ
ไกลจังเลยค่ะ

วันนี้ตรงกับขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ค่ะ..ตรงกับวันพระค่ะ..
พระจันทร์คืนนี้สวยค่ะ
ด้วยใจสงบและมีสติ..ขอตั้งนะโม 3 จบ..
ระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์..

และพระคุณบิดรมารดา...ผู้มีจิตใจประเสริฐสูงส่งในใจเราเสมอค่ะ

ทำสิ่งที่ลึกให้ตื้น ทำสิ่งที่ยากให้ง่าย ทำสิ่งที่ไกลให้ใกล้
ไม่ยึดติดในรัก โลภ โกรธ หลง ย่อมไม่ตกอยู่ใต้อำนาจของอารมณ์

อนุโมทนา..ค่ะ.มิตรที่แสนดี









โดย: catt.&.cattleya.. วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:17:33:19 น.  

 
ดูรูปแล้วสวยงามมาก เงียบสงบยังไงก็ไม่รู้ สงสัยฝนเยอะ


โดย: ต่อตระกูล วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:21:31:21 น.  

 
แว๊บมาทักทายคร๊าบผม...

อิอิ เขาพิงกัน..หรือจะสวยเท่า.. " เราพิงกาน " หล่ะคร๊าบ..emo


โดย: Tahannam วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:22:17:26 น.  

 
ดูเฉลียง ให้สนุกนะครับ อิๆ
คอนเสริท์เช็คอายุ

สำหรับหนัง ดูได้ทุกอาทิตย์แหละครับ อาทิตย์นี้ก็มีหนัง ฟอร์มยักษ์ 2 เรื่อง เรื่องแรก ก็ทรานฟอร์เมอร์ อีกเรื่องก็ ไดฮาร์ท (รอบพิเศษ)

ช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้ up blog เท่าไหร่ งานเยอะ อีกอย่าง ที่ทำงานขึ้นงานเชื่อมหลังคา ไฟตกบ่อย เลยพาลให้ไม่อยากนั่งในตู้คอนเทรนเนอร์ แล้วเปิดคอม'


โดย: merf1970 IP: 202.139.218.43 วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:23:43:30 น.  

 
ตั้งแต่เกิดภัยพิบัติจุยังไม่เคยไปบริเวณแถบนั้นอีกเลยค่ะ

เพื่อนที่ไป เขาสื่อได้ กลับจากงานที่นั่นต้อง พบจิตแพทย์กันเลยทีเดียว

อ่านเรื่องนี้แล้ว คืดถึงเพลงของ เสือ ธนพล ชีวิตยังไม่สิ้นก็ดิ้นกันไป


โดย: ju IP: 58.147.120.198 วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:9:01:52 น.  

 
อ่านเพลินเลยครับพี่
อยากไปเที่ยว ไม่ได้ไปทางใต้นานแล้ว
ตอนเด็กๆไปกับพ่อบ่อยๆมากๆ

ขอบพระคุณสำหรับคำอวยพรครับ
และขอให้พี่สุขภาพแข็งแรง ไร้ทุกข์โศกเช่นกัน


โดย: นายกาเมศ วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:16:30:15 น.  

 

คุณวิค.....บล๊อกบ้านคุณวิค มีคนเข้าไปเยี่ยมหนาแน่นนะครับ ยินดีด้วย คงจะเพราะมีสาระดีๆ และน้ำใจเป็นมิตรของเจ้าของบ้าน

ผมก็เพิ่งจะได้อ่านเรื่องราวจากเบลเยี่ยม จากบล๊อกของคุณ ได้รู้อะไรดีๆไม่น้อย

ปกติ ผมจะเข้าไปในกระทู้ไกลบ้านน้อยครับ อุอุ มักจะเข้ากระทู้ศุภชลาศัย


คุณดาวทะเล.....มังคุด อร่อยครับ ราคาถูกด้วยและไม่ค่อยจะมีลูกเสีย ให้หงุดหงิดใจ

ผม อดไปสิมิลัน ครับ อยากไปมานานแล้วที่เกาะนี้ คงจะต้องรอตอนน้ำทะเลนิ่งใส ไร้ลม อาจจะไปราวพฤศจิกายน-ธันวาคม ถ้ามีเวลาพอ

ผ้าพับเป็นรูปห่านคู่นั้น ใช้ผ้าตัวละสองผืนครับ เป็นผ้าขนหนูผืนผ้า กับจตุรัส


คุณดี......ไม่ต้องชมหรอกครับ ติ ยิ่งอยากฟัง ผมจะได้ปรับปรุง

บล๊อกเรื่องหน้า คงจะถูก ติ แน่ๆ ...เพราะบางรูป จะโป๊




โดย: yyswim วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:21:12:48 น.  

 

นิ๊ง.....ผักเสี้ยนดอง สำหรับกินกับขนมจีน ร้านนั้นก็พอมี แต่ไม่ได้ถ่ายเพราะสีผักออกจะเป็นสีดำ รสเปรี้ยวดี ร้านนั้นมีลูกเนียง และปลาชิงชังตากแดดจนแห้ง ให้ทานฟรีด้วย ราคาจานละ20บาท

กินแค่จานเดียว เพราะยังมีอะไรๆ อีกหลายอย่างรอให้ทดสอบชิม

ทั้งน้ำส้มเกล็ดหิมะ น้ำมะพร้าวอ่อน รวมทั้ง ขนมต้มใบกะพ้อ อุอุ อยากกินตั้งแต่แรกเห็น กะว่าทดสอบขนมจีนแล้วจะแวะไปซื้อ

นี่ยังไม่นับ ข้าวหมกไก่ ที่สีเหลืองน่ากิน แต่ต้องอดใจ เพราะกินมากไม่ไหว เดี๋ยวจะจุกตัวอ้วน




โดย: yyswim วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:22:42:18 น.  

 



คอนเสิร์ตเฉลียง ผมไปดูมาแล้วครับ

ไปดูรอบบ่าย สนุกและจุใจมาก มีแขกรับเชิญหลายคน เช่น ป้าง วิยะดา ฯลฯ

เฉลียง แต่ละคนร้องผิดคีย์ ร้องผิดเนื้อ แต่มุขตลก ตกกระจาย อุอุ มุขตลกมากขึ้นตามวัย

ผู้ชมยกมือกันเกือบหมดฮอล ตอนถูกถามว่า ใครยังไม่เคยดูเฉลียง บ้าง?

และพอถามอีกว่า ใครเคยดูเฉลียงมาบ้าง? ผู้ชมก็ยกมือซ้ำอีกรอบ ...เห็นมั๊ย? คนดูก็เล่นมุข


เฉลียง รวมวงจัดคอนเสิร์ต หลังจากปิดอัลบั้ม มาแล้ว 3 ครั้ง

ครั้งแรกที่หอประชุมศูนย์วัฒนธรรม เมื่อปี 2536

ครั้งที่สองที่หอประชุมธรรมศาสตร์ เมื่อปี 2543

และครั้งนี้ที่อิมแพค อารีน่า ปี 2550 ....

สังเกตมั๊ย? 7 ปี จัดครั้งหนึ่ง ...และผมได้ไปดู แบบไม่ตกหล่น ทั้ง 3 ครั้ง



แขกรับเชิญที่ไปครบทั้ง 3 ครั้ง

เดาออกมั๊ย ว่าเป็นใคร?

คือ เด็กชายวัย 2 ขวบ ที่ไปในครั้งแรก, 9 ขวบเมื่อไปในครั้งที่สอง, และไปในครั้งนี้ด้วยรูปร่างที่ผอมบาง แต่ความสามารถไม่บอบบางเลย ตอนนี้ วัยเกือบ 17 ปีแล้ว ไปครั้งนี้ น้องเขาไปพร้อมกับวงดนตรีของเขา ซึ่งร่วมตั้งกับเพื่อนๆที่โรงเรียนเตรียมอุดม

ใช่แล้ว เด็กชายคนนั้น คือ น้องต้นไม้ ลูกชายของคุณแต๋ง ภูษิต ไล้ทอง น้องเขาได้เป่าแซกโซโฟน สลับผลัดไปผลัดมากับคุณพ่อแต๋งในครั้งนี้

แต่ผมหลงรัก น้องแก้ม ลูกสาวคุณเกี๊ยงผู้ตาหยี ที่ไปร่วมเป็นแขกในคอนเสิร์ตครั้งนี้อีกคน คิดว่าคนในฮอล ก็คงจะชอบ เพราะได้รับเสียงปรบมือเกรียวกราว …เด็กอะไรช่างกล้าร้องเพลงเสียงดัง ทั้งๆที่ยังต้องนั่งตักคุณพ่อเกี๊ยง ขณะร้อง


เสียดาย ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดู เพราะผมนั่งไกล และแสงน้อย


ภาพที่ถ่ายมานี้ แค่ให้ดูแบบแก้ขัด


ของแท้ ต้องดูจากในกระทู้พันทิพ(ห้องเฉลิมไทย) คงจะมีคนเข้าไปโพสต์กันเยอะ รอสักแป๊บเฮอะ ...อุอุ ผมก็จะเข้าไปดูเหมือนกัลล์



นี่ โปสเตอร์หน้างาน





ภาพลูกๆเฉลียง .....ล้อแล้นน





จุ๊ย ร้องเพลงร่วมกะ ป้าง ...เพิ่งรู้ว่าเพลงดังของป้าง ตอนแรก ประภาส แต่ง จะให้ จุ๊ย ร้อง ...พอดีป้างไปเตะฟุตบอลกับประภาส และขอให้ประภาสแต่งเพลงให้ ผลก็คือ ประภาสมอบเพลงดัง ที่ทั้งคู่ร่วมกันร้อง คือเพลงนี้ มอบให้ป้าง ซะ





จุ๊ย นกฉัตรชัย(ดุริยะประณีต) และเกี้ยง ร่วมเล่นกีตาร์ด้วยกัน






เฉลียงร่วมร้องและเล่น ชุดใหญ่ ครบ 6 คน เพราะมาก ตามสไตล์ของคนวัยหลักสี่ แสดงใช้เวลาทั้งสิ้น มากกว่า 3 ชั่วโมงครึ่ง คุ้มค่าที่รอคอยจริงๆ ...










นับจากนี้ ผมก็คงจะต้องตามหา DVD คอนเสิร์ตครั้งนี้ เก็บไว้เป็นความทรงจำ ดีๆ ล่ะ ซิ ทีนี้




โดย: yyswim วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:22:45:49 น.  

 


คุณKurt Narris.....ขอขอบคุณครับ ที่เข้ามาเยี่ยม

คุระบุรี อยู่ทางระนอง แถวนั้น สองข้างทางจะมีต้นไม้ร่มครึ้ม ถนนคดเคี้ยวมากนะครับ ขับรถผ่าน จะต้องมีสมาธิระวัง ตอนที่รถผมขับผ่านบริเวณนั้น ฝนตกและถนนลื่น ผมเห็นรถสิบล้อ ลื่นตกข้างขอบทางด้วย


ป้าหู้....นอนหัวค่ำ ผมว่าดีนะครับ

พักผ่อนเอาสุขภาพดีๆ จะได้แข็งแรง


คุณโสดในซอย......ขอบคุณครับที่ช่วยแวะมาเตือน


หวัดดีครับ คุณแคท.....บล๊อกเรื่องหน้า คุณแคท อย่าเพิ่งเข้ามาที่บล๊อกนี้ นะครับ เพราะจะมีภาพนุ่งน้อยห่มน้อย จะขอร้อง ให้ละเว้นเข้ามา ประมาณ 10 วันเอง



ต่อตระกูล.....หนุ่มธรรมะ เข้ามา ขอขอบคุณนะครับ

คงจะอ่าน บนหัวแล้วนะ อุอุ



ตะหานน้ำ.....เรือไปเกยอยู่ที่เกาะไหนล่ะพี่ ถึงได้หายไปนาน

อัพบล๊อกใหม่ รึยัง?



คุณจุ.....ตอนที่คณะของผมพักอยู่ที่พังงา เพื่อนผู้หญิง เธอบอกว่า มีคนมาหาเธอ ทุกคืน

ผมเอง ไม่มีซิกเซ้นต์แบบใครเขา ไปที่ไหนๆ ก็ไม่เคยเจอสักครั้ง ใจหนึ่งก็ยังไม่เชื่อ อีกใจก็ไม่ได้หลบหลู่

วันจะออกจาก จ.พังงา พวกเราเต็มใจครับ ที่จะไปทำสังฆทาน กรวดน้ำให้ผู้ล่วงลับ

พอดี ด้วยครับ พรุ่งนี้ ผมก็จะทำบุญเลี้ยงพระเนื่องในโอกาส คุณพ่อจากไป ครบ 100 วัน


นายกาเมศ.....เขียนเมนต์เหมือนกะ คุณ ดี ที่บอกว่า อ่านเพลิน

ขอขอบคุณครับ

ผมยังคิดว่า ผมเขียนยาว อีกละ ….เพราะส่วนใหญ่ จะมีคนเข้ามาอ่านจริงๆน้อยมาก ส่วนใหญ่ มักจะเข้ามาเพียงแค่ทักทาย ขอบคุณอีกครั้ง




โดย: yyswim วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:23:08:55 น.  

 
อ่านเพลินมากเลย พังงาเคยไปเหมือนกัน เพราะเคยอยู่ที่กระบี่ตั้ง8เดือน ล่องอ่าวพังงาดูเขาตาปู เขาพิงกัน เขาหมาจู ถ้ำลอด แล้วแวะทานอาหารที่เกาะปันหยี พี่สินได้ทานหอยชักตีนหรือเปล่า จำได้ว่าอร่อยมากเลย แล้วก็มีเฉพาะแถวๆนั้น ตอนไปอยู่กระบี่ใหม่ๆ มีคนทำมาให้กิน ก็ทำเป็นรังเกียจ แต่พอได้ชิมแล้ว ชอบมาก อ่านชีวิตคุณสรวิศแล้วสมชื่อร้านจริงๆ พี่สินเหมือนอาจารย์ฉัตรชัยที่พาพวกสุ่นเที่ยวบ่อยๆเลย เวลาแกไปเที่ยวแกชอบไปพูดคุยกับคนพื้นที่ ได้ข้อมูล ข้อคิดเยอะแยะ ตอนนี้แกได้ศ.แล้วก็เลยลาออกมาเที่ยวอย่างเดียว เดือนหน้าจะไปปีนเขาที่คีนาบาลู เดือนตุลาก็จะไปเที่ยวจิ่วจ้ายโกว พี่สินไปด้วยกันไหมครับ เมื่อไม่นานมานี้ได้ดูรายการแฟนพันธ์แท้ของวงเฉลียง ก็ทำให้คิดถึงวันเก่าๆเนอะ เราก็แฟนคนนึงของวงนี้เหมือนกัน น้องต้นไม้โตเป็นหนุ่มแล้วเหรอ แล้วน้องต้นน้ำคนที่เป็นออทิสติกมาด้วยป่าวอ่ะ พี่จุ้ยยังโสดหรือว่าแต่งงานไปแล้วครับ
บ้านทาร์ซานที่ผมไปพักจะใช้ต้นไม้สี่ต้นเป็นมุมบ้าน ข้างในก็ไม่มีอะไร เป็นฝาขัดแตะ(เรียกถูกป่าวหว่า?) ต้นไม้ในบ้านยังมีงอกใบออกมาอยู่เลย พวกเรานอนพื้นกัน มีระเบียงบ้าน ห้องน้ำอยู่ตรงระเบียงบ้าน อาบยากเล็กน้อย เพราะมีกิ่งไม้ใหญ่ๆขวางอยู่กลางห้องน้ำ เวลากดชักโครก ก็จะได้ยินเสียงซูมๆๆ เพราะที่เรากดมันตกลงพื้นอ่ะ ไฟฟ้าก็จะมีแค่ตอนหกโมงเย็นถึงสี่ทุ่ม เวลานอน ใครขยับตัวหน่อย ก็จะโยกเยกเล็กน้อย เราหลับสนิทโชคดีไปemo


โดย: coming soon (The Yearling ) วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:50:13 น.  

 
อ่านจนจบโดยไม่ต้องทนอ่านแต่อย่างใด

ชอบมากๆกับปรัชญาของคุณเจ้าของร้านคนต้องส(ู้ชีวิต)
คิดอย่างเดียวว่า ที่นั่นคงจะจบแล้ว
หลังเหตุการณ์ร้ายผ่านไป

ผมเองก็อยากไปเที่ยวกระบี่ พังงามากครับ
ไม่มีสักนิดที่คิดกลัว ทั้งกลัวผีหรือกลัวคลื่น
ผมกำลังหาโอกาสไปที่นั่น

คำตอบของคุณดมไม่ได้อยู่ที่การโชคดีที่รอดตาย
แต่ทำอย่างไรไม่ให้ตายหลังจากรอด

และ"ใจที่สู้" แบบนี้แหละครับ
สอนเราๆท่านๆดีนักแล ว่าไอ้ที่บ่นว่าท้อ
งานมีแต่ความเหน็ดเหนื่อยยากลำบาก

จะได้ดูเป็นตัวอย่างว่าคนที่เค้าสู้ เค้าสู้แบบไหน
สู้ยังไง.....

เยี่ยมครับสำหรับเรื่องราวดีดีแบบนี้
ขอบคุณที่เขียนและแบ่งปันความรู้ดีดีให้แก่กันครับ




โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:53:13 น.  

 
เห็นเขาตะปูแล้ว อยากไปเห็นของจริงจังครับพี่สิน
โรงแรมเขาหลักที่โดนสึนามิใช่ปะครับ
น่าไปพักมาก ๆ
พี่สินใส่รูปสวยๆทั้งนั้น ผมดูเพลินเลยครับ

พี่ครับคือว่าตอนนี้ผมใกล้สอบแล้ว
ไม่ค่อยได้เข้าบล้อกเลย


โดย: basbas วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:51:40 น.  

 
สวัสดีคร้าบ มาขอบคุณที่แวะไปทักทายที่บล็อกฮับ

ไม่ได้ลงใต้มาหลายปีแล้ว อยากไปเที่ยวมากๆ เคยไปพังงาครั้งเดียว สวยมาก ชอบมากๆ เห็นรูปที่นำมาโพสต์ในบล็อกแล้วอิจฉา จขบ. จังเลย


อ่านมาเรื่อยๆ จบที่คอนเสิร์ตเฉลียง เป็นคอนเสิร์ตที่อยากดูมากๆ แต่ซื้อบัตรไม่ทัน อย่างเศร้าเลย ฮือ ดีใจกับ จขบ.ด้วยที่ได้ดูคอนเสิร์ตประวัติศาสตร์ครั้งนี้ คิดถึงทุกเพลงของเฉลียง (แม้ว่าเราจะอายุไม่ถึงเลข 4 ก็ตาม ฮี่ๆๆ ) ตอนนี้ก็ได้แต่หวังว่า คงจะมีโอกาสได้เก็บ DVD เนาะ


โดย: วลีวิไล วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:02:01 น.  

 


สุ่น.....เมืองจีน ผมยังไม่เคยไป ที่จริงก็ไม่ค่อยจะได้ไปไหนกับเขามากนักหรอก อยากไปซิครับ ถ้าใครมาชวนไป เพราะจะต้องไปค้างคืนกะบัดดี้ ตอนนี้ยังไม่มีบัดดี้ ก็เลยไม่ได้ มองทริปทัวร์ไปเที่ยวที่ไหน? อีเมล์หรือหลังไมค์ ไปหาได้นะครับ

เคยไปกระบี่ เคยอยู่กระบี่ตั้ง 8 เดือน ไปจีบใครไว้เหรอ แล้วคนเมืองชล จะกินเผ็ดได้เหอ เผ็ด ดุ นะ คนใต้ อุอุ

หอยชักตีน มีแถวๆทางใต้ ถูกแล้ว ....แต่บางร้านที่หัวหินก็นำมาขาย ....

ที่พังงา ผมทานหอยชักตีน ที่ร้าน “คนต้องสู้” แต่ไม่กล้าทานมาก ทานไปตัวเดียวเอง คืออยากจะเป็นเจ้าบ้านใจดี ให้เพื่อนๆจากกรุงเทพได้ทานของอร่อยๆ หอยชักตีนหมดจานก่อนจานอื่นเลยครับ

เฉลียงเมื่อบ่ายวันเสาร์ ผมไม่เจอคนรู้จักเลย ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหนกันหมด แต่ก็ไม่ได้เหงาอะไร เพราะสบตากับผู้คนทั่วไป ก็ดูเป็นมิตรและอารมณ์ดีกันทั้งนั้น

วันนั้น น้องต้นน้ำ ลูกคนเล็กของคุณแต๋ง ก็มา ออกมาหน้าเวทีสองครั้ง วิ่งนำหน้าลูกคนอื่นๆของเฉลียงด้วย แต่ออกมาแล้วจะเงียบ ไม่พูดอะไร ก็เลยไม่ได้ยินเสียง ส่วนลูกของคุณดี้ ชื่อน้องตังเม ก็ดูท่าจะอายๆไม่พูดเหมือนกัน ลูกของเจี๊ยบวัชระ มีสองคน ชายกะหญิง ลูกของนกฉัตรชัย มีคนเดียว โตและสูงกว่าลูกคนอื่นๆ

ของ จุ้ย เหอ? จุ้ยแต่งแล้วกับสาวเจียงใหม่ คงจะเจ็บหลังมั๊ง? เลยไม่ค่อยว่างทำการบ้าน อุอุ แซวได้ เพราะเป็นคนบ้านเดียวกัน อยู่เกาะเดียวกัน แม่ของเขากะแม่ของผมก็สนิทกัน จุ้ย ยังแซวถึงผู้ชมในฮอลเลยว่า ไม่มีใครจะให้ผมยืมลูก มั่งเหอ? รู้สึกน้อยหน้าเพื่อนๆ ยังไงไม่รู้


ขอบคุณที่อธิบายบ้านทาร์ซานให้ฟังเพิ่มเติม สร้างได้เหมาะกับคนที่อยากจะลองเป็นเจ้าป่า นะ เสียดายเพียงว่า ไม่ได้ถ่ายภาพมาช่วยเผยแพร่




กะว่าก๋า.......ขอบคุณครับ ที่บอกว่า อ่านจนจบโดยไม่ต้องทนอ่าน

บล็อกของคุณ เขียนได้ดีแทบทุกเรื่องนะครับ ...ผมขอชมเชย

คอมเมนต์ของคุณ หากคุณดม มีโอกาสเข้ามาอ่านสักครั้ง คุณดม คงจะดีใจที่มีคนเข้าใจความมีวิญญาณนักสู้ของคุณดม แม้จะไม่ใช่นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ ที่มีโอกาสออกรายการคนค้นคน ก็ตาม


น้องบาส......เขาหลัก เป็นภูเขาครับ มีต้นไม้ร่มครึ้มพอสมควร แต่คิดว่าคงจะมีคนจับจอง ซื้อโฉนดจากชาวบ้าน กันไปเยอะแล้ว เขาหลักขึ้นกับ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา

บนเขาหลัก และติดกับบริเวณเขาหลัก (ซึ่งเป็นหาดทรายสวย เป็นที่ที่ถูกซึนามิแบบเต็มๆ และตอนนั้น คุณดม เจ้าของร้านคนต้องสู้ ก็อยู่แถวนี้) ปัจจุบันมีโรงแรมระดับห้าดาว ขึ้นเยอะทีเดียว มักจะนำหน้าชื่อของโรงแรม ด้วยคำว่า เขาหลัก ทั้งนั้น หากใครจะไปพบเพื่อนที่มาพักโรงแรมต้องถามรายละเอียดให้ดีๆ ว่า อยู่โรงแรมเขาหลักอะไร ที่พี่ไปพัก2วัน ชื่อโรงแรมเขาหลักซีวิว รีสอร์ตแอนด์สปา

เดือนกรกฏาคม คงจะเหนื่อยกะการสอบมิดเทอม พี่เอาใจช่วยนักศึกษาปี3 ช่างไฟฟ้าครับ ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง มีใจฮึกเหิมที่อยากจะอ่านหนังสือ และมีความสัมพันธ์ที่ดีกะเพื่อนๆ จะได้ช่วยกันติว ร่วมกันจบ ยกแก๊งค์


วลีวิไล.....เรียกแบบผู้ชายนะ ไม่ต้องมีคุณ นำ

ขอบคุณครับที่เข้ามาเยี่ยมบ้านหลังเล็ก บ้านนี้ยังจัดตกแต่งบ้าน ไม่ค่อยเป็น แต่อาจจะเป็นคนไม่ค่อยชอบตกแต่งก็ได้ ง่ายๆแบบวงเฉลียง อุอุ

วันที่ไปดู เห็นมีผู้ซื้อบัตรผีเพื่อนำไปขายต่อ ถามหาซื้อบัตรผีอยู่หน้างานเหมือนกัน อาจจะเป็นไปได้ว่า บัตรขายหมด แต่ขณะที่ผมนั่งดูคอนเสิร์ต ผมชำเลืองไปรอบๆ ก็เห็นบางที่นั่ง มีที่นั่งว่างอยู่เหมือนกัน

ผมรู้สึกเสียดายแทนครับ ที่คุณวลีวิไล ไม่ได้ไปชมคอนเสิร์ต เพราะวงนี้ร้องผิดคีย์ ผิดเนื้อกันตลอด ...ทำไมผมถึงรู้ อุอุ เพราะพวกเฉลียงกันเอง นั่นละ บอกกันบนเวทีกันเลย ฮากันตรึม

ตอนที่ซื้อบัตรคอนเสิร์ต ผมก็ไม่ได้ไปซื้อที่โรงหนัง Major Cineplex หรอกครับ เพียงคลิกซื้อจากในอินเตอร์เน็ต จ่ายเงินก็ตัดจากเลขบัตรเครดิต แล้วรอรับกระดาษพริ้นท์ จากพริ้นเตอร์ เพื่อนำรหัสของบัตรในกระดาษพริ้นท์ ไปรับบัตรเข้างานที่หน้างาน มีคนทำแบบผมเยอะครับคุณวลีวิไล อ้อ การซื้อบัตรเมเจอร์ เขาไม่คิดค่าธรรมเนียมใดๆครับ




โดย: yyswim วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:33:41 น.  

 
พวกเราคงจะไปจิ่วจ้ายโกวกันประมาณช่วงครึ่งเดือนหลังตุลาคม เพราะเดือนตุลาจะเป็นเดือนที่สวยที่สุด แต่ครึ่งเดือนแรกมีวันหยุดประจำชาติของจีน คนท้องถิ่นจะไปเที่ยวกันเยอะมาก ก็เลยเลี่ยงไปช่วงครึ่งเดือนหลัง ดีใจจังที่พี่สินสนใจจะมาร่วมแก๊งค์คนโสด ไปกะอาจารย์ฉัตรจะเป็นตะลอนทัวร์ ไม่ได้ซื้อแพ็คเกจ ก็จะแชร์ๆกัน ตังค์หมดก็เก็บเพิ่ม จบทัวร์เหลือตังค์เหลือก็คืน คนที่ไปก็หน้าเดิมๆที่พี่สินเห็นในบลอกน่ะ เราเหล่าลูกทัวร์ไม่ต้องทำการบ้าน อาจารย์แกจัดการหาข้อมูลไว้หมด แถมแกพูดได้หลายภาษา เราเป็นลูกเป็ดคอยเดินตามอย่างเดียว ไว้ใกล้ๆคงมีข้อมูลเพิ่มเติมบอกพี่สินอีกที ตอนนี้ยังไม่ได้ไปทำพาสปอร์ตเลย(หมดอายุไปแล้ว) กะว่าไปทำสักเดือนกันยา

พี่สินเป็นคนเกาะสมุยนี่เอง เคยอ่านว่าบ้านพี่จุ้ยเป็นห้องสมุดประจำเกาะ งี้พี่สินก็เป็นเพื่อนเล่นกะพี่จุ้ยมาตั้งกะเด็กหรือเปล่า?emo


โดย: coming soon IP: 61.90.160.163 วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:41:03 น.  

 
สวัสดีค่ะ ขออนุญาติเรียกคุณสิน เหมือนเพื่อนๆท่านอื่นของเจ้าของblog นะค่ะ

บังเอิญมาดู blog เพราะหาคำว่า เรียนว่ายน้ำ โดยแท้เลยค่ะ เพราะโดยส่วนตัวเป็นคุณแม่อยู่และกำลังหาคนสอนว่ายน้ำ บังเอิญ search เจอเว็บ ของคุณสินนะค่ะ

พังงาน่าเที่ยวนะค่ะ เคยแต่ขับรถผ่านค่ะ จากกระบี่ จะไปภูเก็ต เพื่อขึ้นเครื่องนะค่ะ พังงามีทิวทัศน์ที่สวยมากจริงๆค่ะ โดยเฉพาะเวลาขับแล้วมีวิวต้นไม้ จะร่มรื่นมากๆค่ะ

กลับมาเรื่องเรียนว่ายน้ำต่อนะค่ะ คุณสินพอจะรู้จักใครที่รับสอนว่ายน้ำ แบบตัวต่อตัวนอกสถานที่ไหมค่ะ ? รบกวนแนะนำให้หน่อยได้ไหมค่ะ แวะไปตอบที่ไดฯของ เราก็ได้ค่ะ

//catalunya.diaryclub.com

คิดว่าจะให้ลูกเรียนเร็วๆนี้ อาจจะช่วงปิดเทอมนะค่ะ อยากได้คำแนะนำบ้างค่ะ

ขอบคุณล่วงหน้านะค่ะ


โดย: แม่น้องแคท IP: 202.183.252.241 วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:44:15 น.  

 


สุ่น.....หากมีข่าวคราวเรื่องทริป จีน เพิ่มเติม ช่วยบอกให้ทราบบ้างนะ จะได้รีบตัดสินใจ

แล้วไปแบบไม่มีเพื่อน จะทำไงดีล่ะ?

เออ ผมเข้าเรียนก่อน จุ้ย ....ไม่ได้เป็นเพื่อนกัน ...เป็นรุ่นพี่ โฮะโฮะ





โดย: yyswim วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:41:42 น.  

 
แวะมาเยี่ยมบล็อค
ภาพสวยมาก อ่านสนุกจนจบไม่รู้ตัว

ปกติไม่ค่อยได้เที่ยว
แต่วันนี้รู้สึกเต็มอิ่มกับการเที่ยวพังงา
ขอบคุณจขบ. ขอบคุณจริงๆ


โดย: JD. IP: 124.121.68.198 วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:00:11 น.  

 


คุณแม่น้องแคท ครับ....ผมต้องขออภัยตั้งแต่บันทัดแรกก่อนที่คุณจะอ่านเลยว่า หากผมตอบได้ไม่ละเอียด ต้องขออภัยนะครับ ...อาจจะมีคนตอบได้ดีกว่าผมครับ

เพราะผมไม่ใช่คนในวงการกีฬาว่ายน้ำ ไม่เคยเรียนว่ายน้ำ(ว่ายเป็นเอง) ไม่มีลูกหลานที่จะไปเรียน …ผมเคยก็แต่ เห็นบรรยากาศของการสอนการเรียน บ่อย เพราะว่ายน้ำมานาน ...อุอุ เด็กและครู เสียงเจี๊ยวจ๊าว กันน่าดู

อีกอย่างผมก็ไปว่ายน้ำเพียงไม่กี่สระครับ สระแพงๆ ไม่ว่ายครับ ผมหยิ่งมากครับ อุอุ …ม่ายช่าย ... คือบางสระ มันเป็นสระสั้นไป ว่ายแป๊บเดียวก็สุดขอบสระแล้ว แบบนี้ จะไม่ชอบลง


เรื่องการจะชักชวนให้ลูกไปเรียนว่ายน้ำนั้น คงจะต้องใช้จิตวิทยานะครับ ไม่งั้น ลูกจะไม่ชอบ เหมือนกับถูกบังคับ แล้วจะดื๊อตอนลงเรียนว่ายน้ำ เรียนไปก็เป็นยาก เป็นช้ากว่าคนอื่น ทำให้ลูกของเรา ท้อ แล้วสุดท้ายไม่อยากจะเรียน เหม็นเบื่อไปเลย


ผมอยากจะขอแนะนำ ให้เลือกสระใกล้บ้าน หรือทางผ่านบ้าน เพราะจะไม่เป็นภาระกับคุณแม่มากเกินไป


เรื่องครูสอนเก่ง ไม่เก่ง ผมว่าเป็นเรื่องรอง ...ส่วนใหญ่ในช่วงการสอนให้ลูกว่ายน้ำเป็น ครูสอนว่ายน้ำแทบทุกคน จะมีทักษะไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ ...อันนี้ ผมสังเกตมาจากหลายๆที่ครับ เพราะครูทุกคน จะผ่านการอบรมแบบเดียวกัน


การสอนจะเก่งหรือไม่เก่ง ผมว่าอาจจะขึ้นอยู่กับ ประสบการณ์ของครู และใจรักของครูมากกว่า


แรกสุดทีเดียว คุณแม่อาจจะต้องค้นหา สถานที่สอนว่ายน้ำที่อยู่ใกล้บ้าน หรือทางผ่านบ้านเสียก่อน


ผมลอง search จากหน้าเว๊ป search คำว่า สอนว่ายน้ำ ของ Google.co.th มีข้อมูลรับสอนว่ายน้ำ เยอะทีเดียวครับ ลองคลิกหาดูนะครับ



หน้าเว๊ป search ของ Sanook.com ก็มีข้อมูลรับสอนว่ายน้ำ อยู่บ้าง แต่ไม่มากเท่าของ Google



ที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย ก็มีสอนว่ายน้ำครับ ....สระว่ายน้ำอยู่ติดกับ สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน ถ.รามคำแหง




ข้างล่างนี้ เป็นการสอนว่ายน้ำ โดยเอกชน ลองคลิกเล่นๆดู


(ผมเคยทราบว่า ฉลามณุก ก็รับสอนว่ายน้ำ และพทัญญู ยิ้มสำรวย นักว่ายน้ำทีมชาติ ก็รับสอน ...ลอง search ดูก็ได้)


โรงเรียนสอนว่ายน้ำพรหมประทาน ถ. แจ้งวัฒนะ นนทบุรี


อานนท์ แอนด์ วีเค สปอร์ตคลับ อยู่บางขุนเทียน


สโมสรชัยพฤกษ์บางนา อยู่ในหมู่บ้านชัยพฤกษ์ บางนา ก.ม. 18 สมุทรปราการ


สโมสรวรินทิพย์สมุทรปราการ กรุณาดูแผนที่ ในเว๊บนะครับ จะได้ทราบว่าอยู่ตรงส่วนไหน ของสมุทรปราการ



เรื่องราคาค่าสอน ... ควรจะเลือกแบบแพงหรือไม่แพง อันนี้ ผมคิดว่า แล้วแต่ใจของเจ้าของกระเป๋าเงิน บางครั้งครูที่คิดราคาแพง อาจจะเกรงใจลูกของเราก็ได้ ทำให้ลูกว่ายน้ำเป็นช้า แต่ครูที่คิดราคาค่าสอนเป็นกลุ่ม และคิดราคาถูก ครูพวกนี้จะเข้มงวดกับเด็กที่เรียนทั้งกลุ่ม(ราว10คน) อาจจะดุและอาจจะลงโทษลูกของเรา ต่อหน้าเราด้วย แต่ลูกจะตั้งใจเรียน และว่ายน้ำเป็นเร็ว ครับ


หมายเหตุ : หากจะให้ลูกฝึกว่ายน้ำ เพื่อหวังจะให้เก่งเป็นนักกีฬา แบบนี้ จะต้องเลือกครูที่เก่ง ครับ ...แม้จะอยู่ไกล ก็ยอม ...จ่ายเงินมากหน่อย ก็ต้องยอม



กรณี หากอยากจะเรียนเป็นกลุ่ม และฟรี .... ศูนย์เยาวชน และศูนย์กีฬา ของกรุงเทพมหานคร จะสอนว่ายน้ำให้เด็กและผู้ใหญ่ ฟรี(ขอยืนยันครับ) แต่เรียนกันคนละรอบ และถ้าใครจะเรียน จะต้องสมัครสมาชิกศูนย์เยาวชน หรือศูนย์กีฬาเสียก่อน

สำหรับเยาวชนชาย-หญิง อายุระหว่าง 5-18 ปี ค่าสมัคร ปีละ 10 บาท

อายุ 18 ปีขึ้นไป ค่าสมัคร ปีละ 40 บาท

หลักฐานการสมัคร รูปถ่ายหน้าตรง 1 นิ้ว จำนวน 2 รูป สำเนาทะเบียนบ้าน (กรณีอายุ 5-15 ปี) บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรข้าราชการ (กรณีอายุ 15 ปีขึ้นไป) และใบรับรองแพทย์



ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร(ไทย-ญี่ปุ่น) ปิดกิจกรรมทุกอย่าง ในวันจันทร์
โทร. 02-245-4743 ...สระว่ายน้ำ(อาจารย์ไชยา) ต่อ 49



ศูนย์กีฬาของกรุงเทพมหานคร เปิดทุกวัน ไม่มีวันหยุด


1. ศูนย์กีฬาประชานิเวศน์ (ซอยสำนักพิมพ์หนังสือพิมพ์มติชน และหนังสือพิมพ์ประชาชาติ)ถนนเทศบาลสงเคราะห์ เขตจตุจักร โทร. 0-2589-3201(อาจารย์กฤษฎา)


2. ศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ)ถนนกำแพงเพชร 3 เขตจตุจักร โทร. 0-2248-1892


3. ศูนย์กีฬารามอินทรา ถนนรามอินทรา ซอยรามอินทรา 19 เขตบางเขน โทร. 0-2552-8044


4. ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติบางมด ถนนประชาอุทิศ เขตราษฎร์บูรณะ โทร. 0-2426-2612-14 และ 0-2426-2267


5. ศูนย์กีฬาอ่อนนุช ถนนอ่อนนุช 71 เขตประเวศ โทร. 0-2321-5839 และ 0-2320-1368


6. ศูนย์กีฬาบางบอน (ไพฑูรย์ กระจ่างศิลป์) ถนนเอกชัย-บางบอน เขตบางบอน โทร. 0-2451-5109


7. ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ซอยวัดทองสัมฤทธิ์ ถนนสุวินทวงศ์ เขตมีนบุรี โทร. 0-2543-8486


แต่ หากต้องการ จะให้ครูผู้สอนว่ายน้ำ ที่ศูนย์กีฬาดังกล่าวข้างบน สอนเฉพาะตัวต่อตัว ให้กับลูก ก็คงจะกระทำได้มั๊ง ลองคุยกับครูสอนว่ายน้ำดูนะครับ ..น่าที่จะคิดเงินรายจ่ายไม่แพงเท่ากับเอกชน ...ครูสอนว่ายน้ำมีทั้งชายและหญิงครับ





โดย: yyswim วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:20:03 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณสิน

ยังไม่ได้อ่านเลย แต่ ขอเมนท์ก่อน คุณสินสบายดีไหมคะ ปอเรื่อยๆ แต่ยุ่งมากๆ เลยหายหัวไปนาน อยากไปทะเลมั่งอ่ะ รูปถ่ายผลไม้ไทย ทรมานใจดีแท้ๆ เชียว


โดย: ปอ (O_Sole_mio ) วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:46:55 น.  

 
เห็นภาพแล้ว อย่างแรกที่นึกถึงเลย คือซึนามิครับ
นึกอยู่เหมือนกันว่าข้อเขียนในวันนี้คงพูดถึงซึนามิอยู่ไม่มากก็น้อย
ขณะที่อ่าน ใจผมก็อดหวนนึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นไม่ได้

อยากไปเที่ยวทะเลทางใต้เหมือนกันครับ
แต่ทุกครั้งที่ผมไปจะต้องไปดำน้ำ ( สน็อกเกอลิ่ง ) เป็นหลัก
ฤดูนี้คงไปไม่ได้แล้ว ก็ว่าจะไปทะเลครับ แต่ยังไม่รู้ว่าที่ไหนเหมือนกัน
อาจจะไปเดินเล่นหาของกินจนอ้วนแถวๆ หัวหินก็ได้

ปอลอ
มีพ่วงคอนเสิร์ตเฉลียงในบล๊อกเดียวกันด้วยเหรอเนี่ย


โดย: พลทหารไรอัน วันที่: 3 กรกฎาคม 2550 เวลา:2:06:32 น.  

 
โอ้โห ไปเที่ยวมาอีกแล้ว....

ที่พังงาสวยขึ้นมากเลยนะคะ หลังจากเกิดเหตุการณ์น่าสะเทือนใจ ที่พักที่เขาหลักก็สวย หนูยังไม่เคยไปพังงา ก็อาศัยดูรูปไปก่อน ก็ยังสวยเลย...

แอบเห็นอาหารแล้วน่ากินไปหมด.... วันนั้นกินข้าวไปกี่จานคะบอกได้เป่า


ตอนนี้ blog ของกุ๊กก๋อมมีความพัฒนาขึ้นแล้วนะคะคุณครูสุ่น ก็ได้ครูดี หนูถึงมีกำลังใจทำ blog ไงคะ

ของคุณ rd_lam เขาก็พัฒนาเหมือนกัน ไม่รู้จะแข่งกันกับหนูรึเปล่า เพราะเช้านี้หนูแอบเข้าไปดู blog ของเขา ปรากฎว่าเขาไม่ยอมหลับยอมน้อย ตี 1 ยังนั่งทำอยู่เลย ไม่รู้ว่าลูก kevin จะเตะจนนอนไม่หลับ หรือว่าเขาจะเห็น blog ของหนู update ไปมาก เพราะหนูอวดเขาวันก่อนนี้ เขาเลยเครียดรีบไปทำซะเลิศเลยคะ ... นี่หนูทำบาปกับคนท้องรึเปล่าคะเนี่ย



โดย: kookkom (the kookkom ) วันที่: 3 กรกฎาคม 2550 เวลา:8:12:57 น.  

 
www.phanganvilla.com
Beach Bungalow
Koh Phangan
Thailand

FULLMOON PARTY THE WORLD ' PARTIES


โดย: www.phanganvilla.com IP: 222.123.137.166 วันที่: 3 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:04:02 น.  

 
พี่สินครับ คร่าวๆ ก็ครึ่งหลังเดือนตุลาคม ไปประมาณ5-7วัน แล้วแต่สมาชิกว่าแต่ละคนสามารถหาวันลา วันแลกเวรกันได้แค่ไหน พวกอาจารย์สบายเพราะตรงกับปิดเทอม ทัวร์นี้สบายๆ ยืดหยุ่นตามความต้องการของสมาชิกทัวร์ พี่สินไม่ต้องห่วงเรื่องเพื่อนๆ น่ารักทุกคน ตกค่ำมีเกมสารพัดเล่นกันก่อนนอน ไว้ใกล้ๆแล้วจะแจ้งพี่สินอีกที ตอนนี้เขากำลังเตรียมไปคีนาบาลูที่มาเลเซียกัน ไปกลางเดือนหน้านี้แล้วemo


โดย: coming soon IP: 61.90.160.163 วันที่: 3 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:30:59 น.  

 
คุณสินค่ะ

ขอบคุณมากๆค่ะ เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ เดี๋ยวจะไปลองเสาะหาอีกทีค่ะ

น้องแคท ชอบว่ายน้ำค่ะ แต่ตอนนี้กำลังดูเรื่องเวลาและวันอยู่ โดยส่วนตัวคาดว่า อาจจะให้เรียนช่วง summer ปีหน้า เพราะปีนี้ ต้องเตรียมตัวเค้า ให้ พร้อมสอบเข้า โรงเรียน อีกที่นึงก่อนค่ะ ถ้าสอบได้แล้ว คาดว่า น่าจะสบายในการให้เรียนว่ายน้ำค่ะ

ขอบคุณคุณสินอีกรอบนะค่ะ ใจดีจังเลยค่ะ

บุญรักษานะค่ะ
ป๊อก .. แม่น้องแคทค่ะ
//catalunya.diaryclub.com




โดย: แม่น้องแคท IP: 202.183.252.241 วันที่: 3 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:23:33 น.  

 



กลับมาอ่านอีกรอบได้อ่านเรื่องคอนเสิร์ตเฉลียงด้วย ดีจังค่ะ

คอนเสิร์ตวงนี้ ดี.เคยไปดู นานแล้ว...
(ไม่รู้ว่าไปดูตอนไหน แต่เคยดู)
ถ้าปี 36.............ก๊อ.......อายุประมาณ 13 เหรอ
จำไม่ค่อยได้แล้วค่ะ

แต่ช่วงเด็กๆจำได้ว่าดูคอนเสิร์ตเยอะมาก
พี่ดี.ทำงานหนังสือ
ได้บัตรคอนเสิร์ตทุกคอนเสิร์ต
ได้ครั้งละหลายๆใบ ดี.เลยได้ดู
แต่การไปดูแต่ละครั้ง ก็มีหน้าที่ค่ะ
ต้องเขียนเล่าบรรยากาศคอนเสิร์ตว่าเป็นยังไงบ้าง
แล้วพี่ก็เอาไปลงหนังสือ
ได้ค่าขนมด้วยครั้งละ 500 บาท
เยอะนะคะ
(ตอนนั้นดี.ไม่รู้สึกว่าเยอะ
แต่พอมาเทียบกับตอนนี้ถึงรู้ว่าเยอะมาก)
อาจจะเป็นเพราะพี่ให้เลยได้เยอะ
แล้วเงินหายไปไหนหมดหว่า555+


เกือบลืมไปแล้วนะเนี่ยว่าเคยเขียนงานเกี่ยวกับคอนเสิร์ตด้วย
มาอ่านคราวนี้เลยได้ย้อนความทรงจำด้วย
แต่ดี.จำเรื่องเก่าๆได้น้อยถึงน้อยมากเลยนะคะ
อาจจะเป็นเพราะบางช่วงของชีวิต
มีเรื่องที่เราไม่อยากจำ
พอจะนึกถึงเหตุการณ์อะไรช่วงนั้นเลยไม่พยายามนึก
เลยทำให้เรื่องดีดีหลายๆเรื่องพลอยหายไปด้วย

แต่ถ้าถามว่าเสียดายไหม...ก็คงไม่ค่ะ





โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 3 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:43:10 น.  

 
แวะเข้ามาเยี่ยมค่ะ..



พังงาน่าเที่ยวมากๆ อาหารน่ากินจังนะคะ
กลับมาคุณสิน คง swimming เยอะเลย
แต่เพื่ออาหารอร่อยๆดังๆ ต้องยอมจริงเป่า

p.s. แอบเห็น'ment คนชอบอิจฉาหนูด้วยอ่ะ

พัฒนา Blog ล่ะแวะมาเยี่ยมอีกน่ะค่ะ ...


โดย: rd_lam วันที่: 4 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:04:41 น.  

 


หวัดดีครับ คุณปอ......ผมก็ไม่ค่อยว่างเหมือน คุณปอครับ นอกจากจะไม่ได้ไปเยี่ยมคุณปอแล้ว คนอื่นๆผมก็ไม่ได้ไปเยี่ยมเหมือนกัน

ตอนนี้ ต้องเข้าประชุมบ่อย เมื่อคืนก็นั่งอัพบล็อกอยู่จนดึก เพราะถึงเวลาที่ควรจะลงบล็อกเรื่องใหม่ ได้สักที

วันนี้ พอตอบเมนต์เสร็จก็จะไปเยี่ยมที่บล็อกนะครับ

ผลไม้ทางเยอรมัน สด และปลอดภัยครับ กล้วยหอมเขาก็เนื้อแน่นดี แต่สำหรับคนไทย ก็รู้สึกเหมือนกันว่า ทานลองกอง ทานเงาะ ทางมังคุด จะชุ่มปาก หวานคุ้นลิ้นมากกว่า

ทนเรียนต่อให้จบเถิด โก้มากนะครับ จบเมืองเจริญ ที่เยอรมัน ...ใครเขารู้เขาก็อิจฉา ตาร้อน ด้วย


เจฟ.....ช่วงเดือนนี้ ท้องฟ้า พายุ ไม่น่าจะไปเดินเล่นทะเล หรือแม้แต่น้ำตก อุอุ กลัวน้ำป่า

ช่วงเดือนนี้ นอนอยู่กะคนใกล้ตัว อ่ะ น่าชื่นใจที่สุด ลองนับเสียงเม็ดฝนกันดูซิ

หรือไม่ก้อ ลองทำอาหารอร่อยๆ กินด้วยกันซิ

หรือไม่ก้อ ไปออกกำลังกายในร่ม ที่ไหนๆ ก้อน่าสน ...อุอุ แซวคนมีความรัก


น้องกุ๊กก๋อม......โห พาสข้ามชั้นกัน ทั้งนั้นเลย เรื่องพัฒนา ตกแต่งบล๊อก

น้าคนนี้ ก้อยังไม่ก้าวไปถึงไหน โลว์เท็คมาก

เดี๋ยวจะไปเยี่ยมที่บ้านนะ น้องกุ๊กก๋อม ...และจะไปที่บ้านหลานเควินด้วย


สุ่น.....ขอบคุณ ที่ช่วยเพิ่มข้อมูลให้ทราบ

จะนั่งรอ นอนรอ ข้อมูลใหม่เพิ่มเติม



คุณแม่น้องแคท......คุณป๊อกครับ เมื่อวาน ที่สระว่ายน้ำไทยญี่ปุ่น ดินแดง สระว่าง เด็กๆ เลย

เพราะพอดีเป็นช่วงที่รอ สอนรอบใหม่ ซึ่งจะเริ่มสอนว่ายน้ำเป็นกลุ่ม และฟรี

เริ่มวันสอนวันแรก 6 กรกฎาคม แต่อยากบอกเสียก่อนว่า น้ำในสระช่วงนี้ จะไม่ค่อยน่าว่ายครับ

อาจจะเพราะฝนตกทุกวัน นำเอาฝุ่นในอากาศกรุงเทพ ลงในสระทุกวัน เมื่อวาน เขาเลยลงคลอรีน จนรู้สึกเลยว่า เส้นผมของตัวเอง กระด้าง

ไม่ได้เชียร์ที่นี่นะครับ ถ้าใกล้ที่ไหน ควรจะให้ลูกไปเรียนที่นั่น

อีกอย่าง สระที่อยากจะให้ลูกเรียน ก็ไม่จำเป็น ต้องเป็นสระยาว 50 เมตร เพราะช่วงที่เรียน ลูกจะว่ายได้ไม่ไกล ว่ายกันแค่5-10 เมตรเท่านั้น

รอให้ลูกว่ายเป็น จึงค่อยนำลูกไปว่าย ที่สระมาตรฐาน 50 เมตร



คุณดี......เห็นบอกว่า “ถ้าปี 36.............ก๊อ.......อายุประมาณ 13 ”….. งั้นตอนนี้ คุณดี ก้อเป็นสาวสวยแล้ว

คอนเสิร์ต ที่ผมจะไปดู ครั้งต่อไป คือ คอนเสิร์ต 25 ปี ดี้ นิติพงษ์......จัดราวเดือนสิงหาคม แต่ตอนนี้ยังไม่ได้จองบัตรครับ คิดว่าจะไปดูในวันแรก วันที่มีนันทิดาร่วมร้อง(นักร้องมีหลายคนมากกก ในสองวัน นักร้องจะไม่ซ้ำกันเลย )

ส่วน คอนเสิร์ต 25 ปี คาราบาว ...ในวันเสาร์ ที่จะถึง ผมคงจะไม่ได้ไป เพราะมีไปทำธุระที่อื่น


คุณดี ไปดูคอนเสิร์ต ตอนเด็ก แล้วกลับมาเขียนได้กะตังค์ ...เอ๊ะ แบบนี้ น่าจะเขียนลงตีพิมพ์ นะครับในตอนนั้น และแบบนี้ ก็น่าจะยังพอค้นหามาอ่านได้ ...เป็นเรื่องน่าสนใจมากครับ



แม่ของหลานเควิน......ปรับปรุงบล็อก ปรับปรุงบ้าน เพื่อต้อนรับหลานเควิน ....โห ทำกันคึกคัก

แล้ว แดนนี่ ช่วยปรับปรุง ส่วนไหนของบล็อกบ้าง?

น้องกุ๊กก๋อม บอกว่า ทำงานบล็อก จนอยู่ถึงดึกเหรอ ....อุอุ เหมือนลุงเลย แต่ลุงไม่ได้นั่งตกแต่งบล็อก ลุงนั่งอ่านเมนต์ เขียนตอบเมนต์ เป็นส่วนใหญ่





โดย: yyswim วันที่: 4 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:04:55 น.  

 
งานดี.ที่เขียน เคยลงในนิตยสารค่ะคุณสิน เคยเก็บไว้
แต่ความที่หนังสือเยอะมาก พี่สาวดีเลยเอาไปเก็บไว้ที่สุโขทัย มีห้องเก็บอย่างดี
(ใช้รถ 10 ล้อขนหนังสือไปจากกรุงเทพเลยนะคะนั่น)
แต่คาดไม่ถึง
มีอยู่ปีนึงน้ำท่วมหนัก (2-3 ปีที่แล้วนี่แหละค่ะ)
ของที่อยู่ในห้องนั้นทั้งหมดจมน้ำ
เสียดายมากๆ ตอนดี.เด็กๆยังเขียนงานด้วยลายมืออยู่เลย
ลายมือดี.ที่เป็นต้นฉบับพี่เค้ายังเอามาเก็บๆสุมๆไว้ในห้องนั้น
รวมทั้งต้นฉบับของนักเขียนดังๆตั้งหลายคนที่พี่เค้าได้มาก็มาเก็บเอาไว้

ของที่เสียหายไปรอบนั้นถ้าคิดเป็นเงินคงไม่มากนัก
แต่ถ้าคิดในแง่จิตใจนี่สาหัส

ดี.น่ะไม่เท่าไหร่
เป็นคนไม่ค่อยเก็บอะไรอยู่แล้ว

แต่พี่สาวดี.น่ะน้ำตาซึมเลย
ไม่พูดสักคำ...แต่ตาแดงงงงง

สิ่งที่พี่อยากได้มากที่สุด
เป็นเสื้อที่แจกในกองถ่ายหนัง "อำแดงเหมือนกับนายริด"
ที่เสื้อมีลายเซ็นต์ดารา-ทีมงานทุกคน
รวมถึงลายเซ็นต์ของคุณส.อาสนจินดา
ซึ่งคาดว่าเป็นลายเซ็นต์ครั้งสุดท้ายก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต

บัตรคอนเสิร์ต รวมถึงสูจิบัตร
และของที่ระลึกจากการที่พี่ดี.ทำงานหนังสือตั้งแต่ปี 27
ไล่มาเรื่อยๆๆๆๆๆ....ไม่เหลือเลย

ไม่งั้นดี.คงได้จิ๊กมาเขียนลงบล็อกมั่งล่ะ

แต่ตอนนั้นโชคดีตรงที่ว่า หนังสือที่พี่ขนไปทั้งหมด
เกินครึ่งได้เอาไปบริจาคที่เรือนจำสวรรคโลก
ก็ยังใช้ให้เกิดประโยชน์ได้บ้าง ไม่งั้นคงเสียดายกว่านี้


นึกๆแล้วเสียดาย...
ก่อนที่น้ำจะท่วม ดี.ยังคิดอยู่เลยว่าจะไปรื้อดูว่ามีอะไรที่เป็นของดี.บ้าง...
ตอนนั้นเกิดอารมณ์อยากสะสมงานขึ้นมา
เห็นพี่บางคนเก็บงานเขียนของเขารวมไว้เป็นเล่ม โอ๊ยยยยดูดีเชียว
เลยอยากทำมั่ง ดี.น่ะเขียนมาตั้งแต่เด็ก เก็บรวมเล่มล่ะตรึม
ได้แต่นึก....น้ำท่วมซ๊าแร้วววว


โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 4 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:13:33 น.  

 
แวะมาแจมน่ะ
ว่าง ๆ แวะ blog เราบ้างน่ะ เรา ทำกรอบรูป จังหวัด ภูเก็ต


โดย: may (may-momo ) วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:12:14:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

yyswim
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]





บล็อกสรรสาระนี้ จขบ.ไม่ได้เขียน-ไม่ได้ถ่ายภาพ-ไม่ได้อัพโหลดคลิปเอง หากแต่ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการบล็อก เสาะหาเรื่องดีๆ รูปสวยๆ คลิปแปลกๆ มาไว้ในบล็อก


ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยม ขอเชิญชมหรืออ่านตามสบาย ไม่ต้องคอมเมนต์ก็ได้ จขบ.ชอบการเข้ามาเยี่ยม แบบกันเอง ง่ายๆ สบายๆ




เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2548


เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2550 เวลา 23.30 น.


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม




Latest Blogs

New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add yyswim's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.