Bloggang.com : yyswim - คิดในแง่ดี

คิดในแง่ดี

คิดในแง่ดี

บล็อกเรื่องนี้ มีภาพที่ล่อแหลมศีลธรรม …ไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่บรรลุนิติภาวะ และผู้ที่ไม่อาจมองภาพเปลือยได้ …

ขอร้องว่ากรุณาคลิกผ่าน ไม่ควรจะเข้าไปอ่านครับ

ความคิดของเราเป็นอิสระที่สุดในบรรดากิจกรรมทั้งมวลที่เราทำอยู่

เราจะคิดอย่างไร คิดมาก คิดใหญ่ คิดลึก คิดเล็ก หรือไม่คิดเลย ก็ไม่มีหัวหน้าหรือผู้ปกครองที่ไหนจะมาห้ามได้

เราจะคิดแผลงๆ จินตนาการร้าย หรือคิดทะลึ่ง ถ้าไม่เผลอแสดงออกไป ก็เป็นอิสรเสรีของเรา

แต่ที่เราคิด หากคิดหมกหมุ่น คิดบ่อยๆ ความคิดนั้นๆสามารถจะมีผลออกมาเป็นความเชื่อมั่นในใจ และแฝงตัวแสดงออกมาในรูปคำพูด น้ำเสียง สายตา และการกระทำของเราได้

เมื่อความคิดเป็นอิสระเสรี คิดดีก็ได้ คิดไม่ดีก็ได้ มีสองทางเลือกที่ให้เราเลือก ...เราน่าจะพยายามคิดแต่เรื่องดีๆ

เพื่อกล้ามเนื้อของเราจะได้ผ่อนคลาย ใบหน้าจะได้ดูสดชื่น การไหลเวียนของโลหิตเป็นปกติ ความดันเลือดก็เป็นปกติ

เพื่อเราจะได้ไม่เป็นที่รังเกียจ ได้เป็นที่รักของผู้อื่น เพื่อเราจะได้ไม่ไปเข้าใจผิดผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว

เพื่อผู้อื่นจะได้ยอมรับและชอบบุคลิกเรา อยากอยู่ใกล้เรา อยากทำงานร่วมกับเรา แถมเรายังจะเป็นผู้สร้างบรรยากาศรอบข้างให้เป็นสุข สนุกสนานเฮฮา

มีฟอร์เวิดเมล์เรื่องหนึ่งที่ผู้แต่ง(ไม่ทราบเป็นใคร)แต่งได้คมคายดี....

เจอร์รี่ เป็นผู้จัดการร้านอาหารแห่งหนึ่ง เขาเป็นคนมีอารมณ์ดีและมักจะมีมุมมองต่อเหตุการณ์ต่างๆ ในแง่ดีเสมอ พนักงานเสริฟในร้านอาหารชอบตัวเขามาก ต่างรู้สึกสบายใจที่ได้ทำงานร่วมกันกับเขา มีอยู่ครั้งหนึ่งเขามีความจำเป็นจะต้องลาออกจากร้านหนึ่งไปอยู่อีกร้านหนึ่ง เชื่อหรือไม่ว่า พนักงานเสิร์ฟก็อาสาลาออกตามเขาไปด้วย ทุกคนบอกว่าอยู่ใกล้เจอร์รี่แล้ว ได้มุมมองดีและรู้สึกสบายใจดีกว่า

วันหนึ่งมีผู้ถามเจอร์รี่ว่า "ผมไม่เข้าใจ คนเราจะมองโลกในแง่ดีตลอดเวลาได้ยังไง คุณทำได้ยังไงนะ"

เจอร์รี่ตอบว่า "ทุกๆเช้าผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับบอกตัวเองว่า ผมมีทางเลือกอยู่สองทางเลือก คือทางเลือกที่จะมีอารมณ์ดีตลอดทั้งวัน หรือทางเลือกที่จะมีอารมณ์เสียตลอดทั้งวัน ซึ่งผมก็จะเลือกมีอารมณ์ดีตลอดทั้งวันดีกว่า”

“ฉะนั้นเมื่อมีปัญหาแย่ๆและเหตุการณ์แย่ๆเกิดขึ้น ผมก็สามารถเลือกได้ว่า ผมควรจะเป็นเหยื่อของเหตุการณ์นั้น หรือว่าเลือกที่จะเรียนรู้ประสบการณ์ดีๆจากมัน หรือทุกครั้งที่มีคนมาติมาบ่นอะไร ก็มีทางเลือกมาให้เราเลือกได้ว่า จะไม่ยอมรับฟังเสียงบ่น หรือว่าจะมองหาด้านดีของชีวิตจากการฟังเสียงบ่น ซึ่งผมจะเลือกอย่างหลังเสมอ"

"แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ" ผู้ถามแย้ง

"ใช่ ไม่ง่ายเลย" เจอร์รี่ตอบ "แต่ชีวิตมันมีทางเลือก คุณเลือกได้ว่าจะตอบสนองกับเหตุการณ์นั้นอย่างไร จะให้ผู้คนรอบข้างมีผลจากความรู้สึกของคุณอย่างไร คุณเลือกที่จะมีอารมณ์ดีหรือมีอารมณ์ร้ายก็ได้ มันเป็นทางเลือกของคุณทั้งนั้น"

เมื่อไม่กี่เดือนต่อมา เจอร์รี่ลืมล็อคประตูด้านหลังร้านอาหาร และถูกโจรสามคนที่มีปืนเป็นอาวุธเข้าปล้น

ขณะที่เจอร์รี่กำลังเปิดเซฟเงินให้โจรอยู่นั้น โจรคงจะเป็นมือใหม่หัดปล้น มือของโจรสั่นด้วยความตื่นเต้นทำให้เกิดพลาดพลั้งเหนี่ยวไกปืนโดยไม่รู้ตัว กระสุนปืนยิงเข้าท้องเขาถึงกับทรุด โชคดีที่มีคนได้ยินเสียงปืน และรีบช่วยเหลือนำเขาส่งโรงพยาบาล

หลังการผ่าตัดยาวนาน 6 ชั่วโมงและมีการดูแลรักษาในมือหมออย่างใกล้ชิด เจอร์รี่ก็สามารถพูดคุยได้ มีลูกน้อง มีคนรู้จักและลูกค้าไปเยี่ยมเขามากมาย

เมื่อมีคนถามเขาว่า “คิดอะไรบ้าง จากเหตุการณ์ครั้งนี้?”

เจอร์รี่ตอบว่า "ถ้าผมเป็นอะไรที่ดีกว่านี้ได้ ผมอยากจะมีฝาแฝด อยากจะให้มีอีกคนหนึ่งที่เป็นปกติ มาคอยดูแลผม นั่นเป็นความคิดของผมแว๊บแรกเชียวละ แต่ถ้าให้ผมคิดทบทวนจริงๆ อย่างแรกที่ผมคิด คือผมไม่ได้ล็อคประตูหลังร้านของผมเอง อันนี้โทษใครไม่ได้ และหลังจากที่ผมโดนยิงล้มลงแล้ว ผมจำได้ว่า ผมคิดว่าผมมีสองทางเลือกนี่นา คือ มีชีวิตอยู่ต่อไป หรือว่าตายเสียเลยในตอนนั้น ผมเลือกที่จะอยู่ต่อไป"

"คุณไม่กลัวเหรอ" มีคนถาม

เจอร์รี่ตอบว่า "บุรุษพยาบาลเขาทำหน้าที่อย่างดีมาก เขาคอยบอกผมว่า ผมจะปลอดภัย แต่เมื่อผมถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉิน ผมก็ได้เห็นความเครียดบนใบหน้าหมอและพยาบาล ตอนนั้นผมเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาจริงๆ ในสายตาของพวกเขา มันบอกออกมาเป็นคำพูดว่า 'ผมน่ะตายแน่นอน ตายชัวร์'

“ผมรู้ทันทีเลยว่าผมต้องทำอะไร ผมต้องแสดงปฏิกิริยาอะไรซักอย่างให้พวกเขารู้ว่า ผมยังอยู่"

"คุณทำอย่างไร?" มีคนถาม

อืม...มีนางพยาบาลคนหนึ่งตะโกนถามผมว่า ..ผมแพ้อะไรหรือเปล่า?

ผมตอบว่า “มี”

นางพยาบาลและหมอต่างหยุดฟังผมทันที

ผมหายใจลึกๆและตอบเธอว่า “กระสุน”

หลังจากที่พวกเขาหัวเราะกันพักใหญ่ ผมก็บอกพวกเขาว่า

“ผมเลือกที่จะมีชีวิตอยู่ โปรดช่วยรักษาผมอย่างคนมีชีวิต ไม่ใช่อย่างคนตาย ได้โปรดเถอะ"

เจอร์รี่มีชีวิตต่อมาอย่างอบอุ่น และอย่างมีคนรักทั่วเมือง เขาบอกว่าทุกอย่างรอดผ่านมาได้ ก็ด้วยความสามารถของหมอและพยาบาลทุกคน แต่หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า

“เพราะทัศนคติต่อชีวิตอันแสนจะน่าทึ่งของเขามากกว่า”

หลายคนเรียนรู้จากเจอร์รี่ว่า

“ทุกๆเช้าเรามีทางเลือกของชีวิต 2 ทางเลือก ทางเลือกที่จะมีอารมณ์ดีตลอดทั้งวัน หรือทางเลือกที่จะมีอารมณ์เสียตลอดทั้งวัน”

และ “ทุกๆครั้งที่เราเห็นใครทำอะไร หรือเห็นผลงานของใคร เรามีทางเลือกอยู่ 2 ทางเลือก ทางเลือกที่จะทำให้คนๆนั้นเขาสบายใจ หรือทางเลือกที่จะทำให้คนๆนั้นเขาไม่สบายใจ”

ภาพนี้มองได้สองมุม มุมบนและมุมล่าง แล้วแต่จะมอง

เทศกาล “ถือศีลกินเจ” ปีนี้ มีจัดงานในหลายจังหวัด หลายๆตลาดจะมีอาหารเจขาย มีขายแม้กระทั่งตลาดคนรวยอย่างบองมาเช่ และสยามพารากอน หลายๆบล็อกในช่วงนี้ก็จะมีการเขียนถึงอาหารเจ รวมทั้งหลายๆคนก็จะรับประทานอาหารเจกัน

“ถือศีลกินเจ” เทศกาลนี้มีเจตนาเพื่อส่งเสริมให้คนมีใจบริสุทธิ์ มีเจตนาบริสุทธิ์ คิดดี พูดดี กระทำดี รับประทานอาหารที่ไม่เบียดเบียนสัตว์อื่น ไม่คิดร้ายต่อผู้อื่น คิดดีกระทำดีต่อผู้อื่น ขนาดอาหารกลิ่นแรงยังเป็นของต้องห้ามเลยในช่วงเทศกาลนี้

ผมมีเรื่องแปลจากฟอร์เวิดเมล์อีกเรื่องหนึ่ง ที่อยากนำมาให้เพื่อนๆอ่านทบทวน

Once there was loving couple traveling in a bus in a mountainous area.
สามีภรรยาคู่หนึ่ง เดินทางไปเที่ยวในพื้นที่ที่เป็นภูเขาด้วยรถประจำทาง

They decided to get down at some place.
พวกเขาตัดสินใจที่จะลงตรงไหนสักแห่งหนึ่ง

After the couple got down at some place the bus moved on.
หลังจากพวกเขาลงจากรถบัสแล้ว รถบัสก็เคลื่อนออกไป

As the bus moved on, a huge rock fell on the bus from the mountain and crushed the bus to crumbs.
ขณะที่รถบัสเคลื่อนตัวออกไปนั้น มีก้อนหินขนาดใหญ่หล่นลงมาจากภูเขาข้างบน ทับรถบัสจนเละ

Everybody on board was killed.
ทุกคนในรถบัสตายหมด

The couple upon seeing that, said, "We wish we were on that bus"
ทันทีที่สามีภรรยาคู่นั้นเห็นเข้า เขาก็พูดว่า "เราน่าจะอยู่ในรถบัสคันนี้ด้วยนะ"

Why do u think they said that?
ทำไมพวกเขาถึงคิดและพูดเช่นนั้น?

Scroll down for answer
ลองพยายามคิดดู ก่อนที่จะเลื่อนลงไปเพื่อดูคำตอบนะครับ
o
o
o
o
o
o
o
o
Come on think again .......
ลองคิดอีกที
o
o
o
o
o
o
o
o
o
o
o
o

Come on try hard.....
พยายามมากกว่านี้อีกหน่อย
o
o
o
o
o
o
o
o
o
o
o
o
o
Think positively.......
พยายามคิดในแง่ดีไว้.......คำตอบคือ

o
o
o
o
o

If they had remained on the bus instead of deciding to get down, the resulting time delay could have been avoided and the rock would have fallen after the bus had passed...!!!
ถ้าพวกเขายังอยู่บนรถบัส แทนที่จะตัดสินใจลง, รถบัสก็ไม่เสียเวลาจอดให้พวกเขาลง ผลลัพธ์ก็คือ รถบัสจะวิ่งผ่านไป ก่อนที่ก้อนหินจะตกลงมา

Think positive in life always and look for opportunities when u can help others.
คิดทุกอย่างในแง่ดีเสมอ และคิดถึงสิ่งที่คุณสามารถจะช่วยเหลือผู้อื่นได้.....

ภาพนี้มองได้ 2 มุมมองอีกภาพหนึ่ง.....ลองมองในมุมมองที่ดี ดิ

* * * * *

และภาพข้างล่าง ไม่ใช่ภาพเซ็กซี่อะไร อยากจะขอร้องให้มองภาพ...แบบที่คุณหมอมองคนไข้นะครับ

ตอนแรกที่ผมเห็นภาพนี้ ...”อ่อ ผู้ชายเธออยากจะเป็นผู้หญิง”

“...นั่นไง เห็นชัดเลย ..เสริมมา”

“....กล้ามงี้ แน่นปึ๊ก แต่ไง อยากจะเป็นผู้หญิงนิ ...ตรูล่ะงงงง”

“เฮ้ !!!!! อะไรน่ะ”

“เป็น งงงง ไม ผู้ชายเล็กซะขนาดน้าน”

“เอ่อ รึว่า...เธอเป็นผู้หญิง แต่อยากจะแข็งแรง.... อยากจะเป็นผู้ชาย”

“.....อ้าว ซูมกันเข้าไป เอ...มันเป็นยังไงหว่า????”

“....จะเป็นชายหรือหญิง นั่น เป็นสิทธิของเธอ ...ดีแล้วครับ ที่เธอมีความฝันและมีความสุข”

ขออวยพรให้คุณ...มีสุขภาพที่ดี แข็งแรง มีความเจริญก้าวหน้า มีคนที่เข้าใจ และมีคนรักนะครับ.

โดย yyswim

Create Date : 25 ตุลาคม 2549

Last Update : 30 ตุลาคม 2549 20:20:16 น.

50 comments

Counter : 3510 Pageviews.

ภาพขวดลอยน้ำ * * * * * มองได้ 2 มุมมอง

มุมมองหนึ่งมองเป็นรูป ปลาโลมา 8 ตัว
หากสังเกตให้ดี จะมีปลาโลมาอยู่ในวงแขนของผู้หญิง 2 ตัว

โดย: yyswim

วันที่: 25 ตุลาคม 2549 เวลา:11:01:35 น.

ยกนิ้วให้กับบทความนี้ค่ะ รวมถึงภาพด้วย

mda เลือกที่จะมองโลกในแง่ดี เท่าที่ตัวเองจะรู้สึกได้ค่ะ เริ่มต้นทำความดีค่ะ กับการถือศีล กินเจ

โดย: mda IP: 203.159.12.16 วันที่: 25 ตุลาคม 2549 เวลา:11:27:07 น.

แอบตกใจกะภาพนิดหน่อย

ตอนนี้ยังไม่มีเวลาอ่านค่ะ เดี๋ยวหลังเที่ยงคืนจะแว๊บมาใหม่นะคะ

โดย: random-4

วันที่: 25 ตุลาคม 2549 เวลา:11:48:37 น.

แพ้กระสุน... 5555+

หัวเราะทั้งน้ำตาเลยครับ

ผมว่าผมเป็นคนมองโลกในแง่ดีม๊ากมากเลยนะ
แต่บางทีมันก็ยากอยู่เหมือนกันครับ เพราะคนเราก็ต้องมีเวลาบ้ากันบ้าง
แล้วพอถึงตอนนั้นมันก็ไม่มีสมองมาคิดถึงทางเลือกอื่นๆ แล้วอะครับ

อ้อ ภาพสุดท้ายนั่นผมเข้าใจว่าเป็น hermaphrodite นะครับ

โดย: พลทหารไรอัน

วันที่: 25 ตุลาคม 2549 เวลา:13:03:33 น.

อัพบล็อกวันนี้ไม่ชอบเลยค่ะ

ความเห็นส่วนตัวนะคะ

โดย: กระจ้อน

วันที่: 25 ตุลาคม 2549 เวลา:13:55:30 น.

ขำ เรื่อง แพ้กระสุน เหมือนกัน แต่ภาพนักกล้ามนั่น ทำหนุเป็นตากุ้งยิง เอาค่ายาหยอดตาโอนให้หนูด้วยนะ

วุ้ย โป๊ ก็ไม่เตือนกันไว้ก่อนน

โดย: angy_11

วันที่: 25 ตุลาคม 2549 เวลา:14:16:01 น.

ทั้งบทความ และ รูปภาพ สุดยอดๆ

จขบ ได้กิน เจ หรือเปล่าคะ? ฝนไม่ได้กินค่ะ

.. คิดในแง่ดี .. ชีวิตมีความสุข

.. คิดในแง่ร้าย .. ชีวิตมีแต่ทุกข์.. นะคะ

โดย: น้ำฝน Malee30 (Malee30

) วันที่: 25 ตุลาคม 2549 เวลา:14:41:31 น.

จะจำคติของเจอร์รี่ไปใช้นะครับ เพราะทุกวันนี้ ตื่นมา ก็มีแค่ทางเลือกเดียว ... ทำงานๆ ๆ ๆ

เคยอ่านเรื่องสามีภรรยาที่ลงจากรถบัสนั่นจาก fwd email เหมือนกัน แต่ผมไม่ได้คิดว่านั่นเป็นการมองอะไรในแง่ดี แต่เป็นการมองเห็นคนอื่นมากกว่ามองเห็นแต่ตนเองน่ะครับ

คุณสินสบายดีนะครับ

โดย: T_Ang

วันที่: 25 ตุลาคม 2549 เวลา:15:54:39 น.

อ่านๆไป มาต๊กใจกับภาพ

โดย: zaesun

วันที่: 25 ตุลาคม 2549 เวลา:16:24:18 น.

ชอบภาพนี้มากเลย
ได้มุมมองหลายอย่างเลย
ขอบคุณครับ

โดย: man@ (manatto

) วันที่: 25 ตุลาคม 2549 เวลา:20:15:23 น.

เอ่ออออ ต๊กกะใจเล้กน้อยยยกะภาพประกอบบบ

ทำเอาต้องทำใจคิดใหม่อีกหลายๆๆรอบ

เด๋วมาตอบใหม่นะ เพราะที่คิดไว้ มันหายไปหมดแระ

คิดได้อย่างเดียว

ทำไมเอ๋อหาปลาโลมาไม่เจออะลุงสิน

โดย: err_or

วันที่: 26 ตุลาคม 2549 เวลา:8:12:27 น.

คิดในแง่ดี : คิดว่าจะได้ประโยชน์อะไรบ้างจากปัญหา

เมื่อเจอปัญหา ควรคิดในแง่ดีว่าปัญหานั้นๆให้แง่คิดประโยชน์ดีๆแก่เรา คืออะไรบ้าง?

อย่างตื่นเช้าไปทำงาน เดินบนฟุตบาทอยู่ดีๆ ดันเดินตกท่อโดยไม่ทันเห็น อ๊ะ..! ตรงนี้เราได้ประโยชน์อะไร ตั้งเป็นคำถามขึ้นมาเลย คำตอบต่างๆที่เราคิดขึ้นล้วนแต่ทำให้เราสุขใจ เพราะมีแต่ได้ประโยชน์

1. ได้บทเรียนซาบซึ้งเลย "อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน" ...แหม่ สนิทกันแท้ๆ เห็นหน้ากันอยู่ทุกวัน ยังทำกันได้

2. อย่ามองแต่ด้านสูงและด้านสวย ลองมองไปที่ด้านต่ำด้านสกปรกมั่ง ทีพระบิณฑบาต ท่านยังเดินมองด้านต่ำ มองไม่เกิน 3 ก้าวเลย

3. ได้ดูแลรักษาตัวเองอีกแล้ว ดีใจจัง ไม่ได้ดูแลตัวเองมาตั้งนาน

4. อ๊ะ เราคนแข็งแรงนิ ที่ตกท่อ ยังจะดีกว่าคนท้อง คนแก่ หรือเด็กนิ ที่ตกท่อ ...งั้น เราก็ต้องหาอะไรๆมาปักเป็นที่สังเกตให้คนอื่นๆเห็น

5. โอว์ ได้ไอเดียบรรเจิด เรื่องการทาแถบสีสะท้อนแสงตรงขอบท่อ ...เดี๋ยวต้องโทร.ไปบอกกับทางเขต ซะแล้ว

คิดในแง่ดี ดีกว่าคิดในแง่โกรธ แง่น้อยใจ เจ็บแค้น ที่วันนี้เราเดินตกท่อ วิธีคิดเช่นนี้ล่ะจะทำให้เรารู้สึกเลยว่า ชีวิตนี้มีแต่ได้ ไม่มีเสีย.

โดย: yyswim

วันที่: 26 ตุลาคม 2549 เวลา:10:13:01 น.

คิดในแง่ดี : มองแต่ส่วนดีของสิ่งที่ตนมี

สิ่งต่างๆรวมทั้งคนรอบข้าง ไม่มีอะไรเพอร์เฟ็คดังใจเราต้องการ บางสิ่งหรือบางคนจะมีบางคุณสมบัติดีตามความชอบของเรา แต่ก็มีบางอย่างที่ไม่ตรงตามความชอบของเรา หากหวังจะคิดดี สุขใจ ควรหมั่นคิดถึงคุณสมบัติที่ดีของสิ่งนั้น อย่ามุ่งแต่คิดถึงแต่สิ่งร้ายๆ

ท่านพุทธทาสเขียนสอนไว้ว่า

ผมมีฟอร์เวิดเมล์เรื่องหนึ่ง ที่เข้ากับประเด็นตอนนี้ ถ้าหากเพื่อนๆเคยอ่านแล้ว ก็ถือว่าเป็นการอ่านทบทวนก็แล้วกัน

เล็กระบายออกมาด้วยความขุ่นใจ “ฉันละเซ็งสามีของฉันเหลือเกิน หากฉันจะลิสท์คุณสมบัติยอดห่วยของสามีฉันละก้อ เธอเอ๋ย หน้ากระดาษหนึ่งคงไม่พอ กลับบ้านก็ค่ำ แถมเอางานกลับมาอีก ไม่ชอบดูละคร ดูแต่เคเบิ้ลทีวี เวลาดูก็หมุนเปลี่ยนทุกช่อง ไม่ชอบเก็บกวาดบ้าน ไม่เคยให้ความสนใจดูแลฉันเลย โอ๊ยฉันละเบื่อ ทีกับลูกน้องตัวเองละก็ ประคบประหงมยิ่งกว่าลูกในใส้ เฮ้อเบื่อ “

เธอถอนหายใจเสียงดัง แล้วหันไปถามคู่หูสนิทว่า “กบเธอแต่งงานมาตั้งห้าปีแล้ว มากกว่าฉันตั้งสามปี แล้วทำไมเธอไม่เห็นบ่นเรื่องสามีล่ะ เธอมองโลกในแง่ดีมากเลยนะ ฉันล่ะอิจฉาเธอจัง เธอโชคดีนี่“

“เล็ก ฉันก็เคยเป็นอย่างเธอแต่เป็นเมื่อสองสามปีที่แล้ว ฉันอัดอั้นใจมากจนฉันต้องหยิบกระดาษออกมาเขียนระบายลงไปเลยว่า รายการความห่วยของสามีฉันเป็นยังไง เธอรู้ไหมว่าฉันได้กี่ข้อ?“

เล็กรีบถามด้วยความอยากรู้ “กี่ข้อละ?“

“สามสิบสองข้อ เท่ากับขนาดเอวของสามีฉันเลย“ กบตอบด้วยน้ำเสียงหัวเราะ

เล็กหัวเราะเสียงดังจนข้าวในปากกระเด็น โชคดีที่เธอทานข้าวคำไม่โต เธออุทานกลั้วเสียงหัวเราะว่า “แหมเธอนี่ช่างเปรียบเทียบซะจริงๆนะ หึ..หึ“

กบเล่าต่อ “เย็นวันนั้นฉันตั้งใจว่า กลับบ้านแล้วฉันจะส่งรายงานชิ้นนี้ให้สามีของฉันดู
เพียงแต่ว่าฉันต้องไปงานศพลุงของฉันก่อน”

“ลุงของฉันอายุเพิ่งจะห้าสิบเอง คุณป้าของฉันก็ห้าสิบเหมือนกัน ลุงฉันเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุรถยนต์คว่ำ ซึ่งพวกเราไม่ได้คาดคิดมาก่อน ป้าฉันตกใจมากเธอไม่เคยเตรียมใจสำหรับเรื่องนี้ แล้วฉันน่ะก้อสนิทกับป้าคนนี้มาก”

“เมื่อฉันไปถึงงานศพ ฉันก็ไปนั่งกับคุณป้า คุณป้าท่านดีใจที่พบหน้าฉัน เราสองคนนั่งคุยกันสักพัก คุณป้าก็หยิบกระดาษโน๊ตสองสามแผ่นออกมาให้ฉันดู ฉันรับมานั่งอ่านดูแบบงงงง”

“ถึงสามีที่รัก วันนี้ทั้งวันฉันนึกถึงเธอตลอดเวลา สิบห้าปีที่เราอยู่ด้วยกัน ฉันมักจะบ่นต่อว่าเธอ ต่อว่าถึงข้อเสียของเธอตลอดจนกระทั่งถึงวันที่เธอจาก เมื่อฉันมีโอกาสได้ทบทวนชีวิตคู่ของเรา ฉันพบว่าฉันได้มองข้ามสิ่งที่ดีๆของฉันไปมากมาย“

กบเล่าด้วยเสียงสั่นเครือ เธอเล่าว่าในกระดาษโน้ตนั้น คุณป้าของเธอบรรยายคุณความดีของลุงไว้นับร้อยข้อ พอกบอ่านจบ เธอบอกว่าน้ำตาของเธอก็ไหลพราก

“ป้าฉันเอ่ยกับฉันว่า ป้ารู้สึกเสียใจที่ไม่ได้เป็นผู้บอกสิ่งดีๆเหล่านั้นในขณะที่คุณลุงของฉันยังมีชีวิตอยู่ หลานอย่าทำผิดพลาดแบบป้าอีกคนละ“

กบเล่าว่า “ฉันนั่งฟังอยู่ แล้วคิดตามไปว่า มีคนจำนวนมากที่เมื่อคนรักจากไป แล้วค่อยบันทึกคุณความดีของผู้จากไปลงที่หลุมศพ หรือจัดพิมพ์เป็นหนังสืออย่างดีแต่น่าเสียดายผู้จากไปกลับไม่ได้อ่าน ขณะที่มีชีวิตอยู่ผู้จากไปกลับได้ยินแต่สิ่งที่เป็นข้อบกพร่องของตนตลอดเวลา”

กบเล่าอีกว่า “คิดได้อย่างนั้นแล้ว ฉันรีบดึงลิสต์รายการของสามีฉันออกมา แล้วฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยต่อหน้าคุณป้า พองานศพเลิกแล้ว ฉันก็รีบกลับบ้าน พอเจอหน้าสามี ฉันก็กระโดดกอดเขาเลย เสร็จแล้วฉันก็ถือโอกาสาธยายคุณความดีทั้งหลายของเขาว่ามีอะไรบ้าง สามีของฉันเขามีสีหน้าแปลกใจ แต่ว่าท่าทีของเขาดูอ่อนโยนมากขึ้นและเอื้ออาทรกับฉันขึ้นมาทันที ฉันเองก็เริ่มมีความรู้สึกที่ดีต่อเขามาก”

“สามีของฉันก็เผยความในใจถึงข้อดีของฉันอีกมากมายที่ฉันไม่เคยรู้มาก่อน ตั้งแต่นั้นมาฉันก็เลิกคิดถึงรายการจุดอ่อนของคนที่เรารัก ฉันคิดแต่ว่าเราควรจะรักเขาอย่างที่เขาเป็นละ อย่าไปหวังให้เขาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่แตกต่าง อย่างใจที่เราต้องการเลย เพราะมันเป็นไปได้ยากและจะเครียด ทะเลาะกันเปล่าๆ” กบเล่าจบด้วยสีหน้าอิ่มเอิบ

เล็กซึ่งนั่งฟังอยู่เงียบๆ ตาของเธอมีน้ำตาคลอเบ้า ในมือเธอกำแน่นด้วยเศษกระดาษลิสต์รายการที่บัดนี้ถูกเธอฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไปแล้ว อยู่ๆเล็กก็เอ่ยขึ้น

“ขอบใจมากนะกบ ฉันว่าเรารีบกลับออฟฟิศกันเถอะ ฉันอยากจะโทรศัพท์ถึงสามีของฉันหน่อย มีข้อดีของเขาอีกมากที่ฉันควรจะบอกเขา”.

โดย: yyswim

วันที่: 26 ตุลาคม 2549 เวลา:10:15:06 น.

คิดในแง่ดี : แค่นี้ไม่เป็นไร ยังมีผู้ลำบากกว่าเรา

บางครั้ง คนเราชอบเปรียบเทียบสิ่งที่ตนเองมีกับสิ่งที่ผู้อื่นมี ถ้าอยากจะเปรียบเทียบก็ไม่ควรจะเปรียบเทียบกับสิ่งที่ดีกว่า เก่งกว่า เพราะแบบนี้เรามีแต่จะแพ้ ตั้งแต่ยังไม่ออกก้าวเดิน

เพื่อนที่เรียนมาด้วยกัน 45 คน บางคนก็เรียนเก่ง มีตำแหน่งงานก้าวหน้า มีฐานะร่ำรวย มีชื่อมีเสียง แต่บางคนก็ไม่ได้ก้าวหน้าไปถึงไหน เรียนไม่จบก็มี ครอบครัวแตกแยกก็มี ติดหนี้หรือติดสุราก็มี ถ้าอยากจะเปรียบเทียบนะ ควรจะเปรียบเทียบกับเพื่อนกลุ่มหลังจะดีกว่า ถ้าอยากจะเปรียบเทียบนะ

คิดในแง่ดีแบบนี้ ใจจะเป็นสุข ไม่ท้อ ไม่เศร้าอมทุกข์ จะได้มีกำลังใจที่จะทำงานหรือเรียนหรือทำสิ่งอื่นๆ

ถ้าโกรธกับเพื่อน...มองคนไม่มีใครรัก(อย่างน้อยเราก็ยังมีเพื่อน)

ถ้าเรียนหนักๆ...มองคนอดเรียนหนังสือ

ถ้างานลำบาก...มองคนอดแสดงฝีมือ(อย่างน้อยเราก็ได้แสดงฝีมือ)

ถ้าเหนื่อยงั้นหรือ...มองคนที่ตายหมดลม(อย่างน้อยเราก็ยังไม่ตาย)

ถ้าขี้เกียจนัก...มองคนไม่มีโอกาส(อย่างน้อยเราก็ยังมีโอกาสทำงานหรือเรียน)

ถ้างานผิดพลาด...มองคนไม่เคยฝึกฝน(อย่างน้อยเราก็ได้ประสบการณ์แล้ว)

ถ้ากายพิการ...มองคนไม่เคยอดทน(อย่างน้อยเราก็ได้ฝึกประสบการณ์ความอดทนจากพิการ)

ถ้างานรีบรน...มองคนไม่มีเวลา(อย่างน้อยเราก็ยังมีเวลาอยู่บ้าง ...ก็รีบอยู่ไง)

ถ้าตังค์ไม่มี...มองคนขอทานข้างถนน(อย่างน้อยเราก็ยังไม่ต้องไปง้อขอทานใคร)

ถ้าหนี้สินล้น...มองคนแย่งกินกับหมา(อย่างน้อยเราก็ไม่ถึงกับตกต่ำปานนั้น)

ถ้าข้าวไม่ดี...มองคนไม่มีที่นา

ถ้าใจอ่อนล้า...มองคนไม่รู้จักรัก(อย่างน้อยเราก็มีความรักนะ แม้จะน่าระอาและเซ็งระเบิด)

ถ้าชีวิตแย่...จงมองคนแย่ยิ่งกว่า

อย่ามองแต่ฟ้า...ที่สูงเกินตาประจักษ์

ความสุขข้างล่าง...มีได้ไม่ยากเย็นนัก

เมื่อรู้แล้วจัก...ภาคภูมิในชีวิตตน.

โดย: yyswim

วันที่: 26 ตุลาคม 2549 เวลา:10:16:34 น.

คุณmda….ปลื้มใจครับ ที่คุณmdaคิดดี พูดดี เขียนดี กระทำดี และทำมาตลอด ขอกุศลดีทำให้คุณmda เป็นที่รักของคนทุกชั้น ก้าวหน้า และมีความสุขนะครับ

คุณrandom……ภาพนั้น หากเป็นคนปกติทั่วไปก็จะรุนแรงไปนิด แต่สำหรับคุณหมอ นักนิติเวช นักบวช และนักวิชาการ ก็คงไม่ได้คิดอุจาด คือมองแบบจะหาทางช่วยเหลือคน มองแบบปลง คงคล้ายๆกับมองเห็นสัตว์ทั่วไปนั่นเอง ซึ่งไม่ได้นุ่งผ้าเหมือนกัน ไม่ได้คิดอะไรเกินเลย

เข้ามาอ่านเมื่อไหร่ก็ได้ครับ ผมเพิ่งเขียนเพิ่มเติมด้วย

โดย: yyswim

วันที่: 26 ตุลาคม 2549 เวลา:10:26:42 น.

เจฟ...... hermaphrodite กะเทย เหรอครับ....อ๊ะ ใครพอรู้ ช่วยเพิ่มข้อมูลให้ที

คนแบบนายที่คิดแง่ดี มองอะไรในแง่ดี มีโอกาสก้าวหน้านะครับ เป็นเถ้าแก่ เป็นส.ส. เป็นนักบุญ อ๊ะเป็นผู้บริหารบริษัทใหญ่ กะได้

คุณจุ.....วันหน้า ผมจะเขียนเรื่องแนวอื่น ไม่ใช่แนวนี้ครับ

โดย: yyswim

วันที่: 26 ตุลาคม 2549 เวลา:10:39:54 น.

คุณangy…..ถ้ามองแบบโป๊ ดูน่าเกลียดไป ก็ขอโทษนะ ที่จริงผมอยากให้มองแบบหมอมากกว่า เพื่อจะได้คิดดี คิดช่วยเหลือคน ไม่ได้มองแบบหวังอะไรจากสิ่งที่ได้มอง

คุณน้ำฝน......ขอบคุณคำชมครับ ช่วงนี้ ที่ทำงานผมกินเจหลายคนครับ ผมไม่ได้กินหรอก แต่ก็กินผักทุกมื้อ และถือศีล 5 ครับ

โดย: yyswim

วันที่: 26 ตุลาคม 2549 เวลา:10:47:29 น.

คุณแม่zaesun…..ขอโทษนะครับ หากภาพทำให้ตกใจ

มนัส.....ภาพแนวจิตวิทยารูปนี้ ผมก็ว่าสวยดี และพอดีเข้ากะเนื้อเรื่องตอนนี้ ขอบคุณที่ชอบ

โดย: yyswim

วันที่: 26 ตุลาคม 2549 เวลา:10:56:49 น.

ต๋อง.....คิดดีต่อผู้อื่น ช่วยเหลือผู้อื่น เป็นตระกูลหนึ่งของการทำความดีครับ ที่ต๋องคิด...ก็ช่ายเลย

ม๋าเอ๋อ......ภาพที่บอกว่ามีปลาโลมา 8 ตัว แกลองมอง เงาดำๆในอ้ออมแขนของผู้หญิงนะ มีอยู่ 2 ตัว

ใต้รักแร้ ดูตรงเงาดำๆ มีอยู่ 2 ตัว ใต้ราวนม 1 ตัว ดูตรงเงาดำน่ะ

ข้างๆสะโพก ทั้งขวาและซ้าย มีข้างละ 1 รวมเป็น 2 ตัว แล้วเงาดำๆที่ใต้หว่างขา ก็อีก 1 เห็นแล้วยางงงง ....

เรื่องวันนี้ หากไม่หนุก ก็ขอโทษด้วย เอ...เรื่องหน้า จะเขียนอะไรให้แกอ่านดี

โดย: yyswim

วันที่: 26 ตุลาคม 2549 เวลา:11:15:30 น.

เรื่องที่เขียนนะดี แต่จุไม่ชอบภาพสุดท้าย รู้สึกว่ามันอุจาดตา ไม่ใช่ว่าจุรับไม่ได้กับภาพพวกนี้ แต่เรื่องดีๆ กับภาพพวกนี้ มันไม่น่ามาอยู่ในเรื่องเดียวกัน

จุไม่ขำ... ดูยังงัย ก็หงุดหงิด เสียดายที่เรื่องดีๆ มาสะดุดกับภาพนักเพาะกายที่ระบุเพศไม่ได้

ความจริง แยกไปอีกเรื่องก็จะดีกว่านี้

เอาให้รุ้เรื่องไปเลยว่า คน 2 เพศนั้นมีอยู่จริง ถึงจะมีน้อย แต่มีอยู่จริง

แค่นี้ละคะ ที่อยากจะบอก เมนท์แรกเขียนสั้นไป อาจจะสร้างความเข้าใจผิด

โดย: กระจ้อน

วันที่: 26 ตุลาคม 2549 เวลา:11:38:12 น.

สวัสดีครับ พออ่านเฉลยแล้วเห็นปลาจริงๆครับ5555 ขอให้มีความสุขนะครับ

โดย: ลุงกล้วย

วันที่: 26 ตุลาคม 2549 เวลา:12:37:14 น.

...

ภาพขวดนี่ มองยังไงก็ไม่เห็นโลมาครับ
แสดงว่าคิดไม่ดีใช่มั้ยเนี่ย?

ส่วนภาพนักเพาะกายนั่น
อืมม...ก็นานาจิตตังนะครับ แล้วแต่วัตถุประสงค์ของการนำเสนอมากกว่า
แต่ก็อย่างว่า ขึ้นกับมุมมองของผู้ดูด้วยเหมือนกันครับ
อย่างผม ถามว่าชอบมั้ยที่ได้เห็น...ก็เปล่า
แต่ถามว่าได้รับสารที่คุณ yyswim ต้องการสื่อมั้ย...ได้รับครับ

โดย: The Legendary Midfielder

วันที่: 26 ตุลาคม 2549 เวลา:12:55:31 น.

เข้ามาอ่านอีกรอบนึงค่ะ เข้าใจเจตนาการนำเสนอของคุณสินนะคะ แล้วก็ไม่เคยผิดหวังเวลาเข้ามา blog คุณค่ะ เพราะได้รับอะไรดีๆกลับไปเสมอ ถึงแม้ว่าบางครั้งต้องเข้ามาอ่านถึงสองรอบก็ตามทีกว่าจะอ่านจนจบ

โดย: random-4

วันที่: 26 ตุลาคม 2549 เวลา:19:18:22 น.

ดูรูปตอนแรกตกกะใจนิดหน่อยเนอะ

แต่แอบมาอ่านเฉลย เห็นปลาจิงๆด้วยเนอะ

โดย: mingky

วันที่: 26 ตุลาคม 2549 เวลา:19:29:59 น.

แวะมาทักทายครับ

โดย: ตงเหลงฉ่า

วันที่: 26 ตุลาคม 2549 เวลา:23:06:29 น.

พยายามมองหาโลมานะลุงนะ แต่ตามันดั๊นจินตนาการภาพกว้างๆๆ เห็นแต่ปู้ชาย กะ ปู้หญิงอะลุง

แล้วกินไรยังลุง

ปล.บอกตรงไหนว่าเขียนไม่หนุกอะ

โดย: err_or

วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:7:58:53 น.

คุณจุ.....บล๊อกนี้เสรีประชาธิปไตยมากๆ คิดต่างมุมน่ะ จขบ.ชอบ ยินดีรับฟังทุกๆคนเลย บล๊อกเรื่องหน้า ตั้งใจจะเป็นเรื่องออกกำลังกาย มะรู้จะเขียนลื่นแค่ไหน

ลุงกล้วย......ขอบคุณครับลุงกล้วย ขอให้ลุงทำงานอย่างมีความสุขมากๆ

โดย: yyswim

วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:10:27:29 น.

คุณThe Legendary Midfielder……ภาพขวดน่ะ มองได้2 แบบ มองเฉพาะสีขาวก็ภาพหนึ่ง หากเลือกมองเฉพาะสีดำก็อีกภาพหนึ่ง(ห้ามมองสีขาวนะ) ลองมองอีกทีก็ได้

ทีนี้ที่ผมสื่อก็คือ ในเรื่องอื่นๆก็เช่นเดียวกัน มักจะมีมุมมองได้ 2 มุมมอง อย่างเจอชมพู่ 1 ผล ที่ส่วนหนึ่งเริ่มเสีย ขอให้มองส่วนที่ดีของชมพู่ ที่ยังจะนำรับประทานได้

อย่างเจอคนปกติที่นั่งขอทานริมฟุตบาทตอนเลิกงาน ก็มองได้ 2 มุมมอง แต่อยากให้ลองมองหรือคิดในแง่ดี คือ เขายังดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงชีพ แล้วพวกเราที่มีหลายอย่างดีกว่าเขา ก็ควรจะสู้ชีวิต อย่ายอมแพ้ อย่าได้ขี้เกียจ อย่าได้เบื่องาน อย่าเอาแต่นั่งบ่นหรือเอาแต่นั่งดื่มสุราหลังเลิกงาน

คุณrandom…….เมนต์ดีจัง ให้กำลังใจนิ แบบนี้อยากเขียนอะไรๆมาให้เพื่อนๆอ่าน

ผมมีข้อเสียที่ยังแก้ไม่หายอ่ะคุณrandom ...คือ เขียนสั้นมะค่อยเป็น มักจะมีเสียงแว่วคอยเตือนสติว่า มะช่ายเด็ก อย่าทำอะไรแบบเด็กๆ ควรจะเขียนยาวหน่อย มะช่ายเขียนสั้นๆหวังฟันเรตติ้ง ....พูดจริงๆอ่ะครับ พอจะเขียนสั้น มักจะต้องคิดอีกแร่ะ มะช่ายเด็ก ทำอะไรควรให้สมน้ำสมเนื้อหน่อย โฮะโฮะ.......

งั้น หากยาวหน่อย ไม่ชอบอ่านแล้ว ไม่เป็นไรอ่ะครับ คลิกข้ามได้เลย แค่เข้ามาเยี่ยมก็ต้องบอกว่า ขอบคุณจากใจ

บล๊อกของผม เจตนาที่ผมเขียน แม้จะไม่มีคนอ่านก็ไม่เป็นไรครับ ผมเขียนเพราะผมกลัวแอกซิเดนท์พวกรถชนอ่ะ พวกนี้มักจะเกิดแบบไม่รู้ตัว เกิดผมพูดไม่ได้เขียนไม่ได้ ผมก็ไม่ต้องมาเสียใจตนเอง เพราะผมได้เขียนความคิดของผมเอาไว้ให้หลานๆได้รับรู้แล้วครับ

แผนของผมตอนนี้ ผมว่าจะหยุดเขียนแนวที่เคยเขียนแล้วครับ อยากจะเขียนพวก ความรู้ในตัวผม ออกมาสักที ก็คงเป็นแนววิชาการอ่ะ คิดเหมือนกันว่าหากเขียนออกมาแล้ว จะมีลูกศิษย์จำได้ครับ

โดย: yyswim

วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:11:00:53 น.

คุณมิ้งค์......แบบนี้ คุณมิ้งค์คงอ่านทั้งเรื่อง อ่านทั้งตอบเมนต์นาครับ ขอบคุณครับที่ช่วยอ่าน ยาวทีเดียว

ตง......เข้ามาเยี่ยม อัพบล็อกเรื่องใหม่แล้วใช่มะ เด๋วไปครับ

ม๋าเอ๋อ...... ว่าไง เรื่องงานที่ทำ หวังว่าบางอย่างคงจะสะมู้ดกว่าเดิมนะ ที่จริงข้าเขียนเมนต์ให้แกทีไร ข้าก็เกรงใจแก เกรงว่าแกจะน้อยใจนะ

เรื่องเขียนไม่หนุก ....โห ข้าคิดตลอด ก็มันไม่หนุกจิงๆ

เชื่อมะ ข้ามะค่อยกล้าเมนต์พวกกระทู้เหลิมไทยหร๊อก เข้าไปอ่าน แต่มะกล้าเมนต์ โฮะโฮะ

โดย: yyswim

วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:11:11:06 น.

ลุงสิน....เมนต์ไปเหอะ จะน้อยใจรายอะลุง เมนต์ๆไป เมนต์ไม่ถูกใจเด๋วมันก้อมาเม้งให้บล๊อคลุงแตกเองแหละ

ที่แท้ตัวเองคิดเอาเองว่าเขียนไม่หนุก แย้วมาโบ้ยว่าเราว่าลุงเขียนไม่หนุก จิ๊....เรารึอ่านตั้งหลายรอบ ไม่ได้บอกเร้ยยยว่าเขียนไม่หนุก

แย้วไอ้การที่เขียนไม่หนุกนี่ ไปเปรียบเทียบกะอะไรอะ ถ้าเทียบกะขายหัวเราะ ก้อเขียนไงก้อไม่มีทางหนุกหรอกน่า

โดย: err_or

วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:11:22:19 น.

ช่ายยยย เลย
ใครๆก็อยากอารมณ์ดีทั้งวัน แต่ว่าจะเป็นไปได้หรือเปล่า?
จริงๆแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับตัวคนๆนั้นเอง อย่าอารมณ์ดี ก็มองโลกในแง่ดีไว้ เห็นใครขับรถเสียบเลน ก็คิดซ่ะว่าเค้าคงรีบ ใครบีบแตรไล่ ก็คิดว่าญาติเค้าคงป่วยใกล้ตายอยู่ในรถ เลยต้องบีบแตรขอทาง

แต่ในความเป็นจริงแล้วผมว่ามันปฎิบัติยากอยู่น๊า! แต่ก็ไม่ถึงกับว่าทำไม่ได้ ..

เรื่องหินตกใส่รถโดยสาร เรื่องนี้ก็เคยอ่านมาแล้ว ชอบแนวคิดแบบนี้มาก

โดย: merf1970

วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:12:59:01 น.

...

มาแจ้งว่าเห็น "โลมา" แล้วครับ
แม้ว่าอีกความคิดจะคอยปั่นป่วนให้เห็นเป็น ชาย-หญิง ก็ตาม อิอิ

ผมว่าต้องมีหลายคนที่สามารถรับสิ่งที่ คุณสิน (ขออนุญาตเรียกตามคนอื่นแบบนี้นะครับ) ต้องการสื่อได้แน่ครับ

โดย: The Legendary Midfielder

วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:16:42:07 น.

เรื่องของความคิดกะจิตใจนี่นะ เขาว่าห้ามกันยากที่สุดเลยล่ะ

แวะมาทักทายค่ะ หลังจากที่ไม่ได้อัพบลอกของตัวเองซะนานเลยรุ้สึกผิดไงไม่รู้เพราะมีเพื่อนๆไปเยือนกันเยอะเลยแค่เจ้าของบลอกก็ดองบลอกซะนานเลย

โดย: ณ มน

วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:19:06:29 น.

เรื่องแรก รู้สึกว่าจะเคยได้รับฟอร์เวิร์ดเมลมาเหมือนกัน ชอบจริงๆ อ่านแล้วเหลือเชื่อว่าจะมีคนที่มองโลกในแง่ดีได้ขนาดนั้น

เรื่องที่สอง เคยอ่านในคอลัมน์ "คุยกับประภาส" จำได้แม่นเลยครับ เป็นตัวอย่างของการมองให้ได้หลายๆ มุมอย่างแท้จริง

ส่วนแม่หญิงนักกล้าม... ไม่มีความเห็นครับ

โดย: คนทับแก้ว

วันที่: 28 ตุลาคม 2549 เวลา:9:53:59 น.

เรื่องแรกเหมือนเคยอ่านครับ ภาพลวงตาสวยดีครับ แต่ภาพสองนี่กว่าจะมองเป็นโลมาได้นานอยุ่ครับ ฮ่าๆๆๆๆ แต่ภาพหลังจากนั้น...ล่อแหลมมากพี่ เอิ๊กๆๆๆ

โดย: Due_n

วันที่: 28 ตุลาคม 2549 เวลา:11:07:52 น.

แวะมาดูผู้ชายอยากเป็นผู้หญิงอยากเป็นผู้ชายค่ะ

โดย: ดาริกามณี

วันที่: 28 ตุลาคม 2549 เวลา:16:56:22 น.

ภาพปลาโลมา เมื่อก่อนเคยเห็นว่าเป็นโลมา ทำไมวันนี้ไม่เห็นแล้วก็ไม่รู้อ่ะค่ะ

โดย: brasserie 1802

วันที่: 28 ตุลาคม 2549 เวลา:17:08:40 น.

คิดในแง่ดีแม้จะโดนด่า

แม้แต่คำด่าหรือคำสบถ หากคิดในแง่ดีก็สามารถคิดเปลี่ยนเป็นคำชมได้

"เหี้ย"

แสดงว่าเราเป็นคนที่มีความอดทน, ไม่เรื่องมาก, ไม่เลือกกิน ไม่ระรานผู้อื่นก่อน ว่ายน้ำเก่ง ดำน้ำเก่ง แถมยังปีนต้นไม้เก่งอีกด้วย... ที่ฟิลิปปินส์ เขาถือกันว่าเป็นนักล่าตัวฉกาจเลย

"ต่ำ", "สถุล", "ไพร่", "สลัม"

แสดงว่าเราเป็นคนติดดิน ทำอะไรก็ได้สบายๆ ชิวๆ อาจจะไม่ได้รวยล้นฟ้า แต่ก็พอใจในชีวิตตนเอง และยังเป็นคนที่ดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง

"ควาย"

แสดงว่าเราเป็นคนที่มีความอดทน รูปร่างแข็งแรง เป็นวีรบุรุษของชาติ เพราะบรรพบุรุษของเรา
เคยออกไปสู้รบปรบมือกับทหารพม่ามาแล้ว เป็นคนกตัญญูรู้คุณคน ฉลาด และอ่อนโยน และหากถึงเวลาสู้ขึ้นมา ก็จะฮึดสู้สุดใจขาดดิ้น...

"หยาบคาย", "ถ่อย"

แสดงว่าเราเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม รักใครรักจริง มีอะไรก็ไม่ปิดบัง พูดซึ่งๆหน้า ไม่ต้องว่ากันลับหลัง ซื่อตรงทั้งต่อจิตใต้สำนักและเป็นตัวของตัวเอง...

"หน้าส้นตีน"

แสดงว่าเราเป็นคนที่มีความอดทน อาจจะหน้าตาไม่ดี ผิวพรรณอาจจะหยาบกระด้างไปบ้าง แต่ก็มีคุณงามความดี อาจจะเป็นเพราะทำบุญปิดทองหลังพระ จึงไม่ค่อยมีใครสนใจ รอซักวันจะต้องมีคนเห็นความสำคัญของเราอย่างแน่นอน ... อ้อ ปัจจุบันมีสปาสำหรับเราโดยเฉพาะแล้วด้วย

"บ้ากาม", "ลามก", "หื่น"

แสดงว่าเราเป็นผู้เชี่ยวชาญ(กูรู)ผู้รอบรู้เรื่องเพศศึกษา ทฤษฎีแน่น พร้อมที่จะปฏิบัติงานจริง ไม่ต้องลีลา อาจจะเก่งกว่าสูตินารีแพทย์ซะอีก...

"สัตว์!"

แสดงว่าเราเป็นคนที่มีจิตใจมีเลือดมีเนื้อ มีจิตวิญญาน เป็นสิ่งมีชีวิตรู้จักรัก,ห่วงใย และการต่อสู้
อันที่จริงมนุษย์ก็ถือเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่อัพเกรดแล้ว คงไม่ชอบให้ใครมาเรียกเราว่า "ไอ้สิ่งของ" หรอกนะ

"โรคจิต", "วิปริต", "บ้า"

แสดงว่าเราเป็นคนที่แปลกแยกไปจากคนอื่น เป็นตัวของตัวเอง อาจจะไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมก็จริง แต่ก็รู้จักที่จะใช้ชีวิตในแบบของตนเอง ไม่ต้องไปตามใคร...

"ดอกทอง"

ปัจจุบันรู้ไหม ทองราคาบาทละเท่าไหร่ ?? อย่างที่เขาว่า "มีเงินนับเป็นน้อง มีทองนับเป็นพี่"
อย่างน้อยแสดงว่าเราก็ดูดีมีระดับกว่า ดอกเงิน กับ ดอกทองแดง

"แรด"

คำนี้ผู้ชายไม่ค่อยใช้ ปกติจะตกอยู่กับผู้หญิงหรือไม่ก็เพศที่ 3 ...แสดงว่าเราเป็นคนที่อดทน
แข็งแกร่ง แน่นอนอาจจะโผงผาง แต่ก็มีความอ่อนโยนในตนเอง "ไปแรด" หมายความว่า เรากำลังจะออกไปเผชิญโลกกว้าง !!

…โฮะโฮะ นำมาให้อ่านเอาขำขำ อ่ะ.. มีความสุขใจ ดีกว่านั่งเครียดๆ

โดย: yyswim

วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:15:54:18 น.

โดย: yyswim

วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:16:00:15 น.

โดย: yyswim

วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:16:29:37 น.

โดย: yyswim (yyswim

) วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:16:38:07 น.

โดย: yyswim

วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:16:55:50 น.

คิดในแง่ดีแม้จะโดนด่า

แม้แต่คำด่าหรือคำสบถ หากคิดในแง่ดีก็สามารถคิดเปลี่ยนเป็นคำชมได้

"เอี้ย"

แสดงว่าเราเป็นคนที่มีความอดทน, ไม่เรื่องมาก, ไม่เลือกกิน ไม่ระรานผู้อื่นก่อน ว่ายน้ำเก่ง ดำน้ำเก่ง แถมยังปีนต้นไม้เก่งอีกด้วย... ที่ฟิลิปปินส์ เขาถือกันว่าเป็นนักล่าตัวฉกาจเลย

"ต่ำ", "สถุล", "ไพร่", "สลัม"

แสดงว่าเราเป็นคนติดดิน ทำอะไรก็ได้สบายๆ ชิวๆ อาจจะไม่ได้รวยล้นฟ้า แต่ก็พอใจในชีวิตตนเอง และยังเป็นคนที่ดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง

"ควาย"

แสดงว่าเราเป็นคนที่มีความอดทน รูปร่างแข็งแรง เป็นวีรบุรุษของชาติ เพราะบรรพบุรุษของเรา
เคยออกไปสู้รบปรบมือกับทหารพม่ามาแล้ว เป็นคนกตัญญูรู้คุณคน ฉลาด และอ่อนโยน และหากถึงเวลาสู้ขึ้นมา ก็จะฮึดสู้สุดใจขาดดิ้น...

"หยาบคาย", "ถ่อย"

แสดงว่าเราเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม รักใครรักจริง มีอะไรก็ไม่ปิดบัง พูดซึ่งๆหน้า ไม่ต้องว่ากันลับหลัง ซื่อตรงทั้งต่อจิตใต้สำนักและเป็นตัวของตัวเอง...

"หน้าส้นตีน"

แสดงว่าเราเป็นคนที่มีความอดทน อาจจะหน้าตาไม่ดี ผิวพรรณอาจจะหยาบกระด้างไปบ้าง แต่ก็มีคุณงามความดี อาจจะเป็นเพราะทำบุญปิดทองหลังพระ จึงไม่ค่อยมีใครสนใจ รอซักวันจะต้องมีคนเห็นความสำคัญของเราอย่างแน่นอน ... อ้อ ปัจจุบันมีสปาสำหรับเราโดยเฉพาะแล้วด้วย

"บ้ากาม", "ลามก", "หื่น"

แสดงว่าเราเป็นผู้เชี่ยวชาญ(กูรู)ผู้รอบรู้เรื่องเพศศึกษา ทฤษฎีแน่น พร้อมที่จะปฏิบัติงานจริง ไม่ต้องลีลา อาจจะเก่งกว่าสูตินารีแพทย์ซะอีก...

"สัตว์!"

แสดงว่าเราเป็นคนที่มีจิตใจมีเลือดมีเนื้อ มีจิตวิญญาน เป็นสิ่งมีชีวิตรู้จักรัก,ห่วงใย และการต่อสู้
อันที่จริงมนุษย์ก็ถือเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่อัพเกรดแล้ว คงไม่ชอบให้ใครมาเรียกเราว่า "ไอ้สิ่งของ" หรอกนะ

"โรคจิต", "วิปริต", "บ้า"

แสดงว่าเราเป็นคนที่แปลกแยกไปจากคนอื่น เป็นตัวของตัวเอง อาจจะไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมก็จริง แต่ก็รู้จักที่จะใช้ชีวิตในแบบของตนเอง ไม่ต้องไปตามใคร...

"ดอกทอง"

ปัจจุบันรู้ไหม ทองราคาบาทละเท่าไหร่ ?? อย่างที่เขาว่า "มีเงินนับเป็นน้อง มีทองนับเป็นพี่"
อย่างน้อยแสดงว่าเราก็ดูดีมีระดับกว่า ดอกเงิน กับ ดอกทองแดง

"แรด"

คำนี้ผู้ชายไม่ค่อยใช้ ปกติจะตกอยู่กับผู้หญิงหรือไม่ก็เพศที่ 3 ...แสดงว่าเราเป็นคนที่อดทน
แข็งแกร่ง แน่นอนอาจจะโผงผาง แต่ก็มีความอ่อนโยนในตนเอง "ไปแรด" หมายความว่า เรากำลังจะออกไปเผชิญโลกกว้าง !!

…โฮะโฮะ นำมาให้อ่านเอาขำขำ อ่ะ.. มีความสุขใจ ดีกว่านั่งเครียดๆ

โดย: yyswim

วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:16:58:37 น.

คิดในแง่ดี…แม้จะโดนด่า

แม้แต่คำด่าหรือคำสบถ หากคิดในแง่ดี…ก็สามารถคิดเปลี่ยนเป็นคำชมได้

"เอี้ย"

แสดงว่าเราเป็นคนมีความอดทน, ไม่เรื่องมาก, ไม่เลือกกิน ไม่ระรานผู้อื่นก่อน ว่ายน้ำเก่ง ดำน้ำเก่ง แถมยังปีนต้นไม้เก่ง... ที่ฟิลิปปินส์ เขาถือกันว่าเป็นนักล่าตัวฉกาจเลย

"ต่ำ", "ไพร่", "สลัม"

แสดงว่าเราเป็นคนติดดิน ทำอะไรก็ได้สบายๆ ชิวๆ อาจจะไม่ได้รวยล้นฟ้า แต่ก็พอใจในชีวิตตนเอง และเป็นคนที่ดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง

"ควาย"

แสดงว่าเราเป็นคนมีความอดทน รูปร่างแข็งแรง เป็นวีรบุรุษของชาติ เพราะบรรพบุรุษของเรา
เคยออกไปสู้รบปรบมือกับทหารพม่ามาแล้ว เป็นคนกตัญญูรู้คุณคน ฉลาด และอ่อนโยน แต่หากถึงเวลาสู้ขึ้นมา ก็จะฮึดสู้สุดใจขาดดิ้น...

"หยาบคาย", "ถ่อย"

แสดงว่าเราเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม รักใครรักจริง มีอะไรก็ไม่ปิดบัง พูดซึ่งๆหน้า ไม่ต้องว่ากันลับหลัง...

"หน้าส้นตีน"

แสดงว่าเราเป็นคนมีความอดทน อาจจะหน้าตาไม่ดี ผิวพรรณอาจจะหยาบกระด้าง แต่ก็มีคุณงามความดี อาจจะเป็นเพราะทำบุญปิดทองหลังพระ จึงไม่ค่อยมีใครสนใจ รอซักวันจะต้องมีคนเห็นความสำคัญของเรา... อ้ะ ปัจจุบันมีสปาสำหรับเราโดยเฉพาะแล้วด้วย

"บ้ากาม", "ลามก", "หื่น"

แสดงว่าเราเป็นผู้เชี่ยวชาญ(กูรู)ผู้รอบรู้เรื่องเพศศึกษา ทฤษฎีแน่น พร้อมที่จะปฏิบัติงานจริง ไม่ต้องลีลา อาจจะเก่งกว่าสูตินารีแพทย์ซะอีก...

"สัตว์"

แสดงว่าเราเป็นคนมีจิตใจมีเลือดเนื้อ มีจิตวิญญาน เป็นสิ่งมีชีวิตรู้จักรัก,ห่วงใย และการต่อสู้
อันที่จริงมนุษย์ก็เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งอยู่แล้ว คงไม่ชอบให้ใครมาเรียกเราว่า "ไอ้สิ่งของ" หรอกนะ

"โรคจิต", "วิปริต"

แสดงว่าเราเป็นคนที่แปลกแยกไปจากคนอื่น เป็นตัวของตัวเอง อาจจะไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมก็จริง แต่ก็รู้จักที่จะใช้ชีวิตในแบบของตนเอง ไม่ต้องไปตามใคร...

"ดอกทอง"

ปัจจุบันรู้ไหม ทองราคาบาทละเท่าไหร่ ?? อย่างที่เขาว่า "มีเงินนับเป็นน้อง มีทองนับเป็นพี่"
อย่างน้อยก็แสดงว่าเราดูดีมีระดับกว่า ดอกเงิน ดอกทองแดง

"แรด"

คำนี้ผู้ชายไม่ค่อยใช้ ปกติจะตกอยู่กับผู้หญิงหรือเพศที่ 3 ...แสดงว่าเราเป็นคนอดทน แข็งแกร่ง แน่นอนอาจจะมีโผงผาง แต่ก็มีความอ่อนโยนในตนเอง "ไปแรด" หมายความว่า เรากำลังจะออกไปเผชิญโลกกว้าง !!

…โฮะโฮะ นำมาให้อ่านเอาขำขำ.. มีความสุขใจ ดีกว่าจะมานั่งเครียดๆ

โดย: yyswim

วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:20:28:10 น.

โดย: yyswim

วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:20:35:55 น.

"หยาบคาย", "ถ่อย"

แสดงว่าเราเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม รักใครรักจริง มีอะไรก็ไม่ปิดบัง พูดซึ่งๆหน้า ไม่ต้องว่ากันลับหลัง...

"หน้าส้นตีน"

แสดงว่าเราเป็นคนมีความอดทน อาจจะหน้าตาไม่ดี ผิวพรรณอาจจะหยาบกระด้าง แต่ก็มีคุณงามความดี อาจจะเป็นเพราะทำบุญปิดทองหลังพระ จึงไม่ค่อยมีใครสนใจ รอซักวันจะต้องมีคนเห็นความสำคัญของเรา... อ้ะ ปัจจุบันมีสปาสำหรับเราโดยเฉพาะแล้วด้วย

"บ้ากาม", "ลามก", "หื่น"

แสดงว่าเราเป็นผู้เชี่ยวชาญ(กูรู)ผู้รอบรู้เรื่องเพศศึกษา ทฤษฎีแน่น พร้อมที่จะปฏิบัติงานจริง ไม่ต้องลีลา อาจจะเก่งกว่าสูตินารีแพทย์ซะอีก...

"สัตว์"

แสดงว่าเราเป็นคนมีจิตใจมีเลือดเนื้อ มีจิตวิญญาน เป็นสิ่งมีชีวิตรู้จักรัก,ห่วงใย และการต่อสู้
อันที่จริงมนุษย์ก็เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งอยู่แล้ว คงไม่ชอบให้ใครมาเรียกเราว่า "ไอ้สิ่งของ" หรอกนะ...

โดย: yyswim

วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:20:41:54 น.

โดย: yyswim

วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:20:43:48 น.

ม๋าเอ๋อ……เออ แกช่วยสอนข้าให้เก่งแบบเอ็ง ดี ดีว่ะ

Merf……ถ้านายชอบเรื่องหินตกใส่รถบัส ย่อมแน่เลยว่า นายเองมีมองมองดี คิดในแง่ดี

The Legenday….ขอบคุณคร้าบที่เข้าใจเจตนาของเรื่องนี้

คุณ ณ มน….เป็นคนเก่ง มีงานเยอะ คิดเยอะมังครับ เลยไม่ค่อยว่างอัพบล็อก

คนทับแก้ว…..เมื่อใจคุณชอบเรื่องแนวหนึ่งและสอง ผมเชื่อว่าคุณมองโลกในแง่ดี

ดิว……ช่ายครับ หลายคนจะมองภาพชุดหลังว่า ล่อแหลม… โฮะโฮะ

คุณดาริกามณี……พูชายอยากเป็นพูหญิง หรือพูหญิงอยากเป็นพูชาย โปรดมองโลกในแง่ดี และกรุณายอมรับเธอ

คุณBrassserei……วันพรุ่งนี้ก็มองเห็นภาพปลาโลมาครับ
ดูตรงส่วนสีดำเท่านั้น ก็จะเห็น

โดย: yyswim

วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:20:45:50 น.

error คร้าบ...เมนต์เพิ่มไม่ได้ซะแหล่ว

มะรู้สาเหตุ

โดย: yyswim

วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:20:48:23 น.

โดย: yyswim

วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:20:51:08 น.

yyswim

Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์

Rss Feed

Smember

ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]

บล็อกสรรสาระนี้ จขบ.ไม่ได้เขียน-ไม่ได้ถ่ายภาพ-ไม่ได้อัพโหลดคลิปเอง หากแต่ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการบล็อก เสาะหาเรื่องดีๆ รูปสวยๆ คลิปแปลกๆ มาไว้ในบล็อก

ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยม ขอเชิญชมหรืออ่านตามสบาย ไม่ต้องคอมเมนต์ก็ได้ จขบ.ชอบการเข้ามาเยี่ยม แบบกันเอง ง่ายๆ สบายๆ

เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2548

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2550 เวลา 23.30 น.

เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม

Latest Blogs

New Comments

Group Blog

All Blogs

Friends' blogs

[Add yyswim's blog to your web]

Links

BlogGang.com

MY VIP Friends