วิธีพูด(version2)





ที่สร้างบารมี………




บารมีสามารถสร้างได้ด้วยปัจจัยหลายอย่าง เช่น ให้เงินทิปเยอะๆ
สวมเครื่องแบบของผู้บริหาร หรือสวมสูทคุณภาพดี ถือปืน มีปากกา
ใครๆก็เกรงใจไม่กล้าตำหนิและดูหมิ่น


แต่ถ้าท่านไม่มีปัจจัยดังกล่าว อากัปกิริยาของท่านและการพูดของท่าน
ก็สามารถสร้างบารมีได้


อากัปกิริยาและการพูดเป็นเรื่องที่ฝึกฝนกันได้ไม่ยาก ขอเพียงแต่ท่านต้องอดกลั้น วางมาดนั่งตรงมองตรง อดกลั้นต่อวิธีพูดที่เคยชิน
ติดปากบ้าง


จะว่าไปแล้วอากัปกิริยาและคำพูด สามารถสร้างบารมีได้เหนือกว่า
ปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นด้วยซ้ำ



นายพลที่ยืนหงอหรือนั่งคอตก น้ำเสียงเนือยอ่อนแรง ใครเห็นใครฟัง
ก็ไม่รู้สึกเกรงใจนายพล

ลูกค้าที่ยื่นเงินทิปให้ผู้รับบริการ แต่ช่างคุยจ้อในเรื่องไร้สาระ หรือ
นินทาผู้อื่น คนที่ได้รับทิปก็ไม่รู้สึกเกรงใจเหมือนกัน

หรือแม้แต่เศรษฐีลงจากรถเบนซ์คันใหญ่ มีคนรับใช้เดินตามหลัง
แต่ซื้อมะม่วงครึ่งโลก็จะต้องต่อรองราคา อย่างนี้ทั้งแม่ค้า และ
ผู้เห็นเหตุการณ์ก็คลายความเกรงใจ



แต่ในทางกลับกันบ้าง ถ้าคนงานบางคนพูดจามั่นใจ ยืนตรงนิ่งองอาจ สายตาตนสบกับสายตาของผู้บริหารอย่างไม่หลบสายตา ผู้บริหารนั้นก็จะยินดีรับฟังเนื้อความที่คนงานพูดอย่างสงบนิ่ง ทั้งๆที่คนงานนั้น
ก็ใส่ยูนิฟอร์มธรรมดา



หรือผู้หญิงตัวเล็ก เสียงเล็ก แต่พูดจามีความคิดหลักแหลม สร้างสรรค์
มีบุคลิกเชื่อมั่น ก็อาจจะเป็นขวัญใจผู้คนทั้งประเทศและรัฐบาลเกรงใจได้

อย่างกวีซีไรท์ จิรนันท์ พิตรปรีชา และออง ซาน ซูจี เป็นต้น


อะไรคือการพูดที่ไม่สร้างบารมี

การพูดจาโกหกหลอกลวงผู้อื่น

การพูดจาที่มีจังหวะตะกุกตะกัก พูดซ้ำๆซากๆ

การพูดจาที่พูดเรื่อยเปื่อย คิดจะพูดก็พูด ไม่ได้สังเกตเลยว่า
จะมีใครฟังหรือไม่

การพูดจาที่ชอบออกตัวอยู่ทุกข้อความ ชอบก้มหน้ามองต่ำขณะพูด

การพูดจาที่ทำท่าทำทางดัดจริตผิดเพศ ผิดวัย .....เป็นต้น



งั้นเรามารู้วิธีพูดที่สร้างบารมีกัน





พูดให้น้อย……



คนพูดน้อย ไม่ได้หมายความว่า เบื่อหน่าย หรือป่วยไม่สบายที่จะพูด
หรือไม่มีเรื่องที่จะพูด หรือไม่ชอบผู้ฟัง


แต่การพูดน้อย เป็นเพราะ

1. จะพูดจาเฉพาะสาระที่จำเป็น พูดสั้นพูดเฉพาะแก่น ไม่พูดยาวเพ้อเจ้อ และไม่พูดคำใดซ้ำๆ

2. จะพูดจาเฉพาะสิ่งที่ตนรู้ ไม่คุยโม้โอ้อวดในสิ่งที่ตนเองพอรู้
หากมีผู้อื่นรู้เรื่องนี้ดีก็จะหยุดพูด แล้วเปิดโอกาสให้ผู้อื่นพูดก่อน
ตนจะขอแสดงความคิดเห็นทีหลัง โดยอาจเพิ่มเติมเฉพาะประเด็นสำคัญ
ที่ผู้อื่นเขายังไม่พูด

3. จะพูดจาเฉพาะสิ่งที่เขาถาม ไม่พูดออกนอกประเด็นคำถาม
ไม่พูดเรื่องส่วนตัว หรือเรื่องที่ตนเองสนใจอยากจะพูด หากเขาไม่ได้ถาม

4. จะถามเฉพาะสิ่งที่อยากรู้จริง ไม่ใช่พร่ำจะถามไปทุกเรื่อง อย่างกับ
เด็กเล็กช่างถาม ซึ่งบางคำถาม หากพิจารณาแล้วเมื่อได้คำตอบ
ก็ยังไม่รู้เลยว่าตนจะนำไปทำอะไร

เช่น “ทำไมข้างหน้ารถติด”

5. จะเลือกถามเฉพาะคนที่รู้ข้อมูล มีอำนาจหน้าที่

6. จะอดกลั้นไม่ระเบิดอารมณ์ด้วยคำพูดเมื่อไม่สบอารมณ์โมโหฉุนเฉียว จะอดกลั้นไม่บ่นต่อปัญหาต่างๆ และจะอดกลั้นไม่นินทาผู้อื่น

7. จะพูดจาโดยใช้ความเงียบร่วมพูดด้วย ผู้พูดที่มีจังหวะหยุดพูด
โดยขณะนั้นยังคงใช้สายตาสบตาผู้ฟัง ผู้ฟังจะรู้สึกเกรงขามบารมี
และผู้ฟังจะยังคงติดตามเนื้อความที่กำลังพูดนั้นต่อไป


วิธีสำคัญที่จะทำให้พูดน้อย ก็คือ คิดก่อนพูด และอดกลั้น





พูดถูกต้องมีเหตุผล……




ทุกครั้งที่จะพูด ต้องระมัดระวังเนื้อหาไม่ให้ผิดพลาด ไม่มีลักษณะ
เกินความจริง หากมีการซักถามรายละเอียดเพิ่มเติมจะต้องมีหลักฐาน
ข้อเท็จจริงและตัวเลขสนับสนุน สำหรับความคิดเห็นจะต้องพูดจา
อย่างมีเหตุผลรอบคอบ น่าเชื่อถือ


แต่หากบังเอิญพูดจาผิดพลาดขึ้น ควรจะกล้าจะยอมรับผิด และรีบแก้ไขคำพูดเดิมของตนด้วยข้อมูลที่ยืนยันอ้างอิงได้ จะไม่ปล่อยให้ผู้ฟังเข้าใจเอาเองในภายหลัง เพราะผู้ฟังจะเกิดความรู้สึกว่าถูกหลอก

และจะไม่เชื่อคำพูดของผู้พูดอีกต่อไป









พูดถูกกาลเทศะ……




ทุกชาติทุกท้องถิ่น ไม่รังเกียจที่จะคบคนที่ทำอะไรถูกต้องตามกาลเทศะ ถึงโอกาสทางการก็วางตัวเป็นทางการ ถึงโอกาสสังสรรค์ก็วางตัว
สนุกสนานกันเอง

การพูดก็เช่นเดียวกัน จะสร้างบารมีให้น่านิยมนับถือก็ต้องพิจารณาคำพูดและอากัปกิริยาให้สอดคล้องกับกาลเทศะ


กลุ่มกำลังสนทนาเรื่องอะไร หากตนจะเสนอความคิดเห็นก็ต้องเสนอในเรื่องที่กลุ่มกำลังสนทนาและกำลังสนใจ ไม่ควรจะพูดจาในอีกเรื่องที่
กลุ่มไม่มีใครเขาพูดถึง


หากลูกน้องจะซักถามหรือจะเสนอความคิดเห็น หัวหน้าก็ควรจะหยุดรับฟังให้เข้าใจ ยังไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเดาความและอธิบาย ลูกน้องจะประทับใจมาก หากหัวหน้าฟังคำถามและข้อเสนอของตนจนเข้าใจ แล้วค่อยตอบคำถามหรือให้ข้อเสนอแนะตรงประเด็นในเวลานั้น


หากจะซักถาม เสนอความคิดเห็น หรือมอบหมายงานกับลูกน้อง หัวหน้าก็ควรจะสังเกตกาลเทศะในขณะนั้นว่า จะพูดขึ้นมาทันทีได้หรือไม่ ควรจะกระตุ้นให้ลูกน้องเตรียมพร้อมที่จะฟังเสียก่อนหรือไม่ หรือควรจะนัดพูดจาในกาลเทศะอื่น หรือควรจะใช้วิธีเขียนบันทึกให้ลูกน้องอ่าน


ผมเคยเห็นหัวหน้าสั่งงานลูกน้องต่อหน้าลูกค้า ผมเคยเห็นหัวหน้าสั่งงานลูกน้องขณะลูกน้องกำลังรับโทรศัพท์ลูกค้า แบบนี้ใครจะได้ผลดี
….เปล่าเลย งานก็ไม่ได้ หัวหน้าก็เสียบารมี
ลูกค้าก็รู้สึกว่าไม่ได้รับบริการที่ดี





พูดเสียงดัง……




ผู้พูดจะต้องพูดจาด้วยเสียงมั่นใจไม่สั่น และดังพอสมควร
เสียงแบบมีอำนาจนี้ จะทำให้ผู้ที่ไม่สนใจฟังหันมาสนใจฟังพอสมควร
และทำให้ผู้ที่สนใจฟังอยู่แล้วเกิดความเชื่อถือมากยิ่งขึ้น


แต่คนที่มีปัญหาด้านเสียง เช่น เสียงเบา เสียงแหบ เสียงแหลม เสียงเป็นหวัด เมื่อจำเป็นต้องพูดเสียงดังตามที่กล่าว ก็อาจปรับปรุงโดย


• ไม่จำเป็นจะต้องตะโกนหรือดัดเสียงแหลมให้เป็นเสียงทุ้ม แต่ควรใช้ไมโครโฟนช่วย และพูดจาน้ำเสียงดังอย่างมั่นใจ

• ถ้าไม่มีไมโครโฟน อาจจะมอบให้ผู้อื่นพูดแทนตนตามเนื้อความที่ตนเขียนไว้ และตนเองนั่งร่วมอยู่ด้วย

• สร้างบรรยากาศเงียบหรือเป็นทางการก่อนจะพูดจา เช่น ยืนนิ่งโดยยังไม่พูด เพื่อให้ผู้ฟังหันมาสนใจผู้พูดอย่างเต็มที่

• ใช้สายตาที่กล้าหาญมั่นใจสบสายตาผู้ฟังทุกคน เป็นรายคน เพื่อผู้ฟัง
จะได้ตั้งใจฟังและเกรงใจผู้พูดมากยิ่งขึ้น




การพูดที่พูดน้อย พูดไม่เคยผิดพลาด พูดถูกกาลเทศะ
และพูดทุกครั้งจะพูดเสียงดัง นี้


ฝึกฝนได้ครับ ไม่เกินฝีมือหรอกครับ
…….หากต้องการจะสร้างบารมีจริง........


Blogเรื่อง "บารมีหาซื้อได้สะสมได้"คลิกอ่านได้ที่นี่



โดย yyswim



Create Date : 20 มิถุนายน 2548
Last Update : 20 มิถุนายน 2548 17:24:37 น. 20 comments
Counter : 1053 Pageviews.

 


ถูกทุกข้อคะ ..


อิ ..อิ ...มึนเลยคะ
แต่สาระดี ขอบคุณน๊ะคะ


โดย: หนี่หนีหนี้ วันที่: 20 มิถุนายน 2548 เวลา:17:49:27 น.  

 
จะรีบเก็บข้อมูลไปใช้กับเจ้านายค่ะ
ขอบคุณค่ะ


โดย: MDA วันที่: 20 มิถุนายน 2548 เวลา:20:09:32 น.  

 
ยาวจังอ่ะ วันนี้


โดย: ultraman seven วันที่: 20 มิถุนายน 2548 เวลา:23:06:38 น.  

 


Sorry, Can't type in Thai.

Have a good day.


โดย: พฤษภาคม 2510 วันที่: 20 มิถุนายน 2548 เวลา:23:47:00 น.  

 
เป็นกรรมที่มีเหตุผลมั่ก
วันนี้ ยาวอ่ะ


โดย: suparatta วันที่: 21 มิถุนายน 2548 เวลา:0:28:21 น.  

 
บล็อคนี้มีแต่ของมีประโยชน์แฮะ! บล็อคเราตกไหล่ทางไปเลย ฮ่าๆๆๆๆ

ฝันดีนะครับพี่ ราตรีสวัสดิ์ครับ


โดย: Due_n วันที่: 21 มิถุนายน 2548 เวลา:1:06:50 น.  

 
โอ้โห ได้ประโยชน์มากค่ะ
ขอบคุณที่นำมาฝากกัน

มาแก้ข่าวว่าไม่ได้ขาใหญ่ เอ้ย ไม่ได้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ค่า


โดย: * ลิ้ น จี่ ก ร ะ ป๋ อ ง * วันที่: 21 มิถุนายน 2548 เวลา:4:36:08 น.  

 
หวัดดีค่ะ จขบ. สงสัยจะไม่มีแน่เลยบารมี แบบว่าในหมู่เพื่อน คุยเก่งนะค่ะ


โดย: To feel happy IP: 203.146.71.34 วันที่: 21 มิถุนายน 2548 เวลา:9:34:15 น.  

 
จขบ.คะ ...
พูดแล้วได้ตังค์ล่ะ ..อิ ..อิ ..
ดีมั๊ยคะ ..

ไม่ว่ากันน๊า ..ไม่สะบาย อิ ..อิ. .


โดย: หนี่หนีหนี้ วันที่: 21 มิถุนายน 2548 เวลา:9:39:05 น.  

 
หูยย ตามเข้ามาอ่านวิธีพูดของ จขบ

แต่ไหง เห็นไปตอบบลอคชาวบ้านเค้าแบบไม่ค่อยเข้าท่าฟร่ะ??

อ่านที่ตัวเองเอามาแปะไว้ให้ลึกซึ้งหน่อยก็ดีนะ


โดย: xxswim IP: 61.90.98.95 วันที่: 21 มิถุนายน 2548 เวลา:9:45:57 น.  

 
ขอคำพูดที่จีบสาวได้ผลหน่อยดิ


โดย: ศรเมฆา ฟ้าแว๊บๆ วันที่: 21 มิถุนายน 2548 เวลา:11:28:10 น.  

 
พี่ yyswim ครับ ลงให้แล้วนะครับ ฮี่ๆ รวดเร็วทันใจดีไหมพี่!? ผมว่าคนท้องไม่ควรดื่มจะดีนะครับ เดี๋ยวลูกเกิดมากินแต่โค้กล่ะแย่เลย ขวดล่ะต้องหลายบาท ดีไหมดี ... ลูกเป็นโรคอ้วน (โรคของเด็กๆ อินเทรน) ... รักษาหายยากด้วย + ฝันผุอีก หุหุหุ

อ้าว....พร่ำไปเนี่ยเรา ผมเขียนไว้ที่ คห. 18 นะครับ ไปล่ะกั๊บบบบบบบบบ


โดย: Due_n วันที่: 21 มิถุนายน 2548 เวลา:12:46:28 น.  

 

คนบนหัวผมเนี่ย "เยี่ยม" คับ

ดิว พี่ให้เพื่อนที่กะลังท้อง อ่านแร้ว
เธออ่าน อย่างตั้งใจ นานทีเดียว.....

อ้อ ผมจะมาup Blockเรื่องใหม่ราววันเสาร์คับ
จะหลบBlog ไปช่วยราชการที่จันทบุรี 3 วัน
จะกิน สละ เผื่อคับ....กินสักทะลาย


โดย: yyswim วันที่: 21 มิถุนายน 2548 เวลา:16:24:03 น.  

 


จะทำได้บ้างไหมเนี่ย


โดย: Marvellous Boy วันที่: 21 มิถุนายน 2548 เวลา:17:19:57 น.  

 
น่าสนใจมากเลยค่ะ
ตัวเองพูดไม่ค่อยเก่งเลย เฮ้อ

คุณ yyswim ไปจันทบุรี เดินทางปลอดภัยนะคะ
กลับมาเล่าประสบการณ์ดี ๆ เร็ว ๆ
จะตั้งใจ รออ่านค่ะ


โดย: hello IP: 202.57.167.114 วันที่: 21 มิถุนายน 2548 เวลา:21:33:41 น.  

 
ขอบคุณสำหรับ ข้อความดีๆค่ะ เราเป็นคนหนึ่งที่การพูดไม่ได้เรื่องเลย


โดย: Hana* วันที่: 22 มิถุนายน 2548 เวลา:7:06:14 น.  

 



จ๊ะเอ๋ ..หนี่ฯกลับมาแล้วค๊ะ
"คิดถึงกัน ก่อ ..

แซงหน่อยน๊า ..


โดย: หนี่หนีหนี้ วันที่: 23 มิถุนายน 2548 เวลา:9:22:24 น.  

 
เอาแต่ปากมาแล้วจะไปหาตีนเอาข้างหน้า เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "อันรสตาล(สละ)หวานลิ้นให้สิ้นทราก แต่ลมปากหวานหูมิรู้หาย" แล้วอย่าลืมหาสละเมืองจันท์มาฝากด้วยเน้อ
คนเขียนBLOGนี้ขยันมาก ขนาดว่าต้องไปราชการที่จันทบุรียังอุตส่าห์เอาCOMติดไปด้วยนับถือๆๆ
อ่านแล้วมีประโยชน์มาก โดยเฉพาะพวกที่ชอบแกว่งปากหาเท้าทั้งหลาย
รีบกลับมานะครับจะได้อ่านเรื่องดีๆอย่างนี้อีก ขอบคุณหลายๆๆๆเด้อ


โดย: u2swim IP: 202.6.107.9 วันที่: 24 มิถุนายน 2548 เวลา:15:52:15 น.  

 
ผมเสียเวลาอ่าน ความปราถนาดีที่มอบให้ คนที่ 12

ตั้งนาน(ของคุณ Due_n) อ่านยังไงก้อไม่เข้าใจ มันเกี่ยวกับอะไรเนี่ย
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


โดย: แปลกแปลก IP: 117.47.72.84 วันที่: 27 มีนาคม 2552 เวลา:1:29:55 น.  

 
ชอบมากค่ะ ขอบคุณมากๆๆๆนะคะ ชอบเข้ามาอ่านบล็อคคุณมากเลย มีสาระดี


โดย: บี IP: 203.118.84.221 วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:14:39:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

yyswim
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]





บล็อกสรรสาระนี้ จขบ.ไม่ได้เขียน-ไม่ได้ถ่ายภาพ-ไม่ได้อัพโหลดคลิปเอง หากแต่ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการบล็อก เสาะหาเรื่องดีๆ รูปสวยๆ คลิปแปลกๆ มาไว้ในบล็อก


ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยม ขอเชิญชมหรืออ่านตามสบาย ไม่ต้องคอมเมนต์ก็ได้ จขบ.ชอบการเข้ามาเยี่ยม แบบกันเอง ง่ายๆ สบายๆ




เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2548


เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2550 เวลา 23.30 น.


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม




Latest Blogs

New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add yyswim's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.