โนรา
โนรา
ผมมีโอกาสได้ชมการรำโนราเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2551 ที่ จ.นครศรีธรรมราช ในโอกาสที่ไปพร้อมกับทริปเพื่อนมหาวิทยาลัยเดียวกัน ไปทอดกฐินที่ อ.จันดี จ.นครศรีธรรมราช
ผมไม่ได้ชมการรำโนราแบบนี้มานานมากแล้ว ทั้งๆที่เป็นคนใต้ ชมแล้วก็รู้สึกปลาบปลื้ม ขอปรบมือให้ดังๆกับคณะผู้แสดงโนราทุกคน
และอยากจะกล่าวชื่นชม หากเด็กรุ่นใหม่คนใดสนใจจะเรียนรู้ศิลปะการแสดงพื้นบ้าน เพราะนับวันที่อารยธรรมของเกาหลี ญี่ปุ่น ยุโรป และฮอลลีวู้ด บุกเมืองไทยไปทุกหัวระแหง หากวัยรุ่นไทยยังคงสืบสานศิลปะการแสดงพื้นบ้านนี้ไว้ ชาติไทยก็จะยังคงมีวัฒนธรรมไทยไปได้อีกนาน
ผมรู้สึกถึงเสน่ห์ของเด็กไทย ถ้าหากเขาจะมีอะไรบางอย่างแบบไทยๆในตัวตนของเขา เพียงแค่ 1-2 อย่าง ....อาจจะเป็นมวยไทย เตะตะกร้อ ร้องหมอลำ เล่นลิเก ตีระนาด เป่าขลุ่ย เป่าแคน เล่นกลองยาว เล่นกลองสะบัดชัย ร้องเสภา ร้องเพลงไทยเดิม ร้องเพลงลูกทุ่ง เล่านิทานไทย เขียนลวดลายไทย ทำอาหารไทย แกะสลักผลไม้ รวมทั้งเล่นหนังตะลุง หรือรำโนรา
ผมว่า เมื่อเด็กไทยไปเมืองนอกเมืองนา วัฒนธรรมไทยเหล่านี้จะทำให้เขามีเสน่ห์ในสายตาของชาวต่างชาติ ....น่าจะมีเสน่ห์กว่าการเล่นเปียโนเป็น การดีดกีตาร์เป็น การเต้นระบำปลายเท้าเป็น หรือการแสดงละครใบ้เป็น เพราะศิลปะเหล่านั้นเขาชาวต่างชาติจะเห็นกันเป็นประจำ และบางครั้งเขาอาจจะแสดงเองได้ดีกว่าด้วย
โนรา เป็นศิลปะการแสดงพื้นบ้านของชาวใต้ที่สืบทอดกันมายาวนานนับหลายร้อยปี เป็นการแสดงที่มีทั้งการรำและการร้อง แต่ก็มีบ้างบางครั้งที่เล่นเป็นเรื่อง
.กำเนิดของโนราสันนิษฐานว่าได้รับอิทธิพลจากการร่ายรำของอินเดียที่ได้รับมาจากพ่อค้าชาวอินเดียก่อนสมัยศรีวิชัย สังเกตได้จากท่าร่ายรำหลายท่าซึ่งมีการใช้แขนและใช้นิ้ว จะใกล้เคียงกับท่าร่ายรำของอินเดีย และเครื่องดนตรีที่เรียกว่า เบญจสังคีต อันได้แก่ โหม่ง ฉิ่ง ทับ กลอง ปี่ ก็จะใกล้เคียงกับเครื่องดนตรีของอินเดีย
เชื่อกันว่า โนรา เริ่มปรากฏเป็นการแสดงจริงจังที่เมืองพัทลุงก่อน เมื่อประมาณปี พ.ศ.1820 ตรงกับสมัยสุโขทัยตอนต้น(ประมาณ 730 ปีที่แล้ว) แล้วแพร่ขยายไปยังหัวเมืองอื่นๆทั่วภาคใต้ ตลอดจนถึงภาคกลาง ซึ่งกลายมาเป็น ละครชาตรี
..คำว่า มโนราห์ หรือ มโนห์รา นั้นเป็นคำที่เกิดขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยการนำเอาเรื่อง พระสุธน-มโนราห์ มาแสดงเป็นละครชาตรี จึงมีคำเรียกว่า มโนราห์ ในภาคกลาง
เครื่องแต่งกายของโนรา มี 14 อย่าง ประกอบด้วย
1. เทริด(อ่านว่าเซิด) เป็นเครื่องประดับศีรษะ ทำเป็นมงกุฎเตี้ย มีกรอบหน้า
2. เครื่องลูกปัด จะร้อยด้วยลูกปัดสีเป็นลาย มีดอกดวง ใช้สำหรับสวมลำตัวท่อนบนแทนเสื้อ ประกอบด้วยชิ้น 5 ชิ้น คือ ชิ้นบ่ามี 2 ชิ้น สวมทับบนบ่าซ้าย ขวา, ปิ้งคอ มี 2 ชิ้น สำหรับห้อยคอหน้า - หลัง คล้ายกรองคอ, และพาน-อก หรือพานโครง จะร้อยลูกปัดเป็นตารางรูปสี่เหลี่ยม ใช้พันรอบตัวบริเวณอก
3. ปีกนกแอ่น หรือปีกเหน่ง มักทำด้วยแผ่นเงินเป็นรูปคล้ายนกนางแอ่นกำลังกางปีก ใช้สำหรับ โนราใหญ่ สวมติดกับสังวาลย์อยู่ที่ระดับเหนือสะเอวด้านซ้ายและขวา คล้ายตาบทิศของตัวละคร
4. ทับทรวง สำหรับสวมห้อยตรงกลางอก อาจทำด้วยแผ่นเงินรูปขนมเปียกปูน ฝังเพชรพลอยหรือร้อยด้วยลูกปัด
5. ปีก หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า หาง นิยมทำด้วยเขาควาย เป็นรูปคล้ายปีกนก 1 คู่ ซ้าย ขวา ประกบกัน ปลายปีกเชิดงอนขึ้นและผูกรวมกันไว้ มีพู่ทำด้วยด้ายสีติดไว้เหนือปลายปีก และใช้ลูกปัดร้อยห้อยเป็นดอกดวงรายตลอดทั้งซ้าย-ขวาให้ดูคล้ายขนของนก ใช้สำหรับสวมคาดทับผ้านุ่งตรงระดับสะเอว ปล่อยปลายปีกยื่นไปด้านหลังคล้ายหางกินรี
6. ผ้านุ่ง เป็นผ้ายาวสี่เหลี่ยมผืนผ้า นุ่งทับชายแล้วรั้งไปเหน็บไว้ข้างหลัง การนุ่งผ้าของโนราจะรั้งสูงและรัดรูปแน่นกว่านุ่งโจงกระเบน
7. สนับเพลา คือกางเกง (เมื่อสวมแล้วจะนุ่งผ้านุ่งทับอีกชั้นหนึ่ง) ปลายขาจะใช้ลูกปัดร้อยทับ
8. หน้าผ้า สำหรับคาดห้อยลงด้านหน้า ลักษณะเดียวกับชายไหว ทำเป็นผ้า 3 แถบ
9. ผ้าห้อย สำหรับคาดห้อยลงด้านซ้ายและด้านขวา
10. กำไลต้นแขน
11. กำไลข้อมือ อาจสวม 5-10 วง เพื่อเวลาปรับเปลี่ยนท่าของข้อมือ จะได้มีเสียงดังเป็นจังหวะด้วย
12. เล็บ เป็นเครื่องสวมนิ้วมือให้โค้งงาม คล้ายเล็บกินนร กินรี ทำจากทองเหลืองหรือเงิน ต่อปลายด้วยลวดที่มีลูกปัดร้อยสอดสี นิยมสวมมือละ 4 นิ้ว ยกเว้นหัวแม่มือ
13. หน้าพราน เป็นหน้ากากสำหรับตัว "พราน" แกะเป็นรูปใบหน้าจากไม้ แต่จะไม่มีส่วนที่เป็นคาง ตรงปลายจมูกจะงุ้มเล็กน้อย เจาะรูตรงส่วนทื่เป็นดวงตาให้ผู้สวมมองเห็นได้ ทาสีแดงทั้งหมด เว้นแต่ส่วนที่เป็นฟัน จะทำด้วยโลหะขาวหรือทาสีขาว(มีเฉพาะฟันบน) ส่วนบนต่อจากหน้าผากจะใช้ขนเป็ดสีขาวติดทาบไว้คล้ายคนผมหงอก
14. หน้าทาสี เป็นหน้ากากของตัวตลกหญิง ทำเป็นหน้าผู้หญิง ทาสีขาวหรือสีเนื้อ
ครูสวัสดิ์ ครูโนราชื่อดัง ของจ.นครศรีธรรมราช ให้เกียรติมารำในงานต้อนรับทริป
ครูสวัสดิ์ ท่านทั้งรำและร้อง
ท่านด้นกลอนสด ร้อง ชมวัดพระบรมธาตุ
คำว่า ชม หมายถึง นำชม
ท่านเป็นโนราที่ได้รับเกียรติสูง มีโอกาสเข้ารำโนราต่อหน้าพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเสด็จ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ท่านมีโอกาสเข้ารำโนราต่อหน้าพระพักตร์สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ต่อหน้าสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ต่อหน้าสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา และต่อหน้าพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูงแทบทุกพระองค์ ... ท่านนับเป็นบุคคลสำคัญของจ.นครศรีธรรมราชทีเดียว
ครูสวัสดิ์ ท่านมีอายุ 73 ปี ในปีนี้
ผมชอบดูตอนโนรากรีดนิ้ว มันจะลงตัวกับจังหวะของทับและของกลอง
.มันดู พลิ้ว รวดเร็ว แต่มีพลัง
ฮ่า ฮ่า ฮ่า.... โนรา มีนิ้วเดียว
ท่านครับ ท่านกำลัง ขยุ้มหลังคา มะ ช่าย ท่านกำลัง กรีดนิ้ว
อายุของครูสวัสดิ์ 73 ปีแล้ว แต่ท่านยังรำและร้องคล่องแคล่ว ผมคิดว่า ท่านแบกคนเช่นนี้ ท่านคงจะต้องซ้อมมานานพอสมควร ... นับป็นบุญตาที่ได้เห็น โนราชั้นครู - ศรีสง่าของชาวนคร
เครื่องดนตรีของโนรา
เครื่องดนตรีของโนรา มี 6 อย่าง ส่วนใหญ่เป็นเครื่องตีให้จังหวะ แต่แปลกจากเครื่องดนตรีของการแสดงชนิดอื่น คือ ดนตรีของโนราจะเล่นตาม จังหวะของผู้รำ ไม่ใช่ผู้รำเปลี่ยนท่าร่ายรำตามจังหวะของเสียงดนตรี ลูกคู่ที่ร้องรับก็เช่นเดียวกัน จะร้องสร้อยรับตามเนื้อร้องของผู้ร้อง ที่ปกติจะร้องด้นกลอนสด และรำไปด้วยในขณะร้อง
1. ทับ เป็นชิ้นคู่ เสียงต่างกันเล็กน้อย ใช้คนตีเพียงคนเดียว เป็นเครื่องตีที่สำคัญที่สุด เพราะทำหน้าที่คุมจังหวะและเป็นตัวนำในการเปลี่ยนจังหวะทำนอง ผู้ทำหน้าที่ตีทับจะต้องนั่งมองผู้รำตลอดเวลา และต้องรู้เชิงของผู้รำ
2. กลอง เป็นกลองทัดขนาดเล็ก (โตกว่ากลองของหนังตะลุงเล็กน้อย) มี 1 ใบ ทำหน้าที่เสริมเน้นจังหวะและล้อเสียงทับ
3. ปี่ เป็นเครื่องเป่าเพียงชิ้นเดียวของวง นิยมใช้ปี่ใน
หมายเหตุ : ปี่ จะมี 7 รู แต่สามารถให้กำเนิดเสียงได้ถึง 21 เสียง ...ปี่ เป็นเครื่องดนตรีที่กล่าวกันว่า ทำเสียงใกล้เคียงกับเสียงคน มากกว่าเครื่องดนตรีชนิดอื่นใด... เสียงเด็กร้อง ปี่ก็สามารถทำได้
4. โหม่ง คือ ฆ้องคู่ มีเสียงต่างกัน.. ชิ้นหนึ่ง จะออกเสียง "โหม้ง" อีกชิ้นจะออกเสียง "หมุ่ง"
5. ฉิ่ง หล่อด้วยโลหะหนารูปฝาชี มีรูตรงกลางสำหรับร้อยเชือก เป็นเครื่องตีเสริมเน้นจังหวะ
6. กรับ มี ทั้งกรับอันเดียวที่ใช้ตีกระทบกับรางโหม่ง หรือกรับคู่ และมีที่ร้อยเป็นพวงอย่าง กรับพวง
ตัวอย่าง กลอนโนรา นำมาจากเว๊ปอื่น(kanchanapisek.or.th)
เชิญลองกดฟังกลอนโนรา
ท่ารำของโนรา
ท่ารำโนราที่เป็นท่าหลัก สืบได้ไม่ลงรอยกันเพราะต่างครูต่างตำรา และเนื่องจากผู้รำประดิษฐ์ท่าเพิ่มเติมขึ้นเรื่อยๆ ท่ารำของโนราที่ต่างสายตระกูลและต่างสมัยจึงผิดแปลกแตกต่างกัน แม้บางท่ารำ ที่ชื่ออย่างเดียวกัน บางครูบางตำราก็กำหนดท่ารำแตกต่างกัน
ท่ารำโนรา ที่สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงรวบรวมไว้จากคำชี้แจงของนายจง ภักดี(ขาว) ผู้เคยเล่นละครชาตรีที่เมืองตรัง ในบทพระนิพนธ์ตำนานละครอิเหนา ว่ามี 12 ท่าดังนี้
1. ท่าแม่ลาย หรือท่าแม่ลายกนก
2. ท่าผาลา 3. ท่าลงฉาก
4. ท่าจับระบำ 5. ท่ากินนร หรือกินนรรำ (ท่าขี้หนอน)
6. ท่าฉากน้อย 7. ท่าราหูจับจันทร์ หรือท่าเขาควาย
8. ท่าบัวแย้ม 9. ท่าบัวบาน
10. ท่าบัวคลี่ 11. ท่าบัวตูม
12. ท่าแมงมุมชักใย
ที่กล่าวว่า ท่ารำมีหลายตำรา และแตกท่าออกไปตามแต่ละครู เช่น
ท่าแม่ลาย บางตำราเรียกว่า ท่าเทพนม(คือแม่ของลายไทย) แล้วแตกท่าออกไปเป็น ท่าเครือวัลย์ บ้าง ท่าพรหมสี่หน้าบ้าง หรือท่าลงฉาก บางครูแตกย่อยเป็น ท่าสอดสร้อย บ้าง
ท่าแมงมุมชักใย บางครูจะยืนรำและใช้มือเลียนท่าแมงมุมชักใย บ้าง แต่บางครูจะรำแบบตัวอ่อนแอ่นหลังแล้วม้วนตัวลอดใต้ขา บ้าง เป็นต้น
พรานบุญ ออกมาแล้ว
ผู้ชม ที่นั่งชมกับพื้น ...จากซ้าย เป็นหัวหน้าเภสัชกร, ผู้บริหารห้างใหญ่ในกรุงเทพ, ซีอีโอบริษัทกลั่นน้ำมัน, และอาจารย์ดอกเตอร์สอนมหาวิทยาลัย
คณบดี กับ นักธุรกิจเมืองนคร
รำเต็มที่ ขยับขาเต็มก้าว บังเอิญผ้านุ่งหลุด
ผู้แสดงมีปฏิภาณไวแก้ปัญหาด้วยท่ารำของตนเอง
ดูท่ารำแล้ว ไม่ขัดจังหวะสายตาว่า ผ้านุ่งหลุด
คิดว่าการแสดงครั้งนี้ จะใช้ท่ารำที่ยากกว่าปกติ เลยใช้ผู้ชายแสดงเป็นกินนร ที่ถูกคล้องบ่วงบาศ
มีการดึง และขัดขืนกันแบบจริงจัง
ท่วงท่าสวยสง่า ทั้งกินนร และพรานบุญ
ฉีกขาเต็มที่ ฝืนแรงดึงเชือก
ท่านี้ ผู้แสดงคงจะเกร็งขาน่าดู
โดนมัดหลายรอบ สุดท้ายก็แพ้
พรานบุญ บอกว่า เฮ้อ เหนื่อยน่าดู
และบอกว่า ไป๊ จะเอาไปฝากทริป ไปเขื่อนเชี่ยวหลาน
ฮ่า ฮ่า ฮ่า ทริปพวกเราในวันรุ่งขึ้น จะไปยังเขื่อนเชี่ยวหลาน กุ้ยหลินเมืองไทย
เมื่อเปิดหน้ากากออกมา ....โอ้ โห มหัศจรรย์
ผู้แสดง 'พรานบุญ' ที่แท้คือบัณฑิตปริญญาโทจุฬาฯ เรียนคณะเดียวกับ น้องอร อรอนงค์ ปัญญาวงศ์
อยากบอกว่า เป็นปลื้มมาก ที่ได้ชมโนราชั้นครู ครั้งนี้
ภาพอาจจะโหลดช้านะครับ เพราะภาพมีจำนวนมาก จึงต้องขออภัยหากใคร มีความเร็วเน็ตต่ำ และถ้ายังชอบชมภาพ ผมอาจจะนำภาพ เขื่อนเชี่ยวหลาน มาลงให้ชมกัน
yyswim
Create Date : 19 พฤศจิกายน 2551 |
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2551 0:42:59 น. |
|
31 comments
|
Counter : 9689 Pageviews. |
|
|
|
ปอก็ชอบดูนะคะการรำโนรา ชอบเสียงดนตรีที่หนักและมีจังหวะแน่น การรำอ่อนช้อย แต่มีพลัง
การแสดงของทางภาคใต้ ส่วนใหญ่จะดูขลังนะคะ
อย่างหนังตลุงเป็นต้น
คราวหน้ารบกวนพี่สินอัพเรื่องของหนังตลุงให้ชมบ้างสิคะ งุงิ...แหะๆ ^ ^
วันนี้ปอเอาลาเต้มาฝากค่ะ
เสริฟตรงสู่เพื่อนบล๊อกแก๊งค์ที่น่ารักค่ะ งุงิ ^ ^
Have a nice day...^ ^