กระดาษหน้าที่สาม



กระดาษหน้าที่สาม



“ขอรับบริจาคกระดาษ A4ที่ใช้แล้วทั้งสองหน้า เพื่อต้องการจะใช้หน้าที่สาม”




ฮื้อ!!! เมื่อแรกอ่านผมก็งง...ใครกันจะสามารถนำกระดาษที่ใช้แล้วทั้งสองหน้า ไปใช้ประโยชน์เป็นหน้าที่สามได้อีก แต่พออ่านเสร็จก็เข้าใจ...


เป็นไปได้จริงๆด้วย ยังมีคนต้องการที่จะใช้ประโยชน์จากกระดาษหน้าที่สาม


เพราะผู้พิการทางสายตาต้องการกระดาษที่ใช้แล้วทั้งสองหน้า ไปให้น้องๆหรือเด็กๆผู้พิการทางสายตา ได้ใช้หัดเขียนหัดอ่านเป็นอักษรเบรลล์ โดยใช้วิธีกดด้วยตะปูพิเศษ หรือพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ดีดพิเศษ เพื่อให้เกิดรอยกดบนกระดาษที่ใช้แล้วทั้งสองหน้าเป็นอักษรเบรลล์


กระดาษที่ใช้แล้วทั้งสองหน้าจึงสามารถใช้งานเป็นกระดาษหน้าที่สามได้อีกรอบ...ขอเพียงแต่เป็นกระดาษA4 ที่ใหม่ไม่ยับ ไม่ขาด สีอะไรก็ได้ แม้จะมีลวดแม็กซ์เย็บติดอยู่ก็รับ







ทางมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ เลขที่ 420 ถนนราชวิถี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์ 0-2354-8365-68, 0-2354-8370-71 โทรสาร 0-2354-8369 …ต้องการขอรับบริจาคกระดาษที่ใช้แล้วทั้งสองหน้า และกระดาษที่ใช้แล้วเพียงหน้าเดียว (ยิ่งต้องการมากๆ) ที่ยังมีสภาพดี ไปใช้เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ให้กับน้องๆผู้พิการทางสายตา







หากใครคิดจะนำกระดาษที่ใช้งานแล้ว ไปชั่งกิโลขาย ก็แปลว่า ใช้งานกระดาษเหล่านั้นยังไม่หมดทีเดียว ..เพราะหน้าที่สามยังไม่ได้ใช้ และขายไปก็คงจะได้ไม่กี่บาท!!!


สู้ช่วยกันบริจาคให้เป็นวิทยาทานแก่น้องๆผู้พิการทางสายตา มิดีกว่าหรือ?


เพื่อน้องๆจะได้รับวิทยาทานเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ ที่จะมีโอกาสช่วยเหลือตัวเองในวันข้างหน้าต่อไป ไม่ต้องเป็นภาระต่อสังคม







เชื่อหรือไม่ว่า ผู้พิการทางสายตานับร้อยนับพันคน มีศักยภาพที่จะสอบเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษาได้?




และเมื่อน้องๆได้ใช้กระดาษหน้าที่สามหมดแล้ว ทางมูลนิธิฯก็จะได้นำกระดาษไปขายต่อเพื่อเป็นประโยชน์อีกรอบหนึ่ง แต่คราวนี้เป็นการได้เงินมา เพื่อนำไปใช้ซื้ออุปกรณ์การศึกษาให้น้องๆ…ส่วนกระดาษที่ขายไป ผู้ซื้อก็จะนำไปรีไซเคิล เป็นการลดการโค่นไม้ทำลายป่าเพื่อการผลิตเยื่อกระดาษอีกด้วย


ช่วยกันสนับสนุนนะครับ.









มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยฯ


อยู่ตรงสี่แยกตึกชัยฯ ที่เดียวกันกับโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ เปิดทำการวันจันทร์ถึงวันเสาร์ ในเวลาราชการ
ในวันอาทิตย์ปิดทำการทั้งวัน.









รถเมล์

ถ้ามาโดยรถไฟฟ้าบีทีเอส ลงที่สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หันหน้าไปทางอนุสาวรีย์ แล้วเดินลงบันไดฝั่งซ้ายมือ (ทางขวา จะเป็นห้างเซ็นจูรี่) ลงบันไดหน้าโรงพยาบาลราชวิถี นั่งรถเมล์สาย 8, 12, 14, 92 รถเมล์จะวิ่งเข้าถนนราชวิถีแค่ป้ายเดียว ก็กดกริ่งลงเลย แล้วเดินต่อไปข้างหน้าอีก 500 เมตร จะเจอปั๊มปตท. แล้วเจอโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ อยู่หัวมุมสี่แยกตึกชัย (หากนั่งรถเมล์พ้นไปอีกป้าย รถเมล์จะต้องเลยสี่แยกไป จะเดินกลับมาไกลกว่า)


หรือหากจะไม่นั่งรถเมล์ แต่เดินจากอนุสาวรีย์ชัยฯ ไปเลยก็ได้ ระยะทางประมาณ 2 ป้ายรถเมล์







รถยนต์

ถ้าขับรถมาจากอนุสาวรีย์ชัยฯ เข้ามาถนนราชวิถี พอพ้นป้ายรถเมล์แรก พยายามอยู่เลนซ้ายไว้ เมื่อพ้นปั๊มปตท.จะถึงรั้วโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพเลย เลี้ยวซ้ายตรงประตูเข้า ด้านในจะมีที่จอดรถ


ระวังอย่าขับรถอยู่เลนขวา เพราะจะขึ้นสะพานข้ามสี่แยกตึกชัย แล้วเลยไปไกล...










โดย yyswim





Create Date : 19 กันยายน 2550
Last Update : 19 กันยายน 2550 0:07:19 น. 23 comments
Counter : 8410 Pageviews.

 


เพลงประจำโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ



โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ …อยู่ภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์….สังกัด สำนักบริหารงาน คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการ



เพลงพระราชนิพนธ์ ยิ้มสู้ หรือ Smiles เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ ลำดับที่ 16 ทรงพระราชนิพนธ์ในปี พ.ศ. 2495 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาไทย เพื่อสร้างขวัญและให้กำลังใจแก่คนตาบอด แล้วพระราชทานให้นำไปบรรเลง ในงานสมาคมช่วยคนตาบอด ในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ เวทีลีลาศสวนอัมพร เมื่อวันเสาร์ที่ 1 มีนาคม 2495 ส่วนคำร้องภาษาอังกฤษ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ทรงนิพนธ์ในปีต่อมา





เพลงพระราชนิพนธ์ "ยิ้มสู้" เป็นเพลงประจำโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพนับแต่นั้นมา

ทำนอง : พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชฯ
คำร้อง : พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ







โลกจะสุขสบายนั้นเป็นได้หลายทาง

ต้องหลบสิ่งกีดขวางหนทางให้พ้นไป

จะสบความสุขสันต์สำคัญที่ใจ

สุขและทุกข์อย่างไรเพราะใจตนเอง


ฝ่าลู่ทางชีวิตต้องคิดเฝ้าย้อมใจ

โลกมืดมนเพียงใดหัวใจอย่าคร้ามเกรง

ตั้งหน้าชื่นเอาไว้ย้อมใจด้วยเพลง

ไยนึกกลัวหวาดเกรงยิ้มสู้


คนเป็นคนจะจนหรือมี

ร้ายหรือดีคงมีหวังอยู่

ยามปวงมารมาพาลลบหลู่

ยิ้มละมัยใจสู้หมู่มวลเภทภัย


ใฝ่กระทำความดีให้มีจิตโสภา

สร้างแต่ความเมตตาหาความสุขสันต์ไป

จะสบความสุขสันต์สำคัญที่ใจ

เฝ้าแต่ยิ้มสู้ไปแล้วใจชื่นบาน...






โดย: yyswim วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:0:10:06 น.  

 


ประกวดเรียงความ หนูฝันอยากเป็น…



มูลนิธิแอมเวย์เพื่อสังคมไทย ได้จัดโครงการประกวดเรียงความ "One by One : หนูฝันอยากเป็น…" เพื่อเชิญชวนเด็กและเยาวชนไทยที่พิการ อายุ 8 - 15 ปี ได้เล่าถึงความฝัน หรืออาชีพที่ตนอยากเป็น ชิงโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพฯ และทุนการศึกษา


ในโครงการนี้ นักเรียนโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ ได้รับรางวัลชนะเลิศ และรองชนะเลิศ




เด็กชายดำเกิง มุ่งธัญญา นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 ได้รับรางวัลชนะเลิศ รับโล่ เกียรติบัตร
และทุนการศึกษา 50,000 บาท






“ตอนโตขึ้นผมอยากจะเป็นครู ที่ผมอยากเป็นครูก็เพราะว่า ตอนเด็กๆ เราทุกคนต้องเรียนหนังสือหาความรู้ แล้วบางโรงเรียนไม่มีครูสอน เด็กก็ไม่ได้ความรู้ ผมก็เลยอยากจะเป็นครู เพื่อที่จะให้ความรู้แก่เด็กนักเรียน เพื่อที่เขาโตขึ้น เขาก็จะมีงานดีๆทำ เช่น คนแปลหนังสือ ครู ตำรวจ เป็นต้น เขาจะได้ไม่ต้องลำบาก เวลาผมสอน ผมจะคอยสังเกตว่าเด็กคนไหนมีนิสัยอย่างไร ถ้าเขามีปัญหาแล้วเขามาปรึกษาผม ผมก็จะช่วยแก้ปัญหาให้เขา เพราะไม่แก้ปัญหาให้เขา เขาก็อาจจะแก้ปัญหาผิด ถ้าเด็กคนไหนไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ผมก็จะบอกโทษของยาเสพติด และผมก็จะทำให้เขาไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดให้ได้ ถ้าเด็กคนไหนตั้งใจเรียนหรือตอบอะไรได้โดยที่ผมยังไม่ได้สอน ผมก็จะให้รางวัลเขา เด็กจะได้ตั้งใจเรียน ถ้าเด็กมีงานดีทำและไม่ตกงาน ผมก็จะดีใจมากที่เด็กที่ผมสอน มีงานทำ เพราะผมเคยให้ความรู้ และเขาก็นำความรู้ไปประกอบอาชีพได้ ถ้าผมได้เป็นครู ผมก็จะทำให้ดีสุด.”







เด็กชายจักรกฤษณ์ มณีรัตนสุบรรณ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/3 ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ รับเกียรติบัตร
และทุนการศึกษา 30,000 บาท






“คุณครู คือบุคคลที่มีเกียรติ คนให้ความเคารพนับถือ และที่สำคัญครูเป็นแม่พิมพ์ของชาติ เป็นผู้ให้ความรู้ แม้ยากลำบากครูก็ไม่ท้อ เพื่อให้ลูกศิษย์ของครูเป็นคนดีและยืนอยู่ในสังคมนี้ได้ด้วยขาของตัวเอง


หนูอยากเป็นครู เพราะคุณครูคนหนึ่งที่ทำให้หนูอยากเป็นเหมือนท่าน ท่านเป็นครูคนแรกที่สอนให้หนูรู้จักตัว "ก" หนูมีสายตาเลือนลาง หนูร้องไห้เพราะหนูเขียนไม่ได้ แต่ครูคนนี้ก็พยายามสอนหนู ทุกเช้าครูจะมารอหนู และจับมือหนูให้ลากเส้นเขียนตัวหนังสือทีละตัวๆ จนหนูทำได้ หนูคิดว่าถ้าหนูได้เป็นครู หนูจะเป็นครูฝ่ายปกครอง เพราะเด็กดีต้องเริ่มจากการมีระเบียบวินัย มีความประพฤติดี หนูจะสอนให้เด็กไม่ติดยาเสพติด ไม่เป็นโจร และเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพของประเทศชาติ


ดังนั้นเราควรเคารพและเชื่อฟังครู เหมือนกับครูเป็นพ่อแม่ของเรา ถ้าไม่มีครู เราก็เป็นคนโง่ เพราะครูสอนคนให้เป็นคน”







หมายเหตุจากจขบ. : รูปภาพและข้อมูลนำมาจาก เว๊ปไซต์ของมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยฯ


ผมก็แปลกใจเหมือนกันว่า ทำไมเด็ก ป.4 ตัวโตกว่าเด็กป.5





โดย: yyswim วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:0:11:00 น.  

 



เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ที่บ้านทิ้งกระดาษไปเยอะมากๆๆๆ
พอมาอ่านวันนี้....เสียดายค่ะ
ตอนที่จะทิ้ง ก็มองๆอยู่ว่าน่าจะทำอะไรได้มากกว่าเอาไปกองหน้าบ้าน ใครอยากเก็บก็เก็บไป
แต่ไม่รู้จะเอาไว้ทำไม ปลวกขึ้นบ้านเปล่าๆ
คราวหน้าคงไม่ทิ้งแล้ว
เดี๋ยวกระดาษก็มาอีกตรึมมมมค่ะ

ดี.ยังอ่านไม่ค่อยละเอียด
พรุ่งนี้ค่อยเข้ามาใหม่
เพิ่งอัพบล็อกเสร็จ ว่าจะนอนแล้ว
เห็นคุณสินอัพบล็อกเลยแวะมาราตรีสวัสดิ์นิดนึง

ถ้าแวะไปบล็อกดี.คืนนี้
ตรวจตัวผิดให้ด้วยน๊า อิอิ
ไม่ไหวตรวจแล้วค่ะ ตาจะปิดแร้ววววว


ฝันดีนะคะ






โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:0:26:43 น.  

 
โอ้ว.....


สาธุ


เออเฮียผมเคยไปโรงเรียนคนตาบอดที่เชียงใหม่อ่ะ

น้องๆแมร่งเก่งชิหยเรยย
มีพวกแบบว่าหูหนวกและตาบอดอ่ะ
เดินข้ามถนนได้เองเฉยเลยอ่ะ
เค้าเอามืออังๆยื่นๆไปบข้างหน้าแล้วรู้ได้ว่ารถมาหรือไม่มาอ่ะ
เก่งโคตรๆ
กรูล่ะงเลย


โดย: สันดานเสีย วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:0:51:19 น.  

 


คุณดี....ผมเข้าไปเยี่ยมบล๊อกเรื่องใหม่ของคุณดีแล้วครับ ..ตกปลาที่ภูกระดึงกำแพงเพชร


สันดานเสีย....ผมคิดอยู่เสมอว่า คนพิการมีบางสิ่งบางอย่างที่คนปกติอาจต้องอิจฉา




โดย: yyswim วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:1:46:53 น.  

 
ขอบคุณ คุณสินค่ะ

ที่เอาสาระดีๆ มาฝาก การใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดนี่น่าสนับสนุนมากๆ ค่ะ โดยเฉพาะการเอาไปใช้ให้เป็นประโยชน์ทางการศึกษา สร้างคนแบบนี้ ยิ่งคุ้มค่ามากๆ เลยค่ะ

ปอกลับจากอังกฤษ แล้วเกิดอาการวงจรร่างกายแปรปรวนค่ะ นอนไม่หลับ และตื่นสายมาก เพื่อนแซวว่าสงสัยจะ jet lag (เวลา ต่างกันตั้งหนึ่งชั่วโมง) แน่ะค่ะ ปอว่าคงจะเพราะไม่ได้นอนมากกว่า ตะลอนกันทั้งวัน หน้าตายังกะแรคคูน


คุณสินสบายดีนะคะ


โดย: ปอ (O_Sole_mio ) วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:4:10:36 น.  

 


ขอบคุณค่ะ
เช้านี้...มีความสุขกับชีวิต และ การทำงานนะคะ









โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:6:53:05 น.  

 
ของบางอย่างอาจไม่มีค่าสำหรับใครบางคน แต่ของบางอย่างอาจมีค่ามหาศาลสำหรับคนบางคน อ่านแล้วก็เพิ่งรู้เหมือนกันนะครับว่ากระดาษที่เหลือใช้ที่เราคิดว่าไร้ประโยชน์ รอวันทิ้งลงตระกร้า หรือชั่งกิโลขาย สามารถเอาไปใช้ประโยชน์ให้กับคนอีกกลุ่มที่เขาต้องการเอาไปใช้ประโยชน์อย่างยิ่งได้


โดย: ปืนแก๊ป วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:8:34:13 น.  

 
คุณสิน...

เราเคยคิดว่าตัวเองก็ใช้กระดาษคุ้มค่าอยู่แล้ว
เพราะใช้สองหน้าครบแล้ว...ก็ยังเอาไปทำกิจกรรมพับกระดาษกับเด็กๆได้อีก แต่นี่ก็ยังคุ้มเข้าไปอีก
ที่สำคัญ..มีค่ากับคนอื่นมหาศาล

ที่มูลนิธิคนตาบอด..เราสามารถไปช่วยงานได้หลายอย่างนะคะ แต่โดยมากก็จะช่วยอ่านหนังสือลงเทปให้ห้องสมุดของเขา ถ้าใครสนใจก็ลองเลือกหนังสือแล้วไปติดต่อดูค่ะว่า เล่มที่เราเลือกมีคนบันทึกเสียงไปหรือยัง

สำหรับคนหูหนวกก็เข้าไปทำกิจกรรมได้นะคะ
หรือไปเรียนภาษามือก็ได้..เคยเรียนแล้วค่ะ..สนุกดี
เคยอบรมละครให้เด็กหูหนวกด้วยค่ะ..มันมากเลย

นอกจากเพลงยิ้มสู้แล้ว
คุณสินน่าจะหาเพลงต้นชบากับคนตาบอดของเฉลียงมาใส่ไว้ด้วยนะคะ ไม่ใช่อะไรหรอก..อยากจะฟังด้วยน่ะ

"บอดก็เพียงสายตาเท่านั้น
แต่จิตใจก็ยังผูกพันความงาม.."





โดย: เกด (mrs.postman ) วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:9:51:40 น.  

 
แปลกใจ วันนี้บล็อกสั้นกว่าทุกครั้ง


จุแวะมาบอกว่า ร่ำไรคอนเสิร์ต ของ ลุงป้อม ลุงโต๊ะ จะจัดขึ้นที่สนามกีฬารัชมังคลา วันที่ 17 พ.ย. เปิดจองตั๋ว 29 ก.ย นี้ ค่ะ จุว่ามันจะต้องยิ่งใหญ่มากๆ



โดย: กระจ้อน วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:10:45:51 น.  

 
ตกลงเป็นเรื่องจริงหรือครับ เรื่องกระดาษที่ใช้แล้วสองหน้าเนี่ยครับ ตอนแรกที่ได้รับฟอร์เวิร์ดเมลมาก็ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่าจะนำไปพิมพ์อักษรเบรลให้คนตาบอดอ่านจริงๆ

ครึ่งที่เชื่อ ก็คือคิดว่า มันเป็นไปได้แน่ๆ เพราะเขาใช้การสัมผัสเอา คงไม่ต้องสนใจหรอกว่ามันมีลวดลายอะไรอยู่บนนั้น

ครึ่งที่ยังไม่เชื่อ ก็คือคิดว่า เนื้อกระดาษที่พิมพ์อักษรเบรลนั้น มันจะเหมือนกระดาษพิมพ์เขียนธรรมดา 70 กรัม หรือ 80 กรัม อย่างที่เราใช้อยู่หรือเปล่า มันน่าจะเหนียว (หนากว่า 80 กรัม) หรือไม่ เพราะต้องไปกดให้มันเป็นปุ่มนูนๆ ขึ้นมา

ทุกวันนี้ ผมเก็บกระดาษสองหน้าชั่งกิโลขายหมดเลย


โดย: คนทับแก้ว วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:10:54:40 น.  

 
emoemoตั้งใจมาขอบคุณสำหรับกำลังใจและความห่วงใยที่มีให้เราค่ะ ขอบคุณจริงๆ


โดย: เพียงแค่เหงา วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:11:46:46 น.  

 

ขอบคุณครับพี่ชาย...ที่นำสาระดีๆ มาฝากเหมือนเช่นเคย...คราก่อนผมตามเพิ่งอ่านเรื่องหยดน้ำได้ไม่นานหลังจากที่พยายามไปขุดอะไรเล่นอยู่สักพักเพื่อมองถึงความงดงามของธรรมชาติอันนี้...

ผมย้อนกลับมาตั้งท่าว่าจะมาเขียนทักทายพี่ชายก็ให้รู้ว่าพี่ชายอัพบล็อกใหม่แล้ว...ซึ่งบล็อกอันนี้นับว่าเป็นบล็อกที่เตือนใจได้เป็นอย่างดีว่ามีน้องๆ อีกมากมายที่จะได้รับประโยชน์จากการใช้ประโยชน์ที่บางครั้งเราฉีกและขว้างลงถังขยะที่เป็นสิ่งไร้ค่าที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ เลย

สำหรับผมใช้กระดาษไม่ค่อยเปลืองเพราะพยายามเก็บในรูปของไฟล์และพยายามพรินท์ย่อๆ ในแต่ละแผ่นของกระดาษ...คงด้วยเพราะข้างหนึ่งผมถูกฝึกเรื่องการใช้การหวงแหน และการเห็นคุณค่าของทรัพยากรด้วยครับ..

ผมจะมีโอกาสรวบรวมกระดาษและนำไปให้กับน้องๆ ที่มูลนิธิฯ เพื่อทำประโยชน์ดังที่พี่ชายนำมาฝากไว้ครับ...แต่ผมย้อนกลับไปมองกระดาษในรูปไม่รู้ว่าเป็นกระดาษของพี่สินหรือเปล่าครับ...ดูแล้วเป็นเนื้อหาที่ดีมากเลยนะครับ...ผมสนใจเรื่องการดื่มน้ำครับแต่พยายามหาอยู่ครับเผื่อจะได้ปรับนิสัยการดื่มน้ำของตัวเองบ้างที่ไม่รู้ว่าต้องกินมากหรือกินน้อยดี...

ขอบคุณอีกครั้งครับพี่ชาย...ผมหายหน้าไปบ้างเพราะกำลังมุกับการสอบที่จะมีในเร็วๆ นี้ครับ...


โดย: J.C. IP: 203.146.196.18 วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:14:06:22 น.  

 
ได้ดูในรายการจมูกมดเหมือนกัน เรื่องกระดาษหน้าที่สาม ที่ยังสามารถนำกระดาษที่ใช้แล้วสองหน้ามาให้คนตาบอดใช้ น้องๆโรงเรียนคนตาบอด ยังเขียนจดหมายจากกระดาษหน้าที่สามมาหาพิธีกรด้วย


โดย: coming soon (The Yearling ) วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:16:40:57 น.  

 
ไม่ได้แวะมาเยี่ยมนานสบายดีนะครับพี่
ลงชื่อเยี่ยมก่อนไว้มาอ่านใหม่


โดย: 90210 วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:19:16:06 น.  

 
โอ้โห ... สิ่งเหลือใช้ หรือว่าไม่จำเป็นสำหรับบางคน แต่กลับมีประโยชน์ต่อคนอีกกลุ่มหรือถือว่าเป็นอีกสังคมได้ดีเลยนะคะ ...

อ่านข้อมูลแล้วเตรียมส่งต่อให้เพื่อนค่ะ เพราะว่าเค้าทำงานบริษัท กระดาษเหลือใช้เยอะอาจจะพอช่วยเหลือได้บ้าง เราเป็นเพียงแค่คนส่งข้อความล่ะค่ะ เพราะอ่านแล้วมีประโยชน์ต่อคนในสังคมส่วนหนึ่งค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:20:22:41 น.  

 
อ่านแล้วรู้สึกตัวเองใช้อะไรไม่คุ้มค่าเลยอ่ะครับพี่ เป็นเรื่องที่มีสาระและมีประโยชน์มากๆ เหมือนเดิมเลยครับสิน

ต้องขออภัยด้วยนะครับพี่ที่ช่วงนี้ไม่ได้แวะมาเยี่ยมเยียนพี่เลย ยุ่งมากมายเลยครับ หวังว่าพี่สินสบายดีครับ


โดย: Due_n วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:20:26:46 น.  

 


คุณปอ.....ผมสบายดี พักผ่อนให้เยอะนะครับ ไม่งั้นจะเป็นหวัดง่าย ช่วงที่ร่างกายวีค

ดีใจด้วย ที่คุณปอได้เที่ยวอังกฤษและเที่ยวอย่างสุดๆ


คุณดี.....หวัดดีครับ ผมไม่ว่างเข้าบล๊อกวันกว่าๆ อุอุ


คุณปืนแก๊ป.....ความต้องการของคนแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน ..บางคนต้องการเพียงเล็กน้อย และต้องการในสิ่งที่คนอื่นไม่ต้องการ....แต่บางคน มีความต้องการที่ไม่สิ้นสุด ได้คืบอยากจะเอาศอก

ศึกษาคน และปฏิบัติต่อเขาให้ไม่เหมือนกัน อย่าใช้แสตนดาร์ดเดียว





โดย: yyswim วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:20:48:13 น.  

 


คุณเกต.....เรื่องอ่านหนังสือใส่ซีดี พอจะทราบครับ ...ของสมาคมคนตาบอดฯก็อยู่ใกล้ๆบ้าน แต่ไม่รู้ไง ยังไม่ยอมไปครับ

คล้ายๆกับไปวัด คือ ไม่ค่อยอยากไป คิดแต่ว่าทำดีอยู่แล้ว ไม่ต้องทำบุญก็ได้…


คุณจุ.....ห๊า!!! ร่ำไรคอนเสิร์ตจะจัดที่ราชมังคลา โอว์ จัดใหญ่มาก ขอบคุณนะครับที่บอกให้รู้ จะรีบไปจองวันต้นๆเลย งวดนี้ อยากจะนั่งอัฒจันทร์ แต่คงเอาที่ใกล้เวที


คนทับแก้ว.....ก่อนผมจะเขียนบล๊อก ผมได้โทร.ไปคุยกับคุณสมพงษ์(ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน)เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิฯครับ คุณสมพงษ์บอกว่าเป็นเรื่องจริง ที่ทางมูลนิธิต้องการกระดาษA4ที่ใช้แล้วทั้งสองหน้า(ตามเนื้อเรื่องที่เขียนไว้ข้างบน)

แต่ ณ เวลานี้ ทางมูลนิธฺอยากจะได้กระดาษที่ใช้แล้วเพียงหน้าเดียวมากกว่า เพราะมีผู้ใจบุญนำกระดาษที่ใช้แล้วทั้งสองหน้าไปบริจาคไม่ขาดสายจนมีเหลือเฟือ และกระดาษที่ใช้แล้วหน้าเดียวจะมีคุณภาพใช้งานสร้างอักษรเบรลล์ดีกว่ากระดาษใช้แล้วทั้งสองหน้า อีกทั้งเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิฯในช่วงนี้ไม่มีกระดาษจะใช้งานสอนและงานในสำนักงาน(กระดาษที่ใช้แล้วหน้าเดียว)





โดย: yyswim วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:21:07:40 น.  

 


คุณเพียง....เข้ามาเยี่ยม ขอบคุณครับ

ขอให้ปัญหาคลี่คลาย ปัญหาใหญ่ขอให้เป็นปัญหาแค่ปลายก้อยนะครับ


เจษ....เพิ่งรับปริญญายังอุ่นๆมือ.... อ้าว จะสอบอีกสาขาแร่ะ ขยันเนาะ


สุ่น....ผมไม่ทราบเลยว่ารายการจมูกมด ช่อง7 เคยนำเรื่องนี้มาออกตอนเช้า ...เป็นไง กระดาษที่มีอักษรเบรลล์ อ่านออกมั่งมั๊ย???





โดย: yyswim วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:21:16:19 น.  

 


90210….ครับ สบายดี ฝีมือเขียนยังไม่ก้าวหน้าไปไหน ฝีมือถ่ายรูปยิ่งระดับประถม โฮะโฮะ


คุณนิด....ถ้าจะส่งให้เพื่อนอ่าน ผมขอขอบคุณครับ แต่อยากจะขอให้ก๊อปเป็นลิ๊งค์ เพื่อว่าเพื่อนจะได้อ่านคอมเมนต์และตอบคอมเมนต์ทั้งหมดนี้ด้วย


ดิว.....งานยุ่งเหรอ? ถามจริง...งาน หรือเรียนต่อโท

พี่เอาใจช่วยครับ ไม่ต้องมาบ่อยนักก็ได้นะ





โดย: yyswim วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:21:22:47 น.  

 
เพิ่งรู้ว่ากระดาษก็มีหน้าที่สาม
เยี่ยมจริงๆ ครับ


โดย: พลทหารไรอัน วันที่: 1 ตุลาคม 2550 เวลา:17:50:16 น.  

 
ที่ทำงานมีกระดาษใช้แล้วทั้งสองด้านเยอะมาก รวบรวมไว้แล้ว อยากจะบริจาคให้กับน้องๆ จะทำอย่างไรดี เพราะถ้าส่งทางไปรษณีจะเสียเงินมาก อยากช่วยเหลือจริงๆแนะนำด้วยคะ


โดย: จิตอาสาเชียงใหม่ IP: 118.172.49.68 วันที่: 19 ตุลาคม 2552 เวลา:13:02:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

yyswim
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]





บล็อกสรรสาระนี้ จขบ.ไม่ได้เขียน-ไม่ได้ถ่ายภาพ-ไม่ได้อัพโหลดคลิปเอง หากแต่ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการบล็อก เสาะหาเรื่องดีๆ รูปสวยๆ คลิปแปลกๆ มาไว้ในบล็อก


ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยม ขอเชิญชมหรืออ่านตามสบาย ไม่ต้องคอมเมนต์ก็ได้ จขบ.ชอบการเข้ามาเยี่ยม แบบกันเอง ง่ายๆ สบายๆ




เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2548


เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2550 เวลา 23.30 น.


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม




Latest Blogs

New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add yyswim's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.