วัดพระบรมธาตุไชยา









วัดพระบรมธาตุไชยา




“ร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ” - คำขวัญของ จ.สุราษฎร์ธานี




“แหล่งธรรมะ” ที่เด่นดังมีชื่อเสียงของ จ.สุราษฎร์ฯนั้น นอกจากจะหมายถึง “สวนโมกขพลาราม”หรือ”วัดธารน้ำไหล”แล้ว ยังหมายถึง “วัดพระบรมธาตุไชยา” หรือ “วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร” รวมอยู่ในความหมายนี้ด้วย







เดิมที วัดพระบรมธาตุไชยา เป็นวัดราษฎร์(หมายถึงชาวบ้านเป็นผู้ทำนุบำรุงวัด).... เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2491 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล ทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ยกฐานะขึ้นเป็น พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ มีนามว่า “วัดพระธาตุไชยา” .....และต่อมาเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร ระดับเดียวกับ วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร, วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร, และ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ฯลฯ



วัดพระบรมธาตุไชยา เป็นวัดเก่าแก่มาก สังเกตได้จากโบราณวัตถุและโบราณสถานที่ยังปรากฏอยู่ในวัด ทำให้ทราบว่าวัดนี้มีมานานหลายยุคสมัยคือตั้งขึ้นแล้วร้างไป แล้วกลับฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ในพื้นที่เดิม








สมัยศรีวิชัย


วัดพระบรมธาตุไชยา มีองค์เจดีย์พระบรมธาตุแบบศรีวิชัย (หรือที่เรียกกันว่าแบบอินโดชวานีส ในทางโบราณคดี) ปรากฎอยู่เป็นปูชนียสถานสำคัญโดยมิได้รับการดัดแปลงเว้นแต่ตอนส่วนยอดเพราะได้หักพังลงมาและหายสาบสูญไป จึงทำขึ้นใหม่เป็นศิลปะแบบไทย ....มีรูปสำริด ของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ขนาดใหญ่สวยงามเป็นชิ้นเอกของประติมากรรมสมัยศรีวิชัย ซึ่งปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ ณ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระนคร ....มีองค์พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ขนาดย่อม รวมทั้งที่ทำด้วยศิลาอีกหลายองค์ มีมากกว่าในสถานที่ใดๆในประเทศไทย ....รวมทั้งเศษหักพังของโบราณวัตถุสมัยศรีวิชัยอีกหลายชิ้น ....จนเป็นที่สันนิษฐานว่าวัดพระบรมธาตุไชยามีความเจริญรุ่งเรืองอยู่ในสมัยศรีวิชัยระหว่าง พ.ศ. 1200 -1500 หรือเมื่อประมาณ 1,000 ปีที่แล้ว…...(เชิญอ่าน อาณาจักรศรีวิชัย )



พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์






สมัยสุโขทัย


มีพุทธศิลป์เป็นแบบสกุลช่างนครศรีธรรมราช โดยได้รับอิทธิพลจากพุทธศาสนาลัทธิเถรวาทแบบลังกาวงศ์ มีหลักฐานปรากฏเป็นใบพัทธสีมาคู่แฝดปรากฏอยู่รอบๆเขตพระอุโบสถเดิมของวัด ทำให้เชื่อได้ว่าสมัยสุโขทัยซึ่งอยู่ในระยะเวลาใกล้เคียงกับสมัยนครศรีธรรมราชหรืออาณาจักรตามพรลิงค์นั้น วัดนี้มีปรากฏขึ้นแล้ว



สมัยกรุงศรีอยุธยา


มีหลักฐานปรากฏมากมายกว่าสมัยใดคือ พระพุทธรูปภายในวัดเป็นพระพุทธรูปศิลาทรายแดง ซึ่งมีมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ มีขนาดโตกว่าคนธรรมดาลงมาถึงขนาดเท่าคนและย่อมกว่าคน แสดงให้เห็นความศรัทธาความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาในสมัยกรุงศรีอยุธยาปรากฏอยู่ในวัดแห่งนี้



เช่น พระพุทธรูป 3 พี่น้อง เป็นพระพุทธรูปศิลาทรายแดงสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาโดยฝีมือสกุลช่างไชยา สันนิษฐานว่าแต่เดิมบริเวณนี้คงเป็นวิหารแต่ชำรุดทรุดโทรมลงด้วยภัยธรรมชาติ จนเหลือแต่พระพุทธรูปประดิษฐานอยู่กลางแจ้งบนลานภายในกำแพงแก้วด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ...อาสน์เป็นของทำใหม่โดยยกให้สูงขึ้น











สมัยรัตนโกสินทร์


สันนิษฐานว่า วัดพระบรมธาตุไชยาคงจะรวมอยู่ในบรรดาสิ่งที่ถูกทำลายโดยกองทัพพม่าในสมัยรัชกาลที่ 1 จนกระทั่งร้างไปในที่สุด …และได้มาบูรณะขึ้นใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยพระชยาภิวัฒน์สุภัทรสังฆปาโมกข์ เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์เป็นพระครูรัตนมุนีศรีสังฆราชาลังกาแก้ว เจ้าคณะเมืองไชยา ระหว่าง พ.ศ. 2439 – 2453 ทำให้วัดพระบรมธาตุไชยาฟื้นคืนสภาพขึ้นมาอีกครั้ง



การบูรณะที่สำคัญ คือ การตกแต่งพระบรมธาตุเจดีย์แล้วฉาบปูนผิวบางๆทั่วทั้งองค์ พร้อมทั้งเสริมยอดที่หักหายไป มีการสร้างพระวิหารหลวงขึ้นใหม่ ณ ที่เดิม และสร้างพระวิหารคดหรือพระระเบียงรอบบริเวณล้อมองค์พระบรมธาตุเจดีย์และพระวิหารหลวง พระวิหารคดมีแปลนเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างยาวด้านละ 39 เมตร สูง 4 เมตร ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปสกุลช่างไชยา ขนาดและปางต่างๆ รวมทั้งสิ้น 180 องค์




























พระบรมธาตุไชยามีความสูงจากฐานเดิมถึงยอด 24 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมย่อเก็จ ขนาดฐานวัดจากทิศตะวันออกถึงทิศตะวันตกยาว 13 เมตร จากด้านเหนือถึงด้านใต้ยาว 18 เมตร .... ฐานพระบรมธาตุขุดเป็นสระกว้างประมาณ 50 ซ.ม. ลึกประมาณ 60 - 70 ซ.ม. จนเห็นฐานเดิมซึ่งก่อสร้างด้วยอิฐโบกปูนอยู่ต่ำกว่าพื้นดิน มีน้ำขังอยู่โดยรอบฐานตลอดปี บางปีในหน้าแล้ง รอบๆฐานพระบรมธาตุจะแห้ง แต่จะมีตาน้ำ พุขึ้นมาจนชาวบ้านพากันแตกตื่นถือว่าเป็นน้ำทิพย์ที่สามารถรักษาโรคภัยต่างๆได้ ต่อมาทางวัดได้ใช้ปูนซิเมนต์ปิดตาน้ำนั้นเสียเพื่อป้องกันผู้คนหลงงมงาย
















พระวิหารหลวง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของพระบรมธาตุไชยา ด้านหลังพระวิหารหลวงสร้างยื่นล้ำเข้าไปในพระวิหารคด ภายในพระวิหารหลวงประดิษฐานพระพุทธรูปใหญ่น้อยหลายองค์ศิลปะอยุธยาสกุลช่างไชยา





































ความสำคัญของวัด


วัดพระบรมธาตุไชยา เป็นพุทธสถานแห่งเดียวในประเทศไทยที่ยังรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของช่างสมัยศรีวิชัยได้อย่างสมบูรณ์ เป็นปูชนียสถานสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสุราษฎร์ธานี มานานนับ1,000 ปี ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญแก่วัดโดยประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานสำคัญของชาติ และยกฐานะวัดเป็นพระอารามหลวง



วัดพระบรมธาตุไชยา เป็นที่ประดิษฐานขององค์พระบรมธาตุไชยา ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ยอดองค์พระบรมธาตุ .....องค์พระบรมธาตุไชยาเป็นตราประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นเครื่องหมายบนผืนธงของจังหวัด และเป็นเครื่องหมายบนผ้าพันคอลูกเสือสำรองของจังหวัดสุราษฎร์ธานี



วัดพระบรมธาตุไชยา เป็นหนึ่งในสามของโบราณสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของภาคใต้ อันประกอบด้วย พระบรมธาตุไชยาจังหวัดสุราษฎร์ธานี พระบรมธาตุจังหวัดนครศรีธรรมราช และพระพุทธไสยาสน์ถ้ำคูหาภิมุขจังหวัดยะลา ….และครั้งหนึ่งท่านพุทธทาสภิกขุ เคยเป็นเจ้าอาวาส ณ.วัดพระบรมธาตุไชยาฯ







นมัสการพระบรมธาตุไชยา


29 กค.2458 - พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมานมัสการพระบรมธาตุไชยา เมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินมามณฑลปักษ์ใต้ และได้ทรงพระราชทานเงินจำนวน 1,000 บาท เพื่อการปฏิสังขรณ์วัด



23 พค. 2510 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินมาทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวิสาขบูชา และประทักษิณเวียนเทียน ณ วัดพระบรมธาตุไชยา



13 พย. 2512 สมเด็จพระภิคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ราชสุดา สิริโสภาพรรณวดี และ พระนางเจ้าสุวัทนาพระวรราชเทวี เสด็จถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ณ วัดพระบรมธาตุไชยา



23 สค. 2521 สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ(วาสน์ วาสโน) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก วัดราชบพิธ เสด็จมานมัสการพระบรมธาตุไชยา



4 กย. 2525 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร (เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ) ทรงยกสุวรรณฉัตรพระบรมธาตุไชยา ทรงเปิดพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติไชยา และทรงพระรานทานธงลูกเสือชาวบ้าน



13 สค. 2532 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จมานมัสการพระบรมธาตุไชยา



17 สค. 2532 สมเด็จพระญาณสังวร(เจริญ สุวฑฒโน) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก วัดบวรนิเวศวิหาร เสด็จมานมัสการพระบรมธาตุไชยา



10 พ.ศ. 2533 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาธินัดดามาตุ เสด็จมานมัสการพระบรมธาตุไชยา



7 มีค. 2534 สมเด็จพระญาณสังวร(เจริญ สุวฑัฒโน) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก วัดบวรนิเวศวิหาร เสด็จมานมัสการพระบรมธาตุไชยา



23 พค. 2534 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จมานมัสการพระบรมธาตุไชยา



14 มค. 2540 สมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จมานมัสการพระบรมธาตุไชยา



24 พค. 2541 สมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฒโน) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก วัดบวรนิเวศวิหาร เสด็จมานมัสการพระบรมธาตุไชยา









วัดพระบรมธาตุไชยาฯ ตั้งอยู่ที่ 50 หมู่ 3 ตำบลเวียง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ...อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอไชยา ประมาณ 2 กิโลเมตร ....อยู่ห่างจากสถานีรถไฟไชยา ประมาณ 1 กิโลเมตร ....และอยู่ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ไปทางทิศเหนือ ประมาณ 54 กิโลเมตร



หากขับรถยนตร์ไปจากกรุงเทพ พอถึงสี่แยกปฐมพร จ.ชุมพร ให้ขับไปทางเส้นทางที่จะไปจ.สุราษฎร์ฯ ถนนหมายเลข41(A2) เมื่อถึงระยะประมาณ 100 เมตร ก่อนหลักกิโลเมตรที่ 132 จะมีสี่แยกไชยา ให้เลี้ยวซ้าย ขับรถตรงไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร วัดพระบรมธาตุไชยา จะอยู่ทางขวามือ ภายในบริเวณวัดเป็นทั้งที่ตั้งของพระบรมธาตุไชยา โรงเรียนวัดพระบรมธาตุไชยา และ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอำเภอไชยา











yyswim







Create Date : 09 ธันวาคม 2551
Last Update : 9 ธันวาคม 2551 9:26:45 น. 15 comments
Counter : 7835 Pageviews.

 
ตามไปเที่ยวด้วยคนคะ หนูว่าหนูเคยไปตอนเด็กๆ

แต่หนูจำไม่ค่อยได้แล้วอะ

นึกถึงสุราษฏ หนูชอบนึกถึงสวนโมกกับเกาะสมุยอะ


โดย: น้องผิง วันที่: 9 ธันวาคม 2551 เวลา:11:23:39 น.  

 
พี่สิน วัดนี้สวยงามมากๆเลยคะ อี๊ยังไม่เคยไปเลยอะคะ ถ้ามีโอกาสก็อยากไปทำบุญที่นี่บ้างจังเลยคะ

แต่ตอนนี้มีบุญมาฝากอีกตามเคยคะ ไปทำบุญกับน้องๆที่ตาพิการและพิการซ้ำซ้อนที่ลพบุรีกะห้องหนอนมาเมื่อสิ้นเดือนที่แล้วคะ


โดย: eeh (คิตตี้น้อยสีชมพู ) วันที่: 9 ธันวาคม 2551 เวลา:12:20:07 น.  

 

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

วัดนี้สวยจังเลยครับ

มาบล็อคของพี่สินคราใดก็ไม่ผิดหวังเลยครับ ทั้งเนื้อหาสาระและรูปภาพครบถ้วนดีจังเลยครับ

ชอบครับ

อิอิ


โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) วันที่: 9 ธันวาคม 2551 เวลา:15:10:20 น.  

 
ถ้ามีโอกาสได้ไปเยือนจังหวัดเงาะอร่อยแล้ว
คงได้ไปเยือนวัดนี้แน่นอนค่ะคุณสิน ... วัดสวย แถมประวัติ
ก็มียาวนานด้วย แบบนี้ถ้ามีโอกาสได้ไปก็ต้อง
รีบคว้ากันไว้เร็วๆ เลยอ่ะคะ ... ยิ่งเห็นจากบล็อกคุณสินด้วย
เหมือนถูกกระตุ้นให้น่าเดินทางอย่างแรงค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 9 ธันวาคม 2551 เวลา:18:34:51 น.  

 
ตามไปเที่ยวชมวัดและไหว้พระด้วยครับ
วัดนี้ดูจากภาพแล้วมีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่างมาก


โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 9 ธันวาคม 2551 เวลา:21:20:44 น.  

 
วัดพระบรมธาตุไชยา มีประวัติที่น่าสนใจมากครับ
นานมาแล้ว ผมเคยตั้งใจจะไปที่วัดพระบรมธาตุไชยา วันหนึ่งได้ไปกับเพื่อนๆจริงๆ เมื่อถึววัด วันนั้นฝนตกหนัก และสมาชิกรีบกลับ เลยได้แค่วนรถรอบๆวัดครับ

ขอบคุณครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 10 ธันวาคม 2551 เวลา:11:16:09 น.  

 
บอกเล่าเรื่องราว ถ่ายทอดภาพถ่ายได้ดีจริงๆ ยอดเยี่ยมครับ


โดย: เขาพนม วันที่: 10 ธันวาคม 2551 เวลา:20:09:00 น.  

 
ข้อมูลดีมากๆ เลยครับคุณ
เดี๋ยวจะส่งให้ลูกอ่าน


โดย: คนขับช้า วันที่: 10 ธันวาคม 2551 เวลา:21:09:31 น.  

 
ตามมาเที่ยวเมืองร้อยเด้วยคนครับพี่.....

อยากไปเหมือนกันครับ
แต่ไม่ค่อยได้ลงใต้เท่าไหร่เลยครับ
แบบว่าเป็นคนกลัวน้ำ
ทางใต้น้ำเยอะ...กลัว...


โดย: นายรถซุง วันที่: 11 ธันวาคม 2551 เวลา:14:46:04 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

...แวะมาทักทายยามเย็น...

...ขอให้มีความสุขกับชีวิตมากๆ นะครับคุณสิน...


โดย: doctorbird วันที่: 11 ธันวาคม 2551 เวลา:16:34:32 น.  

 
ไม่ได้แวะมาน๊านนน นาน
ข้อมูลยังคงเยอะ แน่นเอี๊ยด เหมือนเดิม

จะว่าไปแล้ว จ.สุราษฎร์ฯนั้น ผมก็มีโอกาสได้ผ่านไปบ่อย (ตอนขับรถกลับบ้าน)
แต่ไม่เคยได้ไปวัดนี้เลยซักครั้ง วันหลังถ้ามรโอกาสคงต้องแวะกราบไว้ ซ่ะหน่อยแล้ว โดยเฉพาะพระพุทธรูป 3 พี่น้อง ยังแปลกใจอยู่ ว่าทำไมถึงมีองค์หนึ่งเป็นสีออกดำๆแดงๆ อ่านข้อมูลแล้วเข้าใจว่าทำมาจาก ศิลาทรายแดง แล้วอีก 2 องค์ที่สีขาวๆล่ะ ?

ปล. น่าจะมีรูปแผนที่ซักหน่อยก็ดีนะท่านสิน
แ้ว่าจะมีที่อยู่บอกเป็นข้อความ แต่ผมว่าถ้าเป็นรูปแผนที่ มันจะง่ายต่อการดูและเข้าใจนะ

ปล.2 เห็นด้านข้างมี blog เรื่อง น้ำตกกรุงชิงด้วย
เด๊่ยวต้องเข้าไปอ่านซ่ะหน่อยแล้ว แบบว่าเคยไปมา แล้วก็ชอบมากด้วย


โดย: merf1970 วันที่: 12 ธันวาคม 2551 เวลา:8:59:30 น.  

 
เข้าไปดูเรื่อง น้ำตกกรุงชิงมาแล้ว

จริงๆแล้วก่อนขึ้นไปน้ำตก ควรจะเอายาเส้น ชุบน้ำแล้วทาบริเวณขาให้ทั่ว เพราะว่าเวลาทากเกาะ มันจะดูดเอาน้ำยาเส้นที่เราทาไว้ ซักพักมันก็เมา มันก็จะหลุดออกเอง อีกอย่างไม่ควรใส่ถุงเท้าถ้าคิดว่าถุงเท้าไว้กันทากก็คิดผิดแน่ครับ เพราะเราจะมองไม่เห็นเวลาตัวทากเกาะ ตอนที่ผมไปนี่ ผมต้องคอยเป็นคนหยิบตัวทากออกจากขาสาวๆน่ะครับ สาวๆทากเกาะแล้วไม่กล้าหยิบ

ปล. รูปน้ำตกหนานฝนแสนห่า นั้นเคยได้เป็นรูปตีพิมพ์ลงในแบงค์พัน อยู่ยุคหนึ่งด้วยนะครับ


โดย: merf1970 วันที่: 12 ธันวาคม 2551 เวลา:9:13:38 น.  

 
สวัสดีค่ะ พักนี้ไม่เห็นแวะไปที่บล๊อกย่าเลยจ๊ะ
ให้คนแก่มาหาเองนี่บาปนะจะบอกให้ 555
สงสัยจะเที่ยวเพลิน


โดย: ดา ดา วันที่: 12 ธันวาคม 2551 เวลา:12:33:31 น.  

 
รักนะวัดธาตุ99999999


โดย: ก๊วยเจ๋ง IP: 118.173.16.157 วันที่: 28 เมษายน 2552 เวลา:9:37:11 น.  

 
เอกลักษณ์ของศรีวิชัย


โดย: kyo IP: 114.128.151.179 วันที่: 21 มิถุนายน 2552 เวลา:13:46:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

yyswim
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]





บล็อกสรรสาระนี้ จขบ.ไม่ได้เขียน-ไม่ได้ถ่ายภาพ-ไม่ได้อัพโหลดคลิปเอง หากแต่ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการบล็อก เสาะหาเรื่องดีๆ รูปสวยๆ คลิปแปลกๆ มาไว้ในบล็อก


ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยม ขอเชิญชมหรืออ่านตามสบาย ไม่ต้องคอมเมนต์ก็ได้ จขบ.ชอบการเข้ามาเยี่ยม แบบกันเอง ง่ายๆ สบายๆ




เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2548


เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2550 เวลา 23.30 น.


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม




Latest Blogs

New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add yyswim's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.