ไข่ไก่
1. เลือกไข่ดูที่เปลือก ควรเลือกเปลือกไข่ที่มีนวลคล้ายฝุ่นแป้ง หุ้มอยู่โดยรอบ จับแล้วสากมือ ไม่ลื่น เพราะเป็นสภาพคล้ายกับ ไข่ที่เพิ่งออกมาจากแม่ไก่ใหม่ๆ หากเปลือกไข่ลื่น แสดงว่าเป็นไข่เก่า
ควรเลือกไข่ที่เปลือกผิวสะอาดดีกว่าผิวสกปรก เพราะเปื้อนดิน เปื้อนมูลไก่ และเลือกไข่ที่เปลือกไม่มีรอยแตกร้าว เพราะแสดงว่าเป็นไข่ที่ออกมาจากไก่ โดยที่สารอาหารภายในยังไม่ซึมออกมา หรือยังไม่ถูกปนเปื้อนจากภายนอก
ไข่ที่ยังสด หากส่องไข่ทั้งฟองดูกับแสงแดด จะมีลักษณะโปร่งแสง สีออกแดงเล็กน้อย เพราะสีของไข่แดงมีการกระจายตัว แต่หากไข่แดงเริ่มมีเงาดำคล้ำ แสดงว่าเป็นไข่เก่า
ปกติเปลือกไข่ไก่จะมีหลายสี เช่น สีขาว สีครีม สีน้ำตาล สีของเปลือกไข่จะเลือกสีอะไรก็ได้ เพราะขึ้นอยู่กับพันธุกรรมของแม่ไก่ และอาหารที่แม่ไก่กิน
2. เลือกไข่ดูที่น้ำหนัก ดีกว่า ดูที่ขนาดของฟอง เพราะไข่ไก่ที่ขนาดฟองใหญ่ จะมี ไข่แดงใหญ่กว่าไข่ที่มีขนาดเล็ก เพียงเล็กน้อย
แต่ที่ฟองใหญ่กว่าจะเป็นไข่ขาวเสียเป็นส่วนใหญ่ พูดง่ายๆก็คือ ซื้อไข่ฟองใหญ่ราคาแพง เพื่อจะซื้อไข่ขาวเพิ่มขึ้นนั่นเอง
ควรเลือกไข่ที่มีน้ำหนัก ดีกว่า เลือกไข่ที่มีน้ำหนักเบา เพราะไข่ที่มีน้ำหนัก แปลว่าไข่ยังสด ยังมีสารอาหารเต็มที่ภายในฟอง ความชื้นและสารอาหารยังไม่หายไป
หากจะทดสอบโดยการแช่น้ำ ไข่สดจะจมน้ำ ไข่เก่าจะลอยอยู่ใต้ผิวน้ำ แต่ไข่ที่เสียจะลอยอยู่เหนือน้ำ
หากจะทดสอบโดยการเขย่าดูเนื้อใน ไข่สดเมื่อเขย่าดู เนื้อในจะไม่คลอน ภายในจะแน่น และมีน้ำหนัก ถ้าเนื้อในของไข่คลอน แสดงว่าเป็นไข่เก่า
3. เลือกไข่ดูที่ไข่แดง (ถ้าแม่ค้าตอกไข่ให้ดู) ไข่แดงของไข่ไก่ที่ดีจะมีสีเหลืองส้ม เพราะเป็นไข่จากไก่ที่กินอาหารประเภทข้าวโพด กากถั่วเหลือง ปลาป่น ไข่แดงของไข่ไก่ประเภทที่สีส้มสดมากๆ ไม่ควรเลือกซื้อ
เพราะผู้เลี้ยงใส่สารสี คือ คลอโรฟิลด์เรดในอาหารไก่ เพื่อให้ไข่แดงออกมาเป็นสีส้มสดๆ
ไข่แดงที่ดี ควรจะมีลักษณะกลม นูน ส่วนไข่ขาวที่ดีควรจะข้นเกาะตัวกัน
1. เมื่อไก่ออกไข่มาใหม่ๆ บนเปลือกไข่จะมีนวลคล้ายฝุ่นแป้ง หุ้มอยู่โดยรอบ ฝุ่นแป้งนี้จะช่วยปิดรูพรุนเล็กๆ ที่อยู่โดยรอบเปลือกไข่ ซึ่งตาเรามองไม่เห็น ทำให้เชื้อโรคหรือกลิ่นต่างๆ ซึมผ่านเข้าไปในฟองไข่ไม่ได้
ฉะนั้น เมื่อซื้อไข่มา จึงไม่ควรล้างไข่ เพราะจะทำให้ฝุ่นแป้งหลุดออกไป เป็นการเปิดรูพรุนทำให้เชื้อโรคผ่านเข้าไปได้
แต่หากเห็นว่าเปลือกไข่สกปรกมาก และต้องการเช็ดทำความสะอาดก่อนนำไปเก็บ ก็อาจใช้ผ้านุ่มหรือฟองน้ำ ชุบน้ำธรรมดาบิดหมาด เช็ด แล้วรีบเช็ดแห้ง จากนั้นอาจทาน้ำมันพืชเพียงบางๆโดยรอบเปลือกไข่ เพื่อปิดรูพรุนไม่ให้อากาศเข้า และน้ำในไข่ไม่ระเหยออกมา เพื่อไข่จะได้ไม่เก่าเร็วเกินไป
2. คนที่ชอบดูหนังสือตกแต่งบ้าน อาจจะเคยเห็นไข่วางอยู่ในตะกร้า วางไว้ที่มุมนั้นมุมนี้ของครัว ดูแล้วก็สวยงามดี จึงคิดจะทำตามบ้าง ขอบอกว่าถ้าไม่ได้ตั้งใจจะโชว์ไข่ หรือจะถ่ายรูปไข่ การวางไข่ไว้ในตะกร้าอย่างนี้ ไม่ควรทำ
เพราะไข่ที่เก็บไว้ ณ อุณหภูมิห้อง ภายในเวลา 1 วันจะสูญเสียความสดไป เท่ากับไข่ที่เก็บไว้ในตู้เย็นเป็นเวลาถึง 1 สัปดาห์ ทีเดียว
(รู้ไว้ใช่ว่า : ฟาร์มใหญ่ๆ เมื่อเขาเก็บไข่ไก่มาจากฟาร์ม เขาจะเก็บไข่ไก่ ไว้ในห้องเย็น อุณหภูมิห้อง 18.3 องศาC สำหรับห้องในบ้านที่เปิดแอร์ อุณหภูมิจะอยู่ประมาณ 25 องศาC จึงมีความเย็นไม่พอจะเก็บไข่ไก่ครับ ส่วนการฟักไข่เป็นลูกไก่นั้น ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 21 วัน ฟาร์มใหญ่ๆเขาจะใช้อุณหภูมิของตู้ฟัก 37.7 องศาC ครับ)
และแม้ว่าจะเก็บไข่ไว้ในตู้เย็นที่บ้านแล้ว แต่ก็ควรนำไข่ฟองเก่าในตู้เย็น มาปรุงเป็นอาหารก่อนไข่ฟองใหม่ที่เพิ่งซื้อมา ปกติไข่ที่เก็บในตู้เย็น ควรจะรับประทานให้หมดภายใน 30 วัน ถ้าเก็บนานกว่า 30วัน ไข่จะด้อยคุณภาพลง
3. การจัดวางไข่ ควรวางอย่างระมัดระวัง และเบามือ ในช่องวางไข่ในตู้เย็น ให้วางเอาด้านแหลมลงในแต่ละช่อง ให้ด้านป้าน หงายขึ้น
เพราะไข่แดงซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าไข่ขาว จะลอยขึ้นบริเวณด้านป้าน บริเวณช่องอากาศว่างภายในไข่ และไม่ไปกระทบกับเปลือกไข่ ถ้าวางไข่โดยนำส่วนด้านป้านคว่ำลง เมื่อไข่แดงลอยขึ้น ไข่แดงจะติดกับเปลือกไข่ ฉะนั้นเวลาต่อยไข่จะทำให้ไข่แดงแตกง่าย
4. หากฟองไข่เกิดร้าวหรือแตก ขณะจัดเก็บไข่ ซึ่งตอนนั้นยังไม่ต้องการจะใช้ไข่ปรุงอาหารหรือทำธุระอย่างอื่น
ควรต่อยไข่เก็บไว้ในภาชนะแล้วปิดฝาให้สนิท เก็บไว้ในตู้เย็น ไม่ควรทิ้งไข่ค้างไว้ในฟองไข่ที่ร้าวหรือแตก หรือใส่ไข่ไว้ในถ้วยที่ไม่มีฝาปิด เพราะจะทำให้เชื้อโรคซึมผ่านเข้าไปในไข่ได้ และความชื้นจะระเหยออกไป
การจัดเก็บไข่ในที่ปิดมิดชิดจะสามารถเก็บไข่แดงไข่ขาว ไว้ได้นาน 2 - 3 วัน แต่ถ้าแยกไข่ขาวออกจากไข่แดงเสียก่อน เฉพาะไข่ขาวจะเก็บไว้ได้นานราว 8 - 10 วันทีเดียว
Create Date : 04 พฤษภาคม 2548 |
Last Update : 4 พฤษภาคม 2548 15:08:42 น. |
|
20 comments
|
Counter : 2790 Pageviews. |
|
|
|
กินไข่ แล้วได้อะไร?
ไข่ 1 ฟองประกอบด้วย เปลือกไข่ ไข่แดง และไข่ขาว
ในไข่ขาว มีโปรตีนซึ่งเป็นโปรตีนที่สมบูรณ์ คือมี กรดอมิโน ที่จำเป็นอย่างครบถ้วน ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง
ส่วนไข่แดงมีทั้ง ไขมัน วิตามิน และแร่ธาตุ
วิตามินที่พบใน ไข่แดง คือวิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี วิตามินเค และวิตามินบีรวม
ส่วนวิตามินซี จะมีเฉพาะช่วงที่ตัวอ่อนกำลังเริ่มเจริญเติบโต เท่านั้น
สำหรับแร่ธาตุที่พบในไข่แดง คือ กำมะถัน โปแตสเซียม โซเดียม แคลเซียม แมกนีเซียม และเหล็ก
ไข่จึงเป็นอาหารที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง นักโภชนาการ จึงนิยมใช้ไข่เป็นมาตรฐาน ในการตรวจสอบคุณภาพของโปรตีนของอาหารอื่นๆ กับไข่
และเนื่องจากไข่ไก่ มีคุณค่าทางโภชนาการและราคาถูก หากเทียบกับเนื้อสัตว์ นักโภชนาการ จึงแนะนำให้ใช้ไข่ไก่เป็นอาหารเสริมสุขภาพ สำหรับทารถอายุ 5 เดือนขึ้นไป
ส่วนเด็กวัยเรียนจนถึงวัยผู้ใหญ่ ก็แนะนำให้กินไข่ได้ทุกวัน วันละ 1 ฟอง
สำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ที่เสี่ยงต่อภาวะไขมันในเลือดสูง ก็แนะนำให้กินไข่ได้สัปดาห์ละ 2-3 ฟอง เพราะไข่แดงมีคลอเลสเตอรอลสูง แต่ถ้ากินเฉพาะไข่ขาว ก็สามารถกินได้ทุกวัน