เรื่องใกล้ตัว
เรื่องใกล้ตัว
# 1 ดูแลตัวเองแบบง่ายๆ
1. ดวงตา
การนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ ควรนั่งห่างประมาณ 20-30 นิ้ว(ประมาณ 2 - 2 ฟุตกว่า) จอคอมพิวเตอร์ ควรจะอยู่ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 20-26 องศา (จอคอมพิวเตอร์ อาจจะมีฟิล์มกรองแสง) จัดเอกสารที่จะต้องใช้ดูประกอบ ไว้ใกล้กับจอ เพื่อลดการส่ายศีรษะไปมา และลดการเปลี่ยนระยะดูของสายตาในระยะที่ต่างกันมาก และควรพิจารณาการจัดแสงให้เหมาะสมและไม่มีแสงสะท้อนเข้าจอ
หากต้องนั่งหน้าจอนานๆ ควรจะพักสายตาบ้าง อาจจะหลับตา เปลี่ยนไปดูวิวไกลๆ หรือลุกออกเดินเพื่อผ่อนคลายอิริยาบถไปด้วย หรือเปลี่ยนไปทำงานอย่างอื่นบ้าง
หากมีฝุ่นเข้าตา หรือเคืองตา ไม่ควรจะขยี้ตา ควรจะใช้น้ำสะอาดล้างตา หรือใช้ผ้าสะอาดนุ่มเช็ดตาแทน (เช่น ใช้ผ้าเช็ดหน้า ที่สะอาดนุ่ม เลือกด้านในที่ยังไม่ได้ใช้ มาเช็ด) หากต้องอยู่กลางแดดนานๆ ควรสวมแว่นกันแดด
ไม่ควรนอนน้อยเกินไป เพราะดวงตาจะไม่ได้พักผ่อนเต็มที่ หลังตื่นนอน ควรจะใช้มือนวดบริเวณขมับทั้งสองข้างช้า ๆ เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อรอบดวงตา ได้รับการผ่อนคลาย
002
2. ใบหน้า ควรล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดและโฟมล้างหน้าที่เหมาะกับใบหน้า ก่อนออกจากบ้านควรทาครีมป้องกันแสงยูวี และควรทาครีมก่อนนอนที่เหมาะสม เพื่อคืนความชุ่มชื้นให้ใบหน้า
ไม่ควรนอนคว่ำหน้าตลอดทั้งคืน เพราะจะทำให้เกิดรอยยับบนใบหน้า เพราะหากทำนานๆเข้าจะเกิดรอยเหี่ยวย่นก่อนวัยอันสมควร ควรจะเปลี่ยนนิสัย มานอนตะแคงหรือนอนหงาย แต่ถ้ารู้สึกหนาวก็ห่มผ้าหรือกอดหมอนข้างแทน จะดีกว่า
003
3. ฟัน ควรแปรงฟันตอนเช้า ก่อนนอน และหลังรับประทานอาหาร โดยเฉพาะเมื่อรับประทานของหวาน ช็อคโกเล็ต และลูกอม(ถ้าทำได้) หากเป็นไปได้ควรจะใช้ไหมขัดฟัน น้ำยาบ้วนปาก เข้าไปเสริมการแปรงฟัน จะช่วยทำความสะอาดฟันได้ดียิ่งขึ้น แต่หากทำไม่ได้ ก็ควรจะบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าๆแทน
4. การนั่ง
ไม่ควรนั่งท่าใดท่าเดียว นานๆ เช่น 1 ชั่วโมง ควรจะเปลี่ยนท่านั่งบ้าง หรือลุกขึ้นเดินบ้าง เพื่อไม่ให้เลือดคั่ง เพื่อไม่ให้ปวดเมื่อย หรือเป็นเหน็บชา
เก้าอี้ที่ดี ควรจะมีพนักหลังสูงเต็มแผ่นหลัง ควรปรับพนักหลังให้เอนประมาณ 120 องศา(ไม่ควรตั้งฉาก) และควรจะรองรับตั้งแต่บริเวณเอว
ท่านั่งที่ดี คือ น่องตั้งฉากกับต้นขา ต้นขาขนานกับพื้น เข่าควรอยู่ห่างจากเบาะประมาณ 2-3 นิ้ว เข่าอยู่แนวระนาบเดียวกับสะโพก ควรปรับความสูงของเก้าอี้ ให้เท้าวางบนพื้นได้พอดี หากเก้าอี้หนัก ควรจะมีลูกล้อที่ขา
ข้อสำคัญ ไม่ควรจะนั่งงอตัว หลังโก่ง ควรฝึกนิสัยให้นั่งตัว หลังตรงบ่อยๆ เพื่อหลังของท่านจะได้ไม่ปวด
5. มือ
ดูแลมือของท่านด้วยการล้างมือบ่อยๆ อย่างถูกวิธี ด้วยสบู่ที่ไม่มีฤทธิ์ด่างรุนแรง(สบู่เด็ก) เช็ดมือด้วยผ้าสะอาดนุ่ม ไม่ควรจะปล่อยมือให้แห้งเอง หรือเช็ดกับกระโปรงกางเกง
ก่อนนอน ควรจะทาเบบี้ออยสักครั้ง เพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้กับมือ หรืออาจจะทาบ่อยๆหากสะดวกที่จะทำ ควรดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย เพื่อผิวหนังจะได้ชุ่มชื้น ระมัดระวังไม่ให้มือและเล็บบาดเจ็บและเป็นอันตราย เช่น ห้อเลือด โดนของมีคม โดนความร้อน โดนสารเคมี ซึ่งควรจะหาอะไรป้องกันก่อนจะเกิดเหตุ
6. หัวใจ / ปอด
การออกกำลังกายแนวแอโรบิค เป็นประจำ จะช่วยให้ระบบหัวใจและปอดแข็งแรง ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีคลอเรสเตอรอล ควรดื่มนมสดชนิดไขมันต่ำทุกวัน(ถ้าเป็นไปได้) เพราะวิตามินดีจากนมสด จะช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูง และป้องกันโรคหัวใจได้
ควรเลิกสูบบุหรี่ และรับประทานอาหารที่มีวิตามินและเกลือแร่ประเภท ผักขม ผักใบเขียว ถั่ว ข้าวกล้อง ฯลฯ เพื่อจะช่วยทำให้ ห่างไกลจากมะเร็งปอด
004
005
006
7. ตับ ถ้าท่านเป็นนักดื่ม ควรจะลดปริมาณการดื่มลง และก่อนที่จะดื่มทุกครั้ง ควรจะรับประทานอาหารที่มีโปรตีน และโดยเฉพาะพวกผักและผลไม้ ซึ่งมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่จะทำให้ตับมีการฟื้นฟูและแข็งแรงขึ้นภายหลัง
007
8. กระเพาะอาหาร ไม่ควรจะรับประทานอาหารจนอิ่มเกินไป(กระเพาะคราก) ควรจะรับประทานแค่ พอรู้สึกอิ่ม ไม่ควรจะรับประทานอาหารย่อยยาก หมักเน่าเสีย และไม่สะอาด
หลังรับประทานอาหาร ควรจะมีเวลานั่งพักเล็กน้อย ไม่ควรจะนอนหลับทันที หรือออกกำลังกายหนักทันที เพราะเป็นเวลาที่กระเพาะอาหารกำลังย่อยอาหาร
008
9. สมรรถภาพทางเพศ ถ้าอยากจะเป็นขุนศึก อาวุธประจำกายของท่าน ควรจะดูแลรักษาให้สะอาด และไม่ควรจะเข้าไปในถ้ำที่สกปรกและเสี่ยงอันตราย
ถ้าอยากจะให้นกเขาขัน แบบแข็งแรง ควรจะออกกำลังบ่อยๆ โดยการยักย้ายส่ายสะโพก เหมือนท่าเล่นฮูลาฮุป(กรุณาทำ ในสถานที่ที่เหมาะสม) วันละประมาณ 5-10 นาที เพราะจะช่วยทำให้กระดูกเชิงกรานของท่านแข็งแรง มีความยืดหยุ่น และอาวุธของท่านได้ผ่อนคลายด้วย ซึ่งจะมีผลต่อสมรรถภาพทางเพศ
ถุงอัณฑะ เหตุที่ต้องออกมาอยู่นอกร่างกาย ไม่เก็บไว้ในร่างกาย ก็เพราะอุณหภูมิในร่างกายคนเราร้อน ไม่เหมาะกับการผลิตเชื้ออสุจิ ร่างกายจึงนำถุงอัณฑะมาผลิตเชื้ออสุจิภายนอก แล้วนำไปเก็บภายในรอการส่งต่อ อีกครั้ง ฉะนั้นจึงควรจะหลีกเลี่ยงการนั่งในที่ร้อน หรือการวางของร้อนอยู่บนตัก ครั้งละนานๆ เช่น ขี่จักรยานยนต์ วางโน๊ตบุ๊คบนตัก เพราะหากถุงอัณฑะร้อนบ่อยๆ สมรรถภาพการผลิตเชื้ออสุจิที่แข็งแรง ก็จะไม่เกิดขึ้น
009
10. ขา
ระมัดระวังอย่าให้อ้วนจนเกินไป ควรออกกำลังกายขาบ้าง เช่น เดินขึ้นบันได กระโดด วิ่ง ว่ายน้ำ หรือเต้นรำ อย่าเอาแต่นอนและชี้นิ้วสั่งการ
ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ที่ไม่สามารถออกกำลังกายขาได้ ขาจะหมดเรี่ยวแรงลงไปเยอะ ยิ่งถ้าหากนอนบนเตียงอยู่เป็นแรมปี ขาก็จะลีบเล็กลงด้วยซ้ำ การออกกำลังขาเดินไปเดินมาทุกวัน ขาก็จะแข็งแรง
แต่หากวันใด ใช้งานขาอย่างหนัก จนเมื่อยล้าระบม ก็ควรจะพักผ่อนขา หยุดใช้งานขาเป็นระยะเวลาหนึ่งๆ และอาจจะยกขาให้สูงเล็กน้อยขณะนอน เพื่อให้ขาได้พักผ่อนเต็มที่
เมื่ออาบน้ำ ควรจะขัดถูเหงื่อไคลที่ขาบ้าง ควรจะล้างเท้าล้างขาบ้างเมื่อกลับมาจากข้างนอก บางคนจะให้ขาพักผ่อน โดยการนวดขาและนวดเท้า ก็ยังมี
11. จิตใจ
ทำอย่างไรไม่ให้เครียด ขอเชิญท่านอ่านจากผู้เชี่ยวชาญ ที่เขียนไว้ ใน คู่มือคลายเครียด ของ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กดที่นี่
010
# 2 สถานที่ที่มีเชื้อโรคเยอะ
1. ห้องน้ำสาธารณะ
ปกติ คนเราจะไม่ค่อยติดเชื้อโรคจากการนั่งบนฝาชักโครก หรือการยืนปัสสาวะ เพราะแม้ว่าบริเวณนั้นจะสกปรกมาก แต่ก็จะเข้าร่างกายได้ยาก
เชื้อโรคที่คนเราติดจากห้องน้ำได้มาก ก็คือ เชื้อโรคที่ทำให้ท้องเสีย เพราะเมื่อมือขอท่านไปจับต้องสิ่งสกปรกในห้องน้ำ เช่น ก๊อกน้ำ ลูกบิดประตู ประตู หรือสิ่งของโน่นนี่ ในห้องน้ำ แล้วมาหยิบของกินเข้าปาก(รวมทั้งนำมือมาเช็ดตา แคะจมูก) ตอนนี้แหละที่เชื้อโรคจะเข้าร่างกาย จึงควรที่จะล้างมือให้สะอาดทุกครั้งเมื่อใช้ห้องน้ำสาธารณะ แล้วเช็ดให้แห้งด้วยวัสดุสะอาด หลังจากที่ล้างมือแล้ว พยายามอย่าจับอะไรในห้องน้ำอีกหากไม่จำเป็น
2. โรงพยาบาล
โรงพยาบาลเป็นสถานที่ที่คนป่วยหลายโรคมารวมตัวกัน รวมทั้งคนป่วยที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อ บริเวณที่ง่ายต่อการติดเชื้อ เช่น บริเวณห้อง ICU ห้องผ่าตัด ตามถังขยะ ตู้โทรศัพท์ ราวบันได ปุ่มลิฟท์ หรือตามเก้าอี้ที่คนป่วยนั่ง
หากรู้ว่าร่างกายตัวเองอ่อนแอ ควรจะหลีกเลี่ยงที่จะไปเยี่ยมคนไข้อื่น และไม่ควรจะนำเด็กเล็กไปโรงพยาบาล เพราะเด็กเล็กจะมีภูมิต้านทานต่ำ และซน จับต้องโน่นนี่ แล้วอาจจะนำนิ้วมือเข้าปากได้
ควรจะล้างมือทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำในโรงพยาบาล เพื่อบรรเทาเชื้อโรคที่ติดมากับมือ และควรจะรีบอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อกลับถึงบ้าน ...ก่อนที่จะปรุงอาหาร หรือดูแลเด็กเล็กและผู้สูงอายุ
011
3. รถสาธารณะ
บนรถสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นรถบีทีเอส รถเมล์ รถทัวร์ รถไฟ รถแท๊กซี่ หรือรถลีมูซีน ไม่ว่าจะเป็นรถติดแอร์หรือไม่ก็ตาม จะมีฝุ่นและเชื้อโรคมากชนิด ทั้งในอากาศ บนเก้าอี้ ที่ราวจับต่างๆ และที่ประตูรถ ควรระมัดระวังให้มาก ไม่ใช้มือขยี้ตา ไม่ใช้มือหยิบจับอาหารเข้าปาก แคะจมูกหรือแคะหู ถ้ามีโอกาสควรจะล้างมือล้างมือให้สะอาดโดยเร็ว ทันทีที่ถึงที่หมาย
4. ร้านอาหารนอกบ้าน
แต่ละร้านอาหารจะมีฝุ่น แมลงสาบ หนู และแมลงวันไม่มากก็น้อย ตลอดจนผู้ปรุงอาหาร ผู้เสิร์ฟอาหาร ที่อาจจะหยิบจับ เกา ไอ จาม จนทำให้อาหารสกปรกก่อนจะนำมาเสิร์ฟ
จึงควรที่จะเลือกร้านอาหารที่สะอาด และคุ้นเคย ควรจะเลือกสั่งอาหารที่ปรุงใหม่ๆ และไม่สุกดิบ ควรจะเลือกสั่งเครื่องดื่มที่เปิดขวดใหม่ๆ และหากทางร้านมีให้บริการน้ำร้อนลวกภาชนะ ก็ควรจะใช้บริการ
5. โรงหนัง
โรงหนังเป็นที่ๆคนมากหน้าหลายตา มานั่งรวมกันอัดกันในที่แคบๆ อากาศไม่ถ่ายเท เป็นเวลามากกว่า 1 ชั่วโมง
หากรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่สบายครั่นเนื้อครั่นตัว ไม่ควรจะไปดูหนัง ควรจะไปดูหนังในวันที่แข็งแรงจะดีกว่า ขณะดูหนังไม่ควรจะขยี้ตา แคะจมูก เกาผิวหนัง หากสะดวกที่จะล้างมือบ่อยๆ ก็ควรจะทำ และเมื่อกลับถึงบ้านควรจะอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที
หากไม่จำเป็น ไม่ควรจะนำเด็กเล็ก เข้าไปดูหนังกับตน ทางที่ดีควรจะเช่าแผ่นมาดูกันที่บ้าน จะดีกว่า
หมายเหตุ ห้างสรรพสินค้าก็เป็นไปในทำนองเดียวกัน กับโรงหนัง
6. สถานที่ทำงาน
โทรศัพท์ คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ หากร่วมใช้งานกับผู้อื่น(รวมทั้งปุ่มลิฟท์ ราวบันได) เป็นจุดที่ควรจะระมัดระวังเชื้อโรค ในบริเวณที่ทำงาน
ควรจะบอกให้ maid ทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทุกวัน ถ้าเป็นสิ่งของใกล้ตัว อาจจะฆ่าเชื้อเอง โดยใช้สำลีเช็ดแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ เช็ดทุกวัน หากเป็นการใช้งานคนเดียว ก็ควรจะเช็ด 2-3 วันครั้ง
7. บ้าน
ไม่ควรจะปล่อยให้บ้านสกปรก มีขยะ มีฝุ่น มีเศษอาหารตกหล่น ชื้นแฉะ ควรจะกำจัดแมลงวัน ยุง หนู แมลงสาบ และควรกำจัดขยะทุกวันออกจากบ้าน
วันว่างๆควรจะทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ เปิดหน้าต่างให้แสงแดดเข้าบ้าน มีลมถ่ายเท นำสิ่งของ เสื้อผ้า ที่นอน ฯลฯ ออกผึ่งแดด
ควรจะมีการเปลี่ยนผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดตัวบ่อยๆ(อย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง)
012
# 3 ออกกำลังกายยามรถติด ยามรถติดนานๆ หากท่านไม่รู้จะทำอะไร ก็อาจจะออกกำลังกายเบาๆ ภายในรถได้ ซึ่งจะทำให้ท่านเพลิดเพลิน ไม่เบื่อกับการรอ และช่วยให้กล้ามเนื้อฟิตกระชับขึ้นกว่าเดิมด้วย
อย่าปล่อยให้เวลาสูญเสียเปล่า เพราะลำพังแค่จะไปออกกำลังกาย ก็ไปไม่สะดวก ไกล แถมเวลาก็ไม่ค่อยจะว่างอยู่ ตอนรถติดนี่แหละ ควรจะใช้ให้คุ้ม
1. ท่าบริหารกล้ามเนื้อขา ยกขาซ้ายขึ้นจากพื้นและจากเก้าอี้ ในลักษณะที่เข่างอเล็กน้อย ยกค้างไว้ นับ 1-8 แล้ว วางขาซ้ายลงช้าๆ ถ้ารถยังไม่เขยื้อน ทำขาขวาต่อเลย ทำแบบนี้สลับไปมาสัก 4-5 รอบ(มากกว่านี้ก็ได้)
2. ท่าบริหารหน้าท้อง ผ่อนหรือคลายลมหายใจออก ช้าๆเต็มที่ ท้องแฟบ เกร็งหน้าท้อง นับในใจ 1-8 แล้ว สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ช้าๆนะ อย่ารีบ ท้องป่อง เกร็งหน้าท้อง นับในใจ 1-8 แล้ว คลายลมหายใจออกอีก ทำสลับกัน 4-5 รอบ(มากกว่านี้ก็ได้)
3. ท่าบริหารแขนและหน้าอก วางมือทั้งสองข้างบนพวงมาลัยรถ(แหง แหง วางบนพวงมาลัยรถอยู่แล้ว) วางมือซ้ายที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา และมือขวาที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา เหยียดแขนทั้งสองข้างให้ตึง แล้วออกแรงผลักพวงมาลัยไปข้างหน้าช้าๆ(รถไม่เคลื่อนหรอก แต่ถ้ากลัวรถเคลื่อน ก็เบรกมือรถไว้ชั่วคราว) แล้วหยุดนับ 1-8 แล้วเปลี่ยนทิศทางการออกแรง เป็นดึงพวงมาลัยรถเข้ามาหาตัว ทำคล้ายๆกับเบรกรถจนตัวโก่ง นั่นละ แล้วหยุดนับ 1-8 ทำแบบนี้กลับไปกลับมา 4-5 รอบ(มากกว่านี้ก็ได้)
4. ท่าบริหารข้อศอก ตั้งข้อศอกซ้ายทำมุม 90 องศากับลำตัว กำหมัด ให้หมัดของท่านอยู่บริเวณแถวสะดือ ดันข้อศอกซ้ายเข้ากับพนักเก้าอี้ข้างๆ นับ 1-8 แล้วสลับทำแบบเดียวกันกับข้อศอกขวา แต่ให้ดันข้อศอกขวาเข้ากับประตู (อ๊ะ..อย่าลืมล็อคประตูก่อนทำนะ) ทำแบบนี้กลับไปกลับมา 4-5 รอบ(มากกว่านี้ก็ได้)
5. ท่าบริหารสะโพก ใช้มือทั้งสองข้างจับเนื้อสะโพก (ถ้าทำมากๆได้ ก็ให้ทำลงไปถึงแก้มก้นด้วยเลย) บีบให้แน่น แน่นอนก้นของท่านจะทับมือ นับ1-8 แล้วคลาย (ทำเหมือนกับนวดกล้ามเนื้ออื่นๆ) ทำซ้ำ 4-5 รอบ(มากกว่านี้ก็ได้)
6. ท่าบริหารหัวไหล่ ยกไหล่ขึ้นให้สูงที่สุด สูงจนรู้สึกคอหดเลย แล้วยกค้างไว้ นับ 1-8 แล้วหมุนควงหัวไหล่ โดยหมุนไปด้านหลังก่อน แล้วหมุนควงหัวไหล่ กลับมาด้านหน้า หมุนควงหัวไหล่ไปด้านหลัง แล้วหมุนควงหัวไหล่ไปด้านหน้า ถ้าทำผิดทาง ก็ไม่เป็นไร ทำอันไหนก่อนหลัง ก็มีค่าเท่ากัน ลดไหล่ลงมาตามปกติ แล้วก็ยกไหล่ขึ้นทำแบบเดิมซ้ำอีก ทำ 4-5 รอบ(มากกว่านี้ก็ได้)
7. ท่าบริหารกล้ามเนื้อหน้า ท่านี้ต้องอาศัยความสามารถทางการแสดงเล็กน้อย โดยให้ท่านทำหน้าตาแสดงอารมณ์ต่างๆ เช่น ตกใจ, เสียใจ, ดีใจ, และโกรธ ...ทำได้ไหม?
ทำแต่ละท่า แล้วค้างไว้ นับ 1-8 แล้วเริ่มแสดงหน้าตาท่าใหม่หมุนเวียนกันไป เพื่อบริหารกล้ามเนื้อแต่ละส่วนบนใบหน้า (แต่ระวัง อย่าไปทำใกล้ๆกระจก เดี๋ยวรถข้างๆ เขาจะเข้าใจผิด)
หมายเหตุ 1 : การออกกำลังกายในรถ จะเลือกทำท่าไหนก่อนก็ได้ และอยากจะทำท่าไหนมากก็ได้ แต่ควรพยายามทำสับเปลี่ยนหมุนเวียนให้ครบทุกท่า
หมายเหตุ 2 : รูปภาพข้างล่างนี้ จขบ.แปลภาษาญี่ปุ่นไม่ออก แต่คิดว่าจะเกี่ยวกัน กับการออกกำลังกาย ในที่ทำงาน
013
014
015
016
017
018
019
020
021
022
023
024
เรื่องใกล้ๆตัว จบแล้วครับ..... ชอบเรื่องไหน ครับ???
# 1 ดูแลตัวเองแบบง่ายๆ
# 2 สถานที่ที่มีเชื้อโรคเยอะ
# 3 ออกกำลังกายยามรถติด
Create Date : 03 เมษายน 2550 |
Last Update : 3 เมษายน 2550 16:39:31 น. |
|
45 comments
|
Counter : 3228 Pageviews. |
|
|
|