รวมมิตรเรื่องท่องเที่ยว และ สายการบิน
Group Blog
 
All Blogs
 
หมอไร้น้ำใจ ไม่รักษาเพราะร้านจะปิด -->> ความเห็นเล็กๆ อีกมุมหนึ่งที่อยากจะบอกครับ

เนื้อหา พอดีไปอ่านๆ เพลินๆ ที่โต๊ะจตุจักร แล้วก็อ่านกระทู้นี้เจอพอดี
เป็นกระทู้ที่กล่าวถึงโรงพยาบาลสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งที่กรุงเทพ
คลิ๊กที่นี่

ใจจริงผมเองก็อยากจะแสดงความคิดเห็นในอีกมุมมองหนึ่ง
เพราะเห็นบางความเห็นแล้ว รู้สึกเหนื่อยใจอย่างบอกไม่ถูกเลยจริงๆ ครับ
แต่ครั้นจะแสดงความเห็นในกระทู้ ก็กลัวจะเป็นปัญหากันได้อีก
ผมก็เลยอยากจะแสดงความคิดเห็นเล็กๆ ใน blog ของผมน่าจะดีกว่า

ต้องออกตัวนะครับว่า ผมทำงานเป็นลูกจ้างต๊อกต๋อยในโรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่งที่เชียงใหม่ เท่านั้น ก็ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน อาจจะเหมือนๆ กับคุณหมอคนที่ถูกว่าอยู่นั้นก็ได้

ที่ทำงานผมก็ไม่ได้เปิด 24 ชั่วโมงหรอกครับ
และไม่มีนโยบายที่จะเปิด 24 ชั่วโมงด้วย
ทีนี้เวลาใกล้ร้านจะปิดแล้ว บางวันมีเคสฉุกเฉินมาก็ต้องรับ
ทุกๆ คนก็ทำงานเหมือนๆ กันหล่ะครับ ช่วยเหลือกันไป
สำหรับที่ทำงานที่ผมทำ ทั้งหมอที่เหลืออยู่ และผู้ช่วยสัตวแพทย์ทุกคน จะมะรุมมะตุ้มกัน ทำงานเคสชิ้นนี้ให้เสร็จโดยเร็วที่สุด แล้วทุกคนก็จะได้รีบกลับบ้าน

เพราะทุกคนก็ทำงานกันมาตั้งแต่เช้าอ่ะครับ
ทำงานกันเฉลี่ยคนละ 10-11 ชั่วโมง/วัน และ 6 วัน/สัปดาห์
คงจะเหนื่อยๆ และ รอเวลาที่จะเลิกงานแล้ว (ไม่มีใครมารอเปลี่ยนกะด้วย)

ความจริงเรื่องแบบนี้ เป็นเรื่องยากที่จะพูดจริงๆ ครับ
ในมุมมองของผู้ใช้บริการ เจ้าของสัตว์ย่อมอยากได้รับการบริการที่เต็มที่มากที่สุด ซึ่งบางที การที่เจ้าของมาช่วงเวลาร้านใกล้จะปิด นั้นมีข้อจำกัดหลายอย่าง ที่ลูกค้าอาจจะมองไม่เห็น แต่ที่แน่ๆ ก็คือว่า ผลตอบรับก็คือ กลายเป็นว่า หมอไม่มีน้ำใจ ใจร้ายใจดำ บางรายถึงสาปแช่งให้ถ้าคนรักเจ็บป่วย ก็ไม่มีหมอมารักษา

ที่ทำงาน หลายๆ แห่ง คงจะเหมือนๆ กัน ไม่ว่าที่ทำงานนั้นจะประกอบธุรกิจอะไร นั่นก็คือ ถ้าหากถึงเวลาใกล้เลิกงานแล้ว ไม่ว่าจะแผนกไหน ก็คงไม่ค่อยอยากจะทำอะไรกันเท่าไหร่ เพราะเตรียมที่จะกลับบ้าน เตรียมจะไปดำเนินชีวิต ตามโปรแกรมที่ตนวางไว้ นัดแฟน ต้องไปรับลูก ไปกินข้าว เหมือนกับสาขาอาชีพอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานออฟฟิศ หรือ บริษัทห้างร้านทั่วๆ ไป

แต่ทีนี้ สถานพยาบาล ไม่เหมือนกับสถานบริการ บริษัหห้างร้านอื่นๆ
เพราะว่า ทำงานกับชีวิต มีเกิดแก่เจ็บตาย และมีเคสฉุกเฉิน

โรงพยาบาลสัตว์หลายแห่ง จึงได้แก้ปัญหา เรื่องเวลาเลิกงานของบุคลากร (ในที่นี้ คือทุกๆ คน มิใช่แค่สัตวแพทย์) ด้วยการปิดรับเคส หรือปิดรับบัตร ก่อนเวลาโรงพยาบาลปิดประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง เพื่อให้หมอและพนักงาน มีเวลาเคลียร์เคสต่างๆ ให้เรียบร้อย และไม่ต้องทำงานล่วงเวลา (ปัญหานี้ จะไม่เกิด ถ้าหากเป็นโรงพยาบาลที่เปิด 24 ชั่วโมง -- แต่ส่วนใหญ่ หมอที่รับเคสนั้นๆ ก็ต้องรับผิดชอบล่วงเวลาไป ตามหน้าที่ของตน)

ทีนี้ ถ้าหากเป็นสถานพยาบาลสัตว์ของเอกชน ส่วนมากถ้าหากไม่มีเคสก็ปิดร้านกันตรงเวลา แต่ถ้าหากว่า มีเคสฉุกเฉิน หรือเคสที่เกี่ยวเนื่องจากเวลางานในปกติ อาทิเช่น ร้านปิด 20.00 น. แต่ลูกค้ามาถึง 19.50 น. ผมเชื่อว่า สัตวแพทย์น้อยรายที่จะปฏิเสธการให้บริการ จะให้บริการอย่างเต็มที่ แม้ว่าจะต้องล่วงเลยเวลา วันนี้จะต้องกลับบ้าน 21.00 น. ก็ตาม (บางแห่งก็ไม่ใช่ได้ค่าล่วงเวลานะครับ ก็ถือว่าเป็นเรื่องจริยธรรมที่สัตวแพทย์พึงจะต้องช่วยเหลือสัตว์อย่างเต็มที่)

แต่ถ้าหากสัตวแพทย์รายนั้นรู้ว่า เคสนี้สามารถรอได้ และถ้าหากตัดสินใจทำหัตถการ อาจจะใช้เวลาล่วงเลยไปเนินนาน นั่นก็เป็นไปได้ที่สัตวแพทย์ อาจจะเลือกให้รอไปก่อน โดยทำแผลเบื้องต้นให้

ส่วนกรณีลูกค้ารายนั้น มาถึงเวลา 20.05 น. หลังร้านปิด ซึ่งเป็นไปได้สูงว่าบุคลากรส่วนอื่นๆ อาทิเช่น ผู้ช่วยสัตวแพทย์ หรือ ฝ่ายการเงิน จะกลับบ้านไปหมดแล้ว การรักษาย่อมมีอุปสรรค เนื่องจากการตรวจที่ใช้เทคนิคพิเศษต่างๆ (อาทิเช่น X-ray หรือหัตถการต่างๆ) จะไม่มีใครเหลืออยู่ช่วยเลย (แม้ว่าตัวหมอเองอยากจะช่วยก็ตาม) จึงไม่สามารถดำเนินงานได้สมบูรณ์แบบ เมื่อเทียบกับเวลาปกติ

และเคสที่มีความเฉพาะ มีความยาก อาทิเช่นเคสอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับดวงตาแล้ว อาจจะต้องใช้สัตวแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง มาช่วยดำเนินการให้ (เพราะถ้าหากเป็นหมอมือใหม่ บางรายอาจจะยังไม่กล้าที่จะทำหัตถการนี้ด้วยตนเอง และไม่อยากที่จะทำแล้วเกิดปัญหาตามมาก็เป็นได้) จึงมีความจำเป็นที่จะต้องนัดมาทำในวันรุ่งขึ้น (แต่กรณ๊ลูกตา ที่ผมเคยทำ ก็จะทำให้ตายุบลงก่อน แล้วค่อยเย็บปิด แล้วนัดวันรุ่งขึ้น)

ถ้าหากเจ้าของมีความตั้งใจที่จะให้ดำเนินทำหัตถการนั้นๆ จริงๆ ในวันนั้น ก็จำเป็นที่จะต้องไปรักษาต่อที่อื่น แต่ถ้าหากว่าสิ่งใดที่สัตวแพทย์นั้นสามารถช่วยเหลือได้ในเบื้องต้น ผมคิดว่าไม่มีสัตวแพทย์คนไหนจะปฏิเสธการรักษาหรอกครับ!!

ผมเห็นหลายๆ คนชอบแสดงความคิดเห็นกระแนะกระแน แล้วรู้สึกไม่สบายใจจริงๆ
-- ทำงานล่วงเวลานิดหน่อยจะตายเลยหรือเปล่า? -->> ไม่มีใครตายหรอกครับ สัตวแพทย์ทำงานล่วงเวลา ก็ทำกันตั้งเยอะแยะ หมอคนที่ถูกว่า อาจจะต้องทำงานล่วงเวลามาหลายครั้งแล้วก็ได้ แต่เนื่องจากปัญหาต่างๆ ตามที่ผมกล่าว จึงทำให้เค้าต้องปฏิเสธเคส หรืออาจจะดำเนินการในวันนั้นยังไม่ได้ (แต่ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจนะครับว่า สมควรหรือไม่ที่จะปล่อยไป)
-- ถ้าไม่รักสัตว์ แล้วจะเรียนสัตวแพทย์ทำไม? -->> คุณคร้าบ ... สัตวแพทย์เรียน 6 ปีนะครับ ถ้าไม่ใจรัก คงไม่ดันทุรังเรียนจนจบ
หรือ ถ้าไม่ชอบหมาแมวจริงๆ ก็ไม่ดันทุรังทำงานอย่างนี้หรอกคร้าบ ... สัตวแพทย์มีสายงานให้เลือกทำเยอะมากๆ ทั้งสัตวใหญ่ ฟาร์ม งานด้านสาธารณสุข งานราชการ ส่วนมากคนที่เลือกที่จะทำด้านสัตว์เล็ก (รักษาหมาแมว) ก็จะต้องรักสัตว์ ต้องเจอหน้ากันทุกวัน (แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับสถานที่ทำงาน บุคลากร และอุปกรณ์ที่จะช่วยเหลือ ในเวลาที่ร้านจะปิดด้วย)

ผมก็อยากจะกล่าวแค่นี้หล่ะครับ
รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่
ผมเองก็เคยปฏิเสธลูกค้าเหมือนกัน
เพราะในเมื่อตนเองไม่พร้อม (เมื่อร้านปิดตอนกลางคืนไปแล้ว)
คุณลูกค้าก็อาจจะจำเป็นต้องไปหาที่อื่นๆ ที่เปิด 24 ชั่วโมง และมีความพร้อม(ในช่วงเวลานั้น) มากกว่าอ่ะครับ

แต่เชื่อเถอะครับว่า คนที่เป็นสัตวแพทย์
ถ้าช่วยอะไรได้ก็จะช่วยให้มากที่สุด ตามดุลยพินิจของตนครับ


Create Date : 28 สิงหาคม 2551
Last Update : 28 สิงหาคม 2551 3:33:42 น. 12 comments
Counter : 1056 Pageviews.

 
ยังไม่ได้ไปอ่านที่กระทู้นะคะ

อ่านแค่ใน blog ตั้งแต่ต้นจนจบเลยค่ะ...
ก็เข้าใจทั้งอารมณ์ของคุณหมอ
และก็เข้าใจถึงอารมณ์ของเจ้าของสัตว์ด้วยค่ะ

ยังไงก็คงต้อง...เห็นอกเห็นใจกันเนอะ....

เป็นกำลังใจให้ค่ะ


โดย: +DidYouKnowMe+ วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:8:01:02 น.  

 
มาทักทายแล้วก้อชวนไปฮาที่บล็อกจ้า
ขยันอัพบล็อกต่อไปน๊าเอาใจช่วย


โดย: พลังชีวิต วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:8:44:09 น.  

 
ฮือ! น่าเห็นใจหมอเหมือนกันนะ
ผมเคยมีประสบการณ์เอาหมาไปหาหมอเช้ามืดมาแล้ว
หมอยังเมาขี้ตาอยู่เลย

ผมตั้งข้อสังเกตุอย่างหนึ่ง
ทุกวันนี้โรงพยาบาลสัตว์ มักจะมีสัตวแพทย์ ประจำอยู่หลายท่าน
แต่ผมเข้าใจว่าเค้าเหล่านั้นมิได้เป็นเจ้าของสถานที่แห่งนั้น จะว่าไปก็เหมือนลูกจ้างบริษัทห้างร้านน่านแหละ
จึงก็มีโอกาสเป็นไปได้เหมือนกันนะ ที่การดูแลเอาใจใส่ ในช่วงเวลาที่สถานพยาบาลใกล้ปิด อาจจะไม่เต็มร้อย

จะว่าไปเลี้ยงสัตว์เลี้ยงแล้วต้องเจออะไรเยอะอยู่นะ
เมื่อปีก่อนผมเคยเจอเคสวางเงินมัดจำค่ารักษา
ทางโรงพยาบาลเค้ามีวิธีเจรจาเรื่องแบบนี้ได้เนียนจริงๆ


โดย: merf1970 วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:9:17:46 น.  

 
กรณีเวลาทำการนี้ก็เข้าใจค่ะ

แต่เรื่องใจร้าย ฯลฯ ที่เจอจะเป็นอีกแบบ
เช่น ขายอาหารเสริมสำหรับแม่หมา หรือปลอกคอป้องกันเห็บหมัดในราคาที่สูงกว่าร้าน pet shop
ยัดเยียดโรคให้ แล้วคิดค่ายาแพงๆ
นัดจะเข้ามาฉีดยาให้ลูกหมา แล้วไม่มา จนอาการทรุดหนัก
โชคดีหน่อยที่ปัจจุบันนี้แถวบ้านมีสัตวแพทย์มาเปิดร้านหลายเจ้า และหมอปัจจุบันก็น่ารักค่ะ


โดย: นางไม้หน้า3 วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:9:24:50 น.  

 
รักแมว แล้วก็รักหมอแมวด้วย (ที่เจอมาใจดีทู๊กกกคนเลย)
โชคดี แมวบ้านเราอดทน
ทนไม่ได้มันก็ไปตายซะด้วยตัวเอง
แต่ไม่มีตัวไหนทนไม่ได้เลย เก่งจริงแมวชั้น


โดย: None of it วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:12:31:22 น.  

 
เข้าใจคุณหมอนะคะ

เราเชื่อว่าหมอทุกคน ไม่ว่าจะเป็นหมอรักษาคน หรือหมอรักษาสัตว์ ย่อมมีจรรยาบรรณที่จะรักษาคนไข้ทั้งนั้น

หมอทำงานทุ่มเท เหนื่อยแทบตาย เรากลับรู้สึก กัน ว่านั่นคือหน้าที่ แต่บางครั้งหมอปฏิเสธ หรือไม่สามารถเป็นอย่างที่เราคาดหวังได้ เราก็ตำหนิเสียจนแทบหมดกำลังใจ

ไงก้เป็นกำลังใจให้คุณหมอนะคะ


โดย: แค่คนหนึ่งคน วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:13:50:22 น.  

 
หมออ่ะพูดถูกแหล่ะ ก็เข้าใจและรู้สภาพปัญหาเหมือนหมอนั่นแหล่ะ

วิชาชีพเดียวกันนี่เน้อะ

แต่ก็อย่างว่า มันก็ยากที่เราจะอธิบายให้คนทุกคนเข้าใจเรา

ทำได้แค่ปล่อยวาง และทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้


โดย: หมอภัทร (patra_vet ) วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:15:15:31 น.  

 
เข้ามาเห็นใจค่ะ


โดย: หมีสีชมพู วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:18:49:06 น.  

 
ได้อ่านมุมมองของคุณหมอแล้ว...เห็นใจเลยค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่เปิดมุมนี้ให้เราได้มอง เพราะไม่งั้นก็คงมองแบบคนไข้ / เจ้าของคนไข้ไปอีกนาน เพราะไม่ได้เป็นฝ่ายรักษาแต่เป็นผู้รับการรักษา ซึ่งก็จะคิดแต่ว่าทำไมไม่เปิดรักษา (ว่ะ) ลืมไปว่าหมอเองรวมทั้งเจ้าหน้าที่ก็คนเหมือนกัน ย่อมต้องการพักผ่อน และ มีเวลาให้กับตัวเองและครอบครัวเหมือนกับผ่ายที่มาขอรับบริการเหมือนกัน

ขอบคุณและเห็นใจค่ะ


โดย: tuktikmatt วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:22:01:50 น.  

 
ในต่างประเทศจะปิดก่อนเวลาประมาณหนึ่งชมเพื่อเคลียทุกอย่าง
ถ้ามีเคสที่ด่วนลูกค้าเองต้องทราบว่าต้องไปรพที่เปิด ๒๔ชม เข้าใจที่กรณีฉุกเฉิน ทุกคนก็ต้องการให้สัตว์เลี้ยงของตนปลอดภัย เเต่ก็ต้องเป็นไปตามเวลามี่ระบุไว้
ทุกอาชีพมีกฎที่ต้องเคารพสิทธิซึ่งกันเเละกัน


โดย: YUCCA วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:22:34:21 น.  

 
เห็นใจทั้งสองฝ่ายนะค่ะ....

คุณหมอก้อเป็นปุถุชนธรรมดา ต้องการมีชีวิตส่วนตัวหลังเลิกงานเหมือนกับเรา...

เจ้าของน้องหมา ก้อต้องพยายามทำทุกทางที่จะทำให้น้องหายเจ็บปวดทรมาน...

เป็นกำลังใจให้ทั้งหมอแล้วก้อเจ้าของไข้นะค่ะ


โดย: Molajung วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:23:39:47 น.  

 
เห็นใจทั้งสองฝ่ายล่ะค่ะ

พูดยากนะคะ

ที่ญี่ปุ่นหนักกว่านี้อีก

คนท้องค่ะ

ต้องตระเวนหา รพ. เพื่อคลอดลูก

ไปกี่ที่ก็โดนปฏิเสธหมด ว่าไม่มีหมอทำคลอด

ผลคือตายทั้งกลมค่ะ

ข่าวแบบนี้ตั้งแต่มาอยู่ที่ญี่ปุนยังไม่ครบ 3 ปีดี

ก็เห็นทีวีออกข่าวแบบนี้บ่อยเลยล่ะค่ะ

เล่าสู่กันฟังนะคะ ทั้งคนและสัตว์ต่างก็มีชีวิตเหมือนกัน

ปล เป็นกำลังใจให้หมอยุ่งค่ะ


โดย: a.miyazaki วันที่: 27 ตุลาคม 2551 เวลา:8:32:00 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 37 คน [?]




Friends' blogs
[Add ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.