All Blog
|
***การรักษา นิ้วล็อค ด้วยตัวเอง*** นิ้วล็อค นิ้วล็อค หมายถึงนิ้วมือที่ติดอยู่ในท่างอเหยียดตรงไม่ได้ หรือติดอยู่ในท่าเหยียดงอนิ้วไม่ได้ ถ้าจะเหยียดหรืองอนิ้วต้องพยายามเคลื่อนนิ้วจนเกิดเสียงดัง อาจมีอาการเจ็บร่วมด้วย แม่ยี่หวารู้จักอาการนี้เมื่อเกือบ 40 ปีที่แล้ว เพราะเป็นอาการที่เกิดขึ้นกับมามี๊ของแม่ยี่หวาเอง สมัยนั้นดูเหมือนเราจะยังไม่เรียกว่า ”นิ้วล็อก” แต่หมอเรียกว่า ”นิ้วติด” หลังจากนั้นอีกนานแม่ยี่หวาจึงได้ยินชื่อของ ”นิ้วล็อก” แทนคำว่า ”นิ้วติด” ด้วยความที่มามี๊เคยเป็นแม่ยี่หวาจึงสนใจเป็นพิเศษค่ะ
นิ้วล็อกเกิดจากสาเหตุใด สาเหตุที่แท้จริงของนิ้วล็อกยังไม่มีการสรุปว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร โดยทั่วไปพบว่านิ้วล๊อกเกิดได้ในคนปกติที่ไม่มีประวัติได้รับบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุที่มือ จึงได้แต่คาดเดาว่าน่าจะมีผลมาจากการใช้มือทำงานหนัก หรือทำงานในลักษณะซ้ำๆติดต่อกันเป็นเวลานาน
นิ้วไหนล็อกได้บ้าง นิ้วล็อกเกิดขึ้นได้ทุกนิ้วโดยเฉพาะนิ้วหัวแม่มือ รองลงมาคือนิ้วนาง นิ้วกลางและนิ้วชี้ ส่วนนิ้วก้อยพบน้อยที่สุด สันนิษฐานว่าอาการนิ้วล็อกนี้น่าจะเกิดกับนิ้วมือที่ถนัดซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นมือขวา เพราะต้องใช้มือในการหยิบจับในการทำกิจวัตรประจำวันเกือบตลอดเวลา และคนที่มีอาชีพการงานที่ต้องใช้มือทำงานเป็นหลัก หรือแม้แต่พนักงานออฟฟิศที่ต้องใช้มือจับเม้าส์ทำงานกับคอมพิวเตอร์วันละ 7-9 ชั่วโมง การใช้มือทำงานซ้ำๆติดต่อกันเป็นเวลานานในแต่ละวันทำให้กล้ามเนื้อมือเมื่อยล้าเกร็งและบาดเจ็บได้
อาการของนิ้วล็อก เริ่มต้นด้วยอาการปวดตึงน้อยๆที่โคนนิ้ว ถ้าคลำดูจะพบปมเล็กๆที่โคนนิ้วกดจะรู้สึกเจ็บระยะแรกนิ้วจะยังงอและเหยียดได้ตามปกติ หลังตื่นนอนเหยียดฝ่ามืออาจรู้สึกติดขัดบ้างค่ะ ขยับนิ้วสักพักอาการจะดีขึ้น ระยะต่อมาจะมีอาการติด สะดุดเหยียดนิ้วไม่ค่อยได้ มีอาการเจ็บมากขึ้น เหยียดนิ้วจะสะดุด เมื่อมีอาการมากขึ้นจะต้องใช้ความพยายามในการเหยียดนิ้วจนเกิดเสียงดัง นิ้วจึงเหยียดได้ส่วนใหญ่มักเกิดที่ข้อกลางนิ้วหรือข้อปลายนิ้ว เมื่ออาการมากขึ้นนิ้วจะติดล็อกมากขึ้น จนต้องใช้มืออีกข้างหนึ่งช่วย นิ้วจึงจะเหยียดตรงได้ และจะเจ็บปวดมากขึ้น หากไม่มีการรักษาปล่อยไว้จนถึงระยะสุดท้าย ข้อนิ้วจะหลวม และเคลื่อนตัวหลุดจากที่ นิ้วจะเบี้ยวเกเหยียดไม่ตรง พาลให้นิ้วอื่นมีปัญหาในการใช้งานไปด้วย
การรักษา คือการทำให้นิ้วงอและเหยียดได้ตามปกติ ไม่มีอาการเจ็บปวด อักเสบหรือบวม สามารถรักษาได้ด้วยตัวเองโดยการทำกายภาพบำบัดหากอาการยังไม่มากค่ะ แต่ถ้าทิ้งไว้นานเกินอาจจะต้องพบแพทย์ฉีดยาหรือผ่าตัด ย้อนกลับไปดูช่วงเวลาที่มามิ๊แม่ยี่หวาเป็นนิ้วล็อก มามี๊แม่ยี่หวาหาหมอและได้ยามาทานแก้อักเสบ แต่นิ้วก็ยังเจ็บและยังล็อก หลังจากนั้นแม่ยี่หวาก็ไม่เห็นมามี๊ไปหาหมออีก วันนึงแม่ยี่หวานั่งจับมือมามี๊เล่น ก็พบว่ามามี๊แม่ยี่หวาหายจากอาการนิ้วล็อกแล้ว แล้วแม่ยี่หวาก็ไม่ได้ใส่ใจอีกเพราะพูดกันตรงๆ ก็ไม่ค่อยได้เคยเห็นใครเป็นกัน จนเมื่อเวลาผ่านไปมาได้รู้จักนิ้วล็อกอีกครั้ง เลยต้องมีการซักไซ้กันว่ามามี๊หายได้อย่างไร ได้ความว่ามามี๊แช่น้ำอุ่นค่ะ หาน้ำอุ่นขนาดแช่ได้มาหนึ่งกะละมังเล็ก แช่มือข้างที่เป็นลงไป วันละ 3-4 รอบ หาขวดใบเล็กขนาดมือกำได้ใส่น้ำร้อน เอามานั่งกำค่ะ กำแล้วเหยียดเหยียดแล้วกำ ไม่กี่วันก็หาย หลังจากนั้นนานๆครั้งแม่ยี่หวาก็ยังเห็นมามี๊นั่งกำขวดน้ำร้อนเล่นในยามว่าง ผ่านไปอีกนานอาการนี้ก็เกิดขึ้นอีกครั้งกับพี่สาวแม่ยี่หวา แต่ตอนนั้นแม่ยี่หวาศึกษาอาการและลักษณะของนิ้วล็อกมาแล้ว เลยไม่ตื่นเต้นอีก ก็แค่ กะละมังใส่น้ำอุ่นจัดแต่ครั้งนี้แม่ยี่หวาใส่ไพลผงลงไปค่ะเนื่องจากเจ๊แม่ยี่หวามีอาการปวดและบวมนิดหน่อย ถ้าจะใช้เป็นไพลสดต้มกับน้ำให้เดือดแล้วนำมาแช่จะได้ผลเร็วกว่าค่ะของแม่ยี่หวาหาของใกล้มือที่มีอยู่ในครัวเลยใช้ไพลผงแทน แช่วันละหลายๆครั้ง ว่างก็นั่งกำขวดน้ำร้อน ดูทีวีไปพลาง ไม่กี่วันก็หายค่ะ แต่วันนี้แม่ยี่หวามีท่าบริหารนิ้วและฝ่ามือมาให้ทำกันด้วย หายแล้วก็บริหารไปเรื่อยๆ เนื่องจากอาการนิ้วล็อกสามารถกลับมาเป็นใหม่ได้ทุกเวลาค่ะ ใช้งานน้องนิ้วหนักแล้วดูแลน้องบ้างนะคะ ท่าบริหารนิ้วและฝ่ามือค่ะ 1. ประกบมือและนิ้วมือ แอ่นนิ้วผลักต้านกันเป็นจังหวะๆ 2. กำมือให้แน่นก่อนเหยียดและกางนิ้วให้เต็มที่ 3. วางนิ้วมือบนขอบโต๊ะ แอ่นนิ้วมือยันพื้นโด๊ะ
ว่างจากงานเทื่อไหร่ก็ลองนั่งบริหารดูนะคะจะได้ไม่นิ้วล็อกกันค่ะ |
สาวเอยจะบอกให้
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?] แม่ยี่หวาเป็น สว. คนหนึ่ง ที่เคยทุกข์ทรมานเนื่องจากสุขภาพที่ย่ำำแย่มาตลอดตั้งแต่เด็กจนถึงวัยสาว เสียเวลาและเงินทองมากมาย แล้ววันหนึ่งแม่ยี่หวาก็ุลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเอง มาเป็นนักกีฬาค่ะ วิ่ง วิ่งและวิ่ง หลังจากนั้นชีวิตก็เปลี่ยน เลิกกินยา เลิกป่วย แต่กว่าจะเป็นอย่างนี้ก็ต้องใช้เวลานะคะ นอกจากออกกำลังกายแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่อยากจะบอกคือ การใช้หลักโภชนาการ ในการดูแลสุขภาพควบคู่กันไปด้วยค่ะ บล็อกที่เขียนส่วนหนึ่งเป็นการเล่าเรื่องชีวิตและประสบการณ์ของตัวเอง กับการใช้อาหารเป็นยา การใช้สมุนไพรในการดูแลตัวเองเบื้องต้น หวังว่าจะมีคนเข้ามาอ่านและนำไปใช้บ้าง ไม่รังเกียจที่จะูถูกเรียกว่า พี่ ป้า หรือ ยาย ค่ะ
Link |