ปวดหัว

เป็นหนึ่งปวดที่แม่ยี่หวาคิดว่าคงไม่มีใครปฏิเสธแน่ว่าไม่เคยปวด แม่ยี่หวาเคยเห็นน้องที่ทำงานในออฟฟิศ นอกจากบรรดาเครื่องเขียนที่เธอต้องใช้เป็นประจำแล้ว ยังมีแผงยาแก้ปวดหัวและยาหม่องบวกยาดม เป็นอุปกรณ์สำคัญบนโต๊ะทำงาน ถามไถ่ดูเธอบอกว่า

“เครียดค่ะพี่ เครียดจนปวดหัว”

“ปวดหัวค่ะพี่ เมื่อคืนหนูนอนดึก”

“เมื่อเช้ารถติดค่ะหนูเครียดจนปวดหัว”

นาๆสาเหตุเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ทำให้เราปวดหัว ถ้าจะแยกสาเหตุ ก็แยกได้เป็น 4 กลุ่มใหญ่ค่ะ

1. ความเครียดตึงของกล้ามเนื้อ แม่ยี่หวาพบว่ามันเป็นการปวดที่ฮอตฮิตติดอับดับค่ะ

เป็นอาการที่ปวดจากความเครียดตึงของกล้ามเนื้อแถวต้นคอและท้ายทอย บางครั้งหาตำแหน่งแน่นอนไม่ได้ และบางครั้งจะปวดร้าวไปถึงบริเวณขมับ หน้าผากและกระบอกตา อาการปวดแบบนี้เกิดจากความเครียดในการทำงาน นอนผิดท่า นอนตกหมอน

2. ความตึงเครียดของกล้ามเนื้อที่เกี่ยวกับการใช้สายตาซึ่งกลุ่มนี้จะเกิดกับผู้ที่ทำงานละเอียดใช้สายตามาก หรืออ่านหนังสือตัวเล็กๆนานๆ พวกนี้จะมีอาการปวดกระบอกตาและอาจร้าวไปถึงท้ายทอยได้ สาเหตุเกิดจากกล้ามเนื้อตาล้า หรือกล้ามเนื้อตาที่ใช้ในการเพ่งไม่แข็งแรง

3. การปวดไมเกรน มีการปวดหัวข้างเดียว คลื่นไส้ อาเจียน อารมณ์หงุดหงิด

4. ปวดจากอาการของโรคที่เป็นอยู่ เช่น ความดันโลหิตสูง ไซนัส หรือเนื้องอกในสมอง ฯลฯ

ส่วนอาการปวดทั่วๆไปที่ไม่เกี่ยวกับอาการข้างต้น ก็อาจมีได้หลายสาเหตุค่ะเช่นอาการร้อนเกินไป พักผ่อนไม่พอ แพ้กลิ่นน้ำหอมฉุนๆ หรือแม้แต่คนที่ชอบเคี้ยวหมากฝรั่งนานๆ ก็ทำให้ปวดหัวได้เช่นกัน

อาการปวดที่ควรไปพบแพทย์

1. ปวดหัวเฉียบพลัน และรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

2. อาเจียน เป็นไข้ คอแข็ง แขนขาชาและอ่อนแรง ตามัวมีอาการร่วมกับการปวดหัวหรือเป็นอาการนำ

3. เสียการทรงตัว หมดสติ สับสนจำอะไรไม่ได้

4. กินยาแก้ปวดเป็นเวลานานกว่า 3เดือน แต่อาการไม่ดีขึ้นหรืออาการมากขึ้น

วิธีบำบัดอาการปวดหัวด้วยตัวเอง

1. นอนหลับสักงีบ อาจจะช่วยให้ดีขึ้น ถ้าปวดหัวเพราะพักผ่อนไม่พอ

2. พยายามประคองหลังและคอให้ตั้งตรงหลีกเลี่ยงการโยกหรือเอียงคอไปด้านใดด้านหนึ่ง

3. ประคบร้อนหรือเย็นที่หน้าผากและต้นคอ

สำหรับรายที่ปวดหัวเพราะความดันหรือไมเกรนควรหลีกเลี่ยงการประคบร้อนค่ะเปลี่ยนเป็นประคบเย็นแทนค่ะ

4. นวดและกดเพื่อบรรเทาอาการบริเวณต้นคอ ไหล่และหลัง

5. ประคบดวงตาด้วยผ้าชุบน้ำเย็น เมื่อรู้สึกว่าดวงตาอ่อนล้าเมื่อต้องสู้แสงจัดๆ หรืออยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวัน

การใช้สมุนไพรในการบรรเทาอาการปวดหัว

ใช้บัวบกสดทั้งราก 1 ขีดล้างให้สะอาดตำให้ละเอียด คั้นเอาแต่น้ำผสมน้ำมะนาวครึ่งลูก เติมน้ำตาลพอให้มีรสหวาน ดื่มทันที สำหรับผู้ปวดหัวเพราะความดันสูง

ใช้ขิงแก่ต้มกับใบกะเพราแดง ดื่มแทนชา จะช่วยลดอาการคลื่นไส้ปวดหัว สำหรับผู้ที่ปวดไมเกรนค่ะ

ที่เหลือจากนี้จะเป็นการนวดเพื่อคลายกล้ามเนื้อเพื่อบรรเทาอาการปวดค่ะ

1. ใช้นิ้วชี้ นิ้วกลางและนิ้วนาง กดหรือบีบแนวบ่านวดสลับด้านซ้ายและขวา 3-5 รอบ ท่านี้จะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยบ่าและคอ

2. ใช้นิ้วชี้ นิ้วกลางและนิ้วนาง กดหรือบีบบริเวณเกลียวคอหรือแนวข้างกระดูกคอนวดสลับซ้ายและขวา 3-5 รอบท่านี้บรรเทาอาการปวดเมื่อยคอค่ะ

3. ประสานมือเข้าด้วยกันโอบบริเวณเหนือท้ายทอย ใช้นิ้วหัวแม่มือทั้ง2 ข้างกดตามแนวเกลียวคอ 3-5 รอบ ท่านี้บรรเทาอาการปวดเมื่อยคอและศีรษะ

4. ใช้นิ้วหัวแม่มือกดจุดใต้ไรผมพร้อมๆกัน ด้วยความแรงพอสมควร 3-5 ครั้ง ท่านี้บรรเทาอาการปวดเมื่อยคอและศีรษะ

ทั้ง 4ท่านวดที่แม่ยี่หวาแนะนำให้นวด จะไม่ทำให้เกิดอันตรายค่ะ เนื่องจากคุณนวดด้วยตัวเอง คุณจะสัมผัสถึงความเจ็บในขนาดที่คุณรับได้โดยไม่หักโหมหรือออกแรงกดจนเกิดอันตรายขึ้นกับตัวเองค่ะ

การนวดช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณที่หดเกร็งคลายตัวออก จะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้ค่ะสามารถกดนวดตัวเองได้วันละ 2-3 รอบค่ะลองนวดกันดูนะคะ