*** ๑๒ สูตรสวยจากธรรมชาติ ๔ และ ๕***

ต่อสูตรที่ ๔ และ ๕ กันเลยค่ะ



แตงกวา  (Cucumis sativus linn.)


แตงกวาเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวหนังสดใส เพิ่มความยืดหยุ่น ลดการบวมแดง และสมานผิว


แตงกวาเป็นสมุนไพรเก่าแก่ชนิดหนึ่ง ซึ่งสาวทั่วโลกใช้เป็นเครื่องสำอางมาอย่างยาวนาน โดยแตงกวาเพิ่มความชุ่มชื้น มีสารกลูซิค (glucids) กรดอะมิโน และเกลือแร่ต่างๆ ไปช่วยทำให้เกิดสารชุ่มชื้นตามธรรมชาติบนผิวหน้าขึ้นมาใหม่


แตงกวายังช่วยทำให้ผิวหนังคงความเยาว์วัยมีความยืดหยุ่นจากการที่แตงกวามีสารซิสทีน (cystin) และเมทิโอนิน (methionin) และยังมีสารโพลีแซคคาไรด์ ที่ช่วยทำให้ผิวหนังสดชื่น ต้านการเป็นปื้นแดง ซึ่งจะมีประโยชน์ในการใช้ทาหลังจากไปตากแดงมา เช่น ไปทะเล ไปตีกอล์ฟ


แตงกวาเป็นสมุนไพรที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหน้าแห้ง จากการที่มีคุณสมบัติไปเพิ่มความชุ่มชื้น และเหมาะสำหรับคนผิวหน้ามันด้วยคุณสมบัติช่วยสมานผิวค่ะ




การเตรียมแตงกวา


+++หั่นแตงกวาสดตามขวางบางๆ วางไว้ให้ทั่วใบหน้า

+++หั่นแตงหวาแล้วปั่นกรองเอาแต่น้ำเก็บไว้ใช้ทาหน้า ไม่ควรเก็บไว้นานเกิน ๒ วัน

+++นำแตงกวาปอกเปลือก ๔ ส่วน กลีเซอรีน ๓ ส่วน น้ำหนึ่งส่วน ปั่นให้เข้ากัน กรอง เก็บน้ำไว้ใช้ได้ประมาณ ๑ ปี นำสารสกัดแตงกวานี้ไปผสมกับเนื้อครีม หรือโลชั่น ประมาณ ๒-๔ ช้อนชาต่อครีมหรือโลชั่น ๑๐๐ มิลลิลิตร



การใช้แตงกวา


+++ใช้แตงกวาสดๆ ฝานเป็นชิ้นบางๆ วางไว้ทั่วใบหน้า ที่ทำความสะอาดแล้ว ทำบ่อยๆ จะทำให้ใบหน้าดูผุดผ่อง เปล่งปลั่งขึ้น และยังช่วยรักษาฝ้าบนใบหน้าได้อีกด้วย

+++ใช้น้ำแตงกวามาทาบนใบหน้าเป็นประจำจะช่วยลดจุดด่างดำ รอยฝ้าที่เกิดจากการผจญแสงแดดและมลพิษระหว่างวัน และช่วยบำรุงผิว

+++ใช้แตงกวาสดปั่นละเอียด ๒-๓ ผลผสมกับน้ำผึ้ง ๑/๔ ถ้วย หรือนมสด ๑/๒ ถ้วย ปั่นให้ละเอียดเป็นครีม นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ ๑๐ นาที แล้วล้างออก ก่อนนอนทุกวัน เหมาะสำหรับคนผิวแห้ง เพราะจะทำให้ผิวหน้านุ่มเนียนขึ้น

+++ใช้แตงกวาฝานเป็นแว่นแปะที่ดวงตา แตงกวาสดจะมีเอนไซม์ย่อยเซลล์ที่ตายแล้ว ทำให้เซลล์บริเวณรอบดวงตาเย็น การเกร็งตัวของกล้ามเนื้อลดลง ริ้วรอยจึงลดลงด้วย

+++ใช้แตงกวาสดทั้งผลปั่นละเอียด ผสมน้ำผึ้งพอเหลว นำมาพอกหน้า ทิ้งไว้สักครู่ แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น เนื้อแตงกวาจะช่วยย่อยโปรตีนชั้นนอกที่หยาบกร้านและเกรียมแดดให้หลุดออกมาได้ และยังช่วยทำให้ผิวหนังชุ่มชื้นขึ้น ไม่แห้งแตกเป็นขุย





มะม่วง  (Mangifera indica Linn.)


เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้เรียบ ลื่น ทำให้ผิวหนังสดชื่น ป้องกันผิวจากอนุมูลอิสระ มะม่วงมีวิตามินซี และ reducingglucid สูง จึงช่วยทำให้ผิวหนังสดชื่น ลบรอยเหี่ยวย่นและต้านอนุมูลอิสระ ในมะม่วงยังมีสารที่เป็นน้ำตาลร่วมกับกรดอะมีโน ทำให้เกิดความเรียบลื่น ชุ่มชื่นบนชั้นของผิวหนังกำพร้า วิตามินเอ วิตามินซี และเกลือแร่ที่มีในมะม่วงยังช่วยให้กลไลการสร้างเซลล์ใหม่เป็นไปได้ดียิ่งขึ้น





การเตรียมมะม่วง


ปอกเปลือกออกเลือกใช้เฉพาะส่วนที่เป็นเนื้อ



การใช้มะม่วง


ใช้สำหรับคนเป็นฝ้า นำเนื้อมะม่วงสุกมายีหรือปั่น แล้วนำไปพอกให้ทั่วหน้าทิ้งไว้จนรู้สึกว่าแห้งจึงล้างออก จะทำให้หน้าขาวและนุ่มนวลขึ้นสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว




Create Date : 11 มกราคม 2556
Last Update : 13 มกราคม 2556 20:15:02 น.
Counter : 1816 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สาวเอยจะบอกให้
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]



แม่ยี่หวาเป็น สว. คนหนึ่ง ที่เคยทุกข์ทรมานเนื่องจากสุขภาพที่ย่ำำแย่มาตลอดตั้งแต่เด็กจนถึงวัยสาว เสียเวลาและเงินทองมากมาย
แล้ววันหนึ่งแม่ยี่หวาก็ุลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเอง มาเป็นนักกีฬาค่ะ วิ่ง วิ่งและวิ่ง หลังจากนั้นชีวิตก็เปลี่ยน เลิกกินยา เลิกป่วย แต่กว่าจะเป็นอย่างนี้ก็ต้องใช้เวลานะคะ
นอกจากออกกำลังกายแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่อยากจะบอกคือ การใช้หลักโภชนาการ ในการดูแลสุขภาพควบคู่กันไปด้วยค่ะ
บล็อกที่เขียนส่วนหนึ่งเป็นการเล่าเรื่องชีวิตและประสบการณ์ของตัวเอง กับการใช้อาหารเป็นยา การใช้สมุนไพรในการดูแลตัวเองเบื้องต้น
หวังว่าจะมีคนเข้ามาอ่านและนำไปใช้บ้าง ไม่รังเกียจที่จะูถูกเรียกว่า พี่ ป้า หรือ ยาย ค่ะ
New Comments