facebook timeline -  facebook timeline ไม่ถูกใจผู้ใช้อณุรักษ์นิยม เป็นปัญหาที่ไม่น่าจะเป็นปัญหาของทางเฟสบุ๊ก ล่าสุด allfacebook ได้เผยแพร่การทดสอบหน้าโปรไฟล์เฟสบุ๊กแบบใหม่ ซึ่งยังคงใช้ Timelineอยู่

โดยการเปลี่ยนแปลงที่ต่างไปจากเดิม คือ การนำส่วนของ about , ชื่อ มาแปะไว้บน cover และแท็บของรูปภาพ แผนที่ fanpage ที่กดไลค์ แสดงผลแบบไอค่อน  โดยหน้าโปรไฟล์แบบใหม่นี้ ยังอยู่ในขั้นทดสอบวงจำกัดอยู่ ยังไม่เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ … แฟนๆ เฟสบุ๊ก ว่ามันดูดีขึ้นนิดนึงไหม เจ้า Timeline ตัวใหม่เนี่ย !! ^^

ปัจจุบันเราอาจจะได้เห็นรูปแบบใหม่ของการซื้อขายของ ที่เปลี่ยนไปจากยุคก่อนๆ แทนที่จะต้องไปเดินหาซื้อของที่ต้องการ วันนี้คุณเพียงแค่เปิดคอมพิวเตอร์ แล้วค้นหาสินค้าที่ต้องการ จ่ายเงินผ่านธุรกรรมออนไลน์ จากนั้นแค่นั่งรออยู่บ้านของที่ต้องการก็จะมาส่งให้คุณถึงที่หมายเลย แน่นอนว่าเหล่านี้คือสิ่งที่เราเรียกกันอย่างติดปากว่า E-Commerse ซึ่งในวันนี้ดูเหมือนตัวเลขเม็ดเงินที่เกิดขึ้นจากธุรกิจแนวใหม่จะมีเพิ่มสูงขึ้นในทุกๆ ไตรมาส แล้วอย่างนี้ในอนาคตเราจะได้เห็นอะไร…

ตัวเลขของยอดขายจากธุรกิจอีคอมเมิร์สมีแนวโน้มเติบโตสูงสุดขึ้นทุกปี อย่างตัวเลขล่าสุดที่สหรัฐฯ ที่ในไตรมาสแรกของปีนี้ กวาดเงินไปสูงถึงประมาณ 5 หมื่นล้านเหรียญ (หรือราว 1.5 ล้านล้านบาท) โดยคิดเป็นการเติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 15.4 เลยทีเดียว ทั้งนี้นี่ถือเป็นปีแรกที่ยอดขายในภาคส่วนออนไลน์นี้ ทำตัวเลขแตะหลัก 5 หมื่นล้านเหรียญ (โดยไม่นับช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ที่เป็นช่วงวันหยุดยาว ซึ่งจะมีการใช้จ่ายเยอะที่สุดในรอบปี)

ทั้งนี้หากเทียบกับตัวเลขประมาณการของผู้บริโภคที่อาศัยการซื้อของผ่านช่องทางนี้ประมาณ 2 ล้านราย (เฉพาะที่เก็บข้อมูลได้) ก็เท่ากับมีค่าเฉลี่ยของการซื้อของในไตรมาสที่ผ่านมามากถึงคนละ 25,000 เหรียญสหรัฐฯ (หรือราว 750,000 บาท) เลยทีเดียวครับ

ในบ้านเราเอง ปัจจุบันก็จะพบว่ามีร้านค้าออนไลน์ให้บริการอยู่มากมาย โดยผ่านเว็บไซต์หลักๆ อย่าง Tarad.com หรือ Weloveshopping.com นอกจากนี้ในโลกสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊คเอง ก็มีการเปิดหน้าขายสินค้ากันอยู่ให้พบเห็นกันบ่อยครั้ง นั่นแสดงให้เห็นว่าในบ้านเราเองก็ไม่ได้เป็นแค่กระแสที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่ทุกคนใช้งานอีคอมเมิร์ซกันอย่างจริงจัง

สิ่งที่สะท้อนให้เห็นคือ คนไทยนั้นเริ่มมองเห็นช่องทางในการค้าขายผ่านโลกออนไลน์มากยิ่งขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าเป็นผลดีกับระบบเศรษฐกิจอย่างไม่ต้องสงสัย ในทางกลับกัน ผู้บริโภคก็มีทางเลือกในการซื้อหาสินค้ากันได้ง่ายขึ้น คนที่ได้รับผลพลอยได้ไปเต็มๆ คงหนีไม่พ้นกรมไปรษณีย์ไทย ที่แม้ปัจจุบันคนจำนวนหนึ่งเลิกติดต่อกันผ่านช่องทางของจดหมาย แต่การส่งของทางพัสดุกลับมีมากขึ้น

น่าคิดเหลือเกินว่าตลาดออนไลน์จะมาทำลายตลาดจริงๆ ไปได้หรือไม่ หรือจะเป็นการส่งเสริมให้หน้าร้านยิ่งขายดีขึ้น เพราะร้านค้าที่มีหน้าร้านจริงก็มักจะมีร้านค้าบนโลกออนไลน์อยู่แล้วเหมือนกัน …คุณคิดยังไงกันครับ?

ภาพจาก Pawoot.com

ปะหน้า “ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ” ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการบริษัท TARAD.com บริษัทอีคอมเมิร์ซชั้นนำของไทย ก็ทราบว่าล่าสุดเจ้าตัวกำลังเตรียมเปิดบริษัทส่วนตัวใหม่ชื่อว่า Zocial Inc. มีสำนักงานตั้งที่ประเทศสิงคโปร์ และจะดำเนินกิจการในหลายๆ ประเทศโดยเฉพาะภูมิภาคเอเชีย โดยบริการของ Zocial Inc. ก็คือ Social Monitoring Service (แบบคล้ายๆ ของ Onebit Matter ที่เราเคยแนะนำไป) ที่เรียกว่า Zocial Rank มีไว้ติดตามความเคลื่อนไหวว่า Facebook Page และ Twitter account ไหนที่กำลังมีคนติดตามเยอะเพื่อผลประโยชน์ทางการตลาด

“ถ้าอธิบายง่ายๆ Zocial Inc. ก็มีลักษณะคล้าย SocialBakers แต่เป็นของเอเชีย ผมมองภาพว่าเราน่าจะทำตลาดในเอเชียได้ดี ที่จริง Zocial Inc. จัดตั้งเป็นบริษัทในประเทศไทยเรียบร้อยแล้วด้วยทุนจด 1 ล้านบาท แต่ตอนนี้ผมกำลังจะจัดตั้งสำนักงานที่ประเทศสิงคโปร์ เพราะที่นั่นเป็นเหมือนศูนย์รวมของภูมิภาคและรัฐบาลสิงคโปร์เขาก็จะมอบทุนเข้ามาด้วยส่วนหนึ่ง จะเห็นว่าช่วงนี้ผมบินไปสิงคโปร์และประเทศอื่นๆ ค่อนข้างบ่อยเพราะต้องเริ่มไปพูดคุยกับพาร์ทเนอร์ในแต่ละประเทศ โดยตอนนี้เราได้ผู้บริหารที่จะมาดูแลสำนักงานในสิงคโปร์แล้ว คาดว่าในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็สามารถเปิดให้บริการในหลายๆ ประเทศได้ “

Zocial Inc. นำโดย ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ และ วรัทธน์ วงศ์มณีกิจ ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ 2 ตัว นั่นก็คือ ZocialRank ที่จัดอันดับ Social Media ดังๆ อย่าง Facebook, Twitter, Youtube และ Foursquare โดยเนื้อหาทั้งหมดจะเป็นประโยชน์กับนักการตลาดที่จะนำมาวิเคราะห์แบรนด์ออนไลน์ ตัวตนของแบรนด์ การวัดผลการทำ engagement ตลอดจนความเคลื่อนไหวของคู่แข่งและอีกตัวหนึ่งก็คือ ZocialEyes

นับว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจครับ เพราะนานๆ ทีคนไทย (โดยเฉพาะด้านออนไลน์) จะออกนอกประเทศกันบ้าง และไปตั้งสำนักงานที่สิงคโปร์ก็คือสัญญาณว่าเตรียมขยายระดับนานาชาติ นักการตลาดคนไหนสนใจรายละเอียดบริการก็ลองคุยกับเขาดูได้