Apple ผลักดันให้ iPhone รุกคืบเข้าสู่ส่วนธุรกิจมากยิ่งขึ้น  ล่าสุดได้เปิดเว็บเพจชื่อ “iPhone at Work” ขึ้นมาบนเว็บไซต์ของตน เพื่อโปรโมตวัตถุประสงค์ดังกล่าวด้วยการนำเสนอฟีเจอร์ทางธุรกิจเพื่อให้ลูกค้าเกิดไอเดียนำไปใช้ต่อ เช่น ในหมวด Organize your day ก็มีการนำเสนอ Mail, Contacts และ Calendar ในเครื่อง  รวมถึงนำเสนอแอ็พอื่นๆ ที่ช่วยรันงานด้านธุรกิจ, บริหารโครงการ, จัดการประชุม และการเดินทาง เป็นต้น

Apple ยังอ้างอิงถึงลูกค้าที่มีชื่อเสียงต่างๆ อย่างเช่น Lowe’s, GE และกรมตำรวจ Redlands ที่ตัดสินใจหันมาเลือกใช้ iPhone ในการทำงาน  ลองไปแวะชมดูได้ [ที่นี่] ครับ

… ถ้า Apple เปิดหน้าเกมมาอย่างนี้ RIM มีหนาวแน่v

Facebook บุกตลาดเพลงมากขึ้น ด้วยปุ่ม Listen นวัตกรรมใหม่ที่ช่วยให้ศิลปินเพลงที่มีหน้าเพจเป็นของตน สามารถให้แฟนเข้ามาคลิกเพื่อฟังผลงานเพลงของตนได้  โดยปุ่ม Listen นี้จะไปเรียกใช้แอ็พสตรีมมิงเพลงที่คุณอยู่บน Facebook ขึ้นมา เช่นพวก Spotify หรือ MOG  แต่ถ้าคุณยังไม่มีแอ็พอย่างว่า Facebook ก็จะขึ้นเตือนให้คุณเลือกติดตั้งแอ็พให้ด้วย

ต่อแต่นี้ไป คนที่เข้ามาในเว็บศิลปินเพลงก็สามารถทดลองฟังเพลงของศิลปินได้ แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะคลิก Like ให้ไหม  ในทางกลับกัน ศิลปินก็ได้ประโยชน์จากการที่แฟนๆ ได้เข้ามาฟังตัวอย่างเพลง ซ้ำยังถือโอกาสขายเสื้อยืดเก๋ๆ หรือบัตรคอนเสิร์ตได้อีกต่างหากนะ

… ทีนี้ ใครอยากเป็นศิลปินเพลง ก็มีโอกาสนำเสนอผลงานในโลกกว้างใบนี้ที่ชื่อ Facebook ได้แล้วv

รายงานข่าวล่าสุด กูเกิ้ล (Google) เพิ่มปุ่มใหม่ให้กับบริการ กูเกิ้ลพลัส (Google+) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้บริการสามารถแพร่กระจายคอนเท็นต์บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ของทางบริษัทได้ ปุ่มใหม่ที่ว่านี้ก็คือ ปุ่มแชร์ (Share button) นั่นเอง โดยมีลูกเล่นคือ ปุ่มจะสลับสีตรงข้ามเวลาที่ผู้ใช้คลิกบนปุ่ม แต่การทำงานที่เหลือก็จะเหมือนๆ กับเครือข่ายสังคมออนไลน์ทั่วไป

กูเกิ้ลยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง หลังจากเปิดตัวกูเกิ้ลไดรฟ์ ในวันเดียวกันทางบริษัทประกาศเปิดตัวปุ่มใหม่อย่าง Share button ซึ่งเป็นฟังก์ชันยอดนิยมสำหรับเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดย"ปุ่มแชร์"ของ Google+ ก็จะคล้ายกับปุ่มแชร์ที่ใช้บริการกันในเฟซบุ๊ก (facebook) สำหรับปุ่มแชร์ของ Google+ จะมีดีไซน์เป็นสีแดงสะดุดตา โดยมันจะเปิดโอกาสให้นักพัฒนาเว็บไซต์ช่วยให้ผู้ใช้กูเกิ้ลพลัสสามารถแพร่กระจายคอนเท็นต์บนเว็บไปบนเครือข่ายสังคมของกูเกิ้ลได้ "เมื่อผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณแล้วพบเห็นเรื่องราวบางอย่างที่น่าสนใจบนเว็บไซต์ บางทีคุณอาจต้องการให้ผู้เยี่ยมชมช่วยสนับสนุนเว็บไซต์ด้วยวิธีง่ายๆ (คล้ายกับการกดปุ่ม +1)" ข้อความในบล็อกของ Google ซึ่งแนะนำคุณสมบัติใหม่ "หลายครั้ง คุณต้องการช่วยผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์แชร์สิ่งต่างๆ ให้กับเพื่อนๆ ของพวกเขาได้ทันที วันนี้ ปุ่มแชร์  (Share button) ของ Google+ ให้คุณได้นำเสนอสิ่งนี้ต่อผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์แล้ว" 

ก่อนคลิก ปุ่มจะมีสีขาวตัวหนังสือสีแดง

 เมื่อคลิกแล้ว ผู้ใช้ Google+ สามารถเพิ่มข้อความคอมเมนต์ และเลือกได้ว่า จะแชร์ให้ใคร

 หลังจากแชร์แล้ว ปุ่มจะสลับสีตรงกันข้าม (ตัวหนังสือขาวบนพื้นแดง) และยังกดปุ่มเพื่อแชร์ได้อีก

หลังจากที่ผู้เยี่ยมชมคลิกปุ่ม Share บนเว็บไซต์ของคุณแล้ว สีของปุ่มจะเปลียนเป็นตรงข้ามจากตัวอักษรสีแดงบนพื้นขาว จะเป็นตัวอักษรสีขาวบนพื้น"แดง"แทน ปุ่ม Share ของ Google+ จะทำงานร่วมกับปุ่ม +1 ซึ่งหมายถึงการที่ผู้ใช้ Google+ ต้องการบอกกับเพื่อนๆ ว่า คอนเท็นต์นี้อ่านแล้วได้ประโยชน์ สำหรับคุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip ที่ต้องการติดปุ่มใหม่นี้ สามารถเข้าไปขอโค้ดโปรแกรมในการติดปุ่ม Share ของ Google+ ได้ที่เว็บไซต์ Google Developers ครับท่าน

กูเกิ้ลยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง หลังจากเปิดตัวกูเกิ้ลไดรฟ์ ในวันเดียวกันทางบริษัทประกาศเปิดตัวปุ่มใหม่อย่าง Share button ซึ่งเป็นฟังก์ชันยอดนิยมสำหรับเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดย"ปุ่มแชร์"ของ Google+ ก็จะคล้ายกับปุ่มแชร์ที่ใช้บริการกันในเฟซบุ๊ก (facebook) สำหรับปุ่มแชร์ของ Google+ จะมีดีไซน์เป็นสีแดงสะดุดตา โดยมันจะเปิดโอกาสให้นักพัฒนาเว็บไซต์ช่วยให้ผู้ใช้กูเกิ้ลพลัสสามารถแพร่กระจายคอนเท็นต์บนเว็บไปบนเครือข่ายสังคมของกูเกิ้ลได้ "เมื่อผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณแล้วพบเห็นเรื่องราวบางอย่างที่น่าสนใจบนเว็บไซต์ บางทีคุณอาจต้องการให้ผู้เยี่ยมชมช่วยสนับสนุนเว็บไซต์ด้วยวิธีง่ายๆ (คล้ายกับการกดปุ่ม +1)" ข้อความในบล็อกของ Google ซึ่งแนะนำคุณสมบัติใหม่ "หลายครั้ง คุณต้องการช่วยผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์แชร์สิ่งต่างๆ ให้กับเพื่อนๆ ของพวกเขาได้ทันที วันนี้ ปุ่มแชร์  (Share button) ของ Google+ ให้คุณได้นำเสนอสิ่งนี้ต่อผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์แล้ว" 

ก่อนคลิก ปุ่มจะมีสีขาวตัวหนังสือสีแดง

 เมื่อคลิกแล้ว ผู้ใช้ Google+ สามารถเพิ่มข้อความคอมเมนต์ และเลือกได้ว่า จะแชร์ให้ใคร

 หลังจากแชร์แล้ว ปุ่มจะสลับสีตรงกันข้าม (ตัวหนังสือขาวบนพื้นแดง) และยังกดปุ่มเพื่อแชร์ได้อีก

หลังจากที่ผู้เยี่ยมชมคลิกปุ่ม Share บนเว็บไซต์ของคุณแล้ว สีของปุ่มจะเปลียนเป็นตรงข้ามจากตัวอักษรสีแดงบนพื้นขาว จะเป็นตัวอักษรสีขาวบนพื้น"แดง"แทน ปุ่ม Share ของ Google+ จะทำงานร่วมกับปุ่ม +1 ซึ่งหมายถึงการที่ผู้ใช้ Google+ ต้องการบอกกับเพื่อนๆ ว่า คอนเท็นต์นี้อ่านแล้วได้ประโยชน์ สำหรับคุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip ที่ต้องการติดปุ่มใหม่นี้ สามารถเข้าไปขอโค้ดโปรแกรมในการติดปุ่ม Share ของ Google+ ได้ที่เว็บไซต์ Google Developers ครับท่าน

ครูฮีจง ครูหนุ่มเกาหลีที่เคยฝากผลงานในการออกแบบท่าเต้นเต้นและครูผู้ฝึกสอน AF4และศิลปินไทยหลายคน รวมทั้งเกิร์ลกรุ๊ป G-twenty และ Candy Mafiaของค่าย Mono Music และเนื่องจากช่วงนี้ครูฮีจงต้องกลับไปปฏิบัติการรับใช้ชาติด้วยการเกณฑ์ทหารที่เกาหลี ในช่วงหยุดภาระกิจ ครูฮีจงได้ไปร่วมงานเทศกาลสงกรานต์ซึ่งที่เกาหลีได้จัดขึ้นเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไทยในเกาหลี และเพื่อให้ชาวไทยในเกาหลีได้พบปะกันด้วย โดยเน้นพิธีตามประเพณีไทย รดน้ำดำหัว สวยงามน่ารัก

ครูฮีจงฝากข้อความถึงเพื่อนๆ และแฟนๆ ที่เมืองไทย และถ่ายภาพบางส่วนมาให้ด้วย

I too missed Thailand
So I made a plan ssongkeuran
But was not there a lot of work to go
I find the Internet to find a way to have fun in Korea were
In Korea, Thailand, then They found that once people ssongkeuran
Thailand, but interesting enough to
Many Thai people could see and eat Thai food
If you do not go to Thailand next year to go a squirt gun
Myself is will ssongkeuran

in wuejung bu si, gyung ki do, korea 

สถานที่จัดงานเทศบาลเมืองอียจอง บู

มีขบวนพาเหรดแห่ ใส่ชุดไทย แต่รองเท้าคอนเวิร์ส

 เวทีการแสดงดนตรี

สาวเกาหลีในชุดไทยสไบเฉียงก็น่ารักใช่เล่น

ส้มตำ ข้าวเหนียว ไก่ย่าง ก๊วยเตี๋ยว ผัดไทย ลูกชิ้น และขนมแบบไทยๆ จัดเต็มที่เกาหลี 

อาหารไทยสุดอะแมซิ่ง ไทยแลนด์ กระท้อนและมะม่วงน้ำปลาหวาน กับแมลงทอด 555

 กระทงบายศรีแบบไทยๆ

 ไม่ใช่แค่คนไทยเท่านั้น คนเกาหลีก็ไปชมงานกัน

เรื่องและภาพโดย ครูฮีจง //www.facebook.com/funkhj

 v

ข้อห้ามในเกาหลี อันดับ 10 อย่าหวังพบคนถูกใจ

ไอ้ที่คุณวาดฝันมาจากหนังรักเกาหลีทั้งหลายและหวังจะมาพบเจอหนุ่ม ตี๋หล่อผู้สุภาพหรือสาวน่ารักจิ้มลิ้มในแดนกิมจิ คุณควรยุติมันไว้แค่นั้น เพราะหนุ่มสาวส่วนใหญ่ในเกาหลีนั้นหน้าตาธรรมดามากๆ (ค่อนข้างไปทาง…..) ไม่ว่าจะไปเดินในแหล่งที่อุดมวัยรุ่นแค่ไหนก็ยังหาที่โดนใจได้ยาก เพราะที่เราเห็นสวยหล่อในหนังละครนั้นเป็นประชาชนส่วนน้อย (หนุ่มสาวชาวไทยเจ๋งกว่าเยอะ)

ข้อห้ามในเกาหลี อันดับ 9  อย่าหวังพึ่ง ฟุด ฟิต ฟอ ไฟ

แม้คุณจะได้ความมั่นใจในการฟุด ฟิต ฟอ ไฟ จากครูเคท หรือ แอนดรูว์ บิ๊กส์ มาแล้วหลายครั้ง แต่การพูดภาษาอังกฤษในเกาหลีต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน เพราะคนที่นี่นอกจากจะไม่พูดอังกฤษแล้ว เขาก็ไม่มองว่าคนพูดอังกฤษได้จะดูเป็นคนเก่งหรือน่าชื่นชมแต่อย่างใด จึงเห็นได้ชัดเจนว่าในเกาหลีมีชาวฝรั่งมาท่องเที่ยวกันน้อยเหลือเกิน 

ข้อห้ามในเกาหลี อันดับ 8  อย่าซื้อของปลอม!

ไม่ใช่จะมาโปรโมทเรื่อง ลิขสิทธิ์ทางปัญญา แต่จะบอกว่าคุณภาพของก๊อปปี้ในเกาหลีก็ไม่ต่างจากสินค้าย่านประตูน้ำสักเท่า ไหร่ ดังนั้น หากคุณจะซื้อของปลอมจากที่นั่น และมาย้อมแมวหลอกเพื่อนว่าเป็นสินค้าจากเกาหลีคุณก็อาจจะเสียเพื่อนเอาง่ายๆ

ข้อห้ามในเกาหลี อันดับ 7 อย่ามักง่าย (ในร้านฟาสต์ฟูด)

แม้กาแฟเย็นจะไม่เอาอ่าว แต่เรื่องความเป็นระเบียบวินัย และสปิริตการรักษาความสะอาดในร้านฟาสต์ฟูด คงต้องยกให้คนเกาหลี คุณคิดดูสิ นอกจากจะรณรงค์ให้คนเก็บภาชนะ เทขยะลงถังแล้ว ยังละเอียดถึงขั้นให้แยกประเภทภาชนะอีกด้วย และคนเกาหลีทั้งวัยรุ่นขาโจ๋หรือคนแก่แค่ไหน ต่างก็พร้อมใจกันทำเหมืนเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ ดังนั้นคุณอย่าเผลอทำตัวเหมือนในบ้านเราเด็ดขาด!

ข้อห้ามในเกาหลี อันดับ 6  อย่าสั่งกาแฟเย็น (ในร้านฟาสต์ฟูด)

ไม่เชื่ออย่าลบลู่ ถ้าคุณไม่อยากเสียเงินซื้อน้ำล้างจานฟรีๆ ไม่ได้พูดโอเว่อร์ เพราะกาแฟเย็นในร้านฟาสต์ฟูดของเกาหลีรสชาติแย่จริงๆ สันนิษฐานได้ว่าที่เกาหลีมีร้านกาแฟอยู่มากมาย และผู้คนก็ชอบที่จะดื่มกาแฟตามร้านเหล่านั้นมากกว่าดังนั้น เครื่องดื่มชนิดนี้ในร้านฟาสต์ฟูดจึงไม่ได้รับการปรับคุณภาพตามมาตรฐาน ISO แต่อย่างใด 

ข้อห้ามในเกาหลี อันดับ 5  ระวังถูกชน!

ไม่ได้หมายถึงถูกรถชนนะ! คนเกาหลีนี่แหละที่จะชนคุณจนหงายเก๋งได้ แถมยังไม่มีแม้แต่คำขอโทษ เพราะคนที่นี่ทั้งชายและหญิงต่างเดินกันเลนไหนเลนนั้น ใครขวางข้าชน ซึ่งถ้าคุณต้องสัญจรบนทางเท้าอันพลุกพล่านในเกาหลี และแน่ใจว่าไปไม่รอด ขอแนะนำให้สวมฟองน้ำไว้ที่หัวไหล่ตั้งแต่ลงจากเครื่องบิน!

ข้อห้ามในเกาหลี อันดับ 4   อย่าทำอะไรกวนใจโชเฟอร์

คนเกาหลีดุมาก อันนี้เรื่องจริง แม้โชเฟอร์แท็กซี่ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น หากคุณนั่งอยู่บนรถของเขาและเกิดนึกจะหยิบจับปรับช่องแอร์อะไรก็ตาม โชเฟอร์จะตวาดคุณทันทีด้วยน้ำเสียงเหมือนคุณจะเบี้ยวค่าโดยสาร และหากโชคไม่ดีคุณจะโดนตีมือดังเพี๊ยะ! ให้งงเล่น

ข้อห้ามในเกาหลี อันดับ 3  อย่าโบกแท็กซี่คันสีดำ

คุณอย่าใช้ความเคยชินในเมืองไทย ที่ว่าจะต้องขึ้นแท็กซี่รุ่นใหม่ เท่านั้นเพราะถ้าคุณ เผลอไปใช้บริการแท็กซี่สีดำที่มักจะลวงตาคุณด้วยยี่ห้อเบนซ์ หรือ บีเอ็มดับเบิ้ลยู คุณอาจจะหมดตัวเอาง่ายๆ เพราะรถประเภทนี้คือ รถเดอลุกซ์ (ภาษาเกาหลีเรียก ว่าโมบอม) และมิเตอร์จะเริ่มต้นราคาที่แพงกว่ารถคันอื่นๆ เกือบเท่าตัว! (ทางที่ดีคุณควรจะหัดขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินจะดีกว่า) 

ข้อห้ามในเกาหลี อันดับ 2  ฉ่อน จี ฮยอน ไม่ใช่ จอน จี ฮุน

หากคุณคลั่งไคล้ ฉ่อน จี ฮยอน มากถึงขั้นจะบินไปหาเธอที่เกาหลี คุณต้องท่องและออกเสียงชื่อของเธอให้ขึ้นใจว่า ฉ่อน จี ฮยอน ไม่ใช่ จอน จี ฮุน ถ้าคุณไปถามคนที่นั่นว่ารู้จัก จอน จี ฮุน บ้างไหมเขาอาจจะเข้าใจว่าบุคคลนี้เป็นอาชญากรตัวร้าย และคุณคือผู้สมคบคิดข้ามแดน (ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นชื่อคน สถานที่ สิ่งของ เมื่ออยู่ที่นั่นแล้วคุณควรออกเสียงให้ถูกต้อง)

ข้อห้ามในเกาหลี อันดับ 1  คุณคือ Tourist ไม่ใช่ Businessman

ถ้าคุณไม่อยากเจอปัญหาหนักอกกับหน้าตาเอาเรื่องของ ต.ม. (กองตรวจคนเข้าเมือง) คุณห้ามกรอกจุดประสงค์ในการเข้ามาประเทศเกาหลีใต้ในเอกสารว่า Business อย่างเด็ดขาด มิเช่นนั้นคุณจะต้องเสียเวลากับกิริยาก้าวร้าวและไม่รับฟังเหตุผลของพนักงานที่นั่น จนคุณอาจจะฉุนขาดได้ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะมาที่เกาหลีเพื่ออะไร คุณต้องบอกและกรอกไปว่าคุณคือ Tourist

………………………………………………………..

10 อันดับ ข้อห้ามในเกาหลี

ที่มา : //www.toptenthailand.comv