ปกติแล้วผู้ตายเป็นคนอารมณ์ดี?


จากการที่รู้สึกว่าตัวเองซึมเศร้าเลยนำมาแบ่งปันเรื่องราวกับเพื่อนๆ กลายเป็นว่าไปเจออะไรมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้ามีประโยชน์ก็อยากนำมาแชร์เสียหมด หลายคนคิดว่าคนเป็นโรคซึมเศร้าต้องคิดฆ่าตัวตายสิ จะมาเล่นบล็อค แชร์อะไรแบบนี้ทำไม แต่เราคิดว่าเรายังไม่หนักมากค่ะ ยังรู้สึกตัว และคงเพราะอยู่กับพ่อแม่ เลยคิดว่า เราต้องดูแลเขาก่อน

แต่ไม่ใช่ทุกคนจะคิดเหมือนเรานะคะ วันนี้ได้ไปอ่านเพจ Psychologist Cafe' ในหัวข้อ "ปกติแล้วผู้ตายเป็นคนอารมณ์ดี" เลยอยากแนะนำให้เพื่อนๆได้อ่านกันด้วย และนำไปสังเกตุคนรอบข้าง ระมัดระวัง และป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่จะเกิดขึ้นค่ะ ไปอ่านกันเลยค่ะ



เคยอ่านเนื้อข่าวคดีฆ่าตัวตายไหมครับ แล้วเราก็มักจะพบประโยคบอกเล่าจากปากของญาติสนิทมิตรสหายของผู้ตายในทำนองที่ว่า...

- ปกติผู้ตายเป็นคนอารมณ์ดี
- เพื่อนบ้านประหลาดใจ ปกติเขาเป็นคนร่าเริง
- ไม่มีทีท่าว่าจะฆ่าตัวตายเพราะก่อนหน้านี้ก็ดูปกติดี
- ญาติไม่ทราบว่าผู้ตายมีปัญหาอะไรเพราะเมื่อเช้าก็คุยกันปกติดี
- ผู้ตายเป็นคนสนุกสนาน จึงคิดไม่ออกว่าสาเหตุใดที่ทำให้ฆ่าตัวตาย

บางคนถึงขั้นแคลงใจว่าอาจจะเป็นการฆาตกรรมแน่ๆ แต่แล้วเมื่อสืบประจักษ์พยานโดยละเอียด นิติเวชชันสูตรพลิกศพก็ไม่พบบาดแผลอื่น ดูวงจรปิดก็แล้ว ก็ไม่เห็นมีพิรุธใดๆ ที่จะทำให้เชื่อว่ามีคนอื่นมากระทำให้ตาย สุดท้ายก็ต้องจบคดีตามหลักฐานว่าฆ่าตัวตายนั่นแหละครับ ต่อให้ไม่มีใครคิดว่าคนที่ร่าเริงขนาดนี้จะคิดแบบนี้ได้

ซึ่งคนสนิทมักจะไม่ค่อยเชื่อหรอก คือยังไปติดใจตรงที่เรื่องบุคลิกนิสัยของผู้ตายซึ่งดูไม่น่าจะทำให้เขากระทำการอย่างนั้น แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว อยากบอกว่า ตามหลักจิตวิทยา "คนฆ่าตัวตายไม่จำเป็นต้องมีบุคลิกไม่ร่าเริง" นะครับ ทั้งนี้ วินาทีที่ความคิดฆ่าตัวตายมันเกิดขึ้น ส่วนมากมักเกิดในตอนที่คนเราอยู่ตามลำพังมากกว่า ฉะนั้นไอ้ตอนที่เขาได้ออกไปอยู่ต่อหน้าผู้คน ตอนอยู่กับเพื่อนกับฝูงมันก็จะแฮปปี้อย่างที่เห็นๆ มีไมตรียิ้มแย้มตามปรกติวิสัยอยู่แล้ว นั่นจึงไม่ใช่เรื่องที่จะไปเหมารวมได้เลยว่า "คนร่าเริงที่เราเห็นเมื่อกลางวัน จะไม่ได้เป็นคนซึมเศร้าในเวลากลางคืน" ... มันไม่แน่ไม่นอนจริงๆ ครับ พอต่างที่ ต่างวาระ มันก็มีปัจจัยต่างๆ ที่เป็นตัวอิทธิพลไปเสริมการตัดสินใจของเขาได้ เช่น บางคนปากบอกไม่เป็นไรๆ แต่ลึกๆ แล้วขี้น้อยใจก็มี.. บางคนยิ้มกว้างเห็นฟัน แต่ภายในใจกลับเครียดจนคิ้วขมวดหลบในก็มี.. บางคนเพื่อนเยอะ แต่กลับชอบไปคิดว่าไม่มีใครสนใจ ไม่มีใครเห็นอยู่ตลอดเวลา ก็มี.. บางคนครอบครัวแตกแยก มีปัญหา คิดว่านอกจากครอบครัวแล้วไม่ควรค่าให้ใครรักด้วย ฯลฯ

นานาปัญหาเหล่านี้ที่มนุษย์คนหนึ่งพึงจะประสบ ให้คุณตำรวจมาสืบสวนสอบสวนคนใกล้ชิด ก็ได้แต่เดาสาเหตุกันไปล่ะครับ อย่างเช่นถ้าวัยรุ่นก็อาจเดาว่าความรัก/เกรด ถ้าผู้ใหญ่หน่อยก็เรื่องเงิน/งาน/ครอบครัว แต่ใครเล่าจะรู้ว่าจริงๆ มันเพราะอะไร เขาจึงเลือกละทิ้งสิ่งที่รักที่สุดของตนเองได้ นั่นคือชีวิตตัวเอง ไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไร หรือจะมีปมอะไรมากกว่านั้น เราก็ไม่รู้ คนที่รู้ดีที่สุดก็ดันตายไปซะแล้วไง ซึ่งถ้าหากเขาพอจะตระหนักรู้เท่าทันอารมณ์ชั่ววูบของตัวเองและควบคุมมันได้สักหน่อย เขาก็คงจะยังมีชีวิตมาเล่าสู่กันฟังให้นักจิตวิทยารับรู้ถึงปัญหาแล้วว่าแท้จริง สิ่งที่กำลังรบกวนจิตใจอยู่ ณ ขณะนี้คืออะไร และเราจะแก้ไขกันได้อย่างไร เชื่อมั่นได้เลยว่าไม่ว่ามันจะมืดแปดด้าน ก็ย่อมมีด้านที่ 9 อยู่เสมอ เพียงเปิดใจ ใช้สติ และความคิดนิดหนึ่งก็จะเจอ ทุกปัญหามีทางออกแน่นอนครับ ซึ่งไม่ใช่บนดาดฟ้าหรือในยาฆ่าหญ้าเป็นแน่

นอกจากจะมีโรคซึมเศร้าแล้ว ยังมีโรคไบโพลาร์ (คือร่าเริงสลับซึมเศร้า) อันนี้ก็ร้ายแรงถึงขั้นฆ่าตัวตาย ผู้ป่วยจะมีอารมณ์ 2 ขั้วสลับกัน ระหว่างซึมเศร้ากับรื่นเริงผิดปกติ มีสถิติเผยว่ากลุ่มเสี่ยงที่สุดคือ กลุ่มอายุ 20-30 ปี ซึ่งเป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อของการเรียน การทำงาน อาการมักเริ่มจากขยันผิดปกติ คึกคัก แล้วเปลี่ยนเป็นซึมเศร้า ร้องไห้ หากปล่อยไว้ภายใน 2-3 สัปดาห์ อารมณ์จะรุนแรง ก้าวร้าว จนญาติรับมือไม่ไหว สำหรับโรคนี้มี "ยา" รักษานะครับ ต้องพามาโรงพยาบาล มารับยา มากินยา เพราะอาการผิดปรกตินี้มาจากสารสื่อประสาทในสมองที่บกพร่อง จำเป็นต้องใช้ยาช่วยทำให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป ประการสำคัญคือคนรอบข้างและครอบครัวต้องช่วยดูแลเรื่องการกินยาสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายหรือการทำกิจกรรมคลายเครียด ให้กำลังใจเรื่องเรียนและทำงาน เฝ้าระวังเรื่องการใช้ยากระตุ้นหรือสารมึนเมา เช่น เหล้า หรือ กาแฟ ที่มีคาเฟอีนสูง ซึ่งมีผลต่อระบบสมอง

สุดท้าย การใส่ใจกันและกัน คอยสังเกตอารมณ์และพฤติกรรม รับรู้การเปลี่ยนแปลงหรือความผิดปกติของอีกฝ่าย และการพูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ ระบายกันอยู่เสมอ ก็พอจะช่วยแบ่งเบาลงได้พอสมควรครับ และสมัยนี้โรงพยาบาลก็มีแผนกจิตเวชเปิดให้ประชาชนได้ตบเท้าเข้าไปใช้บริการกันมากขึ้นกว่าแต่ก่อน จึงอยากให้ตระหนักรู้ตนเองว่าถ้าเรามี "ความเจ็บป่วยทางใจ" ก็เหมือนกับ "เจ็บป่วยทางกาย" มันจำเป็นต้องได้รับการรักษาไม่ต่ากันครับ อย่าปล่อยให้่เรื้อรัง หรือมองว่าแค่นี้เอง เดี๋ยวก็หาย แต่กลับกลายเป็นการสะสมความเครียดในใจ ฉะนั้นเมื่อจิตใจมันเสีย ก็ควรได้รับการซ่อมแซมไปตามอาการครับ ทั้งนี้ทั้งนั้น "การซ่อมแซม" คือการทำให้ของที่ชำรุดมันกลับมาดีได้คล้ายเดิม มิใช่ทำให้มันเป็นของใหม่หมดจด ส่งผลให้อาจยังคงมีเศษเสี้ยวอดีตที่ฝังใจอยู่ แต่เราก็รู้เท่าทันแล้วว่าจะไม่ไปสะกิดโดนสะเก็ดแผลนั้นให้มันเปิดออกมาอีก และถ้าหากมันชำรุดมากเกินไป หรือชำรุดด้วยความถี่บ่อยๆ การซ่อมแซมก็คือการทำให้กับมาดีตามอาการ (ว่ากันว่าอาชีพหมอ คืออาชีพแห่งการแก้ไข คือคนไข้มาหาเราเพราะปลายทาง ก็ต้องรักษาให้ไปตามอาการ และพยายามหาต้นทางให้เจอเพื่อควบคุมมันไม่ให้มีผลกระทบให้เกิดอีก) จะเห็นว่าการแก้ไข มันก็ไม่เท่ากับ "การป้องกัน" ดังนั้น เจ้าตัวจึงต้องหมั่นดูแลรักษาสุขภาพจิตวันละนิด ชีวิตจะได้สดใส อย่าลืมว่า "กันไว้ดีกว่าแก้" ในทุกกรณีครับ




Create Date : 13 ธันวาคม 2559
Last Update : 13 ธันวาคม 2559 22:27:40 น.
Counter : 1331 Pageviews.

0 comment
โรคซึมเศร้าคืออะไร?





ในปัจจุบันโรคซึมเศร้าเป็นสาเหตุหลักๆในการฆ่าตัวตายของมนุษย์ทั่วโลก เราพูดถึงโรคซึมเศร้าบ่อยมาก แต่ไม่เคยบอกเพื่อนๆอย่างชัดเจนสักทีว่าโรคนี้คืออะไร วันนี้เสี่ยวไช่เลยหาความหมายของโรคนี้มาให้เพื่อนๆได้อ่านกัน เป็นข้อมูลจากคณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อเพื่อนๆจะได้รู้จักโรคนี้มากขึ้น และเผื่อเพื่อนๆคนใดมีแนวโน้ม ก็จะได้หาวิธีรักษาได้อย่างทันท่วงทีต่อไปค่ะ 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ โรคซึมเศร้า

สำหรับคนส่วนใหญ่แล้วคำว่าโรคซึมเศร้าฟังดูไม่คุ้นหู ถ้าพูดถึงเรื่องซึมเศร้าเรามักจะนึกกันว่าเป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดจากความผิดหวัง หรือการสูญเสียมากกว่าที่จะเป็นโรค ซึ่งตามจริงแล้ว ที่เราพบกันในชีวิตประจำวันส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกธะรรมดาๆ ที่มีกันในชีวิตประจำวัน มากบ้างน้อยบ้าง อย่างไรก็ตามในบางครั้ง ถ้าอารมณ์เศร้าที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอยู่นานโดยไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น หรือเป็นรุนแรง มีอาการต่างๆ ติดตามมา เช่น นอนหลับๆ ตื่นๆ เบื่ออาหาร น้ำหนักลดลงมาก หมดความสนใจต่อโลกภายนอก ไม่คิดอยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป ก็อาจจะเข้าข่ายของโรคซึมเศร้าแล้ว
คำว่า “โรค” บ่งว่าเป็นความผิดปกติทางการแพทย์ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาเพื่อให้อาการทุเลา ต่างจากภาวะอารมณ์เศร้าตามปกติธรรมดาที่ถ้าเหตุการณ์ต่างๆ รอบตัวคลี่คลายลง หรือมีคนเข้าใจเห็นใจ อารมณ์เศร้านี้ก็อาจหายได้ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้านอกจากมีอารมณ์ซึมเศร้าร่วมกับอาการต่างๆ แล้ว การทำงานหรือการประกอบกิจวัตรประจำวันก็แย่ลงด้วย คนที่เป็นแม่บ้านก็ทำงานบ้านน้อยลงหรือมีงานบ้านคั่งค้าง คนที่ทำงานนอกบ้านก็อาจขาดงานบ่อยๆ จนถูกเพ่งเล็ง เรียกว่าตัวโรคทำให้การประกอบกิจวัตรประจำวันต่างๆ บกพร่องลง หากจะเปรียบกับโรคทางร่างกายก็คงคล้ายๆ กัน เช่น ในโรคหัวใจ ผู้ที่เป็นก็จะมีอาการต่างๆ ร่วมกับการทำอะไรต่างๆ ได้น้อยหรือไม่ดีเท่าเดิม
ดังนั้น การเป็นโรคซึมเศร้าไม่ได้หมายความว่า ผู้ที่เป็นเป็นคนอ่อนแอ คิดมาก หรือเป็นคนไม่สู้ปัญหา เอาแต่ท้อแท้ ซึมเซา แต่ที่เขาเป็นนั้นเป็นเพราะตัวโรค กล่าวได้ว่าถ้าได้รับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม โรคก็จะทุเลาลง เขาก็จะกลับมาเป็นผู้ทีจิตใจแจ่มใส พร้อมจะทำกิจวัตรต่างๆ ดังเดิม
ผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมค่อนข้างมาก การเปลี่ยนแปลงหลักๆ จะเป็นในด้านอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด พฤติกรรม ร่วมกับอาการทางร่างกายต่างๆ 

*ติดตามตอนต่อไปค่ะ :) 



Create Date : 09 ธันวาคม 2559
Last Update : 9 ธันวาคม 2559 12:33:12 น.
Counter : 733 Pageviews.

1 comment
สงสัยว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า เครียด วิตกกังวล อยากหาจิตแพทย์ทำไงดี


เคยบอกเพื่อนๆแล้วว่ารู้สึกตัวเองจะเป็นโรคซึมเศร้า แต่โชคดีที่รู้ตัวเลยพยายามหาวิธีไม่ทำให้ตัวเองคิดมากไปกว่าเดิม สำหรับเพื่อนๆที่คิดว่าตัวเองก็เป็นโรคนี้ หรือมีแนวโน้ม แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เสี่ยวไช่มีบทความดีๆ ซึ่งไปเจอมาจากเฟซบุ๊ค Drama-addict มาให้เพื่อนๆได้อ่านกันค่ะ



สงสัยว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า เครียด วิตกกังวล อยากหาจิตแพทย์ทำไงดี

ควรทราบว่าประเทศ่วาไทย เปนประเทศที่ประชาชนมีสิทธิ์เข้าถึงจิตแพทย์ได้รวดเร็วและง่ายมากที่สุดประเทศนึงในโลก ทั้งที่เรามีจิตแพทย์ที่ทำงานจริงๆประมาณ 700กว่าๆทั่วประเทศ

(อนึ่ง อ้างอิงจากประสบการณ์ส่วนตัวของจิตแพทย์ท่านนึงที่เคยไปเรียนในอังกฤษ ฝึกงานที่ไต้หวันและดูงานญี่ปุ่น ส่วนใครจะเถียงว่าไนจีเรีย หรือเซอร์เบียเข้าถึงง่ายกว่า ก็ไม่รู้ เพราะไม่เคยไป)

วิธีเข้าถึงบริการด้านจิตเวชในบ้านเรา เริ่มจาก

1.สำรวจว่าตนเองมีสิทธิ์การรักษาแบบไหน บัตรทอง ประกันสังคม และต้นสังกัดของตัวเองอยู่รพ.อะไร

2.ไปรพ. ต้นสังกัดของตน แล้วแจ้งว่า อยากจะพบจิตแพทย์ ถ้าหากรพ.นั้นไม่มีจิตแพทย์ รพ.จะให้เจอ แพทย์ทั่วไปตรวจไปพลางและเขียนใบส่งตัวไป รพ.ที่มีจิตแพทย์และเป็นเครือข่าย ส่วนมากก็รพ.จิตเวช หรือ รพ.ศูนย์ (ถ้าเป็นตจว) รพ.รัฐที่มีจิตแพทย์ดูข้อมูลในลิงค์ในเม้นนาจา

3.ไปถึงรพ. แล้ว จะต้องเจอพยาบาลคัดกรอง ถามว่ามีอาการอะไร ไม่ต้องอายเจ๊แก นี่คือขั้นตอนปรกติ ตอบไปว่า นอนไม่หลับ บลาๆๆๆ อาการที่เป็นและระบุระยะเวลาที่เป็นด้วยว่าเป็นมานานแค่ไหน
บางแห่ง (เช่นรพ.จิตเวชที่ หมอคนนึงตรวจคนไข้เป็นร้อย ซึ่งเอาไปเล่าที่ประเทศอื่น มีแต่คนอเมซิ่งไทยแลนด์เป็นอันมาก สายตาที่มองดูเราเหมือนเรามีสี่กร) พยาบาลจะให้ทำแบบคัดกรองด้วย เพื่อช่วยจัดลำดับความเร่งด่วน ทำไปเถอะ ช่วยพยาบาลหน่อย (ขอให้ขึ้นไปดูจำนวนจิตแพทย์ทั่วประเทศอีกรอบ) บางที่ อาการไม่หนักมาก หรือเป็นรพ.ที่ไม่มีจิตแพทย์ตรวจ พยาบาลจะส่งให้หมอทั่วไปดูก่อน ซึ่งอิหมอพวกนี้ มันต้องเรียนจิตเวชเบื้องต้นกันมาทุกคน รักษาได้เบื้องต้น ยกเว้นเอาไม่อยู่ หรืออาการหนักจริงๆ พวกนางจะเขียนใบส่งตัวท่านเอง (หรือคนไข้จะขอให้นางเขียนก็ได้ ถ้าคิดว่าไม่ไหวแล้ว หมอ)

4.ได้วันนัดแล้ว ไปพบแพทย์ ไม่ต้องตื่นเต้น หมอไม่กัด บางทีรักษาๆไป เฮ้ย หมอคนนี้ไม่ใช่อะ ไม่ไหวอะ ดูไม่เข้าใจเรา ไม่คลิก คนไข้ก็เทหมอได้ ด้วยการไปบอกพยาบาลว่าขอเปลี่ยนหมอ อันนี้ปรกติ มันเป็นเรื่องของกลไกทางจิตของแต่ละคน จิตแพทย์ทุกคนไม่สามารถดูแลผู้ป่วยได้ทุกเคส บ่อยไปที่จิตแพทย์ส่งต่อคนไข้ให้จิตแพทย์ด้วยกันเอง ตามความถนัดและอื่นๆ การหาจิตแพทย์ที่เหมาะกับตัวเองพบ น่าจะง่ายกว่าการหาสามี (จิตแพทย์สาวโสดท่านหนึ่งรำพึงโดยไม่มีหลักฐานทางสถิติรองรับ)

5.การตอบสนองต่อการรักษาใช้เวลา เป็นอาทิตย์ เฉลี่ย10-14วัน กินยารักษาสามวันไม่หาย อย่าเพิ่งเทหมอ แต่ถ้ามีผลข้างเคียงจากยามาก เช่นอ้วกจนแฟนตกใจนึกว่าท้อง นอนหลับจนตื่นไปทำงานไม่ไหว อันนี้รีบไปหาหมอก่อนเวลานัดได้ เพราะผลข้างเคียงแต่ละคนไม่เท่ากัน

6.คนที่ขี้เกียจรอคิวในเวลาราชการ เช่นมันนานเกินรอไม่ไหว แต่ยังอยากใช้สิทธิ์ ให้ถามคุณพยาบาลคัดกรอง รพ.ต้นสังกัด นั่นแหละว่า มีคลินิคนอกเวลาไหม เพราะค่ายาไม่ต้องจ่าย แต่ต้องจ่ายค่าหมอ ซึ่งที่อื่นไม่รู้คิดเท่าไหร่ แต่แถวๆนี้เฉลี่ยอยู่ประมาณ 150-300 (จิตแพทย์ต่างชาติช็อกมาก บอกว่าจิตแพทย์ไทยค่าตัวราคาเท่าค่ารถเมล์บ้านเขา ขาไปขาเดียวด้วยนะ ขากลับต้องตรวจเพิ่มอีกคน) บางสิทธิ์เท่าที่รู้เช่นรัฐวิสาหกิจเบิกค่าหมอได้ด้วย
7.สำหรับผู้ที่ขี้เกียจรอคิว ในและนอกเวลาราชการ หรืออยากได้ความเป็นส่วนตัว ความสะดวกสบาย หมอสาวแต่งหน้าสวยๆไม่หน้าเมือกหัวฟูมาตรวจ หมอชายผมเรียบกริ๊บ หน้าใส พยาบาลสาวหุ่นดีเอวมด บริการท่านยิ่งกว่าแอร์โฮสเตสชั้นเฟิร์สคลาส คิดว่าตอนนี้รพ.เอกชนเกือบทุกที่ มีจิตแพทย์ประจำ (บางที่อาจไม่มีตลอดเวลา มาเป็นช่วงเวลาเช่นเย็นๆของบางวันในสัปดาห์-ขอให้ผู้อ่านขึ้นไปดูจำนวนจิตแพทย์ทั่วประเทศอีกครั้ง) โทรไปจองที่แผนกจิตเวช ของรพ.นั้นๆได้เลย ตามสโลแกน #อยากเจอต้องได้เจอแถมระบุชนิดจิตแพทย์ได้ด้วย ที่เคยได้ยินมา คือมีผู้ป่วยเคยขอ “ขอจิตแพทย์หญิงที่จบรร.เตรียมอุดมมีลูกมีสามีแล้วและสามีเป็นหมอ” รพ.ก็ไปหามาจนได้(ปรบมือ) แน่นอน ราคาค่าบริการคือ เรทรพ.เอกชน (และคำขอเช่นนี้ขอรพ.รัฐไม่ได้ บางรพ.หมอขึ้นคานยกแผนกก็มี)

8.รพ.เอกชนเฉพาะทางจิตเวชตอนนี้ในไทยมีแห่งเดียว คือ รพ.มนารมย์ เสริชกูเกิ้ลได้เลย จัดเป็นรพ.ที่มีจิตแพทย์ครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นโรคทางจิตด้านใด ช่วงอายุไหน ก็จะมีผู้เชี่ยวชาญโรคนั้นๆเวียนมาออกตรวจ (แน่นอน เป็นระยะๆและระบุช่วงเวลา เพราะบุคลากรโดยรวมมีจำกัด) ค่าบริการเรทเอกชนเช่นกัน
9.นอกจากนี้ยังมีคลินิคจิตเวชอยู่กระจายทั่วไปทั้งในและนอก กทม.สามารถโทรไปจองคิว ค่าบริการถูกกว่ารพ.เอกชน แต่แพงกว่ารพ.รัฐ(ซึ่งมักจะจ่ายเฉพาะกรณีไม่ใช้สิทธิ์ต้นสังกัด จ่ายเงินสด ยาที่ใช้สิทธิ์ไม่ครอบคลุมเป็นยาราคาแพง หรือ คลินิคนอกเวลา)

อนึ่งผู้ที่ทำประกันกับบริษัทประกันเอกชน ให้ถามรายละเอียดกับตัวแทนประกันชีวิตของท่าน เพราะสัญญาประกันชีวิต/ประกันสุขภาพหลากหลายมาก มีปลีกย่อยไปตามแต่บริษัท ตัวแทนประกันของท่านต้องทราบว่าจะจัดการอย่างไร ให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุด ถ้าตัวแทนท่านไม่รู้อะไรเลย ให้เทตัวแทนนั่นทิ้ง และไปหาตัวแทนใหม่ โดยแจ้งไปที่บริษัทโดยตรง ไม่ต้องเลิกสัญญาประกัน เป็นสิทธิ์ที่ท่านพึงได้
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ไปโพสต์ถามได้ที่เพจ สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย ยังไม่แจ้งแอดมิน แต่แท็กแบบนี้สักพักคงรู้ตัวแล้ว

ขอบคุณข้อมูลจากจิตแพทย์หญิงท่านหนึ่งที่เป็นแหล่งข้อมูลอ้างอิงให้บทความนี้นาจา




Create Date : 01 ธันวาคม 2559
Last Update : 1 ธันวาคม 2559 17:37:00 น.
Counter : 612 Pageviews.

0 comment
แนะนำซีรี่ส์จีน《微微一笑很倾城》


สวัสดีค่ะ ไม่ได้เขียนบล็อคเลยช่วงนี้ เพราะชีวิตธรรมดามาก ไม่รู้จะเขียนเรื่องอะไรด้วย แต่วันนี้มีเรื่องที่จะเขียนแล้วค่ะ ^^

วันนี้เสี่ยวไช่มาแนะนำซีรีส์จีนวัยรุ่นใสๆให้เพื่อนๆได้ดูฝึกภาษากันค่ะ ชื่อเรื่องว่า 《微微一笑很倾城》แปลเป็นไทยประมาณว่ายิ้มทีเดียวก็งามหยาดเยิ้ม? แต่อีกมุมนึง นางเอกในเรื่องชื่อ 微微 ค่ะ อาจแปลได้ประมาณ แค่ 微微 ยิ้ม ก็ดูงามมากก็ได้ 

มาเข้าเรื่องดีกว่า เรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรมาก คิดว่าเป็นการโฆษณาเกมส์ออนไลน์ของจีนมากกว่า ระหว่างเรื่องก็มีโฆษณาตรึม ไม่ว่าจะเป็นมาร์คหน้า ชานม ยาคูล รถยนต์ เสื้อผ้า มือถือ คอมพิวเตอร์ คือเยอะมาก 555 เนื้อหาเรื่องก็เกี่ยวกับพระเอกทำเกมส์ออนไลน์ นางเอกเป็นดาวคณะ รักกันแบบงงๆ ตลกๆ ตอนหลังๆเหมือนไม่มีอะไรจะแสดง (อ้าว) แต่ก็นะ ถามว่าทำไมถึงดู ง่ายๆเลย ผู้ชายในเรื่องนี้หล่อมากกกกกก (ก ไก่ล้านตัว) โดยเฉพาะพระเอกคือแบบ ดูไปฟินไป 

ถามจุดเด่นของเรื่องก็ ผู้ชาย (เอิ่ม) และ ความฟินของการได้ดู เบาสมองดีค่ะ เนื้อหาไม่ค่อยมีจุดเด่น จะร้ายก็ไม่ร้ายเต็มที่ คือโลกสวยทั้งเรื่องว่างั้น ก็อยากให้เพื่อนๆได้ดูกันนะคะ แม้ว่าจะไม่มีอะไรเท่าไร ก็ดูแล้วก็มีความสุขดี คลายเครียดและได้ฝึกภาษาค่ะ 

ใครอยากดูเข้า Youtube พิมพ์ชื่อเรื่องก็ขึ้นแล้วจ้าาา
ปล. เน็ตเสี่ยวไช่ไม่ค่อยดี ขอลงแค่รูปปกนี่ละกันเนอะ ขอบคุณที่อ่านจนจบค่า

เสี่ยวไช่ :)






Create Date : 27 ตุลาคม 2559
Last Update : 27 ตุลาคม 2559 10:24:16 น.
Counter : 833 Pageviews.

0 comment
สำหรับคนท้อแท้สิ้นหวังในชีวิต




ช่วงนี้รู้สึกท้อแท้กับชีวิตมากค่ะ มีปัญหาหลายอย่าง คิดมาก ฟุ้งซ่าน รู้สึกว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า แต่ยังดีที่รู้ตัวก่อน พยายามหาอะไรทำ พยายามกลับมาให้สดใสร่าเริง ทั้งอ่านหนังสือ อ่าจเพจเกี่ยวกับสุขภาพจิต ดูหนัง ละคร คุยกับเพื่อน ฯลฯ 

วันนี้ก็เหมือนเดิมค่ะ เราก็หาอะไรทำไม่ให้ว่าง ก็เลยเข้าYoutube หาเพลงฟัง หาหนังดู พอดีเจอคลิปหนึ่งค่ะ ที่เรารู้สึกว่าเราดูแล้วมีกำลังใจขึ้นมาเยอะมาก และเราต้องพยายามและไม่ยอมแพ้ 



เราคิดว่าทุกคนคงพอรู้จักชายคนนี้จากสื่อต่างๆ เราไม่รู้จะอธิบายได้อย่างไร แต่ถ้าเราคิดว่าเราเป็นเขา เราไม่รู้จะสู้ได้ขนาดนี้ไหม เราจะลุกขึ้นมาปลุกกำลังใจและสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนจำนวนมากในโลกได้ขนาดนี้ไหม

เขาเป็นตัวแทนของคำว่า "มีค่า" สำหรับเราค่ะ แม้เขาอวัยวะจะไม่ครบ แต่ใจของเขาครบและมีค่ามากค่ะ

เราอยากให้เพื่อนๆที่กำลังท้อแท้ สิ้นหวัง มีปัญหาในชีวิตมากมาย ให้ดุคลิปนี้นะคะ แล้วพยายามไปด้วยกัน อย่างยอมแพ้ 

ขอบคุณนิค...
ขอบคุณเพื่อนๆชาวบล็อคที่อ่านจนจบค่ะ :)



Create Date : 08 กันยายน 2559
Last Update : 8 กันยายน 2559 9:56:33 น.
Counter : 582 Pageviews.

4 comment
1  2  

สมาชิกหมายเลข 3361050
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]