WishRich
Group Blog
 
All Blogs
 

ดวงประจำวัน 20/04/53












วันอังคารที่ 20 เมษายน พุทธศักราช 2553
 
ขึ้น
7 ค่ำ เดือน 6 ปีขาล จุลศักราช 1372 คริสต์ศักราช 2010 วันนี้ดิถีพิฆาต
(ห้ามทำการมงคล)

เด็กเกิดวันนี้หาก
เกิดเป็นชาย


เป็นคนเจ้าปัญญามีความรู้ความสามารถ
หลายสาขา ทั้งเป็นคนจริงจังกับชีวิตและความเป็นอยู่
เรื่องร่ำเรียนก็ไม่ด้อยไปกว่าใคร
เติบใหญ่จักต้องมีกิจการตำแหน่งหน้าที่สำคัญ
ชื่อเสียงและฐานะความเป็นอยู่มั่นคงเด่นดัง
ผู้คนยกย่องรักนับถือและได้พึ่งพามากหลายยิ่ง

หากเกิดเป็นหญิง

เป็นคนมีความจริง
ใจเสมอต้นเสมอปลาย ใส่ใจเรื่องการศึกษาหาความรู้ ทุกรูปแบบ
มั่นคงเมื่อตกลงใจแต่ละอย่างออกไป
หรือรับปากใครก็เดินหน้าสู้ไม่ถอยทุกเรื่อง
เติบใหญ่ต้องเป็นที่พึ่งพาของคนหมู่มากแล.




















ท่านที่เกิดวันอาทิตย์ วันนี้บางเรื่องบางอย่าง
ยังคงสงสัยและเกิดข้องใจ ทุกอย่างมันคงเป็นไปได้ตามจังหวะแลชาตาชีวิต
สุขภาพกายช่วงนี้ต้องระวังบ้างหนา
เรื่องเก่าก่อนก็ย้อนมารุงรังสมองอีกครั้ง ความรักก็ยังเหมือนเดิม

ท่านที่เกิดวันจันทร์
วันนี้หลายสิ่งมากอย่างที่ปิดบังไว้กำลังมีคนเปิดออก
เงินทองและของฝากจากเพศตรงข้ามคนต่างวัยมีมาจากใจจริง สุขภาพท้องไส้
ก็ยังคงต้องระวังมั่ง เรื่องของความรักความหลังบางครั้งก็ขมขื่นใจจัง

ท่านที่เกิดวันอังคาร วันนี้มาก
ด้านหลายปัญหามีมารุมสุมสมอง
เงินทองก็ต้องจำจ่ายหลายรายการทั้งจำเป็นแลจำใจ
ภาระที่แบกอยู่ยิ่งหนักหน้าออกไป ผู้คนที่เกี่ยวข้องก็ไม่เหมือนเช่นเดิมนัก
ความรัก ก็ทำท่าเปราะบางเสมอ

ท่าน
ที่เกิดวันพุธ
วันนี้ต้องเจอปัญหาโลกแตกที่ยากจะแยกก่อนหลังเก่าใหม่
ทุกอย่างท่านเองต้องระวังรักษาน้ำคำน้ำใจจากใครต่อใครไว้
ช่วงนี้เลือดลมในกายท่านกำลังแปรผันชอบกล รักที่เพิ่งเริ่มต้นทำท่า
คิดมากต่อกันง่าย

ท่านที่เกิด
วันพฤหัสบดี
วันนี้ยังไม่วายสงสัยและเกิดข้องใจตนเองกับเรื่องราวแต่
วันวานมา เงินทองยังคงเป็นปัญหาโลกแตกที่ยากจะแยกก่อนหลังเก่าใหม่
การตกลงใจแต่ละอย่างรอบคอบบ้างหนา เรื่องรักก็ยังเช่นเดิมมานั่น

ท่านที่เกิดวันศุกร์ วันนี้อาจเกิด
การเข้าใจผิด หรือไม่วายที่ต้องหวนคิดคำนึงหนัก
ทั้งปัญหาซับซ้อนเรื่องของรักที่วัยและฐานะแตกต่างกันมา
กับใครบางคนกำลังแปรผันไปตามกระแส เดินทางก็ต้องระวังทั้งโรค
ภัยไข้เจ็บมั่ง

ท่านที่เกิด
วันเสาร์
วันนี้การดันทุรังเอาแต่ใจตนเป็นที่ตั้งหรือไม่ค่อยจะรับ
ฟังเสียงนกกาบ้าง เรื่องยุ่งยากมันต้องตามติดมาปวดกระดองใจตนตอนหลัง
ทั้งกิจการเราเป็นพนักงานใครเขา ลาภผลและความรักก็ยังเหมือนเดิม




 

Create Date : 20 เมษายน 2553    
Last Update : 20 เมษายน 2553 14:17:23 น.
Counter : 329 Pageviews.  

หาคู่ออนไลน์ เจอรักแท้ หรือ ลวง










//variety.teenee.com/foodforbrain/img7/85534.jpg
พูดถึง "รัก
ออนไลน์"
สาวเปรี้ยวและหนุ่มซ่า
ร้อยทั้งร้อยย่อมรู้จักกันดี แถมบางทีเคยลองรัก ลองคลิก ลองติดต่อกับ
ซัม วัน แอนด์ ซัม บอดี้”

หรือใครสักคนทางอินเตอร์เน็ตมาแล้วก็ได้
ส่วนที่รู้ว่ามีการหาหวานใจในช่องทางนี้ แต่ไม่เคยใช้บริการก็มีอีก
พวกประเภทรี ๆ รอ ๆ อยากสัมผัสรักทางอินเตอร์เน็ตก็เยอะ


          การหาคู่ออ
นไลน์จึงไม่ใช่เรื่องใหม่ และไม่ใช่ ว่าสมัยนี้จะเลิกฮิตกันไปแล้ว
เพราะนับวัน "เรื่องพิศวาสทางสาย"
ยังใช้กันจนบางคน กลายเป็นชีวิตประจำวันไปซะแล้ว
แถมเดี๋ยวนี้เด็กวัยรุ่นถ้าไม่มีเพื่อนสนิทในโรงเรียน ก็ไม่เห็นจะแคร์แล้ว
ในเมื่อเขามีช่องทางใหม่ ๆ เข้าไปคุยกะใคร ๆ ในเน็ตได้




          ถ้า
แค่หาเพื่อนพูดคุยระบายความรู้สึกก็แล้วไป . .  แต่หากเกิดนึกสนุก
อยากหาคู่เดทหรือหาคนเลิฟผ่านอินเตอร์เน็ต
(บางคนถึงกับฝันหวานมุ่งมั่นอยากหาให้ได้ ไม่งั้นนอนไม่หลับ) ละก็
น่าเห็นใจพอ ๆ กับรู้สึกระทึกไปกับคนคนนั้นด้วย

เพราะโพลที่ทำสำรวจเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ผ่านทางออนไลน์
ฟังแล้วสาวคนไหนสบายใจก็เชื่อเค้าเลย
จึงอยากเตือนวัยรุ่นโดยเฉพาะสาวๆให้ระมัดระวังหน่อย ผลสำรวจแจ้งว่า
หนุ่มที่สามารถพบได้ใน ไซเบอร์เน็ต คือ




          อันดับ 1 ที่เจอ
เป็นหนุ่มไซเบอร์สุดหื่น 
          อันดับ 2
หนุ่มหน้าตาไม่ดีแต่อยากมีแฟน จึงหาทางออกด้วยการหาคู่ทางเน็ต
         
อันดับ 3 เพลย์บอยเซ็กซ์ไม่เลือก 
          อันดับ
4
นักศึกษาเพิ่งริรัก 
          อันดับ 5
พ่อบ้านเมียเผลอ 
          อันดับ 6 อาเสี่ยชอบหาเด็ก




          ฟังแล้วสาวๆ ก็ต้องเก็บไปคิดกันบ้าง
แต่จะหาว่ามองโลกในแง่ร้าย เพราะ
"รักตามสาย" ผ่าน
อินเตอร์เน็ต ที่ทำให้ชายหญิงเจอกัน จนเกิด
"ความรักครั้งสุดท้าย" ก็มีไม่ใช่ไม่มี แต่เชื่อไหมว่า
รักแท้ทำนองนี้เกิดขึ้นยากมาก ๆ ยกเว้นบุพเพสันนิวาส
ทำให้หนีกันไม่พ้นก็ต้องคู่กันแหง แต่คู่เจอกันทางออนไลน์ที่รักปลอม ๆ
รับรองเยอะกว่าแน่




          โดยมากถ้าฝ่ายหญิงเข้าไปในเว็บหาคู่
ใจจริงบางคนอาจไม่อยากมีคู่หรอก แต่อยากมีเพื่อนมากกว่า ทว่าคุยไปคุยมา
เกิดไปเสียรู้หรือสมยอมไม่รู้แหละ จึงทำให้แทนที่จะคุยกันเฉย ๆ
กลายเป็นพูดเรื่องเซ็กซ์ หยอกล้อเย้าแหย่เข้าทำนอง
“เซ็กซ์โฟน” ไปซะ

















ด้วยเหตุนี้ จึงอยากแนะนำ
สิ่งที่ควรและไม่ควรทำในการนัดเดททางอินเตอร์เน็ต (Do and Don't for
Internet Dating) กันสักที จะได้รู้ทางหนีทีไล่
เผื่อท่านผู้อ่านเกิดนึกสนุกอยากหาคู่ผ่านช่องทางนี้
จะได้ไม่เสียรู้ไปซะก่อน


          1.
สมมติเจอใครสักคนทางออนไลน์เข้าละก็ ควรชวนคุยเรื่องทั่ว ๆ ไปก่อน

เช่น ถามรสนิยม, ความชอบหรือไม่ชอบของเขา และบอกของเราไปด้วย
จะได้ประเมินได้ว่า พอจะมีใจตรงกันบ้างไหม หรือคุณจะรับเขาได้หรือเปล่า?
ดีกว่าเล่นจีบกันตั้งแต่แรกพบเป็นไหน ๆ




          2.
พวกที่เข้าไปในเว็บ Dating and Personals เพื่อให้หาคู่ให้ ไม่ว่าจะรักเล่น
ๆ หรือจงใจหาแฟนจริงจังก็ตาม ไม่มีใครใช้ชื่อจริง ที่อยู่จริงหรอก

ส่วนใหญ่จะเมกเอาทั้งนั้น หรือบางทีไม่บอกทั้งชื่อจริงและชื่อปลอมด้วยซ้ำ
บอกแค่เป็นชายหรือหญิง, อายุเท่าไหร่ แล้วอยากได้คู่เป็นชายหรือหญิง
และอายุประมาณอีกฝ่ายเท่าไหร่ก็พอ
หากใครคิดว่ามีคุณสมบัติใกล้เคียงเดี๋ยวก็ติดต่อมาเอง
ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีใครอยากเล่นสนุกด้วยหรอก




          3.
หากอยากลงภาพของคุณเข้าไปบรรจุอยู่ในแฟ้มคนโสดหาคู่ในเว็บไซต์จริงรึ
 
แต่ก่อนที่จะเอาหน้าตัวเองไปโชว์เพื่อประชาสัมพันธ์
ก็อย่าลืมทำใจไว้ด้วยว่า รูปของคุณอาจถูกมือดี
ดึงรูปคุณไปตัดต่อเป็นภาพลามกหรือภาพปลุกใจเสือป่าเข้าให้




          4.
อยากหารักตามสายหรือรักออนไลน์
ควรระมัดระวังพฤติกรรมคนที่เราคุยด้วยไว้ด้วย

ขืนเจอพวกคึกคะนองใช้วาจาสองแง่สามง่ามเพราะอยากให้รู้สึกว่าเป็นกันเอง
ถ้าเจอพวกคึกราว ๆ นี้ถ้าเป็นพวกวิปริตขึ้นมาก็แย่




          5.
ถ้าอยากเจอกันเหลือเกิน ต้องมีสักวันสิน่า ที่คู่แชตกันบ่อย ๆ
ย่อมอยากเห็นหน้าค่าตากัน ซึ่งดีเหมือนกัน
ต่างฝ่ายจะได้รู้กันซะ
ทีว่าทั้งคู่มีหน้าตาน่ารัก หรือน่ากลัว
แต่
สงสัยไหมว่าพวกที่เข้าไปหาแฟนหรือคู่เดทในเน็ตน่ะ ทำไมถึงไม่
หาคู่เองในโลกปกติล่ะ จำเป็นต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ด้วย
หรือบางรายมีแฟนแล้ว
แต่กะให้เหยื่อที่ติดเบ็ดเป็นแค่กิ๊กที่พร้อมจะหลอกมาทำมิดีมิร้ายหรือแย่ไป
กว่านั้นแบล็กเมล์ หาเงินใช้อีกต่างหาก จงอย่าเสียรู้เชียว






 

Create Date : 20 เมษายน 2553    
Last Update : 20 เมษายน 2553 14:14:35 น.
Counter : 255 Pageviews.  

ทำไมคนเราถึงไม่ซื่อสัตย์

//variety.teenee.com/foodforbrain/img2/85522.jpg
คนแบบไหนที่มักจะชอบทำอะไรลับหลังคู่ของตัวเอง
และอะไรคือเหตุผลของการนอกใจ ความหมายของความไม่ซื่อสัตย์ บางคนบอกว่าแค่เพียงคิดเรื่องเซ็กส์กับคนอื่นที่ไม่ใช่คู่
ของตัวเอง ก็เพียงพอที่จะถือว่าไม่ซื่อสัตย์แล้ว
แต่คำจำกัดความที่ใช้กันมากที่สุดก็คือ
คนที่มีสัมพันธภาพอย่างเปิดเผยกับคนหนึ่ง
แต่ไปมีสัมพันธ์ทางเพศกับอีกคนหนึ่ง

ในการแต่งงานหรือสัมพันธภาพที่มั่นคง มักอาจเรียกได้ว่า การมีชู้
ถ้ามันยาวนานกว่าหนึ่งคืน

ใครไม่ซื่อ
สัตย์ การศึกษาวิจัยในอังกฤษเมื่อไม่นานมานี้ชี้ว่า

 
ผู้ชาย
ชาวอังกฤษที่มีสัมพันธภาพที่มั่นคงราวครึ่งหนึ ่ง
นอกใจคู่ของตัวเองอย่างน้อยหนึ่งครั้ง ส่วนผู้หญิงก็ไม่ซื่อสัตย์เกือบพอๆ
กัน ถึงแม้บางทีแรงจูงใจของพวกเธอที่นอกลู่นอกทางจะต่างก ัน

ทำไมคน
เราถึงนอกใจ นี่คือเหตุผลบางอย่าง
แต่ระวังคนที่ใช้มันเป็นข้อแก้ตัวให้แก่พฤติกรรมของต ัวเอง

กลัวการผูกมัด
เหตุผลส่วนใหญ่ก็เพียงแค่ความไม่เป็นผู้ใหญ่พอ
แต่บ่อยครั้งมันก็ชี้ถึงปัญหาทางจิตใจที่ลึกกว่านั้น


แก้แค้น บ่อยครั้ง
มักเป็นการลงโทษอีกฝ่ายหนึ่งที่ไม่ซื่อสัตย์ก่อน

อยากเลิก
บางคนมองการไม่ซื่อสัตย์เป็นหนทางในการหนีออกจากสัมพ ันธภาพที่มีอยู่

แต่บ่อยครั้งพวกเขาก็ไม่ได้อยู่กับคู่รักใหม่เช่นกัน

ความเบื่อหรือไม่มีความสุข
บ่อยครั้งเมื่อสัมพันธภาพเริ่มคาดเดาได้ หรือกลายเป็นกิจวัตร

มีปัญหาเรื่องเซ็กส์หรือการสื่อสาร บางคนมองหาความรักหรือความเอาใจใส่
ในขณะที่อีกคนสนใจแต่เซ็กส์

อำนาจ
บางครั้งคนที่ไม่ซื่อสัตย์จะคิดว่า
ตัวเองมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้ที่ตัวเองต้องการ

เมื่อใดก็ตามที่เขาต้องการ พวกเขาดูจะไม่แคร์ในผลที่ตามมาจากการกระทำของเขา
ไม่ว่าใครจะเจ็บปวดก็ตาม

ความไม่มั่นคง
บางคนมีความเคารพตัวเองต่ำ และต้องการ การยอมรับอย่างมาก
เพื่อที่จะได้รู้สึกว่าตัวเองมีเสน่ห์
ก็สามารถถูกชักจูงให้ออกนอกลู่นอกทางได้ง่ายมาก




 

Create Date : 20 เมษายน 2553    
Last Update : 20 เมษายน 2553 14:12:33 น.
Counter : 500 Pageviews.  

นิยามความสำเร็จ

//variety.teenee.com/foodforbrain/img3/85525.jpg
ถ้า

A B C D E F G H
I J K L M N O P Q R S T U V W X Y Z


ค่า
เท่ากับ


1 2 3 4 5 6 7 8 9
10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26


แล้วจะ
พบว่า......


1) H+A+R+D+W+O+R+K =
8+1+18+4+23+15+18+11 = 98%


HARD WORK หรือ
ทำงานหนัก มีค่าเท่ากับ 98 %


2) K+N+O+W+L+E+D+G+E = 11+14+15+23+12+5+4+7+5 = 96%

KNOWLEDGE หรือ ความรู้ มีค่าเท่ากับ 96 %

3) L+O+V+E=12+15+22+5 = 54%

LOVE
หรือ ความรัก มีค่าเท่ากับ 54 %


4)
L+U+C+K = 12+21+3+11 = 47%


LUCK หรือ โชค
มีค่าเท่ากับ 47 %


Q :
ไม่มีสิ่งใดที่มีค่า 100 % เลยหรือ !!! แล้วสิ่งใดที่มีค่าเท่ากับ 100 %



- ใช่เงินหรือเปล่า ?……… ....
.....ไม่ใช่ !!!!!

- ความเป็นผู้นำหรือเปล่า ?………ไม่ใช่ !!!!!

Q : แล้วอะไรล่ะ ?

.

.

.

Ans. : A+T+T+I+T+U+D+E = 1+20+20+9+20+21+4+5 = 100%

ATTITUDE หรือ ทัศนคติ นั่นเอง ที่มีค่าเท่ากับ 100 %


ท่านคิดเช่นนั้นหรือไม่ ทุกปัญหามีทางออก . .
บางทีแค่เพียงแต่เราเปลี่ยน "ทัศนคติ
" ของเรา

เสียใหม่เท่านั้นเอง มีเพียงแต่
"ทัศนคติ"
ของเราเท่านั้น ที่จะเป็นตัวนำทาง
ไปสู่ความสำเร็จในชีวิต

และงานที่ทำ

....ความคิด
& ทัศนคติ....และสุดท้าย .... การลงมือทำ




 

Create Date : 20 เมษายน 2553    
Last Update : 20 เมษายน 2553 14:04:58 น.
Counter : 325 Pageviews.  

13 สไตล์ กินระบายอารมณ์

//variety.teenee.com/foodforbrain/img4/85528.jpg
ร่างกายที่
มีผลต่ออารมณ์


          ที่มาจาก 2
แหล่งของผลสะท้อนความรู้สึกคือ อาหารและสารเคมีในสมอง
และปัจจัยที่ควบคุมได้ง่ายคือ อาหาร
ด้วยการงดกินอาหารคาร์โบไฮเดรตที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูงอย่าง ไอศกรีม
ข้าวเหนียว มันฝรั่งบด อาหารประเภททอด ขนมขบเคี้ยวต่าง ๆ น้ำอัดลม
กระตุ้นให้มีการหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน ที่นำกลูโคสเข้าสู่เซลล์ต่าง ๆ
เพื่อเผาผลาญเป็นพลังงาน หลังจากกินไปได้ 2-4 ชั่วโมง
จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ร่างกายอ่อนแรง
อารมณ์เซื่องซึม ตาหนัก ง่วงนอน  
 
กิน
อาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ


          เช่น
ข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท ผักและผลไม้ที่มีเส้นใยมาก
และมีรสไม่หวาน เป็นต้น เพราะร่างกายจะค่อย ๆ ย่อยและดูดซึมช้า ๆ
ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ สม่ำเสมอ และหลังกินอาหารได้ 4-6 ชั่วโมง
ร่างกายจะหลั่งสารฮอร์โมนบางชนิด เพื่อสลายไกลโคเจน
ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตที่สะสมอยู่ในร่างกาย
และเพิ่มการสร้างกลูโคสจากแหล่งอาหารอื่น เช่น ไขมัน
 
เลือกกินเฉพาะแป้งที่ไม่หวาน

         
ไม่ได้เหมารวมทุกหมวด เพราะขนมปังและข้าวทุกชนิด คือแหล่งคาร์โบไฮเดรต
ซึ่งมีส่วนในการกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเซโรโทนิน (Serotonin)
ซึ่งช่วยให้เกิดความสงบ งานวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเสตต์
สหรัฐอเมริกา แนะนำให้กินขนมปังเพื่อต่อต้านอาการซึมเศร้า 
 
ปรับเปลี่ยนเพื่อ
อารมณ์ดี


         
การปรับเปลี่ยนประเภทของอาหารเพียงเล็กน้อยก็สามารถส่งผลให้อารมณ์ดีขึ้นได้
อย่างไม่น่าเชื่อ ควรกินอาหารให้ครบมื้อ แต่ถ้าไม่มีเวลากินอาหารเป็นมื้อ
แบบกิจจะลักษณะ ควรเลือกของว่างเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ขนมปังโฮลวีตสักแผ่น
หรือขนมปังกรอบธัญพืชสัก 2-3 แผ่น อย่าปล่อยให้ท้องว่างเด็ดขาด
หรือว่าจะแบ่งมื้ออาหารออกเป็นมื้อเล็ก ๆ แต่กินบ่อย ๆ
เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำตาลในเลือดตก
 
กิน
ปลาแซลมอนและแมคคาเรล


          ปลา 2
ประเภทนี้มีโอเมก้า 3 ซึ่งยืนยันด้วยผลวิจัยว่าส่งผลต่ออารมณ์
ช่วยป้องกันโรคหัวใจและมะเร็ง
ที่ดีไปกว่านั้นแซลมอนยังเต็มไปด้วยเซเลเนียมที่เป็นสารสำคัญในการต่อต้าน
อนุมูลอิสระด้วย
 
ปรุงอาหารด้วยน้ำมันคาโนลาออยล์ (Canola Oil)

         
จากดอกคาโนลาซึ่งกำลังได้รับความนิยมแทนน้ำมันพืชทั่วไป
เนื่องจากเต็มไปด้วยวิตามินอี ซึ่งมีผลต่อระดับอารมณ์
แต่ควรกินได้ไม่เกินวันละ 6 ช้อนชา หรือ 24 กรัม
โดยใช้ทอดปลาแซลมอนหรือทำอาหารสุขภาพ
 
กินผักโขม ถั่วสด และถั่ว Chickpeas

         
ที่มีแต่โปรตีนไขมันต่ำอยู่สูง ในผักใบสีเขียวเข้มมีโฟเลตสูง
มีส่วนสำคัญในการสร้างเซโรโทนิน ซึ่งช่วยให้อารมณ์อยู่ในระดับปกติ
นอกจากนั้นการกินถั่วยังได้รับวิตามินซีและไฟเบอร์ด้วย การลองผสมถั่ว
หรือเพิ่มผักใบเขียวลงในทูน่าสลัด นับเป็นไอเดียเริดที่น่าทำมาก

 กินพริกรสเผ็ด

         
ในพริกมี "สารแคปไซซิน" ส่งสัญญาณหลอกให้สมองหลั่งสารแห่งความสุข เอนโดรฟิน
แต่ควรระวังหากกินมากเกินไปอาจทำท้องไส้ปั่นป่วน

 กินปวยเล้ง

         
ผักอารมณ์ดีที่อุดมด้วย "กรดโฟลิก" (Folic acid)
ที่ช่วยสร้างเซลล์ใหม่และช่วยให้เซลล์ใหม่แข็งแรงสมบูรณ์
การขาดนำไปสู่การลดการหลั่งของฮอร์โมนเซโรโทนิน โดยตรง
ซึ่งก่อให้เกิดภาวะซึมเศร้า การกินปวยเล้งสม่ำเสมอยังทำให้หลับง่าย
หลับสนิทดีด้วย
 
กินกล้วยหอม

         
กระตุ้นการสร้างสาร "ซีโรโทนิน" และอุดมไปด้วย "ทริปโทโฟน"
ช่วยลดอารมณ์ซึมเศร้า คลายเครียด และไม่อ้วน 
 
กินถั่วเหลือง


         
ที่อุดมด้วยสารซีโรโทนิน เพิ่มความตื่นตัว กระฉับกระเฉง และ "โดไทโรซิน"
เพิ่มสมาธิในการทำกิจกรรมต่างๆ 
 
กิน
เชอร์รี่เป็นของหวาน


         
แพทย์ตะวันตกเรียกเชอร์รี่ว่าเป็น "แอสไพรินธรรมชาติ"
เนื่องจากผลไม้ชนิดนี้มีสารที่ชื่อว่าแอนโธไซยานิน Anthocyanin)
ซึ่งเป็นเม็ดสีในเชอร์รี่ ทำให้เชอร์รี่มีสีสันสวยสดใส และสรรพคุณสำคัญ คือ
ทำให้คนกินมีความสุข งานวิจัยมหาวิทยาลัยมิชิแกน สหรัฐอเมริกา
ชี้ว่าการกินเชอร์รี่ 20 ผล ช่วยลดอาการซึมเศร้าได้ดีกว่าการกินยา
 
กินและปรุงอาหารด้วยกระเทียม

         
ที่อุดมด้วยสารเซเลเนียม (Selenium) สารต้านอนุมูลอิสระ
ช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้น นักวิจัยเยอรมันแนะว่า การกินกระเทียมวันละ 2
กลีบน่าจะเหมาะสม
นอกจากนี้กระเทียมยังมีสรรพคุณช่วยลดระดับไขมันในเลือดและรักษาโรคความดัน
โลหิตสูง




 

Create Date : 20 เมษายน 2553    
Last Update : 20 เมษายน 2553 14:01:55 น.
Counter : 329 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  

WishRich
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




มาเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองไปพร้อม ๆ กัน เพื่อความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงานครับ
Friends' blogs
[Add WishRich's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.