WishRich
Group Blog
 
All Blogs
 
20 เหตุผลที่คาดไม่ถึงของความล้มเหลวในการลดน้ำหนัก

20 เหตุผลที่คาดไม่ถึงของความล้มเหลวในการลดน้ำหนัก
   
   ท่านตัดสินใจที่จะลดน้ำหนักตัว
และขณะนี้ท่านได้ปฏิบัติทุกอย่างอย่างถูกต้องแล้ว 
ท่านได้ตัดอาหารที่มีไขมันออกไปจากเมนูอาหาร
เพื่อการลดน้ำหนักของท่านเท่าที่ท่านจะสามารถตัดได้
ท่านได้หันมาบริโภคบรรดาผลไม้และผักสด ขนมปังธัญพืชไม่ขัดสี
และซีเรียลทั้งหลาย  อีกทั้งออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอมากกว่าที่เคยปฏิบัติ 
แล้วเหตุใดท่านจึงไม่อาจลดน้ำหนักลงไปได้เล่า
มันเป็นเรื่องที่น่าโมโหเมื่อท่านได้พยายามอย่างที่สุดแล้วและมันยังคงมิ
ประสบผลสำเร็จตามที่ท่านได้คาดหวังไว้อีก
ทางเลือกของการลดน้ำหนักของท่านอาจจะมีตัวเลขในการอธิบาย
เพื่อความเข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
และช่วยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างง่ายบ้างเล็กน้อย
ตรวจสอบลิสต์ข้างล่างและดูว่าอันไหนที่พอจะประยุกต์ใช้กับท่านได้
พิจารณาส่วนที่จำเป็นและก่อนที่ท่านจะทราบมัน 
การลดน้ำหนักของท่านก็จะกลับมาสู่แนวทางเดิม
1. เคร่งครัดเกินไป
 
    “หลายคนเชื่อว่าการลดน้ำหนักที่สมบูรณ์แบบจะช่วยการันตีความสำเร็จได้
แต่สิ่งที่สำคัญกว่า คือ ความยืดหยุ่นมากกว่าความเข้มงวดเคร่งครัด” Judy E.
Marshel ผู้เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนัก ประธานแห่งสถาบันเพื่อสุขภาพ Health
Resources of Great Neck, New York กล่าว
หากท่านจะไปรับประทานอาหารที่ภัตตาคารที่ท่านเคยไปประจำและพบว่ามันปิด
ท่านก็ไม่กล้าที่จะไปรับประทานที่ภัตตาคารอื่น
และกลัวกับการที่จะเปลี่ยนเมนูซึ่งท่านไม่คุ้นชิน หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ
อย่าไปเคร่งครัดเจาะจงกับอะไรมากไป ทั้งนี้ Marshel ได้อธิบายอีกว่า
ความล้มเหลวอาจเกิดจาก ว่า
ท่านอาจจะมีการกำหนดวงจรของการรับประทานและการควบคุมอาหารเพื่อการลดน้ำหนัก
ที่มากเกินไปก็ได้
2. การรับประทานไม่เพียงพอ
     
ระบบเผาผลาญพลังงานของท่านนั้นเป็นปิศาจจอมเจ้าเล่ห์
รับประทานมากเกินไปมันจะไม่สามารถเผาผลาญบรรดาแคลอรีทั้งหมดได้
ซ้ำร้ายยังทำให้น้ำหนักของท่านเพิ่มขึ้นอีก
หากรับประทานน้อยไประบบการเผาผลาญพลังงานของท่านจะรับรู้ว่าร่างกายของท่านอ
ยี่ในภาวะวิกฤติ และจะส่งผลให้ร่างกายของท่านจะค่อย ๆ
เผาผลาญแคลอรีที่ท่านรับประทานเข้าไป เพื่อเป็นการรักษาร่างกายให้อยู่รอด
ผลลัพธ์ก็คือการรับประทานน้อยไปก็ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้นั่นเอง
   

 มีผลงานวิจัยหลายชิ้นที่บ่งชี้ถึงการงดปริมาณแคลอรีขณะควบคุมอาหารเพื่อการ
ลดน้ำหนักแบบเด็ดขาด เฉียบพลันนั้น  ไม่ได้ผลทั้งในระยะยาวและในระยะสั้น
ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับว่าเราควรรับประทานอาหารที่มีความจำเป็นต่อร่างกายใน
ปริมาณที่เพียงพออย่าง ผลไม้ ผัก ธัญพืชต่าง ๆ และตัดอาหารประเภทไขมัน
น้ำตาล แอลกอฮอล์ออกไป  Marshel ได้กล่าวเตือนไว้ อีกทั้งเสริมว่า
“หากท่านไม่รับประทานอาหารที่ให้พลังงานแคลอรีอย่างเหมาะสมแล้ว
ต่อให้ท่านกำลังอยู่ในช่วงแผนการของการลดน้ำหนัก
ท่านก็จะเห็นถึงการชะลอหรือการหยุดการลดลงของน้ำหนักตัวไปเลย
3.
อย่าทำตามความต้องการเหล่านั้น

   
 “เพื่อที่จะให้การลดน้ำหนักประสบผลสำเร็จ
ท่านจำต้องรู้จักประมาณความพึงพอใจจากภายใน
ซึ่งเป็นความรู้สึกดีอันเกิดจากการที่ท่านได้รับประทานอาหารเข้าไป
หากท่านไม่รับประทานสิ่งเหล่านั้น
ท่านก็จะรู้สึกว่ากำลังถูกกีดกันทั้งในเชิงจิตและเชิงกายภาพ
และในท้ายที่สุดแล้วท่านก็จะเริ่มรับประทานทุกสิ่งที่ท่านโปรดปรานเป็นอย่าง
ยิ่งมากขึ้นตามมา
     หากท่านเป็นผู้หนึ่งที่ติดการรับประทานช็อกโกแลต
ตัวอย่างเช่น ช็อกโกแลตแท่งแช่แข็งไร้ไขมัน หรือช็อกโกแลตปั่นไขมันต่ำ 
แม้ว่าท่านจะรับประทานทุกครั้งที่อยู่ในภาวะเศร้า
ก็ไม่มีผลทำให้น้ำหนักของท่านเพิ่มขึ้น
จงให้ในสิ่งที่ท่านปรารถนาบ้างเล็กน้อย
และจากนั้นมันจะทำให้ท่านรู้จักเลือกเมนูอาหารได้อย่างชาญฉลาดขึ้น
4.
การกลับสู่พฤติกรรมเดิม ๆ

     การลดน้ำหนักอาจไม่ได้ผลในสอง
สาม สี่ครั้งแรก  เมื่อท่านเริ่มลงมือลดน้ำหนักในครั้งแรก ๆ
ร่างกายของท่านจะมีการกำจัดน้ำ ไขมันบางส่วน และมวลกล้ามเนื้อบางส่วนออกไป
แต่เมื่อใดที่น้ำหนักของท่านกลับมาอีกครั้ง
ร่างกายของท่านก็จะเกิดการสะสมเฉพาะไขมัน
ซึ่งมีมากกว่ามวลกล้ามเนื้อที่ท่านได้เสียไปในครั้งแรกเสียอีก
   
 หากท่านลดน้ำหนักด้วยการรับประทานอาหารมังสวิรัติ
ก็ไม่ต้องแปลกใจหากต้องใช้เวลานานกว่า
และต้องใช้ความพยายามที่ยิ่งใหญ่กว่าในการทำให้น้ำหนักตัวของท่านลดลงไป
มีเทคนิคใหม่ สมมติว่า
การลดน้ำหนักของท่านขึ้นอยู่กับปริมาณพลังงานแคลอรีจากไขมันที่ ร้อยละ 30
ให้พยายามลดลงให้เหลือที่ระดับ ร้อยละ 25
ด้วยการเพิ่มเวลาในการออกกำลังกายโดยการปั่นจักรยานอยู่กับที่หรือการวิ่งบน
ลู่วิ่งในแต่ละสัปดาห์ อาจช่วยให้ท่านลดน้ำหนักลงได้ จงอดทนเข้าไว้
ไม่เช่นนั้นการลดน้ำหนักของท่านจะไม่ประสบความสำเร็จ
5.
อย่ากลัวกับการเปลี่ยนแปลงที่จะต้องรับประทานอะไรที่ท่านไม่คุ้นชินในแต่ละ
ฤดูกาล

   
“คนที่กำลังลดน้ำหนักต่างคิดว่าพวกเขาจำเป็นต้องรับประทานอาหารตามที่ได้จัด
ไว้แบบเดิม ๆ ในทุก ๆ สถานการณ์ ไม่ว่าจะช่วงหน้าร้อนหรือหน้าหนาว
หรือตลอดช่วงลาพักร้อน แต่ความคิดนี้ไม่จริงเลย” Kabatznick กล่าว
“บางวันท่านอาจจะมีกิจกรรมที่หนักกว่าวันอื่น ๆ
บางวันท่านอาจจะรับประทานอาหารนอกบ้านมากกว่าปรกติ  ยิ่งไปกว่านั้น
ท่านควรจะจัดอาหารสำหรับรับประทานในช่วงหน้าหนาว
เนื่องจากภูมิอากาศเย็นและร่างกายท่านต้องการพลังงานแคลอรี
ในการรักษาร่างกายของท่านให้อบอุ่น” ดังนั้นควรหากิจกรรมทำให้มากขึ้น
และเปลี่ยนแปลงรูปแบบการควบคุมน้ำหนักของท่านให้เหมาะสมกับฤดูกาล
ซึ่งจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุด ที่จะทำให้การลดน้ำหนักได้ผล
6.
การใช้ยาขณะลดน้ำหนัก

   
 โชคไม่ค่อยดีหากท่านมีปัญหาด้านสุขภาพ
ซึ่งจำเป็นจะต้องใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์
นั่นจะเป็นเหตุทำให้การลดน้ำหนักของท่านชะลอลง ตัวอย่างเช่น การใช้ยา
Corticosteroids การรักษาโรครูมาตอยด์
อันเป็นสาเหตุให้เกิดการสะสมน้ำในร่างกายและกระตุ้นให้เกิดความหิว
ให้ท่านปรึกษากับแพทย์ของท่านเพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมในการลดน้ำหนัก
พร้อมกับการรักษาโดยใช้ยา
7.
การเปลี่ยนแปลงความต้องการของร่างกายเมื่อท่านอายุมากขึ้น

   
 โดยธรรมชาติร่างกายของท่านต้องการพลังงานแคลอรีน้อยลง อย่างไรก็ตาม
อะไรที่เคยทำสำเร็จได้ง่ายก็ดูยากขึ้น เมื่อถึงวันเกิดถัดไป กล่าวคือ
เมื่ออายุมากขึ้น การลดน้ำหนักก็ทำยากขึ้น ดังนั้นแล้ว
ให้เริ่มเตรียมตัวแต่เนิ่น ๆ ลดการรับประทานอาหารที่ให้พลังงานแคลอรีสูงลง
และเพิ่มการระดับการออกกำลังกายให้มากขึ้น
8.
การสูญเสียความตั้งใจ

     
“หลายคนมีค่านิยมเกี่ยวกับการมีรูปร่างที่ผอมบาง
และความผอมบางนั้นก็เป็นได้เพียงแค่ในอุดมคติ หรือในจินตนาการ
ซึ่งส่งผลให้พวกเขาเหล่านั้นต่างรู้สึกผิดหวัง” Kabatznick อธิบาย
แล้วหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น ? การรับประทานอาหารเกินขนาดโดยไม่รู้ตัว
หรืออย่างช้า ๆ และการขาดการออกกำลังกาย 
จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุใดน้ำหนักตัวจึงยังไม่ลดลง
“หากท่านอยู่ในโลกของความเป็นจริง  ท่านจะทราบว่าการลดน้ำหนักนั้น หมายถึง
การที่ท่านจะมีรูปร่างที่ผอมขึ้น และมีวิถีชีวิตที่มีสุขภาพที่ดีขึ้น
แต่จะต้องไม่ทำให้ท่านสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง” Kabatznick กล่าว
9.
การรับประทานที่เรามองข้าม

      “สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งเล็ก ๆ
น้อย ๆ ที่ท่านมิได้ใส่ใจ เมื่อท่านได้รับประทานมันเข้าไปในร่างกายของท่าน
เช่น ลูกกวาดในกระเป๋าถือของท่าน อาจเป็นขนมปังกรอบ “pretzel”
ซึ่งอาหารเหล่านั้นจะใส่เครื่องปรุงแต่ง
และท่านจำต้องยอมรับเนื่องจากมาพร้อมกัน” Carole Livingston ได้เขียนเอาไว้
ซึ่งเป็นผู้ประพันธ์หนังสือเรื่อง “I’ll Never Be fat Again”
อีกทั้งกล่าวเสริมว่า
“ท่านอาจคิดว่าการรับประทานอาหารเหล่านั้นคงจะไม่เป็นอะไร
แต่มันจะเป็นเมื่อท่านต้องการที่จะรักษาน้ำหนักของท่านเอาไว้
10.
บรรดาอารมณ์ที่ร้าย ๆ ในอดีต

     “เมื่อข้าพเจ้ารู้สึกไม่ดี
ข้าพเจ้าจะมีอุปนิสัยการรับประทานอาหารที่แย่ไปด้วย
โดยข้าพเจ้าจะรับประทานทุกอย่างที่ข้าพเจ้าไม่ควรจะรับประทานเข้าไป เช่น
ไอศกรีม” Marie Simmons ผู้ประพันธ์หนังสือเรื่อง “The Light Touch”
กล่าวเอาไว้
ในที่สุดสถานะทางอารมณ์ของท่านก็จะส่งผลต่อระดับความรู้สึกอยากอาหารของท่าน
ด้วย หากท่านปล่อยให้การรับประทานเป็นไปตามสถานะทางอารมณ์แล้ว
ท่านก็จะพบว่าตัวท่านกำลังรับประทานของขบเคี้ยวไปโดยไม่รู้ตัวมากขึ้น ๆ
ดังนั้นจงตรวจสอบอารมณ์ของท่าน
จากนั้นพิจารณาว่าท่านจะจัดการกับสภาพอารมณ์ที่แย่ ๆ
ของท่านนั้นให้ดีขึ้นอย่างไร โดยปราศจากการใช้อาหารเป็นเครื่องบำบัด
11.
ทำความเข้าใจกับสัดส่วนของอาหารที่รับประทาน

   
 “เมื่อข้าพเจ้าถามคนที่อยู่ในชั้นเรียนของข้าพเจ้าว่าอะไรคือปริมาณครึ่ง
ถ้วยของสปาเก็ตตี้ หลายคนไม่ทราบ  เวลาอยู่ในจานมันแลดูมีปริมาณที่เล็กน้อย

ข้าพเจ้าได้พยายามที่จะช่วยพวกเขาแยกให้เห็นความแตกต่างระหว่างสัดส่วนหรือ
ขนาดที่พอดี ยกตัวอย่างเช่น
สปาเก็ตตี้ครึ่งถ้วยถึงหนึ่งถ้วยกับขนาดดั้งเดิม ซึ่งจะมีปริมาณเต็มจาน
ปริมาณดั้งเดิมมักจะแบ่งได้เป็นสองส่วน
ทั้งสองส่วนนี้มีวิธีการในการเติมเนื้อสัตว์ที่เหมือนกัน
สำหรับปริมาณดั้งเดิมหรือที่เป็นมาตรฐานทั่วไป (classic portion)
มีเนื้อไม่มีกระดูก เช่น เนื้อปลา หรือเนื้อไก่ ขนาด 4 ออนซ์
หรือมีขนาดเท่าฝ่ามือของท่าน
ท่านอาจจะคิดว่าท่านรับประทานไปนิดเดียวแต่ความจริงอาจจะรับประทานมากกว่า”
Joann Heslin ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการได้ให้ข้อสังเกตไว้
ข้อแนะนำ
สำหรับเรื่องนี้ : ไม่ควรเชื่ออะไรอย่างไร้เหตุผลเกี่ยวกับปริมาณของอาหาร
จากนั้นให้เริ่มพัฒนาการตระหนักรู้ของตัวท่านว่าความจริงแล้วท่านควรจะรับ
ประทานในปริมาณเท่าใด
12. ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่าก้าวกระโดด
 
   Dean Ornish  ผู้นำแห่งสถาบันวิจัยยาป้องกันโรคในเมือง Sausalito รัฐ
California กล่าวว่า
“สำหรับหลายคนในการที่จะเปลี่ยนแปลงการรับประทานอย่างกะทันหันของพวกเขามอง
ว่า  ดูจะเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าการเปลี่ยนแปลงแบบทีละเล็กละน้อย”
และกล่าวต่อว่า “ตัวอย่างเช่น หากท่านรับประทานเนื้อแดงอย่างต่อเนื่อง
และลดปริมาณลงไปเฉย ๆ นั้น ท่านจะรู้สึกเหมือนถูกลิดรอนสิทธิ์
และจะไม่มีวันเลิกรับประทานเนื้อแดงนั้นได้” และในที่สุด
ท่านก็ยังคงรับประทานมันอยู่
และเป็นไปได้ที่การลดน้ำหนักจะประสบความสำเร็จยาก
หากท่านงดการรับประทานเนื้อไปอย่างเด็ดขาด
ไม่เพียงแต่ที่ท่านจะขจัดไขมันได้ปริมาณมากจากการควบคุมอาหาร
เพื่อการลดน้ำหนักแต่หลังจากนั้นไม่นานท่านก็จะไม่พลาดที่จะลิ้มรสมันได้เลย
13.
ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับไขมัน Veckerelli

    หัวหน้าแห่ง
Norwich Inn & Spa ใน Norwich, Connecticut  ได้เตือนเอาไว้ว่า
“ไขมันเป็นตัวยับยั้งการลดน้ำหนักที่ใหญ่ที่สุด” และกล่าวต่อไปอีกว่า
“ผู้คนถูกทำให้คิดถึงเรื่องการลดคอเลสเตอรอลของตนเอง
ดังนั้นพวกเขาอาจจะรับประทานเนยเทียมแทนเนย
แต่พวกเขาคงลืมไปว่าไขมันหนึ่งช้อนโต๊ะก็คือไขมันหนึ่งช้อนโต๊ะอยู่วันยัง
ค่ำ
      หลายคนเชื่อว่ายิ่งพวกเขารับประทานไขมันที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ
(เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันจากต้น Canola)
มากเท่าใดก็จะทำให้พวกเขาได้รับปริมาณไขมันที่ดีดังกล่าวมากตามไปด้วย
แต่ในที่สุดก็จะพบว่าน้ำหนักตัวมิได้ลดลงไปเลย “ดัง



Create Date : 29 มิถุนายน 2553
Last Update : 29 มิถุนายน 2553 17:59:18 น. 0 comments
Counter : 411 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

WishRich
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




มาเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองไปพร้อม ๆ กัน เพื่อความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงานครับ
Friends' blogs
[Add WishRich's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.