WishRich
Group Blog
 
All Blogs
 
สารพัด ประโยชน์จากพริก

//palungjit.com/feature/data/508/1_display5.jpg



พริก...ช่วยบรรเทาอาการไข้หวัด
ช่วยให้ระบบการหายใจสะดวกสบายยิ่งขึ้น สาร
แคปไซซินที่อยู่ในพริกมีคุณสมบัติช่วยลดน้ำมูกหรือลดปริมาณสารที่ขัดขวาง
ระบบการหายใจ ในผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัด ไซนัส หรือโรคภูมิแพ้ต่างๆ
ช่วยบรรเทาอาการไอ สารแคปไซซินเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของตัวยาหลายๆ ชนิด



นอกจากนั้นสารเบตาแคโรทีนในพริกช่วยป้องกันการติดเชื้อต่างๆ
ในบริเวณเนื้อเยื่อบุผนังช่องปาก จมูก ลำคอ และปอด
พริก...ช่วยลดการอุดตันของเส้นเลือด
หรือการเสียชีวิตอันเนื่องมาจากเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองอุดตัน





การบริโภคพริกเป็นประจำจะช่วยลดอัตราความเสี่ยงจากการอุดตันของเส้น
เลือด นับเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคหัวใจล้มเหลว
เนื่องจากพริกช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและช่วยลดความดัน
เพราะว่าในพริกมีสารจำพวกเบตาแคโรทีนและวิตามินซี
ซึ่งช่วยเสริมสร้างผนังหลอดเลือดให้แข็งแรงเพิ่มการยืดตัวของผนังหลอดเลือด
ทำให้ปรับตัวเข้ากับแรงดันระดับต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น
พริก...ช่วยลดปริมาณสารคอเลสเตอรอล สารแคปไซซินช่วย
ป้องกันมิให้ตับสร้างคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL-Low density lipoprotein)
ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมให้มีการสร้างคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL-high density
lipoprotein) มากขึ้น ทำให้ปริมาณของไตรกลีเซอไรด์ในกระแสเลือดต่ำลง
เป็นผลดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค พริก...ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง
เนื่อง จากพริกเป็นพืชผักที่มีวิตามินซีสูง
การบริโภคอาหารที่มีวิตามินซีมากๆ จะช่วยปกป้องการเกิดโรคมะเร็งได้
วิตามินซียับยั้งการสร้างไนโตรซามีนซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร
วิตามินซีช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนซึ่งเป็นส่วนประกอบของกระดูกอ่อน
รวมถึงเป็นส่วนประกอบของผิวหนัง กล้ามเนื้อและปอด
คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่สามารถหยุดกแพร่กระจายของเซลล์เนื้อร้ายได้



นอกจากนี้ วิตามินซียังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant)
คือสามารถยุติหรือขัดขวางบทบาทของอนุมูลอิสระ (free radicals)
ที่จะก่อให้เกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์จนเป็นเซลล์มะเร็งในที่สุด
สารเบตาแคโรทีนในพริกช่วยลดอัตราการเสี่ยงของโรคมะเร็งในปอด และในช่องปาก
คนที่รับประทานผักที่มีสารเบตาแคโรทีนน้อย
จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งมากกว่าคนที่รับประทานผักที่มีเบตาแคโรที
นสูงถึง 7 เท่า
คุณสมบัติของสารเบตาแคโรทีนจะช่วยลดอัตราการกลายพันธุ์ของเซลล์และทำลาย
เซลล์มะเร็ง สำหรับพริกบางชนิดที่มีสีม่วงจะมีสารพวกแอนโทไซยานิน
ซึ่งสารนี้มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ คือ
สามารถทำลายอนุมูลอิสระได้เช่นกัน พริก...ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด เช่น
ลดอาการปวดฟัน บรรเทาอาการเจ็บคอ และการอักเสบของผิวหนัง เป็นต้น
ในปัจจุบันมีการใช้สารแคปไซซินเป็นส่วนประกอบของขี้ผึ้ง
ใช้บรรเทาอาการปวดอันเนื่องมาจากผดผื่นคันและอาการผื่นแดงบริเวณผิวหนัง
รวมทั้งอาการปวดที่เกิดจากเส้นเอ็น โรคเกาต์ หรือโรคข้อต่ออักเสบ เป็นต้น
นอกจากนี้ผลการทดลองใหม่ๆยังบ่งชี้ว่าสารแคปไซซินช่วยลดอาการปวดศีรษะและไม
เกรนลงได้ พริก...ช่วยเสริมสร้างสุขภาพและอารมณ์ดี
เนื่องจากสารแคปไซซินมีส่วนในการส่งสัญญาณให้ต่อมใต้สมองสร้างสาร
เอนดอร์ฟิน (endorphin มาจากคำว่า endogenous morphine) ขึ้น
สารเอนดอร์ฟินเป็นเปปไทด์ขนาดเล็ก (โปรตีนสายสั้นๆ)
มีคุณสมบัติคล้ายมอร์ฟีน คือ บรรเทาอาการเจ็บปวด
ในขณะเดียวกันก็สร้างอารมณ์ให้ดีขึ้น ยิ่งรับประทานเข้าไปมากเท่าใด
ร่างกายก็จะสร้างเอนดอร์ฟินขึ้นมามากขึ้นเท่านั้น



ปกติร่างกายของคนเราจะสร้างสารเอนดอร์ฟินขึ้นภายหลังการออกกำลังกาย
ดังนั้นการออกกำลังกายแม้จะทำให้ร่างกายเมื่อยล้า
แต่ผู้ออกลังกายจะรู้สึกสดชื่นแจ่มใส
ถ้าต้องการบรรเทาความเผ็ดของอาหารในปากควรดื่มแอลกอฮอล์
หรือรับประทานอาหารที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบมากกว่าการดื่มน้ำ
เพราะการดื่มน้ำมีผลเพียงช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนได้เท่านั้น
แต่ความเผ็ดก็ยังไม่ได้ลดลง เนื่องจากว่า น้ำ
ละลายสารดังกล่าวได้ไม่ดี...นั่นเอง





Tips
เกณฑ์วัดระดับความเผ็ดร้อนสากลของพริกหรือผักผลไม้ที่มีสารแคปไซซินซึ่งให้
ความเผ็ดร้อนนี้เรียกว่า สโกวิลล์ (Seoville)
เป็นคำที่ตั้งขึ้นตามชื่อของผู้คิดค้นวิธีการวัดระดับนี้ ซึ่งก็คือ
วิลเบอร์ ลินคอร์น สโกวิลล์ นักเคมีชาวอเมริกัน
โดยเขาได้คิดค้นระดับวัดความเผ็ดนี้ขึ้นในปี ค.ศ. 1912
ขณะทำงานอยู่ที่บริษัทผลิตยา พาร์ก เดวิส
เพื่อวัดความฉุนหรือความเผ็ดร้อนของพริกต่างชนิดกัน
สำหรับความเผ็ดที่วัดได้จากพริกขี้หนูสวนบ้านเรานั้นจะอยู่ที่
50,000-100,000 สโกวิลล์ ในขณะที่สารแคปไซซินบริสุทธิ์นั้นมีค่าประมาณ
15,000,000-16,000,000 สโกวิลล์



ส่วนพริกที่ได้รับการบันทึกลงในกินเนสส์บุ๊กว่าเผ็ดที่สุดในโลกก็
คือ พริกฮาบาเนโร จากเรด ซาบีนา วัดค่าได้ถึง 350,000-577,000
สโกวิลล์...เลยทีเดียว








Create Date : 05 กรกฎาคม 2553
Last Update : 5 กรกฎาคม 2553 11:15:04 น. 0 comments
Counter : 203 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

WishRich
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




มาเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองไปพร้อม ๆ กัน เพื่อความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงานครับ
Friends' blogs
[Add WishRich's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.