The combination of Whooopy is who i am and what i do !
Group Blog
 
All blogs
 
จุนโฮกับ SAY YES

ว่าด้วยละคร 101 ตื้อรักนายกระจอก ... กับเพลง SAY YES



สรุปมา Say yes น้องโฮเป็นเพลงแต่งใหม่ โคดน่ารักเลย ได้ดูแฟนแคมแล้ว 

สงสัยจะโดย legend of 2PM แหงๆ  update 15/01/2013


สรุปมา Say yes น้องโฮเป็นเพลงแต่งใหม่ โคดน่ารักเลย ได้ดู

เอนทรีนี้ชั่งใจอยู่นานว่าจะเขียนดีไหม เพราะว่ามันต้องใช้ความทรงจำรำลึกค่อยข้างเยอะแล้วอีกอย่าง ปล่อยเอนทรีนี้ออกไปรู้อายุชั้นกันทั้งบางแน่ๆ ฮ่าๆ ไม่เป็นไร ก็ป้าแก่แล้ว ... ยอมรับ ...

ช่วงปีใหม่จำได้ว่า แม่เกาน้องโฮนางหนึ่ง ทวิตเพลง SAY YES แล้วก็ประมาณว่า

น้องโฮ ร้องเพลงนี้ใช่ไหม อะไรแบบนั้น

มาฟังเพลงประกอบความฟิน ...

ตอนรู้ว่าจะมีเพลงโซโล่ในคอนอารีน่ารอบนี้ ยังเฉยๆ ยังไม่ได้ตื่นเต้นมาก

รู้ว่าชื่อว่า Say yes แต่ไม่คิดว่าจะเอาเพลงเก่าอมตะเพลงนี้มาร้องใหม่ คือนึกไม่ถึงจริงๆ

บ้าบอแหกผ่านไทม์ไลน์ โดยที่ไม่มีใครเข้าใจ

โดนตอกย้ำด้วยยัยเวนิซว่า เวไม่อินเพราะเวยังไม่เกิดเลยพี่น้ำ ... เออ น้องพี่มันแก่ว่ะ ...โทษที

คืออินแบบอินเลย จากหลังปีใหม่มาเนี้ยะ ยังเปิด SAY YES นั่งฟังเวียนไปเวียนมา

มันคือในตำนาน เพลงที่ไม่มีคนญี่ปุ่นคนไหนไม่รู้จัก มันเป็นฮิตเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ...

แล้วมาทำใหม่ให้น้องโฮร้อง วอททททททท

ยังไม่ได้ฟังในเว่อร์ชั่นที่น้องโฮหรอกนะ แต่ก็อยากเขียนเอนทรีนี่ไว้ก่อน

ว่าประทับใจเพลงนี้มากมายแค่ไหน

ไม่ได้หวังว่าน้องโฮจะร้องออกมาเพราะมากเพราะน้อย

เพียงแค่ขอให้แม่ญี่ปุ่นของชายเป็นปลื้มกับเพลงนี้ที่ชายร้องก็พอแล้ว

มาว่ากันต่อที่เพลง เพลงนี้ดังมากถึงมากที่สุดในสมัยนั้น 

ร้องโดยนักร้องดูโอ CHAGE & ASKA ( อ่านว่า ชาเงะ กับ อาซึกะ )

เป็นเพลงประกอบละครญี่ปุ่น ชื่อว่า 101st marriage proposal มีชื่อไทยด้วยนะเออ

เพราะว่ามันดังขนาดที่จะเอามาฉายช่อง 5

แล้วชั้นก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ติดหงอมแงม ชื่อไทยเกร๋ๆ ว่า 101 ตื้อรักนายกระจอก

มันเป็นละครที่เกี่ยวกับการดูตัวของพระเอก

( ให้ตายเหอะ เห็นหน้าพระเอกแล้วแบบ เฮ้ย นี่พระเอกหรอ

ขี้เหร่ไปไหน ตอนนั้นชอบคนที่เล่นเป็นน้องชาย เค้าชื่ออะไรแล้วก็จำไม่ได้

จำได้แต่ Junpei มากรี๊ดอีกทีก็ต้องเล่น สูตรรักข้าวห่อไข่ )

ต้องบอกก่อนว่า ก่อนจะมาเป็นติ่งเกาหลี อย่างทุกวันนี้ ตัวเองเป็นแฟนคลับฝั่ง J มาก่อน

ชอบ J-Rock ชอบซีรีย์ญี่ปุ่น ชอบแบบมากมาย เคยเรียนญี่ปุ่นเพราะ X-japan

ก็ทำมาแล้ว ... ลืมหมดสิ้น กร๊ากกก

กลับมาว่าที่ละคร จำไม่ได้แม่นว่า เรื่องราวมันดำเนินไปยังงัยแล้ว

แต่สิ่งที่จำได้แม่นมากๆ คือ มันเน่ามาก มันลุ้นมากกับการกระทำของพระเอก

ว่าจะสามารถตื้อเอาใจนางเอกมาได้ไหม จะได้แต่งงานกันจริงๆไหม

ชีวิตตอนนั้น น่าจะเป็นช่วงอ่านหนังสือสอบเข้ามหาลัยละมั้ง

ซึ่งโกรธมากที่ตามดูมาทั้งเรื่อง แต่ ไม่ได้ดูตอนจบ ( ได้มาดูอีกเหมือนเค้าเอามารีรันละมั้งนะ )

มันเป็นความทรงจำที่ตามหลอกหลอนมาเนืองๆ เมื่อไหร่ที่คิดถึงละครเรื่องนี้

และเพลง SAY YES เพลงนี้ พูดถึงเพลงคือตอนนั้นไม่อินเพลงเท่าไหร่

 เพราะฟังไม่ออก แต่คงเป็นความคุ้นเคยที่ว่า เวลาดูละครก็เปิดคลออยู่บ่อยๆ

เป็นเพลงเปิดเพลงปิดอะไรแบบนั้น จำได้ว่า หาชื่อเพลงตั้งนานว่า ชื่อว่าอะไร

แล้วอยากฟังกลับไปกลับมาทำไงดี ก็เอาวิทยุใส่เทป กดอัดเลยจากทีวีเลยจ้า ....

เพลงก็ได้มาแบบสั้นๆ ไม่จบเพลงอะ คิดดู อนาถแท้ สมัยนั้น ( นี่ชั้นก็ยังเล่านะ ฮ่าๆ )

ความทรงจำในวัยเยาวน์แบบนี้ มันถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้งด้วย ผู้ชายที่ชื่อ อิจุนโฮ ...

เคยทวิตไปครั้งนึงหลังจากที่มั่นใจว่าเป็นเพลง SAY YES ว่า อจฮ

ทำไมมาวุ่นวายกับชีวิตวัยเด็กของชั้นจัง

เพราะตอนที่ชายมีงานร่วมกับ Vanness Wu ก็ทีนึงละ คือแบบเฮ้ยย อะไรเนี้ยะ

ช่วงนึงตอนนั้น ก็นั่งรำลึกถึงการที่บ้าคลั่ง F4 แบบไม่ค่อยจะปรึกษาใคร ฮ่าๆ

แอบฝันว่า ผู้ชายที่อยากได้คือเต้าหมิงซื่อ นี่ละ บ้าบอกับ F4 มาก

มันก็เริ่มมาจากละครรักใสๆ หัวใจสี่ดวงนั่นแระ ..

แล้วนี่ อีกละ เพลง SAY YES ในตำนานอีก ...

พวกที่ชอบรำลึกความหลังบ่อย เค้าว่ากันว่าแก่ ... แต่ตัวเธอว์จ๊ะ

ตราบใดที่ความทรงจำเหล่านั้นมันทำให้เรามีความสุข

การรำลึกนึกถึงมันก็ไม่ได้ผิดกฎหมายข้อไหน กลับทำให้เรามีความสุขที่ได้กลับไปคิดถึงมันตอนนั้น

ว่าเราชอบ เราปลื้ม เรามีความสุขกับมันแค่ไหน ...

มีความสุขกับ SAY YES ก็เลย แปลเนื้อมาแบ่งกันอ่าน คือแปลจาก English นะ เลยไม่ใจว่าความหมายจำตรงกับญี่ปุ่นหรือเปล่า ถ้าอ่านจบเนื้อเพลงก็คงจะเข้าใจกันนะว่าทำไมติดละคร เพราะเนื้อเพลงมันก็เน่าๆ พอๆกับละครนั่นแระ ....

Yokei na mononado nai yone
There is nothing unnecessary
ไม่มีสิ่งไหนที่เกินเลยความจำเป็น
Subete ga kimi to boku tono ai no kamaesa
Everything was prepared for the love of you and I
ทุกสิ่งจากนี้ไปมันถูกสร้างขึ้นเพื่อความรักของคุณกับผม
Sukoshikurai no uso ya wagamama mo
Even a little lie or selfishness
แม้เป็นคำโกหกหรือความเห็นแก่ตัวเพียงน้อยนิด
Marude boku wo tamesu youna
Is like you're testing me
เป็นเหมือนกับสิ่งทดสอบผมจากคุณ
Koibito no FUREIZU ni naru
It becomes a phrase for lovers
แลัวมันก็กลายมาเป็นประโยคคำพูดของคนรักกัน
Konomama futari de yume wo soroete
Let our dreams come together, just the two of us
ปล่อยให้ความฝันนั้นของเราได้เดินทางร่วมกัน ให้มีเพียงแต่เราสองคน
Nanigenaku kurasanaika
and live together naturally
และใช้ชีวิตด้วยกันตลอดไป

Ai ni wa ai de kanjiaouyo
Let's feel each other's love with love
มารักกัน รู้สึกถึงความรักที่มีให้แก่กันด้วยความรัก
Garasu KEESU ni narabanai youni
Not to become like jewelry in the glass cases
อย่าให้เป็นเพียงเครื่องประดับในตู้กระจกเลย
Nando mo iuyo nokosazu iuyo
I will say this no matter how many times, without leaving out any words
ผมจะบอกแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไมว่าจะกี่ครั้ง
Kimi ga afureteru
You're overflowing
ความรักให้คุณมันท่วมท้น

Kotoba wa kokoro wo koenai
Words cannot overcome our hearts
คำพูดใดๆ ไม่สามารถมาอธิบายหัวใจของเราได้
Totemo tsutaetagaru kedo kokoro ni katenai
It wishes to convey the message but cannot win over the heart
อยากจะบอกออกมาเป็นคำพูดเหลือเกิน แต่ก็ไม่สามารถชนะหัวใจได้
Kimi ni aitakute aetakute samishii yoru
On lonely nights when I want to see you, but I can't see you
ในคืนที่เปล่าเปลี่ยว เมื่อผมต้องการพบคุณ แต่ก็ไม่สามารถพบคุณได้
Hoshi no yane ni mamorarete
Protected by the roof of stars
หลังคาของดวงดาวนั้นปิดกั้นอยู่
Koibito no setsunasa wo shitta
I learned of the heartache of lovers
ผมเรียนรู้การเจ็บปวดหัวใจนี้ของการเป็นคนรักกัน
Konomama futari de asa wo mukaete
Let us greet the mornings together, just the two of us
ปล่อยให้พวกเราได้อยู่ด้วยกันทักทายยามเช้า
Itsumademo kurasanaika
and live together forever
และมีชีวิตคู่กันตลอดกาล

Ai ni wa ai de kanjiaouyo
Let's feel each other's love with love
มารักกัน รู้สึกถึงความรักที่มีให้แก่กันด้วยความรัก
Koi no tezawari kienai youni
Not to lose the touch of love
และไม่สูญเสียสัมผัสแห่งรักนั่นไป
Nando mo iuyo kimi wa tashikani
I will say this no matter how many times, I am sure
ผมจะบอกแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไมว่าจะกี่ครั้ง เพราะผมมั่นใจ
Boku wo aishiteru
You do love me
คุณก็รักผม
Mayowazuni SAY YES Mayowazuni
Don't hesitate SAY YES Don't hesitate
ไม่ต้องลังเล SAY YES ไม่ต้องลังเล


Ai ni wa ai de kanjiaouyo
Let's feel each other's love with love
มารักกัน รู้สึกถึงความรักที่มีให้แก่กันด้วยความรัก
Koi no tezawari kienai youni
Not to lose the touch of love
และไม่สูญเสียสัมผัสแห่งรักนั่นไป
Nando mo iuyo kimi wa tashikani
I will say this no matter how many times
ผมจะบอกแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไมว่าจะกี่ครั้งก็ตาม
Boku wo aishiteru
You do love me
คุณก็รักผม
SAY YES SAY YES...

สงสัยต้องได้เสียเงินซื้อเพลงนี้ ซะละชั้น




Create Date : 12 มกราคม 2556
Last Update : 15 มกราคม 2556 17:33:14 น. 1 comments
Counter : 1144 Pageviews.

 
ก็เกิดไม่ทันจริงๆ นะ 5555
แต่อ่านบล็อกนี้ของพี่น้ำแล้วมีความสุขจัง มานั่งฟังป้าเล่าความหลังครั้งวัยเยาว์
ดูซิ ตอนนี้ผ่านมานาน จนมีลูกชายอีจุนโฮวัย 20 ฝ่าๆ มาร้องเพลงนี้ให้ฟังได้แล้วนะ คึคึ
เห็น Hottest ญี่ปุ่นพากันบอกว่า Say Yes จุนโฮมันน่ารักมาก
เอาจริงๆ นะ จากที่ฟังเพลงต้นฉบับ นี่ก็นึกไม่ออกว่าโฮจะน่ารักได้ยังไง (แต่ความโมเอ้ในชุดนักเรียนชนะเลิศ)

เรามารอดูแฟนแคมน้องโฮไปด้วยกันนะ


โดย: Venizz วันที่: 12 มกราคม 2556 เวลา:23:09:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

w@TerMeLoN
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




Friends' blogs
[Add w@TerMeLoN's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.