Whitejass417'blog ยินดีต้อนรับค่ะ
"ให้รักกันซักเพียงไหน สุดท้ายก็คงจบด้วยการเลิกลา...จะร้องไห้อีกกี่ปี ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น อย่าขังใจเราไว้กับทุกข์เพียงลำพัง เอาเวลาที่สูญเปล่า ไปทำอะไรที่มีประโยชน์
ต่อมวลมนุษย์ น่าจะดีกว่า"
|
|||||||||
หัวใจมีไว้รักตัวเอง
<
ประเภท ความเรียง (หมวดกำลังใจ) เขียนโดย นิดวันนา จำนวน 144 หน้า แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันเดินเข้าหา ทำให้ฉันรู้ว่ามันคือหนทางที่เต็มไปด้วยแสงสว่างจริง ๆ นั่นก็คือชะล้างสิ่งที่มัวเมาเราอยู่ด้วยธรรมะ ทุกข์เกิดขึ้นที่ใจ ก็ต้องแก้ที่ใจ เราเป็นคนแบกทุกข์ไว้ ก็ต้องเป็นคนวางมันลงด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องสู้รบปรบมือกับจิตใจตัวเองให้เหนื่อยยาก (จากความเรียง แค่วางมันลง) โลกนี้ไม่เคยว่างเปล่า คนเหงาก็ยังมีเพื่อน บนถนนก็ไม่ไร้หนทางให้เราเดิน เรามีความสุขในแบบของเราได้...หากเข้มแข็งพอ สาระน่ารู้ที่ได้จากการอ่านหนังสือ
วันนี้หยิบยก สาระดี ๆ จากหนังสือเล่มหนึ่งมาแบ่งให้เพื่อนทุกคนได้ทราบ และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการดำรงชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข
เรื่องของการสำนึกผิด ส่วนตัวเองที่คิดว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้น มันเป็นความผิดมากมาย จนทำให้เราเศร้าโศกเสียใจไม่รู้เลิก ซึ่งสิ่งเหล่านั้นมันเป็นเพียงแค่ส่วนเกินที่เปล่าประโยชน์ ร้องไห้อีกกี่ปีก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา เรานั่นแหละที่เป็นคนขังใจของตัวเราเองไว้กับทุกข์อยู่คนเดียว สู่เอาเวลาที่สูญเปล่านั้นไปทำประโยชน์เพื่อละลายความสำนึกผิดจะดีกว่าไหมค่ะ แล้วคนที่ใช้เราเป็นเหยื่อ ใช้ล่อคนอื่นให้ตายใจ คนจำพวกนี้ เค้าจะไม่เปิดเผยตัวเอง ซุกซ้อนตัวเองอยู่ในความมืด สิ่งที่เราได้ทำลงไป เราไม่เคยรู้หลอกว่ามันผิด หรือไม่ดี เช่น การที่เราใช้อินเตอร์เน็ตในการหาความรู้ทั่วไป วันหนึ่งเราไปเจอโปรแกรมที่ใช้ในการป้องกันไวรัสชนิดรุนแรงได้ เราก็เข้าไปดาวน์โหลดมันมาใช้งาน ทั้ง ๆ ที่เราไม่เคยรู้เลย ว่ามันเป็นสิ่งที่ส่งผลร้ายให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา ซึ่งตัวโปรแกรมที่เราดาวน์โหลดมานี้ มันสามารถทำให้เครื่องทำงานเร็วขึ้น เราคิดว่ามันดี เราก็บอกต่อให้เพื่อนคนอื่นเข้าไปดาวน์โหลดมาใช้งาน เหมือนกับเรา ซึ่งเมื่อเรามารู้ว่า สิ่งที่เราไปดาวน์โหลดมาใช้งานนั้นคือ ตัวไวรัส มันหลอกให้เรากดบันทึกงาน แต่จริง ๆ แล้ว พออีกวันหนึ่งเราไปเปิดงานดู กลับไม่มีงานนั้นอยู่ในเครื่อง นั่นแหละคือปัญหาที่เกิดขึ้นกับเราแล้ว เพราะมันทำให้เราต้องทำใหม่ คนพวกนี้ ที่เค้าสร้างตัวโปรแกรมพวกนี้ขึ้นมา เพื่ออยากอวดความรู้ในเรื่องของคอมฯ ว่าตนนั้นมีวิชาความสามารถมาก แต่นำความรู้มาใช้ในทางที่ผิด ทำให้คนอื่นลำบาก เป็นทุกข์ และท้อแท้ เสียใจ แต่คุณรู้ไหม ว่าคนพวกนี้ สักวันหนึ่งเค้าก็ได้รับผลตอบกลับจากการกระทำของตนเองเหมือนกับที่เราเป็นเหมือนกัน ซึ่งตามกฎวิทยาศาสตร์ที่ว่า ถ่าเราเอาหัวโขกผนักแรงเท่าไหร่ ก็จะเท่ากับเอาผนังมาโขกหัวเราแรงเท่านั้น กฎแห่งกรรมก็คล้ายกัน คือ เมื่อเราขว้างบุญบาปออกไปใส่ใคร ก็จะมีผลสะท้อนดีร้ายขว้างกลับมาใส่เราด้วย เพียงแต่อาจจะหนักเบาไม่เท่ากับที่เราขว้างออกไป เหมือนคนถูกขว้างเป็นกำแพงที่มีอำนาจสะท้อนต่างกัน ขว้างโดนคนบุญมากก็เหมือนเจอกำแพงศักดิ์สิทธิ์สะท้อนกลับมาปะทะเราหนักหน่วงขึ้นกว่าเดิม ขว้างโดนคนบุญน้อยก็เหมือนเจอกำแพงกระจอกสะท้อนกลับมาปะทะเราอ่อน ๆ วันนี้ ขอจบเรื่องการสำนึกผิดไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะค่ะ บ๊าย บาย ค่ะ แนะนำหนังสือใหม่
ชื่อเรื่อง : KNOWLEDGE UNPLUGGED ผู้แต่ง : JURGEN KLUGE, WOLFRAM STEIN, THOMAS LICHT ประเภทหนังสือ : BUSINESS & MANAGEMENT จำนวนหน้า : 224 ราคา : 1,195 BAHT จัดจำหน่ายโดย : ASIA BOOKS CO., LTD Knowledge Unplugged นำเสนอผลการสำรวจภาคปฏิบัติของการบริหารการเรียนรู้ภายในองค์กร ซึ่งการสำรวจนี้จัดทำขึ้นโดย McKinsey & Company องค์กรที่ให้บริการด้านที่ปรึกษาเกี่ยวกับการบริหารที่มีอิทธิพลรายหนึ่งของโลก ทีมงานด้านการบริหารองค์กรแห่งความรู้ของ McKinsey ทำการสัมภาษณ์ทั้งผู้บริหารระดับสูงและผู้ปฏิบัติงานระดับล่างจากองค์กรดัง 40 แห่งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น รวมถึงนักคิด นักวางกลยุทธ์ชั้นนำหลายท่านถึงเทคนิคและวิธีการต่างๆ ที่พวกเขาเหล่านั้นปฏิบัติในการเพิ่ม และกระจายความรู้ขององค์กร อันก่อผลให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมของการดำเนินงาน ผู้เขียนนำเสนอคุณสมบัติ 6 ประการของทรัพยากรความรู้ ซึ่งเป็นทรัพยากรอย่างหนึ่งที่แยกออกจากทรัพยากรประเภท สังหาริมทรัยพ์เช่น ที่ดิน แรงงาน และเงินทุน และจากข้อมูลต่างๆ ที่ได้ค้นพบและรวบรวม ผู้เขียนได้วิเคราะห์ และนำเสนอแนวทางในการปรับปรุงการบริหารทรัพยากรความรู้ในองค์กร รวมถึงนำเสนอกรณีศึกษาต่างๆ เกี่ยวกับการปฏิบัติที่เป็นประโยชน์ และข้อผิดพลาดต่างๆ ที่ได้พบ Behind the Mask
Behind the Mask
เรื่องราวของศิลปะของไทย ที่ผู้เขียนได้ศึกษาและค้นพบว่าคือสิ่งมหัศจรรย์ และน่าหลงใหล ตั้งแต่ประวัติของละครต่าง ๆ การร้องรำ และการละเล่น ตัวละครที่ถูกถ่ายทอดผ่านนักแสดงมากมาย ด้วยเอกลักษณ์ และศิลปะเฉพาะตัว อาทิเช่นหัวโขน ลิเก มโนห์รา หุ่นละครเล็ก มวยไทย และอีกมากมาย ที่มีเสื้อผ้าและท่าทางที่ใช้ความสามารถพิเศษ หนังสือเล่มนี้เหมาะอย่างยิ่ง ที่จะเป็นตัวแทนสัญลักษณ์ของความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน
|
runya_smile
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?] Whitejass417'blog ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซด์นะค่ะ ความอ่อนแรงกับชีวิต ใช่ว่าจะทำให้ชีวิตของเราจะเดินต่อไปไม่ได้ เรามีทั้งพ่อและแม่ พี่และน้อง ญาติผู้ใหญ่มากมาย อีกทั้งเพื่อน ๆ ที่ยังคอยเป็นกำลังให้เราก้าวเดินต่อไปอย่างเข็มแข็ง ถึงแม้วันนี้เราจะต้องร้องไห้ เสียน้ำตากับเรื่องราวอันแสนเจ็บปวด ทุกข์และทรมานซักเพียงใดก็ตาม เราจะร้องไห้อีกซักกี่ครั้งกี่หน ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น อย่าขังใจเราไว้กับทุกข์เพียงลำพัง เอาเวลาที่สูญเปล่า ไปทำอะไรที่มีประโยชน์ ต่อมวลมนุษย์ น่าจะดีกว่า จงรักแสงแดดที่ช่วยคลายความเหน็บหนาว จงรักสายฝนที่ช่วยชำระล้างจิตใจที่แสนจะอ่อนแอ จงรักแสงสว่างที่เป็นเพื่อนคอยส่องแสงบนทางเดิน จงรักความมืดมิด ที่ช่วยทำให้เราได้มองเห็นดวงดาวพร้อมกัน "ปัญหาทำให้เราเข้มแข็งและมีประสบการณ์ สถานการณ์ ทำให้เรารู้จักแก้ไขปัญหา เวลา ทำให้เราหยั่งรู้ความเป็นคน ความคิด ทำให้เราเป็นเลิศทางปัญญา การตัดสินใจ ทำให้เรารู้ว่าผิดหรือถูก ความผูกพัน ทำให้เรารู้สึกเจ็บปวดเวลาเลิกกัน ความจริงใจ ทำให้เราเกิดความรักอันแสนบริสุทธิ์ ความรัก ทำให้เรารู้จักการให้แบบไม่หวังผลตอบ แทนใดๆ ความสงสาร ทำให้เราตกเป็นเหยื่อของการ หลอกลวง ความเห็นแก่ตัว ทำให้เรารู้จักคนเพิ่มมากขึ้น
|