W H I T E A M U L E T
Group Blog
 
All blogs
 

Hokkaido Winter 2010: รวบรวมผลงานแกะสลักหิมะจากการแข่งขันที่ Odori Snow Festival



เครดิตภาพ Kitsune จาก //image.blog.livedoor.jp/japminwa/imgs/c/a/cadd9f26.JPG

--------------------------------------------------------------------------------

สำหรับบล็อคนี้ขอไม่บรรยายอะไรมาก แค่รวบรวมภาพผลงานแกะสลักหิมะที่เสร็จสมบูรณ์ของผู้เข้าแข่งขันทุกประเทศไว้เท่านั้น รายชื่อ 14 ประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันปี 2010 มีดังนี้ (เก็บภาพมาได้ 13 ทีม ขาดผลงานไปหนึ่งทีม สองกล้องไม่มีใครทันได้ถ่ายมาเลย)


เริ่มจากผลงานชนะเลิศของทีม Thailand ที่พูดถึง(และลงภาพสองมุมชัดๆ)ไปแล้วในบล็อคก่อน (ที่นี่)


ผลงานชนะเลิศอันดับที่สองจากทีมประเทศ New Zealand (เค้าเอาเก้าอี้ที่รองคางออกแล้วหนิ ก็ยังบาลานซ์อยู่ได้ดีหัวไม่ตก)


ผลงานชนะเลิศอันดับสามจากทีมประเทศ Finland


ผลงานของทีมอื่นๆจะโชว์ภาพแบบไม่มีลำดับ เริ่มจากทีมประเทศ Holland (The Netherlands) เห็นเป็นก้อนสี่เหลี่ยมเปล่าๆอย่างนี้ไม่ได้แปลว่าเค้าไม่ได้มาแข่งขันนะ ทีมนี้มาในรูปแบบใหม่แทนที่จะแกะสลักหิมะ เค้าเอามาตัดเป็นก้อนเล็กๆผูกโบว์แจกให้คนในงานเป็นที่ระลึก (ภาพรายละเอียดมีให้ดู ที่นี่)


ผลงานหนุมานจากทีมประเทศ Indonesia (ที่ด้านหลังมีแกะสลักเป็นลิงตัวเล็กๆเกาะเพิ่มอยู่ด้วย)


ผลงานจากทีมประเทศ Hawaii


อันริมซ้ายในรูปเป็นผลงานที่ระบุทีมไม่ได้ว่า Russia หรือ Poland ทั้ง จขบ ทั้งพี่ชายไม่มีใครทันได้ถ่ายป้ายชื่อทีมมาเลยสักคน


ผลงานจากทีมประเทศ China


ผลงานจากทีมประเทศ Korea (อาร์ทไปนิดบวกกับไม่ได้อ่านป้ายมา เลยไม่ค่อยเข้าใจว่าสื่อถึงอะไร)


ผลงานจากทีมประเทศ Sweden


ผลงานจากทีมประเทศ Hong Kong (อันนี้ก็สวยนะเนี่ย ชอบตรงที่เป็นคล้ายๆคนตัวเล็กๆมีขาข้างนึงอยู่ในอะไรสักอย่างรูปร่างคล้ายๆกลอง)


ผลงานจากทีมประเทศ Singapore


ภาพจากกล้องพี่ชายไม่เห็นหน้าดวงอาทิตย์ชัดๆ เลยแถมภาพจากบล็อคเก่าตอนผลงานยังไม่เสร็จให้เห็นด้านหน้าดวงอาทิตย์ชัดๆอีกภาพนึง


ผลงานจากทีมประเทศ America (Sister City Portland) เรียบง่ายไม่ต้องตีความกันมาก (แต่เค้าอาจมีแฝงความหมายอื่นอยู่ก็เป็นได้)


แถมเบื้องหลังผลงานหนึ่งภาพ ส่วนตัวชอบผลงานของทีมอินโดกับฮ่องกงด้วยนะ เสียดายว่าไม่ได้รางวัล


บล็อคของทริปฮอกไกโดหมดจริงๆแล้วเพียงเท่านี้ค่า ต่อไปจะไปทำบล็อคของฤดูใบไม้ผลิบ้างแล้ว

--------------------------------------------------------------------------------

ภาพผลงานส่วนใหญ่ในบล็อคนี้เกือบทุกภาพมาจาก Nikon Coolpix P5100 คอมแพ็คของพี่ชายล้วนๆ ส่วน Canon Kiss X3 และเลนส์ EF-S 15-85mm F/3.5-5.6 IS USM ของ จขบ มัวแต่ไปจดจ่ออยู่กับการสัมภาษณ์ทีมไทยอยู่ไม่ทันได้เดินถ่ายรูปผลงานทีมอื่นๆเลย ภาพทั้งหมดถูก คร็อป/ปรับแสงและสี/ย่อUSM/ใส่โลโก้ ด้วย PS เนื่องจากอยากให้เห็นรายละเอียดการแกะสลักหิมะชัดๆ จขบ เลยปรับภาพให้ดู under พอควรและใส่ Sharp ให้มากกว่าปกติด้วย จริงๆ ณ ตอนที่ถ่ายอากาศดีฟ้าใสมีแดดอบอุ่น


เครดิตภาพ Kitsune จาก //image.blog.livedoor.jp/japminwa/imgs/c/a/cadd9f26.JPG

--------------------------------------------------------------------------------

รวมลิงค์บล็อคทั้งหมดของทริป

1. Hokkaido Winter 2010 @1st day: จาก Haneda สู่ Shin-chitose เหนื่อยๆมาแวะกินราเม็งแล้วพักกันเดี๋ยวนึง
2. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: Ishiya Chocolate Factory มาดูวิธีทำ Shiroi Koibito Chocolate กัน
3. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: หนาวๆกับ Yuki-daruma ที่ Otaru แวะกินข้าวปลาดิบสุดโปรด
4. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: Otaru Orgel House แหล่งรวมหีบเพลงสารพัดชนิด
5. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: Famous candle light in Otaru
6. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: แวะไป Sapporo TV Tower กับ Odori Snow Festival แล้วเข้านอน
7. Hokkaido Winter 2010 @3rd day: รถไฟขบวนพิเศษสวนสัตว์ Asahiyama และพาเหรดเพนกวินที่รอคอย >.<
8. Hokkaido Winter 2010 @3rd day: สัตว์โลก(ฤดูหนาว)น่ารัก นำเสนอโดยสวนสัตว์ Asahiyama ^^
9. Hokkaido Winter 2010 @3rd day: Nanda Biking บุฟเฟ่ต์สุดอลังการ และ Ice festival @Susukino
10. Hokkaido Winter 2010 @4th day: เก็บตก Sapporo Clock Tower และ Odori Snow Festival แบบ full version
11. Hokkaido Winter 2010 @4th day: หิมะขาวโพลนที่ Kaitaku-no-mura และ Mt. Moiwa ที่อดขึ้นไปดูวิวกลางคืน
12. Hokkaido Winter 2010 @5th day: สุดท้ายกับ Government Office Building และ Thailand, the champion ^_^
13. Hokkaido Winter 2010: รวบรวมผลงานแกะสลักหิมะจากการแข่งขันที่ Odori Snow Festival

>> ดูรายการบล็อคอัพใหม่ทั้งหมด




 

Create Date : 28 มีนาคม 2553    
Last Update : 22 เมษายน 2553 23:30:22 น.
Counter : 2196 Pageviews.  

Hokkaido Winter 2010 @5th day: สุดท้ายกับ Government Office Building และ Thailand, the champion ^_^



เครดิตภาพ Kitsune จาก //image.blog.livedoor.jp/japminwa/imgs/c/a/cadd9f26.JPG

--------------------------------------------------------------------------------

ในที่สุดก็มาถึงบล็อคของวันสุดท้ายในฮอกไกโดจนได้ จขบ ดีใจมากว่าทำเสร็จทริปนี้สักที (ไม่มีใครบังคับให้ทำ แต่เป็นพวกไม่ชอบทำอะไรค้างๆคาๆอ่ะ ถ้าเริ่มทำแล้วก็ขอทำให้มันเสร็จๆไปเลย แม้จะไม่มีคนอ่านนอกจากตัวเองก็ตามที)

วันสุดท้ายนี้ได้นอนกันเต็มอิ่ม ตื่นแต่เช้ากินอาหารเช้า(ฟรี)แล้วก็เช็คเอาท์เพื่อไปแวะเก็บตกครั้งสุดท้ายก่อนกลับโตเกียว วันนี้ฟ้าเป็นใจ สีฟ้าใสแจ๋วอากาศดีส่งท้าย แดดอุ่นๆพอให้ใส่เสื้อหนาวแบบอ้าๆเดินสบายๆได้


จริงๆแดดออกอย่างนี้หิมะก็จะละลายๆเลอะเทอะไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่ แต่ไหนๆเป็นวันสุดท้ายแล้วเลยแปะภาพตรงที่มันยังเนียนๆสวยๆละกัน


เก็บตกที่แรก ที่คุณพี่ชายบอกว่าเกือบลืมไปแล้วกับหนึ่งในสถานที่สัญลักษณ์ของ Sapporo เห็นใครมาซัปโปโรก็ต้องมีรูปมาถ่ายที่นี่กันทั้งนั้นเลย


มองผ่านรั้วเก่าๆดูขลังๆมาแล้วก็เจอกับสีสันสดใสของ Former Hokkaido Government Office Building ตึกสีส้มหลังคาเขียว ฟ้าใสๆกับตุ๊กตาหิมะ ดูแล้วเข้ากั๊นเข้ากันสวย(น่าถ่ายรูป)ดี


ได้ยินว่าถ้ามาตอนฤดูหนาวจะมีตุ๊กตาหิมะหน้าแบบนี้ปั้นไว้ข้างหน้าอย่างนี้ทุกปีเลย คุณแฟนเคยมากับเพื่อนๆเค้าก็บอกว่าตอนเค้ามาก็มีตุ๊กตาแบบนี้แหล่ะ


เฉพาะตัวตึกชัดๆอีกสักภาพนึง จริงๆน่าปรับให้ฟ้าเข้มขึ้นอีกแต่จำวิธีทำ PS ไม่ได้ขี้เกียจไปค้นเลยเอาแบบดิบๆเลยละกัน (ตอนทริปนี้ CPL ก็ยังไม่ได้ซื้อ) ตึกฝรั่งสมัยก่อนนี่ทำสีสดใสๆทั้งนั้นเลยนะเนี่ย อย่างที่เห็นที่ฮอกไกโดนี่สีสดๆกันทั้งนั้นเลย (หรือกะทำไว้ช่วยไล่บรรยากาศหนาวๆหม่นๆเฉพาะที่เกาะนี้ก็ไม่รู้)


ฟ้าใสๆอากาศดีๆในฤดูหนาวมีกันไม่บ่อย มองไปเจอคู่บ่าวสาวมาถ่ายรูป pre-wedding กันให้น่าอิจฉาอีกครั้ง (ทีแรกก็งงว่าใครนอนอยู่ที่พื้นหิมะ แต่ดูท่าเจ้าบ่าวที่กำลังยืนแอ็คอยู่ คนที่พื้นคงเป็นตากล้องน่ะนะ)


ในบริเวณรอบๆมีสวน มีสระน้ำ มีน้องเป็ดเล่นน้ำและเดินอาบแดดอุ่นๆกันเต็มเลย (คิดอยู่ว่ามีใครเลี้ยงไว้หรือเปล่านะ รั้วหรือกรงอะไรก็ไม่มี น้องเป็ดไม่มีหนีไปไหนกันเลยเหรอเนี่ย) ภาพด้านล่างมีนกพิราบแอบเนียนในฝูงเป็ดหนึ่งตัว


อากาศหม่นๆมาซะหลายวัน มีแดดแล้วน้องเป็ดเลยต้องออกมาไซร้ขนกันซะหน่อย


ที่ญี่ปุ่นนกไม่ค่อยกลัวคนเลย อย่างที่มหาลัยก็มีพิราบกับอีกามาเดินขวางทางเดินหรือบินเฉียดหัวเป็นประจำ เป็ดที่นี่ก็ไม่ต่าง มีมาเดิน(นั่ง)ขวางกลางถนนคนเดินผ่านไปมาอยู่เหมือนกัน (ทีแรกนึกว่าเด็กเสื้อแดงในรูปมองเป็ด แต่เอ ตาประสานกับเลนส์ขนาดนี้ หรือจริงๆเค้ามองว่ายายนี่มานั่งขวางทางถ่ายรูปอะไรอยู่กลางถนนนะ)


เก็บตกที่หนึ่งผ่านไป เดินต่อไปเก็บตกสุดท้ายที่ Odori Snow Festival เพื่อดูผลงานหิมะที่เสร็จสมบูรณ์ ภาพด้านล่างนี้ลงเพราะชอบเป็นการส่วนตัว ชอบแอ็คชั่นและอารมณ์บนใบหน้าของคนในภาพ


มาถึงที่ Odori Snow Festival กันอีกครั้ง ยังจำภาพตึกหิมะใหญ่ๆนี้จากบล็อคก่อนกันได้หรือเปล่าเอ่ย


เดินๆกะไปตรงที่แสดงผลงานผู้เข้าแข่งขันแต่ก็มาสะดุดตากับวงดุริยางค์ชุดเขียวนี้เข้า


จังหวะก็พอดี๊พอดียังไม่ทันจะรู้เลยว่าเค้ามาทำอะไร เค้าก็เดินไปตั้งวงกันหน้าเวทีของตึกหิมะตะกี้นี้แล้ว


เห็นคนมามุงมาล้อมกันใหญ่ ถึงยังไม่รู้ว่ามีอะไรก็ขอมุงไว้ก่อนล่ะเดี๋ยวจะพลาดตำแหน่งแถวหน้าๆ


นักข่าวก็มากันเยอะแยะ ฟังวงดุริยางค์บรรเลงไปยังนึกอยู่เลยว่าสงสัยมีการแข่งวงดุริยางค์กันมั้งเนี่ย


ยืนรอไปเรื่อยๆ กะว่าถ้าจบเพลงนี้แล้วบรรเลงต่ออีกนานก็ค่อยออก ระหว่างยืนก็มีเด็กๆชาวญี่ปุ่นมุดๆแทรกเข้ามา เท่าที่แอบดูคงเป็นเด็กๆมากับทางโรงเรียนมาชมงานเทศกาลนี้ ก็ดูว่าเจออะไรมั่งมีอะไรมั่งแล้วเขียนเป็นบันทึกแล้วไปรายงานกันในห้องเรียน (ที่เดาอย่างนี้เพราะที่แล็บเคยไปขอให้เด็กๆช่วยใช้ระบบที่พัฒนาขึ้นมาให้ เด็กๆก็แบ่งเป็นกลุ่มๆเดินกันเองรอบๆแถวโรงเรียน แต่ละกลุ่มก็มีคนในแล็บและผู้ปกครองอาสาสมัครหรือคุณครูเดินตามดูแลอย่างห่างๆ คล้ายๆอย่างนี้เป๊ะเลย)


จบการบรรเลงแล้ว เพิ่งจะรู้ว่าที่แท้เป็นพิธีประกาศผลรางวัลทีมชนะเลิศการแข่งขันปั้นหิมะนี่เอง แหม มาได้จังหวะพอดี๊พอดีเลยจริงๆ พิธีกรก็เรียกชื่อแต่ละทีมเชิญขึ้นมาบนเวที (ทีมไทยอยู่ริมๆทางซ้ายในภาพ เห็นกันไหมเอ่ย)


ทั้ง 14 ทีมขึ้นมาบนเวทีกันครบแล้ว ประธาน(รู้สึกจะเป็นผู้ว่าหรืออะไรสักอย่างของ Sapporo นะ) ก็กล่าวเปิดและขอบคุณผู้เข้าร่วมและผู้สนับสนุนและบลาๆๆๆ อย่างเป็นทางการ


ดีว่าพูดไม่นานเท่าไหร่ สำหรับรางวัลชนะเลิศอันดับที่สามได้แก่ทีมจากประเทศ Finland


ผู้เชิญรางวัลคือ Miss Sapporo (เห็นมีสายสะพาย Miss Sapporo อยู่สองสามคนแน่ะ แต่ จขบ ชอบคนนี้)


ชนะเลิศอันดับสองได้แก่ทีมจากประเทศ New Zealand เอ้าจับมือแสดงความยินดีกันหน่อย


และแล้วก็ถึงคิวประกาศรางวัลชนะเลิศที่รอคอย (พออยู่ในบรรยากาศการประกาศรางวัลจริงๆนี่อดแอบลุ้นไม่ได้นะเนี่ย) ผู้ชนะได้แก่ ................... ทีม Thailand ขอเชิญที่ข้างหน้าเวทีเลยค่า รวมครั้งนี้ก็เป็นแชมป์สามสมัยซ้อนแล้ว ยินดีด้วยๆ


รู้เลยว่าคนที่มุงๆอยู่หน้าเวทีมีคนไทยอยู่หลายคน เพราะพอประกาศผลเนี่ยนอกจากเสียงของคุณแม่ จขบ แล้วก็ยังมีเสียงไชโยโห่ฮิ้วดังมาจากจุดอื่นๆอีก มอบเหรียญและธงชนะเลิศแล้วก็มีการสัมภาษณ์ผู้ชนะบนเวทีกันอีกหน่อย


จขบ ไม่ได้ฟังสัมภาษณ์เพราะคุณพี่ชายสะกิดให้ออกมาก่อน เพราะเดี๋ยวคนจะไปมุงเยอะตรงผลงานชนะเลิศ รีบไปถ่ายรูปก่อนดีกว่า ว่าแล้วก็ผละจากเวทีมุ่งหน้าไปตรงที่แสดงผลงานผู้เข้าประกวด


ระหว่างทางก็แวะเก็บผลงานอื่นๆที่แสดงในงานไปด้วย วันนี้เป็นวันสุดท้ายของเราที่นี่แล้วนี่นะ


ผลงานชิ้นใหญ่ๆอีกหนึ่งอันที่ยังไม่มีภาพในบล็อคก่อนๆคือ Chibi Maruko-chan อันนี้สนับสนุนโดยบริษัทอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน (แสดงว่าปีก่อนๆต้องมีปีไหนมีชินจังแน่ๆเลย)


และแล้วก็มาถึงผลงานชนะเลิศแบบเสร็จสมบูรณ์ของทีมไทย กับฉากไกรทองและชาละวันกำลังสู้กันอยู่


เป็นผลงานชนะเลิศเลยลงรูปชัดๆให้หลายมุมหน่อย วันนี้เสร็จสมบูรณ์แล้วทุกเกล็ดของชาละวันเห็นชัดเจนเลย (ที่ฐานแอบเห็นก้อนหิมะผูกโบว์ของทีม Holland (The Netherlands) ข้างๆด้วย)


ยืนถ่ายรูปสักพักผู้ชนะเลิศก็กลับมาพร้อมกองทัพนักข่าวและคนที่มารุมถ่ายรูป (หลายๆคนมีบันไดเล็กๆติดมาด้วย ถ่ายมุมสูงสบายเลย) ป้าย Champion ก็ถูกนำมาติดที่หน้าผลงานเป็นที่เรียบร้อย


อยู่ๆ จขบ ก็เกิดวิญญาณนักข่าวเข้าสิงหรือยังไงไม่รู้ ยืนปักหลักถ่ายรูปดูเค้าสัมภาษณ์อยู่ตรงนั้นแหล่ะไม่ขยับไปไหนเลย ภาพนี้โฉมหน้าผู้ชนะเลิศและธงแบบชัดๆ คิดว่าปีหน้าพี่ๆเค้าก็คงมาเข้าร่วมประกวดอีก (ไม่ทันได้ถามแต่จริงๆอยากรู้มากว่าตอนอยู่ไทย พี่ๆใช้อะไรแทนหิมะในการฝึกซ้อมแกะสลักหนอ)


จขบ มัวแต่มุงทีมไทยอยู่ ไม่ทันได้เดินดูถ่ายรูปผลงานของทีมอื่นๆเลยก็โดนคุณพี่ชายเรียกให้ไปต่อซะแล้ว ผลงานสำเร็จของทีมอื่นๆรวบรวมไว้(ส่วนใหญ่)จากกล้องพี่ชายที่บล็อคถัดไป อันนี้

ก่อนลากันกับ Odori Snow Festival ก็แวะไปร้านที่ซื้อแพนด้าเมื่อวานนี้หน่อย วันนี้อากาศสดใสผู้คนจับจ่ายกันคึกคัก


รวบรวมสินค้า daNpa น่ารักๆ


พวงกุญแจนี่น่าซื้อมาสะสมซักแบบละอัน เป็นสัญลักษณ์ดังๆของฮอกไกโดทั้งนั้นเลย


วันนี้ขยันเดินกัน(เพราะอากาศดี)เดินต่อไปจนถึง Susukino เพื่อมากินมื้อสุดท้ายกันร้านที่วันก่อนเดินผ่านแล้วเล็งๆไว้ บรรยากาศที่โน่นก็น้ำแข็งละลายๆเลอะเทอะเหมือนที่สถานีซัปโปโร ในภาพเป็นรถราง(มั้ง)เห็นมีวิ่งๆอยู่ตรงนั้นตรงนี้เต็มเลย ลวดลายสีสันฉูดฉาดกันดี


อีกสักภาพกับถนนเลอะๆ ไม่ทันได้แวะไปดูว่าตรง Ice Festival พวกน้ำแข็งแกะสลักยังสภาพดีกันอยู่หรือเปล่า ดูแล้วไม่น่าเชื่อว่าเป็นที่เดียวกันกับวันก่อนที่โดนพายุหิมะถล่มซะขนาดนั้น


มื้อสุดท้ายเป็น Teishoku (อาหารชุด) เซ็ตใครเซ็ตมัน จขบ ขอทิ้งท้ายอีกครั้งกับข้าวปลาดิบ (ราคาพอๆกันแต่ที่นี่ไม่มีอุนิแฮะ สู้ที่โอตารุไม่ได้)


ซุปปูที่อยู่ในเซ็ตดูในรูปแล้วน่ากิ๊นน่ากิน แต่กินจริงๆก็ไม่ได้มีรสอะไรต่างกับซุปปกติเท่าไหร่เลย (เอ หรือเราจะลิ้นไม่ถึงเอง)


กินเสร็จก็กลับโรงแรมลากกระเป๋าไปขึ้นรถไฟไปสนามบินแล้ว ขามาจากสนามบินยืนมาตลอดทาง คุณพี่ชายเข็ดเลยแวะไปจองที่นั่งรถขากลับไว้เรียบร้อย นั่งหลับได้สบายจนถึงปลายทางเลย

ถึงสนามบิน Shin-chitose ตามเวลาเป๊ะ ตอนไปเช็คอินเดินผ่านก็เริ่มเล็งๆตัวนี้ไว้อีกแล้ว จิ้งจอก(มั้งนะ)สัญลักษณ์ของเกาะฮอกไกโด หูตั้ง หางกลมเป็นพวงนิ่มๆ น่าพากลับบ้านจริงจริ๊งงง ถ้าไม่เพราะเพิ่งซื้อเจ้าแพนด้ามาล่ะก็จิ้งจอกตัวนี้ได้ย้ายถิ่นฐานมาอยู่โตเกียวแน่ๆ


เช็คอินเสร็จก็ซื้อของฝากที่สนามบินกันตามอัธยาศัย ตรงขายของคนแน่นมากๆ อยากลองอันไหนก็มีตัวอย่างให้เดินชิมได้หมด แค่เดินวนๆชิมหมดทุกอย่างนี่ก็อิ่มพอแล้วเนี่ย (ภาพนี้แอบชอบผู้หญิงคนทางซ้าย น่ารักจัง)


และแล้วก็ได้เวลาขึ้นเครื่องกลับโตเกียวแล้ว ทริปฮอกไกโดหน้าหนาวที่(คิดว่า)คงเป็นครั้งเดียวในชีวิตก็จบลงเพียงเท่านี้สมใจ จขบ แล้ว ชอบที่สุดก็ Otaru, Ishiya Chocolate Factory และ Asahiyama zoo ที่ยังเหลืออยากมาเที่ยวที่ฮอกไกโดก็ทุ่งทิวลิปกับทุ่งลาเวนเดอร์ตอนช่วงหน้าร้อน เหลือเวลาอยู่ญี่ปุ่นอีกไม่นานต้องรีบๆแพลนเตรียมไว้แล้วเนี่ย

ทริปนี้จบลงแต่เพียงเท่านี้ บล็อคที่เหลืออีกบล็อคเป็นแค่การรวบรวมผลงานแกะสลักหิมะของผู้เข้าแข่งขันทุกทีม(เท่าที่มีภาพ)เท่านั้น ต่อไปจะได้มาจัดการกับภาพดอกไม้และซากุระสำหรับฤดูใบไม้ผลิกันเสียที

--------------------------------------------------------------------------------

ภาพส่วนใหญ่ถ่ายจาก Canon Kiss X3 และเลนส์ EF-S 15-85mm F/3.5-5.6 IS USM มีบางภาพจาก Nikon Coolpix P5100 เป็นคอมแพ็คของพี่ชาย ภาพ(เกือบ)ทั้งหมดถูก คร็อป/ปรับแสงและสี/ย่อUSM/ใส่โลโก้ ด้วย PS

วันนี้อากาศสดใสแดดออกดี แต่ภาพที่เน้นๆหิมะจะถูกปรับให้อันเดอร์มากๆเพื่อให้เห็นรายละเอียดการแกะสลักชัดๆ ถ่ายแบบนี้ต้องเลือกระหว่างสว่างพอดีแต่มองไม่เห็นการแกะสลักกับมืดหน่อยแต่เห็นการแกะสลักแบบเน้นๆ


เครดิตภาพ Kitsune จาก //image.blog.livedoor.jp/japminwa/imgs/c/a/cadd9f26.JPG

--------------------------------------------------------------------------------

รวมลิงค์บล็อคทั้งหมดของทริป

1. Hokkaido Winter 2010 @1st day: จาก Haneda สู่ Shin-chitose เหนื่อยๆมาแวะกินราเม็งแล้วพักกันเดี๋ยวนึง
2. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: Ishiya Chocolate Factory มาดูวิธีทำ Shiroi Koibito Chocolate กัน
3. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: หนาวๆกับ Yuki-daruma ที่ Otaru แวะกินข้าวปลาดิบสุดโปรด
4. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: Otaru Orgel House แหล่งรวมหีบเพลงสารพัดชนิด
5. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: Famous candle light in Otaru
6. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: แวะไป Sapporo TV Tower กับ Odori Snow Festival แล้วเข้านอน
7. Hokkaido Winter 2010 @3rd day: รถไฟขบวนพิเศษสวนสัตว์ Asahiyama และพาเหรดเพนกวินที่รอคอย >.<
8. Hokkaido Winter 2010 @3rd day: สัตว์โลก(ฤดูหนาว)น่ารัก นำเสนอโดยสวนสัตว์ Asahiyama ^^
9. Hokkaido Winter 2010 @3rd day: Nanda Biking บุฟเฟ่ต์สุดอลังการ และ Ice festival @Susukino
10. Hokkaido Winter 2010 @4th day: เก็บตก Sapporo Clock Tower และ Odori Snow Festival แบบ full version
11. Hokkaido Winter 2010 @4th day: หิมะขาวโพลนที่ Kaitaku-no-mura และ Mt. Moiwa ที่อดขึ้นไปดูวิวกลางคืน
12. Hokkaido Winter 2010 @5th day: สุดท้ายกับ Government Office Building และ Thailand, the champion ^_^
13. Hokkaido Winter 2010: รวบรวมผลงานแกะสลักหิมะจากการแข่งขันที่ Odori Snow Festival

>> ดูรายการบล็อคอัพใหม่ทั้งหมด




 

Create Date : 25 มีนาคม 2553    
Last Update : 2 เมษายน 2553 22:04:47 น.
Counter : 4458 Pageviews.  

Hokkaido Winter 2010 @4th day: หิมะขาวโพลนที่ Kaitaku-no-mura และ Mt. Moiwa ที่อดขึ้นไปดูวิวกลางคืน



เครดิตภาพ Kitsune จาก //image.blog.livedoor.jp/japminwa/imgs/c/a/cadd9f26.JPG

--------------------------------------------------------------------------------

ความเดิมจากบล็อคที่แล้ว ครึ่งเช้าของวันที่สี่ไปเดินชม(และให้กำลังใจ)ผู้เข้าแข่งขันประกวดปั้นตุ๊กตาหิมะจาก 14 ประเทศ กินกลางวันกันในงานอยู่ดีๆก็เกิดหิมะถล่มหนักลมพัดแรงขึ้นมาเฉยๆวิ่งหากำบังหลบกันแทบไม่ทันอยู่ๆมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

ไปต่อที่จุดหมายต่อไปของวันนี้ คุณพี่ชายที่ข้อมูลสุดปึ้กซื้อบัตรนี้มาให้ สำหรับใช้นั่งรถไฟใต้ดินและรสบัสในหนึ่งวัน ขาย(และใช้ได้)เฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์เท่านั้น เจ้าตัวบอกว่าวันนี้ใช้ไอ้นี่ดีกว่า คุ้มกว่าซื้อตั๋วรถไฟใต้ดินแบบปกติ


ระหว่างทางหยุดที่สถานีอะไรบ้างจำไม่ได้เลยอ่ะ มัวแต่แว่บไปช้อปปิ้งในห้างแถวนั้นอยู่ แต่จากรถไฟต้องมาต่อรสบัสอีกที รสบัสนี่มาประมาณชั่วโมงละคันพลาดคันนึงก็รอกันนานเลย


รสบัสคนไม่ค่อยเยอะ พวกเราขึ้นจากต้นๆสาย(ใช้ JR pass)เลยมีที่นั่งสบายๆ ฮีตเตอร์แรงไปนิดแต่ก็ไม่อึดอัดเท่าวันไปสวนสัตว์ พอไหวๆ


นั่งไปจนสุดสาย(ถ้าจำไม่ผิดนะ)ลงตรงที่ Kaitaku-no-mura หรือ Historical Village of Hokkaido


มองขึ้นเนินหิมะไปเห็นตึกทรงฝรั่งทางเข้าอยู่ตรงโน้นแล้ว คุณพี่ชายบอกว่าที่นี่น่ะเป็นที่แรกในโบชัวร์นำเที่ยวของฮอกไกโดเลยนะ จขบ ก็ได้แต่ เหรอๆ เพิ่งรู้เนี่ยแหล่ะ


อีกสักภาพด้านหน้า หิมะมันขาวไปซะหมดแถมฟ้าก็ปิด ถ่ายรูป(ให้ออกมาสวย)ยากจัง ออกมาเหมือนตัวตึกลอยโล่งๆอยู่กลางภาพเลย


ซื้อตั๋วรับโบชัวร์แล้วก็ไปกันเลย ที่นี่มีอะไรให้ดูบ้างเดี๋ยวรู้กัน


สกีพวกนี้นี่ไม่แน่ใจว่ามีไว้ให้เช่าเล่นจริงๆหรือมีไว้โชว์เฉยๆ เดาว่ามีไว้โชว์มั้งเพราะเพิ่งจะเคยเห็นสกีแบบดั้งเดิมที่ทำจากไม้ก็หนนี้ล่ะ ปกติเห็นแต่แบบพลาสติก


ผ่านจากตัวตึกที่เป็นทางเข้ามาสู่สวนอันกว้างใหญ่ที่ด้านหลัง หันกลับไปแชะตึกตะกี้อีกสักภาพเอาต้นไม้(โกร๋นๆ)เป็นพร็อบซะหน่อย


ที่นี่หิมะหนานุ่มแต่อากาศเริ่มจะดี มีแดดอุ่นๆออกให้พอชื่นใจ ที่ทางออกจากตึกตะกี้ก็เดินมาเจอม้าหน้าตาดีหนึ่งตัว


ม้านี้มีหน้าที่ลากเลื่อนสำหรับคนมาเที่ยว(เสียเงินเพิ่ม) อืมนะยืนอยู่อย่างนี้นานๆม้ามันไม่หนาวเลยเหรอเนี่ย ถึงจะมีแดดนิดๆก็เถอะก็ยังหนาวอยู่ดี


ที่ Historical Village นี้หลักๆก็เป็นพวกตึกเก่าๆ(แต่ยังดูดีดูใหม่อยู่เลย) ตั้งแต่สมัยที่อเมริกายังปกครอบเกาะนี้อยู่ ตึกที่ใหญ่ๆสวยๆหน่อยก็เลยมักเป็นทรงฝรั่งๆสีสันต่างๆอย่างนี้


ตะกี้เขียวไปแล้ว ตึกฝรั่งสีชมพูก็มี หรือจะเป็นแนวเหมือนๆบ้านไม้สีน้ำตาลๆ (อันนี้ไม่แน่ใจว่าแนวฝรั่งหรือแนวญี่ปุ่นกันแน่)


บ้านญี่ปุ่นทรงเก่าๆแบบหน้าจั่วมีมุมโค้งๆ หลังคามีหิมะขาวๆทับ ชวนให้นึกถึงฉากบ้านฤดูหนาวในเรื่องอิ๊กคิวซังก็มีอยู่รายทางเต็มไปหมด


เดินๆไปเจอม้าลากเลื่อนผ่านมาพอดีเลยรีบแชะซะเลย จะได้มีอะไรมาตัดกับสีขาวๆของหิมะสักหน่อย


ที่นี่กว้างมากถ้าให้เดินครบๆเลยก็เดินได้เป็นชั่วโมงๆ แต่ถ้านั่งเลื่อนก็คงแป๊บเดียวหมดแล้ว ไกด์ก็ไม่รู้อธิบายเป็นภาษาอะไร ไหนๆมาแล้วก็เลยเลือกเดินเองเลยดีกว่า อยากไปตรงไหนก็ไปไม่ง้อทัวร์


เดินๆไปชักเบื่อถ่ายรูปบ้านกับหิมะแล้วเนี่ย หลังๆชักทรงคล้ายๆกันหมดคนก็ไม่ค่อยมีให้แคนดิต หิมะก็ขาวฟูหนานุ่มดีอยู่นะแต่กว่าจะมาถึงวันนี้ก็เห็นหิมะมาเยอะแยะมากมายแล้วเลยชักเฉยๆ รูปล่างนี้เอามาปรับเล่นเร่ง contrast ให้อีกพอสมควรเผื่อจะดูแปลกตาขึ้นหน่อย


ถ่ายคนอื่นมาเยอะ ขอมีรูปตัวเองบ้าง นอนกลิ้งถ่ายกลางหิมะคู่กับเจ้าแพนด้าเลย (หิมะเลอะพุงแพนด้าด้วย ต้องรีบปัดทิ้งก่อนจะละลายแล้วขนเปียก)


เดินต่อแบบเดินไปหาวไป นานน๊านจะเจอเหล่า Staff ทำงานกันให้เห็นข้างนอกบ้าง ในภาพนี่กวาดหิมะบนหลังคากันอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้ เห็นกำลังโยนๆเสื้อกันอยู่พอดีเลยแชะมาแก้เซ็ง


แต่เดินๆอยู่นี่ก็จะประมาทไม่ได้นะ ที่นี่สะอาดก็จริงแต่อย่าลืมว่ามีม้าวิ่งอยู่ วิ่งๆไปบางทีมันก็อึทิ้งไว้ตามทาง(เพิ่งรู้นี่ล่ะว่าม้านี่วิ่งไปอึไปได้) เดินๆตรงทางม้าวิ่งก็ต้องคอยระวังทุ่นระเบิดกันด้วย ไม่ได้มีเยอะแยะมากมายแต่ถ้าไม่ระวังก็อาจเจอแจ๊คพ็อต เดินๆไปมองเห็นฟ้าใสสีฟ้าเป็นครั้งแรกตั้งแต่มาเกาะฮอกไกโดเลยรีบถ่ายไว้ก่อนเป็นที่ระลึก ฟ้าสีฟ้าสวยเชียว


จริงๆแล้วตามในบ้านในตึก บางแห่งก็เปิดเข้าไปได้จะมีหุ่นแสดงแอ็คชั่นชีวิตของคนสมัยก่อน บางแห่งก็จะเป็นพวกร้านเหล้าร้านอาหารหรือร้านขายของ แต่พวกเราสามคนส่วนใหญ่เดินผ่านด้านนอกอย่างเดียวไม่แวะเข้าไปดูเท่าไหร่


สำหรับ จขบ ค่อนข้างเฉยๆกับที่นี่ หิมะเยอะดีแต่เผอิญเห็นมาเยอะพอแล้ว พวกตึกต่างๆก็นะไม่ค่อยมีการประดับตกแต่งน่าสนใจเป็นพิเศษเท่าไหร่ ถ้ามาฤดูอื่นๆที่มีซากุระหรือมีใบไม้แดงอาจจะสวยได้บรรยากาศกว่านี้ก็ได้ สำหรับทริปนี้ก็จบการเที่ยวที่นี่ไปแค่นี้นั่งรสบัสกลับไปทางเดิมอย่างง่วงๆ

กลับมาที่สถานี Sapporo เพื่อต่อรถไปที่สถานี Susukino อีกครั้ง


วันนี้ไม่ได้มากินบุฟเฟ่ต์ ไม่ได้มาดู Ice Festival แต่คุณพี่ชายแพลนไว้ว่าจะนั่งรถกระเช้าขึ้นไปดูวิวกลางคืนบนเขา Moiwa กัน ออกจากสถานี Susukino แล้วก็เดินมาตรงที่ขึ้นรถรางที่จะพาไปขึ้นกระเช้าอีกที


ทีแรกเกือบโดดขึ้นคันนี้ไปแล้ว แต่มันยังไงๆอยู่ไม่เห็นเขียนว่าจะไปตรงที่พวกเราจะไปเลย แถมใกล้ๆมีคุณลุงคุณป้าคนญี่ปุ่นจะไปที่เดียวกันเค้าก็ไม่ขึ้นเลยหยุดรอก่อนยังไม่ไปคันนี้


เข้าไปถามคุณลุงคุณป้าดู คุณลุงก็ลองโทรศัพท์ไปถามเลยปรากฏว่าวันนี้เนื่องด้วยฝน(หิมะ)กระเช้าเลยไม่เปิดบริการ T_T อดไปตามระเบียบ คุณพี่ชายก็บ่นเสียดายว่าอุตส่าห์ทำตามแพลนได้เป๊ะๆ ถ้าขึ้นกระเช้าไปตอนนี้ถึงยอดเขาก็พอดีมืดได้ดูไฟกลางคืนพอดี แต่ที่น่าเสียดายกว่าคือคุณลุงคุณป้า เพราะซื้อตั๋วขึ้นไปชมวิวเรียบร้อยแล้วแถมพรุ่งนี้เช้าต้องขึ้นเครื่องกลับแล้วด้วย อดดูของจริงเลยไปเซิร์ชภาพในเน็ตมาแทน ถ้าได้ขึ้นไปดูก็น่าจะได้เห็นวิวประมาณนี้ (ไม่สวยติดอันดับโลกอย่างที่ Hakodate แต่ก็น่าไปดูนะ อุตส่าห์มาถึงที่แล้วแท้ๆ)

เครดิตภาพจาก: //www.ekinavi-net.jp/directory/nightview/mt-moiwa.jpg

อดดูวิวกลางคืนบนภูเขา แพลนวันนี้เลยไม่มีแล้ว กินมื้อเย็นกันง่ายๆที่ร้าน Tonkatsu ในห้างแล้วกลับ Toyoko Inn กัน แวะซื้อของฝากคนในแล็บ ฝากอาจารย์ อะไรกันแล้วก็แยกย้ายกันพักผ่อนตามอัธยาศัย


คืนสุดท้ายในฮอกไกโดมีเวลาเหลือเฟือ เลยถ่ายรูปของที่ซื้อๆมาสักหน่อย ภาพแรกก็ของฝาก Shiroi Koibito สองกล่องฝากที่แล็บและที่บ้าน ส่วนเยลลี่เมลอนซื้อมากินเอง(มีเผื่อฝากอาจารย์อีกหนึ่งกล่องใหญ่) พี่ชายเคยซื้อมาฝากเอามาแช่เย็นๆเล่นคอมไปกินไปเหมือนกินปีโป้อร่อยดี


อย่างที่สองวันนี้บังเอิญได้มา แบบว่าเจอมันลด 50% เขียนว่าเป็นหนังแท้ด้วยนิ่มๆดีเลยซื้อมา กระเป๋าสะพายข้างใบใหม่สีแดงแรงฤทธิ์ เที่ยวหนหน้าจะได้เอามาแทนใบสีน้ำตาลอันปัจจุบันซะทีสมบุกสมบันมาหลายประเทศแล้ว


ไร้สาระกันต่อ เอาแพนด้ามานั่งในกล่องหีบเพลงแล้วถ่ายรูป น่าร๊ากกกกก


ไร้สาระภาพสุดท้ายกับภาพคู่ของหีบเพลงและแพนด้า ชอบภาพนี้ว่าตรงหัวสะท้อนเห็นแพนด้าด้านหลังกลับหัวพอดิบพอดีเลย ^o^


คืนสุดท้ายในฮอกไกโดจบลงเพียงเท่านี้ เหลืออีกนิดหน่อยบล็อคหน้าเป็นเก็บตกผลงานปั้นหิมะที่เสร็จสมบูรณ์กับการประกาศรางวัลทีมชนะเลิศการแข่งขัน ใครยังไม่รู้ผลการแข่งขันก็รอลุ้นกันบล็อคหน้านะคะ

--------------------------------------------------------------------------------

ภาพส่วนใหญ่ถ่ายจาก Canon Kiss X3 และเลนส์ EF-S 15-85mm F/3.5-5.6 IS USM มีบางภาพจาก Nikon Coolpix P5100 เป็นคอมแพ็คของพี่ชาย ภาพ(เกือบ)ทั้งหมดถูก คร็อป/ปรับแสงและสี/ย่อUSM/ใส่โลโก้ ด้วย PS

ช่วงต้นๆของบล็อคนี้ลืมอีกแล้ว ถ่ายในรถบัสมืดๆแล้วลืมปรับ ISO กลับตอนมาถ่ายหิมะกลางแจ้งอีกครั้ง ภาพแรกๆสปีดเลยพุ่งกระฉูดกว่าจะรู้ตัวแล้วปรับกลับ ยังค่อนข้างหลงๆลืมๆอยู่ แต่ส่วนตัวมองว่า ISO800 ภาพก็ยังเนียนดีอยู่เลยยังไม่เดือดร้อนเสียดายอะไรเท่าไหร่ ^^


เครดิตภาพ Kitsune จาก //image.blog.livedoor.jp/japminwa/imgs/c/a/cadd9f26.JPG

--------------------------------------------------------------------------------

รวมลิงค์บล็อคทั้งหมดของทริป

1. Hokkaido Winter 2010 @1st day: จาก Haneda สู่ Shin-chitose เหนื่อยๆมาแวะกินราเม็งแล้วพักกันเดี๋ยวนึง
2. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: Ishiya Chocolate Factory มาดูวิธีทำ Shiroi Koibito Chocolate กัน
3. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: หนาวๆกับ Yuki-daruma ที่ Otaru แวะกินข้าวปลาดิบสุดโปรด
4. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: Otaru Orgel House แหล่งรวมหีบเพลงสารพัดชนิด
5. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: Famous candle light in Otaru
6. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: แวะไป Sapporo TV Tower กับ Odori Snow Festival แล้วเข้านอน
7. Hokkaido Winter 2010 @3rd day: รถไฟขบวนพิเศษสวนสัตว์ Asahiyama และพาเหรดเพนกวินที่รอคอย >.<
8. Hokkaido Winter 2010 @3rd day: สัตว์โลก(ฤดูหนาว)น่ารัก นำเสนอโดยสวนสัตว์ Asahiyama ^^
9. Hokkaido Winter 2010 @3rd day: Nanda Biking บุฟเฟ่ต์สุดอลังการ และ Ice festival @Susukino
10. Hokkaido Winter 2010 @4th day: เก็บตก Sapporo Clock Tower และ Odori Snow Festival แบบ full version
11. Hokkaido Winter 2010 @4th day: หิมะขาวโพลนที่ Kaitaku-no-mura และ Mt. Moiwa ที่อดขึ้นไปดูวิวกลางคืน
12. Hokkaido Winter 2010 @5th day: สุดท้ายกับ Government Office Building และ Thailand, the champion ^_^
13. Hokkaido Winter 2010: รวบรวมผลงานแกะสลักหิมะจากการแข่งขันที่ Odori Snow Festival

>> ดูรายการบล็อคอัพใหม่ทั้งหมด




 

Create Date : 25 มีนาคม 2553    
Last Update : 23 มกราคม 2554 16:55:28 น.
Counter : 5371 Pageviews.  

Hokkaido Winter 2010 @4th day: เก็บตก Sapporo Clock Tower และ Odori Snow Festival แบบ full version



เครดิตภาพ Kitsune จาก //image.blog.livedoor.jp/japminwa/imgs/c/a/cadd9f26.JPG

--------------------------------------------------------------------------------

ความเดิมตอนที่แล้ว เอ ถึงไหนแล้วเนี่ยชักขี้เกียจจะเขียนต่อแล้ว (แต่ดันทำรูปเอาไว้แล้วนี่สิ) จากตอนที่แล้วจบไปสามวันในฮอกไกโด ที่เที่ยวหลักๆที่เป็น The must และต้องเดินทางไกลๆก็ไปครบแล้ว ตอนนี้มีแค่เก็บตกที่ๆเหลือๆใกล้ๆไม่ต้องเหนื่อยกันมาก (ค่อยยังชั่วหน่อย)

เช้าวันที่สี่ในซัปโปโรนั้นหิมะตกเป็นชิ้นเป็นอันมากกว่าวันก่อนๆ แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ซัปโปโรขาวเนียนสวยเหมือนที่อื่นๆก่อนนั้นที่ไปมา ยังเป็นได้แค่หิมะขาวๆดำๆเป็นหย่อมๆดูแล้วไม่ค่อยจะสวยงามเท่าไหร่นัก


ที่แรกของวันนี้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของซัปโปโร ประมาณว่าใครมาซัปโปโรต้องเคยมาที่นี่ที่ Sapporo Clock Tower


ประวัติความเป็นมาอะไรยังไง จขบ ไม่รู้เลยสักนิดประสาคนไม่ทำการบ้านก่อนไปเที่ยว แต่หอสีขาวๆนี่ก็ดูสวยดี ถ้าได้ฟ้าใสๆสีฟ้าๆมาเป็นแบ็คกราวด์หน่อยจะเยี่ยมมากๆ


ภาพสุดท้ายที่นี่แล้วไปแล้ว ที่นี่อยู่ไม่ห่างมากจาก Toyoko Inn ที่พัก เดินมาก็ถึง(มีคุณพี่ชายเดินนำทางตลอด) แค่แวะมาเก็บตกให้มีหลักฐานว่ามาถึงซัปโปโรแล้วจริงๆนะ


แพลนสำหรับวันนี้มีแค่สองสามอย่างเท่านั้น อย่างแรกคือ Odori Snow Festival ที่เมื่อคืนวันที่สองในฮอกไกโดแวะมาเซอร์เวย์นิดๆ แต่วันนี้กะจะมาดูให้ครบๆให้ถึงตรงที่เค้าแข่งแกะสลักหิมะกันเลย เริ่มต้นจากจุดที่ค้างไว้วันก่อนตรงที่ๆมานั่งซดบะหมี่กัน (แต่วันนี้ทานข้าวเช้าฟรีจาก Toyoko Inn มาแล้ว)


อันนี้เคยโชว์เวอร์ชั่นตอนกลางคืนไว้แล้วในบล็อคก่อน (อันนี้) ดูตอนกลางคืนสาดไฟสีส้มๆก็ว่าดูเพลนๆแล้วแต่ก็ยังมีฟ้าดำๆตัดเป็นฉากหลัง มาดูตอนกลางวันวันฟ้าขาวๆหม่นๆนี่ยิ่งดูจืดไปใหญ่เลย หิมะสีขาวก็จริงแต่น่าจะวาดลายหรือตกแต่งอะไรให้มีสีสันเหมือนตุ๊กตาหิมะที่ Otaru บ้างนะเนี่ย (ความเห็นส่วนตัวค่า)


แต่ก็เอาน่ะ ยังไงขนาดผลงานก็กินขาด ใหญ่ซะขนาดนี้ ซูมๆดูกันนิดนึงกับหมีขาวแม่ลูก และเหล่า Staff


เสือดาวหรือเสือชีตาร์หรือเสืออะไรก็ไม่รู้ล่ะ ไม่เห็นเจอที่สวนสัตว์ Asahiyama เลยแฮะ สงสัยจะอยู่สวนสัตว์ที่อื่นในฮอกไกโด


สุดท้ายกับเหล่าเพนกวินที่ไปเห็นตัวเป็นๆระยะเผาขนมาแล้ว >.< และหมาป่าที่ดันสไตรท์ไม่ออกมาโชว์ตัววันที่พวกเราไป Asahiyama กัน


ต่อกับผลงานหิมะปั้นเล็กๆรายทางในงานกันสักหน่อย ตัวซ้ายสุดนี่ใช่หงอคงจากดราก้อนบอลหรือเปล่านะ เห็นหัวตั้งๆ อีกตัวคือไมเคิลแจ็กสันที่โชว์เวอร์ชั่นกลางคืนไปแล้วที่บล็อคก่อน แต่ก็อย่างที่บอกไว้ต้นบล็อค วันนี้ที่ซัปโปโรหิมะตกก็จริงแต่ยังไม่เย็นพออยู่ดี ตุ๊กตาหิมะพวกนี้เลยไม่ค่อยเนียนสวยเท่าไหร่ ยังนึกอยู่ว่ากว่าไว้หลายๆวันถึงวันสุดท้ายของเทศกาลนี่สภาพจะเป็นไงนะ (ได้ยินมาว่าภาวะโลกร้อนปีหลังๆมาเนี่ย ทำให้แถบซัปโปโรเย็นไม่ค่อยพอเท่าไหร่สำหรับเทศกาลหิมะ)


หิมะขาวๆกับฟ้าหม่นๆนี่ ถ่ายรูปออกมาไม่ค่อยสวยเลย จขบ เลยเถลไถลหันไปถ่ายรูปอย่างอื่นให้พอมีสีสันสดใสจะได้กระชุ่มกระชวยกันนิดนึง (ว่าแต่ตัวน้ำตาลหางฟูๆนี่ ตัวอะไรกันหนอ หมาป่า? หมาจิ้งจอก? คิสึเนะ?)


เดินๆไปเจอคนต่อคิวรับของฟรีกันอยู่เลยเอามั่ง บริษัทนี้มาแจกผลิตภัณฑ์ตัวอย่างเป็น Miso สำเร็จรูปพร้อมมีมาสค็อต(หน้าเหมือนอิ๊กคิวซัง)มาคอยเรียกแขกด้วย ได้ของมาอันนึงเหมือนกันก็สะดวกดี แค่เอาบีบใส่น้ำร้อน คนๆชิมๆจนพอดี ก็ได้ Miso soup มากินกันแล้ว (ถ้ามีเต้าหู้ กับสาหร่ายก็เอามาใส่รวมกันเลย หน้าหนาวๆได้กินของร้อนๆก็อุ่นท้องหลับสบ๊ายสบาย)


กลับมาที่ผลงานหิมะอื่นๆต่อ อันนี้ไม่แน่ใจว่าทำเป็นรูปเลียนแบบอะไรแต่ก็ใหญ่อลังการดี (วันก่อนตอนมาถึงตรงนี้ปิดไฟไปแล้ว เลยไม่ได้ถ่ายรูปมา)


อันนี้ก็ทำเป็นรูปปราสาท จำได้ว่ามีโซนนึงมาจากเกาหลีนะ ไม่รู้ใช่อันนี้หรือเปล่า ถ้าใช่ก็คงทำเลียนแบบปราสาทสักแห่งในเกาหลีนั่นล่ะ


อันนี้เป็นปราสาทเวอร์ชั่นเล็กลงมาหน่อย ละลายๆไปนิดไม่กริ๊บเท่าที่ควร


พักสายตาจากอะไรขาวๆมาดูสีสันของคนมาเดินเที่ยวกันมั่งดีกว่า ตรงนี้ต่อคิวกันยาวมาก แถวขดเป็นวงกลมล้อมรอบยันฝั่งซ้ายฝั่งขวาของที่จัดงานเลย มุดๆเข้าไปดูมั่ง อ๋อ เป็นรางรถไฟ SL จำลองนี่เอง


จิ๋วแต่แจ๋ว ถึงจะเป็นแค่ของจำลองอันเล็กๆ แต่ก็ให้คนนั่งได้จริงๆ มีควันขโมงเพิ่มความสมจริงให้ซะด้วย (อยากนั่งเหมือนกันแต่คิวยาวอ่ะ แถมมีแต่เด็กๆทั้งนั้นเลย จะให้ไปนั่งโดยไม่มีเด็กมาด้วยก็เขิน)


เดินๆมาจนสุดปลายอีกฝั่งของงานกว่าจะเจอที่ๆเค้าแข่งปั้นตุ๊กตาหิมะกัน ณ วันนี้เค้ากำลังทำงานกันอยู่ผลงานสำเร็จจะถูกตัดสินพรุ่งนี้อีกที วันนี้ก็เดินดูบรรยากาศการทำงานไปพลางๆก่อน อ้ะก่อนอื่นเอารายชื่อประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันปีนี้ไปดูก่อน รวมทั้งหมดมี 14 ประเทศตามภาพ


เรียงไปตามลำดับที่เดินเจอ แรกสุดเลยกับประเทศเพื่อนบ้านไม่ใกล้ไม่ไกล Indonesia วัฒนธรรมคงไม่ต่างกันกับไทยมาก มองปุ๊บรู้ปั๊บเลยว่าเป็นหนุมาน ตัวใหญ่ถือกระบองอยากบอกว่าเป็นทศกัณฑ์แต่เห็นมีหน้าแค่หน้าเดียวเลยไม่ชัวร์ ชื่อยักษ์ตนอื่นๆก็คืนคุณครูภาษาไทยไปหมดแล้วด้วย


ถัดมา ทีแรกนึกว่าเป็นอาสาสมัครมาช่วยงานซะอีก แต่ไม่ใช่ ที่จริงคือทีมผู้เข้าแข่งขันจาก Holland (The Netherlands) แต่ทีมนี้มาแปลก ไม่ปั้นหิมะ แต่ตัดเป็นก้อนเล็กๆแล้วผูกริบบิ้นแจกเป็นของที่ระลึกคนมาเดินงาน


ชัดๆหน้าตาจะเป็นประมาณนี้ (อันนี้บังเอิญเดินไปเจอวางอยู่) ก็ไอเดียแปลกใหม่ดี ถือว่าสร้างสีสันให้งานได้อีกแบบเหมือนกันนะ


ถัดมากับผลงานของแชมป์สองสมัยซ้อนกับ Thailand พี่ๆ(มั้ง?)เค้าบอกว่าทำเป็นรูปไกรทองกับชาละวัน (ป้ายเค้ามีแต่ไม่อ่าน อาศัยถามเอาเลย)


วันนี้ผลงานยังไม่เสร็จดี ไปดูด้วยตาของขาวๆใหญ่ๆมองบางมุมก็ดูไม่ออกแฮะว่าเป็นรูปอะไร แต่ถ้ามาเห็นภาพรวมในรูปถ่ายเลยเนี่ยจะอ๋อทันที พี่ๆเค้าทำงานกันอยู่ไม่อยากกวนมาก เดี๋ยวพรุ่งนี้ก่อนกลับค่อยแวะมาดูผลงานชิ้นสมบูรณ์อีกทีนึง


เดินต่อกับผลงานข้างๆ ผลงานจากทีม Hawaii (จขบ ถ่ายมาไม่ครบ เลยต้องจิ๊กจากกล้องของคุณพี่ชายมาบ้าง)


ผลงานชิ้นนี้จนปัญญาจริงๆ ทั้ง จขบ ทั้งพี่ชาย ไม่มีใครถ่ายอะไรที่พอจะบ่งบอกชื่อทีมได้เลยว่าเป็นผลงานของทีมประเทศอะไร ใช้วิธีการเช็คจากรายชื่อก็เดาว่าไม่ทีม Poland ก็ทีม Russia ล่ะ


ต่อมากับทีมจากประเทศ Singapore ไม่ยักทำเป็นรูป Merlion แฮะ สงสัยคงเคยทำไปแล้วปีก่อนๆเลยเปลี่ยนรูปมั่ง เดี๋ยวกรรมการจะเบื่อ


ทีมต่อมาที่กำลังทำงานกันขยันขันแข็งเลย จากประเทศบรรพบุรุษของ จขบ เองจาก China จ้า รูปนี้รูปพระสังกระจายหนินะ (ถ้าตัวสะกดผิดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย)


มาที่ประเทศเพื่อนบ้านญี่ปุ่นกันบ้างกับประเทศ Korea จากภาพปัจจุบันยังดูไม่ค่อยออกดีว่ากะจะแกะเป็นรูปอะไร


ต่อมาข้ามฟากไปไกลหน่อยกับทีมจาก Finland ทีมนี้ดูไปได้เยอะแล้วมองออกแล้วล่ะว่าแกะเป็นอะไร แต่ไม่ได้อ่านป้ายเลยไม่เข้าใจเท่าไหร่ว่าสื่อถึงอะไรเป็นพิเศษ


ดูแบบที่เข้าใจกันได้ง่ายๆหน่อยกับพวงองุ่นจากทีม America (Sister City Portland)


เกือบหมดแล้ว อันนี้ผลงานจากประเทศ Sweden คิวพียืนพุงป่องกันอยู่ตั้งสองตัวแน่ะ


ผลงานต่อมากับทีมจากประเทศ New Zealand ตัวนี้เรียกว่าการ์กอยล์หรือเปล่านะ น่าสนใจตรงว่าต้องมีเก้าอี้รองที่คางไว้ด้วย อย่างนี้ถ้าเอาออกเมื่อไหร่หัวจะหล่นลงมาไหมเนี่ย


และภาพบรรยากาศการทำงานภาพสุดท้ายกับทีมจากประเทศ Hong Kong ดูมือใหญ่ๆน่าเกรงขามดีแต่ไม่รู้อยู่ดีว่าสื่อถึงอะไร (คลับคล้ายคลับคลาว่าด้านหลังของผลงานชิ้นนี้แกะลายสวยนะ แต่หารูปไม่ได้เลย)


จริงๆมี 14 ประเทศแต่รูปที่ถ่ายมายังขาดไปอีกหนึ่งประเทศ ไม่ Russia ก็ Poland คุ้ยทุกกล้องแล้วแต่ก็ไม่มีภาพมาเลยจริงๆ ว้า เก็บไม่ครบคอลเลคชั่นเลยเสียดายจัง

เดินมาสุดกับที่แสดงผลงานการแข่งขันแล้วก็จะเป็นซุ้มขายอาหารนานาชาติ ก็มีร้านจากหลายชาติ(แต่ก็เห็นส่วนใหญ่คนญี่ปุ่นขายทั้งนั้น)ทั้ง Brazil, Indonesia, America, Korea แต่ไม่ยักกะมีร้านจากไทยเลยหนิ ไม่งั้นคุณแม่ที่กำลังอยากทานของเผ็ดๆจี๊ดๆได้แวะไปกินแน่ๆ


ที่ร้านขายของฝากตรงนั้นเองที่ไปติดใจกับแพนด้าตัวนี้เข้า ไม่ใช่แพนด้าธรรมดาแต่เป็น Inverse panda (ขนสีกลับกับแพนด้าปกติ) ที่มีชื่อเรียกว่า daNpa ตัวอ้วนๆกลมๆน่ารักมากๆเลยจัดการสอยมาซะเลยสองชิ้น


ชิ้นแรกเป็นพวงกุญแจน่ารักๆ มีหลายแอ็คชั่นกับสัญลักษณ์ดังๆทั้งหลายของเกาะฮอกไกโด ที่เลือกมานี่เป็นแบบมีปู(ตัวใหญ่ท่าทางจะราคาแพง ;-) เกาะหัวอยู่


อย่างที่สองที่เลือกมาคือเจ้านี่ อย่าเพิ่งด่ากันว่าเล่นอะไรไร้สาระ(ก็ไร้สาระจริงๆนั่นล่ะ) ก็เห็นมันอ้วนๆขาป้อมๆน่ารักดี มีหางโผล่มาหน่อยๆเลยจับหันก้นถ่ายรูปให้เห็นหางชัดๆซะหน่อยนึง


โฉมหน้าเต็มๆคือภาพนี้จ้า น่ารักมากๆๆๆๆ จับแล้ววางจับแล้ววางอยู่หลายรอบ สุดท้ายก็พ่ายแพ้ต่อตากลมๆและแขนขากลมๆนิ่มๆพากลับมาด้วยจนได้ ตัวนี้น่ารักตรงสีกลับกับแพนด้าปกติ แล้วตรงขนดำก็มีขนสีขาวๆแซมอยู่ด้วย ตัวก็นิ๊มนิ่มน่ารักสุดๆ >.<


ณ ตอนนี้แพนด้าตัวนี้โดนพาไปฝาก(คุณแฟน)เลี้ยงที่ไทยแล้วเป็นที่เรียบร้อย เอาไว้กลับไทยรอบหน้าค่อยเจอกันใหม่ ^^


บล็อคนี้ชักหาสาระไม่ได้ อีกครึ่งวันหลังขอยกไปต่อบล็อคหน้าค่า บล็อคนี้ใส่ผลงานจาก 13 ประเทศไปก็ล้นซะแล้ว ทีแรกกะจะไม่ใส่หมดแต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เค้าก็ตั้งใจทำกันทุกทีมเลยใส่หมดเลยแล้วกัน

--------------------------------------------------------------------------------

ยกเว้นภาพสุดท้ายที่เป็นภาพจากบล็อคเก่าถ่ายด้วย EF 50mm F/1.4 USM ที่เหลือภาพส่วนใหญ่ถ่ายจาก Canon Kiss X3 และเลนส์ EF-S 15-85mm F/3.5-5.6 IS USM มีบางภาพจาก Nikon Coolpix P5100 เป็นคอมแพ็คของพี่ชาย ภาพ(เกือบ)ทั้งหมดถูก คร็อป/ปรับแสงและสี/ย่อUSM/ใส่โลโก้ ด้วย PS

สังเกตว่าบล็อคนี้จะปรับ ISO ลงมาต่ำอยู่ที่ 100 - 200 แล้วแต่ก็ยังได้สปีดเหลือเฟืออยู่ วันที่ถ่ายนั้นฟ้ามัวๆก็จริงแต่ก็ไม่ได้มืดขนาดบางรูป รูปที่อยากจะเน้นๆให้เห็นรายละเอียดของหิมะชัดๆ จะถูกปรับลงมาให้อันเดอร์มากๆ เพราะถ้าถ่ายแบบรอบข้างสว่างพอดีๆจะมองไม่ค่อยเห็นรายละเอียดของการแกะสลักไป


เครดิตภาพ Kitsune จาก //image.blog.livedoor.jp/japminwa/imgs/c/a/cadd9f26.JPG

--------------------------------------------------------------------------------

รวมลิงค์บล็อคทั้งหมดของทริป

1. Hokkaido Winter 2010 @1st day: จาก Haneda สู่ Shin-chitose เหนื่อยๆมาแวะกินราเม็งแล้วพักกันเดี๋ยวนึง
2. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: Ishiya Chocolate Factory มาดูวิธีทำ Shiroi Koibito Chocolate กัน
3. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: หนาวๆกับ Yuki-daruma ที่ Otaru แวะกินข้าวปลาดิบสุดโปรด
4. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: Otaru Orgel House แหล่งรวมหีบเพลงสารพัดชนิด
5. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: Famous candle light in Otaru
6. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: แวะไป Sapporo TV Tower กับ Odori Snow Festival แล้วเข้านอน
7. Hokkaido Winter 2010 @3rd day: รถไฟขบวนพิเศษสวนสัตว์ Asahiyama และพาเหรดเพนกวินที่รอคอย >.<
8. Hokkaido Winter 2010 @3rd day: สัตว์โลก(ฤดูหนาว)น่ารัก นำเสนอโดยสวนสัตว์ Asahiyama ^^
9. Hokkaido Winter 2010 @3rd day: Nanda Biking บุฟเฟ่ต์สุดอลังการ และ Ice festival @Susukino
10. Hokkaido Winter 2010 @4th day: เก็บตก Sapporo Clock Tower และ Odori Snow Festival แบบ full version
11. Hokkaido Winter 2010 @4th day: หิมะขาวโพลนที่ Kaitaku-no-mura และ Mt. Moiwa ที่อดขึ้นไปดูวิวกลางคืน
12. Hokkaido Winter 2010 @5th day: สุดท้ายกับ Government Office Building และ Thailand, the champion ^_^
13. Hokkaido Winter 2010: รวบรวมผลงานแกะสลักหิมะจากการแข่งขันที่ Odori Snow Festival

>> ดูรายการบล็อคอัพใหม่ทั้งหมด




 

Create Date : 25 มีนาคม 2553    
Last Update : 2 เมษายน 2553 22:04:13 น.
Counter : 4270 Pageviews.  

Hokkaido Winter 2010 @3rd day: Nanda Biking บุฟเฟ่ต์สุดอลังการ และ Ice festival @Susukino



เครดิตภาพ Kitsune จาก //image.blog.livedoor.jp/japminwa/imgs/c/a/cadd9f26.JPG

--------------------------------------------------------------------------------

ความเดิมบล็อคที่แล้วนั่งรถไฟกลับจากสวนสัตว์ Asahiyama มาถึงสถานีซัปโปโรเป็นที่เรียบร้อย ไปสวนสัตว์เดินทางไกลเหนื่อยๆกันคุณพี่ชายเลยให้ไปพักที่โรงแรมกันพักนึง โปรแกรมวันนี้นอกจากสวนสัตว์แล้วก็จัดไว้ไม่แน่นมาก มีเวลาพักเอาแรงกันก่อนไปลุยต่อ อันนี้ซื้อมากินเล่นจากสถานีเป็นชีสก้อนๆถูกใจคอชีส


หนนี้ได้พักกันนานหน่อยพอให้มีเรี่ยวมีแรงแล้วก็ไปต่อกันที่สถานี Susukino เป้าหมายถัดไป นั่งรถไฟจากซัปโปโรไปนิดเดียวเอง (ถ้าขยันจะเดินก็ได้)


เนื่องด้วย จขบ ร่ำๆอยู่ว่าสองวันที่ผ่านมายังไม่ได้กินมื้อใหญ่ๆเลย มีแต่มื้อยิบมื้อย่อยรายทาง คุณพี่ชายเลยจัดไปมื้อใหญ่มื้อนี้ที่ชั้น B2F ร้าน Nanda Biking (ตอนเดินอยู่ด้านนอกนี่มีแต่แนวๆพวกโฮสเดินเข้าเดินออกเต็มไปหมด ทีแรกนึกว่าพี่พามาผิดที่นะเนี่ย)


ลงชื่อเข้าคิวกันแล้วก็ยืนรอหน้าร้านนั่นแหล่ะ รอแป๊บเดียวก็ได้โต๊ะแล้ว จำกัดเวลา 90 นาทีต้องรีบยัดกันให้ทันเวลา


จขบ อยู่โตเกียวมาสามปีครึ่งไม่เคยพบเคยเห็นบุฟเฟ่ต์ที่ไหนใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลย (แต่ก็นะ จขบ ไม่ใช่นักกินด้วยล่ะ ขี้เกียจไปหาร้านกินไกลๆบ้าน) โต๊ะเรียงรายกันเป็นแถวๆตั้งหลายแถว


แยกย้ายกันไปตักรอบแรก กลับมาคุณพี่ชายบอกว่าเนี่ยเจอคนไทยตั้งเยอะแน่ะ ได้ความว่าคงอ่านมาจากรีวิวเดียวกัน จขบ ก็ลองถามดูว่ารีวิวของใคร จริงๆมีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้วล่ะก็รีวิวอาหารที่ฮอกไกโดที่ดังๆน่ะจะมีใคร แล้วก็ไม่ผิดจากที่คิด คนไทยที่เห็นๆกันเนี่ยรู้สึกจะดูรีวิวมหากาพย์ของคุณว่านน้ำมากันทั้งน้านนนน

เวลามีจำกัดงานนี้ต้องรีบเริ่มกิน บุฟเฟ่ต์ที่นี่มีของครบเครื่องจริงๆทั้งติ่มซำ เทมปุระสารพัด(กุ้งตัวโตๆทั้งนั้น) อาหารทะเลสดๆทั้งกุ้งปูปลาหอย ปลาดิบก็มี และ ยากินิคุเนื้อหมูเนื้อวัวเนื้อแกะก็พร้อม งานนี้ต่อให้เป็นคนกินยากก็ต้องมีสักอย่างล่ะน่าที่กินได้ แต่ใครที่ชอบกินซีฟู๊ดแซ่บๆก็อย่าลืมเตรียมน้ำจิ้มซีฟู๊ดติดตัวไปสักขวด รับรองว่างานนี้สดและแซ่บได้ใจแน่ๆ (ดูรูปแล้วก็อยากกินอีกเนี่ย ตอนนั้นโซ๊ยปลาดิบไปเพียบเลย ชิ้นหนาๆอ้วนๆทั้งน้านนน)


ถัดจากหยิบรอบแรกแล้วรอบหลังๆเน้นอาหารทะเลเป็นหลัก หอยนางรมนี่ดูน่ากินอยู่นะแต่แกะกินยาก จขบ เลยขอบายไม่กินล่ะ ปล่อยคุณพี่ชายแงะเปลือกแข็งๆไปคนเดียว


เทคนิคการย่างโฮทาเตะที่ดูมากจากโอตารุเมื่อวานนั้นไม่เสียเปล่า วันนี้ได้มาย่างเองก็ทำตามเป๊ะๆเลย ตัดเป็นชิ้นเล็กๆก่อนแล้วหยอดโชยุแล้วพิเศษแอบเอาเนยใส่เพิ่มไปให้ด้วย ย่างให้คุณแม่กินมือระวิงเลย


ขาปูราคาแพงๆมีให้เลือกหยิบมาย่างเป็นตะกร้าๆจำชื่อได้อันเดียวคือปู Taraba ตามในภาพเลย ย่างแล้วยิ่งดูน่ากินนะแต่ขี้เกียจแคะอ่ะ จขบ เลยไปเน้นอะไรที่ไม่มีกระดองซะมากกว่า (เสียดายคุณแม่ไม่ทานเนื้อเลยอดย่างยากินิคุกินเลย แต่เนื้อแกะนี่คุณแม่แอบติดใจไปแล้ว กินเป็นครั้งแรก)


เวลา 90 นาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว จขบ ยังกินไม่คุ้มเลยเพราะมัวแต่ย่างหอยอยู่ ของหวานคุณแม่และคุณพี่ชายไปกินไอติมกัน ท่าทางชอบใจกันมากกับเครื่องทำไอติมแบบเอาถ้วยไอติมไปวางแล้วดึงคันโยกกดได้เป็นซอฟครีมออกมาเอง ส่วน จขบ ไม่ชอบของหวานของกินล้างปากเลยซัดปลาดิบไปอีกหนึ่งจานถ้วน

จ่ายเงินแล้วก็ออกมาเดินย่อยอาหารกันที่สุดท้ายของวันนี้ที่ Ice Festival ของย่าน Susukino (ส่วนค่าเสียหายของบุฟเฟ่ต์นั้น จขบ ไม่รู้เพราะมีคนแย่งจ่ายไปแล้ว รายละเอียดน่าจะหาอ่านได้จากรีวิวของคุณว่านน้ำในคลังกระทู้เก่าของ pantip ห้องก้นครัว)


ตามที่คุณพี่ชายบอกงานน้ำแข็งหรืองานหิมะเนี่ยจะมีอยู่สามแห่ง ที่นึงคือที่ Odori ที่ไปแซมเปิ้ลมานิดหน่อยเมื่อวาน ที่นึงคือที่นี่ ส่วนอีกที่ได้ยินว่าไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่เลยตัดทิ้งไม่ไป (เจอพี่คนไทยที่พักโรงแรมเดียวกันเค้าไปอีกที่มาแล้ว ก็บอกว่าไม่น่าสนใจเท่าไหร่)

ที่ผ่านมาสองวันเนี่ยก็ว่าเจอหิมะพัดถล่มมาเยอะแล้วเคยคิดว่านั่นคือที่สุดแล้ว แต่ปรากฏว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า เดินๆอยู่ตรง Ice Festival นี้นี่หิมะหนักสุดๆมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เดินไปหิมะพัดเข้าตาเข้าปากอยู่ตลอด สภาพกล้องและเลนส์คู่ใจ(ที่โดนถือข้างนอกตลอด ไม่มีกระเป๋าหรืออะไรคลุม)ก็มีสภาพประมาณนี้ เดินๆไปก็ปัดๆหิมะให้เป็นระยะๆ แต่กลับมาโรงแรม(เปิดฮีตเตอร์)วางกล้องไว้เฉยๆก็ไม่มีอะไรผิดปกติหรือเสียหายอะไร สรุปว่ากล้องน่ะทนอากาศหนาวๆไหวแน่ ห่วงแต่มือคนชัตเตอร์เนี่ยแหล่ะที่จะไม่ไหวซะก่อน


แต่ทริปนี้ จขบ เตรียมตัวไปดีไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองกดชัตเตอร์ไม่ไหวแน่นอน มือซ้ายที่ไม่ได้กดชัตเตอร์จัดการสวมถุงมือสองชั้นแบบนี้ ดูเหมือนมือโดราเอมอนไปนิดแต่อบอุ่นตลอดงาน ส่วนมือขวาที่กดชัตเตอร์ใส่ชั้นเดียวแบบไม่หนามากเลยยังกดปุ่มหมุนปุ่มอะไรได้สะดวกอยู่


งานตรงนี้ก็คนเยอะไม่แพ้ตรง Odori แม้ว่าน้ำแข็งแกะสลักจะไม่ใหญ่โตมโหฬารเท่าหิมะแกะสลักทางโน้น แต่ก็จัดแสงสีๆได้สวยดีถ่ายรูปออกมาดูมีสีสันสวยกว่านะ


ซุ้มของ Kirin อันนี้ทั้งสวยทั้งมีประโยชน์มาก ระหว่างเดินข้างในก็พลอยได้หลบพายุหิมะข้างนอกกันไปแป๊บนึง


ข้างในซุ้มนั้นสวยมากๆเลย แสงวิบๆวับๆดูนุ่มๆยังกะฉากจากเทพนิยาย แต่คนก็แน่นมากเช่นกันหามุมถ่ายรูปเหมาะๆไม่ค่อยจะได้


ต่อไปมาชมน้ำแข็งแกะสลักกันบ้าง ถ่ายรูปน้ำแข็งนี่ก็ยากอยู่ บางทีมันมองทะลุๆจนดูไม่ออกว่าเป็นรูปอะไร ถ้าไม่มาปรับส่วน highlight เพิ่มใน Photoshop นี่หลายๆรูปก็ดูยากไม่เบา รูปนี้ยูนิคอร์นท่ามกลางพายุหิมะแบบเห็นกันเม็ดต่อเม็ด


เอ อันนี้เป็นรูปเหยี่ยวมั้ง อีกตัวอะไรก็ไม่รู้อ่ะปลารึเปล่า?


อันนี้ดูคล้ายว่าจะเป็นมังกรกับนกฟีนิกซ์หรือเปล่าเนี่ย ป้ายไม่เคยอ่านถ่ายรูปมาอย่างเดียว


เอ่อ อันนี้กะทำเป็นเทพวีนัสหรือ Artemis มั้งนะ


ที่ตรงปลายๆถนนจะเป็นน้ำแข็งพวกที่ให้คนขึ้นไปนั่งถ่ายรูปกันได้ด้วย อย่างรถคันนี้เป็นต้น


นอกลู่นอกทางกันสักนิด ขอแวะมาถ่ายรูปกับคนเรียกแขกของร้านปาจิงโกะแถวนั้นใบนึง


ต่อๆๆๆ ใกล้วาเลนไทน์แล้ว งานไหนก็ไม่ขาดรูปหัวใจ


อากาศหนาวๆอย่างนี้ยกภัตตาคารอาหารทะเลมาไว้ได้กลางถนนเลย เห็นพวกปลาอยู่ในน้ำแข็งก้อนอย่างนี้อดคิดถึงสมัยเด็กๆไม่ได้ ช่วงนึงหนังพวกถูกแช่แข็งไว้ร้อยปีแล้วฟื้นกลับขึ้นมาหรือพวกกลับชาติมาเกิดใหม่แล้วต้องมาตามหากันด้วยการดูปานที่ก้นอะไรอย่างนี้มีเยอะแยะมาก (พูดไปพูดมาชักบ่งบอกอายุ ไม่เอาละ)


เดือนมีนาคมจะมี Hina-matsuri แต่กว่าจะถึงตอนนั้นงานนี้ก็เลิกไปแล้วเลยทำฉลองกันไว้ล่วงหน้าอย่างนี้เลย


รูปสุดท้ายขอฝากน้ำแข็งแกะสลักรูปหมีขาวแม่ลูกเอาไว้ ดูแล้วก็เลือกกันนะว่าชอบน้ำแข็งหรือหิมะแกะสลักมากกว่ากัน (หรือไม่ก็ไปมันทั้งคู่เลย)


ภาพสุดท้ายของวันที่สามในฮอกไกโดขอจบที่ Susukino นี้ ผ่านสองวันนี้ไปได้โปรแกรมเที่ยวที่เหลือก็ไม่ต้องเดินทางเหนื่อยกันมากแล้ว เน้นๆเก็บตกแถวๆซัปโปโรซะมากกว่า เอ้า เหลือบล็อคของอีกสองวัน สู้ๆ แล้วเจอกันบล็อคหน้าค่า


--------------------------------------------------------------------------------

ภาพส่วนใหญ่ถ่ายจาก Canon Kiss X3 และเลนส์ EF-S 15-85mm F/3.5-5.6 IS USM มีบางภาพจาก Nikon Coolpix P5100 เป็นคอมแพ็คของพี่ชาย ภาพ(เกือบ)ทั้งหมดถูก คร็อป/ปรับแสงและสี/ย่อUSM/ใส่โลโก้ ด้วย PS


เครดิตภาพ Kitsune จาก //image.blog.livedoor.jp/japminwa/imgs/c/a/cadd9f26.JPG

--------------------------------------------------------------------------------

รวมลิงค์บล็อคทั้งหมดของทริป

1. Hokkaido Winter 2010 @1st day: จาก Haneda สู่ Shin-chitose เหนื่อยๆมาแวะกินราเม็งแล้วพักกันเดี๋ยวนึง
2. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: Ishiya Chocolate Factory มาดูวิธีทำ Shiroi Koibito Chocolate กัน
3. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: หนาวๆกับ Yuki-daruma ที่ Otaru แวะกินข้าวปลาดิบสุดโปรด
4. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: Otaru Orgel House แหล่งรวมหีบเพลงสารพัดชนิด
5. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: Famous candle light in Otaru
6. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: แวะไป Sapporo TV Tower กับ Odori Snow Festival แล้วเข้านอน
7. Hokkaido Winter 2010 @3rd day: รถไฟขบวนพิเศษสวนสัตว์ Asahiyama และพาเหรดเพนกวินที่รอคอย >.<
8. Hokkaido Winter 2010 @3rd day: สัตว์โลก(ฤดูหนาว)น่ารัก นำเสนอโดยสวนสัตว์ Asahiyama ^^
9. Hokkaido Winter 2010 @3rd day: Nanda Biking บุฟเฟ่ต์สุดอลังการ และ Ice festival @Susukino
10. Hokkaido Winter 2010 @4th day: เก็บตก Sapporo Clock Tower และ Odori Snow Festival แบบ full version
11. Hokkaido Winter 2010 @4th day: หิมะขาวโพลนที่ Kaitaku-no-mura และ Mt. Moiwa ที่อดขึ้นไปดูวิวกลางคืน
12. Hokkaido Winter 2010 @5th day: สุดท้ายกับ Government Office Building และ Thailand, the champion ^_^
13. Hokkaido Winter 2010: รวบรวมผลงานแกะสลักหิมะจากการแข่งขันที่ Odori Snow Festival

>> ดูรายการบล็อคอัพใหม่ทั้งหมด




 

Create Date : 22 มีนาคม 2553    
Last Update : 2 เมษายน 2553 22:03:56 น.
Counter : 6548 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  

White Amulet
Location :
Bangkok Thailand / Tokyo Japan

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?]




บล็อคนี้ถึงไม่ค่อยมีอะไรแต่ถ้าจะก๊อปปี้ข้อความหรือรูปอะไรไปโพสที่อื่น ก็รบกวนช่วยใส่เครดิตลิงค์บล็อคนี้ไว้ด้วยนะคะ

เราไม่สงวนลิขสิทธิ์การนำภาพและข้อความในบล็อคไปเผยแพร่(ในแบบที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์)แต่สงวนลิขสิทธิ์ความเป็นเจ้าของภาพถ่ายและเนื้อหาค่ะ

ค้นหาทุกสิ่งอย่างในบล็อคนี้

New Comments
Friends' blogs
[Add White Amulet's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.