W H I T E A M U L E T
Group Blog
 
All blogs
 
มกราคม : มาญี่ปุ่น(โตเกียว)เดือนไหนแต่งตัวยังไงดี มีอะไรให้เที่ยวบ้าง

==========================================

ปล. เนื่องจากบล็อคยาวมากเปิดอ่านในไอโฟนแล้วโหลดแทบไม่ขึ้นเลย เลยจัดการแยกเป็นหลายๆบล็อค บล็อคนึงเขียนแค่ 1-2 เดือนก็พอ ถ้าอยากไปดูของเดือนอื่นๆเลือกคลิกตามลิงค์ด้านล่างนี้เลยนะคะ

1. มกราคม : มาญี่ปุ่น(โตเกียว)เดือนไหนแต่งตัวยังไงดี มีอะไรให้เที่ยวบ้าง
2. กุมภาพันธ์ : มาญี่ปุ่น(โตเกียว)เดือนไหนแต่งตัวยังไงดี มีอะไรให้เที่ยวบ้าง
3. มีนาคม : มาญี่ปุ่น(โตเกียว)เดือนไหนแต่งตัวยังไงดี มีอะไรให้เที่ยวบ้าง
4. ปลายมีนาคมถึงกลางเมษายน : มาญี่ปุ่น(โตเกียว)เดือนไหนแต่งตัวยังไงดี มีอะไรให้เที่ยวบ้าง
5. ปลายเมษายนถึงพฤษภาคม : มาญี่ปุ่น(โตเกียว)เดือนไหนแต่งตัวยังไงดี มีอะไรให้เที่ยวบ้าง
6. มิถุนายน : มาญี่ปุ่น(โตเกียว)เดือนไหนแต่งตัวยังไงดี มีอะไรให้เที่ยวบ้าง
7. กรกฏาคม : มาญี่ปุ่น(โตเกียว)เดือนไหนแต่งตัวยังไงดี มีอะไรให้เที่ยวบ้าง
8. สิงหาคม : มาญี่ปุ่น(โตเกียว)เดือนไหนแต่งตัวยังไงดี มีอะไรให้เที่ยวบ้าง
9. กันยายน : มาญี่ปุ่น(โตเกียว)เดือนไหนแต่งตัวยังไงดี มีอะไรให้เที่ยวบ้าง
10. ตุลาคม : มาญี่ปุ่น(โตเกียว)เดือนไหนแต่งตัวยังไงดี มีอะไรให้เที่ยวบ้าง
11. พฤศจิกายน : มาญี่ปุ่น(โตเกียว)เดือนไหนแต่งตัวยังไงดี มีอะไรให้เที่ยวบ้าง
12. ธันวาคม : มาญี่ปุ่น(โตเกียว)เดือนไหนแต่งตัวยังไงดี มีอะไรให้เที่ยวบ้าง

-------------------------------------

เท่าที่อ่านบอร์ดมาจนบัดนี้ ปัญหาที่สาวๆหนุ่มๆที่ไม่อยากล้าสมัยแม้เวลามาเที่ยวกังวลกันมาก จนมาตั้งกระทู้ถามกันบ่อยๆก็คือว่า "จะมาเที่ยวญี่ปุ่นวันที่ XX อากาศเป็นยังไงบ้าง แต่งตัวยังไงดี"

จริงๆอุตส่าห์มาเที่ยวก็อยากแนะนำให้แต่งสบายๆ รองเท้าผ้าใบมานะคะเพราะที่นี่เดินเยอะจริงๆ ถ้ารองเท้าเดินลำบากหรือปล่อยให้หนาวเกินไปจะพลอยไม่สบาย เที่ยวไม่สนุกเอาได้ เพราะเวลาหนาวมันหนาวทรมานจริงๆ แต่ก่อนไม่เคยเข้าใจว่าหนาวตายมันจะเป็นไปได้ยังไง มาอยู่ประเทศหนาวแล้วถึงเข้าใจว่า หนาวตายนี่มันเป็นไปได้จริงๆ

และเรายังยืนยันคำเดิมว่า ถ้าอยากอินให้มาซื้อเอาที่นี่ดีที่สุดค่ะ เราเคยเอามาจากไทย ไม่ว่ามันจะดูกิ๊บเก๋ที่ไหนตอนอยู่ไทยพอมาอยู่นี่มันเอ้าท์ทันทีเลย ยิ่งโดยเฉพาะเสื้อผ้าผู้หญิงด้วยแล้ว

แต่ก็นะ เรื่องความสวยความงาม เข้าใครออกใครที่ไหนกัน บล็อคนี้ก็จะรวมๆ เทรนด์หลักๆทั่วไปในแต่ละช่วงเดือนไว้ให้นะคะ แต่ที่บอกคงไม่เป๊ะๆนะคะ เพราะที่นี่แฟชั่นเปลี่ยนนิดเปลี่ยนหน่อยอยู่ตลอด ปีก่อนฮิต trench coat ลูกฟูกกระดุมทองๆใหญ่ๆ มาปีนี้ก็เปลี่ยนไปเป็นแบบอื่นๆอีก แต่ก็พอมีแบบหลักๆคลาสสิคที่ใช้ได้เรื่อยๆทุกปีเหมือนกัน

ก่อนอื่นอยากให้ไปอ่านบล็อค แรกเริ่มควรรู้ก่อนเตรียมเสื้อผ้ามาญี่ปุ่น ก่อนนะคะ บางอย่างก็เขียนรวมๆไว้ในส่วนนั้นแล้ว

ถ้าอยากรู้ที่อินๆเป๊ะๆก็ลองดูได้ที่เว็บ //www.style-arena.jp/ จะเป็นภาพอัพเดตของ street fashion ตามย่านแฟชั่นปัจจุบันเลย อาจดูว่าเว่อร์ แต่คนที่นี่แต่งอย่างนี้จริงๆค่ะ ชุดเดรสเดินช้อปปิ้งที่นี่ เอาไปใส่ไปงานแต่งงานที่ไทยได้เลย

อีกอย่างที่อยากบอกคือ ที่เราเขียนนี้เราอิงจากคนที่เน้นว่าตามแฟชั่นนะคะ แต่เอาเข้าจริงที่ญี่ปุ่นก็มีทั้งคนที่แต่งตามแฟชั่นเป็นหลัก และคนที่แต่งตามอากาศเป็นหลักค่ะ สาวที่ตามแฟชั่น ก็มักแต่งตามเดือนและฤดู เข้าเดือนไหนปุ๊บก็เปลี่ยนทันที แม้ว่าจริงๆจะยังร้อนหรือหนาวอยู่ ก็ทนๆไปค่ะ

แต่คนที่แต่งตัวตามอากาศจริงก็ไม่ใช่ไม่มีนะคะ ช่วงไหนหนาวก็ใส่ตามนั้น ช่วงไหนร้อนก็ใส่ตามนั้นค่ะ ถ้าอยู่ญี่ปุ่นจนชินอากาศ สองแบบที่ว่าก็จะไม่ได้โดดกันมากนักค่ะ ส่วนใหญ่ที่เห็นการแต่งตัวโดดแยกออกมาเลย มักเป็นนักท่องเที่ยวมากกว่า

อ้อ เน้นก่อนนะคะว่า ข้อมูลทั้งหมดในนี้อ้างอิงจากอากาศของโตเกียวค่ะ เป็นประสบการณ์ของเราล้วนๆที่สังเกตสังกามาได้ อาจผิดหรือไม่ตรงใจใครบ้างก็อย่าว่ากันเลยนะคะ ที่เขียนไว้เป็นอากาศและอุณหภูมิที่ควรจะเป็นแต่เอาเข้าจริงแต่ละปีก็มีอากาศแปรปรวนไม่เหมือนกัน อาจไม่หนาวเท่าที่ควร หรือหนาวกว่าปกติก็ได้ค่ะ (แต่ถ้าเน้นแต่งตามแฟชั่นสาวญี่ปุ่นล่ะก็ อากาศไม่เกี่ยวค่ะ ดูกันที่เดือนเป็นหลัก)




มกราคม


++++ อากาศ ++++

เดือนนี้นี่ ไม่มีคำบรรยายอื่นนอกจากคำว่า หนาว ค่ะ (แต่เดี๋ยวกุมภาจะยิ่งหนาวกว่านี้อีก) อุณหภูมิเดือนนี้จะอยู่ประมาณ 0-10 องศาค่ะ ยิ่งปลายเดือนไป อุณหภูมิสูงสุดก็จะลดลงจากสิบองศาลงเรื่อยๆ จนบางวันอาจสูงสุดแค่ 7-8 องศาก็มี ช่วงกลางวันจะเป็นช่วงเวลาที่เราชอบมากๆ เห็นแดดนิดหน่อยนี่แทบกระโจนเข้าใส่เลยทีเดียว โหยหาความอุ่นมากๆค่ะเดือนนี้

นอกจากช่วงเที่ยงๆไม่กี่ชั่วโมง ก็หาแดดแทบไม่เจอแล้วล่ะค่ะ (บางวันก็ไม่มีแดดเลย) สี่โมงเย็นฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว เผลอๆแป๊บๆก็มืดสนิทแล้วล่ะค่ะ วันไหนมีลมหน่อย ไม่ต้องพัดแรงมากค่ะ แค่สัก 3 m/s นี่ก็ขนลุกจะแย่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงวันไหนที่ลมแรงๆสัก 5 m/s ขึ้นไปนี่ เราแทบไม่อยากออกไปข้างนอกเลยทีเดียว เจอลมพัดทีรู้สึกแสบหู หูชาไปหมดเลย แย่สุดคือ วันไหนฝนตกนี่ล่ะค่ะ ฝนที่นี่รู้กันว่ามาพร้อมลมค่ะ เจอทั้งฝนทั้งลมหนาวช่วยกันกระหน่ำ หนาวทรมานดีค่ะ

เดือนนี้ถึงจะหนาว แต่ที่โตเกียวก็ไม่ได้หนาวขนาดหิมะจะตกนะคะ อยู่มาสาม มกรา แล้วยังไม่เคยเห็นหิมะตกที่โตเกียวเดือนนี้สักที แต่ก็มีบางวันค่ะ บางวันที่ฝนจะตกแล้วอากาศหนาวๆ ก็มีพยากรณ์ว่าจะมีฝนปนหิมะตกบ้าง (ไม่รู้เรียกว่าอะไรดีค่ะ みぞれ น่ะค่ะ) แต่แบบนี้นี่ตกมา เราก็เห็นแค่เป็นฝนล่ะค่ะ ไม่เห็นเกล็ดหิมะปนมาอะไรหรอก

เดือนนี้ก็เป็นเดือนแห่งการเปลืองไฟและแก๊สเดือนนึงค่ะ ไม่เปิดฮีตเตอร์ไม่ไหวแล้วค่ะ หนาวมากๆ ที่ไหนๆก็เปิดฮีตเตอร์แรงๆกันทั้งนั้น มหาลัย ห้าง รถไฟ เปิดกันหมดค่ะ นานๆที ที่บ้านก็จะได้ใบปลิวมาทีเรื่องประหยัดพลังงาน เห็นบอกว่าลดฮีตเตอร์ลง 1องศาจะประหยัดไฟไปได้อีก 10%

ที่เปลืองแก๊ส เพราะต้องใช้น้ำร้อนเยอะน่ะค่ะ น้ำจากก๊อกเดือนนี้นี่เย็นเฉียบยิ่งกว่าแช่ตู้เย็นซะอีก เอามือแช่ไปไม่ึถึงสองนาทีนี่มือแสบชาไปเลยค่ะ เอาน้ำธรรมดาๆตั้งไว้ข้างนอกเดี๋ยวๆก็ได้น้ำเย็นเฉียบดื่มแล้วค่ะ

ค่าน้ำเดือนนี้โดยรวมน้อยกว่าหน้าร้อนเยอะนะคะ เพราะอากาศหนาวมากเลยอาบน้ำกันไม่บ่อย อย่างเรานี่จะอาบน้ำประมาณสองวันครั้งค่ะ แต่ล้างหน้าทุกวัน (อาบน้ำร้อนบ่อยๆผิวจะแห้งลอกมากๆค่ะ) มีเสียน้ำเปล่าไปบ้าง ก็เวลาเปิดก๊อกใหม่ๆ ช่วงรอให้น้ำเปลี่ยนจากเย็นเป็นร้อนนี่ล่ะค่ะ

++++ เดือนนี้มีอะไรน่าสนใจ ++++

เป็นที่รู้กันนะคะว่า คืนวันสิ้นปี คนญี่ปุ่นจะนิยมไปไหว้พระเคาดาวน์กันที่วัดค่ะ (ไม่เชิงเคาดาวน์หรอกค่ะ ก็คือ ไหว้พระนั่นล่ะค่ะ) วัดไหนดังๆนี่ สักห้าทุ่มคืนวันที่ 31 ธันวา แถวก็ยาว(มากๆๆๆ)แล้ว แล้วก็จะมีตำรวจคอยลาดตระเวนรอบๆอยู่ตลอดคนก็ยืนคอยกันกลางอากาศหนาวๆนี่ล่ะค่ะ พอเป๊ง เข้าปีใหม่ก็จะค่อยๆปล่อยคนเข้าเขตวัดไปค่ะ กระดึบๆกันไปเรื่อยๆ ถ้าอยู่หลังๆหน่อยก็อาจใช้เวลาสัก 2 ชั่วโมงเลยกว่าจะได้ไหว้พระ (ตอนไหว้นี่แป๊บเดียวค่ะ แต่ต่อคิวนาน)

ไหว้พระเสร็จก็ออกมากินขนมกินอาหาร ตามร้านที่จะมาเปิดอยู่รอบๆวัดค่ะ มีหลายอย่างมากๆ กล้วยชุบช็อคโกแลต ยากิโซบะ โอเด้ง โซบะ ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ ไก่ย่าง ฯลฯ ที่เราชอบกินมากๆก็ ปลาย่างเกลือค่ะ เป็นปลาเป็นตัวๆทาเกลือ ย่างในถ่านไฟ กัดกันเป็นตัวๆร้อนๆ ช่วยคลายหนาวดีค่ะ (ไม้ละ 500yen) ช่วงวันที่ 1-3 มกรานี่ มองไปวัดไหนๆ ก็จะเห็นคนเยอะแยะเกือบตลอดเวลาค่ะ เรียกว่าเค้านิยมมาไหว้พระเป็นฤกษ์กันช่วงปีใหม่นี่เองค่ะ (มีตัวอย่างบรรยากาศหนึ่งในศาลเจ้าดังของโตเกียวคืนวันสิ้นปีให้ดู ที่นี่ ค่ะ)

ที่น่าสนใจอีกอย่างของเดือนนี้คือ Lucky bag (福袋) และ เทศกาลการเซลล์ครั้งใหญ่ในรอบปีค่ะ ถุงโชคดี นี่จะเป็นลักษณะว่าร้านค้าต่างๆ จะเอาของหลายๆอย่างมารวมๆกันในถุง แล้วตั้งราคาขายถูกๆ(อย่างน้อยก็ลด 50%)ค่ะ มูลค่าของข้างในนี่ รวมๆแล้วเรียกว่าซื้อแล้วคุ้มแน่นอนค่ะ จ่ายถูกได้ของมูลค่ามากกว่าที่จ่าย

ที่โตเกียวช่วง วันที่ 2-4 จะเป็นเทศกาลขายถุงโชคดีค่ะ โดยเฉพาะวันที่ 2 มกรา ที่้้เริ่มขายวันแรกนี่เรียกว่าเป็นวัน D-day เลยก็ว่าได้ ร้านค้าแทบทุกประเภทเลย จะขายถุงโชคดีกันหมด ไม่ว่าจะเครื่องสำอาง เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือแม้แต่ของเล่น ถุงโชคดีของที่ไหนที่ดังๆนี่ คนจะไปต่อคิวรอกันตั้งแต่กลางคืนเลย พอห้างหรือร้านเปิดปุ๊บนี่ ก็คงสงครามย่อยๆล่ะค่ะ ต่างคนต่างรีบไปยี่ห้อที่ตัวเองเล็งไว้

เคยอ่านมาว่า ถุงโชคดีของห้างอิเซตันที่ชินจูกุ และ ถุงโชคดีของโยโดบาชิ(ร้านเครื่องไฟฟ้า) ที่อากิบะ นี่เป็นที่ต้องการอันดับต้นๆทุกปีคนไปรอกันเยอะมาก แต่ไอ้ถุงที่คนเล็งกันเยอะ(เพราะมันคุ้มมากๆ)นี่ เดี๋ยวเดียวก็หมดค่ะ เราไปเดินๆดูตอนบ่ายๆวันที่ 2 มกราก็ไม่มีเหลือแล้วค่ะ (ขนาดไปบ่ายๆนี่ คนยังแทบล้นห้างเลยค่ะ มึนดีมากๆ)

แถมช่วงวัน D-day นี่ของที่ไม่เซลล์โดนเก็บไปหมดเลยค่ะ เลยดูเหมือนว่าเซลล์ทุกชิ้นทั้งร้าน แต่ความจริงนั้น คือ ก่อนนั้นยังเห็นของ Early spring ที่ไม่ลดโชว์ขายอยู่เลย พอ D-day ปุ๊บเก็บไปก่อนเน้นของลดราคาไว้ก่อน ยี่ห้อไหนเคาเตอร์ไหนไม่ร่วมรายการลดราคา ก็จะถูกย่อเคาเตอร์ขายเหลือจิ๊ดเดียวไปชั่วคราวเลยก็มีค่ะ (มีบรรยากาศวัน D-day ให้ดูนิดหน่อย ที่นี่)

ข้อเสีย อย่างนึงที่ทำให้หลายๆคนไม่ซื้อถุงโชคดีก็เพราะมันเลือกของ ลองของไม่ค่อยได้ค่ะ ถ้าเป็นเสื้อผ้าส่วนใหญ่ก็จะบอกไว้แค่ว่าถุงนี้ไซส์อะไร ข้างในมีกระโปรง เสื้อ เดรส หรือ โค้ตอย่างละกี่ตัวทำนองนี้ แต่เราจะเปิดถุงเลือกแบบ สี หรือลาย ที่เราชอบไม่ได้ และก็ลองก่อนไม่ได้ค่ะ ตาดีได้ตาร้ายเสีย ถ้าเิปิดมาแล้วมีแต่แบบที่เราใส่ไม่สวยก็ซวยไปค่ะ ยิ่งเสื้อผ้านี่ไม่ลองนี่บอกยากจริงๆว่าใส่ออกมาสวยไหม

แต่ถุงโชคดีอื่นๆ อย่างเช่นเครื่องสำอาง ก็เห็นว่ามีเขียนบอกนะคะว่าข้างในจะใส่อะไรไว้บ้าง บางทีก็เห็นจัดไว้เป็นเซ็ตๆให้เลือกซื้อกันเลยก็คุ้มมากล่ะค่ะ(แต่เราไม่ค่อยซื้อค่ะ เพราะได้มาเยอะก็ใช้ไม่ทันอยู่ดี) ส่วนพวกถุงของร้านเครื่องไฟฟ้า ก็มักเห็นเขียนไว้ว่าข้างในมี Notebook หรือ กล้องดิจิตอลขนาด8ล้านพิกเซล มูลค่าเต็มเท่านี้ๆ ก็พิจารณาจากมูลค่าแล้วตัดสินใจเอาค่ะ ไม่เห็นของข้างใน ไม่รู้เหมือนกันว่ายี่ห้ออะไร สเป็คละเอียดๆแค่ไหน

ใครที่ไม่ชอบการเสี่ยงกับถุงโชคดี ก็อย่าเพิ่งเบื่อไปนะคะ นอกจากถุงโชคดีแล้วช่วงนี้ก็เซลล์กันกระหน่ำเช่นกันค่ะ ร้านทุกร้านเซลล์ลดราคากันหมดค่ะ (ลดเยอะมากๆค่ะ 70-80% หลายๆร้านเลย) ถึงไม่ซื้อถุงโชคดีก็ยังมีของถูกๆให้ซื้ออีกเยอะค่ะ มาก่อนได้่ก่อนค่ะ แต่พวกเสื้อผ้าหรือรองเท้านี่จะจำกัดหน่อยว่า เค้าเซลล์กันแค่ของฤดูหนาวค่ะ เรียกว่าเริ่มโละสต็อคหน้าหนาวกันแล้วล่ะค่ะ

ยิ่งใกล้ปลายเดือน ราคายิ่งลดลงเรื่อยๆ จากตอน 60%OFF ยังพอทนไม่ซื้อได้ พอสัก 70%OFF นี่ชักคันไม้คันมืออยากจ่ายเงินมาก นานวันเข้านี่เลยค่ะ 90%OFF ใ้ห้ฟรีกันเลยดีกว่ามั๊ยเนี่ย ของสามหมื่นเหลือสามพัน แต่จากที่สังเกตมาในเว็บขายเสื้อผ้าหรืออะไรที่ลดตั้งแต่ 70% ขึ้นไปนี่หมดไว๊ไว เห็นลดเยอะๆบางทีก็นึกอยากซื้อมาเหมือนกัน ไม่ได้ชอบขนาดนั้นแต่มันถูกยังกะได้เปล่า แต่ก็ต้องขันติไว้ค่ะ ยุบหนอ พองหนอ เสื้อผ้าล้นห้องแล้วหนอ T_T

ลืมบอกไปอย่างว่าช่วงวันที่ 2-3 มกรานี่ ห้างต่างๆ(ในโตเกียว)จะิปิดเร็วกว่าปกติหน่อยนะคะ คาดว่าคงงานหนักมากน่ะค่ะ เลยปิดกันเร็วหน่อย ส่วนวันที่ 1 มกราห้างในโตเกียวส่วนมากจะไม่เปิดบริการกันค่ะ นอกจากนั้นพวกร้านอาหารหรือร้านขายของบางร้านก็จะหยุดกันช่วงสิ้นปีถึงปีใหม่ด้วย คงไม่ถึงกับหาอะไรทานไม่ได้แต่ถ้าเจาะจงอยากทานร้านไหนโดยเฉพาะควรเช็คให้ดีก่อนนะคะว่าเปิดช่วงสิ้นปีนี้ไหม

หลังจากช่วงปิดปีใหม่(ประมาณถึงวันที่ 3 มกรา) พอหมดวันหยุดแล้วโรงเรียนและที่ทำงานก็เปิดตามปกติค่ะ ถุงโชคดีก็อาจมีที่เหลือๆก็ยังวางขายอยู่บ้างแต่ก็น้อยเต็มทีค่ะ มีแต่แบบที่เหลือจริงๆค่ะ แต่พวกเซลล์ของหน้าหนาวนี่ก็ยังมีต่อไปเรื่อยๆตลอดเดือนค่ะ และจะค่อยๆปรับลดราคาของเหลือลงเรื่อยๆอีกด้วย ไปห้างทีก็เจอแต่ป้ายเซลล์ แม้แต่ร้ายขายบนอินเตอร์เน็ตก็ลดเช่นกัน ต้องคอยนั่งเฝ้าจอกันบ่อยๆค่ะ เพราะของดีๆนี่เริ่มขาย(ราคาลด)ปุ๊บหมดเกลี้ยงแล้วค่ะ

ช่วงเดือนนี้นี่ คอลเลคชั่นแฟชั่นใหม่ๆจะออกมาเป็นของ Early spring หมดแล้วล่ะค่ะ ไม่มีของหน้าหนาวออกมาใหม่แล้ว (early spring นี่เอาไปใส่ที่ไทยได้สบายๆเลยค่ะ เน้นโทนสีพาสเทลหวานๆ ผ้าแนวๆชีฟองพลิ้วๆนี่ใช่เลยค่ะ) พวกนี้จะผ้าบางๆแล้วนะคะ ถ้าซื้อแล้วอยากใส่เลย ไม่อยากรอใบไม้ผลิ ก็ต้องใส่เสื้อคอเต่าข้างในเพิ่มเพื่อกันหนาวล่ะค่ะ

แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าพวกของใหม่ๆนี้ไม่รวมอยู่ในเซลล์ จะขายราคาเต็มค่ะ งานเซลล์นี้เฉพาะสินค้าของหน้าหนาวเท่านั้น ถ้าจะซื้อพวกเสื้อผ้าไปใช้เมืองไทยก็คิดกันดีๆก่อนนะคะ

แถมอีกเล็กน้อยว่าทุกวันจันทร์ที่สองของเดือน มค จะเป็นวันฉลองบรรลุนิติภาวะที่ญี่ปุ่น ถือเป็นวันหยุดทั่วประเทศเลยค่ะ มีสาวๆใส่กิโมโนงามๆเดินอยู่ทั่วทุกแห่งไปหมด ก็เป็นโอกาสดีวันนึงสำหรับใครที่อยากเห็นกิโมโนสวยๆด้วยนะคะ รายละเอียดเต็มๆดูได้ ที่นี่

++++ การแต่งตัว ++++

การแต่งตัวเหมือนที่เขียนไว้ตอนเดือนธันวาล่ะค่ะ เพราะช่วงนี้มีแต่อากาศหนาวขึ้นๆเรื่อยๆค่ะ อะไรใส่แล้วกันหนาวได้ใส่ไปเลยค่ะ ถุงมือ ที่ปิดหู หรือ หมวก อะไรพวกนี้เผื่อไว้ก็ดีค่ะ เพราะเวลาเจอลมพัดแรงๆกรีดหน้านี่จะรู้สึกแสบหูมากๆค่ะ อย่างกะใครเอามีดบางๆมากรีดหูเลยทีเดียว มีหมวกหรือที่ปิดหูช่วยปิดจะดีมาก (ที่ปิดหูมาซื้อร้านร้อยเยนที่นี่ก็ได้ค่ะ 105yen เท่านั้น)

บางคนถ้าหนาวหน้า ก็จะใส่เป็นที่ปิดปากไปเลยค่ะ ไม่ได้ดูแปลกอะไร กันหนาวก็ได้ คนเป็นหวัดก็ใส่ได้ค่ะ (นิดนึงว่าที่ญี่ปุ่น ใครเป็นหวัดก็มักจะใส่ที่ปิดปากปิดจมูกกันเป็นเรื่องปกตินะคะ ไม่ได้แปลกอะไรเลยค่ะใส่กันเป็นปกติ แต่ถ้าใส่ที่ไทยนี่คนมองกันทั้งห้างเลย ยังกะว่าเราเป็นโรคติดต่อร้ายแรงแน่ะ -"- )

พวกการแต่งตัวท้าลมหนาวก็ใช่ว่าไม่มีนะคะ เห็นอยู่เหมือนกันค่ะ แต่ไม่แนะนำ เพราะเดือนนี้คนญี่ปุ่นเองยังหนาวกันเลย ประสาอะไรกับพวกเราที่เป็นคนไทย มันเกินระดับเย็นสบายๆมาเยอะแล้วล่ะค่ะ ขนาดผู้หญิง(ทั้งสาวและไม่สาว)ที่จะคอยยืนหน้าร้านเรียกแขก(ผู้ชาย)เข้าร้าน ยังใส่เสื้อหนาวนวมยาวยืนเรียกแขกกันเลยค่ะ (ปกติเค้าจะต้องแต่งตัวงามๆมาเรียกแขกไงคะ)





Create Date : 27 ธันวาคม 2551
Last Update : 7 ตุลาคม 2555 13:04:26 น. 14 comments
Counter : 65890 Pageviews.

 
น่าสนใจมากค่ะ แล้วจะมาอ่านต่อ


 HAPPY NEW YEAR 2009
สุขภาพแข็งแรงนะคะ มีความสุขมากๆ




โดย: nathanon วันที่: 27 ธันวาคม 2551 เวลา:4:01:27 น.  

 
เป็นบล๊อกที่เรื่องราวอยู่ในคามสนใจของเรามากเลยค่ะ ขอบคุณที่เขียนบล๊อกลักษณะนี้นะคะ ทำให้เราได้รู้ข้อมูลเพิ่มมากขึ้นค่ะ


โดย: บุปผามาลา วันที่: 27 ธันวาคม 2551 เวลา:21:27:45 น.  

 
Photobucket

มารอดูเดือนมกราครับ กำลังจะไปแย้ววว



โดย: จอมยุทธเฮง วันที่: 31 ธันวาคม 2551 เวลา:19:59:54 น.  

 
เดือนมกรา ดูจากธันวาก็ได้นะคะ เพราะช่วงนี้มีแต่อากาศหนาวขึ้นและหนาวขึ้นค่ะ
การแต่งตัวจะเปลี่ยนอีกทีก็หลัง กุมภา โน่นน่ะค่ะ

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาชมนะคะ


โดย: White Amulet วันที่: 1 มกราคม 2552 เวลา:14:28:29 น.  

 
แล้วช่วงก.พ. ต้องแต่งประมาณไหนคะ พอดีจะไปอยู่ที่โตเกียวประมาณเดือนนึงค่ะ แล้วดูจากอากาศตอนนี้เหมือนอุณหภูมิจะลดลง เลยกะไม่ถูกว่าซื้อเสื้อกันหนาวแบบไหนดี ช่วยแนะนำหน่อยนะคะ

ขอบคุณค่ะ


โดย: teru_bozu วันที่: 14 มกราคม 2552 เวลา:14:57:28 น.  

 
เดือนกุมภาก็แต่งเหมือน มกรา เลยค่ะแต่ต้องกันหนาวให้มากขึ้นอีกเพราะกุมภาคือเดือนที่หนาวที่สุดที่ญี่ปุ่นค่ะ

โตเกียวถ้าจะหิมะตกก็ตกเดือนกุมภานี่ล่ะค่ะ (เดือนมกรา ถ้าจะมีหิมะในโตเกียว ก็เห็นเป็นฝุ่นๆนิดๆ แทบสังเกตไม่เห็นเลยค่ะ) เสื้อกันหนาวเอาแบบที่กันหนาวได้ดีที่สุดมาเลยนะคะ ไม่งั้นหนาวแย่แน่ๆค่ะ (เดือนกุมภา กับ สิงหา นี่เราเกลียดที่สุดเลยค่ะ หนาวสุดๆกับร้อนสุดๆ)


โดย: White Amulet วันที่: 14 มกราคม 2552 เวลา:17:27:44 น.  

 
สงสัยจะไม่อยากไปซะแล้วเดือนมะกะราเนี่ยเราขี้หนาวซะด้วยทำไงดี


โดย: กิกิจัง IP: 110.49.193.169 วันที่: 22 ธันวาคม 2553 เวลา:22:24:56 น.  

 
อยากไปญี่ปุ่นมากกกกกกค่ะ TT
แต่ แต่ละทัวร์ก็แพงเหลือเกิน =(
อยากไปมากๆ


โดย: ไฟล์ IP: 110.49.233.161 วันที่: 25 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:56:10 น.  

 
กำลังหาข้อมูลอยู่ค่ะ จะไปกัยยายนนี้ ยังไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการทำวีซ่าเลย


โดย: Na IP: 110.49.130.109 วันที่: 22 เมษายน 2555 เวลา:13:38:03 น.  

 
ขอบคุณนะค้า...^^
ข้อมูลเป็นประโยชน์มากเลยค่ะ


โดย: kibkae...^^ IP: 158.108.243.250 วันที่: 31 สิงหาคม 2555 เวลา:5:12:57 น.  

 
Thank มากค่า


โดย: Cute IP: 118.172.141.186 วันที่: 22 กันยายน 2555 เวลา:5:53:41 น.  

 
จะไป 17 มค.57 นี้เหมือนกันค่ะ


โดย: บัดดี้ชาเย็น IP: 202.57.188.3 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2556 เวลา:7:40:23 น.  

 
เรากะว่าจะใส่เลคกิ้ง กับ เสื้อขนๆ แล้วก็สูทยาวถึงสะโพก
แล้วก็แว่นตา มีผ้าพันคอด้วย ส่วนรองเท้าเราจะใส่ผ้าใบหุ้มคอ เราว่่า เราใส่ด้วยไปแต่นานๆไปที่ก็ต้องจัดเต็มกันหน่อย ใครมีข้อแนะนำดีดีก็บอกกันได้นะ


โดย: จิดาภา IP: 223.204.248.63 วันที่: 7 เมษายน 2557 เวลา:12:30:38 น.  

 
น่าจะมีรูปซักหน่อยน้ะครับจะน่ารักมากเลย

เนื้อหาเข้มข้นมาก ชอบมากครับ :)


โดย: กินนะมะจัง IP: 1.1.196.39 วันที่: 16 เมษายน 2557 เวลา:5:01:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

White Amulet
Location :
Bangkok Thailand / Tokyo Japan

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?]




บล็อคนี้ถึงไม่ค่อยมีอะไรแต่ถ้าจะก๊อปปี้ข้อความหรือรูปอะไรไปโพสที่อื่น ก็รบกวนช่วยใส่เครดิตลิงค์บล็อคนี้ไว้ด้วยนะคะ

เราไม่สงวนลิขสิทธิ์การนำภาพและข้อความในบล็อคไปเผยแพร่(ในแบบที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์)แต่สงวนลิขสิทธิ์ความเป็นเจ้าของภาพถ่ายและเนื้อหาค่ะ

ค้นหาทุกสิ่งอย่างในบล็อคนี้

New Comments
Friends' blogs
[Add White Amulet's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.