W H I T E A M U L E T
Group Blog
 
All blogs
 
November 2009 @London: 4th day: กระทบไหล่คนดังที่ Madame Tussauds



เครดิตภาพ Illustration ของ Big Ben จาก google

------------------------------------------------------------------

มาถึงวันที่สี่แล้วค่ะ จริงๆตัดสินใจยากอยู่เหมือนกันอยากไปฟังงานก็อยากไปเพราะหัวข้อวันนี้น่าสนใจ แต่ถ้าไปแล้วก็คงไม่มีเวลาไปไหนอีกพรุ่งนี้ก็กลับแล้ว รักพี่เสียดายน้องแต่สุดท้ายก็เลือกขอเที่ยวไว้ก่อนดีกว่า งานไปตามอ่านทีหลังเอาก็ได้น่า

ที่แรกวันนี้เป็น Must go ของเราในทริปนี้เลยค่ะ ในลอนดอนก็ไม่ได้มีที่เที่ยวมากนักครั้นจะออกไปถึง Edenburg เราก็ไม่มีเวลาขนาดนั้น มีที่พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง Madame Tussauds นี่ล่ะค่ะที่เราสนใจมากที่สุด ไม่ได้จองตั๋วทางเน็ตมาก่อนเพราะเผื่อโปรแกรมเปลี่ยนแล้วไม่ได้ไปเลยต้องมาซื้อกันที่นั่นเลยค่ะ

กิตติศักดิ์อันเลื่องลือว่าตั๋วที่นี่เข้าคิวยาวมาก (เพื่อนอยู่ลอนดอนก็บอกว่า "อ๋อ ไอ้ที่คิวยาวๆตลอดนั่นน่ะเหรอ") เราเลยรีบตื่นแต่เช้ามาเลยค่ะ นั่ง Tube มาลงที่ Baker Street Station เลย
#1


เดินออกจากสถานีตามป้ายไป เลี้ยวซ้ายนิดเดียวก็เจอแล้วค่ะ ตึกหลังคารูปโดมนี่ล่ะค่ะที่ๆเราจะมาวันนี้ วันนี้อากาศไม่ดีแต่เช้าเลยฝนตกตลอด แต่เราไม่มีแพลนถ่ายรูป outdoor แล้ว จะฝนหรือจะอะไรก็ไม่หวั่นค่ะ
#2


สำหรับคนยังไม่มีตั๋วต้องเดินมาถึงประตู 1 ที่อยู่ริมสุดเพื่อซื้อตั๋วกันก่อนค่ะ เรามาสายนิดหน่อยถึงประมาณ 10:20 (ที่นี่เปิด 9:30) นึกว่าจะคิวยาวแล้วเชียว แต่โชคยังดีมองเข้าไปคิวยังไม่ยาวลงมาถึงประตูด้านล่างนี่เลยค่ะ
#3


จะไปที่ขายตั๋วนั้น ต้องเดินผ่านทางที่กั้นไว้ขดไปขดมา แล้วขึ้นบันไดไปอีกถึงจะเจอค่ะ โชคดีเรามาเร็วตอนนั้นคิวยังอยู่แค่ช่วงหน้าๆที่ขายตั๋วนี่เอง แต่ยืนๆไปไม่กี่สิบนาทีหันมาอีกทีคิวยาวลงไปถึงบันไดชั้นล่างแล้วค่ะ
#4


ต่อคิวประมาณ 20 นาทีก็ได้ซื้อตั๋วแล้วค่ะ จริงๆเค้ามีขายเป็นพวกตั๋วชุดรวมพวก London Attractions ทั้งหลายอย่าง London Eye, Thames Cruise, Dungeon อะไรไว้ด้วย แต่เราไม่เอาค่ะเอาแค่ที่นี่ล่ะก็เสียไป 30 ปอนด์ค่ะ ค่าตั๋วผู้ใหญ่ 25 ปอนด์ที่เหลือคือเราซื้อโบรชัวร์มาด้วยน่ะค่ะ 5 ปอนด์ (คือ แบบว่ามาจนถึงวันนี้ยังไม่ค่อยได้ใช้เงินอะไรเลย เงินที่แลกมาเหลือเพียบ)
#5


ทีแรกกะว่าออกไปหาข้าวเช้ากินก่อนค่อยมาเข้าดีไหม แต่เปลี่ยนใจเข้าเลยดีกว่าเก็บท้องไปกินกลางวันทีเดียวเลย ก็ยื่นตั๋วเข้าลิฟท์ไปกันเลยค่ะ ส่วนแรกที่โผล่ออกมาคือ A-List Party มีหุ่นดาราดังๆในชุดออกงานพรมแดงให้เราได้เก็บช็อตใกล้ชิด(ประชิดและถึงเนื้อถึงตัว ;)กันตามสบายค่ะ
#6


ขนาดเราว่ามาแต่เช้าแล้ว คนยังเยอะเลยค่ะนักท่องเที่ยวทั้งน้านนน แต่ละคนโพสท่ากันได้แบบว่าถึงเนื้อถึงตัวดาราดังมากๆค่ะ ^_^ เรามาคนเดียวยังเหนียมๆอยู่ยังไม่ค่อยกล้าขอให้ใครถ่ายรูปให้เท่าไหร่ บวกกับไม่ได้สนใจเรื่องดาราเท่าไหร่ด้วย เลยเดินวนๆดูคนอื่นเค้าไปค่ะ

เพื่อความสมจริง ดาราระดับ A-List ก็ต้องมีปาปารัชซี่คอยตามติดอยู่แล้ว เลยมีหุ่นนี่ตั้งด้วยค่ะให้คนเข้าใจผิดกันเล่นๆ ทีแรกเราก็นึกว่าคนเล็งกล้องอยู่จริงๆ หันมาอีกทีอ้าวทำไมยังอยู่ที่เดิม ที่แท้หุ่นนี่เอง (ว่าแต่ต้นแบบคือใครหนอ) ไม่ใช่เราคนเดียวนะคะคนอื่นๆก็เข้าใจผิดเหมือนเรานี่ล่ะค่ะ ทำได้กลมกลืนกับคนมาเที่ยวจริงๆ
#7


เก็บภาพมาบางคนที่เราพอรู้จักบ้างก็ Will Smith ชอบหนังของเค้าหลายเรื่องอยู่ แต่ชอบแนว Comedy รู้สึกว่าเข้ากับเค้ามากกว่าแนวเครียดๆนะคะ
#8


สามคนนี้ใครไม่รู้อ่ะค่ะ รู้คนเดียวคือ นิโคล คิดแมน หุ่นนี้นี่เปล่งออร่าจริงๆเลยค่ะ สมกับเป็น A-List >.<
#9


นอกจากนี้เท่าที่จำได้มี เดวิด เบคแฮม กับ วิคตอเรีย เบคแฮม, ลีโอนาโด ดิคาปริโอ, เจโล, แองเจลิน่า โจลี่, แบรด พีท ด้วยค่ะ (มี จิม แครี่ ด้วยเราพลาดไปได้ยังไงนะ คนโปรดเราคนนึงเลย) เดินๆแถวนั้นอยู่เจอสาวไทยสองคนกำลังโพสถ่ายกับเดวิด เบคแฮม(มั้งคะ ถ้าจำไม่ผิด) โพสได้ระยะประชิดไม่เบาค่ะ ใจกล้าดี เราเขินอ่ะค่ะไม่กล้าโพสแบบนั้น (แถมคุณแฟนรู้เข้าโกรธแย่เลย หุ่นก็หุ่นเถอะค่ะ)

ต่อไปเป็น Movie Zone ค่ะ ตรงนี้เราเริ่มใจกล้าขึ้นแล้วเพราะมีหุ่นคาแรคเตอร์ที่เราชอบมากอยู่ด้วย ด้านได้อายอดค่ะไม่งั้นไม่มีรูปตัวเองกลับไปแน่ๆ(ที่แบบนี้ถ้าไม่มีตัวเราเข้าไปในรูปด้วย มันก็ไม่เหมือนว่าเราได้มาแล้วจริงๆน่ะเนอะคะ)

เริ่มจากอันแรก Spider Man ก่อนเลยค่ะติดตามมาตั้งแต่ภาคแรกแล้ว สนุกมาก (แต่ภาคสองเนื้อเรื่องออกจะเฉื่อยๆไปหน่อยนึง) ตอนไปนิวยอร์คก็อุตส่าห์ไปเก็บช็อตหน้า Columbia University ที่เป็นฉากแรกสุดในหนัง(ภาคแรก)ตอนตัวร้ายขับรถไปส่งลูกทัศนศึกษากะเค้าด้วย ^o^
#10


ถัดมาก็เจ้าตัวเขียวสุดโปรดของเรา Shrek ค่ะ ยกเว้นภาคสามแล้วสองภาคแรกชอบหมดเลย คนทำหนังเข้าใจหาเรื่องเสียดสีพวกเทพนิยายดีจริงๆค่ะ เราเองก็ชอบพวกเทพนิยายก็เลยพลอยชอบเรื่องนี้ไปด้วยเลย (สังเกตที่ขามี Gingerbread man ตัวเล็กๆอยู่ด้วย)
#11


นอกจากนี้ก็มี Hulk กับ Jurassic Park ค่ะเสียดายว่าส่วนนี้น้อยไปหน่อย น่าจะมีคาแรคเตอร์อื่นๆจาก Pixar Animation อย่างเช่น Woody จาก Toy Stories, Kitty สีฟ้าขนฟูจาก Monster Inc. แล้วก็ครอบครัว The incredible ด้วยนะคะเนี่ย ตัวโปรดเราทั้งนั้นเลย แต่สงสัยจะเก่าไปหน่อยเลยไม่ค่อยมีคนรีเควสไป (เอ๊ะ หรือจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลิขสิทธิ์?)

ถัดไปเป็นโซนนักกีฬาคนดังค่ะ แต่เราไม่รู้จักใครเลย เลยผ่านไปเฉยๆ เก็บมาช็อตเดียวใครก็ไม่รู้ กว่าจะทำหุ่นท่านี้ออกมาให้บาลานซ์อยู่ได้ยังงั้นนี่ ท่าทางต้องคำนวนศูนย์ถ่วงกันอย่างดีเลยนะคะเนี่ย ไม่งั้นมีร่วงแน่ๆ (เท่าที่มอง ไม่เห็นว่ามีการโยงสายอะไรไว้กับเพดานนะคะ)
#12


ถัดมาเป็นห้องของ Royal Gallery ค่ะ ม่านสีแดงดีได้ใจถ่ายรูปขึ๊นขึ้น แรกสุดเข้ามาก็เจอเจ้าหญิงไดอาน่ายืนต้อนรับอยู่ก่อนเลย (จำได้ว่าเพลง Candle in the wind ของ Elton John เพร๊าะเพราะเสียงดูมีพลังแฝงเศร้าๆ อารมณ์คนเสียใจมากจนต้องร้องระบายออกมา)
#13


นอกนั้นก็มีราชวงศ์เก่าๆคนอื่นๆ แต่งชุดยุคโบราณมาเลยค่ะแต่เราไม่ทันได้ดูละเอียดว่าใครเป็นใครเท่าไหร่
#14


โซนนี้จะมีจุดถ่ายรูปยอดฮิตอยู่ที่นี่ล่ะค่ะ จุดถ่ายรูปคู่กับ Queen ElizabethII ณ ฉากของ Buckingham Palace จริงๆตรงนี้จะกั้นไว้เลยว่าจะถ่ายด้วยกล้องของทางพิพิธภัณฑ์(ซึ่งถ้าอยากได้รูปต้องจ่ายเงินซื้อค่ะ) แต่โชคดีว่าคนที่ถ่ายตรงนี้ใจดีค่ะ นอกจากถ่ายด้วยกล้องเค้าแล้ว ก็ช่วยถ่ายด้วยกล้องเราให้ด้วยเลยได้ภาพนี้มาค่ะ (แต่กล้องเค้าจะถ่ายเต็มตัวสวยกว่านะคะ)
#15


ถัดไปค่อยเป็นโซนที่สมกับเด็กวิทย์อย่างเราหน่อย โซนนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังของโลกค่ะ รูปนี้ได้คนเล่นกล้องรุ่นเดียวกันช่วยถ่ายให้ เค้าเลยช่วงเล็ง ดูคอมโพส ระวังคนให้อย่างดีเลยค่ะ ^_^ รูปนี้คู่กับ Sir Isaac Newton นักคณิตศาสตร์ชื่อดังเจ้าของสมการฟิสิกส์มากมายที่เรียนกันตอน ม.ปลาย ที่จำได้แม่นๆก็คือ กฏการเคลื่อนที่สามข้อของนิวตัน (Isaac Newton's Three Laws of Motion) ว่าด้วย แรงเฉื่อย, F=ma และ action=reaction สั้นๆแค่นี้เองเรียนกันได้ตั้งนาน
#16


นักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆอย่างไอสไตน์ก็มีค่ะ แต่เรามัวแต่ไปเล่นตอบคำถามแทนซะงั้นไม่ค่อยได้ถ่ายรูป ต่อมาเป็นโซนเหล่านักร้องชื่อดังค่ะ
#17


แน่นอนว่าฮ็อตสุดก็ไม่พ้น King of Pop หรือ ไมเคิล แจ๊กสัน ราชาเพลงป๊อปผู้ล่วงลับไปแล้ว (จุดนี้ถ่ายรูปเสียเงินด้วยค่ะ ถ้าอยากได้รูปสวยๆจากกล้องเค้า)
#18


คนอื่นๆที่เราพอรู้จักก็ Britney Spears นี่ล่ะค่ะ หุ่นนี้ทำได้เหมือนมากๆจำภาพนี้ตอนรับรางวัล MTV ได้ ออกมาเป๊ะเลยจริงๆค่ะ ส่วนหุ่นสะโพกเด้งข้างหลังนั้นเราไม่รู้จักค่ะ แต่สังเกตว่าผู้ชายทุกคนที่มาถ่ายรูปกะหุ่นนี้จะต้องเอามือนึงวาง(หรือทำท่าลูบ)ตรงสะโพกเด้งๆนั้นทุกคนเลยล่ะค่ะ ^_^
#19


ถัดมาก็จะเป็นเหล่าคนดังในแง่การเมือง(ทุกฝ่าย) และผู้นำคนสำคัญของโลกค่ะ และแน่นอน ณ นาทีนี้จะมีผู้นำคนไหนดังไปกว่าคนนี้เจ้าของคำพูดฮิตติดปากว่า "YES WE CAN" ประธานาธิบดี Barack Obama คนโปรดของคุณแฟนเรานั่นเองค่ะ
#20


จากนักการเมืองที่ไม่เป็นที่รู้จัก แต่ด้วยวาทศิลป์และ speech อันยอดเยี่ยมกินใจด้วยเวลาไม่นานเค้าสามารถเอาชนะ Hillary Clinton ภรรยาของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่มีแบ็คกราวด์และฐานเสียงดีกว่า(มาก)ในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งผู้แทนของพรรคได้ จน ณ วันนี้ไม่มีใครเลยที่จะไม่รู้จักชื่อของคนๆนี้ ต้องบอกว่าเค้าไม่ธรรมดาจริงๆค่ะ สามารถขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีคนดำคนแรกของสหรัฐอเมริกาได้ด้วยอายุเพียงเท่านี้ จะว่าไปการที่เค้าคนนี้ขึ้นมาถึงตำแหน่งนี้ได้นี่ล่ะเป็นสัญลักษณ์ของ "Change" แล้ว
#21


คุณแฟนเราจะพูดให้ฟังอยู่เสมอเลยว่า เห็นมั๊ยขนาด Obama (และ มิเชลภรรยาของเค้า) ยังพูดเลยว่า "เพราะการศึกษานี่ล่ะที่ทำให้เค้ามีวันนี้ได้ คนที่ปฏิเสธการศึกษาก็คือ คนที่ปฏิเสธความก้าวหน้าในชีวิตนั่นล่ะ" แต่ทั้งนี้คุณแฟนเราเค้าตั้งใจจะหมายถึง คนที่มีโอกาสพร้อมทุกอย่างแต่(ทำท่าจะ)ไม่เอา(อย่างเรา)นะคะ ไม่ได้จะว่าอะไรใครหรือตัดสินใครที่ระดับการศึกษาเลย โดยเฉพาะถ้าคนที่เค้าไม่มีโอกาสนี่ก็อีกเรื่องนึงอยู่แล้ว (แต่แหม เราไม่เคยเถียงว่าการศึกษาไม่สำคัญสักหน่อย แค่พูดว่าถ้าไม่ได้กะจบไปเป็นอาจารย์ จริงๆจบแค่โทก็พอเหลือเฟือแล้วหนิ เลยโดนคุณแฟนเทศน์ซะยาวเลยค่ะ เค้าดันมาจากครอบครัวที่ปลูกฝังลูกๆมาให้เห็นความสำคัญของการศึกษาแบบสุดๆเลยค่ะ)

ขอแปะอีกหนึ่งผู้นำคนโปรดของคุณแฟนเรา Tony Blair นั่นเองค่ะ ถ้าไม่นับ(ที่พลาด)ตอนเรื่องที่ไปสนับสนุนอเมริกาบุกอิรัคแล้วล่ะก็ เค้าเป็นผู้นำที่คนอังกฤษชอบมากที่สุดคนนึงในประวัติศาสตร์เลย(ได้ยินมาว่างี้น่ะค่ะ) คุณแฟนชอบฟัง speech ของเค้ามาก(พอๆกับที่ชอบฟังของ Obama) แล้วพูดประจำว่าภาษาอังกฤษแบบของ Tony Blair นี่ล่ะเท่ห์สุดๆ (เราก็แยกไ่ม่ค่อยออกนะคะว่าสำเนียงไหนเป็นอังกฤษ ไหนเป็นอเมริกา รู้แต่ปกติสำเนียงอังกฤษจะฟังยากกว่า แต่อย่าง Tony Blair นี่กลับชัดและฟังง่ายดี)
#22


speech ของ Tony Blaire ที่คุณแฟนเราพยายามจะกรอกหูเราอยู่ตลอดเลยคือนี่ล่ะค่ะ "Ask me my three main priorities for government, and I tell you, Education, Education and Education." ( -"- รู้แล้วจ้า ว่าการศึกษาน่ะสำคัญ คุณแฟนเรานี่ย้ำจั๊ง ฟังจนเอียนแล้วเนี่ย speech คนสำคัญทั่วโลกทั้งอดีตและปัจจุบันที่พูดถึงความสำคัญของการศึกษา)


จบตรงนี้จะมีบู๊ตให้ซื้อภาพด้วยค่ะ (ตอนเค้าถ่ายให้ก็จะให้กระดาษมาใบนึงเขียนเบอร์ไว้) เค้าจะให้ดูภาพก่อนแล้วถ้าเราจะเอาก็จ่ายใบละ 9 ปอนด์ค่ะ ดูเหมือนบริการหลอกเด็กเลยเนอะคะ แต่ก็หลอกได้ผลล่ะค่ะ แหะๆ เราคนนึงล่ะซื้อมาสองใบ ใบนึงกับควีน อีกใบกับโอบาม่าจะเอาไปอวดคุณแฟนซะหน่อย (จำได้ว่าเค้าใช้กล้อง DSLR ของ Nikon ถ่ายรูป ถ่ายสวยนะนี่)
#23


อีกใบนึงค่ะ ถ้าไม่เพราะมีแฟนเป็นคนบ้าการเมืองรอบโลกล่ะก็คงไม่คิดจะซื้อใบนี้เท่าไหร่ แต่นี่เห็นคุณแฟนชอบคนนี้เหลือเกิ๊น งานนี้ต้องซื้อไปอวดค่ะ รูปออกมาหน้าเนี๊ยนเนียนยังนึกอยู่ว่าเค้ามีใส่เอฟเฟคหน้าเนียนให้ หรือเพราะแสงสีส้มๆกันแน่นะ (จริงๆคือ เวลาถ่ายจุดพวกนี้ ถ้ามีคนไปด้วยก็จะช่วยเอากล้องตัวเองถ่ายจากมุมข้างๆได้ แต่เราไปคนเดียวค่ะ แถมจะว่าไปมุมที่ดีที่สุดก็คือมุมที่กล้องของทางพิพิธภัณฑ์ตั้งจองไว้นั่นล่ะค่ะ)
#24


หมดจากโซนคนดังการเมืองก็จะไม่ค่อยมีอะไรมากแล้วค่ะ จริงๆจะมีโซน Scream ด้วย ทางเดินเป็นคล้ายๆโถงใต้ดินดำมืดมาเชียวแถมมีป้ายแปะไม่แนะนำสำหรับ เด็ก คนที่เป็นโรคหัวใจ หรืออะไรทำนองนี้ด้วย เรามาคนเดียวแถมขี้กลัวด้วยเลยไม่กล้าเข้าโซนนั้นเลยค่ะ เดินเลี่ยงไปอีกทางที่เค้ามีไว้ให้สำหรับคนไม่อยากเข้าตรงนั้นแทน

โซนต่อไปเป็นโซนของ Madame Tussaud เองเลยค่ะ จะว่าไปก็แอบน่ากลัวนะคะเนี่ย มีหุ่นของตัวเองตั้งแสดงในพิพิธภัณฑ์ของตัวเองอย่างนี้เนี่ย
#25


ตรงนี้จะมีโชว์ด้วยว่ากว่าจะหล่อหุ่นแต่ละคนขึ้นมาได้นั้น ต้องวัดสัดส่วนอะไรกันละเอียดแค่ไหน แต่ว่าก็ว่านะคะดูๆอุปกรณ์ที่วางๆเรียงไว้ ทั้งลูกตาขนาดต่างๆเอย ทั้งเครื่องวัดสัดส่วนอะไรเอย นึกว่าอยู่ในห้องทรมานนักโทษยุคกลางยังไงยังงั้นเลยค่ะ

นอกจากนี้จะไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจมากแล้วค่ะ ก็มี Spirit of London ที่จะให้นั่งรถรางทรงแท็กซี่ลอนดอนเพื่อวนไปชมเรื่องราวต่างๆของลอนดอน (ในนี้เค้าห้ามถ่ายรูปแบบใช้แฟลชนะคะเพราะจะรบกวนคนอื่นๆ เราแอบมาแชะนึงเพราะอยากได้บรรยากาศ แต่ปิดแฟลชเรียบร้อยค่ะ) ตอนสุดทางจะมีกล้องถ่ายรูปอัตโนมัติด้วยค่ะ ต้องจำเบอร์รถที่เรานั่งไว้นะคะไม่งั้นก็ไม่ได้(ซื้อ)รูป
#26


สุดท้ายก็เป็นพวกร้านของฝากค่ะ ก็หมดแล้วสำหรับ Madame Tussauds สำหรับเรานี่สนุกดีนะคะเป็นที่ๆเราชอบมากที่สุดในทริปนี้เลย ถือว่าคุ้มค่าบัตรล่ะค่ะ ถ้ามีเพื่อนมาช่วยผลัดกันถ่ายรูปให้กันด้วยจะยิ่งดีมากเลยค่ะ (เสียดายเพื่อนมีเรียนตอนเช้ามาไม่ได้) ต่อจากนี้เราจะไปเก็บตกพิพิธภัณฑ์อื่นๆอีกนะคะ แต่บล็อคนี้รูปเยอะแล้วเลยขอขึ้นเป็นอีกบล็อคแทนค่ะ

------------------------------------------------------------------

ภาพทั้งหมดถ่ายจาก Canon Kiss X3 (หอบเลนส์ไปตัวเดียวคือ EF-S 10-22 mm USM) ต้องขอขอบคุณพี่ใจดีผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการที่กรุณาให้ยืมเลนส์มาลองใช้ด้วยค่ะ ^_^


เครดิตภาพการ์ตูน Illustration จาก google

------------------------------------------------------------------

รวมลิงค์ทั้งหมด

1. November 2009 @London: 1st day: Korean air ชั้น business class (first class?) มุ่งหน้าสู่ลอนดอน ;-)
2. November 2009 @London: 2nd day: วันฟ้า(เกือบ)ใสที่ Big Ben และ London Eye / เป็ดย่างที่ Four Seasons
3. November 2009 @London: 3rd day: กว่าจะได้วิวกลางคืนของ Tower bridge, Big Ben และ London Eye
4. November 2009 @London: 4th day: กระทบไหล่คนดังที่ Madame Tussauds
5. November 2009 @London: 4th day: เดินต่อไป British museum & National History museum (แอบเบื่อนะนี่)
6. November 2009 @London: 5th-6th day: Shopaholic กำเริบที่ Harrods และ Incheon airport / ただいま東京



Create Date : 21 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2553 23:56:15 น. 2 comments
Counter : 1784 Pageviews.

 
Madame Tussauds น่าเที่ยวอ่ะ
แล้วคุณ White amulet ไม่ได้รับประทานอะไรเลยหรือคะ
หรือคะ


โดย: panda satoshi IP: 203.144.130.176 วันที่: 1 ธันวาคม 2552 เวลา:18:11:39 น.  

 
--> panda satoshi

ก่อนเข้าไม่ได้ทานอะไรไปเลยค่ะ ไปทานเอาก่อนเข้า British museum ทีเดียวเลย โชคดีว่าเป็นคนทนหิวได้โดยไม่ปวดหรือแสบท้องอะไรค่ะ (ถ้าไม่ทำบ่อยๆนะคะ)


โดย: White Amulet วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:12:16:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

White Amulet
Location :
Bangkok Thailand / Tokyo Japan

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?]




บล็อคนี้ถึงไม่ค่อยมีอะไรแต่ถ้าจะก๊อปปี้ข้อความหรือรูปอะไรไปโพสที่อื่น ก็รบกวนช่วยใส่เครดิตลิงค์บล็อคนี้ไว้ด้วยนะคะ

เราไม่สงวนลิขสิทธิ์การนำภาพและข้อความในบล็อคไปเผยแพร่(ในแบบที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์)แต่สงวนลิขสิทธิ์ความเป็นเจ้าของภาพถ่ายและเนื้อหาค่ะ

ค้นหาทุกสิ่งอย่างในบล็อคนี้

New Comments
Friends' blogs
[Add White Amulet's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.