Group Blog
 
All blogs
 
Chantilly ในวันฟ้าหม่นเมื่อครั้งกระนู้นนน



Blog นี้ขอสารพภาพว่าเอารูปเก่าๆมาหากินค่ะ พอดีวันก่อนจัดระเบียบ CD ที่มีอยู่เลยไปเจอรูปเก่าๆ นั่งดูเพลินๆ แล้วคิดถึงที่นี่ขึ้นมาน่ะค่ะ

สมัยตอนอยู่ฝรั่งเศส พอว่างจากงานในวันหยุดเราก็จะหาที่เที่ยว ซึ่งปกติเรามักจะเที่ยวคนเดียวเพราะตัวเองเป็นคนชอบเดินดูนู่นนี่นั่นไปเรื่อยๆ

เคยมีน้องสองคนและเพื่อนอีกหนึ่งตามไปเที่ยวกะเราด้วย ปรากฏว่าถึงที่พักพวกเค้าบ่นยับเลยค่ะ บอกว่าเราเดินเยอะมากกกก เค้าเหนื่อยและเมื่อยมากวันหลังเค้าขอไปเดินห้างกันดีกว่า

ทริปนี้นอกจากสถานที่สวยแล้วยังมีอะไรขำๆน่าประทับใจเยอะค่ะ ไปเที่ยวด้วยกันนะคะ ที่ที่เราจะไปวันนั้นมีชื่อเรียกว่า Chantilly ออกเสียงว่า ชองติลยี ค่ะ

Chantilly เป็นเมืองที่อยู่เหนือขึ้นไปของปารีสประมาณ 38.4 กม เราเป็นคนชอบดูปราสาทแล้วก็เดินสวนอยู่แล้ว พออ่านรายละเอียดของที่นี่เราก็ตัดสินใจแบกเป้ออกจากอพาร์ทเมนต์ตั้งแต่เช้าตรู่วันเสาร์ เพราะต้องเดินทางค่อนข้างไกล





เราไปถึงสถานีตรง La Defense — Grande Arche ด้วยความที่เราออกเดินทางแต่เช้าเนื่องจากรถไฟเที่ยวแรกคือ 7 โมงเช้า ซึ่งเคาท์เตอร์ขายตั๋วจะไม่ได้เปิดทุกอันในเวลาเช้าๆอย่างนี้ และตั๋วเดือนที่เรามีใช้ได้เฉพาะ 3 เขตในปารีส แต่ Chantilly อยู่นอกเขต เราเลยต้องซื้อตั๋วเพิ่ม

กว่าจะเดินหาเคาท์เตอร์ที่เปิดขายตั๋วเจอก็ทำเอาเราพลาดรถไฟอย่างเฉียดฉิว เง้ออออ....เศร้ามาก เพราะเที่ยวถัดไปต้องรออีก 2 ชั่วโมงแน่ะ เราเลยยืนจดๆจ้องๆดูขบวนรถกับแผนที่ตรงชานชลาอย่างเอาเป็นเอาตาย กะว่าหาขบวนอื่นไปต่อขบวนที่เราอยากไปที่สถานีชานเมืองอีกได้บ้าง เสียดายเวลาเที่ยว 2 ชั่วโมงน่ะ อีกอย่างอุตส่าห์ตื่นแต่เช้าด้วย หนาวก็หนาว

สักพักก็มีหนุ่มคนนึงเดินเข้ามาถามว่าเราโสดหรือเปล่า อร๊ายยยไม่ช่ายยเค้ามาถามว่าให้ช่วยอะไรมั้ยต่างหากค่า เราก็รีบคว้าโอกาสนั้นตอบไปว่าดีเลยค่ะ คุณพูดภาษาอังกฤษได้ป่ะ เค้าก็บอกว่าได้ เราเลยบอกปัญหาเราไป เค้าก็ดูๆแผนที่กับตารางรถแล้วพึมพำๆกับตัวเอง แล้วจู่ๆเค้าก็ดันพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ขึ้นมาซะงั้น เอ้อ....

กำลังบ๊งๆเบ๊งๆกันอยู่ก็มีชายหนุ่มอีกคนเดินมา (วันนี้เสน่ห์แรงแฮะ 555) เค้าก็มาถามว่าให้ช่วยอะไรมั้ย เราก็ถามอีกว่าพูดภาษาอังกฤษได้มั้ย เค้าก็ตอบว่าได้ๆๆ โอ้วว เทพบุตรมาโปรดหญิงตกอับ แล้วสองหนุ่มก็ส่งภาษากันซักพักก็หันมาตอบเราเป็นภาษาฝรั่งเศส บ๊งๆเบ๊งๆอีก เว๊ยยย ไหนว่าพูดภาษาอังกฤษได้ไงเล่าาาา

บ๊งไปเบ๊งมาก็เดาใจความได้ว่าให้นั่งขบวนที่กำลังจะมาแล้วน่าจะไปต่อตรงชานเมืองได้ เราก็เย้ merci beacoup ขอบคุณมาก ดีใจมากกกก กระโดดขึ้นรถไปเลย จะได้เที่ยวแล้ววว

นั่งมาประมาณ 1 ชั่วโมง คุณพระ !!! ปวดอึ๊อ่ะ ลองเดินไปดูห้องน้ำบนรถไฟ โอยยย สกปรกมากกกกกก ไม่ไหวๆ ต้องอดทนเดี๋ยวไปถึงสถานีน่าจะมีห้องน้ำให้เข้านะ

เราต้องไปต่อรถไฟอีกขบวนที่สถานีกลางทางตรงชานเมืองค่ะ เป็นสถานีเล็กๆ ไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะตอนนั้นมันไม่ไหวแล้วววววค่ะ วันนั้นหนาวมากกก หมอกลงหนาเชียว วิ่งเข้าสถานีได้ คำถามแรกต่อเจ้าหน้าที่สถานีของเราคือ

เรา: สวัสดีค่ะ มีห้องน้ำไหมคะ
เจ้าหน้าที่: สวัสดีครับ มีครับ แต่ว่าใช้ได้เฉพาะเจ้าหน้าที่ครับ
เรา: อ้าววว เราสามัญชนอย่างอิฉันต้องไปเข้าที่ไหนคะ อูยยๆๆ
เจ้าหน้าที่: ต้องลองหาดูข้างนอกครับ มีห้องน้ำสาธารณะ
เรา: ขอบคุณค่ะ แล้วรีบวิ่งออกไปทันที โอยยย พ่อแม่เอ๋ย หนาวมากมาย แถมไม่มีวิญญาณใครซักคน มันโล่งว่างเปล่ามากกก เดินๆไปเจอค่ะ ห้องน้ำสาธารณะ แต่ว่า.... แต่ว่า.... มันล็อคโซ่ไว้ว่ะค่ะ

ซมซานกลับมาสถานี เจ้าหน้าที่ก็ไม่ให้เข้านะคะ สรุปว่าต้องรอรถเที่ยวถัดไป 2 ชั่วโมงค่ะ เหมือนกับที่เราต้องรอจากต้นทางน่ะ ฮึ่มมมมม เจ้าฝรั่งสองคนนั่นนนน

จากนั้นก็นั่งหน้าเขียวหน้าดำที่นั่นล่ะค่ะ หนาวก็หนาว ไม่กล้าซื้ออะไรร้อนๆจากตู้ขายเครื่องดื่มในสถานีกินด้วย กลัวมันยิ่งไปกระทุ้งน่ะ ก็ทนนั่งขนลุกขนซู่ จนในที่สุดรถไฟมันก็มาค่าาาาาาาา

อดทนอดกลั้นอีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็มาถึงแล้วค่ะ สถานี Chantilly Gouvieux อย่าถามนะคะว่าคำหลังออกเสียงว่าอะไร ลืมค่ะ แค่เห็นว่ารถไฟกำลังจะเทียบชานชลาน้ำตาก็จะไหลด้วยความดีใจ





หน้าสถานี (แน่ะ ยังมีอารมณ์ถ่าย) ดูฟ้าสิมันน่าชวนเที่ยวจริงๆวันนี้





ถึงสถานีสิ่งแรกที่ (คู่มือเที่ยว) บอกว่าควรทำคือซื้อตั๋วกลับค่ะไม่งั้นถ้าตั๋วหมดอาจต้องนอนที่นี่ได้ กะว่าขอเข้าห้องน้ำก่อนแล้วซื้อตั๋ว พ่อเอ๋ยแม่เอ๋ย อีกแล้วว เคราะห์กรรมของฉันจริงๆ มีห้องน้ำแต่ห้ามสามัญชนเข้า แถมแถวซื้อตั๋วก็ย๊าวว ยาว หมดกันหนึ่งวันอัศจรรย์ของฉัน

กำลังพร่ำพรรณาความโชคร้ายของตัวเองอยู่คนเดียว เทพธิดาก็มาโปรดค่ะ เธอเป็นน้องนักศึกษามั้งเห็นเราเป็นนักท่องเที่ยวก็เลยเข้ามาถามว่าเอาตั๋วเธอก่อนไหม เธอไม่รีบไว้ซื้อทีหลังได้ เห็นเราเป็นนักท่องเที่ยวและตอนนั้นก็สิบเอ็ดโมงกว่าแล้ว เดี๋ยวจะได้เที่ยวน้อย โอวววว เธอช่างงดงาม ในเวลาตกอับเยี่ยงนี้ก็ยังมีคนใจดีมาโปรด

ได้ตั๋วแล้วรีบย่ำออกไปเลยค่ะ เดินสอดส่ายสายตาหาห้องน้ำค่ะ 555 มันจะถึงขีดหมดความอดทนแล้ว เจอ Tourist Information ค่ะ คิดว่าจะได้เข้าที่นี่ซักที แต่ไม่ใช่ค่ะ ห้ามอีกแล้วสำหรับสามัญชน ฮือๆๆ ใจร้ายย

ไปหาร้านอาหารก็ได้ ฮึ ไม่ง้อออละ เดินไปได้หน่อยก็เจอคุณป้าชาวฝรั่งเศสค่ะ เธอเข้ามาทัก พอรู้ว่าเราจะไปเที่ยว Chateua Chantilly แกก็ใจดีค่ะ บอกทางลัดเรา บอกว่าเดินใกล้กว่า เราก็แบบไม่เอาทางลัดอ่าาา ตรูจะเอาห้องน้ำ ก็ขอบคุณคุณป้าไป แล้วพยายามเดินช้าๆ ห่างๆแก กลัวแกงอนว่าเราไม่เชื่อแกน่ะค่ะ โอยย ยิ่งรีบก็ต้องยิ่งเดินช้า ทำเป็นถ่ายรูปโน่นนี่ สักพักป้าหันหลังมาค่ะ แล้วทำมือว่ามาทางนี้สิ เชื่อ (ตรู)ดิทางนี้ใกล้กว่าจริงๆ ฮือๆๆ ก็ได้แต่โบกมือกลับทำมึนๆค่ะ

ในที่สุดก็เดินมาเจอร้านนี้ค่ะ เพิ่งเปิดเลย สวรรค์โปรดมาก ช่วยชีวิตช้านนนนนน





เข้าไปปุ๊บสั่งโกโก้ร้อน กับ ครีมบูเล่ จากนั้นก็วิ่งเข้าห้องน้ำเลยค่ะ โอ้ววว มันยอดมาก นี่คือสิ่งที่ชั้นใฝ่หามาหลายชั่วโมง

เสร็จกิจ ก็ออกมากินๆ แล้วรีบเดินไปเที่ยวค่ะ ระหว่างทางก็มีร้านรวงเล็กๆ ตกแต่งน่ารักตามสไตล์ฝรั่งเศส เดินดูของก็เพลินๆดีค่ะ จนมาถึงแล้วค่ะ ทางเข้า





สวยม๊ายยยย ขนาดหนาวๆ หญ้ายังเป็นสีเขียวขจีเลย ชอบมาก ยืนดูตรงนี้อยู่นานเลยทีเดียว





ตรงส่วนที่เป็น chateua ยิ่งสวยค่ะ เหมือนรูปในโปสการ์ดเลย





เอารูปที่มีตัวเองซักรูปยืนยันว่าไปมาจริงๆน๊าา ขอโทษทีค่ะ จำชื่ออาคารไม่ค่อยได้แล้ว มันนานมากก รูปนี้รู้สึกว่าสาวจากโซนยุโรปเป็นคนถ่ายให้ เธอมาคนเดียวเหมือนกันเลยผลัดกันถ่ายคนละรูปสองรูป คุยกันซักพักแล้วก็แยกย้ายค่ะ





อีกซักรูป รูปนี้ฟ้าใสขึ้นมาหน่อยค่ะ




อันนี้เดินมาด้านข้างๆค่ะ ปราสาทกับน้ำ สวยดีเนอะ





เข้ามาดูใน museum กันบ้าง เราว่าก็คล้ายๆกันทุกที่นะคะ เราเดินตรงนี้ไม่นานมากเท่าไหร่เพราะอยากเดินสวนมากกว่าค่ะ ร่ำลือกันว่าสวนที่นี่งามมาก









ถึงเวลาเดินสวนแล้วค่ะ ต้นอะไรไม่รู้ปลูกเป็นแนว ชอบสีแดงๆตรงปลายยอดค่ะ สวยมาก เดินดูแล้วเพลินมาก แต่ว่าวันนี้เงียบมากค่ะ ไม่ค่อยมีคนเวลาเดินคนเดียวไกลๆอย่างนี้ก็นึกกลัวขึ้นมาเหมือนกัน





เจอบ้านที่เป็นคล้ายๆบ้านชาวนา น่ารักมากกกกก จำประวัติไม่ค่อยได้แล้วเหมือนกัน ขอโทษน๊าา





ชอบสีขาวน้ำตาลตัดกันน่ะ เหมือนบ้านการ์ตูนดี จริงๆมีน่ารักอีกหลายหลัง แต่เดินเพลินจนลืมถ่ายค่ะ





อีกรูปเหงาๆริมทะเลสาปกับแสงยามเย็นของวัน ได้เวลาโบกมือลา Chantilly แล้วค่ะ






Create Date : 21 มกราคม 2555
Last Update : 22 มกราคม 2555 23:26:08 น. 10 comments
Counter : 1079 Pageviews.
Share

 
มาเจิมจากเชียงใหม่เจ้า


โดย: PrettyNovember วันที่: 22 มกราคม 2555 เวลา:18:05:57 น.  

 
ดูรูปไม่ได้เลยล่ะ.
เดี๋ยวพรุ่งนี้กลับถึงกรุงเทพแล้วมาดูใหม่น๊าาาาา

คิดถึงจ๊ะ


โดย: PrettyNovember วันที่: 22 มกราคม 2555 เวลา:18:07:09 น.  

 


ซินเจีย ยู่อี่ ซินนี้ ฮวดใช้
เฮงๆ รวยๆ นะค้า

กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
Blog นี้ขำมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกค่า ขำมากกกกกกกกกกกก
อยากจะหัวเราะสามสิบตลบ คุณบีเขียนได้ขำดีค่ะ เดี๋ยวไปโหวตก่อนน้า


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

Born to Bee Funniest Blog ดู Blog


โดย: Close To Heaven วันที่: 22 มกราคม 2555 เวลา:23:11:22 น.  

 
คุณบีเคยอยู่ฝรั่งเศสเหรอคะ ไปทำอะไรอ่ะคะ
แล้วเป็นที่ที่เจอพี่ N หรือเปล่าคะ อิอิ อยากรู้อ่ะ


โดย: Close To Heaven วันที่: 22 มกราคม 2555 เวลา:23:12:32 น.  

 
เดินนาน เดินไกลสมที่เพื่อนๆบ่นเลยค่ะ 5555+

ตกลงวันนี้ไหว้ แล้วกินเผื่อหรือเปล่าคะ?
มีอะไรกินมั่งคะ?
จาระไนให้อ๋ออิจฉาก็ได้ค่ะ

จริงๆคุณ K ก็อยากพาอ๋อเข้าไปดูงานตรุษจีนในไชน่าทาว์นค่ะ
แต่อ๋อเฉยๆค่ะ หนาวค่ะ หนาวจะตาย ไม่มีทางฝ่าหนาวไปดูแน่นอนค่ะ


โดย: little mouse in big apple วันที่: 23 มกราคม 2555 เวลา:1:33:52 น.  

 
เวลาไปเที่ยวแล้วเจอเหตุการณ์แบบนี้แอบเซ็งมั้งคะคุณบี
แต่คุณบีเขียนเล่าซะ บุ๊งขำตลอดจนจบเลย 5555



โดย: Close To Heaven วันที่: 23 มกราคม 2555 เวลา:11:14:52 น.  

 
มาอ่านจนจบแล้วจ้าน้องสาว
ถ่ายรูปสวยแฮะ ยังกะมืออาชีพเลย

อ่านไปขำไป ลุ้นไปด้วยว่าเมื่อไหร่จะได้เข้าห้องน้ำซะทีว๊าาาาา
พวกนี้ก็ไม่อะลุ้มอะหล่วยเลยเนอะ เป็นพี่คงให้เข้ามาใช้แล้วรีบๆไปซะำำ
บีน่าจะแกล้งร้องไห้ตรงนั้นแล้วบอกว่า งั้นอรี้แตกตรงนี้แล้วล้างกันเองนาเฟ้ย

เก่งจังเลยไปเที่ยวคนเดียวซะด้วย
ปอลิง นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า หนุ่มฝรั่งเศสเชื่อม่ายด้ายยยย


โดย: PrettyNovember วันที่: 23 มกราคม 2555 เวลา:22:14:17 น.  

 
รายการที่ยกไปน่ะ มันทำให้อ๋ออิจฉามากค่ะ
และนี่เป็นรายการที่ชอบๆ จากรายการที่เอาไปฝากนะคะ

กุ้งอบวุ้นเส้น
กุ้งชุบแป้งทอด
กุ้งแม่น้ำนึ่ง
ผัดหมี่ซั่ว

ผัดเห็ดสามสหาย
กระเพาะปลาผัดแห้ง
แฮ่กึ้น หอยจ๊อ

แปะก๊วยต้มน้ำลำไย

เฮ้ออออ...(ถอนใจ)
คุณ K ถามว่าวันนี้อยากเข้าไปดูไชน่าทาว์นมั๊ย
พอดีวันนี้เค้าหยุดน่ะค่ะ แล้ววันนี้ก็อุ่นมาก 12 องศา

แต่กลัวคนน่ะค่ะ


โดย: little mouse in big apple วันที่: 23 มกราคม 2555 เวลา:22:28:11 น.  

 
คุณบีจ๋า เดี๋ยวบุ๊งต้องออกไปข้างนอก
จะแวะมาบอกแป๊บนึงว่าไม่เป็นไรค่ะ
เอาเข้าอบไปเลย แต่ให้เปิดแต่ไฟล่างนะคะ ไม่งั้นกระเทียมจะไหม้ก่อนค่ะ
รอชิมน้า


โดย: Close To Heaven วันที่: 26 มกราคม 2555 เวลา:15:42:24 น.  

 
กลัวมันยิ่งไปกระทุ้งน่ะ ก็ทนนั่งขนลุกขนซู่

อ่านถึงตรงนี้ นึกอารมณ์ออกเลย มานนทรมานที่ซู๊ดดดดดดดดเลฃยเนอะพี่เนอะ จังหวะนั้นนน เอากุ้งมังกร ตัวละ5พันมาให้ชิมยังไม่เอาเลย แต่ชิมแต่ห้องน้ำเอ๊ย อยากจะเข้าแต่ห้องน้ำๆๆๆๆๆๆๆๆๆใจมานคิดอย่างเดียว

ตกลงออกมาหม่ำครีมบลูเล่ หมดใหม พี่บีชอบใหม สาวเคยลอทำ สองสามหน อาหย่อยยยยยติดใจมากกก แต่ไม่กล้าทำบ่อย เพราะทำที กินติดๆกัน 3-4 ถ้วยไม่หมดไม่เลิก 55 พี่beeลองทำดูจิ อร่อยจริงๆน๊าา ที่สำคัญน้องอวบต้องชอบแน่ๆเลย

พี่บีถ่ายรูปสวยมากๆ สถานที่สวยเหมือนโปสการ์ดจริงๆแหละ
แต่ สถานีรถไฟทีนั้นโหดจังห้องน้ำไว้แต่ จนท แล้วคนธรรมดาปวดอึ ปวดฉี่ไม่เป็นหรือไงเนอะ


โดย: แม่บ้านครอว์ฟอร์ด วันที่: 27 มกราคม 2555 เวลา:1:57:09 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Born to Bee
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]

Friends' blogs
[Add Born to Bee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.