ผมเชื่อในความมีอยู่ของพระเจ้าผีเหมือนกับบรรพบุรุษมนุษย์ที่ล่วงลับไปนานมากมากแล้ว แต่ไม่เชื่อในสิ่งที่พระเจ้าผีสอนเพราะไม่เหมาะสำหรับนำไปใช้ในชีวิตจริง แต่เหมาะสำหรับอ่านเล่นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น
 
 

กฏแห่งกรรมภาคประถม

ซอยแห่งหนึ่งข้างโรงเบียร ถนนท่าพระ-โกสุม
กฏแห่งกรรมภาคประถม
๗๙๖ เราได้รับแรงกระตุ้นจากบทความย่อของ TALK จากเวบไซด์
๗๙๗ (ยังไม่ได้ซื้ออ่านฉบับเต็ม รอขอเงินแม่อยู่)
๗๙๘ และเราสัมผัสถึงอะไรบางอย่างได้ที่ทำให้เราร้อนรนและต้องเขียนอะไรบางอย่างออกมา
๗๙๙ แต่ก็ไม่ทำให้เราเปลี่ยนใจไปจากเธอนางฟ้า
๘๐๐ เพราะสถานการณ์อาจบังคับให้คนเราสับสนได้
๘๐๑ ด้วยอำนาจจากกฏแห่งกรรม ซึ่งมาในรูปแบบมนต์ดำ คุณไสย
๘๐๒ ซึ่งทุกวันนี้ มันเป็นสาเหตุหลักทำให้ผู้คนสับสนทั้งทางเพศและศีลธรรม
๘๐๓ จนดูเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เพราะจิตใจที่ไม่เข้มแข็งย่อมถูกบังคับและชักจูงได้ง่าย
๘๐๔ หากเรื่องนี้เป็นข้อผิดพลาดของเธอ เราก็เคยผิดพลาดเช่นกัน
๘๐๕ ขอให้เธอสบายใจได้ว่า เรารับได้ รวมถึงผู้หญิงทุกคนของเธอด้วย เหอ เหอ
๘๐๖ เพียงแต่ ทำให้การเซ็ปปุกุต่อหน้าเธอดูจะมีอานิสงค์น้อยและไม่ควรทำ
๘๐๗ ไม่สู้การเซ็ปปุกุต่อหน้าในหลวง
๘๐๘ เพื่อแลกกับคำมั่นสัญญาว่า
๘๐๙ เมื่อในหลวงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว
๘๑๐ พระองค์จะพยากรณ์เราว่าเป็นพระโพธิสัตว์ผู้เที่ยงแท้ต่อการตรัสรู้เช่นกัน
๘๑๑ และหากโอกาสอำนวย เราก็พร้อมที่จะทำ
๘๑๒ อะไรเล่าที่ทำให้เรามั่นใจในตัวเธออยู่
๘๑๓ นอกจากคุณสมบัติหลักที่เราเคยเล่าไว้แล้วในแผนพัฒนาจิตฯ
๘๑๔ ยังรวมถึงลักษณะนิสัยเธอ ที่คลับคล้ายท่านผู้หญิงยายด้วย
๘๑๕ เพราะเราเชื่อว่า ดวงจิตท่านผู้หญิงยายของเธอ
๘๑๖ เป็นดวงเดียวกันกับ พระสุริโยทัย
๘๑๗ โดยคุณหญิงแม่ของเธอเป็นผู้ถ่ายทอดให้โลกได้รับรู้เท่านั้น
๘๑๘ นี้เป็นเทคนิค “ดูช้างให้ดูที่หาง ดูนางให้ดูที่แม่ ดูให้แน่ให้ดูยาย”
๘๑๙ เธอถอดแบบท่านผู้หญิงยายของเธอ
๘๒๐ เฉพาะความกล้าหาญก็ได้ใจเราไปแล้วเกินร้อย
๘๒๑ เรื่องนี้บีบให้เรารู้สึกว่าเราเป็นสาเหตุการจากไปของท่านผู้หญิง เมื่อปี 2540
๘๒๒ ถ้าเป็นเรื่องจริงคงเป็นเวรกรรมให้เราต้องรับผิดชอบ อย่างใดอย่างหนึ่ง
๘๒๓ เรื่องเดียวกันนี้ ทำให้เรารู้สึกว่าเราอาจเป็นพม่ารามัญมาก่อน
๘๒๔ และอาจอยู่ในระดับสูงพอสมควร
๘๒๕ ถ้าเป็นเรื่องจริงเราคงเคยรู้จักกันมาก่อน ที่ตองอูไม่ก็หงสาวดี
๘๒๖ เราเชื่อในกฏแห่งกรรมเป็นอย่างยิ่งที่สุด
๘๒๗ คิดแล้วคิดอีก เราจะเริ่มความรับผิดชอบอย่างไร
๘๒๘ ใช่แล้ว การทำให้ดูเป็นตัวอย่าง แล้วถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือ
๘๒๙ จะเป็นประโยชน์ต่อเธอไม่มากก็น้อย
๘๓๐ แม้ว่า การถ่ายทอดประสบการณ์ในอดีตจะเป็นจุดอ่อน
๘๓๑ ให้เหล่าศัตรูที่จับจ้องจะใช้เป็นเรื่องโจมตีเราได้ในอนาคต
๘๓๒ แต่เพื่อประโยชน์ของเธอนางฟ้า 
๘๓๓ เธอจะได้รับรู้ว่าเราได้ผ่านอะไรมาบ้าง
๘๓๔ แน่นอนนี้เป็นประโยชน์ของส่วนรวมอย่างหนึ่งเช่นกัน
๘๓๕ ย่อมแสดงออกถึงความจริงใจของเราได้เป็นอย่างดี
๘๓๖ เพราะมิตรแท้ ย่อมไม่มีความลับแก่กันและกัน
๘๓๗ และจะทำให้เราคบกันได้อย่างสบายใจและนานขึ้น
๘๓๘ มาดูกันว่ากฏแห่งกรรมใช้สถานการณ์บังคับให้เราทำอะไรบ้าง
๘๓๙ เริ่มจากจำความได้จนถึงประถมปลายกันเลย
๘๔๐ เราต้องใช้พลังอย่างมากในการย้อนความทรงจำ ท่ามกลางอุปสรรคจากศัตรู
๘๔๑ ช่วงอนุบาลที่กรุงเทพฯ
๘๔๒ สถานการณ์บังคับให้เราพบเด็กผู้หญิงที่ยืนแก้ผ้าต่อหน้าเรา
๘๔๓ และเราที่มีสภาพไม่ต่างกัน
๘๔๔ แต่เกิดความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
๘๔๕ หลังจากนั้นน้องชายของเราก็ถูกรถจักรยานยนต์
๘๔๖ เฉี่ยวชนระหว่างการข้ามถนนพร้อมกันกับเรา แต่เราปลอดภัย
๘๔๗ สถานการณ์บังคับให้เราต้องเดินตากฝนและลื่นล้มที่หน้าบ้าน
๘๔๘ ทำให้เรามีแผลเป็นที่หน้าผากจนบัดนี้
๘๔๙ สถานการณ์บังคับให้เราต้องรับยาเพนนิซิลินในปริมาณที่มากเกินกว่า
๘๕๐ เด็กตัวเล็กๆจะรับได้และยาอื่นๆที่เราไม่รู้จัก ด้วยการฉีด
๘๕๑ และเราคิดว่ามันทำให้ระบบน้ำเหลืองของเราเสียสมดุล
๘๕๒ จนเป็นแผลเรื้อรังและแผลเป็นในที่สุด ยังรวมไปถึงก๊าซพิษที่ทำให้แสบตามผิวหนัง 
๘๕๓ เพราะรูปถ่ายตอนทารกจนถึงก่อนอนุบาล ผิวหนังของเราเป็นดังคนปกติทั่วไป
๘๕๔ และพึ่งมาเปลี่ยนแปลงตอนอนุบาล และรุนแรงขึ้นเรื่อยเรื่อย
๘๕๕ สถานการณ์บังคับให้เราเดินทางจากโรงเรียนกลับบ้าน
๘๕๖ ในระยะทางพอสมควรคนเดียวและเสี่ยงต่อการลักพาตัว
๘๕๗ แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น นอกจากความตกอกตกใจของแม่เราเอง
๘๕๘ สถานการณ์บังคับให้พาเราและน้องไปเยี่ยมญาติที่อยู่ในกรุงเทพ
๘๕๙ และได้พบกับญาติที่ดี และญาติที่ดีน้อยกว่า ญาติส่วนน้อยที่ดียังอยู่กรุงเทพอยู่
๘๖๐ เฉพาะญาติที่มีนบุรีลูกเขาหาเรื่องชกต่อย น้องเรา เพียงเพราะน้องเราไม่รู้ประสีประสา
๘๖๑ ทำตัวละลาบละล้วงตีเสมอกับเศรษฐีกำมะลอ
๘๖๒ ทำให้เรารู้จักคำว่า ศัตรูในหมู่ญาติเป็นครั้งแรกและเรายังต้องก้มหัวให้เขาอยู่
๘๖๓ ช่วงอนุบาลต่อเนื่องประถมที่ขอนแก่น
๘๖๔ ด้วยพ่อของเราทำเรื่องย้ายมาภูมิลำเนาเพื่อกลับมาดูแลปู่
๘๖๕ ทั้งที ปู่ของเราก็มีลูกหลายคนและมีเมียน้อยคอยดูแลอยู่แล้ว
๘๖๖ สถานการณ์บังคับให้เรากับบิดาต้องพบกับผู้หญิงสาว แต่มายืนเปลื้องผ้าที่ละชิ้น
๘๖๗ กลางสี่แยกไฟแดง และบิดาเราก็สบถด่าอย่างสาดเสียเทเสีย
๘๖๘ แต่ก็ไม่พาเราออกจากสี่แยกนั้น นานจนไม่เหลือเสื้อผ้าอะไรเลยและตำรวจก็มานำตัวไป
๘๖๙ สถานการณ์บังคับให้เราเป็นเจ้ามือ กุ้งหอยปูปลา แต่ถูกโกงเป็นครั้งเดียวที่เราเล่นการพนันแบบนี้
๘๗๐ สถานการณ์บังคับให้เราต้องรู้จักและคลุกคลีกับญาติผู้หญิงที่อายุมากกว่าเรา 
๘๗๑ มันทำให้เราดูอ่อนแอ, ดูแย่, ดูไม่เข้มแข็งเอาซะเลย
๘๗๒ สถานการณ์บังคับให้กลุ่มทนายข้างบ้านที่เมาสุรากันเต็มคราบ
๘๗๓ เปิดหนังเลสเบี้ยนโดยหันโทรทัศน์มาทางบ้านเรา เราและญาติยืนดูอยู่อย่างสนใจ
๘๗๔ เราจำได้ว่าอุปกรณ์ของพวกเธอ คือเกลียวซิลิโคน คล้ายโปเต้โต้แต่ยาวกว่า
๘๗๕ เป็นครั้งแรกที่ทำให้เรารู้จักพวกสับสนทางเพศ ก่อนที่พวกนี้จะเข้ามาในชีวิตเรามากขึ้นเรื่อยเรื่อย
๘๗๖ สถานการณ์บังคับให้เราแอบดูแม่เราอาบน้ำ เพราะห้องน้ำสมัยก่อนเป็นสังกะสีเต็มไปด้วยรู
๘๗๗ ต้องโทษพ่อเราที่เกิดมายากจน ไม่มีเงินมาปะสังกะสี หรือเช่าบ้านที่ดีกว่านี้
๘๗๘ สถานการณ์บังคับให้เราต้องรับฝ่ามือของพ่อด้วยกกหูเราเอง
๘๗๙ แถมด้วยไม้เรียวที่แม่หยิบยื่นให้กับพ่อ
๘๘๐ มันทำให้เราคลั่งแหกปากจากหน้าซอยจนถึงท้ายซอย 
๘๘๑ แม้จะมีเด็กผู้หญิงน่าตาดีมาปลอบโยนเรา แต่ยิ่งทำให้เราคลั่งมากขึ้น
๘๘๒ เรารับรู้ได้ถึงอาการวูบวาบที่ต้นคอ วาบหวิวในหัวใจ เหมือนโดนคุณไสย
๘๘๓ สถานการณ์บังคับให้เราต้องนั่งดมควันระหว่างการซ่อมจักรยานยนต์ส่วนตัวของลูกเจ้าของบ้าน
๘๘๔ ที่สักลายมังกรเป็นแบบผู้หญิง เพราะควันนั้นมีสีขาวและมีกลิ่นหอม เป็นครั้งเดียวที่เรารู้สึกดีกับควันขาว
๘๘๕ สถานการณ์บังคับให้บ่อน้ำที่บ้านเช่า เริ่มเน่าเหม็น บ่อนี้เราใช้อาบ ใช้ซักผ้า
๘๘๖ สถานการณ์บังคับให้เราได้จักรยานมาหนึ่งคันยี่ห้อ ไพโอเนียร์ สีขาวแดง
๘๘๗ เราใช้ไพโอเนียร์สำรวจเขตแดนอำเภอที่เราอยู่
๘๘๘ สถานการณ์บังคับให้เราไปเล่นซ่อนแอบที่โรงไม้ โรงน้ำแข็งของเพื่อน
๘๘๙ ไม่รู้ชวนไปทำไม เพราะเหนื่อยและไม่ได้กินของว่าง
๘๙๐ นอกจากดูลูกเมียหลวงกับเมียน้อยทะเลาะกัน และทั้งสองฝ่ายเป็นเพื่อนของเรา
๘๙๑ สถานการณ์บังคับให้เราถูกหมาไล่กัดและพาน้องไปล้มที่ตลาดร้างแห่งหนึ่ง 
๘๙๒ แม้ไม่ไกลจากบ้านแต่ก็เปลี่ยวพอสมควร
๘๙๓ สถานการณ์บังคับให้เราทิ้งน้องไว้แล้วรีบกลับไปเอายาที่บ้าน
๘๙๔ เพราะกลัวถูกฝ่ามือของพ่อ มันทำให้เรารู้สึกผิดที่ทิ้งน้องไว้
๘๙๕ สถานการณ์บังคับให้เราต้องบวชเณรและถูกลวนลามทางเพศจากเณรรุ่นพี่
๘๙๖ สถานการณ์บังคับให้เรากับน้องต้องชกต่อยกับกลุ่มเด็กเจ้าถิ่น (เป็นกลุ่มเดียวกับที่โกง กุ้งหอยปูปลา)
๘๙๗ และเรารู้สึกว่าพวกนั้นเตรียมตัวมาอย่างดีและมีมากกว่า เราได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าเราชนะพวกมัน
๘๙๘ สถานการณ์บังคับให้เราคลั่งด้วยการเข็นรถที่มีน้องชายนั่งอยู่
๘๙๙ เข้าไปต่อสู้กับลิงพื้นเมืองที่ถูกล่ามโซ่ไว้ น้องชายเราไม่เป็นอะไรมาก
๙๐๐ แต่ลิงตัวนั้น อยู่ได้ไม่นานก็หายไปจากบ้านเฉยเฉย โดยไม่รู้สาเหตุ
๙๐๑ ผู้ใหญ่พากันตราหน้าเราว่าเป็นคนไม่รักน้อง
๙๐๒ พร้อมกับโยนมีดสับหมูให้เรากับน้องคนละเล่ม
๙๐๓ น้องเราไม่หยิบ แต่เราหยิบขึ้นมาฮึ่มฮึ่มสักพัก ก็นำไปวางไว้ในที่ที่มันเคยอยู่
๙๐๔ เราไม่เข้าใจว่าผู้ใหญ่ที่เรานับถือทำอย่างนั้นทำไม
๙๐๕ แต่ที่แน่นอนเราอยู่ว่าเราโดนคุณไสยแน่แน่
๙๐๖ เพราะคืนนั้นเราปวดท้อง ทั้งคืนโดยไม่ทราบสาเหตุ
๙๐๗ เช้ามาก็หายเป็นปลิดทิ้ง
๙๐๘ สถานการณ์บังคับให้เราคลุกคลีกับญาติผู้หญิงที่แก่กว่าอีกแล้ว นานกว่าเดิม
๙๐๙ มันไม่ได้ทำให้เราคิดอะไรไปมากกว่า การอยากแอบดู
๙๑๐ สถานการณ์บังคับให้เรานุ่งผ้าถุงทาปากแดงเพื่อหลีกหนีผีแม่หม้าย
๙๑๑ สถานการณ์บังคับให้เราไม่อยากไปที่นั่นอีกเลย
๙๑๒ สถานการณ์บังคับให้เราต้องรู้จักเด็กผู้ชายแถวบ้าน ที่พ่อเขานอนตายในบ้านที่ตีเหล็กเป็นอาชีพ
๙๑๓ และเขาก็กลายเป็นเด็กเร่ร่อน ไม่ได้เรียนหนังสืออีกเลย
๙๑๔ สถานการณ์บังคับให้เราต้องคลุกคลีกับเด็กผู้ชายที่มีนิ้วมือไม่ครบสิบ (นิ้วกุด) และมักจะมาปลุกเรา
๙๑๕ ในเวลาเช้าเสมอ ไม่รู้ว่าจะมาทำไมแต่เราก็ไม่เคยโกรธมันเลยที่ปลุกเราแต่เช้าในพื้นที่ส่วนตัวของเราด้วย
๙๑๖ สถานการณ์บังคับให้เราพบกับลูกนกกระจอก และเก็บมันมาเลี้ยงแต่ไม่นานก็ตาย
๙๑๗ สถานการณ์บังคับให้ผู้ใหญ่ในบ้านอยากเลี้ยงกระต่ายและนกกระทา เราต้องอดทนต่อกลิ่นที่รุนแรงนั้นอย่างยิ่ง
๙๑๘ สถานการณ์บังคับให้แม่เราถูกผีปอบเข้า นอนชักดิ้นชักงออยู่ในบ้านทั้งถูกหมอธรรม(หมอผี) เฆี่ยนอย่างน่าสงสาร
๙๑๙ ยืนยันได้ว่าคุณไสยมีจริงและลืมไปนานจนกลับมาจำได้อีกครั้งหนึ่ง
๙๒๐ สถานการณ์บังคับให้เราต้องสัมผัสน้ำที่สกปรกจากคลองระบายน้ำเสีย เพื่อรดผักในวิชาเกษตร ขยะแขยงเหลือเกิน
๙๒๑ สถานการณ์บังคับให้เราแอบดูเด็กผู้หญิงอื่นจากใต้บันได
๙๒๒ ไม่เว้นแม้แต่ครู ในขณะเดินแถวขึ้นบันไดเรือนไม้แบบโล่งโล่ง
๙๒๓ เราสังเกตุว่าเด็กชายบางคนก็ทำแบบเดียวกันกับเรา
๙๒๔ แต่เราถูกเพ็งเล็งและเป็นที่รังเกียจของครูบางคน คงเพราะไม่ได้รับความสนใจจากเรามั้ง
๙๒๕ สถานการณ์บังคับให้เราถูกชนจากเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อมันแปลว่าไฟ ที่พ่อมันขี่มอเตอร์ไซด์
๙๒๖ ฮอนด้า มันวิ่งมาลักษณะศีรษะพุ่งโดยมีริมฝีปากเราเป็นเป้าหมาย ช่วงเลิกเรียนแถวบันไดอาคาร
๙๒๗ เรารู้ได้เลยว่ามันจงใจ มันทำให้เราปากแตก เราทำอะไรไม่ได้ นอกจากไปให้พยาบาลเย็บแผลที่ปากนั้น
๙๒๘ ทุกครั้งที่เราส่องกระจก เรานึกถึงมันเสมอ แม่เราพยายามจะเอาเรื่อง แต่เราขลาดกลัวเกินกว่าจะมีเรื่อง
๙๒๙ เพราะเป็นครั้งแรกที่ทำให้เราเลือดตกยางออกเช่นนี้ เราสนใจแผลเรามากกว่าไปตามเอาเรื่องมัน
๙๓๐ สถานการณ์บังคับให้เรามีเรื่องวิวาทะกับเด็กแฝดที่ชื่อย่อว่าชัยทั้งคู่ตามด้วยวุฒิกับวัฒน์ 
๙๓๑ มันทำให้เรารู้จักคำว่า “สัตว์หน้าขน คนหน้าหมา” เราจำได้หน้าห้องสมุด แถวห้องพักซิสเตอร์
๙๓๒ เราอยากให้ทั้งคู่ใช้คำว่า “ฎอน” มากกว่า และเราก็ยังเจอมันอยู่จนเรียนมหาวิทยาลัย
๙๓๓ และทุกครั้งที่เราพบหน้ามัน เหตุการณ์ร้ายๆมักเกิดกับเราเสมอเสมอ 
๙๓๔ เรื่องนี้ทำให้ครูเรียกตัวไปสอบสวนว่าทะเลาะกันทำไม เราสังเกตุว่าครูอยู่ข้างมันและเรียกเราไปด่าโดนเฉพาะ
๙๓๕ สถานการณ์บังคับให้น้องชายอุจจาระในห้องเรียน
๙๓๖ น้องชายเราเป็นคนรักความสะอาดอย่างยิ่ง เป็นไปไม่ได้เลย
๙๓๗ นอกจากคุณไสย มนต์ดำแน่นอน และโชคดีที่คนล้างก้น
๙๓๘ คือครูประจำชั้นไม่ใช่เรา เราแค่วิ่งไปดู,ฟังครูบ่นและรายงานให้แม่ฟัง
๙๓๙ สถานการณ์บังคับให้เราต้องนั่งสมาธิบนเก้าอี้ในห้องเรียน
๙๔๐ มันทำให้เรารู้สึกตัวเบาเหมือนลอยได้ และไม่รับรู้สิ่งใดจากภายนอก
๙๔๑ นอกจากลมหายใจที่ละเอียดและเริ่มเบาขึ้นเรื่อยเรื่อย
๙๔๒ และภาพที่เราเห็นเป็นเหมือนจอหนังกลางแปลงขาวออกม่วงเงินแดง มีเส้นแปลบแปลบเหมือนสายฟ้า
๙๔๓ ลอยไปลอยมาตาของเราไม่ได้หลับสนิท เปิดเล็กน้อยแต่ไม่รับรู้เหตุการณ์ภายนอก
๙๔๔ จนเสียงครูเตือนว่าหมดเวลาเป็นครั้งเดียว, ครั้งแรก, ครั้งสุดท้าย ที่สัมผัสคำว่าสมาธิ
๙๔๕ พยายามฝึกอีกหลายครั้ง ก็มีแต่หลับตลอดโอ้เสียดายจัง
๙๔๖ สถานการณ์บังคับให้เราต้องเลือกเพื่อนให้ได้หนึ่งคนตามที่ครูกำหนด
๙๔๗ ไม่มีใครเลือกเรา และเราก็ไม่เลือกใคร สิ่งที่เราทำได้ตอนนั้นคือ เคาะโต๊ะเป็นจังหวะ
๙๔๘ และบอกครูว่าสิ่งนี้คือเพื่อนของเรา (ไม่มีมนุษย์ในโรงเรียนคริสต์หน้าไหนอยากคบกับเราเลย)
๙๔๙ สถานการณ์บังคับให้ครูมาบอกเราว่าจะให้เราแสดงละครและให้เราตัดชุดไทยโจงกระเบนมาเอง
๙๕๐ เราบอกแม่ให้ซื้อผ้าที่มีราคาแพงพอสมควร แต่ก็ไม่ได้ใช้ ผ้าผืนนั้นก็ยังอยู่
๙๕๑ จะเรียกว่าเป็นการหลอกลวง หรือเข้าใจคลาดเคลื่อนดี
๙๕๒ สถานการณ์บังคับให้ครูท่านหนึ่งต้องลาออกไปขายน้ำเต้าหู้และบังคับให้เราต้องออกไป
๙๕๓ แสดงอะไรก็ได้ให้ครูประทับใจ เราจำบทความใน ขายหัวเราะไปพูดหน้าห้อง
๙๕๔ เนื้อหาเป็นเพลงแปลงของท่าฉลอมไม่รู้ว่าครูประทับใจหรือเปล่า
๙๕๕ สถานการณ์บังคับให้แม่ของเราต้องไปขายน้ำเต้าหู้เหมือนครูคนนั้น
๙๕๖ ครูคงไม่ประทับใจแน่แน่ เพราะแม่เราต้องขายกล้วยปิ้งเพิ่มขึ้นด้วย
๙๕๗ สถานการณ์บังคับให้เราต้องไปตีฉาบในงานกีฬาสี ซึ่งต้องเสียเงินตัดชุดอีกแล้ว
๙๕๘ สถานการณ์บังคับให้เราถูกเด็กชายคนหนึ่งชักชวนให้แอบกินขนมในห้องเรียน
๙๕๙ โดยเด็กชายคนนั้น เป็นคนส่งให้ หลังจากจบการศึกษา
๙๖๐ เด็กชายคนนั้นก็ไม่ได้เรียนต่ออีกเลย ไปเอาดีทางเล่นสนุ้กเกอร์
๙๖๑ และสร้างครอบครัวเป็นหลักแหล่ง
๙๖๒ สถานการณ์บังคับให้เราถูกเด็กชายคนหนึ่ง ชักชวนไปเล่นสระน้ำหลังบ้านเขา
๙๖๓ พร้อมกับน้องสาวของเขา ช่วงนั้นน้ำไม่ลึกแค่เอว แต่ทำให้เราได้แผลที่เท้ากลับมา
๙๖๔ เนื่องจากแก้วบาดและเด็กคนนี้ก็ไม่ได้เรียนต่อ ไปเอาดีด้านการขับรถรับส่ง
๙๖๕ เด็กชายคนเดียวกันนี้มักชวนเราไปโรงเรียนแต่เช้าก่อนภารโรงเปิดประตู เราก็โง่ไปกับมันด้วย
๙๖๖ และเด็กชายคนเดียวกันนี้สอนให้เราช่วยตัวเองเป็นครั้งแรก ทำให้เรารู้จักคำว่า ขาวขุ่น คืออะไร
๙๖๗ สถานการณ์บังคับให้เราเข้าโบสถ์คริสตังที่คลั่งพระแม่มารี แต่ก็แค่ไปนั่งสังเกตุการณ์
๙๖๘ ไม่ได้กินน้ำองุ่นหรือขนมปังใดใดทั้งสิ้น
๙๖๙ สถานการณ์บังคับให้เราต้องหลงเชื่อหลานครูใหญ่และเสียเงินไปเรียนอิเล็กโทน
๙๗๐ แทนที่จะได้สำรวจดินแดนของเรากับไพโอเนียร์ คันเก่ง
๙๗๑ สถานการณ์บังคับให้เด็กชายสองคนเป็นลูกกำนันกับเจ้าของปั้มน้ำมันชวนเราไปดูเขาเล่น
๙๗๒ เรือบังคับวิทยุที่แพงมากสำหรับเรา แต่นั้นไม่ได้ทำให้เราสนใจมากไปกว่าขี่จักรยานของเรา
๙๗๓ สถานการณ์บังคับให้เราคลั่งใคล้วีดีโอเกม ซึ่งทำให้ป้าของเราต้องเจียดเงิน
๙๗๔ ที่ต้องส่งให้สลากกินแบ่งรัฐบาลกับเจ้าพ่อหวยใต้ดินไป แต่ก็แค่สองสามงวดเท่านั้น
๙๗๕ แต่เราชอบไปเล่นบ้านเด็กคนอื่นเพราะมีเกมมากกว่า และเด็กเหล่านั้นก็เหมือนจะพอใจที่เรา
๙๗๖ ไปเล่นบ้านเขา แต่มักจะอยู่ห่างไกลจากบ้านของเราเสมอ
๙๗๗ และหนทางมักจะเต็มไปด้วยสุนัขที่มีฝีเท้าช้ากว่าจักรยานของเราทั้งทีไม่เกียร์
๙๗๘ มันคงตกใจหรือพอใจมากกับเสียงร้องของเราจึงไม่ค่อยวิ่งตาม
๙๗๙ สถานการณ์บังคับให้เราแสดงเป็นตุ๊กตาและต้องเต้นระบำเมื่อมีคนมาไขลาน
๙๘๐ เป็นงานกลางคืนวันคริสต์มาสโดยไม่มีหูกระต่ายบนคอ เพราะครูไม่ได้ให้ตามสัญญา
๙๘๑ อาจเพราะตอนกลางวันเราต้องแสดงเป็นนางงามตัวแทนเข้าประกวดนางงามจักรวาล
๙๘๒ และได้รับตำแหน่งด้วย มีมงกุฏสีฟ้าบนหัว เราต้องโชว์ขาที่เต็มไปด้วยรอยแผลเพื่อแลกกับตำแหน่ง
๙๘๓ สถานการณ์บังคับให้เราชอบกินลูกชิ้นเนื้อ ทั้งที่ไกลจากบ้านต้องกินวันละไม้สองไม้เสมอ
๙๘๔ สถานการณ์บังคับให้เราไปเยี่ยมญาติที่เลี้ยงม้าแข่งติดกับบันไดทางขึ้นบ้าน เราเล่นกับมันด้วยการตบหน้า
๙๘๕ มันตอบแทนเราด้วยการขบกัด ทำให้แขนเราเดี้ยงไปเป็นวัน และเราก็ไม่เข้าใกล้มันอีกเลย
๙๘๖ สถานการณ์บังคับให้ป้าเราเลิกเลี้ยงกระต่ายแต่ไม่เลิกเลี้ยงนกกระทาและทำให้ใหญ่เป็นฟาร์ม
๙๘๗ ภาระของเราคือหาตลาดในโรงเรียน เหตุการณ์ไปได้ดี จนกระทั่งสินค้าชุดหนึ่งไม่ถูกใจผู้บริโภค
๙๘๘ ที่เป็นครูในโรงเรียน ครูบอกว่า ไข่นกเธอมันเน่า แต่ป้าเราบอกว่า มันเป็นไข่ข้าวที่คนอีสานชอบกิน
๙๘๙ เราไม่รู้ว่าใครถูก แต่ผลคือเราเลิกทำอาชีพนี้ไปเลย ไม่สนใจทั้งป้าและครู
๙๙๐ สถานการณ์บังคับให้เราได้ขี่ช้างเป็นครั้งแรก ขี่วนรอบซอยแถวบ้าน มันทำให้เราดูสง่างาม
๙๙๑ แต่ไม่ได้ลอดท้องช้าง เพราะไม่รู้ว่าจะลอดไปทำไม เพื่อศิริมงคลงั้นเหรอ แต่เรารู้ว่าต้องเสียเงินเพิ่ม
๙๙๒ สถานการณ์บังคับให้เราเคลิ้มเคลิ้มกับกะเทยในโรงเรียน ซึ่งแต่ก่อนไม่เคยเป็นแต่หลังจากได้รับตำแหน่ง
๙๙๓ นางงามแล้ว กลับมีความรู้สึกเคลิ้ม เพราะคุณไสย มนต์ดำแน่นอน 
๙๙๔ เพราะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆไม่ถึงอาทิตย์
๙๙๕ สถานการณ์บังคับให้เราต้องไปหอมแก้มเด็กผู้ชายวัยเดียวกับเราเป็นลูกครูที่ล้างก้นให้กับน้องชายของเรา
๙๙๖ สถานการณ์บังคับให้เรารู้จักกับวอลเลย์บอล แต่เราไม่มีพรสวรรค์ด้านนี้จึงเล่นได้ไม่นาน
๙๙๗ สถานการณ์บังคับให้เราขี่ไพโอเนียร์ไปเยี่ยมสุสานพวกเวียดนาม ไปตอนกลางวันเงียบดี
๙๙๘ สถานการณ์บังคับให้เราต้องบุกป่าหญ้าคา เพราะรับคำท้าของเด็กชายคนหนึ่งที่อาศัยในโรงเรียน
๙๙๙ สถานการณ์บังคับให้เราได้ไปกราบพระอรหันต์องค์แรกในชีวิต หลวงปู่ผาง จิตตคุตโต
๑๐๐๐ วัดนี้เต็มไปด้วยซากสัตว์ประหลาด จำพวกจระเข้และสัตว์แปลกแปลกที่เด็กอย่างเราไม่เคยเห็น
๑๐๐๑ สถานการณ์บังคับให้เราต้องไปก่อเจดีย์ทราย กับญาติผู้หญิงที่แก่กว่าเพียงเพื่อกัน หนุ่มหนุ่มไม่ให้เข้าใกล้เธอ
๑๐๐๒ สถานการณ์บังคับให้ญาติผู้ใหญ่คลั่งใคล้การจัดงานปีใหม่แบบมีเค้กและแข่งขันกินขนมไข่
๑๐๐๓ และเราก็ได้แชมป์แบบติดคอ เกือบขาดใจตายดีที่ได้กินน้ำทันเวลา
๑๐๐๔ สถานการณ์บังคับให้เรากับญาติผู้หญิงที่แก่กว่า ชวนเราไปหลอนน้องสาวของเธอที่ก็แก่กว่าเราอยู่ดี
๑๐๐๕ ในขณะที่น้องสาวของเธอสองคนกำลังอาบน้ำด้วยกัน สำเร็จประตูห้องน้ำเปิดพร้อมเสียงกรีดร้อง
๑๐๐๖ วิ่งออกมาพร้อมกับผ้าในมือและภาพบางอย่างที่แตกต่างจากเรา
๑๐๐๗ สถานการณ์บังคับให้เราป่วยเป็นไข้เลือดออก ต้องนอนโรงพยาบาล ถูกเจาะเลือดทุกนิ้ว ทุกวัน
๑๐๐๘ แต่เราก็ยอมให้พยาบาลเจาะ จนหายออกจากโรงพยาบาล 
๑๐๐๙ ไม่เหมือนน้องชายของเรา ที่โวยวายเมื่อการเจาะมากจนน่ารำคาญ และจะวิ่งให้รถชนแทนที่
๑๐๑๐ จะให้พยาบาลเจาะนิ้ว สิ้นคิดสิ้นดี แต่ได้ผลทำให้ออกจากโรงพยาบาลเร็วขึ้น
๑๐๑๑ สถานการณ์บังคับให้เราต้องไปทำไร่มัน ในหุบเขาทางเหนือของจังหวัด
๑๐๑๒ สถานที่เต็มไปด้วยเสือจริง และเสือคนตามคำเล่าลือฉายาไอ้ตีนโค้ง ทำให้เราได้จับจอบอย่างจริงจัง
๑๐๑๓ เราเหนื่อยมาก และไม่ชอบเลยที่แม่เราสอนให้ได้รับความลำบากอย่างนี้ 
๑๐๑๔ หวังว่าประสบการณ์ของเราจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน และเป็นการสารภาพกรรมที่เราเคยได้รับ
๑๐๑๕ คิดว่าครอบคลุมช่วงอนุบาลถึงประถมปลายในเหตุการณ์สำคัญสำคัญ
๑๐๑๖ ขอยุติเพียงเท่านี้ จิราธิวัฒน์ พิมพ์สุจีรวีโรจน์




 

Create Date : 29 มกราคม 2557   
Last Update : 29 มกราคม 2557 18:29:03 น.   
Counter : 561 Pageviews.  


แผนพัฒนาจิตเพื่อบรรลุเป้าหมาย

ซอยแห่งหนึ่งข้างโรงเบียร์ ถนนท่าพระ-โกสุม

แผนพัฒนาจิตเพื่อบรรลุเป้าหมาย
๖๐๙ ขอย้ำอีกครั้งว่าเป้าหมายของเราคือ โพธิญาณ
๖๑๐ คือความเป็นสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างเที่ยงแท้ในอนาคต
๖๑๑ เพราะฉะนั้นจะต้องมีแบบแผนที่น่าเชื่อถือได้
๖๑๒ เพื่อเป็นแนวทางให้เดินตามได้อย่างถูกต้อง
๖๑๓ แนวทางหรือบุคคลต้นแบบของเราคือ
๖๑๔ พระโคตมสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่มีพระชนม์ชีพอยู่จริง
๖๑๕ และได้วางแนวทางให้เราได้ยึดถือปฏิบัติไว้แล้ว
๖๑๖ ตามหลักฐานในพระไตรปิฎกและอรรถกถาจารย์
๖๑๗ ในที่นี้คือหลวงปู่จาม มหาปุญโญ จังหวัดมุกดาหาร
๖๑๘ เราสามารถสรุปเป็นแผนขั้นบันไดได้ ๑๕ ขั้น
๖๑๙ พร้อมตัวอย่างการประพฤติและสถานที่ปฏิบัติที่มีอยู่จริง
๖๒๐ ทั้ง ๑๕ ขั้นสรุปได้ว่า เป็นการฝึกอบรมจิตใจล้วนล้วน
๖๒๑ และผู้อื่นสามารถเห็นได้จากกิริยาที่แสดงออกมาเท่านั้น
๖๒๒ หากต้องการรับรู้อย่างซาบซึ้งต้องฝึกอบรมจิตใจเอาเอง
๖๒๓ บันไดขั้นที่หนึ่งคือ ทาน การให้สิ่งของทุกอย่างที่มีผู้ต้องการ 
๖๒๔ เพื่อขจัดความตระหนี่ออกจากจิตใจให้มากที่สุด
๖๒๕ ยิ่งมากเท่าใด ยิ่งบรรลุเป้าหมายเร็วเท่านั้น
๖๒๖ เริ่มจากอย่างอ่อน คือ ให้ปริมาณเล็กน้อยเมื่อเทียบกับของที่มีอยู่
๖๒๗ อย่างกลาง คือ ให้ปริมาณครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับของที่มีอยู่
๖๒๘ อย่างสูงสุด คือ ให้ทั้งหมดเลยไม่เก็บไว้อีก
๖๒๙ เคล็ดลับสำคัญ คือ ยิ่งให้ของที่มีความสำคัญ,ของที่หวงแหน
๖๓๐ ของที่รักมากที่สุด ยิ่งทำให้การบรรลุเป้าหมายทรงพลังและยิ่งใหญ่
๖๓๑ มากอย่างคาดไม่ถึง สามารถสังเกตุได้จาก ฉัพพรรณรังสีนั้นเอง
๖๓๒ ทั้งทำให้อายุยืนเป็นหมื่นปีได้ด้วย
๖๓๓ แต่สูงสุดไม่เกินแสนปีและไม่ต่ำกว่าแปดสิบปี 
๖๓๔ เพราะอายุที่น้อยเกินไปและมากเกินไป ไม่สามารถมองเห็นไตรลักษณ์ได้
๖๓๕ ตัวอย่างสำคัญคือ ชาติพระเวสสันดร เมืองสีพี
๖๓๖ อรรถกถาจารย์ท่านกล่าวว่า บริเวณปัจจุบันนี้คือ
๖๓๗ เมืองมหาชัย แขวงจำปาศักดิ์ ประเทศลาว
๖๓๘ บันไดขั้นที่สอง คือ ศีล การไม่ฆ่าสัตว์เป็นให้ตายทั้งทั้งที่สามารถจะทำได้
๖๓๙ โดยเฉพาะเมื่อความโกรธเกิดขึ้น
๖๔๐ เพราะมีเป้าประสงค์เพื่อขจัดความโกรธและการเบียดเบียนออกจากจิตใจให้มากที่สุด
๖๔๑ มีทั้งอย่างอ่อน, อย่างกลาง, อย่างสูงสุด เช่นเดียวกัน
๖๔๒ เคล็ดลับคือ ยิ่งดับความโกรธเร็วเท่าใด 
๖๔๓ ยิ่งทำให้ปฏิภาณไหวพริบเร็ว เกิดปัญญาความรู้ได้เร็วเท่านั้น
๖๔๔ ตัวอย่างสำคัญคือ ชาติพญานาคเผือก ภูริทัตต์
๖๔๕ สถานที่บำเพ็ญ บริเวณปัจจุบันนี้คือ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
๖๔๖ บันไดขั้นที่สาม คือ เนกขัมมะ การออกบวชไม่ครองเรือน
๖๔๗ เพื่อขจัดความโลภ, ความหลงในทรัพย์สินสมบัติทั้งหลายให้ออกจากจิตใจให้มากที่สุด
๖๔๘ มีทั้งอย่างอ่อน, อย่างกลาง, อย่างสูงสุด เช่นเดียวกัน
๖๔๙ เคล็ดลับคือ ยิ่งมีสมบัติติดตัวน้อยเท่าใด ยิ่งทำให้ความกังวลน้อยเท่านั้น
๖๕๐ เป็นประโยชน์ต่อการเจริญฌานสมาธิได้เร็วขึ้น 
๖๕๑ และเป็นวิธีหนีนรกได้อย่างวิเศษ ยอดเยี่ยมด้วย
๖๕๒ ตัวอย่างสำคัญคือ ชาติพระฤษีเตมีย์
๖๕๓ สถานที่บำเพ็ญ บริเวณปัจจุบันนี้คือ เมืองพาราณสี ประเทศอินเดีย
๖๕๔ บันไดขั้นที่สี่ คือ ปัญญา ความรู้ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าหรือชีวิต
๖๕๕ เพื่อหาวิธีขจัดทุกข์ออกจากจิตใจให้มากที่สุด
๖๕๖ มีทั้งอย่างอ่อน, อย่างกลาง, อย่างสูงสุด เช่นเดียวกัน
๖๕๗ เคล็ดลับคือ ต้องมีความเชื่อที่ถูกต้องเสียก่อน, จึงจะเกิดปัญญาที่ถูกต้อง
๖๕๘ และได้รับผลที่ถูกต้องคือการขจัดทุกข์ได้จริง
๖๕๙ ตัวอย่างสำคัญคือ ชาติพระมโหสถ กรุงเทวหะ
๖๖๐ สถานที่บำเพ็ญ บริเวณปัจจุบันนี้คือ ประเทศเนปาล
๖๖๑ บันไดขั้นที่ห้า คือ วิริยะ ความเพียรพยายามอย่างไม่ลดละ
๖๖๒ เพื่อขจัดความท้อแท้ ความเกียจคร้านให้ออกจากจิตใจให้มากที่สุด
๖๖๓ เพื่อให้มั่นใจว่าจะไปถึงเป้าหมายแน่นอน
๖๖๔ เคล็ดลับคือ ร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง จักทำให้บรรลุผลได้เร็วขึ้น
๖๖๕ ตัวอย่างสำคัญคือ ชาติพระมหาชนก เมืองมิถิลา
๖๖๖ สถานที่บำเพ็ญ บริเวณปัจจุบันนี้คือ พวกไทเงี้ยว รัฐฉาน ประเทศพม่า
๖๖๗ บันไดขั้นที่หก คือ ขันติ ความอดทนอดกลั้นต่อสิ่งยั่วยุที่ชักจูงให้ทำความชั่วทั้งหลายทั้งปวง
๖๖๘ เพื่อขจัดความโลภ, ความโกรธ, ความหลง ให้ออกจากจิตใจให้มากที่สุด
๖๖๙ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้จิตใจสามารถสู้กับอุปสรรคทุกชนิดได้
๖๗๐ เคล็ดลับคือ ลมหายใจที่ลึกและละเอียดจักทำให้เข้าถึงขันติ
๖๗๑ ได้ง่ายและนานขึ้นอย่างที่คาดไม่ถึงเลยแหละ
๖๗๒ ตัวอย่างสำคัญคือ ชาติพระจันทกุมาร เมืองแถน
๖๗๓ สถานที่บำเพ็ญ บริเวณปัจจุบันนี้คือ เมืองเดียนเบียนฟู ประเทศเวียดนาม
๖๗๔ บันไดขั้นที่เจ็ด คือ สัจจะ ความจริงใจไม่หลอกลวงทำตามที่พูดไว้
๖๗๕ เพื่อบังคับจิตให้คุ้นเคยกับความจริง ความถูกต้องเป็นสัมมาทิฏฐิได้ง่ายขึ้น
๖๗๖ เพื่อป้องกันบาปทั้งปวงที่เกิดจากการหลอกลวง ช่วยให้เกิดวาจาสิทธิ์
๖๗๗ เคล็ดลับคือ ความกล้าหาญต้องมากพอ ที่จะทำตามที่พูดไว้
๖๗๘ ตัวอย่างสำคัญคือ ชาติวิธุรบัณฑิต
๖๗๙ สถานที่บำเพ็ญ บริเวณปัจจุบันนี้คือ เมืองสุโขทัย ประเทศไทย
๖๘๐ บันไดขั้นที่แปด คือ อธิษฐาน การคิดตั้งใจที่จะทำจะปฏิบัติ
๖๘๑ เพื่อบังคับจิตใจให้แน่วแน่ ต่อสิ่งที่จะทำไม่ว่าจะยากลำบากแค่ไหน
๖๘๒ เคล็ดลับคือ ความกล้าหาญต้องมากพอที่จะทำตามที่คิดไว้
๖๘๓ ตัวอย่างสำคัญคือ ชาติพระเนมิราช
๖๘๔ สถานที่บำเพ็ญ บริเวณปัจจุบันนี้คือ เมืองม่าน อังวะหงสา ประเทศพม่า
๖๘๕ บันไดขั้นที่เก้า คือ เมตตา, ปรารถนาดีให้ผู้อื่นเป็นสุข
๖๘๖ เพื่อขจัดความพยาบาทอาฆาตแค้นให้ออกจากจิตใจให้มากที่สุด
๖๘๗ เคล็ดลับคือ การให้อภัยแก่ศัตรูจะได้รับอานิสงค์มากขึ้นกว่าปกติ
๖๘๘ ตัวอย่างสำคัญคือ ชาติสุวรรณสาม
๖๘๙ สถานที่บำเพ็ญ บริเวณปัจจุบันนี้คือ เมืองอุตรดิตถ์ ประเทศไทย
๖๙๐ บันไดขั้นที่สิบ คือ อุเปกขา การวางเฉยต่อสิ่งทั้งปวงที่เราพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว
๖๙๑ เพื่อขจัดความลำเอียงทั้งรักและชังให้ออกจากจิตใจให้มากที่สุด
๖๙๒ เพื่อประโยชน์ในการแนะนำสั่งสอนโดยไม่เลือกว่ามิตรหรือศัตรูโดยจิตใจที่วางเฉย
๖๙๓ เคล็ดลับคือ เราทำดีที่สุดแล้ว สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
๖๙๔ ตัวอย่างสำคัญคือ ชาติพระฤษีนารท
๖๙๕ สถานที่บำเพ็ญ บริเวณปัจจุบันนี้คือ เมืองกบิลพัสดุ์ ประเทศอินเดีย
๖๙๖ เราเล่าให้ฟังแบบย่อที่สุด หากอยากได้อรรถรสเพิ่มเติมให้ศึกษาจาก
๖๙๗ พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๘ ขุททกนิกาย ชาดก ภาคที่๒
๖๙๘ ฉบับสยามรัฐ แปลและรวบรวมโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน
๖๙๙ จะได้ข้อมูลที่กะชับเที่ยงตรงกับปาลีที่สุด
๗๐๐ เหมือนกับการศึกษาไบเบี้ย ต้องใช้ฉบับที่รวบรวมโดย
๗๐๑ กษัตริย์เจมส์แห่งอังกฤษ จึงตรงกับความต้องการของพระเจ้าผีของโมเสส
๗๐๒ เหมือนกับการศึกษาอัลกุรอ่าน ต้องใช้ฉบับที่รวบรวมโดย
๗๐๓ กษัตริย์ฟาฮัดแห่ง ซาอุดิอาระเบีย จึงตรงกับความต้องการของพระเจ้าผีของมะหะหมัด
๗๐๔ พูดมาถึงตรงนี้ ก็เป็นการยืนยันว่าการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์
๗๐๕ โดยกษัตริย์มีความถูกต้อง,ชอบธรรม, เที่ยงธรรมและเป็นประชาธิปไตยที่สุด
๗๐๖ โดยเฉพาะกษัตริย์ที่ฝึกตนเยี่ยงพระโพธิสัตว์ผู้เที่ยงแท้ต่อการตรัสรู้
๗๐๗ เช่น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ทรงได้รับการพยากรณ์
๗๐๘ จากพระโคตมสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วว่า จะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาลข้างหน้าอย่างแน่นอน
๗๐๙ เช่นเดียวกับ หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ก็ได้รับการพยากรณ์
๗๑๐ จากพระโคตมสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วว่า จะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาลข้างหน้าอย่างแน่นอน
๗๑๑ จึงเป็นแบบอย่างที่ดีให้เราได้ ทั้งชีวิตในทางโลก หรือ ทางธรรม ถือเป็นรุ่นพี่ที่ดีของเรา
๗๑๒ ซึ่งตรงนี้เรายังล่องลอยอยู่ไม่รู้จะเบนไปทางไหนดี
๗๑๓ การบำเพ็ญบารมี ๑๐ ขั้นข้างต้นนี้เรียกว่า ทศบารมี
๗๑๔ สามารถทำทีละขั้นหรือพร้อมกันก็ได้แล้วแต่ความสะดวกและอุปสรรคที่ได้รับ
๗๑๕ แต่เท่านี้ ยังเป็นแค่ขั้นพื้นฐาน
๗๑๖ ยังมีขั้นสูงกว่านี้คือ บันไดอีก ๕ ขั้นที่เหลือ
๗๑๗ บันไดขั้นที่สิบเอ็ด บริจาคทรัพย์ การเสียสละเครื่องปลื้มใจทั้งภายนอก
๗๑๘ ภายในไม่จำกัดว่าเป็นวัตถุสิ่งของเท่านั้น ยังรวมถึงความสุขส่วนตัว
๗๑๙ ความสะดวกสบายต่างต่าง อย่างไม่เสียดายภายหลัง
๗๒๐ ตัวอย่างสำคัญคือ ชาติพระเวสสันดร
๗๒๑ บันไดขั้นที่สิบสอง บริจาคเลือดเนื้อ การเสียสละเลือดเนื้อของตนบางส่วน
๗๒๒ อย่างไม่เสียดายภายหลัง และสุดท้ายก็ได้กลับคืนมาดังเดิมเช่นบริจาคเลือด, เกล็ดเลือด
๗๒๓ การบริจาคอวัยวะหลังจากตายไปแล้วเป็นเพียงบารมีอย่างฝุ่นผง 
๗๒๔ เพราะสัตว์เดรัจฉานทั่วไปก็ทำได้ 
๗๒๕ ตัวอย่างสำคัญคือ ชาติพระสิวีราชบริจาคดวงตาให้พระอินทร์แล้วได้ดวงตากลับคืน
๗๒๖ บันไดขั้นที่สิบสาม บริจาคชีวิต การเสียสละชีวิตเพื่อให้เลือดเนื้อทั้งหมด 
๗๒๗ ขั้นนี้ก็เช่นกันเป็นการทดสอบฝึกจิตใจล้วนล้วนไม่เน้นว่าต้องตายจริง
๗๒๘ ตัวอย่างสำคัญคือ ชาติพญาเนื้อนิโครธ บริจาคชีวิตตนแทนนางเนื้อท้องแก่บริวาร
๗๒๙ สุดท้ายก็ไม่ตายและอยู่อย่างมีความสุข
๗๓๐ บันไดขั้นที่สิบสี่ บริจาคบุตรธิดา การเสียสละบุตรธิดา,ผู้เป็นที่รักยิ่งให้ผู้อื่น
๗๓๑ ตัวอย่างสำคัญคือ ชาติพระเวสสันดรให้ทานบุตรธิดากัณหาและชาลีแก่ชูชก สุดท้ายก็ได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีก
๗๓๒ บันไดขั้นที่สิบห้า (สุดท้าย) บริจาคภรรยา การเสียสละภรรยาให้ผู้อื่น
๗๓๓ ตัวอย่างสำคัญคือ ชาติพระเวสสันดรให้ทานภรรยานางมัทรีแก่พระอินทร์ สุดท้ายก็ได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีก
๗๓๔ การให้ไม่จำกัดว่าผู้รับต้องเป็นมนุษย์, เป็นเทวดา, เป็นใครใครก็ได้
๗๓๕ ห้าขั้นเหล่านี้เรียกว่า ปัญจมหาบริจาคสามารถทำพร้อมกันได้ในชาติเดียว
๗๓๖ เน้นการเสียสละทางจิตเพื่อให้แน่ใจว่า จะไม่มีสิ่งใดร้อยรัดจิตใจได้อีก
๗๓๗ ถ้าทำให้ครบสมบูรณ์ทั้งสิบห้าขั้นหรือ ทศบารมีและปัญจมหาบริจาค
๗๓๘ แล้วก็เป็นอัน แน่ใจได้ว่าจะได้ตรัสรู้เป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตอันใกล้นี้เป็นแน่นอน
๗๓๙ สำหรับเราแล้ว สิบสามขั้นข้างต้น สามารถทำได้ด้วยตัวเราเอง แต่จะเป็นได้แค่
๗๔๐ พระปัจเจกพุทธเจ้า หรือ มหาสาวกอรหันต์เท่านั้น ไม่ยิ่งใหญ่เหมือนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
๗๔๑ ดังนั้นสองขั้นที่เหลือ จำเป็นต้องได้บุตรภรรยา ที่มีทัศนคติสนับสนุน
๗๔๒ จึงจะสำเร็จได้ไวขึ้น และต้องเป็นบุตรภรรยาที่รักเราอย่างมากที่สุด
๗๔๓ พร้อมทำทุกอย่างที่เราให้ทำ อย่างเต็มใจที่สุด เพื่ออานิสงค์ที่สมบูรณ์แบบ
๗๔๔ และต้องเป็นกำลังใจที่ดี ให้กับเราในทุกสถานการณ์
๗๔๕ เราต้องการคนที่สนับสนุนพระโพธิสัตว์ผู้เที่ยงแท้ อย่างถวายชีวิต
๗๔๖ เราต้องการคนที่เสียสละความสุขส่วนตัว เพื่อส่วนรวม
๗๔๗ เราต้องการคนที่น่ารักที่ไม่ทำให้เราเบื่อหน่ายคลายความกำหนัดก่อนเวลาอันควร
๗๔๘ เราต้องการคนที่มีทัศนคติ คล้ายคลึงกันกับเรา
๗๔๙ มีความเพียรพยายามและอดทนไม่น้อยกว่าเรา
๗๕๐ และเราพบแล้ว
๗๕๑ เธอคนนั้นงามอย่างนางฟ้า และจะช่วยเราเลือกเส้นทางเดินในชาตินี้
๗๕๒ ปัญหาตอนนี้ก็คือ
๗๕๓ ทำอย่างไรให้เธอคนนั้น นางฟ้าของเรา ศรัทธาในตัวเรา
๗๕๔ มากเพียงพอ ที่จะผูกพันกันอย่างเหนียวแน่นต่อเนื่อง ในทุกภพทุกชาติ
๗๕๕ ยิ่งเธอคนนั้นนางฟ้าของเรา รักเรามากเพียงใด ภักดีต่อเรามากเพียงใด
๗๕๖ ก็จะทำให้การบริจาคของเรามีอานิสงค์รุนแรงมากเพียงนั้น
๗๕๗ เธอคนนั้น นางฟ้าของเรา คืออุปกรณ์เครื่องมือปัจจัยที่ยอดเยี่ยมอย่างวิเศษและหาได้ยาก
๗๕๘ จะผลักดันให้เราสำเร็จโพธิญาณได้แน่นอนที่สุด
๗๕๙ เพราะความมั่นใจโดยไม่สนใจว่าอดีตของเธอจะเป็นอย่างไร
๗๖๐ เราต้องชอบทุกทุกอย่างที่เป็นเธอ
๗๖๑ เราต้องชอบทุกทุกพฤติกรรมที่เธอเป็น
๗๖๒ เพราะคุณสมบัติหลักของเธอดึงดูดเราเหลือเกิน
๗๖๓ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เพื่อตัวเราเองอย่างเดียว
๗๖๔ แต่มันเป็นประโยชน์ส่วนรวมอย่างหนึ่งด้วย
๗๖๕ การทำให้สังคมส่วนรวมมีที่พึ่งที่ถูกต้อง คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว
๗๖๖ เมื่อนั้นก็จะง่ายต่อการสร้างระบอบรัฐที่สมบูรณ์แบบโดยอาศัยที่พึ่งที่ถูกต้องนั้น
๗๖๗ ใช่แล้ว เราจะต้องตามใจเธอคนนั้นนางฟ้าของเรา ในทุกทุกเรื่อง ทุกทุกอย่าง
๗๖๘ ที่เธอเอ่ยปากขอ เพียงเพื่อให้เธอพอใจและเปิดโอกาศให้เราผูกมัดจิตใจเธอ
๗๖๙ ไว้ในจิตใจของเราอย่างเหนียวแน่นดูดดื่มและต่อเนื่องยาวนานที่สุดกว่าจะนิพพาน
๗๗๐ ชาตินี้ถือเป็นหว่านพืชจึงต้องเน้นจิตใจเป็นหลัก
๗๗๑ แล้วค่อยหวังผลเอาในชาติต่อต่อไป เหอ เหอ
๗๗๒ อีกอย่างหนึ่งเราต้องใช้เวลากับการเข้าถึงตำแหน่งหน้าที่การงาน
๗๗๓ ที่สามารถเข้าถึงรายได้ที่มากพอ เพื่อให้เราเพลิดเพลินสนุกสนาน
๗๗๔ กับการทำบุญทำทาน กับพระอริยสงฆ์อย่างหลวงปู่ลี กุสลธโร
๗๗๕ และเราก็พบแล้วนั้นคือ อุตสาหกรรม พื้นฐานแห่งความมั่งคั่ง
๗๗๖ กับราชการ พื้นฐานแห่งอำนาจและความมั่นคง
๗๗๗ เป็นกรมที่บรรจบกันระหว่าง รัฐและเอกชนได้อย่างลงตัว
๗๗๘ ใช่แล้ว กรมโรงงานอุตสาหกรรมและเป็นการสอบครั้งที่สองของเรา
๗๗๙ เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ณ ขณะนี้ เพื่อปลดหนี้สินด้วย
๗๘๐ เพื่อสร้างความพอใจให้กับเธอคนนั้น นางฟ้าของเราด้วยการสนับสนุน
๗๘๑ กิจกรรมทุกทุกอย่าง ต่อตระกูลของเธอซึ่งเป็นกลุ่มผู้นำท้องถิ่นที่ทรงพลังและเข้มแข็ง
๗๘๒ โดยเฉพาะบิดาของเธอที่มีลักษณะของผู้นำอย่างชัดเจนที่สุด
๗๘๓ ในภาวะแห่งความขัดแย้งที่เราคาดว่าจะรุนแรงและต่อเนื่องไปอีกจนปี จอ
๗๘๔ พ.ศ. ๒๕๖๐ หรือกึ่งพุทธกาลตามหลักฐานทางโบราณคดี
๗๘๕ ของศาสตราจารย์ประเสริฐ ณ นคร
๗๘๖ เราวาดฝันไว้ว่าบิดาของเธอคนนั้น นางฟ้าของเรา จะจับมือกับตระกูลห้างดัง
๗๘๗ เพื่อเป็นมหาอำนาจในประเทศแห่งนี้เทียบเท่าไทยรักไทยในอดีต 
๗๘๘ หรืออย่างน้อยในภาคอีสานที่เราอยู่อย่างยาวนานและยั่งยืน ในทุกทุกธุรกิจ
๗๘๙ เหล่านี้เป็นแผนหลักของเราและเป็นสัมมาทิฏฐิ
๗๙๐ จับต้องได้ พิสูจน์ได้และมีคนทำสำเร็จมาแล้ว
๗๙๑ ไม่ไร้สาระเหมือนพวกคลั่งผีที่สร้างความเดือดร้อนให้ตนเองและผู้อื่นอย่างพวกยิวคริสต์อิสลาม
๗๙๒ ไม่ไร้สาระเหมือนพวกคลั่งจานบินหรือกวนอิมหรือลามะที่ทำตัวเป็นกาฝากในศาสนา อย่างไม่น่าให้อภัย
๗๙๓ เพราะทำตัวเป็นศัตรูภายในศาสนาได้อย่างทุเรศ
๗๙๔ เหล่านี้เป็นจริงอย่างมีเหตุผลที่สุด ขอยุติเพียงเท่านี้ อุปสรรคยังทำหน้าที่ของมันอยู่
๗๙๕ จิราธิวัฒน์ พิมพ์สุจีรวีโรจน์




 

Create Date : 27 มกราคม 2557   
Last Update : 28 มกราคม 2557 2:07:26 น.   
Counter : 824 Pageviews.  


ลักษณะการชุมนุมทางการเมืองที่ไม่บริสุทธิ์

  ซอยแห่งหนึ่งข้างโรงเบียร์ ถนนท่าพระ-โกสุม

ลักษณะการชุมนุมที่ไม่บริสุทธิ์
๕๒๓ สิ่งหนึ่งอยากจะเตือนไว้เกี่ยวกับการชุมนุมคือ
๕๒๔ อย่าเดินทางไปร่วมชุมนุม หรือไปไหน มาไหน คนเดียวเด็ดขาด
๕๒๕ ควรมีญาติหรือเพื่อนที่สนิทไว้ใจได้ว่าจะไม่หักหลังเรา
๕๒๖ หรือหลอกลวงเราให้ไปติดกับดักของฝ่ายตรงข้าม
๕๒๗ เพราะเราไม่สามารถไว้ใจใครได้เลย
๕๒๘ ในทุกทุกการชุมนุมย่อมมีหลายหลายฝ่าย
๕๒๙ ไม่ได้มีเฉพาะฝ่ายที่สนับสนุนตนเท่านั้น
๕๓๐ ทั้งในหมู่ผู้ชุมนุมและแกนนำ
๕๓๑ ซึ่งเราขอเรียกว่าเป็นความไม่บริสุทธิ์
๕๓๒ ความไม่บริสุทธิ์นี้มักจะแสดงออก
๕๓๓ ด้วยคำพูดที่หยาบคาย, รุนแรง, โจมตีสีเสื้อที่ใส่อย่างหัวปักหัวป้ำ
๕๓๔ เพียงเพราะสีเสื้อที่ใส่งั้นเหรอ ช่างหาสาระอันใดไม่ได้เลย
๕๓๕ พวกนี้เป็นแค่คนโง่โง่ ที่ไม่รู้จักสังเกตุศัตรูที่แท้จริง
๕๓๖ แต่กลับไปโทษสีเสื้อที่ใส่ หรือโทษตัวบุคคล
๕๓๗ ถ้าเขาเป็นคนฉลาดเขาจะรู้ได้เองว่า ความชั่วร้ายทั้งมวล
๕๓๘ ย่อมมาจากความโลภ ความโกรธ ความหลง ทั้งนั้น
๕๓๙ โดยไม่ได้แบ่งว่าเป็นฝ่ายตนหรือฝ่ายศัตรู แต่ก็นั้นแหละพวกนี้คือคนที่โง่โง่
๕๔๐ เราจัดให้พวกนี้อยู่ในประเภท “บ้าน้ำลาย”
๕๔๑ ที่ให้ความสะใจและสร้างความบันเทิงชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น
๕๔๒ เป็นเพียงกิจกรรมที่ทำให้เสียเวลา และไม่น่าจดจำ
๕๔๓ เสียความรู้สึกที่ต้องไปรับฟังคำพูดขยะเหล่านั้น
๕๔๔ โดยไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงใดใดอย่างเป็นรูปธรรมเลย
๕๔๕ นอกจากคลุ้มคลั่งไปวันวัน เนื่องจากโดนคุณไสย,
๕๔๖ ยาสั่ง, หรือยาเสพติด หรือถูกบังคับจากนายทุน เท่านั้น
๕๔๗ จริงอยู่การปราศรัยเป็นส่วนหนึ่งของการจัดทัพ
๕๔๘ เพื่อรวบรวมกำลังคนจากส่วนต่างต่างของสังคม
๕๔๙ ที่มีแนวคิดเดียวกันกับผู้ปราศรัยแต่นั้น
๕๕๐ ก็เป็นการเรียกให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าร่วมชุมนุมได้ดีเช่นกัน เพราะสีเสื้อเปลี่ยนง่าย
๕๕๑ การปราศรัยที่ยืดเยื้อเยิ่นเย้อย่อมทำให้ ค่าใช้จ่ายบานปลาย
๕๕๒ และยังบั่นทอน สุขภาพ กำลังใจของผู้ร่วมชุมนุมและสังคมส่วนใหญ่ ได้ดีเช่นกัน
๕๕๓ ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งที่ใช้สลายความเก็บกดของสังคม
๕๕๔ ให้อ่อนล้าและเหนื่อยหน่ายต่อการขัดขืนการปกครอง
๕๕๕ ที่ฝ่ายตรงข้ามครอบครองอยู่ ได้อย่างวิเศษ
๕๕๖ สิ่งที่ควรระวังมากกว่า ศัตรูภายนอก คือแกนนำที่ไม่จริงใจ
๕๕๗ พวกนี้มักสร้างความเสียหายให้กับเราได้มากกว่าที่คาดคิด
๕๕๘ เพราะเขาคือศัตรูในคราบของมิตร
๕๕๙ เราขอเรียกว่ามิตรปลอม, มิตรปฏิรูป หรือ ศัตรูภายในก็ได้
๕๖๐ พวกนี้มักจะจบกิจกรรมด้วยการสร้างความแตกร้าวในหมู่ชนเสมอ
๕๖๑ และบิดเบือนแนวทางที่ถูกต้องให้ผิดเพี้ยนได้อย่างแนบเนียน
๕๖๒ เพราะเขามีความจงรักภักดีต่อความถูกต้องไม่เพียงพอ
๕๖๓ เราอยากให้แกนนำทั้งหมดกินน้ำสาบานต่อหน้า
๕๖๔ พระแก้วมรกตทุกคนและเปล่งวาจาดังดังว่า จะซื่อสัตย์และจริงใจ ทำตามที่พูด
๕๖๕ เพื่อให้เกิดความถูกต้องและเที่ยงธรรม เพื่อความสบายใจของผู้ชุมนุมและผู้สนับสนุน
๕๖๖ จากการสังเกตุ แกนนำและผู้ชุมนุมบางส่วนยังอ่อนประสบการณ์ ไม่เข้าใจสถานการณ์
๕๖๗ จึงมักตกเป็นเหยื่อเป็นเครื่องมือของฝ่ายตรงข้ามได้ง่าย
๕๖๘ เพียงเพราะคิดว่าเป็นกิจกรรมที่ถูกต้อง
๕๖๙ แต่อย่าลืมว่าหลายกิจกรรมเริ่มต้นจากความถูกต้อง
๕๗๐ แต่ก็สามารถจบได้ด้วยการบิดเบือนจากศัตรูภายใน
๕๗๑ กลายเป็นความผิดพลาด ที่ไม่น่าให้อภัยได้เช่นกัน
๕๗๒ ผลของความผิดพลาดคือการบาดเจ็บล้มตายอย่างเปล่าประโยชน์
๕๗๓ โดยที่เป้าหมายยังไม่บรรลุผล
๕๗๔ นางฟ้าจ๋าเราห่วงเธอเหลือเกิน
๕๗๕ เพราะนี้คือการชุมนุมที่เต็มไปด้วยผลประโยชน์และอันตราย
๕๗๖ ทำไมเธอถึงต้องมาเสี่ยงชีวิต แทนกลุ่มผลประโยชน์
๕๗๗ หรือทหาร ตำรวจ ที่ทำตัวเป็นกลางเพราะความขลาดเขลา
๕๗๘ เพราะมัวเมาในทรัพย์สิน
๕๗๙ ถึงจะห่วงมากแค่ไหน ก็ทำได้แค่แนะนำเท่านั้น
๕๘๐ เรารับรู้ได้ว่าเธอเอาตัวรอดได้อย่างแน่นอน เพราะเธอมีทีมงานที่ดี
๕๘๑ ต่างจากเรา ที่ตัวคนเดียว
๕๘๒ เรามั่นใจว่าเธอเอาตัวรอดได้ในการชุมนุมที่เต็มไปด้วยม่านหมอกนี้
๕๘๓ เหมือนแถวบ้านเราที่มีแต่ม่านหมอกเช่นกัน
๕๘๔ เราเคยมีประสบการณ์จากการชุมนุมทางการเมือง ก่อนเธอที่รัก
๕๘๕ ตั้งแต่เธออยู่เมืองนอก เมืองนา เมืองฟ้า เมืองสวรรค์
๕๘๖ เพราะความผิดพลาด จากศัตรูภายใน
๕๘๗ ทำให้เราแทบเอาชีวิตไม่รอด บาดเจ็บปางตาย
๕๘๘ แต่เรามีเลือดของชาวไซย่า หรือไชยะ หรือเลือดของผู้ชนะ
๕๘๙ จึงทำให้ทุกครั้งที่เราปางตายและรอดกลับมาได้
๕๙๐ มันทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นในทุกทุกด้าน
๕๙๑ และความแข็งแกร่งของเราขณะนี้
๕๙๒ เหมาะกับสงครามโลกเท่านั้น
๕๙๓ ไม่ใช่ไปฟังพวกบ้าน้ำลายและสับสนทางเพศเหล่านั้น
๕๙๔ มีหลายวิธีที่จะถ่ายทอดแนวคิดของผู้ชนะ
๕๙๕ และเราก็มีวิธีของเรา
๕๙๖ นางฟ้าจ๋า หากเธอยังสนุกกับพวกบ้าน้ำลายและสับสนทางเพศเหล่านั้น
๕๙๗ เราจะไม่ห้ามเธอ เราจะให้เธอเรียนรู้ด้วยตัวของเธอเอง
๕๙๘ และเราก็จะได้เรียนภาษาอังกฤษสำเนียงที่ถูกต้อง กับเธอด้วย
๕๙๙ หากเธอมีสายเลือดของผู้ชนะอย่างเดียวกับที่เรามี
๖๐๐ เธอจะรอดกลับมาได้ และแข็งแกร่งขึ้นทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
๖๐๑ มันเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา แต่น้อยคนจะได้รับเพราะเขาเหล่านั้น
๖๐๒ มีความอดทน,ความเพียร ไม่เพียงพอ
๖๐๓ ทั้งการหาความรู้ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตก็ไม่เพียงพอ
๖๐๔ เป็นได้แค่พวกสอบไล่ในวิชาขยะแล้วได้คะแนนสูงเท่านั้น
๖๐๕ เรายังยืนยันว่า เราซื่อสัตย์และภักดีกับเธอนางฟ้าและจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป
๖๐๖ สงครามโลกเท่านั้นจะนำความมั่นคงมาให้ฝ่ายชนะ นั้นคือเผ่าพันธุ์ของเรา
๖๐๗ อย่างยั่งยืน วันนี้ยุติเพียงเท่านี้ อุปสรรคยังทำหน้าที่ของมันอยู่
๖๐๘ จิราธิวัฒน์ พิมพ์สุจีรวีโรจน์




 

Create Date : 26 มกราคม 2557   
Last Update : 26 มกราคม 2557 18:54:57 น.   
Counter : 846 Pageviews.  


แนวคิดสนับสนุนสงครามโลก

ซอยแห่งหนึ่งข้างโรงเบียร์ ถนนท่าพระโกสุม   

แนวคิดสนับสนุนสงครามโลก
๓๗๔ ต้องระลึกไว้ก่อนว่า ทุกการเปลี่ยนแปลงต้องมีความรุนแรงเสมอ ไม่ว่าจะเป็นจากฝ่ายตนหรือฝ่ายศัตรู
๓๗๕ และการชุมนุมแสดงพลังทุกชนิดถือเป็นความรุนแรงอย่างหนึ่งด้วย
๓๗๖ ยิ่งคนมากเท่าใด ความรุนแรงยิ่งปรากฎมากเท่านั้น
๓๗๗ พวกโง่โง่มักจะคิดว่าการชุมนุมแสดงพลังเพื่อต่อต้านความรุนแรง
๓๗๘ เช่น ด้วยการจุดเทียน แล้วคิดว่าเป็นการกระทำที่ สงบ สันติ เป็นการถูกต้องแล้วหรือ
๓๗๙ ไม่เลยเรากลับมองว่า พวกนี้พยายามยัดเยียดความสับสนให้กับสังคม
๓๘๐ พวกนี้คือ กลุ่มหัวรุนแรงที่ต่อต้านความรุนแรง
๓๘๑ เพราะเขามีแนวคิดต่อต้านอย่างรุนแรงจากภายในจิตใจส่วนลึกลึกของเขาเอง
๓๘๒ โดยที่เขาไม่รู้ตัวจนกระทั่งแสดงมันออกมาด้วยการกระทำที่โง่โง่
๓๘๓ และเขาก็ยังไม่รู้ตัวอีกว่าเขาถูกความรุนแรงครอบงำ
๓๘๔ พวกนี้เป็นคนที่อ่อนแอ เป็นคนโง่ เป็นคนพาล เป็นคนหลงผิด เป็นคนเขลา
๓๘๕ และยังเป็นอยู่จนกระทั่งเราเขียนบทความนี้ และคาดว่ายังเป็นต่อไป
๓๘๖ พวกนี้ก็ไม่ต่างจากควายที่ถูกจูงจมูกไปโรงเฉือด แม้ว่าจะไปไม่ถึงก็เถอะ
๓๘๗ พวกนี้ควรพักผ่อนอยู่กับบ้านแล้วทำงานเพื่อเสียภาษีให้กับรัฐอย่างควายที่ซื่อสัตย์ต่อชาวนา
๓๘๘ มากกว่าออกมาแสดงพลังโง่โง่เพราะควายก็คือควายที่ไม่เข้าใจสถานการณ์
๓๘๙ เราไม่เคยคาดหวังว่าพวกควายที่มีปลิงควายเป็นตัวแทน
๓๙๐ และคลั่งไคล้การเลือกตั้งทุกทุกสี่ปีหรือน้อยกว่า
๓๙๑ ในระบอบรัฐสภาหรือสภาคองเกรสที่มีนายทุนหน้าเลือดอำมหิตหนุนหลัง
๓๙๒ จะนำพาให้โลกนี้หรือประเทศนี้รุ่งเรืองมั่งคั่งได้
๓๙๓ พวกมาเฟียพวกนี้มักก่อร่างสร้างหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แท้จริงต่อส่วนรวม
๓๙๔ และมักจะโยนให้ส่วนรวมเป็นผู้ชำระหนี้ โดยตนลอยตัวจากปัญหาต่างต่างอย่างน่าทุเรศที่สุด
๓๙๕ พวกนี้มีความเสียสละไม่เพียงพอ
๓๙๖ พวกนี้มีความอ่อนแอในศีลธรรมสูงอย่างไม่น่าเชื่อ
๓๙๗ และพร้อมที่จะหันหลังให้กับประโยชน์ส่วนรวมเสมอ เมื่อมีโอกาส
๓๙๘ พวกนี้มักมองแต่ตัวเองด้วยการกอบโกยให้มากที่สุด เมื่อโอกาสอำนวย
๓๙๙ พวกนี้มักคิดว่า ”น้ำขึ้นต้องรีบตัก” งั้นเหรอ
๔๐๐ พวกนี้คิดถูกแค่สิบเปอร์เซนต์ เพราะน้ำที่เขาตักได้ถูกสาปแช่งไว้แล้ว
๔๐๑ และเก้าสิบเปอร์เซนต์ทีเหลือ คือน้ำที่เจือยาพิษชนิดตายยกโคตร
๔๐๒ หากเขาสังเกตุน้ำในคลองแสนแสบเป็นตัวอย่าง
๔๐๓ นรกชัดชัด ยิ่งเขาอุปโภคบริโภคมากเท่าใด เขาและโคตรของเขาก็ตายเร็วเท่านั้น
๔๐๔ และตายแบบไม่มีที่ฝังที่เผาในโลกหรือในประเทศเพราะเขาได้ถูกสาปแช่งไว้แล้ว เขาจึงโหยหาดาวอังคาร
๔๐๕ สิ่งหนึ่งที่ต้องรู้เพิ่มเติมว่า เราไม่เคยเกลียดในตัวบุคคลหรือคณะบุคคลใดใดเลย
๔๐๖ นอกจากแนวคิดผิดผิดที่ฝังรากในจิตใจของตัวเขาเหล่านั้น
๔๐๗ ซึ่งทำให้เขาตายไปจากใจของพวกเราก่อนที่เขาจะตักน้ำนั้นเสมอ
๔๐๘ พวกปลิงควายมักจะกอบโกยทุกสี่ปีหรือน้อยกว่านั้น
๔๐๙ เพราะนายทุนของพวกนี้ไม่มีความอดทนพอที่จะรอคอยนานกว่านั้นได้
๔๑๐ พวกปลิงควายเป็นได้แค่นักแสดงให้นายทุนใช้ชักใยกอบโกยเท่านั้น
๔๑๑ พวกปลิงควายไม่มีสิทธิ์ผูกขาดอำนาจ
๔๑๒ นอกจากก้มหน้ารับชะตากรรมรับผิดแทนนายทุนที่อยู่เบื้องหลังเท่านั้น
๔๑๓ นายทุนเท่านั้นที่สามารถสะสมความมั่งคั่ง
๔๑๔ และนายทุนพวกนี้มักจะแฝงตัวในกองทุนระหว่างประเทศ, กองทุนรวม, ธนาคารกลาง, สถาบันการเงิน
๔๑๕ และร้อยละร้อยคือพวกยิว พวกยาฮูดี พวกซิโอน พวกลิคุด พวกยูดาย
๔๑๖ เพื่อให้ตนแน่ใจว่าจะได้รับความมั่งคั่งในทุกทุกจุดของโลก
๔๑๗ หลายคนอาจเคยได้ยิน คำว่า “นักบุญคนบาป”
๔๑๘ นายทุนพวกนี้ก็สิงสถิตอาศัยในกลุ่มนี้ด้วย
๔๑๙ นายทุนพวกนี้มักใช้วิธีการให้เงินทุนช่วยเหลือในด้านต่างต่าง จนเป็นเรื่องปกติ
๔๒๐ และพวกโง่โง่มักจะยอมรับเงินเหล่านี้ด้วยความเต็มใจ เพียงเพราะ ”น้ำขึ้นต้องรีบตัก”
๔๒๑ แต่เราขอเรียกมันว่า “สินบน” เพื่อให้ได้ช่องทางกอบโกยภายหลังมากกว่า
๔๒๒ พวกนี้มักจะเอาคนท้องถิ่นไปล้างสมองในประเทศตนด้วยทุนการศึกษา เพื่อกลับมาย่ำยีประเทศเป้าหมาย
๔๒๓ เพื่อกลับมารักษาผลประโยชน์ของนายทุนในประเทศเป้าหมายที่เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของตน
๔๒๔ และประเทศไทยก็ไม่มีข้อยกเว้นด้วย และอาจจะลามไปถึงดาวอังคารในอนาคต
๔๒๕ พวกนี้มักจะแทรกซึมอยู่ทุกที่ และทำงานอย่างถวายชีวิตด้วย
๔๒๖ และมีความอำมหิตเกินกว่าที่เราคาดคิดเสมอ
๔๒๗ จากการสังเกตุและศึกษาพฤติกรรมของพวกนี้ ทำให้เรารับรู้สัมผัสได้อย่างไม่ยากนัก
๔๒๘ จากประสบการณ์ของเราเอง จากสื่อต่างต่าง มันทำให้เราแปลกใจ งุนงง อย่างมาก
๔๒๙ ทั้งที่อุปสรรคมากมาย ก็ไม่ได้ทำให้เราท้อแท้เลยแม้แต่น้อย กลับทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นในด้านจิตใจ
๔๓๐ เรายอมรับว่ามีความหวาดกลัว และทุกครั้งที่เราหวาดกลัว เราจะมีวิธีทำให้ความกลัวสยบอยู่ใต้เท้าของเราเสมอ
๔๓๑ เราไม่หวาดหวั่นในความตายแต่เราหวาดหวั่นว่า ความรู้ประสบการณ์ที่เรามีอยู่จะหายไปและไม่ต่อเนื่อง
๔๓๒ เราต้องการให้ความรู้ประสบการณ์ของเราคงอยู่ เพื่อความต่อเนื่องในทุกทุกชาติที่เกิดใหม่
๔๓๓ เพื่อการประชาสัมพันธ์ และนี้คือประโยชน์ส่วนรวมอย่างยิ่ง ที่จะต้องได้รับการเตือนภัยให้ตื่นตัว
๔๓๔ เราต้องขอบใจพวกนี้เพราะการทำงานของพวกนี้มักจะทิ้งร่องรอย และเปิดโอกาสให้เราติดตามเสมอ
๔๓๕ มันช่วยทำให้เราประติดประต่อเรื่องราว ต่างต่างได้ง่ายขึ้นในชาตินี้
๔๓๖ แม้ว่าความทรงจำในชาติเก่าก่อนจะไม่เหลืออยู่เลย
๔๓๗ มีเพียงสัญชาตญาณและกฏแห่งกรรมที่คอยกระตุ้นเตือนเราเรื่อยมา
๔๓๘ เรายอมรับว่าเราไปจมปลักกับวิถีชีวิตของคนพวกนี้มากเกินไป
๔๓๙ และถ้าเราไม่เข้มแข็งพอ เราคงถูกกลืนไปกับพวกนี้นานแล้ว
๔๔๐ คงเป็นข้อดีของพระโพธิสัตว์ผู้เที่ยงแท้ต่อการตรัสรู้เป็นแน่ ที่ทำให้เรายืนหยัดอยู่ได้
๔๔๑ หลายครั้งเราพบว่า พวกนี้มักแฝงตัวในหน่วยงานราชการ, เอกชน และองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร
๔๔๒ เช่น มูลนิธิเด็กกำพร้า, คนพิการ หรือคนชราและในทุกทุกอาชีพที่เราคาดไม่ถึง
๔๔๓ โดยมากมักจะเป็นพวกสับสนทางเพศและสับสนด้านศีลธรรมเพราะพวกนี้ไม่รู้ว่าอะไรควรทำ หรือไม่ควรทำ
๔๔๔ พวกนี้มักจะเลี้ยงเด็กกำพร้าไว้ทำงานให้ตนในทุกทุกช่วงวัย
๔๔๕ ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้องเพราะ “เลี้ยงคนจักกินแรง”
๔๔๖ แต่พวกนี้อำมหิตกว่า ด้วยการเลี้ยงคนด้วยยาเสพติด ด้วยความทุกข์ทรมานอย่างไม่น่าเชื่อ
๔๔๗ และมักพยายามทำให้เหมือนเป็นเรื่องปกติ
๔๔๘ จนเราก็เริ่มรู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เพราะออกสื่อทุกวัน
๔๔๙ และสถานที่เราอยู่ก็ล้วนแล้วแต่ล้อมรอบไปด้วยคนพวกนี้ ทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก
๔๕๐ เรารับรู้ได้ว่าทุกทุกวันนี้ เริ่มรุนแรงถึงขั้นบังคับให้ครอบครัวที่เข้มแข็ง แตกแยกเป็นฝักฝ่ายได้
๔๕๑ มีความสัมพันธ์แบบศัตรูที่อยู่ใกล้ชิดกันและพร้อมจะกระทำแก่กันอย่างไร้ความปรานีด้วย
๔๕๒ นี้เป็นสังคมผีดิบที่เต็มไปด้วยการหลอกลวง มันเป็นสัญญาณของความตกต่ำทางศีลธรรม
๔๕๓ นี้เป็นหลักฐานให้เราสนับสนุนสงครามโลกได้อย่างดีที่สุด เพื่อรักษาศีลธรรมที่ดีงามเอาไว้
๔๕๔ พวกนี้มักจะคุกคามพวกด้อยโอกาสก่อนเสมอ เช่น พวกเร่ร่อน, ชุมชนแออัด หรือเกษตรกรที่ยากจน
๔๕๕ เป็นเหมือนโดมิโน ที่กัดกร่อนมาแต่รากฐานของปิรามิดซึ่งก็คือประเทศเป้าหมาย
๔๕๖ สุดท้ายคือกลุ่มชนชั้นสูงในสังคมที่จะต้องถูกทำลายให้หายไปหรือถูกกลืนมาเป็นพวกรับใช้
๔๕๗ และเราเชื่อว่าห้าสิบเปอร์เซนต์ของชนชั้นสูงถูกพวกนี้กลืนให้เป็นผู้รับใช้ไปแล้ว
๔๕๘ อีกครึ่งหนึ่งกำลังรอการทำลายล้าง ถ้าไม่เกิดสงครามโลกเพื่อหยุดยั้งขบวนการอุบาศว์นี้
๔๕๙ เราย้ำว่าต้องสงครามโลก เท่านั้น เรามองข้ามสงครามกลางเมืองไปแล้ว
๔๖๐ ต้องเปลี่ยนแปลงทั้งโลกแบบพร้อมกันเท่านั้น เพื่อความเด็ดขาดและชัยชนะที่แน่นอน
๔๖๑ ไม่ต้องมาคอยลุ้นหรือกังวลว่าจะมีศัตรูยกพลขึ้นบกที่ไหนอีก
๔๖๒ ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดในโลกจะเพียงพอกับคนทุกคนบนโลก ด้วยการทำสงครามกับศัตรู
๔๖๓ ถ้าหากฝ่ายเราชนะ ศีลธรรมที่ดีงามก็จะคงอยู่ไปอีกไม่น้อยกว่าร้อยปี กว่าที่ศัตรูจะฟื้นกำลังขึ้นมา
๔๖๔ ถ้าหากฝ่ายเราพ่ายแพ้ ฝ่ายเราก็จะได้ไปอยู่บนสวรรค์พักผ่อนกับเหล่านางฟ้าของพระอินทร์
๔๖๕ และปล่อยให้พื้นโลกกลายเป็นนรกบนดิน ที่มีศีลธรรมต่ำทราม
๔๖๖ ไม่ช้าก็จะเต็มไปด้วยความแห้งแล้ง และทะเลทราย เพราะความวิปริตของอากาศ
๔๖๗ และนี้คือการลงโทษจากสวรรค์ แต่เรามองว่า เป็นกฏแห่งกรรมมากกว่า
๔๖๘ เราได้แต่ภาวนาว่าให้ทุกคนบนโลกนี้ตื่นตัวซะที
๔๖๙ และหันมายืนในทัศนคติเดียวกันกับเราก่อนที่จะเกิดสงครามโลกครั้งใหม่และใหญ่กว่าเดิม
๔๗๐ เราปรารถนาอยู่กับศีลธรรม และจารีตประเพณีที่ดีงามแม้ว่าจะอยู่อย่างลำบากบ้าง
๔๗๑ เพราะผลที่ได้รับคือความงดงามเสมอ เหมือนกับการทำนาที่ลำบากแต่ทำให้เราอิ่มท้องในที่สุด
๔๗๒ ถ้าไม่ทำเองก็ต้องมีผู้อื่นทำ ศีลธรรมก็เหมือนกันต้องมีผู้ทำและรักษาไว้
๔๗๓ เพื่อตัวพวกเราเอง เพื่อที่เราจะได้มีกินมีใช้ คือมีวัฒนธรรมที่ดีงาม
๔๗๔ ให้ประพฤติปฏิบัติเมื่อพวกเรากลับมาสู่โลกนี้อีกครั้งด้วยการเกิด อย่างภาคภูมิใจที่สุด
๔๗๕ จากการสังเกตุ ยาเสพติดและการข่มขู่คุกคามอย่างอำมหิตของฝ่ายศัตรู
๔๗๖ ย่อมทำให้พวกศัตรูเองกลับตัวได้อย่างยากลำบากที่สุดเช่นกัน
๔๗๗ และการควบคุมกันอย่างรัดกุมของศัตรูทำให้การกลับตัวมีแนวโน้มเป็นศูนย์
๔๗๘ ประกอบกับอุปสรรคต่างต่างที่เราพรรณนาไว้ในร้อยแก้ว “อุปสรรคและเป้าหมาย”
๔๗๙ พวกศัตรูคงประสพไม่ต่างจากเรานัก
๔๘๐ และด้วยความอ่อนแอของพวกนั้นเอง จึงทำให้พวกเขากลายเป็นทาส
๔๘๑ อย่างไม่เต็มใจและในที่สุดก็คงเต็มใจไปแล้ว
๔๘๒ จึงเป็นการง่ายต่อการตัดสินใจที่จะทำสงครามโลกกันอีกครั้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
๔๘๓ และเราต้องชนะสงครามภายในจิตใจของเราให้พร้อมก่อนสงครามภายนอก
๔๘๔ เราต้องเชื่อมั่นว่าสงครามจะรักษาวัฒนธรรมที่ดีงาม
๔๘๕ และประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ให้อยู่กับผู้นำที่แท้จริงและพวกเราได้
๔๘๖ ตราบนานเท่านาน และดีกว่าวิธีอื่นอื่นเพราะเป็นบทสรุปของทุกวิธี
๔๘๗ หลายคนอาจแย้งว่า แล้วการเจรจาด้านการฑูตหล่ะ
๔๘๘ เป็นคำถามที่โง่โง่ เพราะการเจรจาคือสงครามอย่างหนึ่งเช่นกัน
๔๘๙ สงครามที่ไม่จำกัดวิธีนี้มีเป้าหมายเพื่อที่จะโน้มน้าวความคิดและจิตใจของฝ่ายศัตรู
๔๙๐ โดยชัยชนะจากสงครามจะบังคับให้ฝ่ายศัตรูยอมรับและมีทัศนคติเดียวกันกับเราได้อย่างวิเศษที่สุด
๔๙๑ แม้ว่าจะเริ่มด้วยความไม่เต็มใจแต่สุดท้ายฝ่ายศัตรูที่พ่ายแพ้จะเต็มใจเองเสมอ หรือไม่ก็ไปอยู่ในนรก
๔๙๒ ประเทศไทยคลาดเคลื่อนมาจากจุดที่ถูกต้องมามากกว่าแปดสิบปีแล้ว
๔๙๓ สงครามจะนำพาเรากลับไปสู่จุดที่ถูกต้องอีกครั้งหนึ่งนั้นคือประชาธิปไตยที่สมบูรณ์
๔๙๔ ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์คือสมบูรณาญาสิทธิราชย์ นั่นเอง
๔๙๕ เพื่อความอยู่รอด, เพื่อความมั่นคง, เพื่อความมั่งคั่งของเผ่าพันธุ์และวัฒนธรรมที่ดีงาม
๔๙๖ จำเป็นต้องกำจัดพวกคนพาล, พวกคนโง่, พวกคนหลงผิด, พวกคนเขลา
๔๙๗ ออกไปจากเผ่าพันธุ์เพื่อสร้างระบอบรัฐที่สมบูรณ์แบบขึ้นมาใหม่
๔๙๘ ในระหว่างการรอคอย พวกเราจักต้องมีชีวิตอยู่ในทุกทุกวิธีการด้วยความอดทน
๔๙๙ ต่อความยากลำบากทั้งหลาย ที่ศัตรูหยิบยื่นให้และสิ่งนี้คือการบำเพ็ญบารมีของเรา
๕๐๐ เราเชื่อในกฏแห่งกรรม มากกว่าสิ่งใดใดในโลก ดั่งพุทธพจน์ที่ว่า
๕๐๑ กัมมุนาวัตตะตีโลโก “สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม”
๕๐๒ กฏแห่งกรรมจะเปิดโอกาสให้เราชำระสะสางตอบแทนศัตรูของเราเสมอ
๕๐๓ เราต้องอดทนรอโอกาสนั้น โอกาสที่สถานการณ์จะบังคับเราให้ทำกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง
๕๐๔ สถานการณ์ที่มีผลทำให้ศัตรูเดือดร้อนอย่างแน่นอนที่สุดในอนาคต
๕๐๕ เราเรียกสิ่งนี้ว่า กฏแห่งกรรม หรือ กฏแห่งการกระทำ
๕๐๖ ใครกระทำสิ่งใดไว้ ย่อมได้รับสิ่งนั้นตอบแทนเสมอ
๕๐๗ และกฏแห่งกรรม มักทำให้เราก้าวตามหลังศัตรูเสมอเช่นกัน เพราะศัตรูมักเริ่มกรรมก่อน
๕๐๘ ศัตรูมักชุมนุมประท้วงเพื่อแสดงพลังกล้ามดากด้วยการยืนที่มั่นคง ก่อนเราเสมอ
๕๐๙ และมักป้อนข้อมูลผิดผิดสร้างความสับสนให้แก่สังคมส่วนรวมเสมอเช่นกัน
๕๑๐ เพียงเพื่อให้พวกเราและสังคมส่วนใหญ่สับสนและท้อถอยในที่สุด
๕๑๑ ฉะนั้นเราต้องมีความรู้ที่ถูกต้องมากเพียงพอ เพื่อแยกแยะถูกผิด
๕๑๒ พวกสับสนทางเพศมักจะไม่มีคุณสมบัตินี้
๕๑๓ ศัตรูมักเข้าถึงและถือครองตำแหน่งสำคัญก่อนเรา
๕๑๔ เพียงเพื่อชิงความได้เปรียบในอำนาจและกอบโกยให้นายทุนของเขาเอง
๕๑๕ แต่ก็ไม่เป็นปัญหาในการแย่งชิงกลับมา ด้วยสงครามทุกรูปแบบ
๕๑๖ จากการสังเกตุอีกอย่างหนึ่ง สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต่อเรา ศัตรูมักเข้าถึงก่อน
๕๑๗ และมักทำให้สิ่งนั้นเป็นกับดักหรืออุปสรรคอย่างที่เราคาดไม่ถึงเสมอ
๕๑๘ สิ่งนี้ทำให้เราพลาดตำแหน่งสำคัญ ที่เข้าถึงแหล่งอำนาจที่ทำให้เราบรรลุเป้าหมายได้ง่าย
๕๑๙ เราจึงทำได้แค่ทำตัวคล้ายนายขนมต้ม ที่โชว์ฝีมือในเวทีเล็กเล็ก ในดินแดนที่ศัตรูครอบงำ
๕๒๐ เรารอสงครามโลก สงครามที่จะปฏิวัติกลับไปหาจุดที่ถูกต้องโดยเหล่าผู้นำที่พร้อมประกาศสงคราม
๕๒๑ ประหนึ่งรอคอยการปลดปล่อยจากพระยาตากสิน, ฮิตเลอร์, นโปเลียน, อิเอยาสึ, ฮั่นเกาจู และบุเรงนอง
๕๒๒ วันนี้พักไว้แต่เพียงเท่านี้ จิราธิวัฒน์ พิมพ์สุจีรวีโรจน์ (ยืนยันว่าจริงใจ)




 

Create Date : 21 มกราคม 2557   
Last Update : 21 มกราคม 2557 17:18:48 น.   
Counter : 852 Pageviews.  


ทดสอบสมรรถภาพ๒

ซอยแห่งหนึ่งข้างโรงเบียร์ ถนนท่าพระโกสุม

ร้อยแก้ว ทดสอบสมรรถภาพ๒
๒๑๑(๑) วันนี้ให้ร้อนรุ่มกลุ้มอกซะเหลือเกิน (แทนข้อสิบห้าที่หายไป)
๒๑๒ ให้นึกถึงการคำนวณปฏิทินปักขคณนาเป็นกำลัง
๒๑๓ นั้นเพราะว่าเราเป็นฤษีที่เชี่ยวชาญด้านการคำนวณกิจ
๒๑๔ (แม้ว่าเราจะแสดงฤทธิ์เหาะเหินเดินอากาศไม่ได้ก็เถอะ)
๒๑๕ แต่จะอย่างไรก็ช่างเราจะแสดงให้เหล่าศัตรู
๒๑๖ ได้รับรู้ถึงกำลังสมองของเราว่ามีอานุภาพมากเพียงใด
๒๑๗ และสิ่งนี้จะเป็นหลักฐานอย่างดีเลิศประเสริฐศรีที่ยืนยันได้ว่า
๒๑๘ ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์คือประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่โลกมีมา
๒๑๙ ตามที่เราพรรณนาไว้ในร้อยแก้ว อุปสรรคและเป้าหมาย
๒๒๐ เพราะการเลือกผู้นำที่แท้จริงที่ต้องเป็นคนรักษาคำพูดอย่างที่ไว้ใจได้
๒๒๑ ต้องเป็นคนกล้าหาญ,เสียสละและชาญฉลาดแล้ว
๒๒๒ ยังต้องเป็นที่ยอมรับของสวรรค์ด้วย
๒๒๓ และระบอบที่สวรรค์ยอมรับก็คือระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์นั่นเอง
๒๒๔ เราศึกษาความรู้เรื่องปักขคณนาตำราการคำนวณปฏิทินทางจันทรคติ
๒๒๕ ที่รวบรวมโดยมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย
๒๒๖ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
๒๒๗ ทรงคิดค้นวิธีคำนวณและวิธีนับที่ใช้ได้จริงและยังใช้ได้อยู่ในปัจจุบัน
๒๒๘ ในสมัยเมื่อพระองค์ยังทรงพระชนม์ชีพนั้นอุปกรณ์ช่วยคำนวณมีน้อยและไม่สะดวกทันสมัย
๒๒๙ ต้องอาศัยพระอัจฉริยภาพและพระราชวิริยะอุตสาหะเป็นอย่างยิ่ง
๒๓๐ นั้นหมายความว่า ทรงมีอานุภาพมากกว่าเราเราท่านท่านหลายพันหลายหมื่นเท่า
๒๓๑ จึงเหมาะสมที่จะปกครองประเทศเป็นอย่างยิ่งเป็นที่สุด
๒๓๒ ต่างจากระบอบรัฐสภาที่เหลวไหลไร้สาระ
๒๓๓ ไม่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมอย่างแท้จริง แต่เป็นไปเพื่อให้
๒๓๔ พวกปลิงควายในรัฐสภาสร้างสถานการณ์ความขัดแย้งให้เกิดความเอือมระอา
๒๓๕ เพื่อกันท่าผู้อื่นที่มีความรู้ความสามารถมากกว่า แต่หน้าด้านน้อยกว่า
๒๓๖ พวกปลิงควายในรัฐสภามักฉ้อฉลและไม่จริงใจ
๒๓๗ พวกปลิงควายในรัฐสภาไม่เข้าใจประชาธิปไตยเลยจริงจริง
๒๓๘ เป็นแค่พวกโง่โง่ที่ทำทุกวิถีทางเพียงเพื่อผูกขาดอำนาจการปกครองของหมู่สัตว์ทั้งประเทศ
๒๓๙ แปดสิบปีแห่งการหลอกลวงด้วยระบอบรัฐสภา มันนานเกินไปแล้ว
๒๔๐ ต้องมีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนและต้องกลับมาอยู่บนความถูกต้องเสียที
๒๔๑ เราสนับสนุนให้มีการแต่งตั้งตำแหน่งต่างๆในประเทศ
๒๔๒ ที่เป็นประโยชน์ต่อพระราชวงศ์(เจ้า)และตระกูลผู้นำท้องถิ่น(นาย)เป็นอันดับแรก
๒๔๓ เพราะตระกูลเจ้าตระกูลนายเป็นผู้เสียสละและเป็นผู้ก่อตั้งประเทศจึงมีสิทธิ์อย่างชอบธรรม
๒๔๔ แต่ทั้งนี้ต้องไม่ขัดต่อประโยชน์ของส่วนรวม
๒๔๕ ทุกตำแหน่งต้องสาบานตัวต่อหน้าพระแก้วมรกตว่าจะตั้งใจทำงาน
๒๔๖ เพื่อความมั่นคงของเผ่าพันธุ์, เพื่อความคงอยู่ของจารีตประเพณีและวัฒนธรรมที่ดีงาม
๒๔๗ เพื่อความมั่นคงของตระกูลผู้นำของประเทศคือพระราชวงศ์
๒๔๘ จงจำไว้ว่าต้องอาสาเจ้าจนตัวตาย อาสานายแต่พอแรง
๒๔๙ ตายแล้วเกิดใหม่ก็ต้องอาสาเจ้า ต้องถวายพระเกียรติยศในทุกทุกรัชกาล
๒๕๐ ส่วนการถวายอารักขาจะทำได้เฉพาะเมื่อยังทรงพระชนม์ชีพเท่านั้น
๒๕๑ บุญคุณของเจ้า ตายแล้วเกิดใหม่ก็ใช้ไม่หมด
๒๕๒ ส่วนอาสานาย ถ้าเหนื่อยก็พัก ถ้านายไม่ดีก็เปลี่ยนนายได้และไม่ต่อเนื่องถึงชาติหน้า
๒๕๓ การดำรงตำแหน่งทุกตำแหน่งสิ้นสุดด้วยความตาย
๒๕๔ การปกครองเผ่าพันธุ์ระดับประเทศเป็นภาระของเจ้า
๒๕๕ การปกครองเผ่าพันธุ์ระดับท้องถิ่นเป็นภาระของนาย
๒๕๖ ระดับท้องถิ่นถือเอาอาณาเขตของตำบลเป็นสูงสุด
๒๕๗ ตระกูลที่เข้มแข็งจะได้รับการเลื่อนชั้นเป็นนายและเจ้า
๒๕๘ ตระกูลที่อ่อนแอจะถูกลดชั้นตามหลักธรรมชาติคัดสรรและกฏแห่งกรรม
๒๕๙ เหล่านี้เป็นแนวคิดเบื้องต้นเท่านั้น จะเป็นจริงได้เมื่อ
๒๖๐ มีกลุ่มผู้สนับสนุนที่มีประสิทธิภาพพอและกล้าเสียสละชีวิตเพื่ออุดมการณ์นี้
๒๖๑ เราไม่อาจปฏิเสธสงครามได้เพราะชัยชนะด้วยกำลังต้องมาก่อนการเปลี่ยนแปลงใดใดเสมอ
๒๖๒ และเรากำลังรอสงครามนั้นอยู่ ไม่มีเวลามาชุมนุมปราศรัยอีกแล้ว มีแต่ชุมนุมพลเพื่อทำสงคราม
๒๖๓ สงครามระหว่างสัตบุรุษผู้ที่มีคุณธรรมเป็นพื้น
๒๖๔ กับอสัตบุรุษผู้ที่มักหลอกลวงเป็นพื้น
๒๖๕ ต้องเข้าใจก่อนว่าในเผ่าพันธุ์นั้นมีสองฝ่ายคือฝ่ายสนับสนุนตน(ฝ่ายตน)และฝ่ายต่อต้านตน(ฝ่ายศัตรู)
๒๖๖ เป็นกาฝากแฝงกายในเผ่าพันธุ์จึงทำให้เผ่าพันธุ์มีมลทิน ไม่บริสุทธิ์และต้องได้รับการชำระโดยเร็ว
๒๖๗ วิธีการชำระไม่จำกัดวิธีตั้งแต่อธิบายให้ฝ่ายศัตรูเปลี่ยนทัศนคติให้มีเป้าหมายเดียวกับเรา
๒๖๘ ศัตรูที่กลับใจเปลี่ยนทัศนคติมามีเป้าหมายเดียวกับเราแล้วเราจะเรียกเขาว่า คู่แข่งขันที่มีเป้าหมายเดียวกัน
๒๖๙ และคู่แข่งที่มีความคิดเห็นแบบเดียวกับเรา เราจะเรียกเขาว่า ฝ่ายสนับสนุนที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ
๒๗๐ เมื่อใดเขาเหล่านั้นยอมศิโรราบแก่เราทั้งกายและใจ เราจะเรียกเขาว่า ฝ่ายสนับสนุนตน
๒๗๑ หากศัตรูไม่เปลี่ยนทัศนคติสิ่งที่เขาจะได้รับคือความตายหรือการเนรเทศออกจากดินแดนของพวกเรา
๒๗๒ หากเห็นว่าฝ่ายศัตรูต้องการเวลาในการตัดสินใจเราจะคุมขังเขาไว้เป็นระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นเพื่อศึกษาแนวความคิดของพวกเรา
๒๗๓ และเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะจงรักภักดีเขาจะต้องดื่มน้ำสาบานทุกทุกเดือน นั้นเพราะเขามาจากฝ่ายศัตรูหรือดินแดนของศัตรู
๒๗๔ คำสาบานจะเป็นไปในทำนองว่า เขาจะตายภายในสามวันหากเขาทรยศต่อเรา
๒๗๕ ทั้งนี้ต้องเข้าใจเพิ่มอีกว่า ทรัพยากรในดินแดนของเราและของศัตรูมีจำกัดทั้งที่ดินและอาหาร
๒๗๖ แต่ประชากรของทั้งสองฝ่ายมีแต่จะเพิ่มขึ้น
๒๗๗ วิธีที่ดีที่สุดคือลดจำนวนประชากรทั้งสองฝ่ายลงอย่างละครึ่ง
๒๗๘ ด้วยความตายหรืออพยพไปอยู่ดินแดนอื่นเช่นดินแดนของศัตรู
๒๗๙ เหตุผลเดียวคือเมื่อไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตใดใดได้อีกแล้ว
๒๘๐ โดยที่สุดแล้วมักหนีไม่พ้นสงครามไม่ว่าจะกลางเมือง, นอกเมืองหรือในเมือง
๒๘๑ เพราะสงครามคือคำตอบสุดท้าย
๒๘๒ สถานการณ์มักบังคับให้นักวิชาการฝ่ายศัตรูรวมตัวต่อต้านความรุนแรงอย่างเช่นขณะนี้
๒๘๓ มันเป็นปาหี่มันเป็นสีสันบันเทิง เพื่อสร้างความสับสนให้กับพวกโง่โง่
๒๘๔ เพียงเพื่อถ่วงเวลาให้มีความพร้อมทำสงครามมากกว่านี้
๒๘๕ เพียงเพื่อให้มวลชนส่วนใหญ่สับสนลังเลและไม่ไปเข้าข้างฝ่ายศัตรูของตน
๒๘๖ มวลชนส่วนใหญ่ที่สับสนลังเลเหมือนกับฝูงควายที่ติดปลักไม่สามารถเป็นกำลังให้กับฝ่ายใดได้
๒๘๗ ผู้บัญชาการทหารโง่โง่จะได้รับเกียรติให้อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย
๒๘๘ และเขาจะไม่ได้รับอะไรเลยหลังจากสงครามสิ้นสุด
๒๘๙ นอกจากอาหารและน้ำเพียงเพื่อให้มีชีวิตอยู่ได้อย่างอัปยศอดสูที่สุด
๒๙๐ ผู้บัญชาการทหารที่ฉลาดจะเลือกข้างเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยโดยเร็วที่สุด
๒๙๑ และนั้นคือประโยชน์ของส่วนรวมด้วย
๒๙๒ ส่วนผู้นำมวลชนที่พ่ายแพ้เขาจะได้รับอาหารและน้ำและอยู่อย่างมีเกียรติท่ามกลางมวลชนที่พ่ายแพ้
๒๙๓ ส่วนผู้นำมวลชนที่ชนะเขาจะได้รับทรัพย์สมบัติของฝ่ายตรงข้ามพร้อมกับการอวยยศที่สูงขึ้น
๒๙๔ และจะมีสิทธิ์เลือกผู้หญิงงามที่ตนพอใจมาเป็นแม่พันธุ์เพื่อกำเนิดบุตรที่เข้มแข็งโดยไม่จำกัดจำนวน
๒๙๕ เอาหละขอเข้าเรื่องปฏิทินบ้าง
๒๙๖ การนับแบบปักขคณนาเป็นการนับดิถีจันทร์(มูนเฟส)
๒๙๗ จันทร์เพ็ญ(มูนเฟสเป็นร้อย) จันทร์ดับ(มูนเฟสเป็นศูนย์)
๒๙๘ แต่ละเดือนมีสามสิบดิถีบ้าง ยี่สิบเก้าดิถีบ้าง
๒๙๙ จำนวนวันของเดือนทางจันทรคติน้อยกว่าจำนวนวันของเดือนทางสุริยคติ
๓๐๐ เพราะฉะนั้นบางปีจึงเพิ่มเดือนทางจันทรคติอีกหนึ่งเดือนเป็นสิบสามเดือน
๓๐๑ เรียกว่าวางอธิกมาสและไม่จำกัดว่าต้องเป็นเดือนแปดเท่านั้น
๓๐๒ ส่วนอธิกวารไม่ต้องกังวล กระดานปักข์จะเพิ่มขึ้นให้เองโดยอัตโนมัติ(อัจฉริยจริงจริง)
๓๐๓ แต่ละเดือนแบ่งเป็นสองปักข์คือข้างขึ้นและข้างแรม
๓๐๔ ข้างขึ้นมีสิบห้าวันบ้าง สิบสี่วันบ้างถือเป็นหนึ่งปักข์ เรียกว่า สุกขปักข์
๓๐๕ ข้างแรมมีสิบห้าวันบ้าง สิบสี่วันบ้างถือเป็นหนึ่งปักข์ เรียกว่า กาฬปักข์
๓๐๖ วิธีการนับจะนับด้วยปากและมีกระดานปักข์เป็นตัวช่วย
๓๐๗ วิธีการคำนวณจะแยกไปเขียนต่างหากโดยจะเปิดเผยซอสต์โค้ดและปรับเปลี่ยนสูตรจากที่เคยนำเสนอแล้วนิดหน่อย
๓๐๘ กระดานปักข์มีห้าหมวดได้แก่ สัมพยุหะ, พยุหะ, สมุหะ, วรรค และปักข์
๓๐๙ แต่ละหมวดมีสองแถวคือแถวบนและแถวล่าง
๓๑๐ ยกเว้นหมวดสัมพยุหะมีแถวเดียว แต่ละแถวมีจำนวนต่างต่างกันไป
๓๑๑ วิธีการเดินปักข์เราอธิบายไว้แล้วไปอ่านเพิ่มกันเอง
๓๑๒ ต้องระลึกไว้ว่ากระดานปักข์ต้องมีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด
๓๑๓ เพื่อเปรียบเทียบกับปฏิทินทางสุริยคติเช่นปฏิทินเกรกอเรียน
๓๑๔ จากการคำนวณด้วยเครื่องคิดเลขCASIO รุ่น CFX 9850G คำนวณได้ว่า
๓๑๕ กระดานปักข์มีวงรอบ 793 ปี
๓๑๖ คิดเป็นวันได้ 289577 วันโดยมีจุดเริ่มต้นคือ
๓๑๗ จุดเริ่มต้นเริ่ม ที่วันเสาร์แรมหนึ่งค่ำ เดือนยี่ซ้ำ ปีเถาะ
๓๑๘ สัปตศก 1097 ร.ศก -46 (ก่อนรัตนโกสินทร์ศก 46 ปี)
๓๑๙ ตรงกับวันที่ 28 มกราคม ค.ศ.1736 (ปฏิทินเกรกอเรียน)
๓๒๐ รหัสปักข์คือ 1ก1ก1(ใช้สำหรับวางตำแหน่งในกระดานปักข์)
๓๒๑ จุดสุดท้าย คือ วันเสาร์ขึ้นสิบสี่ค่ำ(จันทร์เพ็ญ) เดือนสิบสอง ปีมะโรง
๓๒๒ สัมฤทธิศก 1890 ร.ศก 747
๓๒๓ ตรงกับวันที่ 27 พฤศจิกายน ค.ศ. 2528 (ปฏิทินเกรกอเรียน)
๓๒๔ รหัสปักข์คือ กฐ10ษ3ห (ใช้สำหรับวางตำแหน่งในกระดานปักข์)
๓๒๕ ความแม่นยำอยู่ที่ร้อยละ 98.75* หมายความว่าทุก 80 ปีจะคลาดเคลื่อนกับปฏิทินเกรกอเรียน 1 วัน
๓๒๖ ต้องคอยเทียบวารอาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ กันใหม่
๓๒๗ แต่โปรแกรมของเราใช้ได้รวดเดียว 793 ปีเลยไม่ต้องเทียบวารใหม่อีก
๓๒๘ และตรงกันกับปักขคณนาสำเร็จของพระเจ้าบรมวงษเธอ กรมสมเด็จพระปวเรศวริยาลงกรณ์ ร้อยละร้อย
๓๒๙ เช่น 4ฐ1ก1 ขึ้นสิบห้าค่ำ ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 1896 ร.ศก 115 ปีวอก
๓๓๐ จะเขียนด้วยโปรแกรมเอ็กเซลหรือภาษาซีหรือภาษาชวา ก็ได้ข้อมูลตรงกัน
๓๓๑ ใช้ดูพระจันทร์ได้ทั่วพระราชอาณาจักรสยาม(รวมเขมร, ลาวและมลายูเข้าไปด้วย)
๓๓๒ ใช้เทียบดูอุปราคาได้ร้อยละร้อย
๓๓๓ แต่การคำนวณพระอาทิตย์เกินความสามารถเรา
๓๓๔ เพราะไม่รู้จะไปหาเอกสารอ่านที่ไหน
๓๓๕ เคยไปขอความช่วยเหลือจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่มีความเชี่ยวชาญด้านการคำนวณอุปราคา
๓๓๖ ก็ได้รับความหงุดหงิดกลับมา ไม่รู้จะหวงไว้หาสวรรค์วิมานอะไร
๓๓๗ แต่ก็ทำให้เราไปพบเอกสารสำคัญที่กล่าวถึงความคลาดเคลื่อนของศักราชความว่า
๓๓๘ “พระพุทธโคดมปรินิพพานเมื่อ 483 ปีก่อนคริสต์กาล” (สี่ร้อยแปดสิบสามปี)
๓๓๙ (หนังสือ วันวาร กาลเวลาและนานาศักราช, หน้า79 รวบรวมโดย วินัย พงศ์ศรีเพียร)
๓๔๐ ได้ข้อเท็จจริงจากการขุดค้นทางโบราณคดีและถ้าเรื่องนี้เป็นจริง
๓๔๑ ทำให้คิดได้สองด้านคือ คริสต์ศักราชคลาดเคลื่อน
๓๔๒ เช่น ปี พ.ศ.2557-483=ปี ค.ศ.2074 ไม่ใช่ ปี ค.ศ.2014 อย่างที่นับปัจจุบัน
๓๔๓ ถ้าพุทธศักราชคลาดเคลื่อน
๓๔๔ เช่น ปี ค.ศ.2014+483=ปี พ.ศ.2497 ไม่ใช่ ปี พ.ศ. 2557 อย่างที่นับปัจจุบัน
๓๔๕ นั้นหมายความว่า จากนี้ไปอีกสามปีจะเข้าสู่กึ่งพุทธกาล
๓๔๖ และถ้าได้อ่านพุทธทำนายช่วงกึ่งพุทธกาลซึ่งก็สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมาก
๓๔๗ ขอสรุปสั้นสั้นได้ว่า(ไปหาอ่านเอาเอง)
๓๔๘ ศีลธรรมจักเสื่อมทราม จักเกิดสงครามความขัดแย้ง
๓๔๙ หรือ กุมารีจะวิ่งหาผัว เจ้าอาวาสเจ้าหัว(ข้าราชการ)จะหาเงิน
๓๕๐ ฉะนั้นยิ่งเป็นการสนับสนุนให้เกิดสงครามได้อย่างแน่นอน
๓๕๑ และฝ่ายที่พร้อมย่อมมีแนวโน้มที่จะชนะสงครามมากกว่าฝ่ายที่ยังไม่พร้อม
๓๕๒ การหลงเชื่อนักวิชาการที่โง่เขลา ที่มีลักษณะชื่นชอบไมโครโฟนมากกว่าปากกา
๓๕๓ เอาแต่พล่ามและยัดเยียดความสับสนให้กับสังคมส่วนใหญ่
๓๕๔ โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องและสถานการณ์
๓๕๕ เขาจะได้รับเกียรติเยี่ยงผู้บัญชาการทหารโง่โง่คนหนึ่ง
๓๕๖ และได้รับปริมาณเพียงครึ่งเดียว
๓๕๗ และถูกเชิญให้อาศัยในเกาะที่ล้อมรอบด้วยฉลามที่หิวโซ
๓๕๘ ในฐานะนักโทษการเมืองที่ต้องได้รับผลตามกฏหมาย
๓๕๙ การพูดถึงขยะพวกนี้ทำให้เราหดหู่
๓๖๐ มาทดสอบโปรแกรมที่เขียนขึ้นด้วยเครื่องคิดเลข CASIO รุ่น CFX9850G ต่อดีกว่า
๓๖๑ โจทย์1 คือ 15 เมษายน ค.ศ. 1979
๓๖๒ คำตอบ1 คือ วันอาทิตย์ แรมสี่ค่ำ เดือนห้า ปีมะแม ร.ศก 198
๓๖๓ โจทย์2 คือ 16 เมษายน ค.ศ. 1979
๓๖๔ คำตอบ2 คือ วันจันทร์ แรมห้าค่ำ เดือนห้า ปีมะแม ร.ศก 198
๓๖๕ โจทย์3 คือ 16 มิถุนายน ค.ศ. 1985
๓๖๖ คำตอบ3 คือ วันอาทิตย์ แรมสิบสามค่ำ เดือนเจ็ด ปีฉลู ร.ศก 204
๓๖๗ โจทย์4 คือ 7 ธันวาคม ค.ศ. 1978
๓๖๘ คำตอบ4 คือ วันพฤหัสบดี ขึ้นแปดค่ำ เดือนอ้าย ปีมะเมีย ร.ศก 197
๓๖๙ โจทย์5 คือ 8 ตุลาคม ค.ศ. 1982
๓๗๐ คำตอบ5 คือ วันศุกร์ แรมหกค่ำ เดือนสิบเอ็ด ปีจอ ร.ศก 201
๓๗๑ โจทย์6 คือ 22 กันยายน ค.ศ. 1989
๓๗๒ คำตอบ6 คือ วันศุกร์ แรมเจ็ดค่ำ เดือนสิบ ปีมะเส็ง ร.ศก 208

๓๗๓ สมรรถภาพทางสมอง “ผ่าน”

๓๗๔ ส่วนที่เกินกระดานปักข์นั้น ถ้าหากพุทธศาสนาและประเทศไทยยังมีอยู่คงมีผู้มากวาสนาบารมี มาทำเพิ่มเติมอย่างแน่นอน

หมายเหตุ *ขอแก้ไข ข้อ ๓๒๕ ร้อยละ 98.75 เป็น ร้อยละ 99.997เพราะ 29221 วัน คลาดเคลื่อน 1 วัน




 

Create Date : 12 มกราคม 2557   
Last Update : 21 มกราคม 2557 17:37:39 น.   
Counter : 849 Pageviews.  


1  2  3  4  5  6  7  

men of the day
 
Location :
ขอนแก่น Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ศึกษาหาและสะสมความรู้ด้วยตนเองตลอดเวลาเพื่อแยกแยะของจริงและของปลอม เพื่อแยกแยะจิตดีและจิตชั่ว เพื่อที่สุดจะเป็นอิสระจากเครื่องร้อยรัดทั้งปวงทั้งดีและชั่ว เป็นอมตะไม่มีใครควบคุมหรือบงการได้ ตราบเท่าที่ยังไม่ถึงเวลานั้นสัญญากับตนเองว่าจะศึกษาเปรียบเทียบวิจัยและนำเสนอให้ชาวโลกได้ประจักษ์ในความสามารถที่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งพึ่งมี
free counters

[Add men of the day's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com