ไร้สาระบ้างก็มีนะ..:)
 
 

เที่ยวธิเบต

เอาเรื่องที่เคยตั้งกระทู้ไปแล้ว เมื่อปีสองปีที่แล้ว จนตอนนี้กระทู้หายเกลี้ยงไปแล้ว มาลงบล็อกค่ะ..



- เริ่มต้นที่เกี๊ยวน้ำสูตรเซี่ยงไฮ้..(เกี่ยวไหมเนี่ย..)
พอดีไปถึงที่สนามบินเซินเจิ้น..ยังไม่ได้กินไรเลย..หิวมาก เลยลองสั่งเมนูนี้ดู
ราคา 35 หยวน..(ถูกสุดแล้วนะเนี่ย..)
ก่อนกิน หิวจนตาลาย..กินเสร็จ จ่ายตัง ก็หน้ามืด ตาลาย..แหะ..แหะ



- จากเซินเจิ้น บินไปที่เฉิงตู เพราะต้องไปต่อเครื่องที่นั่น ใช้เวลาชั่งโมงกะห้าสิบนาที
มาถึงเฉิงตู ดึกพอดี..ไม่ได้ไปไหนเลย. นั่งรถเข้าที่พักเตรียมตัวเดินทางพรุ่งนี้เช้า

ที่พักดีคะ..ดูราคาแล้วคืนละ 460 หยวน พร้อมอาหารเช้า แพงเหมือนกัน
แต่ไม่ได้สนใจ เพราะจ่ายไปแล้วกะทัวร์ ขืนให้พักไม่ดีดิ..ฮึ่มม..
(ไม่รู้จะไปทำไรเค้าอะ..อิอิ.)



.......



- รายละเอียดเล็กน้อยเกี่ยวกับที่ท่องเที่ยวในเฉิงตู
..อยู่ในมณฑลเสฉวน
..มีศูนย์เลี้ยงแพนด้า
..วัดฉิงหยาง ได้ชื่อว่าเป็นวัดลัทธิเต๋าที่เก่าแก่ที่สุดในเฉิงตู
..วัดเหวินซู มีพระพุทธรูปหล่อด้วยเงิน บรอนซ์ และแกะสลักด้วยไม้ เป็นร้อย
..ใครชอบธรรมชาติก็ไปที่หวงหลง วิวสวย ได้รับการยกย่องจากยูเนสโก ให้เป็นมรดกโลกในปี 1992

รู้แค่นี้อะ..หุ..หุ


- เช็คของจำเป็นเล็กน้อยก่อนนอน พรุ่งนี้จะได้ไม่ลืม
.. วีซ่าเข้าธิเบต 


.. ยาเพื่อการปรับตัวในที่ที่ความดันต่ำ มีขายที่เฉิงตู สำหรับคนที่จะไปเที่ยวธิเบตโดยเฉพาะ
จะเห็นว่ามีภาษาธิเบตด้วย กล่องละ 36 หยวน
คนจีนเค้ายังนิยมอีกอย่าง คือกระทิงแดง (เย้..) ที่นั่นขายกระป๋องละ 7 หยวน มีขายทั้งที่เฉิงตู และที่ธิเบต.



- ตอนเช้ารีบออกเดินทาง เลยไม่ได้กินอาหารโรงแรม..
ไกด์บอกว่า ไม่ต้องห่วงกิน ให้ไปกินบนเครื่อง T_T"

- อาหารบนเครื่องบิน สายการบินจีนส่วนมาก เป็นอาหารกล่อง
คือว่า มาเป็นกล่องจริง ๆ หึ..หึ.. ไม่หร่อยด้วยอะ.


- ภาพวิวที่ถ่ายบนเครื่องบิน ตอนจะบินไปธิเบต ไม่กล้าถ่ายมาก เพราะโดนแอร์ดุ ^^"
เค้าเคร่งครัดมาก ห้ามเปิดอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด(
ไม่รู้เปิดเครื่องคิดเลขจะโดนห้ามป่าวเนี่ย..ติดตามต่อไป เดี๋ยวมีห้ามอีก..หุหุ..)
วิวมันสวยเลยแอบถ่ายมาอะ..อิอิ



ซูม ๆ..



อีก ๆ..



ซูมด้วย.. :)



มีอีก..นี่ออกแนวแห้งแล้ง..



อีกหนึ่ง..พอและ..(นี่ขนาดโดนด่านะเนี่ย..อิอิ..(โทษทีค่า..))



- ถึงแล้วน้อ..สนามบินลาซา ธิเบต สนามบินนี้มีอยู่สี่เกท พอลงจากเครื่อง เข้าสนามบิน
สิ่งแรกที่เห็นมีขายที่ทางออกคือ กระป๋องอ็อกซิเยน กับ ยา "หงจิ่นเทียน" อ่านหยั่งงี๊ป่าวหว่า..



- ตอนไปถึงแรก ๆ ยังไม่ค่อยมึนเท่าไหร่ ยังตื่นเต้นอยู่..อิอิ..
นี่เป็นรูประหว่างทาง นั่งรถจากสนามบิน เข้าไปในเมือง
ที่นี่กลางวันร้อน แดดแรง แต่กลางคืนหนาว อุณหภูมิต่างกันมาก


.......


- ตามทางผ่านที่ท่องเที่ยวแห่งนึง เลยแวะไปถ่ายรูป
เป็นพระพุทธรูปแกะสลักหิน มีความสูงราวแปดเมตร แกะสลักอยู่ที่หน้าผาด้านเหนือของภูเขาเนยถาง
ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองลาซา



- เดินทางต่อไป..
ถึงแล้วที่พักสุดหรูอลังการ.. หุหุ.. ห้องโถงสวย ห้องก็ดูดี
แต่มีนโยบายเปิดน้ำอุ่นตอน สองทุ่มถึงเที่ยงคืนเท่านั้น..นอกนั้นก็เย็นเจี๊ยบ..เท่ากันตลอด



..ภาพบนเพดาน



- ไกด์บอกว่า วันนี้ให้นอนพักไปก่อน เพราะส่วนใหญ่แล้วจะเริ่มมีอาการมึน ๆ
เพราะอากาศไม่พอกันตอนเย็น ๆ ของวันที่มาถึง ..

แต่ว่า..เรื่องอะไรจะเสียเวลานอน..มาเที่ยวแล้วนี่นา
นี่ก็เพิ่งจะบ่ายสอง ออกไปลุยซะหน่อยซิ.. อิอิ

บรรยากาศข้างทาง..
นี่จะอยู่ในแถบตัวเมือง มีบ้านคนเยอะหน่อย ..
ถ้าออกไปไกล ๆ หน่อยก็จะเห็นบ้านของคนที่นี่ ซึ่งมีลักษณะเฉพาะ

แบบที่เป็นตึกแบบบ้านเราก็มี แต่น้อย เพราะเค้าว่า ชอบอยู่บ้านแบบลักษณะดั้งเดิมมากกว่า
ซึ่งอาจจะเป็นเพราะสภาพอากาศก็ได้



.......



คนที่นี่ชอบเลี้ยงหมา แล้วก็จะมีหมาที่เป็นพันธุ์พื้นเมืองของที่นี่
ไม่รู้ว่าเค้าเรียกว่าพันธุ์อะไร แต่รู้ว่าตัวใหญ่มาก และไม่ควรเข้าไปใกล้
เพราะอาจโดนงับหัวเอาได้..^^"



(ผมเป็นหมาน้อยคับ..)



ที่นี่มึดช้ามาก ตอนสามทุ่มฟ้ายังสว่างอยู่เลย..
ภาพนี้ตอนราว ๆ สามทุ่มกว่าจะสี่ทุ่ม ..ฟ้าเริ่มมืด



วันนั้นเหนี่อยมาก..รู้สึกหายใจไม่ทัน..
(ไม่น่าซ่าออกมาเดินเล่นเลยตรู..T_T)

ข้อควรระวัง.. วันแรกมาถึงควรจะพักผ่อนดีกว่า ไม่งั้นจะแบ็บเอาง่าย ๆ
.. กินน้ำบ่อย ๆ แต่กินทีละน้อย ๆ
.. ควรทำอะไรช้า ๆ..ไม่ต้องรีบ..เด๋วจะวูบ

 

ถังอ๊อกซิเยน 20 หยวน
(เลยต้องซื้อมานอนกอดเล่นซะสองถัง)


.......

.......



วันที่สอง นั่งรถไปดูวิวรอบ ๆ แถบชานเมืองและจุดชมวิว

บนยอดภูเขาคงจะเป็นหิมะ..



บ้านบางส่วนก่อสร้างเป็นแบบสมัยใหม่ แต่ยังใช้อิฐบล็อกแบบเก่าอยู่



นั่นฝูงแกะดำ..



คนพื้นเมือง บางคนเลี้ยงม้า ให้นักท่องเที่ยวขี่
ราคาไม่แพง 10 หยวน จะขี่ไปไกลแค่ไหนก็ได้..

(ลองขี่มาแล้ว..อิอิ มีรูปถ่ายด้วย แต่ไม่เท่ห์เพราะหยุดทัไร ม้ามันคุ้ยหญ้ากินทุกที..-_-")



คนที่นี่น่ารัก..อัธยาศัยดีมากเลย..:)


นี่ก็ฝูงจามรี ..
ที่นี่มีแต่วัวแบบนี้ เค้าเลี้ยงไว้ กินเนื้อ กินนม น้ำนมบางส่วนเอาไปทำเป็นเนย หรือโยเกิต
ซึ่งถือเป็นอาหารที่เค้ากินประจำ..(ลองแล้ว อร่อยดี..อิอิ)



ตอนบ่าย ไกค์บอกว่าจะพาไป "โพตาลากง"(Potala Palace)
แต่ว่าโดนหลอกอะ..พาไปลงข้าง ๆ แล้วไกด์หายไปกะอีกกรุ๊ปนึง
บอกว่าจะไปซื้อตั๋วเข้า อีกชั่วโมงกว่า ๆ กลับมาบอกว่า ไว้ไปพรุ่งนี้ละกัน
ตั๋วเข้าของวันนี้ไม่มีแล้ว..หืมม..ไกด์ก็โดนด่าไปตามระเบียบ
จากกลุ่มคนจีนที่ไปด้วยกัน..

ไกด์บอกว่า ให้ไปเดินเล่นแถว ๆ นี้ รออีกกรุ๊ปนึงที่ซื้อตั๋วเข้าไปดูได้
ออกมาก่อนแล้วค่อยกลับพร้อมกัน เลยแยกย้ายกันเดิน


ถ่ายได้แต่ด้านนอก..


.......


มีระฆัง..ที่เชื่อกันว่าหมุนแล้วจะโชคดี



ด้านนอกมีคนแต่งชุดพื้นเมือง เดินสวดคาถา
ที่มือก็ถืออุปกรณ์ที่หมุนแกว่ง ๆ ได้ ใช้ในการสวด
(ไม่รู้เรียกว่าอะไร..) บ้างก็นับลูกปะคำ.. บางคนก็เดินไปสามก้าว
แล้วก็ก้มลงกราบให้หน้าผากจรดพื้น ..



รูปนี้ถ่ายจากที่สูง..นิดนึง ..อิอิ..
แต่กว่าจะขึ้นไปได้ หน้ามืดเลยอะ..เหนื่อยมาก.. หายใจมะทัน..



คิดว่าเดินต่อไปไม่ไหวแน่ ๆ เลยกลับไปรอคนอื่นที่รถ ..
ไปถึงไกด์บอกว่า กรุ๊ปที่อยู่ที่โรงแรมเดียวกันเค้ากลับกันไปหมดแล้ว..(ไรฟะ..?)

แล้วให้ตังเรามาสิบหยวน เขียนที่อยู่ให้ แล้วให้เรานั่งรถสามล้อกลับไปเอง (ฮ่วย..)

ข้อคิด..ของที่นี่ถูก ปั่นสามล้อตั้งไกล ได้แค่สิบหยวน
ไอ้เราแค่เดิน..ยังหอบ

.. ไม่ควรซ่าตั้งแต่วันแรกเพราะวันต่อไปจะซ่าไม่ออก
.. กระทิงแดงหาได้ทั่วไปที่นี่
.. ควรเลือกทัวร์ดี ๆ (ถ้าไปกะทัวร์) เพราะถ้าเจอไกด์แบบนี้ ..
รับหลายกรุ๊ป อาจทำให้เราต้องนั่งสามล้อกลับโรงแรมเองได้..
(ดีนะ..ที่ยังให้ตังมาตั้งสิบหยวน..)


ต่อ ๆ..:)

วันต่อมา นี่แหละที่คิดว่าทัวร์จริง ๆ หน่อย
ไปวัดจ๊กหัง (Jokhang Temple) ด้านหน้าประตูทางเข้า จะมีการขายเครื่องสักการะ
มีคนมาทำพิธีสักการะตามแบบดั้งเดิม..




.......



รูปบัตรผ่าน..เป็นซีดีรอมด้วยนะ..


มีซีดีรอมแนบมาด้วย..



เหนือประตูทางเข้า จะเห็น "วงล้อจักระ" ขนาบข้างด้วยกวางสองตัว
ซึ่งแสดงถึงความเป็นเอกภาพ



วัดจ๊กหัง เป็นวัดที่เก่าแก่ และมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ..
นี่เป็นรูปด้านใน ส่วนโถงกลาง


.......


.......รูป


.......



.......รูป



ส่วนด้านใน ห้ามถ่ายรูปอะ..เลยไม่มีรูปมาฝาก..

วันที่ไปคนเยอะมาก.. ข้างในวัดสวยแบบแปลก ๆ ดูลึกลับ
อาจจะเป็นเพราะว่าเคยชินกับวัดบ้านเรามั๊ง..
ส่วนกลางของวัดด้านใน เป็นที่ประดิษฐาน รูปปั้นองค์พระศักยมุนี
มีตำนานว่า เมื่อพระองค์ทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ ทรงไม่เห็นด้วยกับ
การบูชาสักการะบุคคล จึงไม่ทรงอนุญาตให้มีการปั้นรูปเหมือนของพระองค์
แต่มีแค่เพียงสามรูปปั้นเท่านั้น ที่ทรงอนุญาต ในช่วงที่
ยังคงมีพระชนม์ชีพอยู่
คือรูปปั้นเมื่อพระองค์ทรงมีพระชันษา 8 พรรษา
รูปที่สองเมื่อพระชันษา 12 พรรษา ในขณะที่ยังทรงดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าชาย
และรูปปั้นที่สาม เมื่อพระองค์ทรงเติบใหญ่
และรูปปั้นที่อยู่ในวัดนี้ก็เป็นหนึ่งในสามรูปปั้นนั้น


ถ่ายจากส่วนโถงของชั้นสอง..



.......



ถ่ายจากระเบียงชั้นสองของวัด..



.......



.......รูป



เดินต่อไปใกล้ ๆ กับวัดจ๊กหัง จะเป็นถนนช็อปปิ้ง ของนักท่องเที่ยว
มองจากชั้นสองของวัดก็เห็นนะ..ขายพวกเครื่องประดับ..ของฝาก
เยอะมาก.. ต่อราคาได้ เพราะส่วนใหญ่ตั้งราคาไว้สูง..
อันนี้ไกด์บอกมา..อิอิ.. ต่อได้ประมาณ 50% อะ
ของฝาก..
.. หินสี..อัญมณี.. ถ้าเป็นของแท้จะแพง..แต่ต้องดูดี ๆ นะ..
.. เครื่องเงิน
.. มีดเงิน.. มีทั้งแบบมีดสั้น และดาบ แกะสลักปลอกมีดสวยมาก..
ซึ้อเป็นของฝากของโชว์ได้ เพื่อนคนจีนไปซื้อมา ต่อราคาซะน่าตกใจ มากกว่า 60, 70%
แต่ก็ซื้อมาได้แฮะ..อิอิ.. ส่วนเราก็ซื้อของปลอมไปละกัน.. เล่มละ 15 หยวน สวยดี ถ้าตั้งโชว์ไว้เฉย ๆ คงไม่รู้ ถ้าไม่จับ..อิอิ.. มีข้อแม้ตอนจะเอากลับ
เพราะเค้าไม่ให้เอาขึ้นเครื่องบิน.. โหลดเข้าใต้เครื่องก็ไม่ได้
..(โดนมาแล้ว..เลยรู้..หึหึ..เค้าเอาเข้าเครื่องเอ็กเรย์หมด)
ต้องส่งไปรษณีย์กลับลูกเดียว ที่ส่งก็อยู่ใกล้ ๆ ตลาดนั้นแหละ..
EMS อย่างเร็วก็อาทิตย์นึง ถ้ารอได้ก็ส่งแบบธรรมดา 3 เดือนถึง..
.. เครื่องประดับ
.. ยาสมุนไพรธิเบต


ตอนบ่ายไป "โพตาลากง" Potala Palace.. สถานที่สำคัญของที่น
ี่
ข้อแนะนำ.. ที่นี่มีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวต่อวัน
ใครจะไปต้องจองตั๋วล่วงหน้า อย่างเช่นจองวันนี้ ไปพรุ่งนี้..เป็นต้น
เพราะเข้าไปเห็นป้ายเป็นภาษาอังกฤษว่า ตั๋ววันนี้หมดแล้ว
เปิดจองสำหรับวันพรุ่งนี้



.......



ด้านในดูได้อย่างเดียว..ห้ามถ่ายรูป

การตกแต่งด้านในสวยงามมาก ใช้เป็นที่พำนักและที่ทรงงานขององค์ดาไลลามะ
การตกแต่งต่าง ๆ เป็นแบบธิเบต มีห้องต่าง ๆ มากมาย..
ตึกบางตึก มีสถูปขององค์ดาไลลามะ แต่ละรุ่น แต่ละสถูปจะปิดทอง
ประดับตกแต่งด้วยหินสีและอัญมณีของธิเบต ..



คุณตาคุณยายสองคนนี้สุขภาพยังดีมาก..
มาด้วยกันสองคนจากยูนนาน มาเที่ยวที่นี่
เค้าจะค่อย ๆ เดิน ประคองกันไป..น่ารักดี..^^

คูณตา 83 แล้ว คุณยาย 78 ..
เลยขอถ่ายรูปซะหน่อย..อิอิ



รูปนี้ถ่ายจากด้านนอก โพตาลากง..
เค้าจูงแกะมาเที่ยวอะ..^^



ตอนบ่ายเป็นช่วงเวลาของไกด์..พาไปซื้อของ..
(เนี่ยละน๊า..มากะทัวร์เนี่ย..)
ขอเล่าซะหน่อยละกัน

.. พาไปซื้อยา สมุนไพรธิเบตขึ้นชื่อ..
เค้าก็พาไปที่โรงพยาบาลอะไรไม่รู้.. มีคนมาบรรยาย..
แล้วก็เข้าไปตรวจสุขภาพ แบบโบราณนะ..
คือดูฝ่ามือ สีมือ สีหน้า..มีการจี้จุดที่ฝ่ามือด้วยอะ..
เหมือนที่เคยดูในหนังจีนเลย..
แต่แปลก ๆ ตรงที่ว่า เวลาเค้าจี้จุด จะได้ยินเสียง
เปรี๊ยะ ๆ แล้วรู้สึกเหมือนกับมีไฟช็อตอะ..
งงเหมือนกัน เค้าบอกว่าเป็นการเปิดจุด การกินยาจะได้เข้าได้ถึง..
อะไรเงี๊ย..ไม่ค่อยเข้าใจอะ..
แต่สรุปคือ..เสียค่ายาไปหลายตัง.. T_T
แต่ยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรเหมือนกัน..เพราะฟังไม่ค่อยออก..^^"


.. พาไปซื้อหิน (หินจริงๆ นะ..แบบว่ามีคนสะสมอะ..
เพราะเป็นความเชื่อเรื่องอำนาจ..โชคลาภด้วยมั๊ง)
แล้วก็ของที่ระลึก..พวกมีด.. พรมถักมือ..ภาพวาด..
ราคาที่ติดไว้โหดมาก.. แต่เค้าก็ต่อกันกระจุยเหมือนกัน..

(มะได้ซื้อของที่นี่.. แค่ซื้อยาไปก็จะไม่มีไรกินแล้วเนี่ย..T_T)


.. พาไปซื้อของกินขึ้นชื่อ..
คือเนื้อวัวจามรี แบบแห้ง มีทำเป็นแบบชิ้น ๆ แพ็คอย่างดี
บ้างก็เป็นชิ้นเล็ก ๆ ห่อเหมือนห่อลูกอม
แต่ข้างในเป็นเนื้อวัวปรุงรส มีหลายรสมาก
รสหวานก็มี แบบว่ากินแล้วไม่รู้เลยว่าที่มันเนื้อวัวอะ..
เหมือนท็อฟฟี่..ไม่รู้ทำไงดิ..

(ที่ไปมา ร้านนี้ชอบมากเลย..
เพราะเปิดให้ชิมกันไม่อั้น..อิ่มเลยเรา..อิอิ..)

ซื้อกันเยอะ..ไกด์ก็หน้าบานไปตาม ๆ กัน
(มะวานโดนด่าไปแล้วนี่เนอะ..หุหุ..)


หลังจากนั้นก็กลับที่พักละ..

ทีนี่เราก็ลุยเอง.. (พอดีวันนี้หายดีและ..
ไม่ต้องแบกถังอ๊อกซิเยน..อิอิ..)
เดินไปเรื่อย ๆ ก็เจอ ตลาดพื้นเมืองของเค้าเอง
เป็นแหล่งขายของต่าง ๆ ราคาถูกมาก คนเดินเยอะ..


.......



รูปนี้เป็นรูปรถเข็นขายเนย ที่ทำจากนมของวัวจามรี..
เค้ากินกันเหมือนเป็นอาหารประจำวันมั๊ง..
ผสมชากินก็มี ชาก็จะออกรสเค็มแปล่ม ๆ แต่เค้ากินกันรสนี้
อาหารเช้าก็จะกิน ชาเนย กับ "จันปา" (เหมือนเป็นเมล็ดพืชอะ..)
แล้วก็กินโยเกิตกัน



รูปนี้ถ่ายตอนจะสามทุ่มละ..
มืดช้ามาก..



หมาน้อยนี่..มาเดินไรแถวนี้
เดี๋ยวโดนหมาตัวใหญ่เค้างาบหัวเอาหรอก..อิอิ..
ล้อเล่นจ้า..คนที่นี่ชอบเลี้ยงหมาอะ..
มีหลายพันธุ์เลย..



รถสามล้อปั่น..เดินไปเรื่อย ๆ เจอเยอะ..พอ ๆ กะ แท็กซี่



วันสุดท้ายไม่มีโปรแกรม.. เลยออกไปหาอาหารเช้ากินเอง..

นี่เลย.. ชานม..กระติกละสามหยวน
กระปุก ๆ นั่นเป็นโยเกิต (ลองซื้อมากิน..อิอิ..)
แล้วก็ขนม คล้าย ๆ ปาท่องโก๋
แต่หวาน ๆ หอม ๆ เนยด้วย..อร่อย..



ตอนกลางวัน ลองสั่งก๋วยเตี๋ยวเนื้อมากิน..
ชามละ 4 หยวน



กลับละจ้า..
มีภาพถ่ายบนเครื่องบินตอนกลับมาให้ดูอีกเล็กน้อย..
(โดนแอร์ว่าว่าไม่ให้เปิดอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ เลยต้องเก็บกล้อง..T_T..
ขอโทษค่า..วิวมันสวยอะ..)



.......



.......รูป



.......



.......รูป




ขอบคุณคะ..
บายจ้า //

 




 

Create Date : 05 มีนาคม 2552   
Last Update : 10 พฤษภาคม 2563 8:43:14 น.   
Counter : 1166 Pageviews.  



welcomeU2
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add welcomeU2's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com