Group Blog
 
All blogs
 
หัวข้อเสวนา "นิยายรัก นิยายชีวิตของวัสตรา"2



หัวข้อเสวนา

หัวข้อเสวนา "นิยายรัก นิยายชีวิตของวัสตรา"
โดย วัสตรา (อภิญญา เคนนาสิงห์)
ดำเนินการเสวนาโดย บก.จำเนียร พลสวัสดิ์



วัสตรา ก็ไม่แน่ใจนะคะ เท่าที่สัมผัสเพื่อนฝูงกันมา ก็จะบอกว่าล่วงเลยมาถึงเลขสี่เข้าไปแล้ว บางคนก็ยังไม่มีผู้ชาย ไม่มีความรัก ไม่มีอะไร อันนี้หล่ะเราต้องถาม ขอถามเขาว่า อย่างหาว่าเราทะลึ่ง ลามกอะไร อยากรู้ ว่าอยู่มาจนปานนี้แล้วเธอคิดอะไรกับผู้ชายไหม เคยรู้สึกอะไรกับผู้ชายไหม เห็นผู้ชายเขาจูงมือกัน กอดกันแล้วเรารู้สึกอย่างไร ซึ่งเพื่อนก็จะบอกว่าไม่รู้สึก เราก็บอกว่าอยากโกหกบอกความจริง เขาก็บอกว่าไม่รู้สึกอะไร เราก็จะอนุมานว่าอยู่มาปานนี้แล้วไม่รู้สึกอะไรก็คงไม่มีอะไรมั้ย

จำเนียร นี่เป็นจุดหนึ่งที่เขียนม่านรักไฟเสน่หา สะท้อนภาพของผู้หญิงที่ล่วงเลยมาพอสมควรแล้วว่าจะรู้สึกนึกคิดอะไรจริงแล้วทุกคนก็มีความรู้สึกนึกคิด แล้วแต่ว่าใครจะควบคุมความรู้สึกของตนได้แค่ไหนด้วยความแตกต่างจากประเทศอื่น มีกรอบของจารีต ประเพณี สังคม กฎหมายศีลธรรมของสังคมอยู่ แต่เรื่องนี้คืออยากจะสื่อว่า ถ้าผู้หญิงในวัยนี้ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้แล้วเขาจะเป็นอย่างไร

วัสตรา จริง ๆ แล้วถ้าผู้หญิงในเรื่องนี้ ไม่มีกรอบ ไม่มีประเพณี หรือว่าไม่มีความกลัวควบคุมเขาก็จะไปได้เรื่อยเปื่อยผู้หญิงวัย ยี่สิบเจ็ด ในปัจจุบันธรรมดามากเลย อยากอายุ สามสิบ สามสิบห้าขึ้น เขาก็ยังแต่งงานได้เลย แต่ว่าที่เราวางตัวละครไว้เป็นสาว เพราะว่าตั้งแต่เราเรียนจบมา สิ่งที่เกิดกับผู้หญิงคนนี้ สองสามปีไม่ว่าจะเป็นคนนี้หรือว่าตกงาน การค้นพบความเป็นจริงแห่งชีวิต ช่วงหนึ่งที่เธอเข้าใจผิดกับแม่ของเธอ แม่มีหน้าที่หาเงินให้ มีหน้าที่ส่งเสียให้เรียน จนเมื่อวันนี้ ความลับของแม่เปิดเผย จริง ๆ แล้วแม่ไปเป็นเมียน้อยเมียเก็บของเสี่ยใหญ่ ซึ่งจริง ๆ แล้วคนส่วนใหญ่ สี่สิบกว่าเป็นเมียน้อยมีเหตุผลอะไร จริงๆ แล้วการมีเมียน้อย เมียหลวงมีมานานแล้ว พอนางเอกเขารู้ว่าลับของแม่แล้วเขาก็ยอมรับไม่ได้ ก็ไปเลยไม่มีใครควบคุม ความรู้ผู้ชายที่เขาคบ มอบทั้งกายและใจให้หมดเลย ทั้งๆ ที่ไม่รู้จักความรู้ว่าความรักคืออะไร ความใคร่คืออะไร พอมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนนี้แล้ว ก็รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองรู้จักน้องชาย น้องสะใภ้มันคือความรักหรือความใคร่ เธอก็ไม่รู้ว่ามันไม่ใช่ แต่ก็ยังคบหาอยู่ แต่คราวนี้พอรู้สึกความมันไม่ใช่อยากที่เธอคิดต้องการเธอการแสวงหาเพิ่มเติมโดยที่ไม่ได้ค้นหาที่ไหน แต่ด้วยหน้าที่การงานที่เธอทำทำให้เธอไปเจอกับผู้ชายที่สมบูรณ์แบบคือหน้าที่การงานดี หน้าตาดี เป็นผู้ใหญ่

จำเนียร ซึ่งคนนี้ก็น่าจะสมบูรณ์แบบกับการเป็นครอบครัว

วัสตรา แถมเมื่อความสัมพันธ์กันแล้ว เธอสามารถตอบว่าใช่ สิ่งที่เธอสงสัยมาตลอดระหว่าง เธออยู่ในบ้านใช่แล้วหล่ะ แต่จิตใต้สำนึกก็บอกให้เธอรู้สึกว่าไปเป็นมือที่สาม ของครอบครัวอื่นนี้แหละที่ให้เธอถูกขีดคั้นไว้ตรงนี้

จำเนียร ปรากฏว่าสิ่งที่เธอต้องการก็ไม่ใช้สมบูรณ์ถึงตรงนี้ คนที่คิดว่าจะเป็นคู่ชีวิตหรือเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์

วัสตรา ก็คิดว่าความฝันของชีวิตผู้หญิงคนหนึ่ง คือ อยากได้ผู้ชายที่ดีที่สุด สมบูรณ์แบบที่สุด เรื่องความสัมพันธ์อันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ใช้ได้ แต่ที่ไม่ได้คือ เธอไปเป็นมือที่สามของคนอื่นเขา ว่าในเนื้อเรื่องตรงนี้มีบ้านใหญ่บ้านเล็กมาตบตีกันไหม ตอบว่าไม่มี มันคลาสสิกว่าตรงนั้น มันเป็นเรื่องของจิตสำนึก พอถามผู้ชายว่าทำไมถึงอยากมีเมียน้อยเราเขาก็ให้เหตุผลดีมาก ตรงที่ว่าเขาก็มาจากการคลุมถุงชน แล้วบังเอิญมาเจอกับผู้หญิงคนนี้เขาก็คิดว่าใช่ ถึงกันธิชาจะไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีมาจากไหน แต่ความเป็นแม่บ้านแม่เรือนก็พอได้ ก็เพราะเธอเขามาชดเชยตัวเองด้วยการจัดบ้านกระจุกกระจิก จึงทำให้ผู้ชายคนที่สองของเธอชอบ อยากได้เพราะฉะนั้นมันไม่มีทางออก แล้วเราจะอยู่กันอย่างนี้ดีไหม หาบ้านให้อยู่กันเพื่อนความสบายใจแบบนี้

จำเนียร ฟังดูแก่นของเรื่องก็หนักหน่วงเหมือนกัน เพียงแต่ว่าวิธีการนำเสนออ้างจะมีรูปแบบสีสันให้ผ่อนคลาย อาจจะไม่ใช่เป็นหนังสือ วิชาการ กล่าวถึงเรื่องครอบครัวหรือปัญหาหลากหลาย จะว่าไปนิยายก็เหมือนกับเรื่องอ่านเล่น ทุกคนว่าจะเอาอะไรแต่ในนิยายแต่ความรู้สึกตรงนี้ เราอาจจะอ่านเรื่องราวที่หนัก ๆ แล้วก็สามารถนำมาประยุกต์กับชีวิต เท่าที่ฟังจากคุณแววพูดถึงหนังสือ ที่ผ่านมาตรงนี้แล้ว ก็อยากทราบถึงการแบ่งเวลาในการทำงานอย่างไร พอเห็นว่าก็มีตัวเล็ก ๆ ค่อนดูแลอยู่เหมือนกัน ใช้เวลาการทำงานอย่างไร

วัสตรา ส่วนใหญ่ถ้าจะพูดถึงการทำงานที่ทำอยู่ในนามปากกา วัสตรา ส.เสือ ที่สองสามปีจะออกมาทีกับสำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์นก็ยังมีงานในนามปากกาอื่นก็มีกันทิมาที่ใช้ในงานแนวมิติมหัศจรรย์ กับนามปากกาวัตตรา ที่สะกดด้วย ต.เตา นะคะก็มีเหมือนกัน ถ้าวัสตรา ส.เสือจะเป็นสะท้อนสังคมแน่นอน แต่ถ้าเป็น ต.เตาจะเป็นงาน Comedy คืองานสนุกสนาน ก็ดูว่าคนที่เขียนเรื่อง หนัก ๆ เมื่อเขียนอะไรที่สนุกสนานแล้วจะเป็นอย่างไร อย่างเรื่องมหัศจรรย์เป็นเรื่องเกี่ยวกับเรื่องเหลือเชื่อ เกินจริง ซึ่งบางทีเราก็อยากจะหลุดออกไป เหมือนกัน อยากเรื่องจิตวิญญาณ แต่ถ้าถามว่าในนามปากกาของ กันทิมาออกมามากนั้น มันก็จะไม่มากได้เพื่อบางทีเราเขียนก็ต้องนึกตลาดอยู่เหมือนกัน อย่างเช่นงานของประพันธ์สาส์นจะเขียนอะไรก็ต้องคุยกันก่อนมีมุมมองที่สะท้อนหนังสืออยู่ทางตอนนี้ งานรายปักษ์ก็มีทำอยู่ว่าในสัปดาห์หนึ่งต้องทำงานให้ได้ 3 อย่าง ถ้าจะทำในเล่มใหญ่ก็ต้องทำ ตื่นแต่เช้าตีสี่ทำงานเสร็จ ส่งเด็กไปโรงเรียนแล้วก็กลับมาทำงานต่อ

จำเนียร มันต่างกันไหมกับงานเขียนที่ลงนวนิยายที่ลงตามหน้านิตยสาร ซึ่งบางทีที่เราเขียนไปแล้วต้องปิดท้ายให้จบแต่ละสัปดาห์กับการเขียนตั้งแต่ต้นจนจบพอจะเขียนโครงเรื่องทั้งหมดจะทิ้งไว้ สองสัปดาห์แล้วมาตกแต่งใหม่

วัสตรา ถ้าเป็นงานที่เราตั้งใจว่าเขียนให้เป็นเล่มทีเดียวจบเลยนั้น บางทีเราก็เขียนได้เรื่อย ๆ แต่พอตอนเราจะทิ้งความอยากในแต่ละตอนนั้นไว้ ว่าตอนหน้าจะเป็นอย่างไร ก็เว้นไว้สักวันสองวันเราก็มาเขียนต่อ บางทีเราก็รู้สึกนึกสนุก แต่เราก็จะทิ้งเอาไว้ก่อน ส่วนใหญ่ที่เราทำงานเราก็จะแบ่งเอาไว้ว่าเราจะทำอะไร กว่าจะเวียนมาถึงเรื่องนี้เราก็จะขัดเกลาของเก่าอยู่เหมือนเก่าเหมือนกัน ถ้าถามว่าแต่ละเรื่องที่เขียนจะมีโครงไหมตอบว่ามันมีตั้งแต่ต้นจนจบ มันก็มีโครงเรื่องเอาไว้ บางเรื่องต้องมีการทำรายละเอียดของแต่ละเรื่องไว้ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในแต่ละตอนแล้วบ้างเราต้องคุมให้จบแต่ละตอนไว้ให้ลงตัว

จำเนียร สำหรับวันนี้เราก็ได้ฟังการทำงานของนักเขียน ซึ่งเธอก็เดินบนถนนสายนี้ นับว่าเป็นเวลาไม่น้อยเลยทีเดียว นับตั้งแต่วัยเรียน จนกลายมาเป็นอาชีพหนึ่งที่เธอคิดว่าดีพอสมควร และอีกไม่นานหนังสือของเธอเองก็จะถูกดัดแปลงไปเป็นละครทีวีด้วยกัน ช่วงนี้เป็น ช่วงในการติดต่อกันอยู่ ซึ่งสำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น ก็คิดว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีไม่น้อยที่เป็นตัวอย่างให้กับนักเขียนหรือคนที่อยากจะเดินบนถนนสายนี้ ในทางสำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์นที่อยากจะพิมพ์หนังสือเป็นเล่มแล้วก็ยังมีพื้นที่ในเว็บไซต์ที่เราเรียกว่า ถนนนัก(ขอ)เขียน เพื่อจะให้น้อง ๆ พี่ ๆ หรือใครก็ตามที่ไม่จำกัดอายุส่งต้นฉบับเข้าไปแล้วเราก็มีพื้นที่ให้ลงทุกคน พอให้ลงแล้วถึงช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทางกองบก.ก็จะมาคัดสรรอ่านกันดูว่าเรื่องไหนน่าสนใจ จริงๆ เราก็จะตีพิมพ์เป็นเล่มด้วยเหมือนกัน แต่ช่วงต้น ๆ ก็อยากจะให้กำลังใจกับน้อง ๆ ที่เริ่มต้นใหม่ ซึ่งในวันนี้เองคงจะเป็นขอที่ระลึกกับคนที่จะเริ่มต้นที่จะเขียนนวนิยายโดยให้คุณวัสตราเป็นคนมอบของที่ระลึกให้กับน้อง ซึ่งจริงๆ เราคัดไว้มีสามท่าน แต่วันนี้วันรับรางวัล 2 ท่านคนแรกของเชิญ คุณสิรินธร ไชยศักดา เขียนเรื่องนรีกับคีตา คนที่สอง คุณพรพิมล วงษ์แสง เขียนเรื่องปางก่อน เชิญครับ อีกท่านหนึ่งไม่ได้มาร่วมงานคือคุณชัยรัตน์ อึ้งรัตนวงษ์ ชื่อเรื่อง คืนหนาวดอกรักบาน ตอนนี้ก็คงจะมาถึงช่วงท้ายของรายการของสำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์นก็อยากให้คุณวัสตรา ทิ้งท้ายอะไรฝากถึงผู้เขียน

วัสตรา ถ้าพูดถึงการเดินทางของถนนทางนี้ถามว่า ตัวเราเองเป็นที่รู้จักของใครไหม จะบอกว่าไม่รู้เพราะตัวเองก็ไม่ได้วัดกับคนอ่านอะไรเลยนะคะ แต่เราทำไปได้สักระยะหนึ่งก็จะพบว่าวัยที่มันผ่านมาจะช่วยเราได้เยอะแล้วถามว่าเด็กหล่ะเราอยากทำบ้างไหม หนังสือเป็นแหล่งข้อมูลที่ดี สำหรับคนที่เริ่มต้นงานเขียนถ้าคิดแล้วต้องเขียนอยากวางไว้เฉย ๆ ถ้าคนที่มีความสนใจอยู่แล้วมันจะเหมือนกับมีพรสวรรค์ และใจต้องใฝ่หาความรู้คิด แล้วต้องเขียน ต้องศึกษาเพิ่มเติมพูดคุย ไปงานเสวนานักเขียนก็อย่างตัวอย่างตัวเองเวลาเข้ามีงานที่ไหนก็จะไปแอบดูไปฟัง ก็จะได้ส่วนนั้นมา ถามว่าแล้วสนามที่จะพิสูจน์ตัวเองหล่ะ เดี๋ยวนี้สนามมีเยอะยังประพันธ์สาส์นก็ที่มีเว็ปไชต์ที่ถือว่ามีสนามที่แปลกไปจากสมัยก่อน แต่ถ้าว่าทุกวันนี้การเป็นนักเขียนของตนเองสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ไหม และทำงานอย่างไรให้ดำรงชีวิตยู่ได้ ตัวเองก็คงไม่ได้เป็นมาตราฐานของการมีอาชีพนักเขียนเท่าที่ผ่านมาในระยะสอง สามปีที่จะออกกับสำนักพิมพ์หนึ่ง ก็จะมีงานหลายนามปากกา สมมุติว่าสำนักพิมพ์นี้รับงานแนวหนึ่งและอีกสำนักพิมพ์หนึ่งรับงานอีกแนวหนึ่งเราต้องพัฒนาในด้านงานเขียนหาข้อมูลและการนำเสนอทุกวันนี้เขียนงานมานับว่า สิบกว่าปีแล้ว เราก็ยังได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากผู้อ่าน ซึ่งคนอ่านถ้าเป็นนักอ่านทั่วไป ๆ ถ้าเป็นคนอ่านทางสำนักพิมพ์เราก็รับฟังเพื่อการพัฒนา แต่ถ้าเป็นนักอ่านที่ต้องการจะจับเรื่องราวของเราเป็นทำเป็นธุรกิจอย่างอื่น เช่น พวกค่ายละคร การที่เขาแสดงความคิดเห็นกับงานเขียนของเราก็จะเป็นประโยชน์กับเรา นั่นก็เป็นประโยชน์อีกอย่างที่จะพัฒนางานเขียนให้ก้าวไปสู่อีกเวทีหนึ่งเหมือนกัน เมื่อเป็นนวนิยายแล้วผู้จัดละครเขาก็จะมาปิ้งงานของเรา พอผ่านแล้ว มีงานปรากฏที่จอสักเรื่องหนึ่ง หนังจากนั้นก็จะมีอะไรขยับขึ้นมาอีก เพื่อให้เกิดผลงานที่ดี ถ้าเป็นในยุคเริ่มต้นแล้วเมื่อเริ่มคิดแล้วต้องเขียนเลย แล้วหาผู้เชี่ยวชาญมาดู แต่สำหรับตัวเองแล้วกำลังใจที่เราจะมีในการทำงาน เมื่อเราเห็นงานเราถูกวิพากษ์วิจารณ์แนะนำเราก็ดีใจแล้ว

จำเนียร สำหรับวันนี้สำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์นของขอขอบคุณผู้ฟังที่มานั่งฟังกันในวันนี้

//www.praphansarn.com/ Pr/niyay2.asp






Create Date : 01 มีนาคม 2549
Last Update : 1 มิถุนายน 2551 18:43:13 น. 0 comments
Counter : 599 Pageviews.

วัตตรา
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




วั ต ต ร า
ผลงานสร้างชื่อเสียง ละครช่อง 3

- รหัสลับสมปองน้องสมชาย
- บอดี้การ์ดแดดเดียว
- ร่ายริษยา
- รุ้งร้าว
- คุณหนูฉันทนา
- พระจันทร์สีรุ้ง
- โบตั๋นกลีบสุดท้าย
- ก๊วนกามเทพ
- ลูกไม้เปลี่ยนสี



คลิก คุยกับวัตตราที่เวบ




Friends' blogs
[Add วัตตรา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.