Group Blog
 
All Blogs
 

วันที่สองที่เกาหลีเริ่มสนุกมากๆ ค่ะ

วันแรกนั้นคงจะง่วงและเหนื่อย ฝนก็ตก วันนี้อากาศสดใส คิดว่าจะเดินเล่นแต่เช้า ตื่นเช้าอยู่นะ แต่มัวแต่ใส่ Contact Lens ใส่ได้ข้างเดียว อีกข้างใช้เวลานานเป็นเกือบชั่วโมงก็ใส่ไม่ได้
เฮ้อ! เสียดายจะได้มองวิวสวยๆ ให้ชัดๆ
ตัดใจลงมารับประทานอาหารเช้าดีกว่า อดเดินเล่นเลย


อาหารเช้าวันแรก ได้รับคูปอง ราคา 13000 W
น้องฝนหัวหน้าไกด์แนะนำให้ไปรับประทานอาหารในร้านที่ไม่ใช่บุพเฟ่ห์
ต้องขอบคุณน้องเขาจริงๆ ค่ะ มาดูแล้วก็คุ้มค่ากับบรรยากาศอาหารเช้า
แบบ Japan ตามรูป



สถานที่แรกคือโรงเรียนกิมจิ


มาดูเครื่องปรุงกิมจิดูสิคะว่ามีอะไรบ้าง กินเจก็อดนะคะ


สอนการทำกิมจิค่ะ ตั้งใจฟังกันมากเลย



ถ่ายรูปเพื่อนข้างเคียงด้วย


ลงมือทำกิมจิ ตั้งใจมาก หัวฟูเชียว


เสร็จแล้วก็ขอถ่ายรูปเป็นที่ระทึก ครูผู้หญิงพูดไทยชัดมากๆ
สำหรับคุณแบร์(ไกด์)แกพูดเก่งอยู่แล้วค่ะ


ดูกันเรื่อยๆ ก่อนนะคะ สำหรับวิวเกาหลีจะเป็นวันที่3 น่ะค่ะจะมีมากหน่อย
เพราะเดินเล่นค่ะ


และทุกคนก็มาเปลี่ยนใส่ชุดฮันบกกันค่ะ





เก็บไว้เป็นที่ระทึก..กะหนุ่มไทยนะเนี่ย (น้องหนึ่ง)


ราคากิมจิที่นี่กิโลละ 10000W ซื้อ 5 แถม 1 รสชาดดีกว่าในร้านทุกร้าน
(รู้สึก)รสชาดจะถูกปากคนไทย


ออกจากโรงเรียนกิมจิ เราจะไปตึก63 กัน
ระหว่างทางก็เก็บวิวไว้ดูนะคะ

ตึกรัฐสภา





สะพานข้ามแม่น้ำฮัน (ต้องขอขอบคุณน้องหนึ่งช่างภาพรูปหล่อ)
จาก //soyafoto.multiply.com ที่ถ่ายภาพวิวให้ได้ชมกัน


มองเห็นตึกแฝด ด้านหลังเป็นตึก63 ที่เรามุ่งหน้าไปกัน
มีที่มาที่ไปนะคะ
ตึก63 เป็นดึกเดียวที่เป็นสีทอง และสูงที่สุดในกรุงโซล เราอาจจะนั่งนับจากข้างนอกได้ 60 ชั้น จริงๆ เป็นชั้นใต้ดินอีก 3 ชั้น
สำหรับคนที่ต้องการเจอเนื้อคู่ให้กลั้นหายใจบนลิฟพอเปิดประตูลิฟชั้นที่63 จะเจอเนื้อคู่ (รปภ.)
อิอิ





ในตึก น่าจะมีโรงเรียนเพราะวันที่ไปเป็นวันศุกร์ (นกกระจอกแตกรังเลยอ่ะ)



ราคาตั๋วขึ้นไป ตามนี้ค่ะ



ว๊า!!! Battery กล้องหมดแล้วค่ะ
ไม่เป็นไร ไปเก็บกล้องคนอื่นดีก่า






มองลงมาจากตึก63 ด้วยกล้องของน้องหนึ่ง




ไหนๆ ก็ดูแล้วมาดูวิวสวยๆ กันเลยเถอะ
ตัวเมือง


เขาไปที่เดียวกันกะเราหรือปล่าว ก็งงอยู่นะ
รูปออกมาคนละเรื่องเลย 55555




เริ่มหิวกันแล้ว จะเที่ยงแล้วนี่
เราไปกินไก่ตุ๋นโสมกัน
เสริฟในหม้อดิน คัดเลือกไก่อายุประมาณ45 วัน
ควักเครื่องในออก ยัดด้วยข้าวเหนียว เครื่องยาจีน
และรากโสม
เสริฟพร้อมโซจู เป็นเหล้าประมาณ 20 ดีกรี
(แต่ประสิทธิภาพมันร้ายกาจมาก)
ดืมได้แค่จิบก็ไม่เอาแล้วค่ะ
แต่หลายๆ คนขอเพิ่มอ่ะ



ก่อนกินต้องแหวกมานออกอย่างนี้


ร้านผลไม้วางขายข้างร้านไก๋ตุ๋นโสม

อิ่มแล้วก็ถ่ายรูปเป็นที่ระทึก


ที่ Tiger World Adventure Complex
ที่เมืองพูชอน เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่ใกล้กรุงโซล
เพิ่งเปิดเมื่อเดือนกรกฏาคมนี้เองค่ะ
ซึ่งจะมี สกีโดม สระน้ำขนาดใหญ่ในร่ม สปาแช่น้ำแร่ และสนามไดรฟ์กอล์ฟ
ราคาตามนี้ค่ะ

วัดรอยเท้าก่อนเพื่อจะไปรับรองเท้าสกี



แรกๆ ไม่กล้าขยับตัวสักเท่าไร
พอตาฟิล์ม(เด็กนักศึกษาเกาหลี) มาแกล้งผลักให้ล้ม
(เออ! ล้มแล้วไม่เจ็บนี่นา)
ครานี้จึงกล้าเล่นแล้วแหละค่ะ


ขึ้นบันไดเลื่อนไปกลิ้งลงมา 2 รอบ
ขอบอกว่ามันส์สุดๆ ในทริปนี้เลย ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆ
ถ้าคราวหน้ามีโอกาศไป ขอเลือกไปช่วงหิมะตกจะได้เล่นสกีด้วย 55555





ออกมาเจอจอทีวี ของห้องสวนน้ำ

สนามไดร์ Golf


ดูห้องน้ำเขาสิ มีคนสงสัยว่าจะนั่งหันหน้าไปทางไหนดี

มาเที่ยวตำหนัก แฮงกุง
ตำหนักแฮงกุง เป็นตำหนักนอกเมืองที่มีขนาดเล็กแต่ก็เต็มไปด้วยศิลปวัฒนธรรมของเกาหลีโบราณ คำว่า “แฮงกุง” หมายถึง ที่หลบภัย ซึ่งเป็นที่ที่กษัตริย์จะมาพำนักยามหลบลี้จากภัยสงคราม โดยมีฮวาซองแฮงกุงเป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุด







แถวจอดรถตำหนักแฮงกุง


การเดินทางไปยังตำหนักแฮงกุงที่เมืองซูวอนก็เป็นอีกแห่งที่พลาดไม่ได้ เพราะนี่คือตำหนักที่ใช้ถ่ายทำฉากที่เจ้าชายลีฮูและเจ้าชายลีจุนมาพักค้างคืนเพื่อประลองฝีมือการยิงธนูกัน ใครมาถึงตำหนักแล้วอาจนึกไม่ออก ขอบอกนิดนึงว่าละครเกาหลีก็เหมือนกับไทยที่ต้องมีการเซตฉากขึ้นเพื่อถ่ายทำ ตอนที่ลีฮูกับลีจุนเหนี่ยวคันธนูเตรียมจะยิงโดยมีกองเชียร์อยู่ใกล้ ๆ นั้น ถ่ายที่ตำหนักแห่งนี้จริง ๆ แต่เป้านั้นกลับอยู่ที่ป้อมฮวาซองที่อยู่อีกแห่ง

และนี่คือป้อมฮวาซอง

ถ่ายไว้เป็นที่ระทึก



ดูท่าของช่างภาพมืออาชีพ

ฝีมือเขาแหละ

อาหารเย็นวันนี้คือ "เนื้อย่างเกาหลี"

คนเกาหลีเวลารับประทานอาหาร จะไม่คุยกัน
จะไม่จิ้มฟันตอนรับประทานอาหาร ซึ่งจะออกมาจิ้มฟันข้างนอก ตอนเดิน หรืออะไรก็ตามแต่ ไม่เหมือนคนไทย หรือตะวันตก จะใช้โต๊ะอาหาร



คนไทยเราก็เฮฮา กันอย่างนี้

ร้านขายของฝากหน้าร้านอาหารเนื้อย่าง ได้ลูกค้าทีมเราไปหลายเลย


ร้านนี้พ่อค้าหาย

วันนี้กลับมาโรงแรม อากาศก็เป็นใจให้เดินเล่นมาดูบรรยากาศของ
ตลาดเมียงดง
มีเวทีการแสดงอยู่หน้าปากซอย




เขาบอกร้านที่มีป้าย PC คือร้านคอมพิวเตอร์ที่เล่น Internet ได้ เราก็เดินหา แต่ไหงเป็นร้านเบียร์ ตอนแรกคิดว่าน้องฟิล์มมานแกล้งอีก แต่ไกด์ที่ชื่อ JJ ก็บอกว่าร้านที่มีป้าย PC





 

Create Date : 24 ตุลาคม 2550    
Last Update : 26 ตุลาคม 2550 18:12:35 น.
Counter : 2780 Pageviews.  

โชคดีมาม่าพาเที่ยวเกาหลี Oriental Kitchen Exclusivetrip

ชิงโชค Mama Oriental Kitchenเป็นผู้โชคดีเที่ยวเกาหลี 5 วัน 3 คืน

ตื่นเต้นมากๆ เลยค่ะ
เปิด Blog มาซะนานเพิ่งจัดการ Blog ได้น่ะค่ะ ต้องขอบคุณ Blog ป้ามดค่ะ

ประตูทางเข้าของผู้โดยสารขาออก ก็เจอเลย

ขอเดินดูสุวรรณภูมิหน่อยเถอะค่ะ ว่ามีอะไรบ้าง
ที่หลับที่นอนค่ะ อย่าหลับเพลินล่ะ




Made In Thailand


ยังอยู่ในเมืองไทยค่ะ

เล่นทีวี ฟังเพลง บนเครื่องบินเขาสักพัก แล้วรีบหลับดีก่า
ตี 1 กว่าแล้ว เด๋วต้องรีบตื่นจะได้มีแรงเที่ยวกัน

เข้าห้องน้ำก็มีแปรงสีฟัน ยาสีฟันไว้บริการ แต่คิวห้องน้ำนี่ยาวหน่อยนะ



แล้วเราก็มานั่งรอพี่อ้อน กะพี่แต ซึ่งติด ต.ม. ด้านในค่ะ
รอนานพอสมควร แต่คุ้มค่ากับการรอคอย เพราะสุดท้ายพี่สองคนก็ได้
ออกมาร่วมเก็บความทรงจำดีๆ ด้วยกันค่ะ

ขึ้นรถบัสมาก็แนะนำตัวกันหน่อยนะคะ

เราจะข้ามไปเกาะวอลมิโดค่ะ

รถบัสเราก็ขึ้นเรือเหมือนคันนี้แหละ

ขึ้นเรือมาเพื่อให้อาหารนกอ่ะนะ

มีขนมให้คนละกำ สองกำ
แต่อย่าเพิ่งกิงนะคะ เขาเอาไปให้นกน่ะค่ะ ยื่นให้มันไม่โฉบมากินหรอกค่ะ
โยนให้มันจึงโฉบมา ได้บ้างไม่ได้บ้าง

ลมก็แรง อากาศก็เย็น ฝนก็ตกนิดๆ
ไม่ทราบเขาไปนำข้อมูลมาจากไหนว่าเกาะวอลมิโดน่ะสวยที่สุด




คำบรรยายจาก นสพ.เดลินิวส์
การจะเดินทางไปยังอินชอน ไชน่าทาวน์นั้น หากจะไปแบบธรรมดาก็คงจะไม่ประทับใจ ดังนั้นจึงต้องมีการเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการเอารถขึ้นเรือเฟอร์รี่เพื่อข้ามไปเที่ยวยังเกาะวอล มิโด เกาะที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเกาหลี ตั้งชื่อตามลักษณะรูปร่างที่มีขนาดยาวและเรียบ คล้ายคลึงกับส่วนปลายของพระจันทร์ครึ่งดวง

ช่วงเวลาเพียงไม่กี่นาทีที่เรือเฟอร์รี่เริ่มออกจากท่าเรือยองจองมุ่งหน้าสู่เกาะวอลมิโด นอกจากจะเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของผู้คนที่พากันออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ของทะเลตะวันตกแล้ว นกนางนวลที่บินวนอยู่รอบเรือก็สุขไม่แพ้กัน เมื่อผู้คนต่างเอาขนมที่เตรียมมาออกมาโยนให้ จะต้องระวังนิดนึงก็ตรงขี้นกที่อาจหล่นใส่หัวใครก็ได้เท่านั้น


ที่มา //www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=142197&NewsType=1&Template=1

ฟังจากล่ามบรรยายน่าจะเป็นเขตอุตสาหกรรม ทำนองนี้แหละ





และเดินทางมาถึง พิพิธภัณฑ์สงคราม WAR MEMORIAL ชมพิพิธภัณฑ์สงคราม ที่เปิดเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา

พิพิธภัณฑ์สงครามเมืองอินชอน นอกจากจะมีสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับสงครามและการทหารจาก 3 รัชสมัยจนถึงปัจจุบันแล้ว ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับนายพลแมกซ์ อาร์เธอร์ นายทหารอเมริกันที่นำกองทหารสหประชาชาติมายกพลขึ้นบกที่อินชอนในช่วงปี ค.ศ.1950 ซึ่งอยู่ในช่วงสงครามเกาหลี-ญี่ปุ่นด้วย

เพื่อระลึกถึงผู้คนและทหารหาญ ที่ได้ช่วยปกป้องประเทศเกาหลีในช่วงประวัติศาสตร์อันยาวนาน และเพื่อสอนให้ผู้คนในปัจจุบันได้เรียนรู้ถึงบทเรียนอันเจ็บปวดที่ผ่านมา เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก

ประเทศไทยนี้ส่งข้าวไปช่วยประเทศเกาหลียาวนานถึง 20 ปี
จึงทำให้คนเกาหลีรู้สึกรักคนไทย (ฟังไม่ผิดนะ)

สงครามและความหนาวเย็น


ยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่นำมาจากสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และสงครามเกาหลีในปี 1950

ออกจากนี้จะพาไป China Town และรับประทานบะหมี่ดำกัน
รอชมนะคะไม่นานจะมาเพิ่มให้ดูค่ะ




 

Create Date : 20 ตุลาคม 2550    
Last Update : 29 ตุลาคม 2550 21:26:13 น.
Counter : 1923 Pageviews.  


WANAJAA
Location :
ปทุมธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add WANAJAA's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.