"Life remains the same until the pain of remaining the same becomes greater than the pain of change."
 
เมื่อฉันรู้ว่าพ่อฉันเป็นมะเร็งตอนที่ 10( มะเร็ง ทำไมต้องคีโม??)

หายไปหลายวันอีกแล้ว เนื่องจากช่วงนี้งานที่บริษัทค่อนข้างวุ่นเพราะเพิ่งจะปิดงบประจำปีเสร็จ จากความตอนเดิมที่เคยบอกมาก่อนว่าได้มีโอกาสไปเข้าฟังบรรยายเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 52 ที่โรงพยาบาลรามาธิปดีเรื่อง “โรคมะเร็ง ทำไมต้องคีโม?” โดย ผศ.นพ.เอกภพ สิระชัยนันท์ ที่บรรยายให้ประชาชนทั่วไปที่สนใจเข้าฟัง เราได้ฟังแล้วก็จดตามซึ่งอาจจะตกหล่นบ้างแต่เอาเป็นแบบตามที่เราเข้าใจละกันนะคะ



ถึงตอนนี้เราพยายามจะประยุกต์การศึกษาโรคร้ายนี้ให้เหมือนกับงานที่เราทำปัจจุบันซึ่งจะทำให้ความเครียดของเราลดน้อยลงและสนุกกับการเรียนรู้มากขึ้น นั่นหมายถึงการจะต่อสู้ในวงธุรกิจก็ต้องศึกษาคู่แข่งก่อน

เราต้องรู้ว่าคู่แข่งมีจุดเด่นอย่างไร?
การที่เราจะชนะได้ต้องทำอย่างไร?

“โรคมะเร็ง” ถือเป็น “คู่แข่ง” ของเรา ซึ่งก่อนหน้านี้คู่แข่งตัวนี้ได้เข้ามารุกรานเราและจะเอาชนะพ่อของเราจนเราแทบไม่ได้ตั้งตัว ฉะนั้น..ไม่ได้ละ..เราต้องแข่งสู่กับเขา....คือเราต้องศึกษาเขาให้มากขึ้นเพื่อจะได้รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะต่อสู้และเอาชนะได้อย่างไร?? เราต้องต่อสู้จนถึงที่สุดแล้วแต่ใครจะแพ้ซึ่งหากเราทำกันอย่างเต็มที่แล้วผลลัพจะเป็นอย่างไรเราก็จะรับได้

คุณหมอเอกภพ ท่านบรรยายง่ายๆ ไม่อิงคำพูดทางการแพทย์มากทำให้เราเข้าใจง่ายขึ้น จะขอเล่าอย่างย่อๆนะคะ

มะเร็งคืออะไร??
คำตอบ: คือเซลล์ปกติในร่างกายของเรานั่นแหละแต่มันเกิดการกลายพันธุ์ โดยมีการเปลื่ยนแปลงในระดับ DNA ของเซลล์ โดยมีการแบ่งตัวที่ผิดปกติจาก1 เซลล์กลายเป็นพันพันเซลล์และมากขึ้นเรื่อยๆและทำให้หน้าตาของเซลล์ดังกล่าวมีรูปร่างผิดไปจากเซลล์ปกติ



สรุปคือ
Step 1 : เซลล์ปกติเกิดการกลายพันธุ์
Step 2 : เซลล์เริ่มมีการแบ่งตัวและมีการเปลื่ยนแปลงที่ผิดปกติ
Step 3 : เซลล์เริ่มสะสมการกลายพันธุ์ไปเรื่อยๆ
Step 4 : เซลล์นั้นเริ่มงอกเป็นภูเขาซึ่งตอนต้นๆเรียกว่า “เนื้องอก”
Step 5: เซลล์ที่กลายพันธุ์นั้นได้เจาะเข้าไปในเนื้อเยื่อและเข้าไปในเส้นเลือดทั่วร่างกาย ซึ่งเรียกได้แล้วว่า

“เซลล์มะเร็ง” หากเซลล์มะเร็งไปเกาะที่อวัยวะใดจะส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะนั้นๆซึ่งการเรียกชื่อมะเร็งแต่ละชื่อก็จะเรียกตามที่เซลล์มะเร็งเข้าไปเกาะในอวัยวะนั้นๆ เช่นหากไปเกาะที่ ปอด ก็จะเรียกมะเร็งปอด ของคุณพ่อไปเกาะที่กระเพาะจึงเรียกว่ามะเร็งกระเพะอาหาร เป็นต้น....พอจะเข้าใจกันบ้างไหมคะ??

ทำไมต้องคีโม??




หลายๆท่านน่าจะกลัวคำว่า “คีโม” ใช่มั๊ย?? เหมือนเราแรกๆเลย เราเคยมีความรู้ว่าคีโมทำให้คนตายได้เพราะฤทย์ของยาคีโมมันแรงเหลือหลาย ใครก็ตามที่ได้คีโมก็รอวันตายสถานเดียว เมื่อก่อนเราไม่เคยศึกษาและก็เชื่อเช่นนั้น หากปัจจุบันเมื่อเราได้ศึกษาแล้ว

คำตอบคือ “มันไม่ใช่เสมอไป” บางคนแพ้คีโมมากอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้แต่ร่างกายของคนแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน การตอบสนองต่อยาย่อมแตกต่างกัน เราขอตั้งตุ๊กตามาว่าคีโมมันเป็นคนที่มีชีวิตที่เรียกว่า “Chemo Man” ละกันนะคะ




เมื่อเจ้า Chemo Man เข้าไปในร่างกาย ก็จะไปทำลายเซลต่างๆทุกชนิดโดยเฉพาะเซลที่มีการเติบโตเร็วซึ่ง เนื่องจาก Chemo Man ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเซลล์ในร่างกายของคนป่วยเซลไหนเป็นเซลดี เซลไหนเป็น เซลมะเร็ง เจ้า Chemo Man มันก็เลยทำลายเซลทุกส่วนของร่างกาย ซึ่งส่งผลให้เซลที่ดีดีโดนทำลายไปด้วยโดยเฉพาะเซลล์ที่มีการเจริญเติบโตอย่างเร็วอย่างเช่นเซลที่ไขกระดูกซึ่งจะส่งผลให้เกร็ดเลือดต่ำ,เม็ดเลือดขาวต่ำ ทำลายระบบทางเดินอาหาร เซลเส้นผมซึ่งจะทำให้ผมร่วง เยื้อบุลำไส้โดนทำลายทำให้มีอาการท้องเสีย



การดูแลรักษาจะมีการทำงานกันเป็นทีม


ปัจจุบันผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งจะมีการทำงานกันเป็นทีมของผู้รักษา ซึ่งสมัยก่อนหน้านี้แพทย์จะมีการประสานงานกันน้อยมากแต่ตอนนี้ ด้วยการที่ความเจริญและการอาศัยความร่วมมือกันของการรักษาผู้ป่วยจะได้รับการดูแลจากหลายๆฝ่ายซึ่งบางส่วนอาจจะไม่เคยเห็นหน้ากันเลย




ศัลยแพทย์ หมายถึงแพทย์ที่ทำการผ่าตัดเจ้าเนื้อร้ายนั่นออกไปจากร่างกาย
รังสีรักษา หมายถึง การฉายแสง

พยาธิแพทย์ หมายถึง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการอ่านผลชิ้นเนื้อว่าชิ้นเนื่อที่ถูกผ่าตัดออกมาแล้วเป็นแค่เนื่องอกหรือมะเร็ง

รังสีแพทย์ หมายถึง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการอ่านงาน X-Ray เพื่อบอกให้แพทย์ผู้รักษาสามารถวินิจฉัยได้ง่ายขึ้น

เภสัชกร หมายถึง ผู้เชี่ยวชาญด้านยาและเป็นผู้ผสมยาคีโมสูตรต่างๆ

พยาบาล มีความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะจะเป็นผู้ดูแลผู้ป่วยโดยตลอด

อายุรแพทย์ แพทย์ผู้รักษาโดยใช้ยา เช่นเมื่อผู้ป่วยได้รัยคีโม อายุรแพทย์ก็จะคอยตรวจผู้ป่วย



ทุกๆฝ่ายมีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับผู้ป่วย หากขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไปอาจทำให้การรักษาไม่มีประสิทธิภาพอย่างที่ควรจะเป็น

แพทย์ผู้รักษาโรคมะเร็งจะเรียกว่า อายุรแพทย์ มะเร็งวิทยา (Medical Oncologist) ซึ่งเป็นแพทย์ในส่วนอายุรแพทย์กลุ่มหนึ่งในประเภทอายุรแพทย์หลายๆกลุ่ม อายุรแพทย์มีหลายสาขาเช่น ด้านโรคหัวใจ โรคปอด โรคทางเดินอาหาร และโรคมะเร็งเป็นต้น

โรงพยาบาลรัฐที่มีอายุรแพทย์มะเร็งวิทยาได้แก่ โรงพยาบาล รามาธิปดี,ศิริราช,จุฬา,ราชวิถี,พระมงกุฏ,ภูมิพล,พระปิ่นเกล้า,ตำรวจและสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ส่วนต่างจังหวัดได้แก่ โรงพยาบาลเชียงใหม่,ลำปาง,ขอนแก่น,อุดร,อุบล,พิษณูโลก,จันทบุรี,ชลบุรี,ลพบุรี,สระบุรี,ราชบุรี,สุราษ,สงขลา

เมื่อรู้ว่าเป็นมะเร็งจะได้รับการรักษาอย่างไร

สิ่งแรกต้องอย่าเครียด ต้องถือว่ามะเร็งก็เป็นแค่โรคหนึ่งเท่านั้น เมื่อพบแพทย์และรู้ว่าเป็นมะเร็งที่ส่วนใดของร่างกาย ก็จะเป็นหน้าที่ของแพทย์ผู้รักษาว่าจะวินิจฉัยว่าจะวางแผนการรีกษาอย่างไร แพทย์จะพูดคุยกับญาติมากกว่ากับผู้ป่วยโดยตรง เพราะญาติจะเป็นผู้ดูแลผู้ป่วย การรักษาจะเป็นการร่วมกันในการตัดสินใจฉะนั้น ผู้รักษากับญาติจะเป็นผู้มีส่วนร่วมกับแพทย์ด้วย

การรักษามะเร็งมีอยู่หลายวิธีได้แก่

1. การผ่าตัด เพื่อกำจัดเอาก้อนมะเร็งและต่อมน้ำเหลืองบริเวณรอบๆออกไปจากร่างกายเป็นการรักษาแบบเฉพาะที่
( พ่อเราเป็นที่กระเพาะคุณหมอศัลยกรรมจึงผ่าบางส่วนของกระเพาะไป)
2. การฉายแสง (รังสีรักษา) เพื่อควบคุมไม่ให้มะเร็งกลับมาใหม่ เป็นการรักษาแบบเฉพาะที่เหมือนการผ่าตัด อาจจะทำก่อนผ่าตัดหรือหลังผ่าตัดก็ได้ขึ้นอยู่กับขนาดของโรคมะเร็งและการวินิจฉัยของแพทย์
3. เคมีบำบัด (Chemo ) เพื่อไปทำลายเซลล์มะเร็งที่อยู่ในอวัยวะนั้นๆ และที่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ยาจะเข้าผ่านไปทางการไหลวียนของเลือดและจะทำลายเซลทุกเซลที่มีการเติบโตเร็ว
4. Targeted Therapy เป็นการพัฒนายากลุ่มใหม่เพื่อช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นซึ่งเป็นการรักษาโรคมะเร็งให้ตรงเป้าหมาย ซึ่งต่างจากการรักษาโรคมะเร็งโดยทั่ว ๆ ไปการรักษาวิธีนี้จะทำให้การรักษาโรค มะเร็งได้ผลดียิ่งขึ้น และยังไม่มีผลกระทบต่อเซลล์ปกติของร่างกายอีกด้วย แนวคิดในการรักษาโรคที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรมเหล่านี้โดย การรักษาที่เรียกว่า "พันธุกรรมบำบัด" (Gene therapy หรือ Targeted Therapy) ซึ่งถือว่าเป็นการรักษาที่ต้นเหตุของโรค แนวคิดนี้จึงเป็นที่มาที่จะใช้ "Targeted Therapy หรือ Gene therapy" ในการพิชิตโรคมะเร็ง พันธุกรรมบำบัดคือ การรักษามะเร็งที่มุ่งเน้นไปยังต้นเหตุของมะเร็งคือ ยีนที่มีความผิดปกติ โดยจะต้องวิเคราะห์หาความผิดปกติของยีนในเซลล์มะเร็งก่อน แล้วให้การรักษาด้วยยาที่มีความจำเพาะต่อยีนที่มีความผิดปกตินั้นๆ

วิธีการรักษาของการบำบัดแบบ "Targeted Therapy หรือ Gene therapy"
คนไข้ที่มาต้องผ่านการตรวจพิสูจน์แล้วว่าเป็นมะเร็งชนิดไหน ระยะใด และมีชิ้นเนื้อที่ได้จากก้อนมะเร็ง เพื่อนำไปตรวจหาความผิดปกติของยีนในโรคมะเร็งนั้นๆ โดยวิธีการที่เราจะตรวจหาความผิดปกติของยีนมี 2 ขั้นตอนคือ

1.การตรวจหาโปรตีนที่ยีนผลิตออกมา
2.การตรวจในระดับ DNA เพื่อดูลักษณะความผิดปกติของยีนในรายละเอียด ว่ายีนส่วนไหนมีการกลายพันธุ์ และมีลักษณะของการกลายพันธุ์แบบใด เพราะเมื่อมะเร็งแต่ละชนิดมีความผิดปกติของยีนที่ไม่เหมือนกัน หรือถึงแม้ว่าเป็นมะเร็งชนิดเดียวกันบางครั้งในผู้ป่วยแต่ละรายก็จะมีความผิดปกติของยีนที่ไม่เหมือนกัน และเมื่อคนไข้ได้รับการตรวจยีนจากโปรตีนและดีเอ็นเอแล้ว เราก็มาพิจารณากันว่าจะใช้การรักษาวิธีแบบใด
ตัวอย่างเช่น ถ้าเราพบว่ายีน A ผิดปกติก็จะใช้ยาแอนติยีน A รักษา

การรักษาแบบพันธุกรรมบำบัดนี้แตกต่างจากการรักษาแบบวิธีเดิมคือ การใช้เคมีบำบัด หรือการทำคีโม ซึ่งเป็นการให้ยาฆ่าเซลล์มะเร็งทั้งร่างกายไม่จำเพาะเจาะจง เซลล์ปกติในร่างกายจึงถูกทำลายไปด้วย การรักษาในรูปแบบของ Gene therapy หรือ Targeted Therapy เป็นการให้ยารักษาเพื่อควบคุม และขัดขวางการแบ่งตัวและการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง โดยที่ยาจะออกฤทธิ์เฉพาะเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงโดยไม่ทำอันตรายเซลล์ปกติหรือเซลล์อื่นๆ

กุญแจสำคัญของการรักษาด้วยวิธีพันธุกรรมบำบัด หรือ Targeted Therapy นี้ว่าจะได้ผลหรือไม่ อยู่ที่เราจะต้องทราบถึงความผิดปกติของยีนในเซลล์มะเร็งก่อนที่จะรักษา เพราะยาเหล่านี้มีความจำเพาะเจาะจง ถ้าเราให้ยาโดยที่ไม่ได้ทราบว่าผู้ป่วยมะเร็งมีความผิดปกติของยีนอะไร การรักษาอาจจะไม่ได้ผล เปรียบเสมือนการเกาไม่ถูกที่คัน หรือรักษาไม่ตรงจุดนั่นเอง

ที่สำคัญคือยากลุ่มนี้ราคาแพงสุดๆ ยา 1 เม็ดราคาประมาณ 3000 บาท แต่ไม่ใช่มะเร็งทุกชนิดจะรักษาด้วยยากลุ่มนี้ได้นะคะเพราะต้องให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัยก่อนว่าควรจะใช้ยากลุ่มนี้หรือไม่

พอจะเข้าใจกันไหมคะว่า การเป็นมะเร็งทำไมต้องคีโม ขอสรุปสั้นๆละกันว่าที่ให้เพราะจะได้ไปหยุดการเจริญเตบโตของเซลมะเร็งไม่ให้มันแพรากระจายไปทั่วร่างกายเพราะหากเป็นเช่นนั้นก็จะส่งผลเสียต่อร่างกายจนถึงขั้นสียชีวิตได้ การให้ค๊ดม ญาติๆและคนไข้ต้องเตรียมใจไว้ตั้งมือรับกับอาการข้างเคียงให้ได้ เพราะอาการข้างเคียงแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน บางคนได้รับคีโมแล้วผมไม่ร่วงเลยก็มี แต่บางคนทั้งร่วง ทั้งอาเจียน ถ่าย เดินไม่ได้ ทานไม่ได้ เล็บถอด อื่นๆ ที่สำคัญคือก่อนให้คีโมต้องพยายามทำให้คนไข้แข็งแรงที่สุดค่ะ

คุณพ่อเราทำการรักษาเเบบผ่าตัดกับให้คีโม ซึ่งไม่ใช่แบบ Targeted Theraphy ค่ะ แค่นี้ก็อาการมากอยู่...

จบดีกว่า ตอนนี้ยาวมากแล้ว เท่าที่เราไปฟังบรรยายมาก็เข้าใจมากขึ้นแต่การที่เราเล่าเรื่องให้ทุกๆคนอ่านมันอาจจะทำให้งงกันหรือเปล่า???

ตอนหน้าจะบอกว่าเมื่อเราพาคุณพ่อกลับบ้านแล้วตอนท่านอยู่บ้านเราจะดูแลท่านอย่างไรและจะไปรับคีโม Cycle ที่ 2 อย่างไร และได้รับคีโมสูตรไหน……Coming ASAP naka.





Create Date : 08 มิถุนายน 2552
Last Update : 8 มิถุนายน 2552 11:28:42 น. 12 comments
Counter : 4784 Pageviews.  
 
 
 
 
ขอบคุณสำหรับความรู้นะคะ ขอให้คุณพ่อหายป่วยนะคะ
 
 

โดย: ^""^ IP: 124.120.11.103 วันที่: 8 มิถุนายน 2552 เวลา:13:35:46 น.  

 
 
 
เก่งมากเลยค่ะ ศึกษาอย่างละเอียด

แพทย์ทางเลือก เช่น พลังจักรวาล ก็น่าสนใจนะคะ
ลองหาข้อมูลดูค่ะ
 
 

โดย: CindyD วันที่: 8 มิถุนายน 2552 เวลา:14:15:19 น.  

 
 
 
ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจนะคะ คุณเป็นลูกที่น่ารักมากค่ะ สู้ๆนะคะ
 
 

โดย: ดีเจ..เมวิกา หน้าหวาน วันที่: 8 มิถุนายน 2552 เวลา:14:19:39 น.  

 
 
 
ขอเป็นกำลังใจให้นะค่ะ

ขอให้ต่อสู้ไปพร้อม ๆ กับคุณพ่อและชนะกับโรคร้าย

คุณพ่อมีลูกที่น่ารักแบบคุณคงจะมีกำลังใจในการต่อสู้มาก

 
 

โดย: Satanยิ้ม IP: 58.9.11.226 วันที่: 8 มิถุนายน 2552 เวลา:16:39:04 น.  

 
 
 
ขอบคุณที่แบ่งปันความรู้นะครับ ขอส่งกำลังใจมาอีกคนนะครับ
 
 

โดย: คนกันเอง IP: 124.121.2.157 วันที่: 8 มิถุนายน 2552 เวลา:21:21:29 น.  

 
 
 
มาให้กำลังใจต่อเนื่องนะคับ

อย่ายอมแพ้กับคีโมนะคับ

ไม่ทราบว่าได้ฉายแสงร่วมด้วยหรือป่าวคับ ???
 
 

โดย: เด็กโครงงาน วันที่: 8 มิถุนายน 2552 เวลา:23:21:11 น.  

 
 
 
ขอเป็นกำลังใจนะคะ
 
 

โดย: ...... IP: 202.176.70.47 วันที่: 10 มิถุนายน 2552 เวลา:16:53:55 น.  

 
 
 
ขอให้คุณพ่อหายไวๆ นะคะ
 
 

โดย: noodle boat วันที่: 14 มิถุนายน 2552 เวลา:14:35:04 น.  

 
 
 
ขอบคุณมากครับ ที่ช่วยนำความรู้ที่ผมบรรยายมาถ่ายทอดต่อ ผมขออนุญาตแก้ไขบางส่วนครับ โรคมะเร็งของแต่ละอวัยวะขึ้นอยู่กัยอวัยวะที่เป็นจุดเริ่มต้น ไม่ว่ามะเร็งจะกระจายไปที่ใดก็ยังถือว่าเป็นโรคเดิมอยุ๋ เช่น โรคมะเร็งปอดที่กระจายไปที่ตับ ต้องรักษาแบบมะเร็งปอด ไม่ใช่แบบมะเร็งตับ
ถ้าท่านต้องการรู้เกี่ยวกับมะเร็งให้มากขึ้น และถูกต้อง ผมขอแนะนำให้ศึกษาจาก website ของมะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย ดังนี้ //www.tsco.or.th

ขอบคุณครับ
 
 

โดย: เอกภพ สิระชัยนันท์ IP: 58.9.188.224 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2552 เวลา:16:35:56 น.  

 
 
 
มะเร็งไม่น่ากลัวเพราะคุณหวังช่วย ไม่หวังดังรักษามาแล้ว13มะเร็งและผู้ป่วยเหล่านั้นล้วนมาจากรพ.ดังๆทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัดจะทิ้งเบอร์คุณหวังช่วยให้ 089-1289304กทม.(ไม่ได้ทำธุรกิจขายตรงที่หวังรวยจากความทุกข์ของผู้ป่วย)
 
 

โดย: บอกบุญ IP: 192.168.1.112, 124.121.127.236 วันที่: 27 ธันวาคม 2552 เวลา:20:11:31 น.  

 
 
 
รักษากับคุณหมอเอกภพเหมือนกันค่ะ คุณหมอน่ารักมากๆอธิบายจนคนไข้เข้าใจอย่างละเอีบด ไม่ดุคนไข้ด้วยแล้วคุณหมอยังทำวิจัยเกี่ยวกับการให้ยารักษาด้วยค่ะเพื่อให้คนที่เป็นในอนาคตได้รับยา รักษาอย่างได้ผลที่สุด ขอให้กุศลผลบุญที่ช่วยให้คนพ้นทุกข์และการวิจัยที่เป็นประโยชน์กับเพื่อนมนุษย์ ให้คุณหมอมีแต่ความสุขนะคะ สำหรีบคุณพ่อของน้องหรือทุกๆ คนที่ให้ยา เวลาให้ยาให้ทานแกงเลียงใส่ตำลึง ฟักทอง เยอะๆนะคะจะช่วยทำให้เม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้นคะ
 
 

โดย: นุช IP: 203.113.1.130 วันที่: 6 มกราคม 2553 เวลา:15:53:56 น.  

 
 
 
ดีมากเลยค่ะ

ขอให้คุณพ่อคุณหายป่วยเร็วๆๆนะค่ะ
 
 

โดย: aunny IP: 61.7.231.200 วันที่: 27 มกราคม 2553 เวลา:23:07:32 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

wachan2014
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




PREVIOUS COUNTER WAS 3,956 VISITORS AND THIS COUNTER START SINCE 16 JULY 2009 ...
[Add wachan2014's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com