เกิดเบื่อๆอยากบ่นๆ


ต้องยอมรับว่าสาวๆปัจจุบันไม่มีใครไม่อยากสวย สาวๆแต่งหน้าเก่งขึ้น แต่งตัวเก่งขึ้น ดูแล้วเจริญหูเจริณตาเจริญใจ เป็นสีสันให้กับดวงตา โดยเฉพาะดวงตาของหนุ่มๆที่ออกจะซอกแซกคงจะเพลิดเพลินไม่น้อย ซอกตรงนี้ก็มีเนินคู่ขาวๆ แซกตรงนั้นก็มี...... (ให้เติมลงในช่องว่างเอาเอง) เพราะความสวยประจำสมัยนี้มันค่อนข้างจะตีคู่มากับความเอ็กซ์ เพราะอะไร? เพราะ sex sells!

ดูโฆษณาแต่ละยี่ห้อมีใครเห็นสาวๆแต่งตัวเป็นพจมาน เสื้อติดกระดุมมิดคอ กระโปรงยาวกว่าเข่าบ้าง เห็นมีแต่เสื้อปิดเม็ดก๋วยจี๊โชว์เนินอก กางเกงขาสั้นติ้วโชว์ต้นขาขาวๆ นางแบบก็ต้องหุ่นสูงยาวเพรียวแต่แอบบึ้บบั้บ ถึงแม้จะมาขายก็อกน้ำก็ต้องเซ็กซี่ (เพื่อ????)

ดูละครทีวีก็เห็นนางเอกนางร้ายจะนอนต้องแต่งหน้าจัดเต็ม ชุดจะนอนยังต้องวาบหวิว (จะนอนไม่รู้จะวาบหวิวไปให้ใครดู) นางเอกเกิดอยู่บ้านนอกแต่แอบม้วนผมเกลียว (อาจจะด้วยเครื่องม้วนผมเลอซาช่า เจ็ดวันเจ็ดทรง) ขนตายาวเป็นแพ (ด้วยขนตาปลอม) ผิวขาวประดุจไข่ปอก (แต่ทำสวนตากแดด สงสัยต้องอาบ SPF100+++++)

เปิดนิตยสารอ่านคอลัมน์ไฮโซมานั่งพูดถึงชีวิตติดดิน (แต่ขับรถยุโรปถือกระเป๋าบาลองเซียก้า) ก็ยังต้องทาปากแดง ใส่กระโปรงสั้น อ่านมานานยังไม่เคยเห็นลูกสาวไฮโซบ้านไหนหน้าจืดๆ ตัวอวบๆ สิวผุดซักกะที แอบสงสัยว่าไฮโซไม่เป็นสิว ไม่อ้วน ไม่ขี้เหร่กับบ้างเหรอ หรือมี แต่นิตยสารไม่เอามาลง สื่อไม่นำเสนอ

หรือเรากำลังพัฒนาคุณลักษณะภายนอกเพื่อออกสื่อ? (แล้วสื่อล่ะ ทำไมไม่นำเสนอความจริง?)

ยุคนี้เป็นยุคที่ใครๆก็สามารถออกสื่อได้ เพียงมีกล้องที่ถ่ายวีดีโอได้ กับอินเตอร์เน็ต คุณเองก็สามารถถ่ายทอดตัวตนผ่านทางเว็บไซท์ได้ สาวๆจำนวนไม่น้อยโด่งดังมีชื่อเสียงจากการเสริมสวยออกอากาศทางเว็บไซท์ชื่อดัง youtube.com มีคนจำนวนไม่น้อยที่มีความสามารถต่างๆนาๆเช่น ทำอาหาร ร้องเพลง เต้นระบำ และทำวีดีโอเสนอในเว็บเดียวกัน แต่จำนวนผู้ชมกลับแตกต่างกันอย่างน่าใจหาย ส่งผลให้วีดีโอสาวๆเสริมสวยเพิ่มจำนวนทวีคูณ (เพราะอยากดัง?) ไม่ใช่ไม่ชอบดูนะ ชอบ!

แต่มันทำให้เราต้องมาฉุกคิดกันว่าแล้วคนที่ไม่สวยล่ะ ต้องทำยังไง? ความสวยคืออะไร? สวยไปเพื่ออะไร? หรือเพื่อใคร?

ความจริงก็คือ ไม่มีใครในโลกนี้ที่เพอร์เฟค แสงยิ่งสว่างเงาก็ยิ่งมืดฉันท์ใด สิ่งที่เห็นว่ายิ่งสวยก็ยิ่งซ่อนความน่ากลัวไว้ฉันท์นั้น หยุดค่ะ อย่าเพิ่งเถียง อย่าเพิ่งคิดว่าสวยมีแต่ได้กับได้ ใครๆก็ชอบคนสวย ลองคิดดูให้ดีๆ คุณจะมีความสุขมั้ยถ้าความสวยมันไปเข้าตาคนบางประเภทเช่น สตอร์กเกอร์ที่ตามแอบดูคุณทุกฝีก้าว อาเสี่ยหื่นที่คิดถึงแต่เรื่องเซ็กซ์ซาดิสท์ แล้วยังจะฆาตกรฆ่าข่มขืนอีกล่ะ

ความจริงก็คือความอยากได้อยากมีมันฝังอยู่ในจิตใจปุถุชนธรรมดาอย่างเราๆ ยิ่งอยากได้ กิเลศตัณหามันก็ยิ่งกัดกิน คนอ้วนยิ่งพยายามอดข้าวยิ่งขี้หงุดหงิด คนคล้ำที่ต้องพยายามหลบแดดโบกซันสกรีนก็จะขี้หยุมหยิม เพื่อนพาไปกินข้าวกลางแจ้งก็ไม่ไป ตื้อมากๆอาจมีตวาดกันเข้าให้ มีหลายๆครั้งที่เห็นสาวๆค่อนแคะคนที่เค้ามีเค้าสวยกว่าว่า”หลุยส์ปลอมล่ะสิ หน้าตาไม่น่าจะถือของแท้นะยะ” หรือ “ขาวกลูต้าล่ะสิ” หรือ “อีนี่ไม่ต้องจับดูก็รู้ว่านมหมอ” มันแสดงออกถึงความอิจฉาตาร้อนโดยที่คนพูดเองก็ไม่รู้ตัว
จะดีเหรอถ้าเราอยู่ในสังคมที่ทุกคนคิดแบบนี้? เราจะมีความสุขมั้ย? คนพูดเค้ามีความสุขมั้ย?

มีสิ่งนึงที่สาวๆกูรูใน youtube ไม่ได้บอกก็คือ ผู้หญิงทุกคนสวยในแบบของตัวเอง ถึงแม้จะไม่ได้สวยภายนอกแต่ก็สวยภายในได้ มีหลายๆครั้งที่เราพบเจอคนแปลกหน้าในกิจกรรมประจำวันแล้วรู้สึกว่าเราประทับใจโดยที่ไม่ได้มีอะไรเตะตา แม่ค้ากล้วยแขกที่ยิ้มแย้มแจ่มใส กระเป๋ารถเมล์ที่พูดเพราะ เคาน์เตอร์เซอร์วิสที่เสียงหวาน ผู้หญิงตัวอ้วนๆที่แบ่งขนมให้คุณยายขอทาน

มีหลายๆครั้งก่อนที่จะแต่งตัวออกจากบ้าน เราต้องเสียเวลากับการแต่งตัวแต่งหน้าเพื่อให้ตามองว่าสวย(และเซ็กซี่) ฉีดน้ำหอมให้จมูกรับรู้ว่าหอม ทาโลชั่นให้ผิวเนียนนุ่มเมื่อสัมผัส เวลาคุยก็พูดเพราะๆให้หูคนฟังรู้สึก”รื่น” แล้วถ้าเลียตัวเองได้ อาจจะแอบเหยาะน้ำตาลพริกป่น บีบมะนาวนิดนึง ทั้งหมดก็เพื่อให้ประสาทสัมผัสทั้งห้าได้รู้สึกดี

แต่ความจริงก็คือประสาทสัมผัสทั้งห้ารวมกันมันยังไม่พอที่จะบรรยายความรู้สึกที่เราได้รับทางจิตใจ

คนสวยแค่ไหน ต่อให้หาที่ติไม่ได้ แต่ถ้าถูกคนเหยียบเท้าแล้วลุกขึ้นมาชี้หน้าด่าต่อหน้าธารกำนัลดังๆว่า “มึงเป็นใคร มาเหยียบตีนกู อีลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน รู้มั้ยว่าพ่อกูเป็นใคร” มองมุมไหนดิชั้นก็ว่าไม่สวย

ในทางกลับกัน ผู้ชายขี้เหร่อ้วนดำหน้าสิวแค่ไหน แต่ถ้านั่งรถเมล์แล้วสละที่นั่งให้คนท้อง ดิชั้นก็ว่าดูดี อาจจะไม่ได้ดูดีทางตา แต่ดูดีทางใจ

ถ้าเราเชื่อมั่นในตัวเอง เราก็ไม่ต้องวิ่งตามขวนขวาย อยากได้อยากมีกับสิ่งของล่อตาล่อใจต่างๆ ถ้าเราภูมิใจในนมเล็กๆของเรา เราก็จะไม่อิจฉาคนที่เค้าบึ้บ เราก็ไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินไปทำนม ถ้าเรามีเงินน้อย เราถือกระเป๋าใบละ300เราก็ภูมิใจที่มันเป็นเงินสุจริตที่เราหามา ถ้าต้องไปขายตัวเพื่อซื้อกระเป๋าใบละห้าหมื่น เราจะภูมิใจมั้ย? (ไม่!) บางคนแต่งหน้าเพื่อเป็นงานอดิเรก แต่บางคนอยากแต่งหน้าบ้างแต่เพื่อให้คนอื่นเห็นว่าสวย คนอื่นชมต่อหน้าแต่คุณจะรู้ได้ยังไงว่าลับหลังเค้าอาจจะพูดอีกอย่างหรือเปล่า

ถ้าเราภูมิใจกับหนังหน้าของเรา make up or no make up "เรา"ก็จะสวยสำหรับ"เรา"ตลอดไป

ขอบคุณค่ะ




 

Create Date : 12 เมษายน 2554    
Last Update : 12 เมษายน 2554 14:51:04 น.
Counter : 537 Pageviews.  

Trend ปวดตับ THE SERIES - vol.1: ผิวขาวอมชมพู


สวัสดีค่ะ

ขอประเดิมซีรี่นี้ด้วยเทรนด์ฮ้อตเกาะกระแสเกาหลีที่จขบแสนปวดตับด้วยพฤติกรรมอยากขาวของชาวไทย

เรื่องค่านิยมไทยอยากขาวมันก็มีกันมานานแล้วนะคะ ตั้งแต่ดิชั้นจำความได้ก็มีเพื่อนที่ผิวงามดั่งไทยแท้สีน้ำผึ้งต้องโดนล้อในห้องเรียนว่าอีดำๆๆ ส่วนใครที่ผิวงามคล้ำขึ้นหน่อยเนื่องด้วยอาจจะมีเชื้อชาติทางแขกก็ต้องโดนเรียกว่า"ดาร์กี้" สมัยนั้นใครจำยาสีฟันยี่ห้อดาร์กี้ได้คงเข้าใจความรู้สึก เพราะโลโก้ยาสีฟันเค้าคือเงาะป่ายิงฟันชัดๆ

แต่สมัยนี้ขาวอย่างเดียวมันไม่พอเสียแล้ว ต้องขาวแบบอมชมพูด้วย!! โดยความที่อมชมพูเนี่ย บริษัทสกินแคร์เค้าใช้หลอกเราว่ามันคือสัญลักษณ์แห่งผิวสุขภาพดีเปล่งปลั่ง โฆษณาบางยี่ห้อต้องให้นางแบบไปวิ่งรอบสนามฟุตบอลก่อน เพื่อให้เลือดสูบฉีดก่อนที่ชายในฝันจะเดินผ่าน ซิึ่งบริษัทนั้นก็หลอกว่าถ้าใช้ครีมเค้า ไม่ต้องไปวิ่งก็ใสอมชมพูได้

เอิ่ม ปัดบลัชนาร์ส ออกัสซั่มง่ายกว่ามั้ย 6(-*-)

ประสบการณ์ปวดตับสวนกระแสหน้าขาวใสของจขบ.คือตอนไปซื้อรองพื้น บีเอจัดรองพื้นให้ไม่เคยได้สีโทนเหลืองเลย เพราะเค้าไม่นำเข้ามา เพราะเอาเข้ามามันขายไม่ออก แม้แต่ Revlon Colorstay ณ อเมริกาบ้านเกิดมีสีเรียงเป็นตับให้เลือกมากมาย ก็เข้าไทยมาไม่กี่สี เถมสีที่พอจะเข้มเท่าเหง้าหน้าดิชั้นก็ยังอมชมพู

เอิ่ม ได้ข่าวว่าผิวเอเชียอย่างเราๆส่วนใหญ่โทนเหลือง

ทำไมคนไทยอยากชมพูเป็นคำถามที่ดิชั้นไม่สามารถตอบได้ เค้าไม่รู้สึกแปลกประหลาดลูกตาบ้างเหรอ เวลาที่สีหน้ากับสีตัวมันไม่ตรงกัน หน้าแดงแต่ตัวเหลือง บางคนยิ่งแย่ หน้าขาวชมพู คอเหลือง แต่ตัวสีน้ำผึ้ง

ตั้งแต่เริ่มทารองพื้นมา ดิชั้นถือคติซื้อรองพื้นสีเข้ากับตัวตลอด เพราะหน้าเราทากันแดดตลอดในขณะที่ตัวทามั่งไม่ทามั่ง หน้าเลยจะอ่อนและออกชมพูหน่อย แต่เวลาเลือกรองพื้นยังไงๆก็จะต้องเลือกให้เข้ากับผิวตัวไว้ก่อน ไม่งั้นทาออกมาแลจะคล้ายชะนีหน้าขาว

photo credit:
//www.thaigoodview.com/library/contest2551/science04/119/kingdon_animalia/Class%20Mammnlia.htm

นอกจากเลือกสีรองพื้นให้ตรงแล้วก็จะพยายามเกลี่ยรองพื้นลงมาให้ถึงคอด้วย ไม่ให้เป็นเส้นขอบหยุดอยู่แค่ตรงกราม ไม่งั้นมันจะเหมือนใส่หน้ากาก หรือไม่ก็ตัวตลกละครใบ้

photo credit:
//www.mask-shop.com/killer-clown-latex-mask-p-201.html

เอาเข้าจริงๆ ว่ากันตามหลักเสียงข้างมากแบบประชาธิปไตยแล้ว เสียงข้างน้อยโอนอ่อนตามเสียงข้างมากฉันใด สีผิวก็ควรปาดให้เนียนตามฝั่งที่มีมวลมากกว่าฉันท์นั้น (ก็มวลแขน+ขา+ตัว+มือ+เท้า+พุง มันก็ต้องมากกว่าหน้าเห็นๆอยู่แล้ว)

ในขณะที่คนไทยอยากขาวอมชมพู ฝรั่งกลับอยากมีผิวสีน้ำผึ้งเหมือนเรา ผลิตภัณฑ์สุดฮิตบ้านเค้ากลายเป็นครีมผิวคล้ำและบรอนเซอร์ ในขณะที่บ้านเรามีแต่ครีมไวเทนนิ่ง (บางคนอาจเรียกว่าครีมหาผอ สระอัว เพราะทาแล้วได้สามีภายใน 14 วัน) เข้าตำราสนามหญ้าข้างบ้านมักเขียวกว่าเสมอ "The grass is always greener on the other side."

จะดีแค่ไหนถ้าเราให้ความสำคัญกับสิ่งที่เรามีโดยไม่ต้องดิ้นรนไขว่คว้าให้เหนื่อย ผิวเหลืองๆที่มี ดูดีๆมันก็สวยนะ ถ้ามันไม่เรียบเนียนก็โบ๊ะบ้างเกลี่ยบ้าง

ยังไงก็ตามเกลี่ยหน้าก็อย่าลืมเกลี่ยคอ สวยข้างนอกก็อย่าลืมสวยข้างในด้วยนะคะ

ขอบคุณค่ะ




 

Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2554 11:30:12 น.
Counter : 1519 Pageviews.  

Survival Guide for Oily Skin ไอเท็มเด็ดๆสำหรับสาวๆผิวมัน


คุณหน้ามันใช่มั้ย!
เงินเดือนคุณหมดไปกับกระดาษซับมันใช่มั้ย!
เพื่อนคุณแอบมาจ้องหน้าคุณเพราะนึกว่าเป็นกระจกใช่มั้ย!
แฟนทิ้งเพราะคุณเป็นสิวใช่ม้ายยยยยยยยยยยย!!! >_<
อย่าเสียใจ เพราะเราเข้าใจหัวอกคนหน้ามันแบบคุณ !!


สวัสดีค่ะ

วันนี้ขออนุญาตมาแนะนำไอเท็มเด็ดๆและวิธีกำราบผิวมันที่จขบ.ลองแล้วได้ผลให้สาวๆหน้ามันลองเอาไปใช้ไปทำดูว่าจะได้ผลเหมือนกันมั้ย

ดิชั้นเป็นคนผิวมันมากกกกกกกกกกกก เวลาเห็นใครบ่นว่าหน้ามัน ดิชั้นคิดว่าไม่สามารถเทียบได้กับทีโซนของดิช้านนนนนนนน มันแค่ไหน? เอาเป็นว่าหน้าเงาเลื่อมอยู่ตลอดเวลา ซับหน้าได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เงาแล้ว กระดาษซับมันประเภทฟิล์มที่ว่าเทพๆ ดิชั้นซับทีละ 2 แผ่น สิวไม่ต้องพูดถึง สู้กันมาตั้งแต่พี่โดมยังไม่หล่อ อันนี้กรรมพันธุ์ล้วนๆ มันมาตั้งแต่ตั้งแต่สมัยละอ่อน ก็พยายามหาผลิตภัณฑ์ช่วยเหลือและบรรเทาอาการมันกันมาเป็นเวลานาน

ไอเท็มต่างๆที่วันนี้จะมาอวยคือผลิตภัณฑ์ที่จขบ.ใช้แล้วเวิร์คเวิร์คเวิร์คเวิร์ค เลยมาบอกต่อให้ผู้อ่านลองพิจารณาไว้ในอ้อมกอดดูนะคะ เป็นของที่ดิชั้นใช้มานานและไม่คิดจะเปลี่ยนแล้ว เพราะมันใช่ๆๆๆๆ



ไอเท็มแรก กระดาษซับมันแกสบี้แบบมีแป้ง
สังเกตุว่าจะเปิดฝาด้านข้าง แพคเกจมันแทบจะเหมือนกันกับอีกแบบนึง ซึ่งเป็นแบบฟิล์มจะเปิดฝาด้านบน ดิชั้นชอบอันนี้มากกว่า เหมือนเพราะมันมีแป้งมันเลยซับได้เทพกว่า ก็เลยได้ใจไปเลย 10/10 ชีวิตนี้ไม่คิดจะเปลี่ยนใจแล้ว

อันดับสอง มาส์คโคลนดำของ Origin
ราคาเต็ม 1000 บาท ซื้อมาหลอดนึงใช้เป็นปี คุ้มแสนคุ้ม เรื่องมาส์คหน้านี่ต้องอาศัยความขยันและอดทนมากๆ ดีที่มาส์คตัวนี้แห้งไว เลยไม่ต้องนอนพังพาบนานเกินไป การจะมาส์คหน้าให้เห็นผลต้องขยันนิดนึง อย่างน้อยๆต้องมาส์คสัปดาห์ละครั้งนะคะ ถ้าขยันๆหน่อยก็สัปดาห์ละ 2 ครั้งยิ่งดี ผลลัพท์ที่ชัดเจนคือผิวกระจ่างใสขึ้นและหน้ามันน้อยลงค่ะ ตอนมันเปียกๆมันจะยิบๆๆๆนิดนึง ใครไม่ชอบเอฟเฟกต์นี้อาจจะไม่ชอบมาส์คนี้นะคะ แต่ดิชั้นชอบมาก ซาดิสต์ว่างั้น มีสิบให้สิบ มีร้อยให้ร้อย

อันดับสาม แปรงขัดหน้าน้องแคลร์ Clarisonic Plus สุดเลิฟ
กัดปากซิบตอนจ่ายเงินเพราะราคามันแพงขูดรีดเลือดปูอยู่ใช่น้อย แต่ก็ไม่ผิดหวังเลยเพราะมันยอดมากกกกกกกกกก ใช้เพียงหนึ่งสัปดาห์ก็เห็นผลแล้วค่ะ รูขุมขนเล็กลง หน้าเรียบเนียนขึ้น สิวผดหายไปเหมือนผีโดนน้ำมนต์ ตอนนั้นซื้อรุ่น Limited Edition มา เหมือนเงินส่วนนึงจะเจียดสมทบทุนช่วยเหลือมะเร็งเต้านมหรือไงนี่แหละ จำไม่ได้ซะแล้วววว เต็มสิบเทใจให้ไปห้าพันเลยค่ะ

อันดับสี่ น้ำป้าเจี๊ยบ
ไม่มีความจำเป็นต้องโฆษณาใดๆ กระแสมาแรงอยู่แล้วกับความเทพของน้ำป้าเจี๊ยบ น้าเปล่งปลั่งจริง ใสจริงอะไรจริง ฟันธง เสียสองอย่าง บีเอที่เซ็นลาดจิกมาก และ แพง!!! แต่ก็รักนะน้ำป้าเจี๊ยบ
ป.ล. ทำไมเจี๊ยบโสภิตถึงได้กลายเป็นป้าไปได้ล่ะ ชียังไม่แก่เลยนา สงสารแก

เบอร์ห้า Laneige Make up Primer Sebum Control
แต่งหน้าต้องใช้ไพรเมอร์นิสนุง มิฉะนั้น รองพื้นจะสามารถเยิ้มมลายหายไปได้ในเวลาพริบตา ตัวนี้ซื้อมาโดยบังเอิญ ไม่ได้คิดว่ามันจะเริ่ดเลออะไร แต่พอลองใช้แล้วชอบมากกกกกกก แค่ปาดไปก็รู้สึกเหมือนผิวดีมาตั้งแต่เกิด หน้าส่องประกายวิ้งๆ(มันย่อง)อยู่ก็หายมันซะอย่างนั้น แอบมีกลิ่นน้ำหอมนิดนึง แต่ดิชั้นว่ามันหอมดี แห่ะๆ

สุดท้ายเป็นไอเท็มลูกรักตอนนี้ มันคือ Nars Sheer Matte
แม้กระแสจะไม่แรงส์เท่าเชียร์โกลว์ แต่ดิชั้นก็รักเชียร์แมทนะ บีเอเชียร์ตัวนี้ให้เพราะบ่นว่าหน้ามัน ตอนแรกๆไม่ค่อยชอบค่ะ เพราะคิดว่ามันเกลี่ยยาก แอบเป็นเส้นๆ แต่พอวอร์มกับมือก่อนแล้วค่อยเกลี่ยถึงได้ตรัสรู้ว่ามันเทพมาก มันสร้างภาพลวงตาเหมือนว่าเราหน้าไม่มันด้วย ส่องกระจกตอนบ่ายๆยังสวยอยู่เลย ก็เลยชอบๆๆๆๆ ขอบคุณพี่แป้งบีเอนาร์สที่เซ็นลาดค่ะ

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยม blog เงียบๆแห่งนี้ค่ะ

ป.ล. สาวหน้ามันแก่ช้ากว่าหน้าแห้งค่ะ คอนเฟิร์ม




 

Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2554 13:06:34 น.
Counter : 672 Pageviews.  

ความงามกับ Youtube อวยกูรูที่ดิชั้นแอบ stalk ณ จุดนี้

เปิดblogนี้มาก็นานและ แต่ก็ไม่เคยจะมาอัพซ้ากกกกกกกกกกกกกกที งานยุ่งก็ก่อให้เกิดความสันหลังยาว วันนี้เบื่องานแลยแอบอู้มาขอเปิดประเด็นนิดนึง

ช่วงหลังๆมานี่จขบ.เกิดเสพย์ติด Youtube มาก เข้าขั้นบ้า! เปิดคอมต่อเน็ตได้ปุ้บ สิ่งแรกคือต้องเช็คยูทูบว่าเหล่ากูรูความงามทั้งหลายมีผู้ใดอัพวีดีโอบ้าง เรียกได้ว่าเป็นกิจวัตรประจำวันหยุดของดิชั้นเลยทีเดียว เสาร์อาทิตย์ ตื่นเช้า เปิดคอม เดินไปชงกาแฟ กลับมาเปิดยูทูบ เล็งคลิปที่อยากดู จิบกาแฟไป ดูสาวๆเสริมสวยสร้างแรงบันดาลใจไป โอ้วววววว มันช่างสุขี

ฟังก์ชั่นเด็ดของยูทูปก็คือ Subscription การที่เราสร้าง account ไว้ในยูทูบแล้วเราจะสามารถใช้งานฟังก์ชั่นนี้ได้โดยไม่เสียสตางค์ ราวกับว่าเป็นสตอร์คเกอร์โรคจิตที่พอแอบชอบใครก็ติดตามแอบดูเค้าไปทุกที่ เจ้าตัวเค้าก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเล้ยยยย อยู่ดีๆก็ไปแอบดูเค้าแต่งหน้า ทาตา ทาแก้มทาปาก ถ้าเป็นกรณีตามพี่โดมปกรลัม ก็ตามแอบดูแกเซ็ทผม กินวิตามินอะไรกันไป ผู้ชายอาร๊ายยยยยยยยยย อาบน้ำก็ถ่ายคลิปอวด six pack ซะอย่างงั้น ไม่มียางอายสิ้นดี

เอ็ฟเฟ็คจากการเป็นแฟนยูทูปและกูรูเสริมสวยทั้งหลายก็คือ จน!!! ก็สาวงามมแต่ละนางชีเล่นโปรโมทสินค้าวุ่นวือตลอดเวลา สัปดาห์นี้ก็เชียร์รองพื้น Sheer Glow ซะออกนอกหน้า จันทร์ถัดมาชีเปลี่ยนใจไปรัก Chanel Pro Lumierre บร๊ะเจ้าา ดีนะที่กระเป๋าแห้งเลยไม่สามารถถอยตามพวกหล่อนได้ดังประสงค์ แล้วไอเท็มเด็ดพวกหล่อนนี่ล่ะก็ มันหาซื้อไม่ได้ในเมืองไทยซะเยอะแยะ T_T Covergirl Lash Blast เอย Urban Decay Primer Potion / Naked Palette เอย EOS Lipbalm เอย แม่เจ้าก็ช่างอวยกระตุกต่อมอยากซะจริงจิ๊งงงงงง ดิชั้นก็ต้องดิ้นรน ฝากเพื่อน ฝากญาติ ฝากๆๆๆจนเพื่อนเอือม จะพรีออเดอร์ก็รอนาน ค่าพรีก็ใช่ถูก

แล้วเลิกดูมั้ย? ------ ไม่เลิก :P

ก็มันมีความสุข คนเราทำอะไรแล้วมีความสุขก็ควรจะทำต่อไป ผู้หญิงเราเกิดมาจะต้องการอะไรมากไปกว่า แปรงแต่งหน้านุ่มๆซักเซ็ทนึง กับคนสวยมาสอนแต่งหน้าให้ดูทุกวัน

สินค้าบางอย่างแม่นางอวยกันจนดิชั้นเกิดกิเลสก้อนโตจนต้องสอยตามนางมาแล้วก็ต้องผิดหวัง ไอเท็มเด็ดที่ว่าก็คือแปรง Sigma ที่เคลมว่าเทพจริงอะไรจริง เป็นแปรง MAC มาจุติด้วยเลขท้ายสามตัวตามหลัง SS (แต่เดี๋ยวนี้ทนกระแสต่อต้านหาว่าเลียนแบบไม่ไหว เจ้าของเลยตัดสินใจเปลี่ยนเลขไปแล้ว) ก็บ้าจี้ไปถอยมา แม้แต่โมเมพาเพลินก็ถอยมา แล้วก็พบว่ามันหาเทพเช่นนั้นไม่ แปรงทาตาทั้งหลายยังพอทน แต่แปรงแป้งแปรงสกั๊งมันไม่ใช่อ่ะตัวเอง มันไม่ช่ายยยยยยยอ้ายยยอ้ายยยอ้ายยอั้ยยย สุดท้ายก็ต้องไปถอยแปรงอื่นมาทดแทนอยู่ดี ก็เปลืองกันไปยกกำลังสอง

สินค้าบางอย่างก็ถอยมาไม่ดูหนังหน้าตัวเอง แม่สาวกูรูชีบอกว่าผิวชีมัน ไอ้เราก็มันเหมือนกัน แต่ลืมนึกไปว่าบ้านเรามันโซนร้อนชื้น บ้านเค้าหิมะตกโปรยปราย โบกครีมบำรุงตามชีไปหน้ากลายเป็นโรตี นมข้นหวานหนืดเลยทีเดียว

หลังๆมาก็เริ่มพัฒนา เวลาซื้ออะไรมาจขบก็พยายามปรับเข้ากับสินค้าและใช้ไอ้ที่กองๆอยู่ให้หมดให้ได้ก่อนที่จะขยับขยายต่อไป ครีมรองพื้นเป็นคราบชิมิ วอร์มก่อนนานๆมันจะเบลนด์ได้อีกระดับนึง คอนซีลเลอร์สีอ่อนไป เอามาไฮไลท์ ครีมข้นหวานก็เอาไปทาคอมั่ง ศอกมั้ง มือมั่ง หน้าอกมั่ง อะไรมั่ง (?) ใช้จนหมดหยดสุดท้าย

อวยกูรูในดวงใจนิดนึงก่อนจาก
คนแรก คุณ Lisa Eldridge
https://www.youtube.com/lisaeldridgedotcom
แต่ละคลิปชีช่างสรรค์สร้าง เป็นกูรูที่ทำมาหากินกับการแต่งหน้าจริงๆ ดีกรีระดับเคยมีทีวีโชว์ของตัวเอง แต่งหน้านางแบบลงปกนิตยสารดังๆมาก็เยอะ เสียงพูดเธอช่างฟังสบายระรื่นหูยิ่งนัก น่าแปลกที่ Youtube Channel ของลิซ่ายังไม่โด่งดังเท่าสาวๆก๊องแก๊งหลายๆคนที่ไม่ได้รู้ไรมาก อาศัยพร็อพเริ่ดเครื่องสำอางแพงก็ดังได้ ขออณุญาตอวยกันตรงนี้

คนต่อมา ติดใจสำเนียงอังกฤษไม่เลิก สองสาว Pixiwoo
https://www.youtube.com/pixiwoo
เป็นอีกหนึ่ง Channel ที่กูรูรู้จริง แปรงเหมือนกัน อายแชโดว์สีเดียวกัน แต่พอสองสาวนี้ตวัดวึบวับมันดันสวย ไอ้เราเบลนด์อยู่ชั่วโมงนึงไม่เห็นจะได้อย่างเค้า ของเค้าเทพจริง ก็ขออวยอีก 2 คนกับสองสาว Nic and Sam วันดีคืนดีก็เอาลูกมาแต่งหน้าโชว์เป็นโบนัสให้อีกตะหาก

ฝั่งอเมริกามั่ง เดี๋ยวจะหาว่าลำเอียง คุณ Marlena
https://www.youtube.com/MakeupGeekTV
คนนี้เป็นกูรูคนแรกที่ทำให้จขบเสพติดยูทูบ มาลีนาเป็นคนที่อธิบายอะไรได้ชัดเจนมาก แต่งหน้าได้หลายลุคทั้งแต่งทำงาน เรียบๆ แต่งแรงไปเที่ยวกลางคืนทองระยิบระยับก็มี เครื่องสำอางก็เน้นระดับไม่แพงมากให้ใช้ได้ทุกระดับประทับใจ ดิชั้นก็เลยปลื้มมมมมมมมม

Michelle Phan คงไม่ต้องพูดถึง โด่งดังจนโมเมต้องพาเพลินไปสัมภาษณ์กันมาแล้ว วู้ดดี้ก็ยังต้องลากมาสอนแต่งหน้ากันยามเช้า

สุดท้ายนี้ก็ขอบคุณที่มาแวะอ่านบล็อกที่เงียบเหงาของดิช้านนน ณ จุดนี้ คอมเม้นเป็นกำลังใจให้มีซีรี่ถัดไปกันนิดนึงนะคะ ใครมีกูรูคนไหนอยากจะอวยก็จัดมาอย่าให้เสียของนะคะ

สวัสดีค่ะ




 

Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2554 13:14:57 น.
Counter : 910 Pageviews.  

My Attempt to Establish Shopping Rules

สาวๆจ๊ะ

เป็นมั้ย เวลาเงินเดือนออก ทางเดินมันเหมือนเป็นสีทองระยิบระยับ แล้วรองเท้าก็เหมือนติดเนวิเกเตอร์ พาเราเข้าห้าง กระเป๋าเงินมันเหมือนติดสปริงเด้งดึ๋งๆๆๆ แบงค์เบิ๊งติดปีก บัตรรูดลื่นปรื๊ดๆๆๆๆ เต้นระบำจ่ายเงินเป็นสุลต่านร่อนทั่วห้างเลยทีเดียว

แล้วพอเวลาผ่านไปไม่กี่วัน แม่เจ้า เครียด เงินไม่พอจะทำไงดีฟระ อดข้าวอีกแล้วสิตู เพื่อนนัดกินเนื้อหนอกสไลด์ต้องงดใช่มั้ยเนี่ย แล้วไหนยังต้องจ่ายค่าโทรศัพท์ โอ้วมายจอร์จจจจ

เดือนนี้ ดิชั้น! จะไม่ตกเป็นทาศของเสื้อผ้ากระเป๋ารองเท้าเครื่องสำอางค์อีกแล้ว คนสวยอย่างเรา ต้องรู้จักช็อปอย่างชาญฉลาดสิ นี่เลย กฏแห่งการช็อปที่ดิชั้นจะทำให้ได้ ชิชะ

กฏข้อที่ 1 - ซื้อเท่าที่ต้องใช้
รองพื้นเรียงเป็นตับ เบสสามสีสี่ขวด ไพรเมอร์ อายแชโดว์มากมายกระจายเต็มเก๊ะ แต่บทจะใช้หยิบใช้อยู่ไม่กี่อัน รองพื้นก็ไม่ค่อยจะทา ทาแล้วก็ขี้เกียจล้าง มีขวดเดียวก็ใช้ไม่หมดอยู่และ นี่มีตั้งสี่ห้าขวด

ตอนซื้อก็บอกตัวเองว่าจะซื้อขวดนี้แล้วจะเลิก จะใช้จนหมด ไอ้ที่มีอยู่แล้วมันไม่ค่อยดี สีไม่แมชกับหน้าบ้าง เนื้อมันหนืดบ้าง แล้วเป็นไง เรียงเป็นตับ แล้วได้ใช้มั้ย สุดท้ายก็ตื่นสายขี้เกียจ ทากันแดดแล้วก็แป้งเด็กแคร์

อายแชโดว์ก็เหมือนกัน เห็นสีสวยก็ซื้อๆๆๆๆ เต็มตะกร้า อยากจะบ้า พอจะทาก็ทาแต่สีเอิร์ธโทน

ต่อไปนี้เวลาจะซื้อต้องถามตัวเองว่า "จะใช้มั้ยจ๊ะ" "อันเก่าหมดยัง" แล้วค่อยซื้อ

กฏข้อที่ 2 - ซื้อเท่าที่ตั้งงบไว้
ได้เงินเดือนมา ปาดงบไว้ก่อน ชั้นจะใช้เท่านี้!!

บางทีเพื่อนมีก็อยากมีบ้าง แต่เพื่อนมีพ่อเป็นบอร์ดไดเร็กเตอร์ ไอ้เราพ่อเกษียณ เงินเดือนจิ๊ดเดียว จะไปบ้าซื้อตามเค้ามันก็คงไม่ไหว

กฏข้อที่ 3 - ทำรายการ
ตอนเงินเดือนยังไม่ออก มนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆก็นั่งเพ้อฝันกันไป สิ้นเดือนนะชั้นจะสอยไอเท็มใหม่ ต่อไปนี้ต้องจดค่ะ จดๆๆๆๆ ทำ wishlist เอาไว้ เวลาผ่านไปสมองจะสามารถประมวลได้เองว่า "อีบ้า มึงจะอยากได้เยอะแยะไปทำแจ๊ะอะไร!!" แล้วลิสท์ก็จะค่อยๆน้อยลง(?)

กฏข้อที่ 4 - จัดลำดับความสำคัญ
ทำรายการแล้วก็ยังดีไม่พอ ต้อง set priority ด้วย เพราะรายการของคนกิเลสหนาตัณหาหนักอย่างดิชั้น ไม่มีทางอยู่ในงบประมาณ ต้องมีการตั้งค่าความจำเป็น อันไหนของหมดต้องซื้อ ณ บัดนาว อันไหนไม่มีก็ยังหายใจก็ยังไม่ต้องซื้อ ผลัดๆไปก่อน

กฏข้อที่ 5 - ซื้อนอกรายการให้น้อยที่สุด
ก็เข้าใจ บางทีมันก็มีความจำเป็นบังเกิดต้องซื้อของแบบฉุกเฉินกันบ้าง มันก็พออลุ่มอะหล่วยได้อยู่ แต่ไม่ใช่ทุกอย่าง! บางทีเจอบีเอเคาน์เตอร์ขาประจำกล่อมแล้วมันพาลจะอดใจไม่ไหว ทำไงล่ะ เสียทรัพย์แบบเบลอๆ ไม่เอาอีกแล้วนะคะ ไม่ยอมเสียทรัพย์เพราะโดนบีเอสะกดจิตอีกต่อไปแล้วนะคะ

กฏข้อที่ 6 - มิกซ์ แอนด์ แมช
เสื้อผ้าที่มีอยู่ล้นตู้ พอจะแต่งตัวดันไม่รู้จะใส่ตัวไหน ได้ทีก็ซื้อเพิ่มอีก วันก่อนดิชั้นนั่งรื้อตู้เสื้อผ้า เจอเสื้อผ้ามากมายที่ซื้อมาด้วยอารมณ์ชั่ววูบ แล้วไม่เคยใส่เลยแม้แต่ครั้งเดียว

ดิชั้นก็จะรื้อๆๆๆๆไอ้ที่ซื้อมาแล้วยังไม่ใส่มาแขวนๆๆไว้ในที่ๆเอื้อมถึงแล้วพยายามใส่ให้ครบ ตัวไหนไม่เหมาะก็จับผสมตัวโน้นตัวนี้ไปเรื่อยๆ เป็นการเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ไปในตัว ไม่ต้องซื้อใหม่เพิ่ม

กฏข้อที่ 7 - ใช้ให้หมด
บลัชออนเอย อายแชโดว์เอย แป้งตลับเอย ฯลฯ ใช้ให้หมด!!! ของมันไม่ได้อายุยืนหมื่นปี รีบๆใช้ให้หมดก่อนจะซื้อใหม่ซะ

กฏข้อที่ 8 - เก็บเงินฝากประจำ
คนไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐฉันใด คนมีเงินเก็บก็เป็นลาภอันประเสริฐฉันนั้น ดิชั้นไม่เคยจะเก็บเงินเล้ย ตั้งแต่เกิดจนโต ฉุกเฉินไรมาคงได้ลำบากแบกหน้าไปยืมชาวบ้านแน่ เรื่องเงินกับเพื่อนฝูงนี่ไม่เคยถูกกันอ่ะ เห็นเลิกคบกันมาหลายราย จะขอพ่อแม่ก็อาย ไม่เอาและ ต่อไปนี้จะฝากเงินให้ได้อย่างน้อยๆ 20 เปอร์เซนต์ของรายได้

กฏข้อที่ 9 - กลับไปดู Fight Club
Fight Club เป็นหนังที่ดูกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ แต่ประเด็นของหนังเรื่องนี้ช่วยให้ดิชั้นหายฟุ้งเฟ้อได้เป็นพักๆ เวลาบ้าจะซื้อของใหม่ทีไร ดูหนังเรื่องนี้มันเหมือนคิดได้ขึ้นมานิดนึง แนะนำสาวๆทุกคนเลย ให้ไปหามาดู

กฏข้อสุดท้าย - เหลือเงินก็แบ่งพ่อแม่
แบ่งเงินให้พ่อกับแม่ใช้มาได้พักนึงและ รู้สึกมีความสุขเวลาเห็นพ่อแม่มีความสุข ที่สำคัญ พ่อแม่เหมือนเห็นว่าเรามีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น จากที่เคยมองเห็นเป็นเด็กตัวเล็กๆ ก็ค่อยๆโตขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น (จริงอ่ะเหรอ) ก็เหมือนซื้อใจพ่อแม่ แต่เราก็มีความสุขด้วย

ถ้ายังเหลืออีก บางทีก็พาพ่อแม่ไปทานข้าวหรูๆดีๆแพงๆบ้าง นานๆทีก็ยังดี หรือไปเที่ยวทำกิจกรรมร่วมกัน แกให้เรามาเยอะและก็ให้แกคืนบ้าง ครอบครัวสุขสันต์กันไป




 

Create Date : 11 สิงหาคม 2553    
Last Update : 11 สิงหาคม 2553 13:39:39 น.
Counter : 507 Pageviews.  


EmilyWeird
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add EmilyWeird's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.